ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #6 : 1 ขวบ : ตัดสินใจจะช่วยล่ะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.48K
      298
      9 พ.ย. 64


    เขตการปกครองของบารอนเฟรเดียนั้นแตกต่างจากเขตการปกครองของตระกูลควินมาร์กอย่างสิ้นเชิง


    ถึงแม้ว่าเขตปกครองนี้นั้นจะเป็นเขตเล็กๆก็ตาม แต่เมื่อเข้ามาถึง สิ่งที่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมดินแดนจะเห็น

    เป็นอันดับแรกเลยก็คือคฤหาสน์หลังใหญ่โตของตระกูล


    คฤหาสน์ของฟรีเดียนั้นนับเป็นหน้าเป็นตาของอาณาเขตเลยก็ว่าได้ ด้วยการตกแต่งที่หรูหราและใหญ่โตพอที่จะ

    ข่มขวัญตระกูลขุนนางเล็กๆตระกูลอื่นๆได้


    กลับกัน เพราะแบบนั้นจึงทำให้สภาพโดยรอบของอาณาเขตนั้นย่ำแย่มาก ทั้งบ้านเรือนหลังเล็กที่ผุพัง 

    สภาพของชาวเมืองที่แสดงถึงความสิ้นหวัง และพืชพรรณที่ไม่มีวี่แววจะได้เก็บเกี่ยว เพียงแค่อาณาเขต

    ที่ถัดไปจากควินมาร์ก โดยมีแค่ป่ามอนสเตอร์กั้นเท่านั้น แต่สภาพความเป็นอยู่ของพลเมืองกลับแตกต่าง

    กันเสียขนาดนี้


    สมแล้วกับการที่มีชะตากรรมจะต้องล่มสลายในภายในอีกไม่กี่ปีต่อมา ตอนอ่านจาก Text ในเกมก็ไม่คิด

    ว่ามันจะย่ำแย่ขนาดนี้เลยน้า~


    “คุณนายถึงแล้วครับ”


    ใช้เวลาเดินทางจากเส้นทางในเขตนิดหน่อย เพราะตัวอาณาเขตไม่ได้ใหญ่มาก ในที่สุดก็ถึงคฤหาสน์

    ของตระกูลเฟรเดียแล้ว และเมื่อลงจอดที่ประตูทางเข้า โครธก็ร้องบอกท่านแม่ 


    “ไปกันเถอะจ่ะ เดวิด เอลิเชีย อย่าลืมรักษามารยาทนะ”


    และท่านแม่เองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ปรับท่าทางเสียใหม่เช่นกัน จากคุณแม่ใจดีกลายเป็น คุณหญิง

    ตระกูลดยุคผู้สูงศักดิ์และน่าเคารพนับถือ


    เดวิดเองก็รู้หน้าที่เช่นเดียวกัน จึงเดินนำลงไปข้างล่างอย่างรู้งานและเตรียมตัวรับท่านแม่และผม

    ที่จะเดินตามลงมา ก็ตามธรรมเนียมนั่นแหละนะ ที่บุรุษผู้มีหน้าที่สืบทอดแห่งตระกูลจะต้องทำหน้าที่คุ้มครองสตรี


    แต่หมอนี่มัน 3 ขวบเองนะเห้ย!! จะไฮสเปคไปหน่อยป่ะ ไอ้พวกเป้าหมายในการจีบเอ้ย


    หลังจากลงจากรถม้าเสร็จ โครธกับคนขับรถม้าก็นำรถม้าไปเก็บที่ลานจอดรถม้า ทิ้งไว้แค่คลาวด์ เอาไว้

    ปกป้องในยามคับขัน ก็เหมือนเป็นบอดี้การ์ดไซส์มินิล่ะนะ ในงานเลี้ยงของขุนนางคงไม่มีภัยอันตรายใดๆ

    หรอก เอาทหารคุ้มกันเต็มยศเข้ามาด้วย รังจะสร้างชื่อเสียให้แก่ตระกูลมากกว่า


    “โอ้ว นั่นมันคุณหญิงวิเวียร์นี่นา ยินดีต้อนรับสู่งานเลี้ยงของเรา”


    เสียงเรียกดังขึ้น เป็นเสียงของชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาบ้านๆ กับผู้หญิงอีกหนึ่งคนที่น่าจะเป็นภรรยาของเขา  

    คนพวกนี้น่าจะเป็นบารอนเฟรเดียกับภรรยาของเขานั่นแหละ ท่านแม่เห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาด้วยสีหน้าที่เป็น

    ทางการสุดๆ


    อ๊ะ จะว่าไปเคยได้ยินจากฟิลเวียมาว่า ถ้าท่านแม่ทำสีหน้าเป็นทางการเมื่อไหร่แสดงว่าท่านแม่ไม่ค่อย

    พอใจเท่าไหร่นี่นา


    ก็แหงแหละ การแต่งตัวที่หรูหรา เครื่องประดับที่หรูหรา และการจัดงานที่หรูหรา ของพวกนี้มาจากภาษี

    ของประชาชนทั้งนั้น ท่านแม่ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความยุติธรรมทั้งชีวิต คงจะรับไม่ได้แหละ ในขณะที่คิดนั้น 

    ท่านแม่ก็นำเครื่องประดับที่เตรียมไว้ให้เป็นของฝาก(ตามมารยาท) ยื่นให้กับบารอนเฟรเดีย


    “ขอบคุณที่เชิญดิฉันมานะคะ วันนี้ดิฉันพาลูกๆของดิฉันมาเปิดโลกด้วย ต้องขออยู่ในความดูแลของท่าน

    บารอนเฟรเดียด้วยนะคะ ทางนี้เป็นของฝากจากอาณาเขตควินมาร์กค่ะ”


    “ตายแล้ว! สร้อยคอนี้ช่างงดงามอะไรเยี่ยงนี้ ขอบคุณสำหรับของฝากที่มีค่าเสมอมานะคะคุณวิเวียร์”


    คนที่พูดคือคุณนายของเฟรเดีย เธอหยิบอัญมณีจากท่านแม่ไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับชื่นชมด้วยความปิติยินดี 

    เอ่อ.....ดูเหมือนว่าท่านแม่จะไม่ค่อยพอใจกับมารยาทของทางฝั่งนั้นเท่าไหร่ หน้าของท่านแม่เลยกลายเป็นหุ่นยนต์ไปแล้ว


    “ถ้าเช่นนั้นดิฉันขอตัวนะคะ...”


    ว่าแล้วคุณแม่ก็พาพวกผมเดินออกมาจากคนเหล่านั้นทันที เอ๋ ออกแล้วเหรอ ทั้งๆที่ตั้งหน้าตั้งตารอแท้ๆ

    ไม่คุยกันต่อเหรอ


    “ท่านแม่คะ ไม่อยู่คุยกับคุณนายเฟรเดียต่อหรือคะ นานๆจะเจอกันสักทีนี่คะ”


    “เอลี่ คนนั้นไม่ใช่เพื่อนของท่านแม่หรอกนะ”


    หลังจากที่ถามออกไป สีหน้าของท่านแม่ก็เริ่มแสดงอาการเข้าไปใหญ่ ดังนั้นเดวิดจึงตอบคำถามของฉันแทนท่านแม่


    “ไม่ใช่เหรอ?”


    “จ๊ะ คนๆนั้นเป็นภรรยาคนแรกของบารอนเฟรเดีย เพื่อนของแม่น่ะ เป็นภรรยาคนที่ 2....”


    หยุดพูดพักหนึ่ง ก่อนที่ท่านแม่จะชี้ไปทางข้างหน้า ที่ตรงนั้นมีหญิงสาวอยู่ท่านหนึ่ง เรือนผมสีทองยาว

    เป็นประกาย ใบหน้าเรียวยาว เข้ารูปจนสามารถเรียกว่าหญิงงามได้ ดวงตาของเธอนั้นสีฟ้าสดใสคล้าย

    กับน้ำทะเลอันบริสุทธิ์ ไม่ผิดแน่ รูปร่างนั้นช่างคล้ายกับ นางเอกของเกม Brother Otome Lover♥ 

    ลิลลี่ เฟรเดีย ราวกับเป็นคนเดียวกัน คนๆนี้คงเป็นแม่ของเธอ...


    “ไม่ได้เจอกันนานนะคะ ลิเดียนน่า”


    ท่านแม่กล่าวพร้อมกับเดินไปทางหญิงสาวท่านนั้น 


    “นั่นมัน ตายจริง วิเวียร์นี่นา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”


    รู้สึกว่าทางฝั่งนั้นจะเห็นท่านแม่แล้ว เธอเบิกตาเล็กน้อยเมื่อเห็นท่านแม่ ก่อนที่จะแสดงสายตาอันหวนคิดถึง

    และเข้ามากอดท่านแม่


    “เป็นอย่างไรบ้าง ลิเดียนน่า เจ้าบารอนโง่นั่นทำอะไรเธออีกไหม”


    อุ๊ พอเจอกันครั้งแรก ก็มีคำว่า "บารอนโง่" หลุดออกมาจากปากท่านแม่เลยครับ นี่ไม่พอใจจริงๆใช่ไหมเนี่ย


    “ไม่หรอก......ไม่เลย อย่าเป็นห่วงไปเลยนะวิเวียร์ ”


    พูดด้วยสายตาเศร้าสร้อย สภาพนี้คงมีสินะ.....แน่อนว่าท่านแม่ยิ่งทวีคูณอาการไม่พอใจมากขึ้นเช่นกัน 

    เมื่อเห็นดังนั้นท่านลิเดียนน่าจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา


    “แล้วนั่น หนูเดวิด กับหนูคลาวด์นี่นา ไม่ได้เจอกันนานเลยนะจ๊ะ”


    เธอหันไปทักทายทางฝั่งเด็กๆแทน


    “เป็นเกียรติที่ได้พบครับ ท่านลิเดียนน่า”

    “เป็นเกียรติที่ได้พบครับ”


    เมื่อถูกทักทายดังนั้น ทั้งเดวิด และคลาวด์ก็ก้มหัวน้อมรับ ด้วยท่าทางที่สุภาพ ทำเอาท่านลิเดียนน่ายิ้มอย่างเอ็นดู 

    ก่อนที่จะค่อยๆหันมาและประสานสายตากับฉัน


    “อุ้ย แล้วคุณหนูที่อยู่ตรงนั้น”


    “เอลิเชีย ควินมาร์กค่ะ ยินดีที่ได้พบนะคะ ท่านลิเดียนน่า ”


    ถึงตาผมแนะนำ ผมถอนสายบัว แล้วพยายามทักทายด้วยท่าทีสุภาพตามที่ได้เลียนแบบจากท่านแม่มา


    “ตายจริง วิเวียร์ ลูกสาวคนเล็กหรือจ๊ะ ช่างเป็นเด็กที่น่ารัก สุภาพ และฉลาดอะไรเยี่ยงนี้ ได้ข่าวว่าเพิ่ง 1 ขวบเองนี่นา~


    “เป็นลูกสาวที่ฉันภูมิใจเลยนะคะ”


    สรุปว่าการแนะนำตัวของผมออกมาดีเกินคาดทำเอาท่านลิเดียนน่ากล่าวชมยกใหญ่ ท่านแม่เองเมื่อผมถูกชม

    ก็ปรับอารมณ์กลายเป็นคุณแม่บ้าเห่อพร้อมกับสาธยายออกมาอย่างภาคภูมิใจ ท่านแม่ที่มีท่าทางแบบนี้ผมเพิ่ง

    เคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย ก็ปกติติท่านแม่มักจะอยู่ในท่าทางที่สุภาพสมกับเป็นคุณหญิงแห่งดยุค แต่เมื่อมาอยู่

    กับคุณลิเดียนน่าแล้ว ท่านแม่กลับกลายเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่คุยกับเพื่อนรักเท่านั้น


    หลังจากนั้นทั้งสองก็ย้ายไปนั่งคุยกันที่โต๊ะน้ำชาที่เตรียมไว้เป็นจุดๆ เดวิดเองที่อ่านบรรยากาศได้ดีจึง

    เดินเลี่ยงออกไปกับคลาวด์และโดนเด็กสาวจากตระกูลอื่นรุมเรียบร้อยไปแล้ว


    เหลือเพียงแค่ตัวผม......จะเข้าไปรบกวนท่านแม่ก็ไม่ดีล่ะนะ ผมเลยตัดสินใจไปนั่งตรงบ่อน้ำพุ 

    ที่ไม่ไกลจากสายตาของท่านแม่นัก


    เอ้าฮึบ


    พอนั่งปุ๊บก็เหมือนกับข้างๆมีอะไรนั่งอยู่ เพราะว่าตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดด้วยแหละเลยมองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่


    “เด็กน้อยนี่นา....”


    แล้วคนข้างๆก็พูดขึ้น


    ผมจึงหันไปดู ที่ตรงนั้นมีร่างของเด็กสาวที่เนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าสกปรกและขาดวิ่น ใบหน้าของเธอนั้นถูกบัง

    ด้วยผมยาวสีขาวสกปรก ดวงตาที่จ้องมองมาผ่านเส้นผมที่ปรกหน้านั้นเป็นสีฟ้าน้ำทะเล


    อะไรน่ะ ลูกคนใช้งั้นเหรอ? นับว่าเป็นคนหน้าตาดีอยู่เหมือนกัน แต่ในเนื้อเรื่องไม่เคยเจอเด็กผู้หญิง

    ที่มีผมสีขาว คงไม่ใช่ตัวละครสำคัญอะไรหรอก


    แต่อย่างไรก็ตาม ในเมื่อฝ่ายนั้นทักมาผมจึงทักกลับ


    “สวัสดีค่ะ มาทำอะไรอยู่ตรงนี้หรือคะ”


    “ว้าว เด็กน้อยพูดคล่อง พูดคล่อง”


    เธอก็ยังเด็กอยู่เลยไม่ใช่เรอะ! นี่พูดรู้เรื่องกับเค้าหรือยังเนี่ย ยังไม่ได้ตอบคำถามเลยนะเฮ้ย


    “มาทำอะไรอยู่ตรงนี้หรือคะ....”


    “หนูอยากมาดูงานค่ะ แต่หนูไม่รู้จักมารยาทเลยมาแอบดูอยู่ตรงนี้”


    หมายความว่าอยากจะลองเข้าร่วมงานดู แต่เป็นแค่ลูกคนใช้เลยเข้าร่วมงานไม่ได้สินะ


    “ถ้าเช่นนั้นไปกับดิฉันไหมคะ”


    "เอ๋ เอ๋~ ได้เหรอคะ!"


    แต่ต่างจากผม ผมน่ะเป็นแขก เพราะฉะนั้นจะเชิญใครมาเดินกับผมด้วยก็ได้ ก็เป็นถึงลูกสาวดยุคนี่นา 

    มีใครอยากมีเรื่องด้วยป่ะล่ะ!


    ว่าแล้วจึงบอกเด็กน้อยให้รออยู่ตรงนี้ อย่างแรกคือต้องแก้สภาพที่ดูไม่ได้นั่นก่อน ผมจึงเดินเตาะแตะไปหา

    คลาวด์ที่กำลังเฝ้าเดวิดผู้ซึ่งโดนเหล่าลูกสาวขุนนางตอมอยู่


    “คลาวด์คะ ขอผ้าขนหนูกับเสื้อของหนู 1 ชุดได้ไหมคะ”


    ผมเดินไปดึงที่ขอบเสื้อของคลาวด์ อันที่จริงวันนี้ยังไงก็ต้องค้างคืนที่ครอบครัวบารอนเฟรเดียอยู่แล้ว 

    (เพราะกลางคืนมันอันตราย) ฟิลเวียจึงได้จัดเตรียมชุดมาไว้สำหรับเปลี่ยนมาหลายตัวด้วยกัน


    คลาวด์เองพอเห็นผมร้องขอ ถึงแม้ตอนแรกจะทำหน้างงๆ แต่หลังจากนั้นก็ไปหยิบมาให้แต่โดยดี 

    และเดินตามผมมาด้วย


    “ความจริงแค่เอาของมาให้ก็พอแล้วนี่นา”


    “จะให้คุณหนูอยู่คนเดียวได้ยังไงล่ะครับ”


    เขาพูดพร้อมกับยิ้มร่า ด้วยท่าทางราวกับจะบอกว่า ในที่สุดก็หลุดพ้นจากกลุ่มสาวๆของเดวิดเสียที 

    เอาน่า ผมก็เข้าใจอยู่นะ ต้องมาอยู่กับคนที่โดนหญิงตอมตลอดเนี่ย มันน่ารำคาญนี่นา ฉันเลยปล่อยให้เขาเดินตามมาแต่โดยดี


    และในที่สุดก็มาถึงที่ แน่นอนว่าเด็กคนนั้นก็ยังรออยู่ที่เดิม ปฏิบัติตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ช่างเป็นเด็กที่ว่าง่ายอะไรเยี่ยงนี้


    “อ๊ะ คุณหนูคนนั้น.....” 


    พอมาถึง คลาวด์ก็พูดขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันนะ ประมาณว่าพวกพ้องคนรับใช้งั้นเหรอ? คิดแล้ว

    ก็หันไปมองด้วยความสงสัย แต่แล้ว พอเห็นใบหน้าของฉัน คลาวด์ก็หยุดคำพูดลง


    ราวกับว่าเห็นเป็นเรื่องน่าสนุก คลาวด์ยิ้มกว้าง พลางบอกว่า ไม่มีอะไรหรอกค้าบ~ ด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

    ฮึ่ม!! ทำแบบนั้นมันยิ่งน่าสงสัยนะ!!


    “แล้วจะให้หนูเข้าไปในงานได้จริงๆเหรอคะ”


    คงกลัวว่าเราสองคนจะลืมเธอหรือเปล่า เด็กน้อยเลยพูดขึ้นมา อ๊ะ... ลืมไปเลยจริงๆนั่นแหละ


    “ได้สิคะ ดิฉันจะทำให้เธอกลายเป็นแขกในงานให้ดู!


    ขอแก้ตัวหน่อยแล้วกัน! ผมพูดดังนั้น ส่วนคลาวด์ก็หัวเราะอย่างมีพิรุจน์


    “แต่ว่า ท่านพ่อ คุณหญิง และพวกพี่สาวบอกห้าม”


    “ถึงตอนนั้นจะใช้อำนาจของลูกสาวดยุคข่มขู่เองค่ะ”


    ผมทุบอกอย่างมั่นใจ ทำเอาเด็กสาวคนนั้นตาเป็นประกายด้วยความรู้สึกเคารพเลยทีเดียว


    “เอาล่ะ ก่อนอื่นต้องจัดการกับสภาพสกปรกนี้ก่อนนะคะ”


    “พาเธอไปอาบน้ำก่อน คิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหนู”


    คลาวด์เสนอขึ้น ว่าแต่....คนรับใช้สามารถใช้ห้องอาบน้ำได้ตลอดเวลางั้นหรือ... เอาน่า คลาวด์คงมา

    หลายครั้งแล้ว คงจะรู้เรื่องกฎที่นี่ดีอยู่แล้วล่ะ 


    “ถ้าเช่นนั้น ฝากด้วยนะคะ”


    “โปรดไว้ใจผมได้เลยครับ”


    ว่าแล้วคลาวด์ก็ก้มหัวด้วยท่าทางน้อมรับคำสั่ง 

    ....ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยท่าทางที่คิดว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นแล้ว 

    โดยที่ไม่ให้ผมเห็นรอยยิ้มนั้น....

    *** 


    บันทึกประจำวัน เอลิเชีย  ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ  

    พอต้องมาคุ้มกันเดวิดทีไร มันก็น่าเบื่อทุกรอบเลย 

    แต่ดูเหมือนต่อจากนี้คงไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ พอ 

    ได้มาอยู่กับคุณหนูตัวน้อยคนนี้แล้ว ผมก็รู้สึกถึงได้ 

    ถึงความสนุกที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เลย

                                        ผู้บันทึก          คลาวด์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×