คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1 ขวบ : คุณพี่ชายมาหาล่ะ
พออายุย่างเข้าหนึ่งขวบ หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป
หลักๆก็คือการใช้ชีวิตนั่นแหละ ส่วนแรกเลยคือผมสามารถพูดและเดินเป็นปกติได้แล้ว
ถึงแม้จะพูดไม่ค่อยชัดก็เถอะ แต่ถ้าเทียบกับเด็กคนอื่นแล้ว
ผมน่ะพัฒนาเร็วกว่าเด็กอื่นๆที่อายุเท่ากันพอสมควรเลยนะ จากที่เคยเรียนมา
เด็กพวกนั้นน่ะ ถึงแม้จะอายุขวบนึงแล้ว
ก็ยังทำได้แค่พูดประโยคสั้นๆหรือแค่เริ่มตั้งไข่เท่านั้นเอง ไม่เอาไหนซะเลยน้า~
อย่างที่สองที่เริ่มเปลี่ยนแปลงก็คือ
ตั้งแต่ที่ผมเดินและพูดได้ท่านแม่ก็ไม่ค่อยจะมาหาผมแล้ว
ไอ้โลกนี้มันยังไงกันนะ? พอพูดได้เดินได้ก็ทิ้งกันเลยเหรอ
ผมยังต้องการสารอาหารจากนมแม่อยู่น้า~ ถ้าโตไปแล้วเตี้ยใครจะรับผิดชอบกันเนี่ย
ปัญหาอย่างต่อไปก็คือฟิลเวีย แม่นมของผม เช่นกัน พอผมเริ่มพูดและเดินได้ มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งที่ชาวต่างโลกอย่างผมจะสนใจก็คือมุมหนังสือ
และเมื่อผมเริ่มอ่านหนังสือ นางก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
หายไปโดยที่ผมยังไม่ทันรู้ตัวเสียทุกครั้ง
เป้าหมายของนางก็คือ ห้องครัว
จุดมุ่งหมายคืออู้งานแอบเม้าท์กับเมดคนอื่นๆนั่นเอง
“จะฟ้องกุนป้อให้ไอ้ออก!”
“แหม คุณหนูคะ อย่าพูดจาอัปมงคลอย่างนั้นสิคะ~ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆนะคะ
เดี๋ยวดิฉันขอเข้าร่วมชุมนุม(สมาพันธ์สาวใช้)ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาช่วงบ่ายนะคะ
โฮะๆๆๆๆๆ♥”
พูดแบบนั้นแล้วก็ออกไปหน้าตาเฉยเลย......
จะฟ้องคุณพ่อจริงๆนะ คอยดูเถอะ!
และอย่างสุดท้าย....เมื่อเหลือผมคนเดียวในห้อง ตัวปัญหาอีกหนึ่งตัวก็จะโผล่มา.....นั่นไง
พอมองไปทางประตูทางเข้าก็จะพบเงาเล็กๆซ่อนอยู่
ฮึบ~ โผล่หน้ามอง
หวา หวา หวา
เจ้าของเงาร้องเมื่อเห็นผม
แล้วก็ไปซ่อนหนังประตูต่อ
.....เสียสมาธิชะมัด ผมจึงหันไปมองค้อน
ฮึบ~
เขาโผล่มาอีกแล้ว คราวนี้ก็ยิ้มให้
ภาพที่ผมเห็นคือร่างของเด็กผู้ชายเด็กผู้ชายผมสีเงินเช่นเดียวกับท่านแม่
ผิวที่ขาวบริสุทธิ์ แก้มที่ดูนุ่มนิ่มสีชมพู ระเรื่อ
และดวงตาที่ดูดุดันและซ่อนความเข้มแข็งในตัวเช่นเดียวกับของคุณพ่อ
เด็กคนนั้นก็คือ เดวิด ควินมาร์ก ลูกชายคนโตของตระกูลควินมาร์ก อายุ 3
ขวบ พี่ชายของฉันนั่นเอง
พูดถึงหมอนี่แล้ว หมอนี่เองก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่จีบได้ของเกม Brother
Otome Lover เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นคนที่มีบุคลิกแบบที่ผมเกลียดซะด้วย.....
สำหรับในเนื้อเรื่องนั้น ตอนเดวิดอายุ 9 ขวบ ที่บ้านก็รับนางเอก
ลิลลี่ เฟรเดีย มาเลี้ยงในฐานะลูกบุญธรรม สำหรับตัวลิลลี่นั้น ท่านแม่ได้ไปเจอเธอหลังจากที่ได้ยินข่าวว่าตัวผมในเกม
เอลิเชีย ควินมาร์ก ได้ไปกลั่นแกล้งเธอเอาไว้ และเมื่อไปพบตัวลิลลี่
ท่านแม่ก็รับรู้ได้ทันทีว่าลิลลี่คือลูกสาวของขุนนางตกอับตระกูลเฟรเดียที่เคยรู้จัก
จึงได้รับมาเลี้ยงพร้อมกับพี่ชายของเธอ
ด้านเดวิดเอง หลังจากที่ได้พบกับน้องสาวคนใหม่
ก็ไปดูแลเอาใจใส่ลิลลี่เฉกเช่นน้องสาวคนที่สอง ไม่สิ
ราวๆกับว่าเป็นน้องสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวจนลืมหัวเอลิเชียไปเลยล่ะ
ตอนที่ผมเล่นซีนนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน
ก็....ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยชอบเอลิเชียเท่าไหร่นักก็เถอะ
แต่ในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวแล้ว
การที่จู่ๆมาเมินน้องสาวตัวเองและไปดูแลเอาใจใส่กับคนที่เพิ่งรู้จักแบบนี้มันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลยนะ
ซ้ำร้าย ความชั่วร้ายของเดวิดยังมีมากกว่านั้น ในฐานะของหนึ่งในตัวเอกของเกมแล้ว เมื่อเราเล่นในรูทของเดวิดจนจบ Happy End เอลิเชียจะถูกเดวิดเอาดาบแทงหัวใจเอลิเชีย ต่อหน้าของลิลลี่เพื่อเป็นการสัญญาว่า จะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก....
ฆ่าน้องสาวตัวเองเลยนะ!! และตอนนี้น้องสาวที่ว่านั่นก็คือผมด้วย ไม่ได้การล่ะ
อันตรายชะมัดเลย เอาเป็นว่าคอยหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน
แล้ว ผมก็เมินเจ้าเด็กนั่นพร้อมทั้งเปิดหนังสืออ่านต่อ
หนังสือเล่มแรกที่ฉันเลือกอ่านในวันนี้คือสารานุกรมมอนสเตอร์ เล่มที่
5
เพราะว่าโลกนี้เป็นโลกของดาบและเวทมนตร์
และผมก็ตั้งเป้าหมายไว้แล้วด้วยว่าจะใช้ชีวิตแบบนักผจญภัยในอนาคต เพราะฉะนั้น
การเรียนเรื่อง มอนสเตอร์ ความสามารถของมอนสเตอร์ จุดอ่อน วัตถุดิบ
และราคาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สมควรเรียนรู้ไว้ตั้งแต่ตอนนี้
อืมๆๆ อย่างนี้นี่เอง....
“มอนสเตอร์นี่นา~~”
แต่ในทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ดังขึ้นใกล้มาก
หือ?
พอหันมองก็พบกับร่างของเด็กชายเดวิดนั่งอยู่ข้างๆแล้ว
แอ๊!!!!!!
ผมร้องออกมาทันที ส่วนเดวิดที่ได้ยินเสียงผมร้องก็ทำหน้าเหรอหรา
พลางอุทาน หวาๆๆ ออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“~เอลิ นี่พี่เดวิดจ๋าเองน้า อย่ากลัวน้า~~”
ก่อนจะตั้งสติแล้วค่อยๆคลานมาทางฉัน พูดเบาๆแนะนำตัวอย่างช้าๆ
แต่....เรื่องนั้นรู้แล้วเฟ้ย!
“ออกไอ!!”
ฉันจึงใช้วลีเด็ด ไล่มันออกแม่มเลย
“เอ๋ ทะ... ไล่พี่จ๋าทำไมอ่ะ พี่จ๋าทำไรผิดเหรอ....”
ทางเดวิดเองก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่จ๋อยลงนิดหน่อย ดีล่ะ! แสดงว่าได้ผล
งั้นเริ่มวลีเด็ดที่สอง จัดไปโลด
“เกลียด ออกไอ!! เกลียดๆ ออกไอเลย!!”
“พี่จ๋าทำอะไรผิดอ่ะ อย่าเกลียดพี่จ๋าเลยนะ พี่ขอโทษ ฮึก
ขอ...โทษ......แง!!!!!!!!!”
และแล้วก็นั่งร้องไห้... เอ....เล่นแรงไปหรือเปล่านะ? นี่
อย่าร้องไห้สิ อย่างนี้มันดูเหมือนทางนี้ไปแกล้งเด็กเลยไม่ใช่หรือไงกัน
“อย่าอ้อง เงียบ!”
“ไม่ได้ร้อง ฝุ่นมันเข้าตา!! แง!!!!!!”
ไม่ไหวแฮะ...ชักพูดไม่รู้เรื่องแล้วสิ เอาไงดีนะ
สถานการณ์ในตอนนี้คือ
เดวิดแอบท่านแม่เข้ามาหาเราในห้อง...ซึ่งเจ้าตัวเอง เพราะว่าเพิ่งได้พบกับน้องสาวของตัวเองไม่กี่วันที่แล้ว
หลังจากถูกสั่งห้ามมาเป็นปีๆ เลยอยากจะรู้ว่าน้องสาวตัวเองทำอะไรอยู่
เจ้าตัวเลยเข้ามาดูใกล้ๆ แต่ในขณะนั้นเอง น้องสาวที่เพิ่งจะพบกันไม่นานก็หันมาไล่
แล้วก็บอกว่า เกลียด เจ้าตัวเลยช็อกแล้วก็ร้องไห้ออกมา
ก็นะ ถ้ามองจากมุมมองของเด็กสามขวบมันก็คงโหดร้ายไปจริงๆนั่นแหละ
แต่ถ้าคิดถึงอนาคตแล้วการหลีกเลี่ยงเดวิดน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดนะ.....
พอหันไปมองอีกครั้ง เจ้าตัวก็ยังคงร้องไห้อยู่เช่นเดิม อืม.....เอาไงดี
คิดแล้วก็เหลือบไปอีกครั้ง แน่นอนว่าเดวิดยังคงร้องไห้อยู่
โอ้ยยยยย!!! ให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ!!
ว่าแล้วจึงเดินเตาะแตะเข้าไปหาเดวิด แล้วยื่นมือออกไป.........ลูบหัว
ลูบหัวขึ้น ลูบหัวลง
พอทำอย่างนั้น เดวิดที่สงสัยก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา
ในขณะที่น้ำตากำลังไหลอยู่
“เอลิ?”
“เอลิขอโตด เอลิยักพี่จ๋านะ”
พูดแบบนั้นออกไป และทันใดนั้น น้ำตาของเดวิดก็หยุดไหลทันที
ใบหน้าของเดวิดตอนนี้ค่อนข้างเลอะเทอะนิดหน่อย
ดวงตานั้นยังแดงๆเพราะเพิ่งร้องไห้ไป จมูกก็มีน้ำมูกไหลนิดหน่อย
แก้มก็แดงระเรื่อไปถึงหูด้วยสาเหตุบางอย่าง
ด้วยใบหน้าแบบนั้น
เดวิดค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าออดอ้อนแล้วหันมามองที่ฉัน
“แล้วเมื่อกี้ที่บอกเกลียด.....เอลิ แกล้งพี่จ๋าเหรอ?”
“อื้อ”
พอตอบไปตามบทพูดที่เดวิดเรียงไว้
ในที่สุดเดวิดก็ถอนหายใจพลางมองด้วยสายตาเหมือนคนถูกโดนแกล้ง
“โถ่วว ทีหลังอย่าแกล้งพี่จ๋าอีกนะ”
ว่าแล้วก็ดึงตัวฉันแล้วเข้าไปกอด ก่อนจะดึงตัวออกแล้วยิ้มให้
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอผมมองฉากนี้แล้วเหมือนเห็น CG ดอกไม้ขึ้นมาล้อมรอบตัวเดวิดเลยล่ะ
นะ น่ารัก?
เพี้ยะ!
ก่อนที่จะตบหน้าตัวเอง แย่ล่ะ
เกือบจะโดนล่อลวงแล้วไง ไม่ได้ๆ ต้องอยู่ห่างเข้าไว้
“เอลิ เป็นไรไหม ตบหน้าตัวเองทำไม”
“ง่วง....”
“โธ่ ถ้าง่วงก็นอนไปสิ อย่าตบหน้าตัวเองให้ตื่นเลย
ถ้าอย่างงั้นพี่จ๋าไม่รบกวนแล้วนะ ฝันดีนะ”
พอพูดเสร็จเดวิดก็เดินออกนอกห้องพร้อมกับล็อกประตูให้
ส่วนฉัน......
กดล็อกแม่มเลย
ฉันดึงเก้าอี้แล้วยืนขึ้น จากนั้นจึงกดล็อกที่ลูกบิดประตู เอาล่ะ
เท่านี้นอกจากท่านแม่ ท่านพ่อ แล้วก็พวกเมด ก็ไม่มีใครเข้าห้องมาได้แล้วล่ะ
นับจากวันนี้ก็ล็อกประตูทุกวันก็แล้วกัน
และวันถัดไปหลังจากนั้น
หลังจากที่ฟิลเวียออกไปและล็อกประตูเสร็จ
ก็จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเดวิดออกมาจากหน้าห้องทุกครั้ง
“เอลิ เปิดหน่อย โกรธพี่เหรอ เปิดหน่อย ฮึก แง!!!!”
อือ ดีล่ะ ทำเป็นไม่สนใจแล้วกัน......
***
บันทึกประจำวัน เอลิเชีย ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ
ผมเข้าห้องเอลิไม่ได้ล่ะ
ผู้บันทึก เดวิด ควินมาร์ก
ความคิดเห็น