ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องวุ่นๆที่ตามมา
“ไนฟ์เดี๋ยว” เฟรินเรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าคนนำทางเดินนำริ่วๆไม่สนใจผู้มาข้างหลังเลย
“เธอจะรีบไปไหนของเธอนะ” เฟรินถาม หอบเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งตามคนนำที่เดินเร็วเหลือเกิน
“ไปชมรม ลืมไปว่าจารย์นัด ตอนเที่ยงนี่สายแล้ว เดียวโดนทำโทษ” ตาสีน้ำทะเลตอนนี้กำลังหวาดกลัวชะตากรรมที่จะได้พบเจอในอีกไม่นาน
“จารย์คนนั้นโหดมากเลยเหรอ”เฟรินแสดงสีหน้าสนใจเป็นที่สุด
“เปล่า ปกติใจดีมาก แต่ถ้าโกรธก็ไม่รู้สิน่ากลัวมั้ง ท่านมีวิธีทำโทษแบบแปลก ซึ่งฉันก็ไม่เคยโดนอะนะแค่ เคยเห็นคนอื่นโดน” ไนฟ์ตอบอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนสุดๆ
“แล้วเธอจะไม่พาพวกฉันเที่ยวโรงเรียนแล้วเหรอ”เฟรินกลับเข้าเรื่องเดิมอีกครั้ง น้ำเสียงเศร้าลงนิดหน่อย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ้อนแบบเด็กที่ไม่อยากเสียของเล่นชิ้นโปรด
ไนฟ์เห็นเฟรินทำอย่างนั้นก็ถึงกับไม่อยากปฏิเสธความต้องการของเฟริน แต่เธอก็ยังกลัวอาจารย์ที่รออยู่มากว่า
“เฟลิน่าก็ให้พี่เฟมพาเที่ยวก่อนนะ ฉันไปหาจารย์แปบเดียวเดี๋ยวมา”
ชื่อของคนถูกกล่าวถึงทำให้เฟรินคิดถึงสงครามที่เพิ่งจบไประหว่างพี่ชายของเพื่อนคนข้างๆกะแฟนตัวเอง แล้วเธอก็ถึงกับสายหน้า เลือกที่จะตามไนฟ์ไปเที่ยวชมรมมากกว่า “ไม่เอาอะ ไนฟ์ฉันไปกับเธอดีกว่า”
“ก็ได้จ๊ะ”  ว่าแล้วไนฟ์ก็คว้ามือเฟริน ลากให้เดินตามมาโดยเร็วเพราะเธอเหลือเวลาไม่มากแล้ว
ทางด้าน 4หนุ่ม ที่ออกมาจากโรงอาหารที่หลังเพราะโดนสาวๆใช้ไปเก็บจานกับซื้อขนมให้เมื่อออกมาก็ไม่พบสองสาวที่บอกจะรอหน้าโรงอาหาร ก็เริ่มพากันรู้สึกเป็นห่วง ไนฟ์ไม่เท่าไรเพราะรู้จักสถานที่ดี แต่เฟรินถ้าหลงไปไม่ต้องคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“บอกว่าจะรอแล้วหายไปไหนของมันละเนี้ย” คิลบ่นแต่สีหน้าไม่ใช่อย่างปาก เขารู้จักเฟรินดี และเพราะรู้ดีเลยยิ่งห่วงว่ามันจะไปก่อเรื่องยุ่งเข้า
“เจ้าตัวยุ่งก็ยังยุ่งทั้งปีสิน่า” โรเปรย พรางสายหัวอย่างปรงๆอย่างนึกปรง
“คงไปด้วยกันละมั้งครับ” เฟม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบไม่เดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดสักเท่าไร
“นายรู้” คาโลเสียงเย็นเจี๊ยบ สายตาบงบอกว่าถ้าไม่บอกนายตายแน่ มาทางเพื่อนใหม่ที่เป็นศัตรูหัวใจไปพร้อมๆกันในสายตาเขา
รอยยิ้มกระตุกบนใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้านอย่างท้าทาย ก่อนตอบ “ก็คงไปที่ชมรมละมั้งครับ ได้ยินว่าอาจารย์นัดให้ไปพบตอนเที่ยง นี่ก็สายแล้วด้วย”
“แล้วชมรมนั้นอยู่ที่ไหน”เสียงเย็น ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่แสดงออกกลับตรงข้ามด้วยเพราะกำลังนึกห่วงว่าถ้าช้าจะเกิดเรื่องกับเจ้าตัวยุ่งของเขา
เฟมยิ้มมากขึ้นอย่างขันสีหน้าและอาการคาโล เป็นที่สุด“ไปทางนี้ตามมาสิ”
“ใจเย็นน่าเฟรินมันไม่เป็นไรหรอก” โรปลอบ ตาสีเขียวระริกนึกตลกอาการที่ไม่ค่อยได้เห็นของเพื่อน แล้วเดินตามเฟมไป
“อย่าห่วงน่า ยังไม่มีเรื่องหรอก”คิลว่าแล้วตบไหล่คาโลให้ตามเฟม ไปหาเฟรินกะไนฟ์ด้วยกัน
ชมรมวิทยาศาสตร์  ที่ปรึกษาอาจารย์เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน่  มอคค่า  และ อาจารย์ จีนัส จินเจอร์ แกลอินเกล  ป้ายหน้าประตูห้องๆหนึ่ง ที่เฟรินอ่านแล้วคิดว่าอาจารย์สองท่านนี้ต้องเชียวชาญเรื่องการทำเครื่องดื่มและอาหาร
แน่ๆ
“ขออนุญาต ค่ะ”ไนฟ์เคาะประตูห้องพร้อมขออนุญาต เข้าห้องเสียงดัง
“เชิญจ๊ะ ประตูไม่ได้ล๊อก”เสียงตอบที่บงบอกว่าคนในห้องยังอารมณ์ดีอยู่
ไนฟ์เปิดประตูเข้าไปโดยมีเฟรินตามติดไม่ห่าง  ห้องนี้เป็นห้องโปร่ง หน้าต่างหลายบานถูกเปิดระบายอากาศ  อุปกรณ์ วิทย์ถูกเกิบไว้ในตู้เรียบร้อย  โต๊ะเก้าอี้ก็ถูกเก็บเรียบร้อย จะมีก็แค่ตัวในสุดที่ถูกใช่อยู่  แต่มันไม่ได้ใช่ทำการทดลอง  กลับกันมันถูกทำเป็นโต๊ะกาแฟแทน มีชายหนุ่มสองคนกำลังจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ คนหนึ่งยิ้มแย้มแจ่มใส่  ทำให้หน้าตาที่น่ารักอยู่แล้วยิ่งหน้ารักหนัก ผมสีกาแฟใส่นมที่ยาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้อย่างลวกๆมีนัยน์ตาสีโกโก้ที่เข้ากับสีผมเป็นอย่างดี  ส่วนอีกคนถึงจะดูไร้อารมณ์แต่ก็จัดว่าเป็นหนุ่มหน้าหวานที่หล่อมากที่เดียว ตาสีเขียวอ่อน ผมสีเขียวยาวประบ่าถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ และเท่อย่างบอกถูก
“มาสายนะจ๊ะไนฟ์จัง”  หนุ่มอารมณ์ดี ถามขึ้นเมื่อเห็นไนฟ์เข้ามาในห้อง
“ขอโทษค่ะอาจารย์กาเซ่ บังเอิญว่าพาเพื่อนใหม่ชมโรงเรียนเพลินไปหน่อยนะค่ะ”ไนฟ์กล่าวอย่างสำนึกผิด ไม่กล้าพอที่จะสบตาอาจารย์ผู้ถาม
“คนข้างหลังนั้นใช่ไหม ชื่ออะไรจ๊ะ”กาเซ่หันมาสนใจนักเรียนหญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆไนฟ์แทนเมือเห็นว่าเด็กนักเรียนคงกำลังใจไม่ดี
“เฟลิโอน่า เกรเดเวน ค่ะ” เฟรินตอบเสียงใส  พร้อมยิ้มหวานให้ แม้ในใจจะนึกกลัวคนตรงหน้าหน่อยๆก็ตาม
“ยินดีตอนรับจ๊ะ ครูชื่อกาเซ่ ส่วนนี่ก็เฮิบจัง”กาเซแนะนำอย่างอารมณ์ดี
โป๊กๆๆเสียงพจนานุกรม วิทยาศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ที่ไม่รู้ไปเอามาตอนไหนที่ระดมฟาดหัวกาเซ่
“โอ๊ย เจ็บนะ เฮิบจัง” กาเซ่ ร้อง
“นายจะได้เรียกชื่อคนหน้าตาดีอย่างฉันถูกสักที่ไงเอสเพรสโซ่” จีนัสพูดนำเสียงหงุดหงิด พร้อมๆกับที่ทุบหนังสือเล่มโตลงไปบนหัวเพื่อนคนข้างทันทีที่เอ่ยปากขึ้น
“ที่นายยังไม่เรียกฉันว่ากาเซ่เลย” มือยังลูบๆคลำๆลูกมะนาวบนหัว
“ถ้านายเรียกชื่อคนหล่ออย่างฉันถูกเมื่อไรฉันก็จะเรียกนายว่ากาเซ่”เสียงหงุดหงิดมากขึ้น
สองคนนี่คล้ายพี่ลูคัสกะพี่ลอเรนซ์แหะ    ความคิดที่โผล่ขึ้นมาในสมองแทบจะทันที ขณะดวงตาสน้ำตาลคู่โตเฝ้าสังเกตุคนทั้งคู่เงียบๆ 
“ครูชื่อจีนัส พวกเธอถ้าไม่อยากโดนแบบไอ้นั้นก็เรียกให้ถูกๆด้วย”จีนัสหันมากำชับกับสองสาวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ค่ะ”สองสาวรับคำอย่างว่าง่าย(ถ้าให้โดนหนังสือเล่มหนานั้นฟาดหัวพวกเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก)
“ว่าแต่อาจารย์เรียกหนูมาพบ มีธุระอะไรหรือค่ะ”ไนฟ์ถาม เมื่อเห็นว่าจารย์ทั้งสองคนยังไม่ยอมบอกอะไร
“อืม เกือบลืมสนิท ขอบใจนะจ๊ะไนจัง” กาเซ่ทำท่านึกขึ้นได้ แล้วยิ้มนิดๆ แต่ยังไม่ได้พูดอะไรก็มีเสียงเคาะประตูกาเซ่เลยหันไปเรียกให้ผู้มาใหม่เข้ามา  ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร พวกคาโลนั่นเอง
“อ้าวเฟมมี่จังพาใครมาด้วนนะ”กาเซ่ถามขึ้นเมื่อความสนใจถูกหันเหไปที่เฟมและนักเรียนใหม่ที่มาพร้อมกัน
“นักเรียนใหม่ที่เหลือที่เขาพูดถึงกันไงครับ”เฟมตอบอย่างสุภาพ
“ชื่ออะไรกันบ้างจ๊ะ” กาเซ่ถามเสียงนุ่ม ยิ้มหวาน
“คาโล วาเนบลี ครับ” คาโลตอบเสียงเรียบ ใบหน้าโล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้าตัวยุ่ง
“คิล ฟิลมัส  ครับ” คิลตอบ นัยน์ตาสีม่วงมองตรงไปที่อาจารย์สองคนด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก
“โร  เซวาเรส ครับ” โรตอบยิ้มๆ ไม่แสดงอาการนอกเหนือจากนั้น
“อาจารย์ค่ะ อาจารย์เรียกหนูมาทำไมค่ะ” ไนฟ์ถามขึ้นเพราะเธอถูกลืมอีกแล้ว (น่าสงสารจังถูกลืมบ่อย^-^)
“ขอโทษจ๊ะ คือครูอยากให้เธอไปชวนเด็กใหม่มาเขาชมรมนะ”กาเซ่ตอบเมื่อนึกขึ้นได้    “ในเมื่อมากันแล้วพวกเธฮจะเข้าชมรมวิทย์ไหมละ”กาเซ่ถามต่อ
“ตกลงค่ะ/ครับ” เฟรินกับ คิลตอบพร้อมกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากัน และพากันหัวเราะชอบใจ
“พวกเธอสองคนละจ๊ะ”กาเซ่หันมาถามโรกับคาโลที่ยังไม่ได้ให้คำตอบ
“ผมยังก็ได้ครับ” โรตอบ
“ถ้าเฟรินอยู่ผมก็ไม่มีทางเลือกครับ”คาโลตอบเสียงเรียบ กลับเข้าสู่โหมดเดิมแล้ว (ไม่ยอมปล่อยให้คาดสายตาเลยนะคาโล^o^)
“ตกลงว่าเข้าหมด ใบสมัครอยู่ตรงนั้น ไปกรอกซะให้เรียบร้อย”จีนัส พูดเสียงเรียบ แล้วจิบน้ำชาต่อ”
หลังจากพวกเด็กๆกรอกใบสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันขอตัวออกไปเที่ยวชมโรงเรียนต่อ จุดหมายต่อไปของพวกเขาคือห้องสมุดกลางของโรงเรียนที่ โร กลับคาโลบอกว่าอยากไปดูให้ได้ภายใยวันนี้ ก่อนทีโรงเรียนจะเลิก
“โรงเรียนตั้งกว้าง  ที่อื่นมีตั้งเยอะไม่ไป ดันจะไปห้องสมุด ไม่เข้าใจพวกมันเลยว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าจะบ้า” เจ้าตัวยุ่งที่แอบหลบออกมาจากห้องสมุดคนเดียว บ่นไปเรื่อยแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปเจอะกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง มีผู้ชายตัวใหญ่สามคนกำลังรุมเด็กตัวเล็กๆคนเดียวอยู่
อย่างนี้มันหมาหมู่นี่หว่า ความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวแม่ตัวดี
“คิดว่าได้ท๊อปแล้วจะทำเป็นใหญ่ได้นะ” หนึ่งในกลุ่มผู้ชายพูดขึ้น ด้วยท่าทางที่ว่างกล้ามสุดๆ
“เป็นผู้หญิงนะต้องทำตัวให้น่ารักเข้าใจหม้าย” ผู้ชายอีกคนที่ท่าทางเก๊กไม่แพ้คนแรก  มือสองข้างกดอกแน่น
“ทำตัวเด่นอย่างนี้อยากลองดีใช่ไหมจ๊ะ น้องหนู” ชายคนสุดท้ายที่ท่าขี้หลีสุดๆ มองเด็กสาวด้วยสายตา ที่เฟรินให้นิยามว่า หื่ น
เด็กคนที่ถูกรุมไม่พูดอะไรได้แต่ยืนนิ่งๆ นัยน์ตาสงบไม่มีแม้แต่ความเกรงกลัวในชายสามคนที่รุ่นสักนิด  ในสายตาของเฟรินเด็กคนนั้นก็ไม่เชิงเป็นเด็กผู้หญิงเพราะ เธอมีผมสีดำสั้นรองทรงเป็นประกายน้ำตาลแดง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มถูกซ่อนอยู่ใต้แว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีชา  ผิวของเธอเป็นสีแทน ที่สำคัญคือเธอไม่ได้ใส่ชุดนักเรียน เด็กสวมเสื่อสีดำที่ตัวใหญ่โคตร มีตัวอักษรที่อ่านได้ว่า whitehamater  ใส่กาเกงยีนสีน้ำเงินซีดๆ ขาดๆ หลวมโพรก กับรองเท้าผ้าใบ  ที่บอกได้เลยนั้นมันผิดระเบียบทั้งชุดเลยนี่หว่า แบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่าเด็กผู้หญิงแล้ว  เรียกว่าทอมถึงจะถูก
ในขณะที่เฟรินกำลังพิจารณาลักษณะของเด็กคนนั้นอยู่ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อชายคนที่วางกล้ามสุดๆจู่ๆก็คว้าคอเสื่อเด็กคนนั้น ด้วยความตกใจเธอเลยวิ่งออกไปขวางโดยไม่รู้ตัว
“นี่น้องสาวคนสวยเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องอย่ายุ่งดีกว่านะจ๊ะ”คนขี้หลีพูดขึ้นเมื่อเห็นเฟรินเข้ามาขวาง สายตาหันเหมาสนใจในตัวเฟรินแทน
“พี่สาวอย่าเข้ามายุ่งดีกว่าฮะ เดียวจะเดือดร้อนไปกลับผมด้วยอีกคน” เด็กน้อยที่เธอเขามาปกป้องพูดขึ้น  น้ำเสียงตกใจปนๆกับประทับใจในการกระทำของเธอ
“จะไม่ให้ยุ่งได้ไง ผู้ชายตัวโตตั้งสาม คนรุม เด็กตัวเล็กๆคนเดียว แบบนี้มันหน้าตัวเมียชัดๆ” เฟรินเปรยกับเด็กคนนั้น พ่วงด่าไอ้พวกหมาหมู่ที่กำลังรุมพวกเธอยู่ด้วย นัยน์ตาสีน้ำตาคู่โตตอนนี้เปร่งประกายเย็นชาสุดๆ อย่างที่นานๆทีจะได้พบเห็น
“พูดงี้ก็สวยเดะ” ชายจอมวางกล้ามเริ่มหมดความอดทน เขาหักนิ้วตัวเองตังกร๊อบ มองสาวน้อยคนขวางตาเขียว
“ฉันสวยอยู่แล้วย่ะ” เฟรินตอกกลับ สายตาท้าทายแบบไม่เกรงกลัวและไม่ไว้หน้า 
“อย่าคิดว่าสวยแล้วพวกเราจะไม่กล้าลงมือนะน้องสาว” คนขี้เก๊กผู้ขึ้นบ้าง เขายังคงมองเฟรินตาเป็นมัน ซึ่งทำให้คนถูกมองรู้สึกขนลุกขนพองด้วยความแขย่ง เป็นที่สุด
“พี่สาวอย่ายุ่งดีกว่าฮะ” เด็กคนนั้นเตือนเธออีกครั้ง คราวนี้สายตาเด็กน้อยแสดงความเป็นห่วงเธออย่างจริงจัง อย่างเห็นได้ชัด
“อยู่เฉยๆ เดียวพี่จัดการเอง” เฟรินหันมาพูดกับเด็กคนนั้นด้วยความเอ็นดูก่อนหันไปเผชิญหน้ากับพวกผู้ชาย นัยน์ตาสีน้ำตาลระริกด้วยความเย้ยหยันมากขึ้น และปากสวยๆของเธอยังคงทำงานได้ดีแม้ในยามขับขัน
“ดีแต่ รวมกลุ่มข่มขู่ชาวบ้าน ไอ้พวกไม่มีสมอง”คำกล่าวที่ไม่เบาเอาซะเลยทำให้คนที่ผ่านไปมาและเห็นเหตุการณ์ต่างรู้สึก กลัวแทนสาวน้อยคนกล่าว มันช่างยั่วยุให้คนที่จะหมดความอดทนอยู่แล้วได้ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมา
ชายจอมวางกล้ามก้าวสามขุมเข้ามาประชิน แต่ด้วยประสบการณ์วิวาทที่ต่างกันหลายขุมจึงโดนเฟรินตบหน้าหัน ตามด้วยขวาตรงหนักๆเขาที่ท้องน้อยเลยทรุดฮวบไปกับพื้น  สองคนที่เหลือเห็นเพื่อนโดนจัดการเลยเขามาช่วย คนขี้หลีเข้ามาจับเฟรินจากข้างหลัง ส่วนคนขี้เก๊กที่อยู่ไกลกว่าทำท่าจะเข้าชกเธอที่ท้องผลเลยออกมาว่า คนขี้หลีโดนอุบวงในเสยเข้าที่คางหงายหลังไปเลย ส่วนคนขี้เก๊กก็โดนเตะเข้าที่ท้องแล้วก็พาดที่ก้านคอล้มคว่ำไปเป็นคนสุดท้าย
“เห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงแล้วจะสู่ไม่ได้หรือไง  รู้จักแฟรินคนนี้น้อยไปเว้ย”คำเย้ยหยันจากปากสวยๆของผู้ชนะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสักน้อย
“ฝากไว้ก่อนเหอะ”คำประกาศจากผู้แพ้ก่อนวิ่งหายไปจากสายตาทันที
“เออ อย่าลืมมาเอาละ” คนชนะยังคงปากดี
พอผู้รุกรานหายไปจากสายตา เด็กน้อยก็เข้ามาหาเฟรินพร้อมคำพูดที่แสดงความประทับใจสุดๆ  “พี่สาวเท่มากเลยฮะ”
เฟรินที่ได้ระบายอารมณ์ พอความโกรธหมดไปความเหนือยหล้าก็เข้าแทนที่ทำเอาคนเก่งเมื่อกี้ถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น ชักสีหน้าซีดพร้อมกับอาการงงกลับการกระทำที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองสักหน่อยเมื่อกี้
เด็กน้อยที่เห็นอาการเฟรินแปลกๆเกิดความเป็นห่วงเลยถามขึ้น “พี่สาวเป็นไงบ้างฮะ เจ็บตรงไหนหรือปล่าวไปห้องพยาบาลดีกว่านะฮะ”
เฟรินได้สติ ยิ้มหวานแล้วตอบออกไป  “ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่รู้สึกโล่งใจนิดหน่อยนะ”
เด็กน้อยยังไม่ไว้ใจอาการเลยยืนยันจะพาเธอไปห้องพยาบาลให้ได้ “ ไปห้องพยาบาลเถอะฮะ ให้อาจารย์ตรวจสักหน่อยก็ยังดี นะฮะ”
สายตาเป็นห่วงอย่างมากของเด็กคนนั้นทำให้เฟรินใจอ่อนยอมให้พาไปห้องพยาบาลแต่โดยดี
“เดินมาด้วยกันตั้งนานละพี่ยังไม่รู้จักชื่อน้องเลย”เฟรินถามขึ้นระหว่างทางเดินไปห้องพยาบาล
“ฮิวจ์ ฮะ วิลเลี่ยม ฮิวจ์ พี่ชื่อเฟรินใช่ไหมฮะ” ฮิวจ์ถามกลับ
“จ๊ะ เฟลิโอน่า เกรเดเวน หรือเฟรินนั้นละยินดีที่ได้รู้จักนะฮิวจ์” เฟรินตอบยิ้มหวานให้ฮิวจ์ด้วยความเอ็นดู
“ฮะ” ฮิวจ์ยิ้มรับ แล้วเปรยต่อ “พี่เฟรินฮะ”
“มีอะไรเหรอฮิวจ์” เฟรินถามมองฮิวจ์ด้วยนัยน์ตาที่สงสัยประโยคลอยๆนั่น
“ผมขอเป็นน้องพี่ได้ไหมฮะ”สายตาจริงจังบอกชัดว่าที่พูดไปไม่ได้พูดเล่น
เฟรินมองหน้าฮิวจ์ ด้วยความเอ็นดูและถูกใจอีกครั้งก่อนตอบออกไป “ได้สิ  ทำไมจะไม่ได้ละ”
“ขอบคุณฮะ” ฮิวจ์ตอบ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข 
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินกันไปเงียบๆจนพวกเธอเข้าไปในห้องพยาบาลที่ มีชายสองคนกำลังจิบชายามบ่ายอย่างสบายใจเพราะไม่มีใครมาใช้บริการขณะนั้น
“อ้าวเฟรี่ ไปทำอะไรมานะ ถึงต้องมาห้องพยาบาล” ซาตานอาจารย์ห้องพยาบาลทักเมื่อเห็นเฟรินเข้ามาในห้องพยาบาล
“คือพี่เฟรินมีเรื่องแทนผมนิดหน่อยฮะอาจารย์”ฮิวจ์ตอบแทน ซึ่งลูคัสก็แค่จิบชารับฟังเงียบๆเท่านั้น ไม่ว่าอะไร
ชายอีกคน ที่มีผมดำยาวถึงกลางหลังมีเชือกสีเงินเล็กๆมัดอยู่ตรงปลาย  นัยน์ตาสีเงิน หน้าตาน่ารัก  ตัวไม่สูงเท่าไรถ้าเทียบกับผู้ชายอายุเท่ากัน จิบน้ำชาอึกหนึ่งแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
“มีเรื่องได้ทุกวันเลยนะฮิวจ์  ถ้าวันไหนไม่มีเรื่องถ้าจะนอนไม่หลับใช่ใหมฮึ” คำแซวที่เรียกร้อยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเจ้าของชื่อ ก่อนที่จะพยักหน้าแทนคำตอบ
“พี่คาสก็ ผมไม่ใช่คนหาเรื่องก่อนนะพี่ก็รู้นี่” ฮิวจ์พูดเสียงสดใส กึ่งเล่นกึ่งจริง
คาสยิ้มน้อยๆออกมาที่มุมปาก พร้อมๆกับมองคนเป็นรุ่นน้องด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนที่จะสายหน้าอย่างเบื่อหน่ายในการณ์กระทำที่ดูจะเป็นกิจวัตรประจำวันของคนตรงหน้าไปแล้วแต่ก็ไม่พูดอะไร มากกว่านั้น เขาก็กลับไปจิบชาของเขาเงียบๆดังเดิมอีกครั้ง
“พี่ลูคัส ผู้ช่วยพี่เหรอฮะ” เฟรินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคาสคงลืมที่จะแนะนำตัวไปซะแล้ว
“ใช่ ชื่อคาซี่จัง”ลูคัสแนะนำยิ้มๆอย่างถูกใจในคำถาม ให้เฟรินได้รู้จักผู้ช่วยคนเก่งแทน ซึ่งชื่อที่ลูคัสแนะนำก็ทำให้คาสถึงกับสำลักน้ำชาพรวด
“แครกๆ”
“อาจารย์ครับผมชื่อ คราซัสดร้า  แคดมัส ชื่อเล่นชื่อคาส ไม่ใช่คาซี่ ครับ” คาสแก้แทบไม่ทัน
“เอาน่า คาซี่ไปดูอาการเฟรินแทนฉันหน่อยแล้วกัน ฉันว่าฉันจะไปหาลอรี่ที่ห้องปกครองซักหน่อยเดี๋ยวมา”ลูคัสพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งแล้วก็เดินเอาแก้วชาไปเก็บจากนั้นก็ออกจากห้องพยาบาลไป
“กะอู้ละสิ” คาสเปรยเบาๆ แต่คนที่อยู่ใกล้สองคนก็ได้ยินชัดและพากันหัวเราะเสียงดัง และดูเหมือนมันจะไม่เบาพอ คนที่เดินออกไปแล้วเลยย้อนกลับมาถาม
“เมื่อกี้ว่าไงนะคาซี่” นัยน์ตาสีนิน หลังแวนมีฉายชัดว่าคราวนี้ไม่ได้เล่น
“เปล่าครับ” คำปฏิเสธที่คนตอบเลือกจะยิ้มซื่อสนับสนุนคำตอบของตัวเอง สายตาคนถามเลยแบนความสนใจมาที่สองสาวที่อยู่ใกล้ๆแทน และคำตอบที่ได้รับก็มีเพียงการพยักหน้าสนับสนุนเท่านั้น คนถามเลยได้แต่ถอนหายใจและกลับออกไป
“ขอบใจที่ช่วยนะทั้งสองคน” คาสรอจนแน่ใจว่าลูคัสไปไกลจนไม่ได้ยินแล้วจึงพูดขึ้น
“ด้วยความยินดี ค่ะ/ฮะ” สองสาวประสานเสียงกันตอบ คำตอบที่ยิ่งเพิ่มความเอ็นดูในสายตาของคนเป็นรุ่นพี่มากขึ้น ก่อนที่จะกลับเขาเรื่องอีกครั้ง
“อาการเป็นอย่างไรบ้างละเฟรี่เจ็บตรงไหนละ” คาสถามเฟรินตามแบบลูคัส ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สบายๆ
“ไม่ได้บาดเจ็บค่ะ  แค่เขาอ่อนตอนจบเรื่องแล้วแค่นั้นเอง” เฟรินตอบ อย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร
“อืม มันเป็นอาการ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน”คาสเริ่มวินิฉัยมั่วนัยน์ตาสีเงินระริกด้วยเจอของเล่นใหม่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พุดขึ้นที่มุมปาก
\"แล้วต้องทำไงถึงจะหายฮะ\"  ฮิวจ์แซกขึ้นอย่างทนรอไม่ไหว  กลัวพี่สาวที่น่ารักจะอาการยิ่งหนักขึ้นกว่าเก่า
\"ง่าย  รอเดียวนะ\"  ว่าแล้วก็เดินไปหยิบกล่องสี่เหลียม ทรงลูกบาท มา  จากนั้นก็ยื่นมันส่งให้เฟริน
\"ต้องทำไงต่อค่ะ\" เฟรินถามขึ้นหลังรับเอาเจ้ากล่องปริษนามาถือไว้
\"เปิดออก ก็เท่านั้น\"  คำตอบง่าย ๆ  มาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ซ้อนอย่างมิดชิด
\"ว๊าก\"
\"พี่เฟรินเป็นไรฮะ\" 
\"ปล่าวพี่ไม่เป็นไร  นี่เรื่องอะไรฮะ พี่คาส\" เจ้าตัวดีถามอย่างเอาเรื่อง  ขณะที่คนที่ถูกถามกำลังกลั้นหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
\"ก็ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นไง\" เป็นคำตอบที่คนฟังรู้สึกขุนเคืองเป็นอย่างมาก  จนอนทนที่จะหุบปากไม่ต่อคำไม่ไหว
\"พี่จงใจแกล้ง\"  แม่ตัวดีเอ่ยอย่างงอนๆ  ตาคว่ำ หน้าหงิก  ทำให้คนมองอดที่จะเอ็นดูไม่ได้เลยเอ่ยปล่อบ
\"แล้วดีขึ้นหรือยังละ\"  ตามด้วยรอยยิ้มใจดี
\"ค่ะ\" คำตอบสุดฮ้วน แต่ตรงประเด็นสุดๆ 
\"งั้นกลับไปได้แล้ว พี่มีงานต่อ\"
\"ขอบคุณที่ช่วยดูแลค่ะ\"  กล่าวจบก็จะโดดลงจากเตียง  เดินตรงออกจากห้องไม่รอใคร
\"บ้ายบาย  พี่คาส\"  ฮิวจ์กล่าวพร้อมโบกมือลา
\"บาย\"
\"ไปไหนมา\" เสียงดุ จากคนที่เดินหาอยู่นานสองนาน
\"ห้องพยาบาล\"  เนื่องจากไม่มีอารมณ์ตอบ คำตอบที่เอยออกไปเลยสุดฮ้วน
\"เป็นอะไรรึปล่าวเฟริน\" เพื่อนซี้ถามขึ้นเมื่อเฟรินไม่ยอมพูดไม่ยอมจา
\"เปล่า\"  คำตอบยังคงสั้น
สามคนที่เดินตามหาเจ้าหล่อนมานานสองนาน  และรู้จักนิสัยของเธอดีเพระผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกันมาก มองหน้ากันอย่างจนปัญญาที่จะซักไซย ถ้าเจ้าตัวไม่อยากบอกก็คงไม่มีใครบังคับได้  จึงได้แต่สายหน้ายอมรับ
\"เย็นนี้อยากกินอะไรเฟริน\" โรกล่าวเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องที่เธอชอบโดยหวังไว้ลึกๆว่าเธอคงจะอารมณ์ดีขึ้นในภายหลัง
\"หม้อไฟ  ฉันอยากกินหม้อไฟ\"  เจ้าตัวดี กล่าวเสียงกระตือรือร้น  อารมณ์กลับมาแจ่มใส่อีกครั้งเมื่อกล่าวถึงของกิน  แผนของคนมากเลห์ประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู  ทำให้เพื่อนอีกสองคนที่ยืนดูผลเงียบๆ  ยิ้มออกมาอย่างพอใจและนึกขอบใจในแผนเปลี่ยนเรื่องของคนมากเล่ห์ยิ่งนัก
\"งั้นก็ไปซื้อของกันเถอะ\"  คาโลกล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน
\"เย้ หม้อไฟ ได้กินหม้อไฟแล้ว\"  เจ้าตัวดี ยังคงเสียงดัง
\"เงียบได้แล้วเฟริน\"  คิลเอ็ดเสียงดัง หลังจากทนฟังแม่คุณพูดประโยคนี้มาตั้งแต่รร ยั้นซูปเปอร์มาเก็ต
\"เล็ดโก  หม้อไฟ จากรอเฟรินเดียวนะ\"  เจ้าตัวดีไม่ฟังเสียงยังคงเสียงดังตลอดทางที่เดินซื้อของ
\"ปล่อยมันบ้าไปเถอะ\"  โรกล่าวขณะ เลือกผักอยู่ใกล้ๆ
คิลเลยได้แต่สายหัวและยอมรับ ความจริงคือ ต้องทนลูกเดียวเท่านั้น
เย็นนั้น เมื่อทั้ง สี่ กลับถึง  บ้าน  ก็ช่วยกัน ทำหม้อไฟ  โดย  โร  กะคาโล จัด  การเรื่อง  อาหาร  ส่วนคิล  กะ เฟริน  จักการเรื่อง โต๊ะอาหาร
...................................................
คราวที่แล้วเอามาลงแล้วมาไม่ครบไงขอโทษด้วยนะเจ้าค่ะ
“เธอจะรีบไปไหนของเธอนะ” เฟรินถาม หอบเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งตามคนนำที่เดินเร็วเหลือเกิน
“ไปชมรม ลืมไปว่าจารย์นัด ตอนเที่ยงนี่สายแล้ว เดียวโดนทำโทษ” ตาสีน้ำทะเลตอนนี้กำลังหวาดกลัวชะตากรรมที่จะได้พบเจอในอีกไม่นาน
“จารย์คนนั้นโหดมากเลยเหรอ”เฟรินแสดงสีหน้าสนใจเป็นที่สุด
“เปล่า ปกติใจดีมาก แต่ถ้าโกรธก็ไม่รู้สิน่ากลัวมั้ง ท่านมีวิธีทำโทษแบบแปลก ซึ่งฉันก็ไม่เคยโดนอะนะแค่ เคยเห็นคนอื่นโดน” ไนฟ์ตอบอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนสุดๆ
“แล้วเธอจะไม่พาพวกฉันเที่ยวโรงเรียนแล้วเหรอ”เฟรินกลับเข้าเรื่องเดิมอีกครั้ง น้ำเสียงเศร้าลงนิดหน่อย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ้อนแบบเด็กที่ไม่อยากเสียของเล่นชิ้นโปรด
ไนฟ์เห็นเฟรินทำอย่างนั้นก็ถึงกับไม่อยากปฏิเสธความต้องการของเฟริน แต่เธอก็ยังกลัวอาจารย์ที่รออยู่มากว่า
“เฟลิน่าก็ให้พี่เฟมพาเที่ยวก่อนนะ ฉันไปหาจารย์แปบเดียวเดี๋ยวมา”
ชื่อของคนถูกกล่าวถึงทำให้เฟรินคิดถึงสงครามที่เพิ่งจบไประหว่างพี่ชายของเพื่อนคนข้างๆกะแฟนตัวเอง แล้วเธอก็ถึงกับสายหน้า เลือกที่จะตามไนฟ์ไปเที่ยวชมรมมากกว่า “ไม่เอาอะ ไนฟ์ฉันไปกับเธอดีกว่า”
“ก็ได้จ๊ะ”  ว่าแล้วไนฟ์ก็คว้ามือเฟริน ลากให้เดินตามมาโดยเร็วเพราะเธอเหลือเวลาไม่มากแล้ว
ทางด้าน 4หนุ่ม ที่ออกมาจากโรงอาหารที่หลังเพราะโดนสาวๆใช้ไปเก็บจานกับซื้อขนมให้เมื่อออกมาก็ไม่พบสองสาวที่บอกจะรอหน้าโรงอาหาร ก็เริ่มพากันรู้สึกเป็นห่วง ไนฟ์ไม่เท่าไรเพราะรู้จักสถานที่ดี แต่เฟรินถ้าหลงไปไม่ต้องคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“บอกว่าจะรอแล้วหายไปไหนของมันละเนี้ย” คิลบ่นแต่สีหน้าไม่ใช่อย่างปาก เขารู้จักเฟรินดี และเพราะรู้ดีเลยยิ่งห่วงว่ามันจะไปก่อเรื่องยุ่งเข้า
“เจ้าตัวยุ่งก็ยังยุ่งทั้งปีสิน่า” โรเปรย พรางสายหัวอย่างปรงๆอย่างนึกปรง
“คงไปด้วยกันละมั้งครับ” เฟม พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบไม่เดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดสักเท่าไร
“นายรู้” คาโลเสียงเย็นเจี๊ยบ สายตาบงบอกว่าถ้าไม่บอกนายตายแน่ มาทางเพื่อนใหม่ที่เป็นศัตรูหัวใจไปพร้อมๆกันในสายตาเขา
รอยยิ้มกระตุกบนใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้านอย่างท้าทาย ก่อนตอบ “ก็คงไปที่ชมรมละมั้งครับ ได้ยินว่าอาจารย์นัดให้ไปพบตอนเที่ยง นี่ก็สายแล้วด้วย”
“แล้วชมรมนั้นอยู่ที่ไหน”เสียงเย็น ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่แสดงออกกลับตรงข้ามด้วยเพราะกำลังนึกห่วงว่าถ้าช้าจะเกิดเรื่องกับเจ้าตัวยุ่งของเขา
เฟมยิ้มมากขึ้นอย่างขันสีหน้าและอาการคาโล เป็นที่สุด“ไปทางนี้ตามมาสิ”
“ใจเย็นน่าเฟรินมันไม่เป็นไรหรอก” โรปลอบ ตาสีเขียวระริกนึกตลกอาการที่ไม่ค่อยได้เห็นของเพื่อน แล้วเดินตามเฟมไป
“อย่าห่วงน่า ยังไม่มีเรื่องหรอก”คิลว่าแล้วตบไหล่คาโลให้ตามเฟม ไปหาเฟรินกะไนฟ์ด้วยกัน
ชมรมวิทยาศาสตร์  ที่ปรึกษาอาจารย์เอสเพรสโซ่ คาปูชิโน่  มอคค่า  และ อาจารย์ จีนัส จินเจอร์ แกลอินเกล  ป้ายหน้าประตูห้องๆหนึ่ง ที่เฟรินอ่านแล้วคิดว่าอาจารย์สองท่านนี้ต้องเชียวชาญเรื่องการทำเครื่องดื่มและอาหาร
แน่ๆ
“ขออนุญาต ค่ะ”ไนฟ์เคาะประตูห้องพร้อมขออนุญาต เข้าห้องเสียงดัง
“เชิญจ๊ะ ประตูไม่ได้ล๊อก”เสียงตอบที่บงบอกว่าคนในห้องยังอารมณ์ดีอยู่
ไนฟ์เปิดประตูเข้าไปโดยมีเฟรินตามติดไม่ห่าง  ห้องนี้เป็นห้องโปร่ง หน้าต่างหลายบานถูกเปิดระบายอากาศ  อุปกรณ์ วิทย์ถูกเกิบไว้ในตู้เรียบร้อย  โต๊ะเก้าอี้ก็ถูกเก็บเรียบร้อย จะมีก็แค่ตัวในสุดที่ถูกใช่อยู่  แต่มันไม่ได้ใช่ทำการทดลอง  กลับกันมันถูกทำเป็นโต๊ะกาแฟแทน มีชายหนุ่มสองคนกำลังจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ คนหนึ่งยิ้มแย้มแจ่มใส่  ทำให้หน้าตาที่น่ารักอยู่แล้วยิ่งหน้ารักหนัก ผมสีกาแฟใส่นมที่ยาวถึงกลางหลังถูกรวบไว้อย่างลวกๆมีนัยน์ตาสีโกโก้ที่เข้ากับสีผมเป็นอย่างดี  ส่วนอีกคนถึงจะดูไร้อารมณ์แต่ก็จัดว่าเป็นหนุ่มหน้าหวานที่หล่อมากที่เดียว ตาสีเขียวอ่อน ผมสีเขียวยาวประบ่าถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์ และเท่อย่างบอกถูก
“มาสายนะจ๊ะไนฟ์จัง”  หนุ่มอารมณ์ดี ถามขึ้นเมื่อเห็นไนฟ์เข้ามาในห้อง
“ขอโทษค่ะอาจารย์กาเซ่ บังเอิญว่าพาเพื่อนใหม่ชมโรงเรียนเพลินไปหน่อยนะค่ะ”ไนฟ์กล่าวอย่างสำนึกผิด ไม่กล้าพอที่จะสบตาอาจารย์ผู้ถาม
“คนข้างหลังนั้นใช่ไหม ชื่ออะไรจ๊ะ”กาเซ่หันมาสนใจนักเรียนหญิงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆไนฟ์แทนเมือเห็นว่าเด็กนักเรียนคงกำลังใจไม่ดี
“เฟลิโอน่า เกรเดเวน ค่ะ” เฟรินตอบเสียงใส  พร้อมยิ้มหวานให้ แม้ในใจจะนึกกลัวคนตรงหน้าหน่อยๆก็ตาม
“ยินดีตอนรับจ๊ะ ครูชื่อกาเซ่ ส่วนนี่ก็เฮิบจัง”กาเซแนะนำอย่างอารมณ์ดี
โป๊กๆๆเสียงพจนานุกรม วิทยาศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ที่ไม่รู้ไปเอามาตอนไหนที่ระดมฟาดหัวกาเซ่
“โอ๊ย เจ็บนะ เฮิบจัง” กาเซ่ ร้อง
“นายจะได้เรียกชื่อคนหน้าตาดีอย่างฉันถูกสักที่ไงเอสเพรสโซ่” จีนัสพูดนำเสียงหงุดหงิด พร้อมๆกับที่ทุบหนังสือเล่มโตลงไปบนหัวเพื่อนคนข้างทันทีที่เอ่ยปากขึ้น
“ที่นายยังไม่เรียกฉันว่ากาเซ่เลย” มือยังลูบๆคลำๆลูกมะนาวบนหัว
“ถ้านายเรียกชื่อคนหล่ออย่างฉันถูกเมื่อไรฉันก็จะเรียกนายว่ากาเซ่”เสียงหงุดหงิดมากขึ้น
สองคนนี่คล้ายพี่ลูคัสกะพี่ลอเรนซ์แหะ    ความคิดที่โผล่ขึ้นมาในสมองแทบจะทันที ขณะดวงตาสน้ำตาลคู่โตเฝ้าสังเกตุคนทั้งคู่เงียบๆ 
“ครูชื่อจีนัส พวกเธอถ้าไม่อยากโดนแบบไอ้นั้นก็เรียกให้ถูกๆด้วย”จีนัสหันมากำชับกับสองสาวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ค่ะ”สองสาวรับคำอย่างว่าง่าย(ถ้าให้โดนหนังสือเล่มหนานั้นฟาดหัวพวกเธอก็ไม่เอาด้วยหรอก)
“ว่าแต่อาจารย์เรียกหนูมาพบ มีธุระอะไรหรือค่ะ”ไนฟ์ถาม เมื่อเห็นว่าจารย์ทั้งสองคนยังไม่ยอมบอกอะไร
“อืม เกือบลืมสนิท ขอบใจนะจ๊ะไนจัง” กาเซ่ทำท่านึกขึ้นได้ แล้วยิ้มนิดๆ แต่ยังไม่ได้พูดอะไรก็มีเสียงเคาะประตูกาเซ่เลยหันไปเรียกให้ผู้มาใหม่เข้ามา  ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร พวกคาโลนั่นเอง
“อ้าวเฟมมี่จังพาใครมาด้วนนะ”กาเซ่ถามขึ้นเมื่อความสนใจถูกหันเหไปที่เฟมและนักเรียนใหม่ที่มาพร้อมกัน
“นักเรียนใหม่ที่เหลือที่เขาพูดถึงกันไงครับ”เฟมตอบอย่างสุภาพ
“ชื่ออะไรกันบ้างจ๊ะ” กาเซ่ถามเสียงนุ่ม ยิ้มหวาน
“คาโล วาเนบลี ครับ” คาโลตอบเสียงเรียบ ใบหน้าโล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้าตัวยุ่ง
“คิล ฟิลมัส  ครับ” คิลตอบ นัยน์ตาสีม่วงมองตรงไปที่อาจารย์สองคนด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก
“โร  เซวาเรส ครับ” โรตอบยิ้มๆ ไม่แสดงอาการนอกเหนือจากนั้น
“อาจารย์ค่ะ อาจารย์เรียกหนูมาทำไมค่ะ” ไนฟ์ถามขึ้นเพราะเธอถูกลืมอีกแล้ว (น่าสงสารจังถูกลืมบ่อย^-^)
“ขอโทษจ๊ะ คือครูอยากให้เธอไปชวนเด็กใหม่มาเขาชมรมนะ”กาเซ่ตอบเมื่อนึกขึ้นได้    “ในเมื่อมากันแล้วพวกเธฮจะเข้าชมรมวิทย์ไหมละ”กาเซ่ถามต่อ
“ตกลงค่ะ/ครับ” เฟรินกับ คิลตอบพร้อมกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากัน และพากันหัวเราะชอบใจ
“พวกเธอสองคนละจ๊ะ”กาเซ่หันมาถามโรกับคาโลที่ยังไม่ได้ให้คำตอบ
“ผมยังก็ได้ครับ” โรตอบ
“ถ้าเฟรินอยู่ผมก็ไม่มีทางเลือกครับ”คาโลตอบเสียงเรียบ กลับเข้าสู่โหมดเดิมแล้ว (ไม่ยอมปล่อยให้คาดสายตาเลยนะคาโล^o^)
“ตกลงว่าเข้าหมด ใบสมัครอยู่ตรงนั้น ไปกรอกซะให้เรียบร้อย”จีนัส พูดเสียงเรียบ แล้วจิบน้ำชาต่อ”
หลังจากพวกเด็กๆกรอกใบสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พากันขอตัวออกไปเที่ยวชมโรงเรียนต่อ จุดหมายต่อไปของพวกเขาคือห้องสมุดกลางของโรงเรียนที่ โร กลับคาโลบอกว่าอยากไปดูให้ได้ภายใยวันนี้ ก่อนทีโรงเรียนจะเลิก
“โรงเรียนตั้งกว้าง  ที่อื่นมีตั้งเยอะไม่ไป ดันจะไปห้องสมุด ไม่เข้าใจพวกมันเลยว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าจะบ้า” เจ้าตัวยุ่งที่แอบหลบออกมาจากห้องสมุดคนเดียว บ่นไปเรื่อยแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปเจอะกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง มีผู้ชายตัวใหญ่สามคนกำลังรุมเด็กตัวเล็กๆคนเดียวอยู่
อย่างนี้มันหมาหมู่นี่หว่า ความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวแม่ตัวดี
“คิดว่าได้ท๊อปแล้วจะทำเป็นใหญ่ได้นะ” หนึ่งในกลุ่มผู้ชายพูดขึ้น ด้วยท่าทางที่ว่างกล้ามสุดๆ
“เป็นผู้หญิงนะต้องทำตัวให้น่ารักเข้าใจหม้าย” ผู้ชายอีกคนที่ท่าทางเก๊กไม่แพ้คนแรก  มือสองข้างกดอกแน่น
“ทำตัวเด่นอย่างนี้อยากลองดีใช่ไหมจ๊ะ น้องหนู” ชายคนสุดท้ายที่ท่าขี้หลีสุดๆ มองเด็กสาวด้วยสายตา ที่เฟรินให้นิยามว่า หื่ น
เด็กคนที่ถูกรุมไม่พูดอะไรได้แต่ยืนนิ่งๆ นัยน์ตาสงบไม่มีแม้แต่ความเกรงกลัวในชายสามคนที่รุ่นสักนิด  ในสายตาของเฟรินเด็กคนนั้นก็ไม่เชิงเป็นเด็กผู้หญิงเพราะ เธอมีผมสีดำสั้นรองทรงเป็นประกายน้ำตาลแดง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มถูกซ่อนอยู่ใต้แว่นกรอบสี่เหลี่ยมสีชา  ผิวของเธอเป็นสีแทน ที่สำคัญคือเธอไม่ได้ใส่ชุดนักเรียน เด็กสวมเสื่อสีดำที่ตัวใหญ่โคตร มีตัวอักษรที่อ่านได้ว่า whitehamater  ใส่กาเกงยีนสีน้ำเงินซีดๆ ขาดๆ หลวมโพรก กับรองเท้าผ้าใบ  ที่บอกได้เลยนั้นมันผิดระเบียบทั้งชุดเลยนี่หว่า แบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่าเด็กผู้หญิงแล้ว  เรียกว่าทอมถึงจะถูก
ในขณะที่เฟรินกำลังพิจารณาลักษณะของเด็กคนนั้นอยู่ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อชายคนที่วางกล้ามสุดๆจู่ๆก็คว้าคอเสื่อเด็กคนนั้น ด้วยความตกใจเธอเลยวิ่งออกไปขวางโดยไม่รู้ตัว
“นี่น้องสาวคนสวยเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องอย่ายุ่งดีกว่านะจ๊ะ”คนขี้หลีพูดขึ้นเมื่อเห็นเฟรินเข้ามาขวาง สายตาหันเหมาสนใจในตัวเฟรินแทน
“พี่สาวอย่าเข้ามายุ่งดีกว่าฮะ เดียวจะเดือดร้อนไปกลับผมด้วยอีกคน” เด็กน้อยที่เธอเขามาปกป้องพูดขึ้น  น้ำเสียงตกใจปนๆกับประทับใจในการกระทำของเธอ
“จะไม่ให้ยุ่งได้ไง ผู้ชายตัวโตตั้งสาม คนรุม เด็กตัวเล็กๆคนเดียว แบบนี้มันหน้าตัวเมียชัดๆ” เฟรินเปรยกับเด็กคนนั้น พ่วงด่าไอ้พวกหมาหมู่ที่กำลังรุมพวกเธอยู่ด้วย นัยน์ตาสีน้ำตาคู่โตตอนนี้เปร่งประกายเย็นชาสุดๆ อย่างที่นานๆทีจะได้พบเห็น
“พูดงี้ก็สวยเดะ” ชายจอมวางกล้ามเริ่มหมดความอดทน เขาหักนิ้วตัวเองตังกร๊อบ มองสาวน้อยคนขวางตาเขียว
“ฉันสวยอยู่แล้วย่ะ” เฟรินตอกกลับ สายตาท้าทายแบบไม่เกรงกลัวและไม่ไว้หน้า 
“อย่าคิดว่าสวยแล้วพวกเราจะไม่กล้าลงมือนะน้องสาว” คนขี้เก๊กผู้ขึ้นบ้าง เขายังคงมองเฟรินตาเป็นมัน ซึ่งทำให้คนถูกมองรู้สึกขนลุกขนพองด้วยความแขย่ง เป็นที่สุด
“พี่สาวอย่ายุ่งดีกว่าฮะ” เด็กคนนั้นเตือนเธออีกครั้ง คราวนี้สายตาเด็กน้อยแสดงความเป็นห่วงเธออย่างจริงจัง อย่างเห็นได้ชัด
“อยู่เฉยๆ เดียวพี่จัดการเอง” เฟรินหันมาพูดกับเด็กคนนั้นด้วยความเอ็นดูก่อนหันไปเผชิญหน้ากับพวกผู้ชาย นัยน์ตาสีน้ำตาลระริกด้วยความเย้ยหยันมากขึ้น และปากสวยๆของเธอยังคงทำงานได้ดีแม้ในยามขับขัน
“ดีแต่ รวมกลุ่มข่มขู่ชาวบ้าน ไอ้พวกไม่มีสมอง”คำกล่าวที่ไม่เบาเอาซะเลยทำให้คนที่ผ่านไปมาและเห็นเหตุการณ์ต่างรู้สึก กลัวแทนสาวน้อยคนกล่าว มันช่างยั่วยุให้คนที่จะหมดความอดทนอยู่แล้วได้ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมา
ชายจอมวางกล้ามก้าวสามขุมเข้ามาประชิน แต่ด้วยประสบการณ์วิวาทที่ต่างกันหลายขุมจึงโดนเฟรินตบหน้าหัน ตามด้วยขวาตรงหนักๆเขาที่ท้องน้อยเลยทรุดฮวบไปกับพื้น  สองคนที่เหลือเห็นเพื่อนโดนจัดการเลยเขามาช่วย คนขี้หลีเข้ามาจับเฟรินจากข้างหลัง ส่วนคนขี้เก๊กที่อยู่ไกลกว่าทำท่าจะเข้าชกเธอที่ท้องผลเลยออกมาว่า คนขี้หลีโดนอุบวงในเสยเข้าที่คางหงายหลังไปเลย ส่วนคนขี้เก๊กก็โดนเตะเข้าที่ท้องแล้วก็พาดที่ก้านคอล้มคว่ำไปเป็นคนสุดท้าย
“เห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงแล้วจะสู่ไม่ได้หรือไง  รู้จักแฟรินคนนี้น้อยไปเว้ย”คำเย้ยหยันจากปากสวยๆของผู้ชนะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บสักน้อย
“ฝากไว้ก่อนเหอะ”คำประกาศจากผู้แพ้ก่อนวิ่งหายไปจากสายตาทันที
“เออ อย่าลืมมาเอาละ” คนชนะยังคงปากดี
พอผู้รุกรานหายไปจากสายตา เด็กน้อยก็เข้ามาหาเฟรินพร้อมคำพูดที่แสดงความประทับใจสุดๆ  “พี่สาวเท่มากเลยฮะ”
เฟรินที่ได้ระบายอารมณ์ พอความโกรธหมดไปความเหนือยหล้าก็เข้าแทนที่ทำเอาคนเก่งเมื่อกี้ถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น ชักสีหน้าซีดพร้อมกับอาการงงกลับการกระทำที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองสักหน่อยเมื่อกี้
เด็กน้อยที่เห็นอาการเฟรินแปลกๆเกิดความเป็นห่วงเลยถามขึ้น “พี่สาวเป็นไงบ้างฮะ เจ็บตรงไหนหรือปล่าวไปห้องพยาบาลดีกว่านะฮะ”
เฟรินได้สติ ยิ้มหวานแล้วตอบออกไป  “ไม่เป็นไรจ๊ะ แค่รู้สึกโล่งใจนิดหน่อยนะ”
เด็กน้อยยังไม่ไว้ใจอาการเลยยืนยันจะพาเธอไปห้องพยาบาลให้ได้ “ ไปห้องพยาบาลเถอะฮะ ให้อาจารย์ตรวจสักหน่อยก็ยังดี นะฮะ”
สายตาเป็นห่วงอย่างมากของเด็กคนนั้นทำให้เฟรินใจอ่อนยอมให้พาไปห้องพยาบาลแต่โดยดี
“เดินมาด้วยกันตั้งนานละพี่ยังไม่รู้จักชื่อน้องเลย”เฟรินถามขึ้นระหว่างทางเดินไปห้องพยาบาล
“ฮิวจ์ ฮะ วิลเลี่ยม ฮิวจ์ พี่ชื่อเฟรินใช่ไหมฮะ” ฮิวจ์ถามกลับ
“จ๊ะ เฟลิโอน่า เกรเดเวน หรือเฟรินนั้นละยินดีที่ได้รู้จักนะฮิวจ์” เฟรินตอบยิ้มหวานให้ฮิวจ์ด้วยความเอ็นดู
“ฮะ” ฮิวจ์ยิ้มรับ แล้วเปรยต่อ “พี่เฟรินฮะ”
“มีอะไรเหรอฮิวจ์” เฟรินถามมองฮิวจ์ด้วยนัยน์ตาที่สงสัยประโยคลอยๆนั่น
“ผมขอเป็นน้องพี่ได้ไหมฮะ”สายตาจริงจังบอกชัดว่าที่พูดไปไม่ได้พูดเล่น
เฟรินมองหน้าฮิวจ์ ด้วยความเอ็นดูและถูกใจอีกครั้งก่อนตอบออกไป “ได้สิ  ทำไมจะไม่ได้ละ”
“ขอบคุณฮะ” ฮิวจ์ตอบ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข 
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินกันไปเงียบๆจนพวกเธอเข้าไปในห้องพยาบาลที่ มีชายสองคนกำลังจิบชายามบ่ายอย่างสบายใจเพราะไม่มีใครมาใช้บริการขณะนั้น
“อ้าวเฟรี่ ไปทำอะไรมานะ ถึงต้องมาห้องพยาบาล” ซาตานอาจารย์ห้องพยาบาลทักเมื่อเห็นเฟรินเข้ามาในห้องพยาบาล
“คือพี่เฟรินมีเรื่องแทนผมนิดหน่อยฮะอาจารย์”ฮิวจ์ตอบแทน ซึ่งลูคัสก็แค่จิบชารับฟังเงียบๆเท่านั้น ไม่ว่าอะไร
ชายอีกคน ที่มีผมดำยาวถึงกลางหลังมีเชือกสีเงินเล็กๆมัดอยู่ตรงปลาย  นัยน์ตาสีเงิน หน้าตาน่ารัก  ตัวไม่สูงเท่าไรถ้าเทียบกับผู้ชายอายุเท่ากัน จิบน้ำชาอึกหนึ่งแล้วพูดขึ้นมาบ้าง
“มีเรื่องได้ทุกวันเลยนะฮิวจ์  ถ้าวันไหนไม่มีเรื่องถ้าจะนอนไม่หลับใช่ใหมฮึ” คำแซวที่เรียกร้อยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเจ้าของชื่อ ก่อนที่จะพยักหน้าแทนคำตอบ
“พี่คาสก็ ผมไม่ใช่คนหาเรื่องก่อนนะพี่ก็รู้นี่” ฮิวจ์พูดเสียงสดใส กึ่งเล่นกึ่งจริง
คาสยิ้มน้อยๆออกมาที่มุมปาก พร้อมๆกับมองคนเป็นรุ่นน้องด้วยสายตาเอ็นดู ก่อนที่จะสายหน้าอย่างเบื่อหน่ายในการณ์กระทำที่ดูจะเป็นกิจวัตรประจำวันของคนตรงหน้าไปแล้วแต่ก็ไม่พูดอะไร มากกว่านั้น เขาก็กลับไปจิบชาของเขาเงียบๆดังเดิมอีกครั้ง
“พี่ลูคัส ผู้ช่วยพี่เหรอฮะ” เฟรินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคาสคงลืมที่จะแนะนำตัวไปซะแล้ว
“ใช่ ชื่อคาซี่จัง”ลูคัสแนะนำยิ้มๆอย่างถูกใจในคำถาม ให้เฟรินได้รู้จักผู้ช่วยคนเก่งแทน ซึ่งชื่อที่ลูคัสแนะนำก็ทำให้คาสถึงกับสำลักน้ำชาพรวด
“แครกๆ”
“อาจารย์ครับผมชื่อ คราซัสดร้า  แคดมัส ชื่อเล่นชื่อคาส ไม่ใช่คาซี่ ครับ” คาสแก้แทบไม่ทัน
“เอาน่า คาซี่ไปดูอาการเฟรินแทนฉันหน่อยแล้วกัน ฉันว่าฉันจะไปหาลอรี่ที่ห้องปกครองซักหน่อยเดี๋ยวมา”ลูคัสพูดยิ้มๆอย่างอารมณ์ดีอีกครั้งแล้วก็เดินเอาแก้วชาไปเก็บจากนั้นก็ออกจากห้องพยาบาลไป
“กะอู้ละสิ” คาสเปรยเบาๆ แต่คนที่อยู่ใกล้สองคนก็ได้ยินชัดและพากันหัวเราะเสียงดัง และดูเหมือนมันจะไม่เบาพอ คนที่เดินออกไปแล้วเลยย้อนกลับมาถาม
“เมื่อกี้ว่าไงนะคาซี่” นัยน์ตาสีนิน หลังแวนมีฉายชัดว่าคราวนี้ไม่ได้เล่น
“เปล่าครับ” คำปฏิเสธที่คนตอบเลือกจะยิ้มซื่อสนับสนุนคำตอบของตัวเอง สายตาคนถามเลยแบนความสนใจมาที่สองสาวที่อยู่ใกล้ๆแทน และคำตอบที่ได้รับก็มีเพียงการพยักหน้าสนับสนุนเท่านั้น คนถามเลยได้แต่ถอนหายใจและกลับออกไป
“ขอบใจที่ช่วยนะทั้งสองคน” คาสรอจนแน่ใจว่าลูคัสไปไกลจนไม่ได้ยินแล้วจึงพูดขึ้น
“ด้วยความยินดี ค่ะ/ฮะ” สองสาวประสานเสียงกันตอบ คำตอบที่ยิ่งเพิ่มความเอ็นดูในสายตาของคนเป็นรุ่นพี่มากขึ้น ก่อนที่จะกลับเขาเรื่องอีกครั้ง
“อาการเป็นอย่างไรบ้างละเฟรี่เจ็บตรงไหนละ” คาสถามเฟรินตามแบบลูคัส ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สบายๆ
“ไม่ได้บาดเจ็บค่ะ  แค่เขาอ่อนตอนจบเรื่องแล้วแค่นั้นเอง” เฟรินตอบ อย่างไม่ค่อยไว้ใจเท่าไร
“อืม มันเป็นอาการ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน”คาสเริ่มวินิฉัยมั่วนัยน์ตาสีเงินระริกด้วยเจอของเล่นใหม่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์พุดขึ้นที่มุมปาก
\"แล้วต้องทำไงถึงจะหายฮะ\"  ฮิวจ์แซกขึ้นอย่างทนรอไม่ไหว  กลัวพี่สาวที่น่ารักจะอาการยิ่งหนักขึ้นกว่าเก่า
\"ง่าย  รอเดียวนะ\"  ว่าแล้วก็เดินไปหยิบกล่องสี่เหลียม ทรงลูกบาท มา  จากนั้นก็ยื่นมันส่งให้เฟริน
\"ต้องทำไงต่อค่ะ\" เฟรินถามขึ้นหลังรับเอาเจ้ากล่องปริษนามาถือไว้
\"เปิดออก ก็เท่านั้น\"  คำตอบง่าย ๆ  มาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ซ้อนอย่างมิดชิด
\"ว๊าก\"
\"พี่เฟรินเป็นไรฮะ\" 
\"ปล่าวพี่ไม่เป็นไร  นี่เรื่องอะไรฮะ พี่คาส\" เจ้าตัวดีถามอย่างเอาเรื่อง  ขณะที่คนที่ถูกถามกำลังกลั้นหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย
\"ก็ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นไง\" เป็นคำตอบที่คนฟังรู้สึกขุนเคืองเป็นอย่างมาก  จนอนทนที่จะหุบปากไม่ต่อคำไม่ไหว
\"พี่จงใจแกล้ง\"  แม่ตัวดีเอ่ยอย่างงอนๆ  ตาคว่ำ หน้าหงิก  ทำให้คนมองอดที่จะเอ็นดูไม่ได้เลยเอ่ยปล่อบ
\"แล้วดีขึ้นหรือยังละ\"  ตามด้วยรอยยิ้มใจดี
\"ค่ะ\" คำตอบสุดฮ้วน แต่ตรงประเด็นสุดๆ 
\"งั้นกลับไปได้แล้ว พี่มีงานต่อ\"
\"ขอบคุณที่ช่วยดูแลค่ะ\"  กล่าวจบก็จะโดดลงจากเตียง  เดินตรงออกจากห้องไม่รอใคร
\"บ้ายบาย  พี่คาส\"  ฮิวจ์กล่าวพร้อมโบกมือลา
\"บาย\"
\"ไปไหนมา\" เสียงดุ จากคนที่เดินหาอยู่นานสองนาน
\"ห้องพยาบาล\"  เนื่องจากไม่มีอารมณ์ตอบ คำตอบที่เอยออกไปเลยสุดฮ้วน
\"เป็นอะไรรึปล่าวเฟริน\" เพื่อนซี้ถามขึ้นเมื่อเฟรินไม่ยอมพูดไม่ยอมจา
\"เปล่า\"  คำตอบยังคงสั้น
สามคนที่เดินตามหาเจ้าหล่อนมานานสองนาน  และรู้จักนิสัยของเธอดีเพระผ่านเรื่องราวต่างๆมาด้วยกันมาก มองหน้ากันอย่างจนปัญญาที่จะซักไซย ถ้าเจ้าตัวไม่อยากบอกก็คงไม่มีใครบังคับได้  จึงได้แต่สายหน้ายอมรับ
\"เย็นนี้อยากกินอะไรเฟริน\" โรกล่าวเปลี่ยนเรื่องไปเป็นเรื่องที่เธอชอบโดยหวังไว้ลึกๆว่าเธอคงจะอารมณ์ดีขึ้นในภายหลัง
\"หม้อไฟ  ฉันอยากกินหม้อไฟ\"  เจ้าตัวดี กล่าวเสียงกระตือรือร้น  อารมณ์กลับมาแจ่มใส่อีกครั้งเมื่อกล่าวถึงของกิน  แผนของคนมากเลห์ประสบความสำเร็จอย่างสวยหรู  ทำให้เพื่อนอีกสองคนที่ยืนดูผลเงียบๆ  ยิ้มออกมาอย่างพอใจและนึกขอบใจในแผนเปลี่ยนเรื่องของคนมากเล่ห์ยิ่งนัก
\"งั้นก็ไปซื้อของกันเถอะ\"  คาโลกล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน
\"เย้ หม้อไฟ ได้กินหม้อไฟแล้ว\"  เจ้าตัวดี ยังคงเสียงดัง
\"เงียบได้แล้วเฟริน\"  คิลเอ็ดเสียงดัง หลังจากทนฟังแม่คุณพูดประโยคนี้มาตั้งแต่รร ยั้นซูปเปอร์มาเก็ต
\"เล็ดโก  หม้อไฟ จากรอเฟรินเดียวนะ\"  เจ้าตัวดีไม่ฟังเสียงยังคงเสียงดังตลอดทางที่เดินซื้อของ
\"ปล่อยมันบ้าไปเถอะ\"  โรกล่าวขณะ เลือกผักอยู่ใกล้ๆ
คิลเลยได้แต่สายหัวและยอมรับ ความจริงคือ ต้องทนลูกเดียวเท่านั้น
เย็นนั้น เมื่อทั้ง สี่ กลับถึง  บ้าน  ก็ช่วยกัน ทำหม้อไฟ  โดย  โร  กะคาโล จัด  การเรื่อง  อาหาร  ส่วนคิล  กะ เฟริน  จักการเรื่อง โต๊ะอาหาร
...................................................
คราวที่แล้วเอามาลงแล้วมาไม่ครบไงขอโทษด้วยนะเจ้าค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น