ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #11 : 3 ขวบ : ท่านพ่อมาหาล่ะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.98K
      252
      3 ก.พ. 63


    เวลายังคงดำเนินไปอย่างแข็งขัน

    ตอนนี้ผมมีอายุครบ 3 ขวบแล้ว 


    พออยู่มาได้ 3 ปีผมก็เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น และเข้าใจในหลายๆจุดว่า สิ่งที่ผมได้ทำนั้น 

    ถึงแม้จะเล็กน้อยแต่ก็มีบางอย่างที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเนื้อเรื่องของเกม


    อย่างแรกเลยก็คือ คลาวด์ อันที่จริงตามเนื้อเรื่องของเกมนั้น คลาวด์จะรับบทบาทเป็นทหารคุ้มกันของตระกูลควินมาร์ก 

    อย่างอื่นนอกจากนั้นผมก็ไม่รู้หรอกนะ ก็โผล่มาแค่ฉากเดียวนี่นา 


    แต่ว่า..... จากที่เคยได้ผ่านตามา ถ้าผมจำไม่ผิดตลอดตั้งแต่ต้นเกมยันจบเกม เดวิด ที่น่าจะเป็นเพื่อนสนิทของคลาวด์ 

    นั้นไม่เคยพูดชื่อของคลาวด์ออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียวเมื่อครั้งที่ยังเป็นเกมอยู่ 


    เพราะอะไรน่ะเหรอ? ผมคิดว่า ในเกมนั้นพวกเขาไม่ได้สนิทกันไงล่ะ ความสัมพันธ์นั้นคงเป็นเพียงแค่ เจ้านาย กับ 

    ลูกน้องเท่านั้นแหละ


    นอกจากนั้นอีกหนึ่งเรื่องที่เปลี่ยนไปคือตำแหน่งของคลาวด์


    ถ้าตามเนื้อเรื่องของเกมนั้นคลาวด์น่าจะเป็นทหารคุ้มกัน ตามรอยพ่อของเขา แต่ว่าตอนนี้เขาได้กลายเป็น

    อัศวินไปแล้ว (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ยศทางการก็เถอะ)


    และที่สำคัญ เขาสาบานว่าจะเป็นอัศวินของผม


    ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจหรอกนะ เมื่อตอนที่คลาวด์สาบานว่าจะเป็นอัศวินของผม เป็นดาบและโล่ห์ให้กับตัวผม 

    ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดเลยว่านั่นคือการสาบานเพื่ออุทิตชีวิตให้แก่นาย ไม่ใช่ตระกูลควินมาร์ก แต่เป็นอัศวินของตัวผม


    ผมก็ลองถามคลาวด์ว่าทำไมอยู่หลายครั้งอ่ะนะ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดอะไรเลย  


    แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ 

    ผมหยุดคิดเรื่องไร้สาระแล้วเปลี่ยนมาคิดอีกเรื่องหนึ่ง


    “หะ หืม~ ตอนนี้เราก็อายุ 3 ขวบแล้วสินะ งั้นก็แสดงว่าวงจรเวทย์เราใช้งานได้แล้วน่ะสิ 

    อยากใช้เวทมนตร์จังเลยน้า~


    ผมลองบ่นๆไปขณะที่กำลังเรียนวิชาความรู้ทางด้านการเมืองกับครูสอนพิเศษ แน่นอนว่าเป้าหมายไม่ใช่เธอ

    แต่เป็นคลาวด์ที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างหลังต่างหาก


    “คุณหนู ไม่ใส่ใจในการเรียนแบบนี้ระวังโดนคุณหญิงเอ็ดเอานะครับ”


    แต่กลับกัน สิ่งที่ผมได้รับนั้นคือการโดนตักเตือนกลับมากลับมา กี๊!!! ไอ้อัศวินบ้านี่ แค่ก้มหัวแล้วเดินไปขอร้องท่านพ่อ

    ให้หน่อยมันยากนักรึไงฮะ ทำไมถึงได้เป็นอัศวินที่ไม่ทำตามคำสั่งเจ้านายแบบนี้นะ


    คิดแล้วก็จ้องตาไปด้วยความหงุดหงิด แน่นอนว่าคลาวด์ยังคงยืนอยู่ด้วยสภาพนิ่งเฉย


    และหลังจากที่ไม่สนใจในการสอนของครูสอนพิเศษสักพักหนึ่ง ฉันก็โดนตีทำโทษจนแขนมีรอยเขียวช้ำ


    ต่อมา___________


    หลังจากที่เรียนพิเศษจบฉันก็เดินไปนั่งที่โต๊ะจิบน้ำชาในสวน ตอนนี้เวลาเพิ่งจะบ่ายโมง มีเวลาให้ทำอะไร

    อีกนิดหน่อย ฉันจึงตัดสินใจว่าหลังจากที่ผ่อนคลายแล้ว จะเข้าไปศึกษาเวทมนตร์ต่อที่ห้องสมุด


    และในขณะที่คลาวด์กำลังรินชาอันหอมหวานให้กับฉันนั้น


    แช๊กๆ


    เสียงแหวกพุ่มไม้ก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองด้วยความสงสัย และทันใดนั้น


    “อ๊ะ อยู่นี่เอง~~


    ท่านพ่อปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้......


    ท่านพ่อ หรือก็คือ ดยุค เอ็ดเวิร์ด ฟอน ควินมาร์ก ถึงจะเป็นถึงตำแหน่งดยุคก็เถอะ แต่ท่านพ่อนั้นเพิ่งจะ

    เป็นชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาดี และดูอ่อนโยน อยากบอกว่าด้วยความอ่อนโยนนั้นนั่นแหละ ทำให้ท่านแม่

    หลงรักหัวปลักหัวปลำเลยล่ะ


    ท่านพ่อนั้นสืบเชื้อสายมาจากท่านปู่ซึ่งเป็นน้องชายของอดีตองค์ราชา เชื้อตระกูลของเราจึงมีสายเลือดของ

    เชื้อพระวงศ์ไหลเวียนอยู่ และด้วยเหตุนั้นตระกูลเราจึงได้รับตำแหน่ง ดยุค ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของตระกูลขุนนาง


    งานหลักๆของท่านพ่อนั้นก็คือการบริหารเขต รวมถึงติดต่อเจรจางานอื่นๆ เป็นสื่อกลางระหว่างราชากับขุนนาง

    คนอื่นๆ ซึ่งในทุกๆงานที่ท่านพ่อได้รับนั้น จะถูกทำอย่างสมบูรณ์และเรียบร้อยอยู่เสมอ 


    นอกจากนั้นท่านยังทำงานอย่างซื่อตรงและเที่ยงธรรม ดังนั้นจนได้รับยกย่องว่าเป็น [แม่พิมพ์แห่งจักรวรรดิ] 

    ที่ขุนนางชั้นน้อยกว่าและขุนนางเกิดใหม่ควรจะเรียนรู้และเอาเป็นแบบอย่าง


    แต่........ก็นะ ถึงแม้ท่านพ่อจะเป็นคนที่ยอมเยี่ยมขนาดนั้นก็เถอะ แต่ในมุมเปิ่นๆของท่านพ่อก็มีเหมือนกัน 

    นั่นก็คือ.....เซ้นท์ทิศทางที่ห่วยแตกสุดๆ และก็เพราะมีนิสัยน่ารักๆแบบนี้นี่แหละ ทำให้ท่านพ่อเข้ากับทุกคน

    ในบ้านได้ ไม่เหมือนกับขุนนางท่านอื่นที่ทำตัวตีห่างจากครอบครัว


    อย่างไรก็ตาม


    “ท่านพ่อคะ ทางเดินก็มีนะคะ”


    ผมอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อท่านพ่อ ที่กำลังปัดใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าอยู่ ก่อนที่ท่านพ่อจะหัวเราะแห้งๆและเดินมาหาฉัน


    “กำลังดื่มชาอยู่เหรอ?”


    “ค่ะ ท่านพ่อ แล้วทางท่านพ่อล่ะคะ มาพบหนูมีธุระหรือเปล่าคะ”


    พูดจบก็หลับตาพลางทำการดื่มชาอย่างสุภาพ สมกับเป็นลูกคุณหนู


    “คือว่านะ ช่วงบ่ายนี้พ่อจะต้องไปทำธุระข้างนอก คลาวด์เองก็มาแจ้งว่าลูกหยากจะตรวจสอบความเข้ากัน

    ของเวทมนตร์ด้วย เลยมาชวนให้ไปด้วยกันน่ะ”


    ท่านพ่อพูดอย่างร่าเริง แต่ในขณะนั้น


    พรูดดดด!!!!


    ฉันพ่นชาออกมาทันที โดยไม่ได้ตั้งตัว ชานั้นมีเป้าหมายไปทางท่านพ่อ แต่ด้วยความเร็วของคลาวด์ 

    จึงนำถาดเหล็กมาปัดป้องเอาไว้ได้


    “จริงหรือคะท่านพ่อ!!


    แต่ว่านะ ไม่คิดว่าคลาวด์จะไปรายงานท่านพ่อจริงๆ เท่านี้การที่ฉันจะสามารถใช้เวทมนตร์ได้ก็ไม่ใช่ฝันอีกต่อไปแล้ว 

    ว่าแล้วฉันลุกขึ้นยืนแล้วพูดด้วยความตื่นเต้น แต่.....ทันใดนั้นเอง


    “.....คุณหนูครับ ทำตัวไม่มีมารยาทเลย พรุ่งนี้งดขนมนะครับ”


    แรงกดดันพุ่งออกมาจากทางด้านหลังทันที คลาวด์ที่เห็นฉันทำตัวไม่สุภาพ ก็เปลี่ยนเป็นโหมดคุณแม่ 

    และจ้องมองด้วยสายตาดุร้าย อือ ขอโทษค่ะ!!


    สุดท้ายผมจึงยอมสงบลงด้วยท่าทางจ๋อยๆ 


    “เอาน่า คลาวด์ ใจเย็นๆนะ เอลิเชียยังเป็นแค่เด็ก.....”


    “นายท่านก็อย่าตามใจคุณหนูมากสิครับ คุณหนูจะโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดีนะ!!


    “อ๊ะ....ครับ”


    ต่อจากฉันก็มีท่านพ่อมาเข้าร่วมการเทศนาของคลาวด์ข้างๆฉันด้วย ใครเป็นเจ้านาย-ลูกน้อง กันแน่นะ 

    ผมล่ะสงสัยจริงๆ

    ***


    หลังจากที่ฟังคลาวด์เทศนาเสร็จ ดูเหมือนว่ารถม้าจะเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว ผมเลยเดินจูงท่านพ่อไปที่

    หน้าคฤหาสน์เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านพ่อหลงทาง แน่นอนว่าคลาวด์ก็เดินตามมาอย่างเงียบๆ  


    จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ไปกับท่านพ่อสินะ เพราะว่าปกติท่านพ่อมักจะทำงานยุ่งเสมอ จะได้เจอหน้า

    ท่านพ่อที ก็มีโอกาสแค่มื้ออาหารเย็นของบางวันเท่านั้น  เพราะฉะนั้น วันนี้ตอนที่ท่านพ่อชวนไปด้วยกัน

    ทำให้ผมดีใจมากเลยล่ะ


    คิดๆแล้วก็เดินมาจนถึงรถม้า


    “เอาล่ะ ท่านพ่อ ขึ้นไปนะคะ”


    “จ้าๆ“


    ท่านพ่อตอบกลับอย่างว่าง่าย ถึงจะบอกว่าถึงรถม้าแล้วก็มีโอกาสที่ท่านพ่อจะหลงทางได้ ผมเลยไปส่งให้

    แน่ใจว่าท่านพ่อจะไม่หลงไปไหน และเมื่อท่านพ่อขึ้นไปบนรถม้าแล้ว ผมก็ขึ้นตาม.....


    “แหงะ”


    ผมกรอกตาทันที

    ทำไมน่ะเหรอ? พอขึ้นไปด้านบนปุ๊บ ก็คนที่นั่งรออยู่กับท่านพ่ออยู่แล้ว.....เดวิดนั่นเอง


    “เอลี่จะไปด้วยเหรอ? มานั่งข้างๆพี่จ๋าสิ มาสิๆ”


    หมอนี่อายุ 5 ขวบแล้ว แต่จุดที่มีนิสัยร่าเริงนั้นยังไม่เปลี่ยน เดวิดทุบเบาะแปะๆ พลางส่งรอยยิ้มเจิดจ้ามาให้ 

    ดังนั้นผมจึงนั่งฝั่งตรงข้ามกับท่านพ่อและตรงข้ามกับเดวิด ผมให้คลาวด์มานั่งแทน


    “อา~ ท่านพ่อ ทำไมเอลี่ถึงทำเหมือนไม่ชอบผมล่ะครับ”


    “เอ๋ นะ นั่นไง ซึนเดเระไง ความจริงเอลิเชียอาจจะรักเดวิดมากจนไม่กล้าบอกออกมาก็ได้”


    ดูเหมือนเดวิดจะเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าผมพยายามหลีกเลี่ยงอยู่ แต่เมื่อไปถามท่านพ่อ ท่านพ่อก็ดันเปลี่ยน

    ความคิดของเดวิดซะได้ ท่านพ่อคะ อย่าเอา flag แปลกๆมาปักใส่หนูได้ไหม?


    กะจะเถียงอยู่ และคิดดูอีกที แกล้งเป็นไม่ในใจดีกว่า 


    คิดแล้วก็หันออกนอกหน้าต่างและคิดถึงเรื่องเวทมนต์ เวทมนตร์สิน้า~ 


    จะว่าไปในเกมก็ยังไม่เคยเห็นเอลิเชีย ใช้เวทมนตร์อะไรเลยนี่นา ทั้งตอนในเนื้อเรื่อง แล้วก็ตอนทูทอเรียลด้วย


    ผมยังจำฉากนั้นได้ดี ในตอนที่เอลิเชียอายุ 15 และลิลลี่ที่อายุ 16 ทั้งคู่นั้นเข้าเรียนในโรงเรียนพร้อมกันเพราะว่า

    เอกสารของลิลลี่ยังไม่พร้อมเมื่อปีก่อนหน้านี้ 


    และเมื่อรถม้าได้เคลื่อนเข้าไปในป่า มอนสเตอร์ตัวแรกที่ได้เจอในโหมดสอนต่อสู้ก็คือ ทีโรซอร่า


    ตัวละครที่สามารถควบคุมได้นั้นมีเพียงแค่ลิลลี่ และเดวิดเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ฝึกสู้จนครบทุกกระบวนท่าแล้ว 

    คลาวด์จะยอมสละชีวิต เพื่อให้ทุกคนหนี ซึ่งนั่นเป็นบทจบของทูทอเรียลแนะนำการต่อสู้พื้นฐาน


    แน่นอนว่าในกลุ่มตัวละครเหล่านั้น เอลิเชีย ไม่มีบทบาทอะไรเลย ถ้าจะให้เดา คงจะนั่งอยู่เฉยๆในรถม้าอย่าง

    เย่อหยิ่ง หรือถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายกว่านั้นก็คงนั่งกลัวหัวหดเพราะว่าไม่สามารถใช้เวทมนตร์นั่นแหละ


    และนี่ก็คือคำถาม


    “สรุปว่าผมใช้เวทมนตร์ได้ไหมนะ?”


    เพราะว่าไม่ได้ออกเสียงออกมาจึงไม่มีคำตอบกลับมา แต่ในใจของผมก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นกรณีเลวร้าย 

    ที่สุดเลยก็แล้วกัน

    *** 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×