คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 1 ขวบ : ได้รับคำขอบคุณล่ะ
ห้องอาบน้ำของคฤหาสน์เฟรเดียนั้นกว้างมาก อย่างกับออนเซ็นแหนะ ตัวบ่อนั้นเป็นบ่อเปิดโล่ง
สามารถมองเห็นดวงดาวได้
การตกแต่งของบ่อนั้นทำออกมาดูดีราวกับเป็นรีสอร์ทชื่อดังเลยล่ะ
ผมทิ้งให้คลาวด์เฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำและพาเด็กสาวเข้ามาในห้องน้ำด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง
เอ๋? สถานการณ์นี้ดูเหมือนกับผมล่อลวงเด็กสาวเข้ามาทำมิดีมิร้ายงั้นเหรอ? คิดไปเองน่า
ผมหัวเราะเบาๆก่อนจับเด็กสาวชูมือขึ้น และถอดเสื้อผ้าที่ดูขี้ริ้วออก
ผิวของเด็กคนนี้เรียบเนียนน่าดูเลยล่ะ ต่างจากสภาพภายนอกที่เปรอะเปื้อน ผิวพรรณของเธอนั้นดูดี
เกินกว่าจะเป็นลูกของคนรับใช้
ราวกับว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
พอถอดชุดของเด็กคนนั้นเสร็จผมก็ถอดชุดของผมออกเช่นกันพร้อมกับวางเอาไว้ในมุมเปลี่ยนเสื้อผ้า
จากนั้นก็เข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อถึงห้องน้ำแล้ว ก็จัดการทำความสะอาดร่างกายของเด็กคนนี้เสียก่อน
ผมตักน้ำขึ้นแล้วค่อยๆชโลมไปที่ร่างของเด็กสาว เมื่อเด็กสาวปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิของน้ำแล้ว
ผมก็เริ่มทำความสะอาดเส้นผมที่เปรอะเปื้อนของเธอก่อน
ผมให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นและค่อยๆเทน้ำล้างเส้นผมของเธออย่างช้าๆ อืม เอาจริงๆ พอเอาผมที่ปิดหน้าเธอ
ออกแล้ว ยิ่งดูน่นารักเข้าไปใหญ่ เด็กน่ารักแบบนี้ไม่ได้อยู่ในเนื้อเรื่องของเกมจริงหรือเนี่ย ผมคิดในขณะที่ยัง
ไม่ได้หยุดมือ และในตอนนั้นเองก็พบกับความจริงที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
“เอ๊ะ
เส้นผมของเธอ ไม่ใช่สีขาวนี่....”
“เอ๋ ไม่ใช่ค่า
ท่านพี่หญิงเอาแป้งมาเทใส่หัวหนูค่ะ บอกว่าสภาพแบบนี้ อย่าเข้าไปในงานเด็ดขาดนะ
ค่ะ”
เส้นผมที่ปรากฏตรงหน้าของผมนั้นคือสีทอง สีเหลืองทองที่สวยงามและคุ้นเคย ถ้ามาลองคำนวณถึง
เรื่องที่โดนแกล้งแล้ว หรือว่า
ที่จริงแล้วเธอคนนี้ไม่ใช่ลูกคนใช้แต่เป็น........
ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น
เด็กคนนี้ก็เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าสงสัยอีกครั้ง
“คงไม่ใช่หรอกมั๊ง
คิดไปเองค่ะๆ”
แล้วผมก็สระผมให้เธอต่อ คราวนี้ พอล้างตัวจนสะอาดแล้ว เธอก็ชวนผมลงไปแช่ในน้ำร้อนด้วยกัน
อา~ สบายจัง
“พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว
หนูมีความสุขมากเลยค่ะ เหมือนอยู่กับท่านพี่เลย”
บรรยากาศตอนนี้เริ่มผ่อนคลาย
เธอก็พูดออกมาด้วยสีหน้ามีความสุข
“ท่านพี่หรือคะ?”
หมายถึงคนที่เอาแป้งปาใส่หัวที่พูดถึงเมื่อกี้หรือเปล่านะ
“ท่านพี่ เป็นลูกของท่านแม่ของหนูค่ะ หนูมีท่านพี่อยู่ 3 คน ท่านพี่หญิง 2 คนเป็นลูกของคุณหญิง
และท่านพี่ชายเป็นพี่ของหนูค่ะ ท่านพี่ใจดีมากเลย ท่านพี่ชอบอาบน้ำให้หนูบ่อยๆค่ะ”
ท่านพี่นี่คือพี่ชายเรอะ จะให้พี่ชายอาบน้ำให้ตลอดมันก็ไม่ได้นา ได้กลิ่นซิสค่อนตุๆมาเลยแฮะ
อาบน้ำด้วยกันหลังจากนี้คงอันตรายแน่ๆ หลังจากนี้คงต้องเตือนเสียหน่อย แต่ว่าตอนนี้.....
“เป็นพี่ชายที่ดีนะ”
“ค่ะ”
สำหรับเด็กคนนี้ที่โดนกลั่นแกล้งแล้ว
การปลอบใจถือว่าสำคัญที่สุด
หลังจากแช่น้ำสักพัก
เราก็ขึ้นมาจากน้ำ คราวนี้ก็ถึงการแต่งตัว
ผมเช็ดตัวเองให้แห้ง
และเช็ดตัวเด็กคนนี้ให้ด้วย จากนั้นก็ค่อยๆบรรจงแต่งตัวให้กับเด็กคนนี้
ชุดที่คลาวด์เลือกมานั้นเป็นชุดฟูฟ่องสีชมพู
ที่สามารถขับความน่ารักของเด็กสาวออกมาได้
ถ้าเอาตามความเห็นของผม
ผมจะไม่ใส่ชุดนี้นะ ก็มันดูโคตรเด็กเลยอ่ะ
แต่สำหรับเด็กคนนี้มันดูเข้ากันได้ดี
หลังจากนั้นก็ทำการรวบผม ที่ตรงนี้ไม่มีเครื่องประดับอยู่ เลยใช้แค่ยางรวบผมและจัดทรงให้เข้าที่
ผมตกแต่งผมหน้าของเด็กคนนี้ด้วย และพอจัดการแปรงโฉมเสร็จ
รูปร่างที่อยู่ตรงหน้านั้นก็แตกต่างจากรูปร่างที่พบเจอครั้งแรกแบบเทียบไม่ติด
เรือนผมสีทองบริสุทธิ์จัดทรงอย่างเข้ารูป ใบหน้ากลม น่ารักของเด็กๆ ผิวพรรณที่ผ่องใส และดวงตาสีฟ้า
ที่มองแล้วทำให้ใจสงบ
เอ๊ะ
ทำไมมองแบบนี้แล้ว หน้าตามันคุ้นๆจัง?
ผมเอียงคอสงสัยสักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะเลิกคิดและเดินออกมานอกห้องน้ำ คลาวด์เองหลังจากที่
พบกับเด็กคนนั้นก็เบิกตากว้าง พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างพอใจเช่นกัน
“น่ารักมากเลยครับ
ท่านลิลลี่ เฟรเดีย”
คลาวด์กล่าวพร้อมกับโค้งคำนับให้กับเด็กสาวตัวน้อย
“ยอดเยี่ยมมากครับคุณหนู
กระผมประทับใจจริงๆ”
พร้อมกับโค้งคำนำให้ผมด้วย ว่าแต่ หืม~~~ สรุปว่าคลาวด์รู้จักกับเด็กคนนี้จริงๆด้วยสินะ~~
ชื่ออะไรนะ? ลิลลี่.....ลิลลี่.......หือ?
“ลิลลี่
เฟรเดีย!!!!!!!!!!”
ผมตะโกนออกมาทันที พร้อมกับกรอกตาไปมองเด็กสาวข้างๆ ลิลลี่ เฟรเดีย ลุกสาวของตระกูลบารอน
ล่มสลายเฟรเดีย ถูกรับเข้ามาในฐานะลูกสาวบุญธรรมของดยุคควินมาร์กพร้อมกับพี่ชายของเธอ
นางเอกของเกม Brother Otome Lover ♥
ทำไมถึงไม่เอะใจฟร่ะ!!!!
ตายแหลว~ ผมตายแหน่ พอเจอตัวจริงแล้ว ความทรงจำอีกส่วนหนึ่งก็ย้อนกลับมาในหัว เหตุการณ์ที่ลิลลี่
โดนทำร้ายในวัยเด็ก และถูกเดวิดพาไปพบกับท่านแม่ ณ ตอนนั้นจึงเกิดความเอ็นดูขึ้น ถึงแม้ในเนื้อเรื่อง
ผมจะไม่ได้มาในงานเลี้ยงน้ำชาในวันนี้ด้วย แต่ถ้าผมยังคงพาลิลลี่เข้าสู่งานเลี้ยง รูททั้งหมดจะปรากฏขึ้น
ท่านแม่จะเอ็นดูและสงสารลิลลี่ผู้ถูกกลั่นแกล้ง และเมื่อตระกูลแห่งนี้ล่มสลาย ลิลลี่ที่เข้ามาในตระกูลควินมาร์ก
และนั่นจะนำพาชะตากรรมอันวอดวายมาสู่ผม
ไม่ได้การล่ะ ผมควรทำยังไงดี ยกเลิกความคิดที่จะพาเด็กคนนี้เข้างานเลี้ยงงั้นเหรอ? เพราะว่าตอนนี้เราไม่ได้
อยู่ในงานแล้ว เดวิดไม่มีทางพาตัวเด็กคนนี้ไปหาท่านแม่แน่ๆ
เอาล่ะ ตามนั้นแล้วกัน.....
“นี่
หนูเข้างานเลี้ยงได้หรือยังคะ”
แต่แล้วความคิดของผมก็ถูกพังทลายลงด้วยสายตาลูกหมาของลิลลี่
อุก....ถ้าทำแบบนั้น ผมก็....
“ปะ ไปกันเถอะ”
ปฏิเสธไม่ได้น่ะสิ
คลาวน์ที่เห็นสีหน้าที่หลากหลายของผมก็ยิ้มออกมา และเราสามคนก็เดินเข้าไปในงาน
“ว้าว
เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่หนูได้เข้าร่วมงาน ว้าว สวยจัง”
“คุณลิลลี่
ระวังล้มนะคะ”
ตอนนี้เข้ามาในงานแล้ว
ลิลลี่ทำท่าทางตื่นเต้นใหญ่ วิ่งไปทั่ว ผมจึงร้องเตือนพร้อมกับเช็ดเหงื่อ
“ดูคุณหนูตอนนี้แล้วผมก็สงสัยนะครับ
ว่าใครอายุมากกว่าใครกันแน่”
คลาวน์ที่เห็นผมกำลังทุกข์
ทำสีหน้าสนุกอยู่พร้อมกับพูดขึ้นมา
“ไม่ต้องมาทำเป็นยิ้มเลยนะคะ รู้อยู่แล้วว่าเธอคนนั้นเป็นลูกสาวของบ้านนี้ แต่ก็ปิดเป็นความลับ
เอาไว้ใช่ไหมคะ”
“ก็มันน่าสนุกนี่ครับ~”
หนอย ไอ้หมอนี่! สักวันจะแก้แค้นให้ได้ คอยดูเถอะ และในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น
ว้าย!!
เสียงลิลลี่ดังขึ้นมาจากข้างหน้า
พอผมมองไปทางต้นเสียง ก็พบกับลิลลี่ที่กำลังล้มอยู่ที่พื้น
“เอ๊ะ
นี่มันยัยลูกเมียน้อยนี่นา ทำไมถึงมาอยู่ในงานได้ล่ะ แล้วชุดนั้นมัน.....”
เสียงแหลมสูงดังขึ้น ที่ต้นเสียงนั้นมีเด็กผู้หญิงอยู่ราวๆ 4-5 ขวบ ยืนอยู่สองคนหันมาทางลิลลี่ ท่ามกลางกลุ่ม
ผู้หญิงคนอื่นที่กำลังตอมเดวิดอยู่
เธอจ้องมองลิลลี่ด้วยสายตารังเกียจพร้อมกับก่นด่าอย่างไม่พอใจ
ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลย เพียงแค่สภาพเด็กน้อยที่แต่งหน้าจนหนาเตอะก็ไม่น่าดูอยู่แล้ว มาเป็นสภาพ
ที่แสดงท่าทีน่ารังเกียจแบบนี้แล้ว ยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่
“ทะ
ท่านพี่หญิง คือว่าหนูก็อยากร่วมงานเลี้ยง.....”
“หุบปากเน่าๆของแกซะ ไม่รู้หรอกนะว่าแกไปเอาชุดพวกนั้นมาจากไหน แต่ถ้าไม่อยากเป็นผ้าขี้ริ้วเหมือน
ก่อนหน้านี้ก็รีบๆไสหัวไปซะ
แล้วก็อย่าริอาจเข้ามาใกล้ท่านเดวิดด้วย”
เด็กหญิงอีกคนกล่าวด้วยท่าทีที่น่ารังเกียจเช่นเดียวกัน
“ตะ
แต่ว่าหนูอยากเดินเที่ยว”
“น่ารำคาญ
คงต้องตบสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว!!”
“หยุดนะคะ!”
คงเพราะผมทนบทละครน้ำเน่าพวกนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ผมจึงใช้บทละครพื้นฐานตอบกลับ ผมตะโกน
ออกมาทันที พร้อมกับจ้องไปที่สองนางนั้น
พวกเธอหยุดมือทันทีพร้อมกับจ้องมองมาทางผมเช่นกัน
“ยัยเด็กนี่มันอะไร?”
“เอลี่..... ตะโกนเสียงดังมีอะไรงั้นเหรอ?”
ในขณะที่ยัยสองคนนั้นกำลังพุ่งเป้ามาทางผมด้วยท่าทีไม่พอใจ ดูเหมือนแผนของผมจะเป็นผลแล้ว
เดวิดได้ยินเสียงตะโกนของผมจึงหันมาทางเสียงและเดินฝ่าเหล่าหญิงสาวมาทางนี้
“ทำอะไรกันอยู่เหรอ?”
เดวิดถามอีกครั้งพร้อมกับมองรอบๆแล้วเอียงคอสงสัย
“ปะ เปล่า ค่ะ
ท่านเดวิด ไม่มีอะไรเลยค่ะ โฮะๆๆๆ”
แน่นอนว่าสองคนนั้น
พอท่านเดวิดเสด็จมา นางก็เกมส์เรียบร้อยแล้ว
เพื่อไม่ให้มีภาพลักษณ์เสียๆแก่เดวิด ทั้งสองคนนั้นเลยจากไปอย่างว่าง่าย นับว่าเป็นซีนที่เจ้าชาย
โผล่มาช่วยเจ้าหญิงตามเกมนั่นแหละนะ
และหลังจากนั้นพอเดวิดและลิลลี่ได้พบกัน ความรักก็จะเริ่มก่อตัว เด็กสาวที่อ่อนแอ
กับวีรบุรุษขี่ม้าขาวที่มาช่วย
“ขอบคุณนะคะ”
เห็นไหมล่ะ ก็เป็นไปตามคาด แค่นี้ธงตายของผมก็ชูชันขึ้นมาหนึ่งธงแล้วล่ะ ลิลลี่หลงรักเดวิด และ
ความรักนั้นก็จะเป็นหนทางไปสู่ความตายของผม คงต้องรีบวางแผนหนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็น
นักผจญภัยให้เร็วกว่าที่คิดเอาไว้เสียหน่อยแล้วสินะ
“ขอบคุณนะคะ
ท่านเอลีเชีย”
ลิลลี่ย้ำคำนั้นอีกครั้ง แต่ชื่อที่เธอเรียกนั้นไม่ใช่เดวิด มันคือชื่อผม เธอเดินมาทางผมทางพร้อมกับ
ค่อยๆเกาะที่ชายเสื้อ
“ขอบคุณนะคะ”
เธอพูดเป็นครั้งที่สาม
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
เอ๋?
ไม่ใช่เดวิดหรอกเหรอ? ปกติซีนนี้ต้องเป็นลิลลี่ที่เข้าไปขอบคุณเดวิดงั้นเหรอ?
ผมเก็บความงุนงงไว้อย่างนั้นพร้อมกับเข้าไปปลอบลิลลี่อีกครั้ง ในขณะนั้นเอง ท่านแม่กับ
ท่านลิเดียนน่าก็เดินมาพอดี คลาวด์จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังและท่านทั้งสองก็กล่าวชมผม
กันยกใหญ่
คืนนี้ผมนอนพักอยู่กับท่านแม่ในห้องรับรองของคฤหาสน์เฟรเดีย ซึ่งไม่รู้ทำไมลิลลี่ได้มานอนด้วย
กันกับผมด้วย
แต่ว่านะ.....จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เจอกับพี่ชายของลิลลี่
ลาส เฟรเดีย เลย....แต่ก็ช่างเถอะ
ไม่ได้เจอพวกตัวละครหลักจะดีกว่า
ขืนเจอจะเป็นปัญหาซะเปล่าๆ
พอรุ่งเช้ามาถึง พวกเราก็เตรียมตัวกันกลับคฤหาสน์ สำหรับขุนนางท่านอื่นๆที่เดินทางไกลนั้นยังไม่ตื่น
แต่สำหรับอาณาเขตควินมาร์กที่อยู่ใกล้ๆนั้น
ถ้าออกตั้งแต่เช้าก็จะถึงจุดหมายประมาณบ่ายพอดี
และเนื่องจากบารอนและคุณหญิงยังไม่ตื่น ซึ่งจุดประสงค์หลักที่ออกกันแต่เช้าก็คือเรื่องนั้น
คนที่กล่าวลาจึงมีแค่ท่านลิเดียนน่า และลิลลี่ เท่านั้น
“ไว้มาเที่ยวใหม่นะคะ”
ลิลลี่ตะโกนบอกผมในขณะกำลังขึ้นรถม้า
ผมเองก็โบกมือลาเช่นกัน ก่อนที่รถม้าจะเคลื่อนตัวออกไป
และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้พบกับลิลลี่ก่อนเนื้อเรื่องหลัก เนื่องจากหลังจากนั้นไม่นานท่านลิเดียนน่า
ก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วย
และนับตั้งแต่นั้นท่านแม่ก็ไม่เคยไปเยือนดินแดนบารอนเฟรเดียอีกเลย
_________________แต่เรื่องนั้นก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังมามาถึง
***
บันทึกประจำวัน เอลิเชีย ควินมาร์ก อายุ 1 ขวบ
ดูเหมือนว่าเอลี่จะได้เพื่อนใหม่แล้วนะ พี่จ๋ายินดีกับ
เอลี่ด้วยนะ
........แต่พูดกับพี่จ๋าบ้างก็ดีนะ
ผู้บันทึก เดวิด ควินมาร์ก
ความคิดเห็น