ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #5 : 1 ขวบ : จะเดินทางไปปาร์ตี้น้ำชาล่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 63



    ผ่านมาสักพักใหญ่ๆ อาการของผมสงบลง ส่วนเดวิดนั้นได้ไปนั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้องเรียบร้อยแล้ว 

    แน่นอนว่าหมอนั่นไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ


    อันที่จริงก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมมากเลยนะ สำหรับเด็กตัวเล็กๆอย่างเดวิดที่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง 

    และสิ่งที่ทำแค่ไปนั่งเงียบๆเท่านั้น ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ แต่หมอนั่นก็ไม่ได้ทักท้วงสักคำ นี่สินะที่เค้า

    เรียกว่าสเปคตัวเอกในเกมจีบหนุ่มน่ะ


    แต่เรื่องนั้นก็ส่วนของเรื่องนั้น ยังไงก็ตาม ถึงแม้ผมจะผิดก็เถอะ แต่ผมไม่ไปง้อหรอกนะ เพราะถ้าขืนสร้างความ

    สัมพันธ์กับเดวิดมากไป อาจจะโดนเด้งเข้าสู่รูท หายนะซะเปล่าๆ  


    “แล้วตกลงท่านแม่มาพบลูกด้วยเรื่องอันใดหรือคะ”


    กลับมาที่ปัญหาเดิมก่อน จำได้ว่าท่านแม่เข้ามาหาเพราะต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง ผมเลยถือโอกาสนี้ถามไปเสียเลย


    “แหม~ ตายจริง ดันลืมเสียได้ คือว่าอย่างนี้นะจ๊ะ คืนนี้แม่จะไปงานเลี้ยงน้ำชาของตระกูลบารอนน่ะจ่ะ~


    ก็เป็นเฉกเช่นทุกครั้ง ท่านแม่มีหน้าที่ ที่จะต้องไปสังสรรค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างชื่อเสียงของตระกูล

    ในงานเลี้ยงอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่แปลกจริงๆก็คือการที่ท่านแม่มาแจ้งเรื่องนี้กับผมมากกว่า


    “........?”


    “อย่าทำหน้าสงสัยสิจ๊ะ แม่จะชวนลูกไปด้วยนะ”


    ท่านแม่พูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเคย อันที่จริงโลกภายนอก นอกจากที่คฤหาสถ์นี้ผมก็อยากจะเห็นอยู่อ่ะนะ 

    เพียงแต่ว่า.....


    “ท่านแม่คะ ลูกเพิ่งจะอายุขวบกว่าๆเอง จะให้ลูกไปด้วยจริงๆหรือคะ”  


    “แหม~ ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ ก็ลูกเป็นเด็กฉลาด ต้องไม่เป็นไรแน่นอน”


    ว่ามาแบบนั้นแหนะ เอาเถอะ ข้างในก็เป็นชายหนุ่มอายุ 18 แล้ว ผมไม่มีทางทำอะไรแบบเด็กๆให้

    ท่านแม่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วล่ะ


    ในขณะที่กำลังคิด ท่านแม่ก็เรียกฟิลเวียและนำฉันไปที่หน้าคฤหาสน์  


    “อ๊ะ สวัสดีครับนายหญิง รถม้าเตรียมพร้อมแล้วครับ”


    พอมาถึงหน้าคฤหาสถ์ก็พบกับคนๆหนึ่ง คอยต้อนรับอยู่ เขาเป็นชายวัยกลางคน ที่สวมชุดทหารเต็มยศ 

    คงจะเป็นทหารคุ้มกันในครั้งนี้ล่ะนะ


    รูปร่างหน้าตาของเขาถือว่าดีกว่าข้ารับใช้คนอื่นๆ ในคฤหาสน์นี้ แต่ไม่ว่าจะลองค้นความทรงจำเท่าไร ก็นึกถึง

    ผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลย คนๆนี้ไม่ใช่ตัวละครในเกม...


    “อ๊ะ”


    พอมองดู ดีๆก็พบกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่หลังคุณทหารคุ้มกันด้วย 


    “สวัสดีครับคุณหนู ผมมีนามว่าโครธ ไว้ใจผมได้เลยนะครับ ชีวิตของพวกคุณหนูกระผมจะดูแลสุดชีวิตเลยครับ 

    อ่อ ส่วนเจ้าหมอนี่เป็นลูกชายของผมชื่อว่าคลาวด์ครับ วันนี้เจ้าหนูจะมาเรียนรู้งานเพื่อที่จะเป็นทหารคุ้มกันใน

    อนาคตด้วย ฝากดูแลเจ้านี่ด้วยนะครับ”


    ดูเหมือนคุณคนทหารคุ้มกัน จะเห็นใบหน้าสงสัยของผม จึงแนะนำตัวออกมาด้วยท่าทีอัธยาศัยดี พร้อมกับ

    ขยี้หัวลูกชายของเขาและแนะนำมาให้ผมรู้จักด้วย


    “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนู ผมคลาวน์ อายุ 7 ขวบครับ กระผมขอสาบานด้วยชื่อเสียงของตระกูล จะทำการ

    ช่วยเหนือคุณหนูอย่างเต็มที่ครับ”


    “ฝากตัวด้วยนะคะ”


    นอกจากการแนะนำจากพ่อแล้ว เจ้าตัวเองก็แนะนำด้วยท่าทางสุภาพเช่นเดียวกัน ว่าแต่...ต่างจากโครธ 

    แต่สำหรับคลาวด์นั้น ผมคุ้นชื่อของเขา ก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก แต่ก็เป็นตัวละครหนึ่งในเกมที่ถูกกล่าวชื่อ

    ออกมาแน่ๆ  เพียงแต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก.....เป็นตัวละครที่ออกมาแค่ฉากเดียวมั๊ง?


    ทำการพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกผมจึงขึ้นรถม้ากัน ภายในรถม้าก็ประกอบไปด้วย ผม ท่านแม่ 

    เดวิด แล้วก็คลาวด์


    สำหรับคนขับรถม้ากับโครธนั้นนั่งอยู่ด้านนอก


    และพอเริ่มออกเดินทาง เดวิดกับคลาวด์ก็คุยกับอย่างสนุกสนาน คงรู้จักกันมาก่อนสินะ แต่ผมไม่คิดจะสนใจ

    เรื่องพวกนั้นหรอก พร้อมกับหันไปมองรอบนอก


    รถม้านั้นเดินทางมาระยะหนึ่งแล้ว ภายนอกอาณาเขตตระกูลควินมาร์กเป็นเมืองใหญ่ ถ้าอ้างอิงจากที่ฟิลเวียบอกนั้น 

    อาณาเขตควินมาร์ก เป็นอาณาเขตที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ของคฤหาสถ์ดยุคแห่งควินมาร์กนั้นตั้งอยู่ใจกลางของเมือง 

    ล้อมรอบด้วยเขตชุมชนและตลาด ทำให้ประชาชนสามารถร้องเรียนได้อย่างสะดวกสบาย


    อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ผิดกลับเซ็ตติ้งของเกมอื่น ครอบครัวของผมน่ะ แทบไม่มีสีดำทั้งในการทำงานและการ

    ใช้ชีวิตเลย ครอบครัวดยุคควินมาร์กนั้น ทำงานเพื่อประเทศและรักประชาชนของเขาจากใจจริง ไม่มีใคร อดอยาก 

    คนยากจนนั้นน้อย เป็นเพราะการบริหารที่ชาญฉลาดของท่านพ่อ 


    พราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาเรื่องธุรกิจกับการเพิ่มชื่อเสียงจากทางฝั่งประชาชน เหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆน่ะ 

    เป็นไปไม่ได้เลย ก็ปัญหาของผมมันเรื่องเกี่ยวกับบุคคลล้วนๆเลยนี่นา


    เวลาผ่านไปอีกนิดหน่อยรถม้าขับผ่านเขตเมืองออกมาเขตเกษตร เขตเกษตรนั้นอยู่ล้อมรอบเมืองเป็นวงนอก 

    ทั้งไร่นา สวนพืชผักผลไม้ และปศุสัตว์ ถูกจัดการอย่างเป็นระบบ และสามารถนำส่งร้านค้าได้ด้วยตัวเองโดย

    ไม่ต้องผ่านคนกลาง


    จากที่ดูๆมา คุณภาพของพืชพันธุ์นั้นสดและเนื้อแน่นน่าเย้ายวนมากๆ ถึงขนาดทำให้ท้องร้องได้เลยทีเดียว

    ไม่ได้การ อันตรายแฮะ


    ผมเลยหันกลับเข้ามาในรถแทน


    “หุหุ เห็นลูกชอบแม่ก็ดีใจจ่ะ เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของท่านพ่อเลยนะ เพื่อที่จะให้พวกลูกๆได้

    อยู่กันอย่างสบายใจ เพื่ออนาคตของลูกๆ ท่านพ่อจึงได้พยายามอย่างมากเลย”


    “ค่ะ ลูกรักที่นี่มากๆเลยค่ะ”


    ท่านแม่พอเห็นผมชอบการสำรวจสิ่งใหม่ๆรอบตัว จึงได้เล่าถึงผลงานของท่านพ่อออกมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ  

    ผมเองก็ภูมิใจเหมือนกันที่ได้อยู่ในอาณาเขตแห่งนี้ ผมเลยยิ้มและตอบออกมาด้วยใจจริงเช่นกัน


    “จะเข้าป่าแล้วสินะ”


    แต่แล้วเวลาแห่งความผ่อนคลายก็ถูกขัดลงด้วยเสียงของเดวิด บรรยากาศในรถม้านั้นตรึงเครียดขึ้นเล็กน้อย


    “มีเหตุอันใดหรือคะ ท่านแม่?”


    “ปล่าวหรอกจ๊ะ แค่พอเข้ามาในป่าจะมีมอนสเตอร์ออกมา เลยต้องระวังตัวไว้หน่อยน่ะจ๊ะ”


    ท่านแม่กล่าวพร้อมกับลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน ส่วนเดวิดนั้นก็ยืนขึ้น


    “ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพี่จ๋าจะปกป้องเอลี่เอง!


    เดวิดพร้อมขึ้นอย่างมั่นใจพร้อมกับชักดาบที่สะพายอยู่ที่เอวออกมานิดหน่อย จะว่าไปหมอนี่ก็พกดาบมาด้วยสินะ 

    ไม่ได้นะท่านแม่ จะให้เด็ก 3 ขวบมาพกดาบจริงแบบนี้มันอันตรายไม่ใช่หรือไง


    “ท่านเดวิดเองก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมกับท่านพ่อจะดูแลความปลอดภัยให้เองครับ”


    “ใช่แล้วๆ~~”


    ในขณะที่ผมคิด คลาวด์ที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นอย่างสงบ พร้อมกับโครธที่อยู่ข้างนอกก็ตอบกลับมาด้วย โอ้ว 

    ช่างเป็นคนที่น่าไว้ใจยิ่งนัก ทำเอาเดวิดที่ยืนเก๊กอยู่เมื่อครูนี้นั่งลงกับที่เลย


    และแล้วเราก็ออกจากป่าได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น  

    พอออกจากป่ามาแล้วแน่นอนว่าดินแดนนี้เป็นดินแดนใหม่แล้ว


    “ดินแดนนี้คือจุดหมายหรือคะ ท่านแม่”


    ฉันถามท่านแม่ด้วยความหวังว่าจะเป็นแบบนั้น ก็...นี่ฉันนั่งมาหลายชั่วโมงแล้วนี่นา เจ็บก้นกับขาชา

    ไปหมดแล้วด้วย แปลกใจจังที่คนอื่นยังคงนั่งสงบอยู่ได้


    ท่านแม่เองก็เหมือนจะเข้าใจเลยยิ้มออกมาด้วยสีหน้าเห็นใจก่อนตอบ


    “ถึงแล้วจ้า ดินแดนนี้แหละที่แม่ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาน่ะ เป็นตระกูลบารอนเล็กๆ แต่คุณนายของที่นี่

    เคยเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกันกับแม่นะ อีกอย่างแม่ก็อยากจะให้ลูกเตรียมพร้อมกับการออกสังคมในอนาคตด้วย”


    เตรียมพร้อมออกสังคม.....คุณแม่ครับ กระผมเพิ่งจะขวบเดียวเองนะครับ แล้วอีกอย่าง....เดี๋ยวก่อนนะ 

    ก็รู้อยู่หรอกว่าอาณาเขตของเราติดต่อกับอาณาเขตของขุนนางเล็กๆอยู่เยอะ ทั้งนี้ก็เพราะเป็นระบบพี่น้อง

    ที่ต้องช่วยเหลือกันด้วย 


    แต่ฟังจากที่ท่านแม่อธิบายแล้ว ทั้งตระกูลบารอน และก็เพื่อนสมัยเรียนของท่านแม่ ถ้าเป็นไปตามเซ็ทติ้งล่ะก็......


    “คือว่าท่านแม่คะ ตระกูลที่เราจะไปคือตระกูลใดหรือคะ?”


    “จ้า~ ตระกูลบารอนเฟรเดียจ๊ะ~~


    พอพูดชื่อนี้ขึ้นมาความทรงจำก็ค่อยๆไหลกลับมาทันที ชื่อตระกูลที่ล่มสลาย ชื่อสำคัญที่จะนำไปสู่ความ

    วอดวายของเอลิเชีย ต้นตระกูลของ ลิลลี่ เฟรเดีย นางเอกของเกมนั่นเอง....

    *** 


    บันทึกประจำวัน เอลิเชีย  ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ 

    พอฉันคิดว่าเอลิเชียน่าจะลองหัดเข้าสังคมดูบ้างจึง 

    ได้ไปปรึกษากับฟิลเวีย แน่นอนว่าเธอสนับสนุนอย่าง 

    เต็มที่ ฉันเองก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าเอลิเชียเป็นเด็ก 

    ฉลาด ถ้าจะฝึกตั้งแต่เด็ก โตไปคงจะกลายเป็นเลดี้ที่ 

    สมบูรณ์แบบได้ไม่ยากค่ะ 

              อีกอย่างหนึ่งการนั่งรถม้าครั้งแรกจะปวดบั้น 

    ท้ายมาก ให้เอลิเชียมาทำความคุ้นเคยก่อนน่าจะ 

    เป็นเรื่องที่ดีกว่านะคะ

                                        ผู้บันทึก          วิเวียร์ ควินมาร์ก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×