ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #3 : 1 ขวบ : คุณพี่ชายมาหาล่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 64



    พออายุย่างเข้าหนึ่งขวบ หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป หลักๆก็คือการใช้ชีวิตนั่นแหละ ส่วนแรกเลยคือผมสามารถพูดและเดินเป็นปกติได้แล้ว ถึงแม้จะพูดไม่ค่อยชัดก็เถอะ แต่ถ้าเทียบกับเด็กคนอื่นแล้ว ผมน่ะพัฒนาเร็วกว่าเด็กอื่นๆที่อายุเท่ากันพอสมควรเลยนะ จากที่เคยเรียนมา เด็กพวกนั้นน่ะ ถึงแม้จะอายุขวบนึงแล้ว ก็ยังทำได้แค่พูดประโยคสั้นๆหรือแค่เริ่มตั้งไข่เท่านั้นเอง ไม่เอาไหนซะเลยน้า~


    อย่างที่สองที่เริ่มเปลี่ยนแปลงก็คือ ตั้งแต่ที่ผมเดินและพูดได้ท่านแม่ก็ไม่ค่อยจะมาหาผมแล้ว  


    ไอ้โลกนี้มันยังไงกันนะ? พอพูดได้เดินได้ก็ทิ้งกันเลยเหรอ ผมยังต้องการสารอาหารจากนมแม่อยู่น้า~ ถ้าโตไปแล้วเตี้ยใครจะรับผิดชอบกันเนี่ย


    ปัญหาอย่างต่อไปก็คือฟิลเวีย แม่นมของผม เช่นกัน พอผมเริ่มพูดและเดินได้ มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งที่ชาวต่างโลกอย่างผมจะสนใจก็คือมุมหนังสือ 


    และเมื่อผมเริ่มอ่านหนังสือ นางก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หายไปโดยที่ผมยังไม่ทันรู้ตัวเสียทุกครั้ง 


    เป้าหมายของนางก็คือ ห้องครัว จุดมุ่งหมายคืออู้งานแอบเม้าท์กับเมดคนอื่นๆนั่นเอง


    “จะฟ้องกุนป้อให้ไอ้ออก!” 


    “แหม คุณหนูคะ อย่าพูดจาอัปมงคลอย่างนั้นสิคะ~ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆนะคะ เดี๋ยวดิฉันขอเข้าร่วมชุมนุม(สมาพันธ์สาวใช้)ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาช่วงบ่ายนะคะ โฮะๆๆๆๆๆ


    พูดแบบนั้นแล้วก็ออกไปหน้าตาเฉยเลย......


    จะฟ้องคุณพ่อจริงๆนะ คอยดูเถอะ!


    และอย่างสุดท้าย....เมื่อเหลือผมคนเดียวในห้อง ตัวปัญหาอีกหนึ่งตัวก็จะโผล่มา.....นั่นไง

    พอมองไปทางประตูทางเข้าก็จะพบเงาเล็กๆซ่อนอยู่


    ฮึบ~ โผล่หน้ามอง


    หวา หวา หวา

     

    เจ้าของเงาร้องเมื่อเห็นผม แล้วก็ไปซ่อนหนังประตูต่อ

    .....เสียสมาธิชะมัด ผมจึงหันไปมองค้อน


    ฮึบ~


    เขาโผล่มาอีกแล้ว คราวนี้ก็ยิ้มให้


    ภาพที่ผมเห็นคือร่างของเด็กผู้ชายเด็กผู้ชายผมสีเงินเช่นเดียวกับท่านแม่ ผิวที่ขาวบริสุทธิ์ แก้มที่ดูนุ่มนิ่มสีชมพู ระเรื่อ และดวงตาที่ดูดุดันและซ่อนความเข้มแข็งในตัวเช่นเดียวกับของคุณพ่อ


    เด็กคนนั้นก็คือ เดวิด ควินมาร์ก ลูกชายคนโตของตระกูลควินมาร์ก อายุ 3 ขวบ พี่ชายของฉันนั่นเอง


    พูดถึงหมอนี่แล้ว หมอนี่เองก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่จีบได้ของเกม Brother Otome Lover เช่นเดียวกัน แถมยังเป็นคนที่มีบุคลิกแบบที่ผมเกลียดซะด้วย.....


    สำหรับในเนื้อเรื่องนั้น ตอนเดวิดอายุ 9 ขวบ ที่บ้านก็รับนางเอก ลิลลี่ เฟรเดีย มาเลี้ยงในฐานะลูกบุญธรรม สำหรับตัวลิลลี่นั้น ท่านแม่ได้ไปเจอเธอหลังจากที่ได้ยินข่าวว่าตัวผมในเกม เอลิเชีย ควินมาร์ก ได้ไปกลั่นแกล้งเธอเอาไว้ และเมื่อไปพบตัวลิลลี่ ท่านแม่ก็รับรู้ได้ทันทีว่าลิลลี่คือลูกสาวของขุนนางตกอับตระกูลเฟรเดียที่เคยรู้จัก จึงได้รับมาเลี้ยงพร้อมกับพี่ชายของเธอ


    ด้านเดวิดเอง หลังจากที่ได้พบกับน้องสาวคนใหม่ ก็ไปดูแลเอาใจใส่ลิลลี่เฉกเช่นน้องสาวคนที่สอง ไม่สิ ราวๆกับว่าเป็นน้องสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวจนลืมหัวเอลิเชียไปเลยล่ะ ตอนที่ผมเล่นซีนนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน ก็....ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยชอบเอลิเชียเท่าไหร่นักก็เถอะ แต่ในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวแล้ว การที่จู่ๆมาเมินน้องสาวตัวเองและไปดูแลเอาใจใส่กับคนที่เพิ่งรู้จักแบบนี้มันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลยนะ


    ซ้ำร้าย ความชั่วร้ายของเดวิดยังมีมากกว่านั้น ในฐานะของหนึ่งในตัวเอกของเกมแล้ว เมื่อเราเล่นในรูทของเดวิดจนจบ Happy End เอลิเชียจะถูกเดวิดเอาดาบแทงหัวใจเอลิเชีย ต่อหน้าของลิลลี่เพื่อเป็นการสัญญาว่า จะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีก.... 


    ฆ่าน้องสาวตัวเองเลยนะ!! และตอนนี้น้องสาวที่ว่านั่นก็คือผมด้วย ไม่ได้การล่ะ อันตรายชะมัดเลย เอาเป็นว่าคอยหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน


    แล้ว ผมก็เมินเจ้าเด็กนั่นพร้อมทั้งเปิดหนังสืออ่านต่อ


    หนังสือเล่มแรกที่ฉันเลือกอ่านในวันนี้คือสารานุกรมมอนสเตอร์ เล่มที่ 5


    เพราะว่าโลกนี้เป็นโลกของดาบและเวทมนตร์ และผมก็ตั้งเป้าหมายไว้แล้วด้วยว่าจะใช้ชีวิตแบบนักผจญภัยในอนาคต เพราะฉะนั้น การเรียนเรื่อง มอนสเตอร์ ความสามารถของมอนสเตอร์ จุดอ่อน วัตถุดิบ และราคาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สมควรเรียนรู้ไว้ตั้งแต่ตอนนี้


    อืมๆๆ อย่างนี้นี่เอง....


    “มอนสเตอร์นี่นา~~”


    แต่ในทันใดนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ดังขึ้นใกล้มาก


    หือ?


    พอหันมองก็พบกับร่างของเด็กชายเดวิดนั่งอยู่ข้างๆแล้ว


    แอ๊!!!!!!


    ผมร้องออกมาทันที ส่วนเดวิดที่ได้ยินเสียงผมร้องก็ทำหน้าเหรอหรา พลางอุทาน หวาๆๆ ออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก


    “~เอลิ นี่พี่เดวิดจ๋าเองน้า อย่ากลัวน้า~~


    ก่อนจะตั้งสติแล้วค่อยๆคลานมาทางฉัน พูดเบาๆแนะนำตัวอย่างช้าๆ แต่....เรื่องนั้นรู้แล้วเฟ้ย!


    “ออกไอ!! 


    ฉันจึงใช้วลีเด็ด ไล่มันออกแม่มเลย


    “เอ๋ ทะ... ไล่พี่จ๋าทำไมอ่ะ พี่จ๋าทำไรผิดเหรอ....”


    ทางเดวิดเองก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่จ๋อยลงนิดหน่อย ดีล่ะ! แสดงว่าได้ผล งั้นเริ่มวลีเด็ดที่สอง จัดไปโลด


    “เกลียด ออกไอ!! เกลียดๆ ออกไอเลย!! 


    “พี่จ๋าทำอะไรผิดอ่ะ อย่าเกลียดพี่จ๋าเลยนะ พี่ขอโทษ ฮึก ขอ...โทษ......แง!!!!!!!!!


    และแล้วก็นั่งร้องไห้... เอ....เล่นแรงไปหรือเปล่านะ? นี่ อย่าร้องไห้สิ อย่างนี้มันดูเหมือนทางนี้ไปแกล้งเด็กเลยไม่ใช่หรือไงกัน


    “อย่าอ้อง เงียบ!


    “ไม่ได้ร้อง ฝุ่นมันเข้าตา!! แง!!!!!!


    ไม่ไหวแฮะ...ชักพูดไม่รู้เรื่องแล้วสิ เอาไงดีนะ


    สถานการณ์ในตอนนี้คือ เดวิดแอบท่านแม่เข้ามาหาเราในห้อง...ซึ่งเจ้าตัวเอง เพราะว่าเพิ่งได้พบกับน้องสาวของตัวเองไม่กี่วันที่แล้ว หลังจากถูกสั่งห้ามมาเป็นปีๆ เลยอยากจะรู้ว่าน้องสาวตัวเองทำอะไรอยู่ เจ้าตัวเลยเข้ามาดูใกล้ๆ แต่ในขณะนั้นเอง น้องสาวที่เพิ่งจะพบกันไม่นานก็หันมาไล่ แล้วก็บอกว่า เกลียด เจ้าตัวเลยช็อกแล้วก็ร้องไห้ออกมา


    ก็นะ ถ้ามองจากมุมมองของเด็กสามขวบมันก็คงโหดร้ายไปจริงๆนั่นแหละ แต่ถ้าคิดถึงอนาคตแล้วการหลีกเลี่ยงเดวิดน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดนะ.....


    พอหันไปมองอีกครั้ง เจ้าตัวก็ยังคงร้องไห้อยู่เช่นเดิม อืม.....เอาไงดี

    คิดแล้วก็เหลือบไปอีกครั้ง แน่นอนว่าเดวิดยังคงร้องไห้อยู่


    โอ้ยยยยย!!! ให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ!!


    ว่าแล้วจึงเดินเตาะแตะเข้าไปหาเดวิด แล้วยื่นมือออกไป.........ลูบหัว


    ลูบหัวขึ้น ลูบหัวลง


    พอทำอย่างนั้น เดวิดที่สงสัยก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ในขณะที่น้ำตากำลังไหลอยู่


    “เอลิ?”


    “เอลิขอโตด เอลิยักพี่จ๋านะ”


    พูดแบบนั้นออกไป และทันใดนั้น น้ำตาของเดวิดก็หยุดไหลทันที


    ใบหน้าของเดวิดตอนนี้ค่อนข้างเลอะเทอะนิดหน่อย ดวงตานั้นยังแดงๆเพราะเพิ่งร้องไห้ไป จมูกก็มีน้ำมูกไหลนิดหน่อย แก้มก็แดงระเรื่อไปถึงหูด้วยสาเหตุบางอย่าง 


    ด้วยใบหน้าแบบนั้น เดวิดค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าออดอ้อนแล้วหันมามองที่ฉัน


    “แล้วเมื่อกี้ที่บอกเกลียด.....เอลิ แกล้งพี่จ๋าเหรอ?”


    “อื้อ”


    พอตอบไปตามบทพูดที่เดวิดเรียงไว้ ในที่สุดเดวิดก็ถอนหายใจพลางมองด้วยสายตาเหมือนคนถูกโดนแกล้ง


    “โถ่วว ทีหลังอย่าแกล้งพี่จ๋าอีกนะ”


    ว่าแล้วก็ดึงตัวฉันแล้วเข้าไปกอด ก่อนจะดึงตัวออกแล้วยิ้มให้


    ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอผมมองฉากนี้แล้วเหมือนเห็น CG ดอกไม้ขึ้นมาล้อมรอบตัวเดวิดเลยล่ะ นะ น่ารัก?


    เพี้ยะ!


     ก่อนที่จะตบหน้าตัวเอง แย่ล่ะ เกือบจะโดนล่อลวงแล้วไง ไม่ได้ๆ ต้องอยู่ห่างเข้าไว้


    “เอลิ เป็นไรไหม ตบหน้าตัวเองทำไม”


    “ง่วง....”


    “โธ่ ถ้าง่วงก็นอนไปสิ อย่าตบหน้าตัวเองให้ตื่นเลย ถ้าอย่างงั้นพี่จ๋าไม่รบกวนแล้วนะ ฝันดีนะ”


    พอพูดเสร็จเดวิดก็เดินออกนอกห้องพร้อมกับล็อกประตูให้


    ส่วนฉัน......


    กดล็อกแม่มเลย


    ฉันดึงเก้าอี้แล้วยืนขึ้น จากนั้นจึงกดล็อกที่ลูกบิดประตู เอาล่ะ เท่านี้นอกจากท่านแม่ ท่านพ่อ แล้วก็พวกเมด ก็ไม่มีใครเข้าห้องมาได้แล้วล่ะ นับจากวันนี้ก็ล็อกประตูทุกวันก็แล้วกัน


    และวันถัดไปหลังจากนั้น


    หลังจากที่ฟิลเวียออกไปและล็อกประตูเสร็จ ก็จะได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเดวิดออกมาจากหน้าห้องทุกครั้ง


    “เอลิ เปิดหน่อย โกรธพี่เหรอ เปิดหน่อย ฮึก แง!!!!


    อือ ดีล่ะ ทำเป็นไม่สนใจแล้วกัน......

    *** 


    บันทึกประจำวัน เอลิเชีย  ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ 

    ผมเข้าห้องเอลิไม่ได้ล่ะ  

                                        ผู้บันทึก เดวิด ควินมาร์ก

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×