ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #30 : 7 ขวบ : ลองฝึกล่ามอนสเตอร์ล่ะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      110
      24 มี.ค. 63


    “หายดีแล้ว!!” 


    วันรุ่งขึ้นต่อมา สภาพร่างกายของผมก็หายเป็นปกติ อันที่จริงก็หายดีตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ

    (เพราะอมาเรียใช้เวทมนตร์รักษาให้) แต่เพราะว่าทุกคนยังเป็นห่วงอยู่ จึงสั่งให้นอนอยู่อย่างนั้น


    “อารมณ์ดีแต่เช้าเลยนะครับคุณหนู”


    “ว้ายยย!!


    แต่จู่ๆก็มีเสียงของคลาวด์ดังขึ้นผมจึงหันไปมองหาต้นเสียง และก็พบว่าคลาวด์นั้นอยู่ข้างๆกับผม 

    หมอนั่นเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย!


    “คุณหนูครับ แสดงกริยาแบบนั้นมันไม่เหมาะสมนะครับ”


    “ก็เพราะนายนั่นแหละ ทีหลังก็ให้ซุ่มให้เสียงก่อนสิคะ!


    “น้อมรับคำสั่งครับ”


    ถึงปากจะพูดแบบนั้นพร้อมทั้งก้มหัวอย่างสุภาพ แต่ในใจตอนนี้คงไม่ได้คิดอย่างนั้นแน่ๆ ในใจคงจะ

    หัวเราะร่าอยู่ล่ะสิ.....


    แต่......ก็โล่งใจนิดหน่อยที่คลาวด์คนขี้แกล้งได้กลับมาแล้ว


    จบจากเรื่องคราวด์ผมก็จัดการธุระยามเช้า โดยมีคุณเมดจากคฤหาสน์ Lunar Tear มาอาบน้ำแต่งตัวให้ 

    และเมื่อเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว ผมก็เดินลงไปชั้นล่างที่เป็นห้องอาหาร


    “สวัสดีค่ะ ทุกท่านทางดิฉันที่ในครั้งนี้ที่ต้องรบกวนหลายอย่างต้องขอขอบคุณและขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ”


    แต่ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ผมจึงโค้งคำนับเพื่อกล่าวขอบคุณและขอโทษตามมารยาทไปก่อน


    “มะ ไม่เป็นไรสักนิดค่ะ”


    แน่นอนว่าในหมู่โต๊ะอาหารที่รายล้อม มีเพียงอมาเรียที่พูดขึ้นก่อน เธอพูดพร้อมกับลุกเดินมาทางผมและกอดผม

    เอาไว้แน่น น้ำตาเธอไหลออกมาอย่างไร้สาเหตุ


    “แค่ท่านเอลิเชียหายดี ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเหนือสิ่งอื่นใดแล้วค่ะ”


    คำพูดเหมือนดูซึ้งนะ แต่การที่เธอหายใจแรงๆและคลำไปทั่วร่างกายนั้น ทำให้คำพูดและการแสดงก่อนหน้า

    ดูไม่หน้าเชื่อถือเลยสักนิด คุณผู้ใหญ่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็น้ำลายฟูมปากจากการเสียมารยาทของลูกสาว

    เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 


    นี่....พ่อของเธอยังโอเคอยู่ไหมอ่า


    “ขอบคุณมากนะคะ”


    แต่ทางนั้นพูดมาแล้วจะเมินก็ไม่ได้ ผมจึงกล่าวขอบคุณอย่างเรียบง่ายและแกะมือของอมาเรียที่พัวพันออก 

    จากนั้นก็รับประทานอาหารร่วมกันกับทุกคน  

    ***


    หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วผมก็รวมตัวกับท่านพ่อหน้าคฤหาสน์ น้ำจิ้มก็ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็อาหาร

    หลักล่ะนะ ล่ามอนสเตอร์ไงล่ะ!!


    คิดแล้วก็กำดาบในมือแน่นพร้อมกับทำตาเป็นประกาย


    “เอาล่ะนะ ก่อนอื่น ก่อนที่พ่อจะอนุญาตให้ลูกออกล่าได้เราจะต้องมาเรียนบทเรียนที่สำคัญกันก่อน”


    “ค่า~!


    “1. ต้องอยู่เป็นกลุ่มรวมกันห้ามแตกแถวเด็ดขาด

    2. ต้องอยู่ในเส้นทางที่กำหนดเท่านั้น เพราะถ้าออกนอกเส้นทางไปจะมีอันตรายได้

    3. ถ้าเจอมอสเตอร์อันตรายให้ประเมินตามสถานการณ์ คอยอยู่ใกล้ๆคลาวด์เอาไว้ 

    เดี๋ยวเขาจะตัดสินใจให้เอง

    และสุดท้าย 4. ห้ามให้อาหารมอนสเตอร์”


    นี่ไปเที่ยวสวนสัตว์กันใช่ไหมเนี่ย!!!! อะไรกันกฎคุ้นๆพวกนี้


    ....แต่ว่า ส่วนหนี่งก็เข้าใจได้ล่ะนะ เพราะถึงแม้จะเป็นภารกิจปรายมอนสเตอร์ระดับ F แต่ที่นีคือชายแดน

    ของป่ามอนสเตอร์ บางทีอาจจะมีมอนสเตอร์ระดับสูงโผล่ออกมาก็ได้ คนเราไม่ควรจะประมาทกับชีวิตมากนัก 

    เพราะการประมาทถือเป็นการสร้างเดธแฟรกไปในตัวอย่างหนึ่ง


    “เข้าใจแล้วค่ะ”


    ผมตอบอย่างว่าง่าย ก่อนเดินไปหาคลาวด์ และหลังจากนั้นท่านพ่อก็พาไปที่จุดที่มีมอนสเตอร์ออกมา


    ที่ตรงนั้นเป็นไร่เล็กๆของชาวบ้านที่ปลูกผักเอาไว้หลายชนิด และมอนสเตอร์ในครั้งนี้ที่เราต้องปราบก็คือ 

    Green Boar มอนสเตอร์หมูป่าที่มีผิวสีเขียว ก็ตามสีผิวของมัน มันกินพืชผักเป็นอาหาร และไม่ค่อยมีอันตราย 

    แต่ก็ยากเกินกว่าชาวบ้านจะไล่ไปได้


    ส่วนหนึ่งก็ด้วยจำนวนด้วย....ประมาณ 20 ตัวล่ะมั๊ง

     

    “เอาล่ะ ต่อไปบทเรียนที่ 2 เรื่องการกำจัดมอนสเตอร์ ที่ผ่านมาลูกเรียนรู้การโจมตีด้วยดาบมาจากตลาวด์

    แล้วใช่ไหม? การโจมตีมอนสเตอร์ให้ได้ผลดีน่ะ จะต้องโจมตีโดยให้เสียแรงและการเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด

    เท่าที่จะทำได้ ใส่พลังลงไปในดาบเดียว เพื่อพิชิตศัตรูที่อ่อนแอ เพื่อเก็บแรงไว้สำหรับศัตรูที่แข็งแกร่ง นั่นคือ

    พื้นฐานของการต่อสู้กับมอนสเตอร์”


    ว่าแล้วท่านพ่อก็เดินไปที่ Green boar ตัวหนึ่ง แล้วตวัดดาบหนึ่งดาบ


    ฉัวะ!!


    หัวของ Green Boar หลุดออกมาอย่างไร้แรงต่อต้าน ไม่มีเลือดที่ไหลกระเซ็นออกมา เป็นการตัดที่ขาด

    ในดาบเดียวและสมบูรณ์ที่สุด


    “ก็ประมาณนี้ล่ะนะ ทำได้ใช่ไหม?”


    ท่านพ่อพูดด้วยท่าทีสบายๆ ส่วนผมหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง


    ทำได้กับผีสิครับท่านพ่อ!! นี่เอาอะไรมาสอนลูกสาวที่เพิ่งหัดเรียนดาบเนี่ย สมแล้วกับที่เป็น

    คนสมองกล้าม.....


    “คุณท่านครับ คุณหนูยังทำถึงขั้นนั้นไม่ได้หรอกครับ”


    “อ้าว งั้นเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่าถ้าเช่นนั้นก็ฝากคลาวด์ดูแลต่อแล้วกันนะ”


    แน่นอนว่าท่านคลาวด์ผู้เชื่อถือได้ก็เข้ามาบอกท่านพ่อถึงความจริงนี้ ท่านพ่อเลยยอมถอดใจและปล่อยการ

    ฝึกนี้ให้กับคลาวด์แทน


    มอนสเตอร์ ณ ที่นี้ไม่ได้มีอันตรายอะไร ท่านพ่อจึงไปเฝ้าระวังในป่าแทน เผื่อในกรณีที่มีมอนสเตอร์อันตรายเข้ามา

    โจมตีไร่ที่พวกเราอยู่ตอนนี้


    “เอาล่ะครับ คุณหนู ก็อย่างที่นายท่านพูด สิ่งสำคัญก็การเซฟแรง แต่คุณหนูยังเรียนรู้ไม่ถึงขั้นนั้น เพราะฉะนั้นค่อยๆ

    เรียนรู้กันไปนะครับ”


    มาถึงบทเรียนของอาจารย์คลาวด์ บทเรียนของคลาวด์นั้นไม่ได้ขวานผ่าซากแบบของท่านพ่อ แต่เป็น

    การอธิบายแบบทีละขั้นตอนทำให้ผมสามารถตามการอธิบายของเขาได้


    เริ่มต้นที่การเล็งเป้าหมาย สิ่งที่โง่เขลาที่สุดของการจู่โจม คือการตะโกนและพุ่งเข้าใส่ศัตรูเหมือน

    อย่างในการ์ตูนหลายๆเรื่องทำกัน


    ที่จริงมันก็เท่อยู่หรอก แต่ในเมื่อเลือกที่จะโจมตีแล้ว โจมตีทีเผลอย่อมได้ผลดีและสร้างความสูญเสียได้น้อยกว่า

    ผมจึงย่องเข้าไปที่เป้าหมายของผมตัวแรก จากนั้นก็ยกมีดขึ้น ปักไปที่หลังคอ


    คลาวด์บอกว่า จุดตายของมอนสเตอร์นั้นส่วนใหญ่อยู่ที่หัวใจ สมอง แต่ถ้าเป็นมอนสเตอร์ 4 ขาและเราสามารถ

    ซุ่มเข้าด้านหลังได้ โจมตีหลังคอจะได้ผลมากที่สุด


    และเมื่อดาบปักไปที่คอแล้ว มอนสเตอร์ดื้นอยู่สักพักมันก็ตายลง


    “เย้~ ฆ่าสำเร็จแล้ว”


    “เราไม่ควรเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นของเล่นนะครับ ถึงแม้จะเป็นมอนสเตอร์ ถึงแม้จะเป็นภัยอันตราย แต่ชีวิตก็คือชีวิต 

    เราควรเคารพหนึ่งชีวิตที่ถูกฆ่าไปนะครับ”


    “ค่า~


    ได้ใจมากไป เลยถูกคุณแม่คลาวด์ดุเอาซะได้ แต่เมื่อกำจัดตัวแรกได้แล้วความมั่นใจก็มากขึ้น ผมเดินไปสู่

    เป้าหมายที่สอง


    แกรก!


    แต่เท้าเจ้ากรรมดันเหยียบไม้เข้าเสียได้ มอนสเตอร์รู้ตัวแล้ว จึงหันมาด้วยความหงุดหงิด และพุ่งตรงมาทางนี้


    “คุณหนู!


    “สบายๆค่ะ”


    ผมยกดาบขึ้นล่อให้มอนสเตอร์มาทางนี้ ทำท่าเหมือนมาทาดอร์ที่ล่อวัวกระทิง และเมื่อมันเข้ามาใกล้ก็หลบ


    ฟุบ


    หลบแล้วจากนั้นก็สวนดาบเข้าที่สีข้าง


    อี๊ดดดด


    มันร้องอย่างเจ็บปวด แต่ก็ทำให้มันหงุดหงิดมากขึ้น


    “ดีล่ะ Boots , Haste, Power, Accelerate


    แต่ทางผมก็ไม่ยอม ผมใช้เวทมนตร์เสริมสมรรถภาพของตนเองบ้าง จากนั้นก็เริ่มออกวิ่ง


    ความเร็วในตอนนี้ของผมนั้นถึงแม้จะไม่ได้เร็วจี๋เหมือนกับนินจา แต่ว่าก็เร็วในระดับนักวิ่งกรีฑาได้ รวมถึง

    เร่งความเร็วของการเคลื่อนไหวร่างกายส่วนต่างๆด้วยทำให้ผมสามารถโจมตีและก็หลบหนีมอนสเตอร์ได้

    อย่างต่อเนื่อง และบวกกับพลังที่เพิ่มขึ้นแล้ว เมื่อเห็นจุดอ่อน ผมก็ทำการปลิดชีพมอนสเตอร์ตัวที่สอง


    เคล้ง


    พอเวทมนตร์คลายก็ล้มลงทันทีอย่างเหนื่อยอ่อน ดาบในมือร่วงลงข้างๆตัวผม


    “การเคลื่อนไหวเปล่าประโยชน์มากครับ!!”


    คลาวด์ที่อยู่ไกลๆตะโกนมาว่างี้ ก็นะ ถึงแม้จะชนะ แต่แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว คงต้องเรียนรู้เพิ่มจริงๆ

    และในขณะที่กำลังพักนั้น


    อู๊ดดด!!


    จู่ๆมี Green boar จากไหนก็ไม่รู้โผล่เข้ามาใกล้ ใกล้ ใกล้มาก หยิบดาบไม่ทันแล้ว!!


    Boots!!!!


    จึงใช้เวทมนตร์ที่คิดได้ ณ ขณะนั้น และต่อยอัดหมูป่าที่เข้ามาใกล้อย่างเร่งรีบ


    แผละ!!


    หัวของหมูป่าเละคามือทันทีที่หมัดเข้าไปโดน

    หวา~ สยองชะมัด


    “คุณหนู!!!!


    คนที่ตกใจไม่ได้มีแค่ผม คลาวด์เองที่ยืนอยู่ห่างๆก็ตกใจเช่นเดียวกัน จึงรีบมาขอโทษขอโพยยกใหญ่ 

    พร้อมกับถามเป็นชุดราวกับซักประวัตินักโทษ


    อันที่จริงผมก็ผิดเองแหละที่เข้ามาใกล้ป่า หมูนั่นมันออกมาจากพุ่มไม้โดยที่ไม่ทันระวัง ถ้าผมคิดเวทมนตร์

    ไม่ทันอาจจะโดนจู่โจมไปแล้วก็ได้



    ____________เช่นในตอนนี้


    วูบ


    ในขณะที่กำลังปลอบใจคลาวด์อยู่นั้น จู่ๆสายตาก็เพ่งมองไปที่ด้านหลังของคลาวด์ ที่ตรงนั้นมีเงาของหมูป่า

    โผล่ออกมา มันโผล่ออกมาจากพุ่มไม้โดยที่คลาวด์ไม่รู้ตัว


    หลบไม่ทันแน่___________


    ตุบ


    ดังนั้นผมจึงผลักคลาวด์ออก ส่วนคลาวด์ที่โดนผลักออกก็ทำท่างงๆ พลางมองมาที่ผม ตอนนั้นหมูป่าเข้ามา

    ใกล้แล้ว แม้แต่เวทมนตร์ก็ร่ายไม่ทันแล้ว


    และทันใดนั้น


    กร้วมม!!


    “คุณหนู!!!!!!!!!


    เสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังของคลาวด์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

     ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×