คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 1 ขวบ : จะเดินทางไปปาร์ตี้น้ำชาล่ะ
ผ่านมาสักพักใหญ่ๆ อาการของผมสงบลง ส่วนเดวิดนั้นได้ไปนั่งคุดคู้อยู่ที่มุมห้องเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าหมอนั่นไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ
อันที่จริงก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชมมากเลยนะ สำหรับเด็กตัวเล็กๆอย่างเดวิดที่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง
และสิ่งที่ทำแค่ไปนั่งเงียบๆเท่านั้น ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ แต่หมอนั่นก็ไม่ได้ทักท้วงสักคำ นี่สินะที่เค้า
เรียกว่าสเปคตัวเอกในเกมจีบหนุ่มน่ะ
แต่เรื่องนั้นก็ส่วนของเรื่องนั้น ยังไงก็ตาม ถึงแม้ผมจะผิดก็เถอะ แต่ผมไม่ไปง้อหรอกนะ เพราะถ้าขืนสร้างความ
สัมพันธ์กับเดวิดมากไป อาจจะโดนเด้งเข้าสู่รูท หายนะซะเปล่าๆ
“แล้วตกลงท่านแม่มาพบลูกด้วยเรื่องอันใดหรือคะ”
กลับมาที่ปัญหาเดิมก่อน
จำได้ว่าท่านแม่เข้ามาหาเพราะต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง
ผมเลยถือโอกาสนี้ถามไปเสียเลย
“แหม~ ตายจริง ดันลืมเสียได้ คือว่าอย่างนี้นะจ๊ะ
คืนนี้แม่จะไปงานเลี้ยงน้ำชาของตระกูลบารอนน่ะจ่ะ~”
ก็เป็นเฉกเช่นทุกครั้ง ท่านแม่มีหน้าที่ ที่จะต้องไปสังสรรค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างชื่อเสียงของตระกูล
ในงานเลี้ยงอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ที่แปลกจริงๆก็คือการที่ท่านแม่มาแจ้งเรื่องนี้กับผมมากกว่า
“........?”
“อย่าทำหน้าสงสัยสิจ๊ะ
แม่จะชวนลูกไปด้วยนะ”
ท่านแม่พูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเคย อันที่จริงโลกภายนอก นอกจากที่คฤหาสถ์นี้ผมก็อยากจะเห็นอยู่อ่ะนะ
เพียงแต่ว่า.....
“ท่านแม่คะ
ลูกเพิ่งจะอายุขวบกว่าๆเอง จะให้ลูกไปด้วยจริงๆหรือคะ”
“แหม~ ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ ก็ลูกเป็นเด็กฉลาด
ต้องไม่เป็นไรแน่นอน”
ว่ามาแบบนั้นแหนะ เอาเถอะ ข้างในก็เป็นชายหนุ่มอายุ 18 แล้ว ผมไม่มีทางทำอะไรแบบเด็กๆให้
ท่านแม่ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วล่ะ
ในขณะที่กำลังคิด ท่านแม่ก็เรียกฟิลเวียและนำฉันไปที่หน้าคฤหาสน์
“อ๊ะ
สวัสดีครับนายหญิง รถม้าเตรียมพร้อมแล้วครับ”
พอมาถึงหน้าคฤหาสถ์ก็พบกับคนๆหนึ่ง คอยต้อนรับอยู่ เขาเป็นชายวัยกลางคน ที่สวมชุดทหารเต็มยศ
คงจะเป็นทหารคุ้มกันในครั้งนี้ล่ะนะ
รูปร่างหน้าตาของเขาถือว่าดีกว่าข้ารับใช้คนอื่นๆ ในคฤหาสน์นี้ แต่ไม่ว่าจะลองค้นความทรงจำเท่าไร ก็นึกถึง
ผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลย
คนๆนี้ไม่ใช่ตัวละครในเกม...
“อ๊ะ”
พอมองดู ดีๆก็พบกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่หลังคุณทหารคุ้มกันด้วย
“สวัสดีครับคุณหนู ผมมีนามว่าโครธ ไว้ใจผมได้เลยนะครับ ชีวิตของพวกคุณหนูกระผมจะดูแลสุดชีวิตเลยครับ
อ่อ ส่วนเจ้าหมอนี่เป็นลูกชายของผมชื่อว่าคลาวด์ครับ วันนี้เจ้าหนูจะมาเรียนรู้งานเพื่อที่จะเป็นทหารคุ้มกันใน
อนาคตด้วย
ฝากดูแลเจ้านี่ด้วยนะครับ”
ดูเหมือนคุณคนทหารคุ้มกัน จะเห็นใบหน้าสงสัยของผม จึงแนะนำตัวออกมาด้วยท่าทีอัธยาศัยดี พร้อมกับ
ขยี้หัวลูกชายของเขาและแนะนำมาให้ผมรู้จักด้วย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนู ผมคลาวน์ อายุ 7 ขวบครับ กระผมขอสาบานด้วยชื่อเสียงของตระกูล จะทำการ
ช่วยเหนือคุณหนูอย่างเต็มที่ครับ”
“ฝากตัวด้วยนะคะ”
นอกจากการแนะนำจากพ่อแล้ว เจ้าตัวเองก็แนะนำด้วยท่าทางสุภาพเช่นเดียวกัน ว่าแต่...ต่างจากโครธ
แต่สำหรับคลาวด์นั้น ผมคุ้นชื่อของเขา ก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก แต่ก็เป็นตัวละครหนึ่งในเกมที่ถูกกล่าวชื่อ
ออกมาแน่ๆ เพียงแต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก.....เป็นตัวละครที่ออกมาแค่ฉากเดียวมั๊ง?
ทำการพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกผมจึงขึ้นรถม้ากัน ภายในรถม้าก็ประกอบไปด้วย ผม ท่านแม่
เดวิด แล้วก็คลาวด์
สำหรับคนขับรถม้ากับโครธนั้นนั่งอยู่ด้านนอก
และพอเริ่มออกเดินทาง เดวิดกับคลาวด์ก็คุยกับอย่างสนุกสนาน คงรู้จักกันมาก่อนสินะ แต่ผมไม่คิดจะสนใจ
เรื่องพวกนั้นหรอก
พร้อมกับหันไปมองรอบนอก
รถม้านั้นเดินทางมาระยะหนึ่งแล้ว ภายนอกอาณาเขตตระกูลควินมาร์กเป็นเมืองใหญ่ ถ้าอ้างอิงจากที่ฟิลเวียบอกนั้น
อาณาเขตควินมาร์ก เป็นอาณาเขตที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ของคฤหาสถ์ดยุคแห่งควินมาร์กนั้นตั้งอยู่ใจกลางของเมือง
ล้อมรอบด้วยเขตชุมชนและตลาด ทำให้ประชาชนสามารถร้องเรียนได้อย่างสะดวกสบาย
อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ผิดกลับเซ็ตติ้งของเกมอื่น ครอบครัวของผมน่ะ แทบไม่มีสีดำทั้งในการทำงานและการ
ใช้ชีวิตเลย ครอบครัวดยุคควินมาร์กนั้น ทำงานเพื่อประเทศและรักประชาชนของเขาจากใจจริง ไม่มีใคร อดอยาก
คนยากจนนั้นน้อย เป็นเพราะการบริหารที่ชาญฉลาดของท่านพ่อ
เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาเรื่องธุรกิจกับการเพิ่มชื่อเสียงจากทางฝั่งประชาชน เหมือนกับนิยายเรื่องอื่นๆน่ะ
เป็นไปไม่ได้เลย ก็ปัญหาของผมมันเรื่องเกี่ยวกับบุคคลล้วนๆเลยนี่นา
เวลาผ่านไปอีกนิดหน่อยรถม้าขับผ่านเขตเมืองออกมาเขตเกษตร เขตเกษตรนั้นอยู่ล้อมรอบเมืองเป็นวงนอก
ทั้งไร่นา สวนพืชผักผลไม้ และปศุสัตว์ ถูกจัดการอย่างเป็นระบบ และสามารถนำส่งร้านค้าได้ด้วยตัวเองโดย
ไม่ต้องผ่านคนกลาง
จากที่ดูๆมา
คุณภาพของพืชพันธุ์นั้นสดและเนื้อแน่นน่าเย้ายวนมากๆ ถึงขนาดทำให้ท้องร้องได้เลยทีเดียว
ไม่ได้การ
อันตรายแฮะ
ผมเลยหันกลับเข้ามาในรถแทน
“หุหุ เห็นลูกชอบแม่ก็ดีใจจ่ะ เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของท่านพ่อเลยนะ เพื่อที่จะให้พวกลูกๆได้
อยู่กันอย่างสบายใจ
เพื่ออนาคตของลูกๆ ท่านพ่อจึงได้พยายามอย่างมากเลย”
“ค่ะ
ลูกรักที่นี่มากๆเลยค่ะ”
ท่านแม่พอเห็นผมชอบการสำรวจสิ่งใหม่ๆรอบตัว จึงได้เล่าถึงผลงานของท่านพ่อออกมาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
ผมเองก็ภูมิใจเหมือนกันที่ได้อยู่ในอาณาเขตแห่งนี้
ผมเลยยิ้มและตอบออกมาด้วยใจจริงเช่นกัน
“จะเข้าป่าแล้วสินะ”
แต่แล้วเวลาแห่งความผ่อนคลายก็ถูกขัดลงด้วยเสียงของเดวิด
บรรยากาศในรถม้านั้นตรึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
“มีเหตุอันใดหรือคะ
ท่านแม่?”
“ปล่าวหรอกจ๊ะ
แค่พอเข้ามาในป่าจะมีมอนสเตอร์ออกมา เลยต้องระวังตัวไว้หน่อยน่ะจ๊ะ”
ท่านแม่กล่าวพร้อมกับลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยน
ส่วนเดวิดนั้นก็ยืนขึ้น
“ไม่ต้องห่วงนะ
เดี๋ยวพี่จ๋าจะปกป้องเอลี่เอง!”
เดวิดพร้อมขึ้นอย่างมั่นใจพร้อมกับชักดาบที่สะพายอยู่ที่เอวออกมานิดหน่อย จะว่าไปหมอนี่ก็พกดาบมาด้วยสินะ
ไม่ได้นะท่านแม่ จะให้เด็ก 3 ขวบมาพกดาบจริงแบบนี้มันอันตรายไม่ใช่หรือไง
“ท่านเดวิดเองก็ไม่ต้องห่วงครับ
เดี๋ยวผมกับท่านพ่อจะดูแลความปลอดภัยให้เองครับ”
“ใช่แล้วๆ~~”
ในขณะที่ผมคิด คลาวด์ที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นอย่างสงบ พร้อมกับโครธที่อยู่ข้างนอกก็ตอบกลับมาด้วย โอ้ว
ช่างเป็นคนที่น่าไว้ใจยิ่งนัก
ทำเอาเดวิดที่ยืนเก๊กอยู่เมื่อครูนี้นั่งลงกับที่เลย
และแล้วเราก็ออกจากป่าได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอออกจากป่ามาแล้วแน่นอนว่าดินแดนนี้เป็นดินแดนใหม่แล้ว
“ดินแดนนี้คือจุดหมายหรือคะ
ท่านแม่”
ฉันถามท่านแม่ด้วยความหวังว่าจะเป็นแบบนั้น ก็...นี่ฉันนั่งมาหลายชั่วโมงแล้วนี่นา เจ็บก้นกับขาชา
ไปหมดแล้วด้วย
แปลกใจจังที่คนอื่นยังคงนั่งสงบอยู่ได้
ท่านแม่เองก็เหมือนจะเข้าใจเลยยิ้มออกมาด้วยสีหน้าเห็นใจก่อนตอบ
“ถึงแล้วจ้า ดินแดนนี้แหละที่แม่ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชาน่ะ เป็นตระกูลบารอนเล็กๆ แต่คุณนายของที่นี่
เคยเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกันกับแม่นะ อีกอย่างแม่ก็อยากจะให้ลูกเตรียมพร้อมกับการออกสังคมในอนาคตด้วย”
เตรียมพร้อมออกสังคม.....คุณแม่ครับ กระผมเพิ่งจะขวบเดียวเองนะครับ แล้วอีกอย่าง....เดี๋ยวก่อนนะ
ก็รู้อยู่หรอกว่าอาณาเขตของเราติดต่อกับอาณาเขตของขุนนางเล็กๆอยู่เยอะ ทั้งนี้ก็เพราะเป็นระบบพี่น้อง
ที่ต้องช่วยเหลือกันด้วย
แต่ฟังจากที่ท่านแม่อธิบายแล้ว
ทั้งตระกูลบารอน และก็เพื่อนสมัยเรียนของท่านแม่ ถ้าเป็นไปตามเซ็ทติ้งล่ะก็......
“คือว่าท่านแม่คะ
ตระกูลที่เราจะไปคือตระกูลใดหรือคะ?”
“จ้า~ ตระกูลบารอนเฟรเดียจ๊ะ~~”
พอพูดชื่อนี้ขึ้นมาความทรงจำก็ค่อยๆไหลกลับมาทันที ชื่อตระกูลที่ล่มสลาย ชื่อสำคัญที่จะนำไปสู่ความ
วอดวายของเอลิเชีย ต้นตระกูลของ
ลิลลี่ เฟรเดีย นางเอกของเกมนั่นเอง....
***
บันทึกประจำวัน เอลิเชีย ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ
พอฉันคิดว่าเอลิเชียน่าจะลองหัดเข้าสังคมดูบ้างจึง
ได้ไปปรึกษากับฟิลเวีย แน่นอนว่าเธอสนับสนุนอย่าง
เต็มที่ ฉันเองก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าเอลิเชียเป็นเด็ก
ฉลาด ถ้าจะฝึกตั้งแต่เด็ก โตไปคงจะกลายเป็นเลดี้ที่
สมบูรณ์แบบได้ไม่ยากค่ะ
อีกอย่างหนึ่งการนั่งรถม้าครั้งแรกจะปวดบั้น
ท้ายมาก ให้เอลิเชียมาทำความคุ้นเคยก่อนน่าจะ
เป็นเรื่องที่ดีกว่านะคะ
ผู้บันทึก วิเวียร์ ควินมาร์ก
ความคิดเห็น