คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 3 ขวบ : แล้วฉันจะใช้เวทมนตร์ได้ไหมล่ะ
หลังจากที่คุณซิสเตอร์แนะนำวิธีการเสร็จ
ผมก็ค่อยๆเอามือไปแตะที่ลูกแก้ว อย่างกล้าๆกลัว
ก็แหม ความรู้สึกลุ้นตอนนี้เหมือนกับตอนที่กำลังจะเปิดกาชาปองที่มีเรทเกลือสูงเลย ตอนนี้เสียงหัวใจผม
เต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากหน้าอกแล้วนะ!!
เพราะคิดแบบนั้นผมจึงหลับตาเพื่อระงับความตื่นเต้น
และเมื่อมือของผมแตะไปที่ลูกแก้ว
ทันใดนั้น!
เพล้ง!!!!!
เสียงแตกก็ดังขึ้นทันที
ผมลืมตาขึ้นทันทีพลางจ้องไปทางลูกแก้วที่มือผม
............ไม่ใช่นี่หว่า
“ซิสเตอร์ คนล้างจานเป็นลมอีกแล้วค่ะ
มาดูทางนี้หน่อย!”
และก็มีอีกเสียงเรียกหนึ่งดังออกมาจากทางด้านใดด้านหนึ่งของโบสถ์
ซิสเตอร์เหงื่อตกทันที
“เอ่อ....ถ้ารีบล่ะก็จะไปก่อนก็ได้นะคะ”
ไม่เข้าใจสถานการณ์หรอก
แต่ดูเหมือนว่าซิสเตอร์อยากจะไปทางนั้นก่อน ผมจึงอนุญาตให้เธอไป
เธอเองหลังจากฟังคำพูดของผม ก็เบิกตากว้างและก้มหัวขอบคุณ ก่อนที่จะออกไปตามเสียงนั้น
ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่
ตัวผมกับแม่ชีตัวน้อยอีกคนหนึ่งเท่านั้น
เดี๋ยวสิ
นี่เธอไม่ได้ไปด้วยหรอกเรอะ!!
“เอ่อ
พอจะทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น”
เพราะว่าบรรยากาศเริ่มไปในทางที่ไม่ดี ผมเลยเอ่ยถามออกมาก่อนเพื่อหาอะไรคุย และเมื่อพูดดังนั้น
แม่ชีตัวน้อยก็ตอบกลับมาด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆเหมือนเดิม
“คะ....คือ ทางโบสถ์ของเรา เปิดสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเอาไว้น่ะค่ะ ทำให้เรามีจานชามที่เยอะเกินกว่า
เหล่าซิสเตอร์จะล้างไหว เราเลยจ้างคนล้างจานมาในราคาถูก แล้วคนที่ถูกจ้างคนปัจจุบันนั้นเป็นเด็กตัวเล็กๆ
ที่ไม่มีพ่อแม่....”
“ไม่มีพ่อแม่....แล้วไม่รับเขาเข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือคะ”
“ทางเขาปฏิเสธเพราะว่าเขามีน้องสาวที่ต้องดูแลอีกหนึ่งคนค่ะ แน่นอนว่าเด็กกำพร้าทุกคนจะต้องทำงานเพื่อ
แลกกับอาหาร แต่ลูกจ้างคนนั้นเขาบอกว่าน้องสาวของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะทำงานได้ เขาจึงยอมทำงานอย่าง
หนักเพื่อให้น้องสาวได้อยู่สบายค่ะ”
“งั้นหรือคะ”
ผมตอบกลับไปด้วยจิตใจหดหู่ จะว่าไปถึงแม้จะเป็นดินแดนของดยุคที่รุ่งเรืองก็ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่สินะ ผมเอง
ก็อยากจะช่วยอยู่หรอก แต่ผมเองนั้นเป็นแค่เด็ก อีกอย่างหนึ่งคือ คนที่เป็นคนจรจัดส่วนใหญ่นั้น ไม่ใช่คนของ
ดินแดน แต่เป็นคนจำพวกที่แอบหนีเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นแม้แต่ท่านพ่อเองก็ยังอยู่นอกเหนือการช่วย
เหลือที่ท่านจะช่วยได้
“น่าสงสารนะคะ ทั้งๆที่เขาเองก็ดูจะอ่อนแอเช่นกัน ผิวพรรณของเขาราวกับลูกขุนนางที่ไม่เคยผ่านความยาก
ลำบากเลยค่ะ”
“เป็นเช่นนั้นเอง”
ยังไงผมก็ขอภาวนาให้พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ก็แล้วกัน
แต่ก่อนอื่น
กลับมาที่เรื่องนั้นกันต่อเถอะ
“อ๊ะ จะว่าไป
ต้องตรวจสอบความเข้ากันของธาตุสินะคะ”
แม่ชีตัวน้อยก็คิดได้เช่นเดียวกัน
เธอจึงทำหน้าที่แทนซิสเตอร์ที่ออกไปเมื่อครู่นี้แล้วมองที่ลูกแก้ว
เอาล่ะ
ฉันเองก็มองไปทางลูกแก้วเช่นเดียวกัน พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นระรัว
และเมื่อมองดูไปที่ลูกแก้วนั้น
วาบ___________
มีแสงด้วยล่ะ แสงคล้ายกับแสงไฟจากหลอดไฟส่องประกายออกมาจากลูกแก้ว ไม่ใช่แสงสีที่ซิสเตอร์เคยกล่าวมา
แต่เป็นแสงสีขาว และหลังจากนั้นมันก็ดับไป
................................
“เอ่อ”
ดับไปแล้วจ้า~
ผมเบิกตาด้วยความสงสัยพลางมองไปที่แม่ชีตัวน้อย
“ไม่ใช่สีของธาตุทั้งแปดค่ะ”
Game Over!!
ได้ยินเสียงเคาะระฆัง ถ้าเป็นในการ์ตูนล่ะก็ผมคงล้มพับคาเก้าอี้ไปแล้ว นั่นหมายความว่าผมไม่สามารถใช้
เวทมนตร์ได้สินะ
จบแล้วล่ะ อื้ม จบแล้วความฝันที่จะเป็นจอมเวทย์ของผม
“น่าตกใจจริงๆเลยค่ะ
คุณเอลิเชียเข้ากับธาตุที่หายากอย่างธาตุว่างเปล่าด้วย”
ในขณะที่คิดจะยอมแพ้นั้น เสียงแห่งความหวังก็ดังขึ้นอีกครั้ง ธาตุว่างเปล่างั้นเหรอ!? จำได้ว่าในนิยายที่เคยอ่านมา
มันเป็นธาตุที่สามารถเสกอะไรก็ได้ออกมาจากความว่างเปล่า
เวทจำพวกมิติ สามารถวาร์ปได้ อะไรทำนองนั้น.....
ไม่ใช่ว่า OP
สุดๆไปเลยรึไง ไม่แน่นะตัวผมที่เกิดใหม่อาจจะเป็นผู้กล้าหรืออะไรทำนองนั้นก็ได้
วะ ฮ่า ฮ่า
“แล้ว
ธาตุว่างเปล่านี่สามารถใช้เวทมนตร์ประเภทไหนได้หรือคะ”
แต่ตอนนี้ขอผมแอ๊บหน้านิ่งเอาไว้ก่อน
ผมถามออกมาด้วยสีหน้าที่(พยายาม)ไม่ตื่นเต้นอะไร
“เอ.....รู้สึกว่าจะสามารถเพิ่มพลังกายได้เล็กน้อย
ทำให้ตาสว่างขึ้นเล็กน้อย หรือไม่ก็ทำให้เหนื่อยยากขึ้นเล็กน้อยค่ะ”
อารมณ์ของผมดรอปลงทันทีหลังจากได้ฟัง
อะไรกันน่ะ ไอ้ฟังก์ชั่นเครื่องดื่มชูกำลังนี้...
“เอ่อ ไม่มีเวทมนตร์
จำพวกเวทมิติ ประตูวาร์ป อะไรแบบนั้นหรือคะ”
“ไม่มีหรอกค่ะของแบบนั้นน่ะ”
แม่ชีตัวน้อยตอบอย่างร่าเริง
ส่วนผมนั้นน็อกเอ้าท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บ้าจริง เวทเพิ่มกำลังกาย(นิดหน่อย) มันก็แค่เพิ่มกำลังกายไม่ใช่รึไง การที่ได้เวทไร้ความฝันแบบนั้นก็เหมือนกับ
ไม่มีนั่นแหละ ถึงว่า
ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นเอลิเชียใช้มันเลย
เพราะแต่เดิมเอลิเชียก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอ ถึงจะเพิ่มกำลังกายได้ก็ทำได้แค่มีพละกำลังมากกว่าผู้หญิงแข็งแรง
ทั่วๆไปเท่านั้........อ๊ะ
พอวิเคราะห์เวทมนตร์ดีๆ บวกกับเนื้อเรื่องในเกมแล้ว ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
ก็....นั่นไง ในการกลั่นแกล้งของเอลิเชียต่อลิลลี่ บางทีก็ไม่เหมือนกับสิ่งที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถทำได้ อย่างการ
โยนถังแป้งใส่ไรงี้ การที่เอลิเชียทำได้คงเป็นเพราะเสริมกำลังมานั่นแหละ ตอนเป็นเกมนี่ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น
เลยนะ
ยิ่งค้นพบความจริงแบบนั้นยิ่งรู้สึกว่าเป็นเวทมนตร์ที่กระจอกชะมัดเลย
ว่าแล้วผมก็ทำการขอบคุณแม่ชีตัวน้อย
แล้วลุกขึ้น อ๊ะ จะว่าไปแม่ชีคนนี้หน้าตาคุ้นๆนะ
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ
ถ้าไม่รังเกียจขอทราบชื่อหน่อยได้ไหมคะ”
ผมเลยลองตะล่อมถามดู
“ค่ะ
ฉันชื่อว่า เนทิเลียค่ะ วันนี้ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ แล้วก็ คุยกับท่านลุกสาวดยุคแล้วสนุกมากเลยค่ะ”
เธอยิ้มกว้างออกมาพร้อมกับขอบคุณผมด้วย
สนุกงั้นเหรอ? เพียงแค่พูดคุยกันไม่กี่คำ แต่เธอกลับบอกว่าสนุกที่ได้คุยกับผม ช่างเป็นเด็กที่น่ารักและซื่อตรงจริงๆ
บางทีการที่เธอเป็นแม่ชีตั้งแต่อายุยังน้อยอาจจะทำให้เธอไม่มีเพื่อนในวัยเดียวกัน แม่ชีจะไปคลุกคลีหรือเล่นกับเหล่า
เด็กกำพร้าก็ไม่ได้ เธอคงจะเหงามากเลยล่ะ
คิดแล้วจึงลูบหัวอย่างอ่อนโยน
แบบเดียวกับที่ท่านพ่อฉันทำ
แฮะ แฮะ แฮะ~
ซิสเตอร์เนทิเลียเองก็หัวเราะคิกคักออกมาด้วยสีหน้ามีความสุขด้วย ไม่มีท่าทีรังเกียจเลย อื้ม
ทีหลังจะมาแวะเล่นด้วยแล้วกันนะ ซิสเตอร์เนิทีเลีย......
เอ๊ะ? ซิสเตอร์เนทิเลีย?
เพราะจู่ๆชื่อนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัวโดยไม่ทันสังเกต อืม ผมก็คุ้นๆกับชื่อนี้นะ เลยพยายามนึกถึงความทรงจำที่ได้
พบกับชื่อนั้นเป็นครั้งแรก
อ๊ะ นั่นไง
ในรูทของลาส เฟรเดีย ฉากจบที่ลาสได้ครองรักกับลิลลี่ ซิสเตอร์เนทิเลียก็ได้ทำการฆ่าเอลิเชียที่กำลังคิดแผนร้าย
เพื่อจัดการพวกเขา
มีดสั้นนั้นปักกลางอกของเอลิเชีย พร้อมกับสายตาที่ดุดันและเกลียดชังของซิสเตอร์เนทิเลีย
ซิสเตอร์เนทิเลียนั้นถือว่าเป็นตัวร้ายในรูทของลาส เช่นเดียวกันกับเอลิเชีย
ที่เป็นแบบนั้นเนื่องจากลาสและเนทิเลียเคยรู้จักกันตอนเด็กๆ ความรู้จักนั้นเปลี่ยนเป็นมิตรภาพ และ
มิตรภาพนั้นไม่นานก็เปลี่ยนเป็นความรัก
แต่ในท้ายที่สุดแล้วซิสเตอร์เนทิเลียก็ได้ยอมแพ้ต่อความรักของทั้งสองและอวยพรพวกเขาด้วยการ
จัดการเสี้ยนหนามที่ใหญ่ที่สุด
และนั่นก็คืออีกธงหนึ่งของผม
ผมจึงเอามือออกทันที
หลังจากนั้นก็ก้มหัวบอกลาอีกครั้ง
ก่อนที่จะมุ่งตรงไปที่รถม้าเพื่อกลับไปหาท่านพ่อ
ณ ตอนนั้นขณะที่เนทิเลียกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน ให้กับเอลิเชียที่เป็นมิตรภาพแรกของเธอนั้น
เอลิเชียเองก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวนั้นเลยสักนิด
***
ความคิดเห็น