คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : 7 ขวบ : ถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยล่ะ
หลังจากที่กลุ่มโจรถูกท่านพ่อตักเตือนจนนอนกองกลายเป็นปุ๋ยมะม่วงอยู่ที่พื้นกันหมดแล้ว
อารมณ์โมโหของผมก็ค่อยๆคลายลง
“อ๊ะ
ทำเกินไปรึเปล่านะ?”
เพราะว่าตอนนั้นไม่ได้สติ เลยโบ้ยความผิดมั่วๆทั้งหมดไปให้กับเจ้าหัวหน้าโจรป่า ผลสุดท้ายแล้วจึงทำให้
เขาต้องกลายเป็นชิ้นเนื้อ(ภาพในจินตนาการ) นอนกองอยู่กับพื้น พอได้ยินเสียงร้อง อู อู อย่างทรมาณแบบ
ไม่ขาดสายแล้วก็รู้สึกน่าสงสารแบบแปลกๆ
อันที่จริงพอมามองดูพวกโจรคนอื่น ดีๆแล้ว สภาพแต่ละคนนั้นดูไม่ได้เอาเสียเลย ทั้งคนที่เนื้อตัวเต็มไปด้วย
บาดแผล คนที่แขนขาบิดงอไปอย่างผิดรูปร่าง และอื่นๆอีกมากมาย ที่ดีๆหน่อยก็คงจะเป็นคนที่สลบไปก่อน
ที่จะถูกท่านพ่อเก็บนั่นแหละ โชคดีจริงๆ
ว่าแต่ท่านพ่อฮะ นี่คือสิ่งที่ท่านพ่อบอกว่า เป็นการลงโทษเบาๆแบบไม่เอาชีวิตสำหรับคนที่ไม่เคยมีโทษฆ่า
คนมาก่อนงั้นหรือ?
ในสายตาพวกเขาเหล่านั้นแล้ว ผมคิดว่า พวกเขาคงจะเห็นเส้นกั้นระหว่างความเป็นความตายกันแทบจะทุกราย
แล้วแน่ๆเลยล่ะ
“จับไปให้หมด”
หลังจากที่กำลังคิดอยู่นั้น ท่านพ่อก็สั่งทหารนำปุ๋ยมะม่วง(โจร)กลับไปคุมขัง ส่วนคลาวด์ที่มีส่วนร่วมในการจับกุม
ด้วย
ก็เดินมาหาผมด้วยความเป็นห่วง
“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างครับ!”
ช่างเป็นคำพูดที่ลุกลี้ ลุกลนน่าดู ถึงแม้ว่าคลาวด์ในตอนนี้จะไม่ได้มีนิสัยขี้เล่นหรือรักสนุกมากเท่าแต่ก่อน
แต่ความขี้กังวลจนเกินเหตุ และความเอาใจใส่ของเขาน่ะ ผมก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะ
“มะ...
ไม่เป็นไรค่ะ ทางนั้นล่ะ ปลอดภัยไหมคะ”
“ทางคุณหนูเองน่าเป็นห่วงกว่านะครับ
ไม่ต้องมาถามกลับหรอก!”
โดนตะคอกใส่ซะแล้วล่ะ....
“ทางฉันไม่เป็นไรหรอกน่า อีกอย่างนะ ต้องขอบคุณคลาวด์ที่สอนทักษะดาบให้นะ เพราะฉะนั้นถึงได้โจมตี
โต้กลับได้ไงล่ะ”
การโจมตีนัดแรกใช้การรวบรวมหลัง Boots ทั้งหมดเข้าที่หมัดและปล่อยออกไป ถึงแม้จะกินมานาเกินคาดแต่ก็
สามารถล้มโจรไป 1 รายได้ ถัดจากนั้นก็ใช้มานาที่เหลือ เร่งสปีด เร่งพลัง แล้วก็บวกความคล่องตัว คำนวณทั้งหมด
ให้เหลือมานาไว้ก้นๆถัง
กันสลบ แล้วโจมตีไปด้วยท่าดาบที่เคยร่ำเรียนมา
ทั้งหมดมันใช้ได้ผล ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิง จะเป็นเพียงนางร้ายสุดแสนกระจอก แต่หลังจากที่ได้เรียนดาบมาแล้วนั้น
ตัวผมก็ได้พัฒนาขึ้น ทั้งกล้ามเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ตอนนี้การโจมตีหลังจากเพิ่มพลังเวทมนตร์นั้น ไม่ใช่แค่ความ
สามารถในการยกถังน้ำไปปาใส่นางเอกเพื่อกลั่นแกล้งอีกแล้ว
ถึงแม้การต่อสู้ในครั้งนี้จะจบลงด้วยมือของท่านพ่อก็เถอะ
แต่มั่นใจได้ว่าเส้นทางการเป็นนักผจญภัยตามที่ฝันนั้นไม่ใช่หนทางที่ไกลเกินไปเลย
กล่าวอีกครั้งคือ
ต้องขอบคุณคลาวด์จริงๆ
ทั้งๆที่คิดแบบนั้นแต่หน้าตาของคลาวด์ในตอนนี้ดูจะไม่ยินดีกับการพัฒนาของผมเอาเสียเลย
“เมื่อครู่นี้คุณหนูบอกว่ายังไงนะครับ.....ต่อสู้กับโจรงั้นหรือ?”
จิตอาฆาตเริ่มพุ่งขึ้นมาทุกที
ทำเอาผมเริ่มสั่นกลัวอย่างบอกไม่ถูก อะไรง่า เค้าทำผิดอะไรงั้นเหรอ?
ท่านพ่อที่เห็นสภาพการณ์แบบนี้จึงเดินเข้ามาห้ามปรามเพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะกันที่เสียประโยชน์
“เอาน่า คลาวด์
เอลิเชียเค้าแค่ป้องกันตัวเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนะ”
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับความคิดของท่านพ่อ
“นายท่านช่วยหยุดตามใจคุณหนูด้วยครับ!! กลุ่มโจรจะมาทำร้ายคุณหนูได้อย่างไร ถ้าคุณหนูไม่ไปเริ่มก่อน
ยิ่งคุณหนูที่มีนิสัยแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ต้องตั้งคำถามเลย แล้วถ้านิสัยอย่างนี้ติดตัวไปจนโต คุณนายจะว่า
ยังไงครับ
นายท่านจะทำให้คุณนายหนักใจทางอ้อมนะครับ
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ท่านควรห้ามปรามคุณหนูนะ!”
ตอนนี้ท่านพ่อลงมาคุกเข่าโดนเทศก์พร้อมกันกับผมแล้ว นอกจากท่านแม่ก็มีคลาวด์นั่นแหละที่ดุท่านพ่อได้
คงจะเพราะทำหน้าที่แทนอวตารของท่านแม่ด้วยล่ะมั๊ง น่ากลัวชะมัดเลย
คลาวด์โหมดคุณแม่.....
_________________เวลาผ่านไปครู่ใหญ่
เหตุการณ์ทุกอย่างสงบแล้ว ดูเหมือนตอนนี้คลาวด์จะพูดทุกอย่างจนพอใจแล้ว อารมณ์เลยกลับไปเป็น
เหมือนเดิม
พวกเราจึงขึ้นไปนั่งรถม้าเพื่อเดินทางต่อ
เดินทางมาได้สักพักหนึ่งท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม
อีกไม่นานคงจะเข้าสู่เวลากลางคืนแล้ว
เพราะว่าวันนี้เจอเรื่องอะไรมาหลายเรื่องทำให้อะไรๆนั้นช้าไปหมด จากระยะที่เหลือนั้นนับว่าไม่ไกลมาก
ถ้าคิดตามเวลาแล้วก็น่าจะถึงในก่อนเที่ยงคืน
อันที่จริงการเดินทางในตอนกลางคืนมันอันตราย ตรงจุดนี้ควรจะนอนค้างแรมที่ข้างทางเสียมากกว่า
เพราะว่าในป่าที่กำลังจะเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตรายมากมาย
แต่หลังจากเหตุการณ์โจรป่าที่เพิ่งผ่านไป จึงตัดสินใจที่เดินทางไปให้ถึงจุดหมายเลย เพราะว่ามันสะดวกกว่า
และในตอนนี้ท่านพ่อก็อยู่ด้วย เราจึงไม่กังวลเรื่องมอนสเตอร์
กึก!!
คิดๆแล้วรถม้าก็หยุดกะทันหันอย่างที่ไม่ได้อยู่ในการคำนวณมาก่อน
อย่าบอกนะว่าโจรป่าอีกแล้ว!!
ผมกำลังจะยื่นหน้าออกไปจากรถม้าเพื่อดูสถานการณ์
แต่ก็โดนคลาวด์ห้ามเอาไว้อีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะ!!!
ครั้งนี้จะไม่ยอมลงจากรถม้าแน่!!”
ผมพูดด้วยความมุ่งมั่น ส่วนคลาวด์ก็มองกลับด้วยสีหน้าที่เหมือนจะบอกว่า พูดอะไรของเธอน่ะ
และตามด้วยท่านพ่อที่มาเสริม
“คราวนี้ลงได้นะ แค่พักชั่วคราวน่ะ คุณม้าเองก็เดินทางมาไกลแล้ว เราต้องให้น้ำให้อาหาร แล้วก็ให้
เวลาเขาพักผ่อนด้วย พวกเราเองก็จะได้พักทานข้าวเย็นก่อนเดินทางต่อด้วยไง”
พูดแบบนั้นพลางยิ้ม
ส่วนผมหลังจากได้ฟังก็พยักหน้าเพื่อเป็นการตอบรับว่าเข้าใจทุกอย่างแล้ว
จะว่าไป.....แล้ว
ใครทำอาหารล่ะ?
คลาวด์นั่นเอง.....
ผมจึงไปช่วยคลาวด์ทำอาหารด้วย
เผื่อจะลดโทษจากเมื่อครู่นี้ลงได้
“คลาวด์
วันนี้จะทำอะไรเหรอ?”
“มีซุปกระดูก
แล้วก็เนื้อย่างง่ายๆครับ คุณหนูจะมาช่วยอย่างงั้นหรือครับ”
คลาวด์พูดพร้อมกับเอียงคอสงสัย
แต่ว่า อย่าดูถูกกันนะจ๊ะ~
“ใช่ค่ะ
เชื่อมือดิฉันได้เลย”
ว่าแล้วก็ลงมือ
คลาวด์นั้นตระเตรียมน้ำต้มกระดูกอยู่โดยการเลาะเนื้อชิ้นโตและแยกกระดูกออกจากกัน สำหรับเนื้อนั้น
ถูกเก็บไว้ในถุงเวทมนตร์ จึงทำให้เนื้อยังคงความสดเอาไว้อยู่ แล้วเขาก็เตรียมผักกับอะไรสารพัดอย่างของ
เขานั่นแหละ คงต้องใช้เวลาสักพักนึง
ผมจึงเลือกที่จะทำเนื้อย่าง
เริ่มด้วยเอาเนื้อที่คลาวด์หั่นแยกออกมา
มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แยกใส่ภาชนะเอาไว้
หลังจากนั้นก็เตรียมเกลือ
น้ำตาล น้ำ และเครื่องปรุงที่วางเอาไว้มาปรุงกับเนื้อแล้วทำการหมัก
อันที่จริง เรื่องเครื่องปรุงและอาหารผมก็ศึกษามาด้วยเหมือนกัน(เพราะว่ามันจำเป็นสำหรับนักผจญภัย)
รวมถึงได้ทดลองมาแล้วบ่อยครั้ง เทียบกับรสชาติของอาหารในโลกเก่า จึงทำให้การปรุงของผมนั้นทำได้
อย่างคล่องแคล่วแล้ว
หลังจากหมักเนื้อจนอบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรและเครื่องเทศที่หอมฉุย ผมก็เอาเนื้อนั้นมาเสียบไม้ และเอา
ไม้ไปย่างใกล้ๆกับเตาที่กำลังต้มน้ำซุบกระดูกอยู่
ที่เหลือก็คอยควบคุมไฟ
ไม่ให้เนื้อไหม้จนเกินไป....
“คุณหนูทำได้จริงๆเหรอครับเนี่ย?”
โดยที่ไม่ได้สังเกต
พอได้ยินเสียงทักจากคลาวด์จึงหันไปมองและพบว่าเขากำลังทำหน้าตาตกใจอยู่
อะ อะ อะ อ้าว~ ประหลาดใจหรือจ๊ะ อย่าดูถูกผมให้มากนะ ที่โลกเก่า เพราะว่าผมต้องอยู่กับน้องสาวเวรตะไล
เสียส่วนใหญ่ พ่อแม่ก็เลิกงานจนดึกดื่น ผมจึงต้องทำอาหารเพื่อเลี้ยงครอบครัวอยู่บ่อยครั้ง ผมทำได้ตั้งแต่อาหาร
ง่ายๆ ไปจนถึงอาหารหรูๆบางชนิดเลยนะ คุยมากเดี๋ยวจะหาว่าโม้อีก~
“คึคึคึ
ผิดคาดสินะคะ แต่ว่าเรื่องนี้น่ะ หมูๆค่ะ”
“ผิดคาดจริงๆนั่นแหละครับ ปกติไม่มีบุตรีดยุกคนไหนสนใจทำกับข้าวกันหรอกครับ เพราะว่ามันเป็นงาน
ของคนครัว
อย่างมากที่สุดก็น่าจะทำแค่ขนมนั่นแหละ......”
คดีพลิก....อ้าว ตกลงผมผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย? แต่ว่าก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะบ่นไปรอบนึงแล้วนะ ครั้งนี้ช่วย
อภัยให้หน่อยได้ไหม ก็คนมันไม่รู้นี่นาว่าความเป็นกุลสตรี กับความเป็นแม่ศรีเรือนมันคนละอย่างกันน่ะ
ว่าแล้วก็กระพริบตาปริบๆใส่เพื่อขอให้ละเว้นโทษให้
ซึ่งทางคลาวด์นั้น
หลังจากที่ได้เห็นก็
เห้อ~~
ถอนหายใจออกมา
ก่อนที่จะยื่นมือมาทางผม
จะตบกันเร้อ~~~!
เปล่าหรอก.....แค่ลูบหัวเฉยๆแหละ
ผิดคาดมากเลย ผมจึงหันไปมองหน้าคลาวด์ คราวนี้เขายิ้มออกมา
“แต่ว่าสำหรับผมน่ะ...คุณหนูที่มีความเป็นแม่ศรีเรือนผมก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะ”
ช่างสว่างเหลือเกิน ถ้าหากมองคลาวด์ในตอนนี้แล้วนั้น ราวกับว่าจะเห็นภาพดอกไม้ปูเป็นพื้นหลังเอาไว้เลย
เผลอใจเต้นไปแวบนึงเลยนะเนี่ย ทั้งๆที่หมอนี่เป็นแค่ตัวประกอบแท้ๆ
“งะ...งั้นเหรอ? ที่จริงแค่คิดนิดหน่อยว่าเรียนเอาไว้น่าจะใช้ประโยชน์ได้น่ะ แต่ไม่เคยคิดเลยนะ ว่าคุณพวกเหล่า
คุณหนูเขาจะไม่ทำอาหารกัน”
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ
เรียนรู้ไว้น่ะดีแล้วล่ะ อาจจะเป็นประโยชน์อย่างที่คุณหนูว่านั่นแหละ”
พูดถึงตรงนี้ก็จ้องเข้ามาในตาของผม
ราวกับประเมิน
“___________เพราะว่าผมไม่รู้ว่าคุณหนูจะออกบินไปตอนไหนนี่นา”
คำพูดนั้นราวกับทะลุปรุโปร่งไปถึงดวงใจของผม คลาวด์รู้งั้นเหรอ? ว่าผมวางแผนที่จะหนีไปเป็นนักผจญภัย
.....ไม่ ไม่น่าจะรู้หรอก คงเป็นแค่สัญชาติญาณล้วนๆ แต่ว่ากับคลาวด์ที่ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวผมนั้น
ทำเอาผมหาอะไรมาอธิบายไม่ถูกเลย
และแล้วความรู้สึกกระอักกระอ่วน ก็เริ่มก่อตัวขึ้น อาหารเสร็จแล้วเราจึงเอาออกไปเสิร์ฟและพากันรับประทาน
อาหารเย็น
พอทานเสร็จก็ออกเดินทางต่อ
และใช้เวลาผ่านไปครู่ใหญ่
ในที่สุดเราก็มาถึงอาณาเขต [Lunar Tear]
หลังจากติดต่อกับทหารเฝ้ายามเสร็จ
ก็มุ่งไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน
ตอนนี้จะเที่ยงคืนแล้ว
เลยไม่คิดว่าจะมีใครมาต้อนรับอยู่หรอก แต่เมื่อลงจากรถ
“ท่านเอลิเชียยยยยย”
เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น ร่างเล็กๆที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วและสวมกอดผม
โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัวสักนิด
“ยินดีต้อนรับค่า”
เจ้าของร่างนั้นคืออมาเรียนั่นเอง
ทำเอาผมตกใจนิดหน่อย เพราะว่าเธอแตกต่างจากครั้งที่แล้วมาก ทั้งบรรยากาศรอบตัวและท่าทางการพูด
เรียกได้ว่าคนละคน ก็ได้แหละ..... ถ้ามองจากความใจกล้าตอนนี้แล้ว
ซึ่งทำเอาผมอยากจะร้องถามออกไปตรงๆเลยว่า
ฉันไปสนิทกับหล่อนขนาดนั้นตอนไหนงั้นเหรอ!?
***
ความคิดเห็น