ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันแรกในรรใหม่ กะเรื่องวุ่นๆที่ตามมา
แก้ไขนิดหน่อยเพราะมีบางอย่างขัดกับตอนต่อไปค่ะ
ในบ้านหลังใหม่ ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ทุกคนดูจะเป็นที่ถูกออกถูกใจเป็นอย่างมาก    เฟรินเองก็ถูกใจบ้านใหม่หลังนี้มากเหมือนกันยกเว้น ห้องๆหนึ่งในบ้าน  ห้องนอนของเธอเอง  ห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้  กับตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าแบบเด็กหญิง น่ารักๆ เต็มตู้  เฟรินพยายามจะเปลี่ยนห้องกับทุกคนในบ้านแต่ดูเหมือนทุกคนจะลงความเห็นกันว่าห้องนั้นเหมาะสมกับเธอและแน่นอนก็ไม่มีใครยอมตกลงเปลี่ยนด้วย
“คิล~เปลี่ยนห้องกันเถอะน้า    ขอร้องละพรีส ~น้า~คิล น้า”
“ม้ายเอา  ฉันชอบห้องของฉัน”   
คำปฏิเสธ ที่น้ำเสียงไร้เยื้อใย แบบสุดๆ  ถึงแม้จะรู้สึกเห็นใจเพื่อนที่ต้องทนอยู่ห้องแบบนั้นแต่จะให้ตัวเขาเข้าไปอยู่แทนมันก็กระไรอยู่  และที่สำคัญใครจะตัดใจยอมทิ้งห้องที่เต็มไปด้วยของน่าสนใจพวกนั้นลงละ
ห้องของคิลเดิมมาจากบันไดอยู่ก่อนถึงห้องเฟริน  เฟอร์นิเจอร์ไม่แตกต่างจากห้องข้างๆสักเท่าไร แค่ไม่มีตุ๊กตา  มีแต่สารพัดเกม  ไม่ว่าจะเป็นเกมคอม หรือเกมพเล  ซึ่งถูกใจคนรักสนุกอย่างคิลเป็นที่สุด
เมื่อเห็นว่าอ้อนเพื่อนคนแรกไม่สำเร็จ  ไปแล้ว เฟรินเลยเปลี่ยนเป้าหมาย  ถึงจะอดไม่ได้ที่จะเสียด้ายห้องของไอ้เพื่อนซี้อยู่หน่อยๆก็ตาม ที่ แต่ห้องของอีกคนก็ไม่เลวร้ายอะไรถ้าเทียมกับห้องตัวเองตอนนี้
“คาโล  แลกห้องกัน  นะ น้า”
เจ้าตัวดีเบียดเข้ามาชิด มือน้อยกำที่ชายเสื้อตัวเก่งของเขาไว้  เอ่ยเสียงออดอ้อน  นัยน์ตาคู่โต  มองมาที่เขาปริบๆ  จนคนใจอ่อนอย่างเขาแทบตระบะแตกยอมแลกห้องด้วยถ้าไม่ได้ไอ้เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ส่งซิกมาเตือนคงยุ่ง  คนใจอ่อนที่เกือบตกหลุม นักขุดมือเซียน  ทอดนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวนสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตด้วยสายตาที่อ่อนโยน  นึกสงสารมันลึกๆเหมือนกัน แต่จะให้เขาไปอยู่ห้องมันคงไม่ไว้  ใครรู้เข้าอายเขาตายเลย      สายตาที่สงให้ทำให้คนอ้อนยิ้ม หวานออกมา อย่างหลงดีใจว่าแผนการสำเร็จ แต่แล้ว ร้อยยิ้มนั้นก็หายแทบจะทันที่เมื่อได้รับคำตอบจากปาก  เจ้าคนขี้ใจอ่อน
“ห้องนั้นเหมาะกับนายแล้วเฟริน” 
คำตอบที่ได้รับทำให้คนรับแทบบ้า  อยากร้องออกมาดังๆว่าใครจะ ไปทนอยู่ห้องคุณหนูห้องนั้นได้  แค่คิด ผื่นก็จะขึ้นอยู่แล้ว    เมื่อไม่สำเร็จ คนสุดท้ายที่พอจะต่อรองได้คงเหลือแต่ อ้ายโรที่นั่งอ่านหนังสือเล่มใหม่อยู่ที่โซฟา เท่านั้น    แม่ตัวดี  เดินผละจากเพื่อนสองคนไปยืนคล้ำหัวคนหนังอ่านหนังสือ    ก่อนที่มือน้อยๆ จะแย่งเอาหนังสือที่คนกำลังอ่านอยู่มาถือไว้เอง
“ทำอะไรนะเฟริน  เอาคืนมา” 
“ไม่  จนกว่านายจะยอมเปลียนห้องกับฉัน”
ประโยคที่คนฟังสะดุ้งเล็กน้อย  เมื่อนึกไปถึงห้องคุณหนูห้องนั้น    ก่อนที่ จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และตอบ ปฏิเสธ
“ไม่  เอาหนังสือฉันคืนมา” 
“โร  นี่เป็นคำสั่ง”
คนไม่เคยใช้อำนาจ และไม่ชอบสั่งขึ้นเสียงสูง ดังอย่างวางอำนาจ  ชวนขบขันมากกว่าเกรงขาม  คนโดนสั่งตอนแรก จึงได้แต่กระพริบตาปริบๆ  ชักสีหน้างง  ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนยิ้มน้อย  ขบขันอย่างอดไม่อยู่
“ที่โลกนี้ไม่มี  นาย กะทาส เฟริน    เราทุกคนเท่าเทียมกัน  ดังนั้น เอาหนังสือฉันคืนมา”
คำตอบเรียบๆ  แต่ เหมือนน้ำมันที่ราดลงไปในไฟอารมณ์ของคนรับ  ทำให้หนังสือเล่มโตที่ถูกแย่งไปถูกส่งคืนด้วยการปาใสหน้าเจ้าของของมันจากระยะประชันชิน  ทำให้หลบไม่ ทันโดนเข้าไปแบบเต็มๆ    ก่อนที่แม่สาวคนปาจะเดินกระทืบเท้า กลับห้องอย่างบงบอกอารมณ์ที่ว่าใครเข้าใกล้ ตาย~
“เจ็บมากไหมโร” คิลที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลถามขึ้นหลังจากที่แม่ตัวยุ่งเขาห้องตัวเองไปแล้ว ด้วยน้ำเสียงที่กลั้นหัวเราะไปด้วย
“นายรองมั่งไหมละจะได้รู้”น้ำเสียงที่ไม่ขำไปด้วยของคนตอบกับนัยน์ตาดุๆที่แทบไม่เคยมีทำให้คนถามต้องรีบยิ้มแห้งๆแล้วกล่าวเอาใจ
“เกรงใจ    นายก็อย่าคิดมากเลย  สงสัยฤดูนางของเฟรินมันใกล้มา อารมณ์มันเลยแปรปรวน”
คำตอบที่คนฟังพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือที่อ่านค้างต่อ
“เพิ่งรู้นะเนี้ยว่า ตอนขอทานโมโหน่ากลัว” คิลกล่าวพร้อม ทำท่าขนลุก
“นายอยากไปยั่วมันตอนนั้นทำไมละ” คำย้อนของคาโลที่ทำให้คิลถึงกับสะดุ้งโหยง ความจริงตัวเขาเองก็แอบขำตอนที่โรโดนเฟรินมันปาหนังสือใส่เหมือนกัน  แต่ไม่คิดจะไปทักตอนที่มันเพิ่งโดนดีใหม่ๆอย่างอ้ายคิลมันก็เท่านั้น
“ไม่ได้ยั่ว แค่ทัก”
“เออ ไม่โดนดีก็ดีแล้ว”
แล้วสองเพื่อนซี้ ก็มองหน้ากัน  ยิ้มให้กัน  ก่อนจะร่วมกัน  หัวเราะกับเรื่องของคนที่ไม่ค่อยจะโดนดีแบบคนอื่นเขา
เช้าวันแรกที่ต้องไปที่โรงเรียนใหม่ ที่ ดอกเตอร์ เตรียมไว้ให้ โรงเรียนที่มีชื่อว่าExceptional Dimension School หรือ E.D.S เฟริน คาโล  คิลและโร ได้อยู่ห้องS-2  ซึ่งดอกเตอร์บอกว่าห้องSเป็นห้องพิเศษ ที่เด็กที่พิเศษเท่านั้นจะได้อยู่ ส่วนรุ่นพี่ทั้ง3 คนได้ไปเป็นอาจารย์ในโรงเรียน รุ่นพี่โรเวน ได้เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์กับที่ปรึกษาห้องS-2  รุ่นพี่ลอเรนซ์ได้เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองกับที่ปรึกษาห้องS-3 และรุ่นพี่ลูคัสได้เป็นอาจารย์ห้องพยาบาลกับที่ปรึกษาห้องS-1
“พี่โรเวนผมไม่ไปโรงเรียนได้ไหม” ถ้อยคำพร้อมสายตาออดอ้อนสุดๆ
“ทำไมเราถึงไม่อยากไปโรงเรียน”โรเวนที่กำลังเตรียมการสอนสำรับวันแรกหันมาถามเจ้าตัวยุ่ง พร้อมสายตาเอ็นดูแบบทุกครั้ง
“จะให้ไปทั้งชุดเนี้ย เนียนะ ไม่เอาอะ”  เจ้าตัวดี  ตอบ พร้อมทำสีหน้าปันยาก หยังกะเพิ่งมีคนจับกรอกยาขม  ไม่ก็ผลักตกนรกก็ไม่ปราน
“เหมาะกับนายออก” คำเปรยเสียงนุ่มที่ได้รับจากรุ่นพี่ทำให้แม่ตัวดีเริ่มหน้ามุ้ย
“ใส่ๆไปเถอะน่า เหมาะกับนายออก” โรกล่าวชมยิ้มๆ อย่างเห็นด้วยเต็มที่กับคำกล่าวของรุ่นพี่
“งั้นนายใส่ชุดนี้แล้วเอาชุดนายมาให้ฉันใส่แทนดีมะท่านโร”เฟรินทั้งยั้วทั้งย้อนทำโรถึงกับอึ้งไปนิด
แล้วจึงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ชุดนั้นมันเครื่องแบบผู้หญิงก็ต้องให้ผู้หญิงใส่ ชุดนี้มันเครื่องแบบผู้ชายก็ต้องให้ผู้ชายใส่”
“งั้น นายเงียบไปเลยโร” อารมณ์ของสาวน้อยที่อยู่แล้วเดือดยิ่งเดือนมากขึ้นอีก ทำให้เสียงที่กล่าวออกมาห้วน เป็นที่สุด
“นายจะเลิกเรื่องมากได้หรือยัง” เสียงเย็นๆพร้อมกับสายตาที่บงบอกว่าเจ้าเสียงเริ่มจะรำคาญกับการกระทำของเธอขึ้นมานิดๆแล้ว
“แต่” เฟรินเริ่มจะเถียง
“ไม่มีแต่” คาโลตัดบท
เกินความเงียบขึ้นภายในห้อง    ก่อนจะถูกทำลายลงพร้อมผู้มาใหม่
“อ้าวเป็นไรกันอะ เฟรี่ คาลี่ โรจัง โรวี่  ” เสียงกวนประสาทของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรียกสายตาทุกคู่ในห้องให้หันมากมองคนมาใหม่
“จะบอกไหม” เสียงไม่สบอารมณ์ของอีกคนที่คุณก็รู้ว่าใคร สายตาถูกเปลี่ยนมามองที่คนที่สอง
“สงสัยจะเรื่องชุดของเฟรินละมั้งครับ” เสียงนักฆ่าที่เปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักว่าระเบิดแทน สายฟ้าฟาดเปรียงลงมาที่หัวทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องอยู่แล้ว
“เมื่อรู้อยู่แล้วจะถามทำไม” เสียงเฮี้ยม    ดังมาจากเจ้าคนที่ไม่ถนัดความคุมอารมณ์ตัวเอง ทำให้สองรุ่นพี่ที่เข้ามาใหม่  ต้องรีบถอยออกห่างรุ่นน้องคนที่เข้ามาพร้อมกันทันที ส่วนนายรุ่นน้องกลับยังยื่นหยัด อยู่ที่เดิม แถมยังหัวเราะฮึๆในลำคอก่อนตอบกลับไป
“แค่ต้องการความมั่นจาย ม้ายด้ายเหรอ” และน้ำคำที่ตอบกลับก็ยียวนเป็นที่สุด มวยที่ไม่เหมาะสมจึงได้ถูกจัดขึ้นก่อนไปโรงเรียน
หลังมวยจบคนตอนกันจนชุดยับ จึงถูกสงกับห้องไปเปลี่ยนชุดกันโดยด่วนทั้งสองคน  และก่อนที่จะออกบ้านคาโลหันมากำชับเฟรินเรื่องสุดท้าย เพื่อความมั่นใจก่อนไปร.ร. “ตอนแนะนำตัวหวังว่านายคงรู้นะว่าที่นี่นายต้องพูดยังไง” คำพูดทำให้หน้าที่งออยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปอีกนิด หันมาแยกเขี้ยวใส่คนสั่งก่อนตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไรหวังยั้วคนสั่ง “รู้แล้วน่า”
“รู้แล้วน่านะ จะทำหรือเปล่าเฟริน”เพื่อนซี้ที่อัดกันเสร็จมาดๆและยืนฟังอยู่ข้างทักขึ้น
เฟรินหันไปมองหน้าแล้วจึงไขเริ่มความกะจ่างให้ “เรื่องอะไรจะทำ”พูดจบก็เดินไปนำไปก่อนทิ้งคนสองคนที่รู้สึกต่างกัน คนหนึ่งยิ้มขำๆกับคำตอบของเจ้าตัวแสบ ส่วนอีกคนรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจ และไม่สบอารมณ์สักเท่าไร จากนั้นจึงพากันเดินตามเจ้าตัวยุ่งไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อนขึ้นรถไฟใต้ดินไปโรงเรียน
เช้าวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ของโรงเรียนE.D.S นักเรียนมากหน้าหลายตาต่างรีบเร่งไปรวมตัวกันที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียนยกเว้นกลุ่มของเฟริน ที่ต่างพากันไปนั้งใต้ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับตึกเรียนแผนกมัธยมปลาย พวกเขามีธุระที่จะต้องไปพบกับอาจารย์ใหญ่ ก่อนที่จะไปเข้าประชุมอย่างคนอื่นๆ แต่ติดปัญหาอยู่ข้อนึงคือ พวกเขาไม่ทราบว่าห้องของอาจารย์ใหญ่อยู่ตรงส่วนไหนของโรงเรียนแห่งนี้
“แล้วนี้เราจะไปเริ่มหาจากที่ไหนดีละเนี้ย”เจ้าตัวยุ่งกล่าวขึ้นหลังหาที่นั่งของตัวเองได้โดยมีเพื่อนสนิทสองคนขนาบข้าง
“ก็ไม่เห็นยากอะไรนี่ หาคนถามซะก็สิ้นเรื่อง” คิลกล่าวแบบไม่ใส่ใจสักเท่าไรเพราะตัวเองกำลังสนใจเกมใหม่ที่พกมาด้วยจากบ้าน
“แล้วจะให้ใครไปถาม”
“ก็นายนั้นละไปถาม” คิลตอบ
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันอะ”คำถามที่ถูกทำให้คนฟังฟังแล้วเหมือนคำอ้อนมากกว่า
“ก็โรงเรียนนี้เคยเป็นโรงเรียนชายล้วนให้ผู้หญิงไปถามข่าวได้ข่าวเร็วกว่านี่”คำอธิบายจากผู้รอบรู้ประจำกลุ่ม
“คาโลไปถามแทนหน่อยไปไหม” เฟรินส่งสายตาใสๆซื่อๆ ท่าทางออดอ้อนพร้อมเสียงหวานอ่อยๆไปให้เจ้าของชื่อที่ตอนนี้มันมัวสนใจแต่หนังสือใหม่ในมือมากว่าเธอ ทำให้ก่อนกล่าวเธอเลยต้องคว้าชายเสื้อมันมาดึงไว้ในมือก่อน
คาโลละสายตาจากหนังสือเพียงครู่มาที่เธอก่อนจะกลับไปสนใจกับมันใหม่  ทำให้เฟรินถึงกับฉุนหน้าแดงที่การยั้วไม่ได้ผล
“คาโลนายจะไปหรือไม่ไป”ถามเสียงดังลั่นที่บอกได้เลยว่าตอนนี้เจ้าของเริ่มไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก มือที่กำเสื้อไว้เลยได้ปล่อยมันออกไป เปลี่ยนไปกำหมัดควบคุมอารมณ์แทน
“นายนั้นละไป” คำตอบที่ไม่ต้องคิดและไม่ต้องเงยหน้าไปมองเฟรินสักนิดยั้วอารมณ์คนที่เดือดอยู่แล้วให้แย่หนัก
“เออ ฉันไปเองก็ได้ แล้วอย่าตามมาละ”เฟรินโมโหจนหน้าแดงจัด มือน้อยๆทุบโต๊ะหินดังปังพร้อมๆกับ พูดเสียงดังชนิดคนที่อยู่ห่างไป500เมตรก็ยังได้ยิน เสร็จแล้วก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะเดินไปไม่สนใจคนที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวข้างหลังเลยสักนิด
“เฟรินมันเป็นอะไร”คาโลหันมาถามคิลที่ตอนนี้นั้งข้างๆแทน
“นายเป็นแฟนนายยังไม่รู้แล้วรู้ไหม” คิลตอบด้วยสีหน้าที่งงกับอาการของเพื่อนที่เดินจากไปไม่แพ้คน
ถาม
   
“เฟรินมันเข้าสู่โหมดสาวงามอีกแล้วนะ”โรอธิบาย ยิ้มๆ ขำเจ้าคนเก่งทุกอย่างแต่ซื้อบื่อเรื่องผู้หญิงตรงหน้า
“แล้วจะให้ฉันทำไง”คาโลพูดเสียงเรียบแต่สีหน้าไปคนละเรื่อง
“ง่าย นายก็ตามไปง้อสิ”โรอธิบายพร้อมเสียงหัวเราะ นัยน์ตาเจ้าเล่ห์
คาโลถอนหายใจก่อนจะกล่าวตัดบท “เดียวหิวก็กลับมาเองละ” แล้วก็กลับไปสนใจกลับหนังสือในมืออีกครั้ง
   
โรสายหัวอย่างไม่เข้าใจ ส่วนคิลหัวเราะชอบใจแต่ทั้งคู่ก็คิดเหมือนกันอยู่ข้อคือ ถ้ามันยังทำตัวอย่างนี้อีกหน่อยจะไปรอดหรือเนี้ย
   
คนบ้า คนซื่อบื้อ คอยดูนะถ้าไม่มาง้อ จะไม่คุยด้วยเลยคอยดู  ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มโว้ย  แล้วนี้ตรงไหนของโรงเรียนละเนีย  แล้วจะให้ไปถามใครละเนี้ย  โอ้ยอยากจะบ้าตาย ไอ้พวกนั้นมองอะไรไม่เคยเห็นคนหรือไงวะ คำบนยาวเยียดที่ดังได้แต่ในใจ ทำให้หน้าสาวน้อยงอหงิกเข้าไปใหญ่ เดินจ้ำเอาจ้ำไม่ดูทงไม่ดูทางแล้วตอนนี้
สาวน้อยหน้ารักในโรงเรียนที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสหได้ไม่นาน โดยเฉพาะยามที่เดินคนเดียวไม่มีหนุ่มที่ไหนเดินเป็นเพื่อนแล้วยิ่งเป็นที่สนใจของหนุ่มทั้งหลายอย่างมากอยู่แล้ว แต่ถึงอยากเข้าไปทักสักเท่าไรก็ติดอยู่ที่สีหน้าไม่ค่อยจะอารมณ์ดีของเจ้าหล่อนนั้นละที่ทำให้กำลังใจหดหายไปหมด  สาวเจ้ายังคงเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจใครจะกระทั้ง
โครม!
“โอ้ย !” สาวน้อยน่ารัก หน้าตาบูดตอนนี้ไปนั้งจุมปุกอยู่ที่พื้น
“เป็นไรมากไหมครับ”น้ำเสียงนุ่มสุภาพพร้อมมือที่ยื่นมาช่วยฉุดเฟรินให้ลุกขึ้นมาจากชายหนุ่มที่น่าจะอายุมากกว่าเธอสักปีได้ เขาเป็นที่หน้าตาดีมาก ผมสีทองซอยสั้นเข้าทรงรับกับใบหน้าคม นัยน์ตาสีฟ้า ผิวขาวสะอาดสะอาน
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” เฟรินกล่าวหลังจากได้รับการช่วยเหลือให้ลุกขึ้นเรียบร้อย
“ผมดาฟเน่ เฟรย่า ฮาฟ ไรเดอร์ อยู่ ปี3 ห้องเอส เรียกง่ายว่าเฟรย่า  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เขาแนะนำตัวอย่างสุภาพก่อน
“ฉันเฟลิโอน่า เกรเดเวล ปี2 ห้อง เอส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” เจ้าตัวดียิ้มหวานตอบและไม่ลืมใช้คำพูดแบบที่คาโลกำชับหนักกำชับหนา กับรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักคนนี้
“อยู่ห้อง2เอส แล้วทำไมพี่ไม่เคยเห็นเธอเลยละ แล้วชื่อเฟลิโอน่านี่เคยได้ยินที่ไหนนะ”เฟรย่าเริ่มเข้าสู่โหมดความคิดส่วนตัวเพื่อค้นหาคำตอบที่สงสัยในใจ แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรออกเฟรินก็ขัดขึ้น
“เออ ไม่ทราบว่าพี่ พอจะทราบทางไปห้องอาจารย์ใหญ่ไหมค่ะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตที่สวมหน้ากากฟาโรห์ ส่งสายตาแสนซื่อที่ทำให้คนมองอดที่จะนึกเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้ ก่อนที่จะนึกเรื่องหนึ่งได้
“นึกออกแล้วเธอคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ยายลอรี่ตามหาอยู่นี่เอง”
“ลอรี่!”เฟรินทวน  นัยน์ตาสีน้ำตาฉายแววสงสัยลึกๆแต่ก็ไม่ได้เอยอะไรมากไปกว่านั้น
“อืม เพื่อนพี่เองมีอะไรหรือ”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”เฟรินปฏิเสธด้วยรอยยิ้มซื่อทั้งที่ใจจริงยังติดใจกับชื่อที่คุ้นหูชื่อนั้นอยู่มากก้ตาม
“เราไปหายายลอรี่กันดีกว่า รู้สึกว่าจะอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนนะถ้าพี่จำไม่ผิด”นัยน์ตาคู่สวยสีฟ้าน้ำทะเลคู่สวยยังคงฉายแววเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าอย่างมาก น้ำเสียงทุมนุ่มใจดี กับมือที่เอือมมาจับมือเฟรินให้เดินตาไปการกระทำที่ผิดกับใครบ้างคน ที่เฟรินยังนึกโมโหว่าทำไมมันไม่ยอมตามมางอสักที่ ทำให้เฟรินยิ่งรู้สึกถูกใจกับพี่ชายคนใหม่อย่างมาก (แต่ในแบบพี่ชายนะ)
“ลมอะไรพัดนายให้เดินกลับมาที่ประตูโรงเรียนได้นี่เฟนี่”คำยั้วจากเสียงหวานๆ ของสารวัตร นักเรียนคนสวยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าประตูโรงเรียนดังขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินตรงกลับมาอีกรอบพบตัวเองอีกครั้ง
“ทำเป็นพูดดีไปลอรี่ ฉันก็ไม่ค่อยอยากเดินมาหาแกเท่าไรหรอก”คำย้อนชวนปวดหัวจากรุ่นพี่ที่เฟรินเพิ่งนึกชอบใจไปหยกๆ
“แล้วกับมาทำไมจ๊ะ”สาวสวยยังเล่นไม่เลิกอย่างอารมณ์ดี
“พาเด็กใหม่ที่แกกำลังหาอยู่มาส่ง”พูดเสร็จก็ขยับให้เพื่อนได้เห็นหน้าเฟริน
เมื่อสาวสวยเห็นเฟรินเธอก็ส่งยิ้มหวานมาให้ ตามด้วยการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“พี่ชื่อลอเรีย บาวานี่ย์ ชื่อเล่น ก็ลอรี่อย่างที่เธอได้ยินไอ้เฟนี่มันเรียกนั้นละ”
เฟรินที่ได้เห็นหน้าของสาวสวยตรงหน้าก็ถึงกะอึ้งทึ่งจนค้าง ตอนแรกคิดว่าคล้ายกันแค่ชื่อที่ใช้เรียนกันเล่นๆ แต่นี้ชื่อจริงก็คล้ายแถมหน้าตาก็เหมือนอย่างยังเหมือนกันยั่งกะแกะ กับรุ่นพี่คนที่ยิ้มยากแสนยากและอารมณ์เสียเป็นนิจคนนั้น มันช่างต่างกันก็แค่พี่สาวคนนี้ยิ้มหวาน และถ้าจะอารมณ์ดีเป็นนิจ ราวสวรรค์ กะนรกก็ไม่ปาน
“นี่ น้องหนูไม่คิดจะแนะนำตัวให้พี่รู้จักหรือจ๊ะ”เสียงหวาน กึ่งเล่นกึ่งจริงเรียกสติเฟรินให้กลับมาก่อนจะรีบแนะนำตัวกับพี่สาวตรงหน้า
“หนูเฟลิโอน่า เกรเดเวล ปี2 ห้อง เอส ชื่อเล่นเฟรินค่ะ”สีหน้าตื่นๆอายๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลดูกลัวๆพี่สาวตรงหน้าเล็กน้อย ทำให้คนเป็นพี่นึกเอ็นดูจนอยากแกล้งเด็ก
ลอรี่ยิ้มหวานพร้อมเปรย“พวกเบบี่ แล้วก็นิวธีสเชอร์ที่เหลืออยู่ที่ไหนจ๊ะ”
ภายนอกพี่ลอเรนซ์ ภายในมันพี่ลูคัส ชัดๆความคิดที่ต้องเก็บงำไว้ในใจ  งัดเอาหน้ากากฟาโรห์มาใช้อีกรอบ ยิ้มซื่อๆแล้วตอบออกไป
“อยู่ที่ม้านั้งใต้ต้นไม้ข้างตึกมัธยมปลายค่ะ”
พี่สาวยิ้มมากขึ้นอีกกับคำตอบที่ถูกใจ จากนั้นก็หันไปพูดอะไรสักอย่างกับพี่เฟรย่า 
“เฟรินเดียวเธอไปกลับลอรี่นะ พี่จะไปทำธุระนิดหน่อยไว้เจอกันค่อยเจอกันใหม่ ” เฟรย่าหันมาพูดกับเฟรินก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“เฟรี่จังเราได้เวลาไปหาคนอื่นกันแล้วละเดียวจะสาย”กล่าวจบก็จัดการคว้ามือเฟรินลากไปหากลุ่มเป้าหมายที่รออยู่ทันที
“อยู่นั้นไงค่ะ”
เสียงใสของเฟรินดังมาก่อนตัว คิลที่นั่งเล่นเกมรออยู่ วางเกมลงกะจะบ่นเฟรินที่ไปนาน
“ในที่สุดก็กลับมะ”แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็อึ้งจนพูดต่อไม่จบไปเฉยๆเป็นคนแรก
“เป็นอะไรไปคิล”โรที่จิบน้ำชาที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
“........................”ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
“คิล!” โรเสียงดังมากขึ้น
คิลไม่ตอบแต่หันมาปุยใบ้ให้ทุกคนหันไปมองที่เดียวกัน โรเห็นว่าแปลกๆจึงหันไปมองตามแล้วก็อึ้งเงียบไปอีกคน
“ฉันพาคนนำทางมาให้แล้ว พวกนายเป็นอะไรไป”นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตส่งคำถามมาให้เพื่อนสองคนที่อึ้งจนแข็งไปแล้ว
“เฮ้!” เฟรินพยายามเรียกสติเพื่อน ที่ตอนนี้แข็งเป็นหินอย่างกับเจอเมดูซ่าไปวะแล้ว
“ปล่อยมันไปถะ”คาโลที่เริ่มรำคาญหันมาพูดขัดแต่ก็พูดไม่จบอึ้งเป็นรูปสลักน้ำแข็งไปอีกคน และไม่ต้องถามถึงพี่ชายอีก 3คนที่เหลือ พวกเขาอึ้งจนแข็งตั้งแต่หันมาสนใจกับสิ่งที่คิลเรียกให้ดูแล้ว
“นี่ทุกคนเป็นอะไรกัน” เฟรินเริ่มรำคาญระคนห่วงอาการของทุกคนในกลุ่ม
“นี่! คาโล คิล โร พี่ๆได้ยินม้ายยยย”เจ้าตัวยุ่งแผดเสียงดัง  สูง หวังเรียกสติทุกคนให้กลับมา  (ในสภาพที่ต้องปวดแก้วหูไปตามๆกันแน่)
“โอ๊ย  นายไม่ต้องเสียงดังก็ได้เฟริน” คิลบ่นหลังได้สติจากเสียงแปดหลอดของเฟริน
“พวกนายเป็นอะไรกัน”เฟรินยิงคำถามเมื่อเห็นว่าทุกคนได้สติกันหมดแล้ว
“ก็กำลังอึ้งนิดหน่อยกับคนที่ตามหลังเฟรี่มานะสิ”ลูคัสยังคงพูดกวนประสาทแม้ว่าตอนนี้ยังเอามือนวดหูที่ปวดอยู่ก็ตาม
“คนที่ตามมา”เฟรินทวน กันไปมองพี่สาวที่เดินมาด้วยกัน ก่อนถึงบางอ้อ แล้วนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ตัวเองเจอพี่คนนี้ตอนแรกก็อึ้งไม่แพ้กัน
“ลอรี่ ฉันจำได้ว่านายไม่มีพี่น้องนี่”ลูคัสเปรย พร้อมส่งยิ้มกวนให้ลอเรนซ์
“ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้นะลูคัส    แล้วก็ถ้ายังเรียกชื่อฉันผิดๆอีกนายได้ตายสมใจแน่” ลอเรนซ์พูดเสียงเฮี้ยม และเริ่มกลับมาอารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจลอรี่” น้ำเสียงถูกทำให้ฟังแล้วเศร้านิหน่อย ออกกวนมากกว่ากับสีหน้าที่แสร้งทำว่าเสียใจสุดๆจริงๆ
เฟียว ! โป๊ก ! (ไม่ใช่ฉึกแหะ)  เสียงในใจของเหล่าผู้รู้เรื่องนี้เป้นอย่างดี เพราะคุ้นเคย
“เจ็บนะลอรี่ ปาชอล์กมาได้”ลูคัสร้องขึ้นเมื่อหลบก้อนชอล์กที่เล็กว่ามีดไม่พ้น(อ๋อ  เพราะอยู่ในโรงเรียนและยังเป็นอาจารย์ห้ามพกอาวุธเลยเปลี่ยนจากมีดเป็นชอล์กแทนนี่เอง)  คำอธิบายในใจของเหล่าผู้รู้เรื่องดีที่ให้กับตัวเอง
“อยากได้อีกไหมละ”ลอเรนซ์พูดเสียงจริงจังกว่าเก่า คราวนี้มียิ้ม เฮี้ยมๆ แถมให้ด้วย
“ไม่แล้วจ้า”ลูคัสพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน เหมือนลูกหมาจะถูกทิ้ง มาให้
“พี่สาวคนนี้ชื่อลอเรีย บาวานี่ย์ ฮะ”เฟรินแนะนำตัวแทนลอเรียหลังจากจบสงครามเล็กๆระหว่างคู่หูเอลสงบลง และแถมด้วยการแนะนำตัวแทนทุกคนอีกเช่นกัน ตั้งแต่คาโลที่อยู่ใกล้สุด ต่อมาก็ คิล โร โรเวน และลูคัส ลอเรียก็ทักทายกับทุกคนอย่างดีไม่มีปัญหาจนกระทั่งเฟรินแนะนำลอเรนซ์ให้ลอเรียรู้จักจึงเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ อาจารย์ลอเรนซ์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หนูเป็นสารวัตรนักเรียน ที่จะมาปฏิบัติงานภายใต้การดูแลของอาจารย์ หวังว่าเราคงจะทำงานรวมกันอย่างไม่มีปัญหาค่ะ”ลอเรียยิ้มหวานให้ลอเรนซ์ แม้ว่าตอนที่เฟรินแนะนำให้รู้จักเธอจะอึ้งเล็กน้อยที่หน้าตาและชื่อเรียกเล่นของลอเรนซ์เหมือนเธอ แถมชื่อจริงยังมาคล้ายกันมากๆอีกแต่นั้นไม่ใช่ปัญหาจนกระทั้ง
“ยินดีที่ได้รู้จัก แค่เธอไม่มาสร้างปัญหาให้ฉันก็ขอบคุณมากละ”ลอเรนซ์ทักทายตอบเสียงเย็น ส่วนประโยคหลังน้ำเสียงจริงจังขึ้น เขาสังหรว่าเจ้าหล่อนที่หน้าตาเหมือนเขาแต่นิสัยกลับเหมือนเจ้าเพื่อนตัวยุ่งมันจะทำเขาปวดหัวในไม่ช้าแน่ๆถ้าต้องร่วมงานกัน และถ้าไม่รีบปรามคงได้ยุ่งเป็นแน่
อวดดีชะมัด  คิดว่าตัวเองเป็นอาจารย์แล้วใหญ่มาจากไหนยะ  นี่เราทำบาปอะไรมานี่ถึงต้องเกิดมาหน้าตาเหมือนนายนี่ แล้วยังต้องมาทำงานร่วมกับมันอีก  หวังว่าตอนเรียนคงไม่ต้องเจอมันนะ 
เสียงบ่นยาวเยียดที่ดังได้แต่ในใจของลอเรียที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะงอตามลอเรนซ์เข้าไปอีกคน
กันได้หรือยังค่ะ”เฟรินสังเกตว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีเลยรีบขัดขึ้น
ลอเรียหันมายิ้มหวานให้เฟรินอีกครั้ง
“จ๊ะเฟรี่จัง”จากนั้นก็หันไปยิ้มให้คนอื่นๆด้วยเช่นกันยกเว้นลอเรนซ์ที่เธอไม่มองหน้าด้วยซ้ำ เธอเดินนำทุกคนไปส่งให้อาจารย์ใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อทุกคนได้พบกับอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว พวกพี่โรเวนที่ต้องมาทำงานเป็นอาจารย์ก็แยกเดินตามอาจารย์ใหญ่ไปอีกทาง  ส่วนพวกเฟรินก็เดินตามลอเรียไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนใหม่ห้องเอสที่หอประชุมรวม แล้วลอเรียก็แยกกลับออกไปทำหน้าที่ต่อ พวกเฟรินเลยต้องไปหาที่นั่งตรงที่นั่งของห้อง2เอสกันเอง
\"พวกเธอคือเด็กใหม่ที่เขาพูดถึงกันใช่ปะ\"เสียงใสฟังหาวดูหาวนิดๆ ทักขึ้นหลังจากเจ้าตัวยุ่งเลือกนั่งลงข้างๆเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่จัดว่าเป็นคนที่สวยทีเดียว ใบหน้ารูปใข่ ผิดขาวหุ่นดี  นัยน์ตาสีน้ำทะเล ผมยาวประบ่าสีกรมเข้ม ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มบ่งบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย
\"ฉัน ไนเลฟ บาคาเอล เรียกไนฟ์ ก็ได้ แล้วนี่ พี่ชายฝาแฝด ชื่อเฟมินิน บาคาเอล\"
\"ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่าเฟมดีกว่านะ จะได้ดูสนิดกันดี\"
เฟมยิ้มให้เพื่อนใหม่ก่อนกล่าวแซวนิดๆ \"แล้วพวกคุณไม่คิดจะแนะนำตัวหรือครับ\"
รอยยิ้มที่เฟรินคิดว่ามันกวนประสาทเบื้องล่างไม่น้อย แต่เธอก็ยังยิ้มหวานยั้วยวนตอบกับ\"เฟลิโอน่า เกรเดเวน ค่ะแต่เรียกเฟรินก็ได้\"
\"อีกสามคนนั้นก็เพื่อนเฟลิน่าจังใช่ไหมจ๊ะ\"ไนฟ์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบุคคลที่เหลือยังไม่ยอมแนะนำตัวสักที
เฟรินสะดุ้ง  หน้างามๆขึ้นสีน้อยๆกับการเรียกชื่อของไนฟ์ อย่างเดาอารมณ์ไม่ออก หันไปมองหน้าเพื่อนแสบที่นั่งข้างเธอที่ตอนนี้กำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดกำลังกับชื่อใหม่ที่เพื่อนใหม่ตั้งให้เจ้าตัวยุ่งของพวกเขา แล้วทอดมองต่อไปที่แฟนน้ำแข็งที่ตอนนี้มันก็เอากับเพื่อนมันด้วย ไล่ไปถึงห้องสมุดเคลือนที่ แต่ต้องแปลกใจที่มันไม่หัวเราะเธอ แต่กลับยิ้มน้อยๆตอบมาแทน เจ้าตัวยุ่งเลยต้องทำใจและหันกลับไปตอบคำถามเพื่อนใหม่
\"ใช่ มันสามคนเป็นเพื่อนฉัน  คนผมดำนี่ คิล ฟิลมัส  คนต่อไปผมเงินนั่น คาโล วาเนบลี  และคนผมน้ำตาลคนสุดท้านนั่นโร เซวาเรส\" พูดจบก็ถอนหายใจกลับอาการของสามคนที่เธอเพิ่งแนะนำให้เพื่อนใหม่รู้จักก่อนจะหุบปากเงียบผิดวิสัยเพราะไม่อยากได้ยินชื่อใหม่ที่ไนฟ์เพิ่งตั้งให้เธออีกรอบตอนนี้
\"พวกนายย้ายมาจากโรงเรียกไหน\" เฟมถามขึ้นด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็นมากก่อนเปรยต่อ \"คงไม่ใช่โรงเรียนพระราชเอเดินเบิร์กหรอกนะ \"ว่าแล้วก็หัวเราะเอาเป็นเอาตาย
ชื่อโรงเรียนที่พวกเขาเพิ่งจากมาไม่นาน คนพวกนี้รู้จักได้ยังไงในเมื่อมันเป็นโรงเรียนคนละมิติกับโรงเรียนแห่งนี้ ความคิดที่ก่อตัวในใจของนักเรียนใหม่ทุกคน แต่ยังไม่มีใครตอบอะไรออกไป แล้วแฝดผู้น้องของเฟมก็แทรกขึ้น
\"คิดได้ไงว่าพวกเฟลิน่าจังมาจากเอดินเบิร์ดนะพี่  โรงเรียนนั้นมีในโลกซะที่ไหนละ ถ้าในหนังสือละก็ว่าไปอย่าง\"
คำตำนิกับหน้าตาที่ไม่สบอารมณ์ที่หาได้ยากจากน้องสาวสุดที่รัก ทำให้คนเป็นพี่ยิ้มน้อยๆ  ก่อนไขความกระจ่างให้น้องและเพื่อนใหม่ที่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจกลับกำลังจดจ่อรอคำตอบอยู่แบบแทบทนไม่ได้
\"ก็ชื่อพวกนายมันเหมือนชื่อตัวละครในหนังสือหัวขโมย แห่งบารามอสที่ฉันชอบนี่นา\"พูดแล้วก็หัวเราะออกมา
\"ทั้งชื่อ ทั้งสกุล แล้วยัง เขาเงียบไปนิดอย่างยั้วคนฟังให้อยากรู้มากขึ้น รูปร่างหน้าตา ไม่ว่าจะสีผม สีตาเหมือนที่คุณแร๊ปบิทบรรยายไว้ไม่มีผิด ว่าแต่พวกนายมาจากที่ไหนละ\"เขายังคงยืนยันจะกลับมาถามคำถามเดิม ที่อยากรู้
ตอนนี้พวกเฟรินเชื่ออย่างหมดใจแล้วว่าพวกเขามาจากคนละมิติ แต่พวกเขาจะบอกได้ยังไงว่าพวกเขามาจากเอดินเบิร์ด แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไปเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นเมื่อมีคนมาประกาศว่าอาจารย์ใหญ่ได้มาถึงที่ประชุมแล้วให้นักเรียนทุกคนอยู่ในความสงบ  พวกเขาเลยรอดตัวไม่ต้องตอบและกลับไปเงียบฟังอาจารย์ใหญ่กล่าว
\"สวัสดีนักเรียนที่รักทุกคน ครูดีใจมากที่ได้มาเจอพวกเธออีกครั้ง วันนี้ครูมีเรื่องจะมาแจ้งให้พวกเธอทราบ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือในอาทิตย์ หน้าโรงเรียนจะมีการจัดนิทัศการณ์วันครบรอบโรงเรียนครบ100 ปี ดังนั้นจึงไม่มีการเรียนการสอนในอาทิตย์นี้เพื่อที่นักเรียนแต่ละห้องจะได้เตรียมงานสำหรับอาทิตย์หน้าจ๊ะ\"
ข่าวแรกของอาจารย์ใหญ่เรียกเสียงเฮ จากนักเรียนได้ทั้งห้องประชุม ไม่เว้นแม้นักเรียนใหม่อย่างเฟริน จนตั้งมีคนออกมาประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
\"เรื่องที่สอง พวกนักเรียนเก่าคงจะทราบแล้วว่าเทอมที่แล้วมีอาจารย์ออกไปสามคน วันนี้ครูเลยจะมาแนะนำพวกเขาให้พวกเธอรู้จัก\"
ครูใหญ่ยิ้มให้นักเรียนก่อนจะหันขอให้ผู้ช่วยช่วยเรียกอาจารย์ใหม่ออกมาแนะนำตัว เมื่ออาจารย์ใหม่เดินออกมาครบก็เรียกเสียงโฮ่ดังจากนักเรียนชายที่เสียใจว่าไม่ใช่อาจารณ์ผู้หญิงอยู่ไม่น้อย ปนกับเสียงกรีดร้องดังด้วยความ
ดีใจสุดๆของนักเรียนหญิงที่ได้อาจารณ์ใหม่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อถึงสามคน กลุ่มคนที่ไม่แสดงอาการออกมาเห็นจะมีแต่พวกเฟรินที่รู้จักอาจารณ์ใหม่พวกนั้นดีเท่านั้นเอง
\"เอานักเรียนที่รักทั้งหลายโปรดอยู่ในความสงบอีกเดียวครูจะปล่อยแล้ว\"เมื่อเสียงอาจารย์ใหญ่จบห้องประชุมก็กลับมาสงบเหมือนเก่าอาจารย์ใหญ่ถึงกลับถอนหายใจ เมื่อทั้งห้องสงบลงแล้วจริงกลับมาพูดต่อ
\"อาจารย์ โรเวน ฮาเวิร์ดจะมาสอนคณิตศาสตร์ มอปลาย แทนอาจารย์ จินนี่ ที่ออกไป  อาจารย์ลอเรนซ์ ดอร์นจะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองแทนอาจารย์ คิมปัส  แล้วก็อาจารย์ลูคัส ซาโดเรีย จะมาเป็นอาจารย์ห้องพยาบาลแทนอาจารย์ มาเรีย เรื่องที่ครูจะแจ้งก็มีแค่นี้จ๊ะใครจะไปไหนก็เชิญตามสบาย แต่อย่าลืมงานอาทิตย์หน้าละ\" กล่าวจบอาจารย์ใหญ่ก็ออกจากห้องไปพร้อมกับอาจารย์ใหม่ทั้งสาม พอพวกอาจารย์ออกไปนักเรียกก็ทะยอยกันออกจากห้อง พวกเฟรินก็ทำท่าว่าจะออกไปเหมือนกันแต่ไนฟ์ก็เรียกไว้ก่อน
\"เฟลิน่าจังมีโปรแกรมไปไหนหรือยัง\" ไนฟ์ถามพร้อมรอยยิ้มหวาน
เฟรินทำหน้างงกับคำถามนิดหน่อยตอบออกไปพร้อมคำถาม \"ยังทำไมเหรอ\"
\"เปล่าถ้ายังไม่มีไปกับพวกเราไหมละ เดียวพวกเราพาชมโรงเรียนเอง\"ไนฟ์พูดพร้อมเสนอตัวช่วยเต็มที่ นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรก่อนจะหันไปส่งสายตาเป็นคำถามให้พวกเพื่อนที่มาด้วยกัน
คาโล  คิลและ โร เมื่อได้รับสัญญาณเอสโอเอสจากเฟรินกันส่งสายตาเป็นคำถามให้กันก่อนจะหันหน้ามาผยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย กับข้อเสนอที่ได้รับโดนไม่มีใครว่าอะไร(พวกนี่นี่แค่ส่งสายตาก็คุยกันรู้เรื่องแล้วเฮะ  0_o)
\"ตรงลง พวกฉันจะไปกลับพวกเธอ\"เฟรินหันกลับมาตอบไนฟ์ด้วยรอยยิ้มหลังจากปล่อยให้ไนฟ์ต้องรอนาน
\"ว้าว ดีใจจังที่เฟลิน่าจังยอมไปกับพวกเราด้วย\"เฟมพูดขึ้นข้างๆเฟริน พร้อมกับเอามือโอบไหล่เฟรินทันที่ ที่พูดจบ (มาตอนไหนเนีย 0_0)
คาโลเมือเห็นการกระทำของเฟมที่ทำกับเฟรินก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า และด้วยแรงหึง จึงรีบเดินมาดึงเฟรินออกจากเฟมทันที่ พร้อมกำคำพูดเบาที่ให้เฟมได้ยินเพียงคนเดียวว่า \"ของๆฉัน นายอย่ายุ่ง\" 
\"เออ ไนฟ์เราจะไปกันได้ยัง\"คิลที่สังเกตเห็นความแปรปวนของสภาพอากาศในห้องที่เริ่มจะเย็นขึ้นมาทันไดจึงรีบชวนทุกคนให้ออกจากห้องประชุมโดยด่วน
\"จ๊ะงั้นตามมาเลย\" ไนฟ์ยังคงยิ้มหวานอารมณ์ดีไม่รับรู้สักนิดกับสภาพการภายนอกที่เขากำลังจะรบกันอยู่แล้ว จากนั้นจึงเดินนำออกจากห้องไปคนแรก ตามด้วย โร คิล คาโลกับเฟริน ที่จับมือกันอยู่ 
ของๆฉันนายอย่ายุ่งงั้นเหรอ  หึนึกว่ารักแรกพบมันตัดใจได้ง่ายๆหรือไงคาโล ระวังไว้ให้ดีละ  ความคิดที่เรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ปรากฏบนใบหน้าอันหล่อเหล่าของเฟม ก่อนที่เขาจะเดินตามเพื่อนออกจากห้องประชุมไป
\"ตึกที่อยู่ทางทิศใต้ของหอประชุมแห่งนี้เป็นตึกเรียนรวมของฝ่ายมอปลาย\"ไนฟ์อธิบายไปเรื่อยเกียวกับโรงเรียนE.D.Sโดยไม่สนใจกลุ่มผู้ที่เดินตามมาข้างหลังแม้แต่น้อย
\"เฟลิน่าจังตอนเที่ยงไปทานข้าวกับผมสักมือได้ไหมครับ\"นัยนืตาสีน้ำทะเลฉายแววจริงจัง
\"ไม่ได้เฟรินจะไปทานกลับพวกฉัน\"คาโลขัด สีหน้าและน้ำเสียงบอกได้คำเดียวว่าตอนนี้อารมณ์บ่อดีสุดๆ
\"ฉันบอกนายตอนไหนเหรอจ๊ะ คาโล\" น้ำเสียงหวานยั้วยวน นัยน์ตาสีน้ำตาลระริก มองตรงไปที่นัยน์ตาสีฟ้าตรงๆอย่างท้าทาย
\"เฟริน!\"คาโลเริ่มเสียงดุ  นัยน์ตาสีฟ้าดุไม่เหลือเค้าความเย็นชา
\"ไม่เอาน้า คาโล แค่กินข้าว\" ตาสีน้ำตาลยังคงฉายแววสนุก ไม่เกรงกลัวสักนิด ยิ้มหวานมากขึ้น
\"ถ้าคาโลเขามีปัญหาก็ไว้คราวหน้าก็ได้ครับเฟลิน่าจัง\" นัยน์ตาของเฟมลู่ลงเล็กน้อย
\"ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ว่างอยู่แล้ว\" เฟรินหันมาตอบพร้อมยิ้มหวานให้เฟม
\"ขอบคุณครับ\"เฟมยิ้มตอบเฟริน แล้วก็หันไปส่งนัยน์ตาอย่างผู้ชนะท้าทายคาโลซึ่งๆหน้า
นัยน์ตาสีฟ้ารับคำท้าเฟม ก่อนที่ความคิดนึ่งจะทำให้รอยยิ้มที่หาได้ยากผุดขึ้นมาบนใบหน้า เขาหันมาจ้องหน้าสาวน้อยข้างตัว นัยน์ตาสีฟ้าระริกออกจะเจ้าเล่ห์ ทำให้ใบหน้าสาวน้อยขึ้นสีแดงจังหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถอยหลังไปไม่รู้ตัว
\"นายอย่าทำอะไรบ้าๆตอนนี้นะคาโล\" เสียงหวานสั่นเครืองเล็กน้อยด้วยรู้สึกกลัวคนข้างกายขึ้นมาทันได ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มยิ้มมากขึ้นด้วยความเอ็นดูสาวน้อย และก่อนที่เธอจะถอยห่างจากเขามากกว่านี้ มือของเขาก็คว้าเอวสาวน้อยเข้ามาแนบชิด 
หน้าที่จะหายแดงยิ่งแดงมากขึ้น ดิ้นคลุกคลักภายในวงแขนปากก็บ่นไม่หยุด \"ปล่อยนะ คาโล ปล่อยเดียวนี้นะ\"
\" ไม่\" คำปฏิเสธสั่นและเข้าใจง่าย ก่อนที่ใบหน้าคมคายนั้นจะโน้มเข้ามาใกล้และหอบแก้มสาวน้อยแรงๆหนึ่งทีต่อหน้าเพื่อน
\"คาโล!\"เฟรินเสียงดัง ตอนนี้อายไม่รู้จะอายยังไงแล้ว นัยน์ตาโตสีน้ำตาคู่โตฉายประกายไม่พอใจการกระทำของชายหนุ่มสักเท่าไร
\"คาโลคราวหน้าครางหลังจะทำอะไรก็บอกกันมั่งสิวะ\"คิลพูดขึ้นหลังจากหายอึ้งจากการกระทำอันกล้าหาญของเพื่อนซี้ กลับมาหัวเราะชอบใจแทน
\"ใช่ พวกฉันยังไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะโว้ย\"โรแซว ยิ้มๆ
คาโลเพียงแค่หัวเราะตอบคำแซวเพื่อน มือเปลี่ยนจากคล้องเอวมา โอบรอยคอสาวน้อยแทน แล้วจึงตอบกลับเพื่อน \"ฉันก็แค่อยากแสดงความเป็นเจ้าของนิดหน่อยก็เท่านั้น\"พูดจบก็หันมาสบตาเฟมด้วยสายตาแห่งผู้ชนะแบบว่าฉันเท่านั้นโว้ยที่แบบนี้ทำได้
นัยน์ตาสีน้ำทะเลมีเพียงแค่ความเย็นชาสุดๆกลับไปให้ ก่อนเปรยเสียงเรียบ \"ฉันไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก\"
\"นี่พวกนายฟังที่ฉันพูดบ้างหรือปล่าวเนีย\" ไนฟ์ที่หันกลับมาดูเพื่อนข้างหลังว่ายังตามมาหรือปล่าวและเมื่อรับรู้ว่าไม่มีใครฟังที่เธอพร่ำบอกไปเลยก็เลยเริ่มไม่พอใจ เสียงหวานเลยเริ่มดังมากขึ้น
\"ฟังสิจ๊ะ ฉันหิวแล้วเราไปที่โรงอาหารกันดีกว่านะ\"เฟรินสะบัดตัวหลุดจากวงแขนของคาโลก่อนที่จะเดินมาจำมือไนฟ์เร่งให้ไปที่โรงอาหารโดยด่วน
\"อืม จ๊ะ ตามมาทางเลยเฟลิน่าจัง\" ว่าแล้วทั้งสองสาวก็เดินนำหน้ากลุ่มหนุ่มไป
\"เฮ้ย คาโล กินข้าวก่อนสงครามไว้ทีหลัง\"คิลที่เดินมาตบบ่าคาโลก่อนแซว
\"นั้นดิ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะโว้ย\"โรเอ่ยด้วยความเห็นด้วยแล้วก็ตบบ่าคาโลมั่ง
คาโลถอนใจ ก่อนจะเดินไปพร้อมๆกับกับเพื่อน
เฟมที่เฝ้าดูเหตุการณ์ถอนใจมั่ง ในหัวยังยืนยั้นเรื่องที่เขาต้องการ
กลับตัวเองอีกครั้งแล้วจึงเดินตามกลุ่มนำไป
\"ไงไนฟ์วันนี้ลมอะไรพัดเธอมาถึงโรงอาหารได้เนีย ทุกทีเห็นกินข้าวกล่องที่สวนกลางนี่\" เสียงใส หวานชวนฟังดังขึ้นเมื่อพวกเธอเดินเขามาในโรงอาหารกลาง
หญิงสาวในเครื่องแบบนักเรียนห้องสองเอส  ผมสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเล หน้าตารูปร่างสวยใช้ได้ แต่ไม่เท่าเฟริน กับไนฟ์ ถามขึ้นจากโต๊ะใกล้ๆกับประตูทางเข้าโรงอาหาร
\"นึกว่าใครที่แท้ก็ยายลิเนย่า พากิ้น นี้เอง\"ไนฟ์เปรยเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไร
\"นั้นใครเหรอไนฟ์\" ลินนี่ยังถามต่อไปเรื่อยๆ
\"อ้อ นักเรียนใหม่ที่เขาพูดถึงไง ชื่อเฟลิโอน่า เกรเดเวน ชื่อเล่น เฟลิน่า\" ไนฟ์ตอบ
\"ชื่อเล่นฉันชื่อเฟริน ไม่ใช่เฟลิน่า ไนฟ์\" เฟรินแก้
\"ว้าว หนุ่มรูปหล่อ หน้าใหม่สาวคนข้างหลังนั้นใครเหรอ แนะนำมั่งสิ\" ปากว่าสาม แต่สายตากับมองคาโลตาไม่กระพริบ ไม่วางสายตา
\"คาโล วาเนปลี  คิล ฟิลมัส แล้วก็โร เซวาเรส\"ไนฟ์ยังคงแนะนำไปเรื่อยๆเรียบๆ ไม่ใส่ใจเท่าไร
\"ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ\" ลินนี่ยิ้มหวาน นัยน์ตาเชิญชวนคาโลสุดฤทธิ์สุดเดช แต่คาโลก็ไม่สนใจ ตอนนี้ขาสนใจแต่เจ้าตัวยุ่งที่ตอนนี้แทบจะรอไปกินข้าวไม่ไหวแล้ว ทำให้ลินนี่ แทบอยากกรี๊ดดังๆ แต่ก็ได้แต่เก็บอาการแล้วยิ้มเข้าไว้เท่านั้นเอง
\"พวกเราหิวข้าว ขอตัวไปกินข้าวกันก่อนนะ\" ไนฟ์ตัดบท จากนั้นพวกเขา ก็พากันเดินไปซื้ออาหารและหาที่นั่งที่ห่างจากโต๊ะของลินนี่แบบว่าไกลกันมากๆ ทางด้าน ลินนี่เมื่อกลุ่มผู้มาใหม่เดินจากไปเธอก็รีบวิ่งออกจากโรงอาหาร ไปหาที่ๆปลอดคน จากนั้นเธอก็กรี๊ดเสียง ดังอย่างอดไม่อยู่ปากบ่นพึมพำ
\"ค่อยดูนะยายเฟลิโอน่า ฉันไม่ยอมแพ้เธอหลอก\"
   
ในบ้านหลังใหม่ ข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ทุกคนดูจะเป็นที่ถูกออกถูกใจเป็นอย่างมาก    เฟรินเองก็ถูกใจบ้านใหม่หลังนี้มากเหมือนกันยกเว้น ห้องๆหนึ่งในบ้าน  ห้องนอนของเธอเอง  ห้องที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้  กับตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าแบบเด็กหญิง น่ารักๆ เต็มตู้  เฟรินพยายามจะเปลี่ยนห้องกับทุกคนในบ้านแต่ดูเหมือนทุกคนจะลงความเห็นกันว่าห้องนั้นเหมาะสมกับเธอและแน่นอนก็ไม่มีใครยอมตกลงเปลี่ยนด้วย
“คิล~เปลี่ยนห้องกันเถอะน้า    ขอร้องละพรีส ~น้า~คิล น้า”
“ม้ายเอา  ฉันชอบห้องของฉัน”   
คำปฏิเสธ ที่น้ำเสียงไร้เยื้อใย แบบสุดๆ  ถึงแม้จะรู้สึกเห็นใจเพื่อนที่ต้องทนอยู่ห้องแบบนั้นแต่จะให้ตัวเขาเข้าไปอยู่แทนมันก็กระไรอยู่  และที่สำคัญใครจะตัดใจยอมทิ้งห้องที่เต็มไปด้วยของน่าสนใจพวกนั้นลงละ
ห้องของคิลเดิมมาจากบันไดอยู่ก่อนถึงห้องเฟริน  เฟอร์นิเจอร์ไม่แตกต่างจากห้องข้างๆสักเท่าไร แค่ไม่มีตุ๊กตา  มีแต่สารพัดเกม  ไม่ว่าจะเป็นเกมคอม หรือเกมพเล  ซึ่งถูกใจคนรักสนุกอย่างคิลเป็นที่สุด
เมื่อเห็นว่าอ้อนเพื่อนคนแรกไม่สำเร็จ  ไปแล้ว เฟรินเลยเปลี่ยนเป้าหมาย  ถึงจะอดไม่ได้ที่จะเสียด้ายห้องของไอ้เพื่อนซี้อยู่หน่อยๆก็ตาม ที่ แต่ห้องของอีกคนก็ไม่เลวร้ายอะไรถ้าเทียมกับห้องตัวเองตอนนี้
“คาโล  แลกห้องกัน  นะ น้า”
เจ้าตัวดีเบียดเข้ามาชิด มือน้อยกำที่ชายเสื้อตัวเก่งของเขาไว้  เอ่ยเสียงออดอ้อน  นัยน์ตาคู่โต  มองมาที่เขาปริบๆ  จนคนใจอ่อนอย่างเขาแทบตระบะแตกยอมแลกห้องด้วยถ้าไม่ได้ไอ้เพื่อนที่อยู่ใกล้ๆ ส่งซิกมาเตือนคงยุ่ง  คนใจอ่อนที่เกือบตกหลุม นักขุดมือเซียน  ทอดนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวนสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตด้วยสายตาที่อ่อนโยน  นึกสงสารมันลึกๆเหมือนกัน แต่จะให้เขาไปอยู่ห้องมันคงไม่ไว้  ใครรู้เข้าอายเขาตายเลย      สายตาที่สงให้ทำให้คนอ้อนยิ้ม หวานออกมา อย่างหลงดีใจว่าแผนการสำเร็จ แต่แล้ว ร้อยยิ้มนั้นก็หายแทบจะทันที่เมื่อได้รับคำตอบจากปาก  เจ้าคนขี้ใจอ่อน
“ห้องนั้นเหมาะกับนายแล้วเฟริน” 
คำตอบที่ได้รับทำให้คนรับแทบบ้า  อยากร้องออกมาดังๆว่าใครจะ ไปทนอยู่ห้องคุณหนูห้องนั้นได้  แค่คิด ผื่นก็จะขึ้นอยู่แล้ว    เมื่อไม่สำเร็จ คนสุดท้ายที่พอจะต่อรองได้คงเหลือแต่ อ้ายโรที่นั่งอ่านหนังสือเล่มใหม่อยู่ที่โซฟา เท่านั้น    แม่ตัวดี  เดินผละจากเพื่อนสองคนไปยืนคล้ำหัวคนหนังอ่านหนังสือ    ก่อนที่มือน้อยๆ จะแย่งเอาหนังสือที่คนกำลังอ่านอยู่มาถือไว้เอง
“ทำอะไรนะเฟริน  เอาคืนมา” 
“ไม่  จนกว่านายจะยอมเปลียนห้องกับฉัน”
ประโยคที่คนฟังสะดุ้งเล็กน้อย  เมื่อนึกไปถึงห้องคุณหนูห้องนั้น    ก่อนที่ จะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์และตอบ ปฏิเสธ
“ไม่  เอาหนังสือฉันคืนมา” 
“โร  นี่เป็นคำสั่ง”
คนไม่เคยใช้อำนาจ และไม่ชอบสั่งขึ้นเสียงสูง ดังอย่างวางอำนาจ  ชวนขบขันมากกว่าเกรงขาม  คนโดนสั่งตอนแรก จึงได้แต่กระพริบตาปริบๆ  ชักสีหน้างง  ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนยิ้มน้อย  ขบขันอย่างอดไม่อยู่
“ที่โลกนี้ไม่มี  นาย กะทาส เฟริน    เราทุกคนเท่าเทียมกัน  ดังนั้น เอาหนังสือฉันคืนมา”
คำตอบเรียบๆ  แต่ เหมือนน้ำมันที่ราดลงไปในไฟอารมณ์ของคนรับ  ทำให้หนังสือเล่มโตที่ถูกแย่งไปถูกส่งคืนด้วยการปาใสหน้าเจ้าของของมันจากระยะประชันชิน  ทำให้หลบไม่ ทันโดนเข้าไปแบบเต็มๆ    ก่อนที่แม่สาวคนปาจะเดินกระทืบเท้า กลับห้องอย่างบงบอกอารมณ์ที่ว่าใครเข้าใกล้ ตาย~
“เจ็บมากไหมโร” คิลที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลถามขึ้นหลังจากที่แม่ตัวยุ่งเขาห้องตัวเองไปแล้ว ด้วยน้ำเสียงที่กลั้นหัวเราะไปด้วย
“นายรองมั่งไหมละจะได้รู้”น้ำเสียงที่ไม่ขำไปด้วยของคนตอบกับนัยน์ตาดุๆที่แทบไม่เคยมีทำให้คนถามต้องรีบยิ้มแห้งๆแล้วกล่าวเอาใจ
“เกรงใจ    นายก็อย่าคิดมากเลย  สงสัยฤดูนางของเฟรินมันใกล้มา อารมณ์มันเลยแปรปรวน”
คำตอบที่คนฟังพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือที่อ่านค้างต่อ
“เพิ่งรู้นะเนี้ยว่า ตอนขอทานโมโหน่ากลัว” คิลกล่าวพร้อม ทำท่าขนลุก
“นายอยากไปยั่วมันตอนนั้นทำไมละ” คำย้อนของคาโลที่ทำให้คิลถึงกับสะดุ้งโหยง ความจริงตัวเขาเองก็แอบขำตอนที่โรโดนเฟรินมันปาหนังสือใส่เหมือนกัน  แต่ไม่คิดจะไปทักตอนที่มันเพิ่งโดนดีใหม่ๆอย่างอ้ายคิลมันก็เท่านั้น
“ไม่ได้ยั่ว แค่ทัก”
“เออ ไม่โดนดีก็ดีแล้ว”
แล้วสองเพื่อนซี้ ก็มองหน้ากัน  ยิ้มให้กัน  ก่อนจะร่วมกัน  หัวเราะกับเรื่องของคนที่ไม่ค่อยจะโดนดีแบบคนอื่นเขา
เช้าวันแรกที่ต้องไปที่โรงเรียนใหม่ ที่ ดอกเตอร์ เตรียมไว้ให้ โรงเรียนที่มีชื่อว่าExceptional Dimension School หรือ E.D.S เฟริน คาโล  คิลและโร ได้อยู่ห้องS-2  ซึ่งดอกเตอร์บอกว่าห้องSเป็นห้องพิเศษ ที่เด็กที่พิเศษเท่านั้นจะได้อยู่ ส่วนรุ่นพี่ทั้ง3 คนได้ไปเป็นอาจารย์ในโรงเรียน รุ่นพี่โรเวน ได้เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์กับที่ปรึกษาห้องS-2  รุ่นพี่ลอเรนซ์ได้เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองกับที่ปรึกษาห้องS-3 และรุ่นพี่ลูคัสได้เป็นอาจารย์ห้องพยาบาลกับที่ปรึกษาห้องS-1
“พี่โรเวนผมไม่ไปโรงเรียนได้ไหม” ถ้อยคำพร้อมสายตาออดอ้อนสุดๆ
“ทำไมเราถึงไม่อยากไปโรงเรียน”โรเวนที่กำลังเตรียมการสอนสำรับวันแรกหันมาถามเจ้าตัวยุ่ง พร้อมสายตาเอ็นดูแบบทุกครั้ง
“จะให้ไปทั้งชุดเนี้ย เนียนะ ไม่เอาอะ”  เจ้าตัวดี  ตอบ พร้อมทำสีหน้าปันยาก หยังกะเพิ่งมีคนจับกรอกยาขม  ไม่ก็ผลักตกนรกก็ไม่ปราน
“เหมาะกับนายออก” คำเปรยเสียงนุ่มที่ได้รับจากรุ่นพี่ทำให้แม่ตัวดีเริ่มหน้ามุ้ย
“ใส่ๆไปเถอะน่า เหมาะกับนายออก” โรกล่าวชมยิ้มๆ อย่างเห็นด้วยเต็มที่กับคำกล่าวของรุ่นพี่
“งั้นนายใส่ชุดนี้แล้วเอาชุดนายมาให้ฉันใส่แทนดีมะท่านโร”เฟรินทั้งยั้วทั้งย้อนทำโรถึงกับอึ้งไปนิด
แล้วจึงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ชุดนั้นมันเครื่องแบบผู้หญิงก็ต้องให้ผู้หญิงใส่ ชุดนี้มันเครื่องแบบผู้ชายก็ต้องให้ผู้ชายใส่”
“งั้น นายเงียบไปเลยโร” อารมณ์ของสาวน้อยที่อยู่แล้วเดือดยิ่งเดือนมากขึ้นอีก ทำให้เสียงที่กล่าวออกมาห้วน เป็นที่สุด
“นายจะเลิกเรื่องมากได้หรือยัง” เสียงเย็นๆพร้อมกับสายตาที่บงบอกว่าเจ้าเสียงเริ่มจะรำคาญกับการกระทำของเธอขึ้นมานิดๆแล้ว
“แต่” เฟรินเริ่มจะเถียง
“ไม่มีแต่” คาโลตัดบท
เกินความเงียบขึ้นภายในห้อง    ก่อนจะถูกทำลายลงพร้อมผู้มาใหม่
“อ้าวเป็นไรกันอะ เฟรี่ คาลี่ โรจัง โรวี่  ” เสียงกวนประสาทของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรียกสายตาทุกคู่ในห้องให้หันมากมองคนมาใหม่
“จะบอกไหม” เสียงไม่สบอารมณ์ของอีกคนที่คุณก็รู้ว่าใคร สายตาถูกเปลี่ยนมามองที่คนที่สอง
“สงสัยจะเรื่องชุดของเฟรินละมั้งครับ” เสียงนักฆ่าที่เปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักว่าระเบิดแทน สายฟ้าฟาดเปรียงลงมาที่หัวทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องอยู่แล้ว
“เมื่อรู้อยู่แล้วจะถามทำไม” เสียงเฮี้ยม    ดังมาจากเจ้าคนที่ไม่ถนัดความคุมอารมณ์ตัวเอง ทำให้สองรุ่นพี่ที่เข้ามาใหม่  ต้องรีบถอยออกห่างรุ่นน้องคนที่เข้ามาพร้อมกันทันที ส่วนนายรุ่นน้องกลับยังยื่นหยัด อยู่ที่เดิม แถมยังหัวเราะฮึๆในลำคอก่อนตอบกลับไป
“แค่ต้องการความมั่นจาย ม้ายด้ายเหรอ” และน้ำคำที่ตอบกลับก็ยียวนเป็นที่สุด มวยที่ไม่เหมาะสมจึงได้ถูกจัดขึ้นก่อนไปโรงเรียน
หลังมวยจบคนตอนกันจนชุดยับ จึงถูกสงกับห้องไปเปลี่ยนชุดกันโดยด่วนทั้งสองคน  และก่อนที่จะออกบ้านคาโลหันมากำชับเฟรินเรื่องสุดท้าย เพื่อความมั่นใจก่อนไปร.ร. “ตอนแนะนำตัวหวังว่านายคงรู้นะว่าที่นี่นายต้องพูดยังไง” คำพูดทำให้หน้าที่งออยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปอีกนิด หันมาแยกเขี้ยวใส่คนสั่งก่อนตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไรหวังยั้วคนสั่ง “รู้แล้วน่า”
“รู้แล้วน่านะ จะทำหรือเปล่าเฟริน”เพื่อนซี้ที่อัดกันเสร็จมาดๆและยืนฟังอยู่ข้างทักขึ้น
เฟรินหันไปมองหน้าแล้วจึงไขเริ่มความกะจ่างให้ “เรื่องอะไรจะทำ”พูดจบก็เดินไปนำไปก่อนทิ้งคนสองคนที่รู้สึกต่างกัน คนหนึ่งยิ้มขำๆกับคำตอบของเจ้าตัวแสบ ส่วนอีกคนรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจ และไม่สบอารมณ์สักเท่าไร จากนั้นจึงพากันเดินตามเจ้าตัวยุ่งไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อนขึ้นรถไฟใต้ดินไปโรงเรียน
เช้าวันเปิดภาคการศึกษาใหม่ของโรงเรียนE.D.S นักเรียนมากหน้าหลายตาต่างรีบเร่งไปรวมตัวกันที่หอประชุมใหญ่ของโรงเรียนยกเว้นกลุ่มของเฟริน ที่ต่างพากันไปนั้งใต้ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับตึกเรียนแผนกมัธยมปลาย พวกเขามีธุระที่จะต้องไปพบกับอาจารย์ใหญ่ ก่อนที่จะไปเข้าประชุมอย่างคนอื่นๆ แต่ติดปัญหาอยู่ข้อนึงคือ พวกเขาไม่ทราบว่าห้องของอาจารย์ใหญ่อยู่ตรงส่วนไหนของโรงเรียนแห่งนี้
“แล้วนี้เราจะไปเริ่มหาจากที่ไหนดีละเนี้ย”เจ้าตัวยุ่งกล่าวขึ้นหลังหาที่นั่งของตัวเองได้โดยมีเพื่อนสนิทสองคนขนาบข้าง
“ก็ไม่เห็นยากอะไรนี่ หาคนถามซะก็สิ้นเรื่อง” คิลกล่าวแบบไม่ใส่ใจสักเท่าไรเพราะตัวเองกำลังสนใจเกมใหม่ที่พกมาด้วยจากบ้าน
“แล้วจะให้ใครไปถาม”
“ก็นายนั้นละไปถาม” คิลตอบ
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันอะ”คำถามที่ถูกทำให้คนฟังฟังแล้วเหมือนคำอ้อนมากกว่า
“ก็โรงเรียนนี้เคยเป็นโรงเรียนชายล้วนให้ผู้หญิงไปถามข่าวได้ข่าวเร็วกว่านี่”คำอธิบายจากผู้รอบรู้ประจำกลุ่ม
“คาโลไปถามแทนหน่อยไปไหม” เฟรินส่งสายตาใสๆซื่อๆ ท่าทางออดอ้อนพร้อมเสียงหวานอ่อยๆไปให้เจ้าของชื่อที่ตอนนี้มันมัวสนใจแต่หนังสือใหม่ในมือมากว่าเธอ ทำให้ก่อนกล่าวเธอเลยต้องคว้าชายเสื้อมันมาดึงไว้ในมือก่อน
คาโลละสายตาจากหนังสือเพียงครู่มาที่เธอก่อนจะกลับไปสนใจกับมันใหม่  ทำให้เฟรินถึงกับฉุนหน้าแดงที่การยั้วไม่ได้ผล
“คาโลนายจะไปหรือไม่ไป”ถามเสียงดังลั่นที่บอกได้เลยว่าตอนนี้เจ้าของเริ่มไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก มือที่กำเสื้อไว้เลยได้ปล่อยมันออกไป เปลี่ยนไปกำหมัดควบคุมอารมณ์แทน
“นายนั้นละไป” คำตอบที่ไม่ต้องคิดและไม่ต้องเงยหน้าไปมองเฟรินสักนิดยั้วอารมณ์คนที่เดือดอยู่แล้วให้แย่หนัก
“เออ ฉันไปเองก็ได้ แล้วอย่าตามมาละ”เฟรินโมโหจนหน้าแดงจัด มือน้อยๆทุบโต๊ะหินดังปังพร้อมๆกับ พูดเสียงดังชนิดคนที่อยู่ห่างไป500เมตรก็ยังได้ยิน เสร็จแล้วก็ลุกพรวดออกจากโต๊ะเดินไปไม่สนใจคนที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวข้างหลังเลยสักนิด
“เฟรินมันเป็นอะไร”คาโลหันมาถามคิลที่ตอนนี้นั้งข้างๆแทน
“นายเป็นแฟนนายยังไม่รู้แล้วรู้ไหม” คิลตอบด้วยสีหน้าที่งงกับอาการของเพื่อนที่เดินจากไปไม่แพ้คน
ถาม
   
“เฟรินมันเข้าสู่โหมดสาวงามอีกแล้วนะ”โรอธิบาย ยิ้มๆ ขำเจ้าคนเก่งทุกอย่างแต่ซื้อบื่อเรื่องผู้หญิงตรงหน้า
“แล้วจะให้ฉันทำไง”คาโลพูดเสียงเรียบแต่สีหน้าไปคนละเรื่อง
“ง่าย นายก็ตามไปง้อสิ”โรอธิบายพร้อมเสียงหัวเราะ นัยน์ตาเจ้าเล่ห์
คาโลถอนหายใจก่อนจะกล่าวตัดบท “เดียวหิวก็กลับมาเองละ” แล้วก็กลับไปสนใจกลับหนังสือในมืออีกครั้ง
   
โรสายหัวอย่างไม่เข้าใจ ส่วนคิลหัวเราะชอบใจแต่ทั้งคู่ก็คิดเหมือนกันอยู่ข้อคือ ถ้ามันยังทำตัวอย่างนี้อีกหน่อยจะไปรอดหรือเนี้ย
   
คนบ้า คนซื่อบื้อ คอยดูนะถ้าไม่มาง้อ จะไม่คุยด้วยเลยคอยดู  ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มโว้ย  แล้วนี้ตรงไหนของโรงเรียนละเนีย  แล้วจะให้ไปถามใครละเนี้ย  โอ้ยอยากจะบ้าตาย ไอ้พวกนั้นมองอะไรไม่เคยเห็นคนหรือไงวะ คำบนยาวเยียดที่ดังได้แต่ในใจ ทำให้หน้าสาวน้อยงอหงิกเข้าไปใหญ่ เดินจ้ำเอาจ้ำไม่ดูทงไม่ดูทางแล้วตอนนี้
สาวน้อยหน้ารักในโรงเรียนที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสหได้ไม่นาน โดยเฉพาะยามที่เดินคนเดียวไม่มีหนุ่มที่ไหนเดินเป็นเพื่อนแล้วยิ่งเป็นที่สนใจของหนุ่มทั้งหลายอย่างมากอยู่แล้ว แต่ถึงอยากเข้าไปทักสักเท่าไรก็ติดอยู่ที่สีหน้าไม่ค่อยจะอารมณ์ดีของเจ้าหล่อนนั้นละที่ทำให้กำลังใจหดหายไปหมด  สาวเจ้ายังคงเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจใครจะกระทั้ง
โครม!
“โอ้ย !” สาวน้อยน่ารัก หน้าตาบูดตอนนี้ไปนั้งจุมปุกอยู่ที่พื้น
“เป็นไรมากไหมครับ”น้ำเสียงนุ่มสุภาพพร้อมมือที่ยื่นมาช่วยฉุดเฟรินให้ลุกขึ้นมาจากชายหนุ่มที่น่าจะอายุมากกว่าเธอสักปีได้ เขาเป็นที่หน้าตาดีมาก ผมสีทองซอยสั้นเข้าทรงรับกับใบหน้าคม นัยน์ตาสีฟ้า ผิวขาวสะอาดสะอาน
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” เฟรินกล่าวหลังจากได้รับการช่วยเหลือให้ลุกขึ้นเรียบร้อย
“ผมดาฟเน่ เฟรย่า ฮาฟ ไรเดอร์ อยู่ ปี3 ห้องเอส เรียกง่ายว่าเฟรย่า  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เขาแนะนำตัวอย่างสุภาพก่อน
“ฉันเฟลิโอน่า เกรเดเวล ปี2 ห้อง เอส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ” เจ้าตัวดียิ้มหวานตอบและไม่ลืมใช้คำพูดแบบที่คาโลกำชับหนักกำชับหนา กับรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักคนนี้
“อยู่ห้อง2เอส แล้วทำไมพี่ไม่เคยเห็นเธอเลยละ แล้วชื่อเฟลิโอน่านี่เคยได้ยินที่ไหนนะ”เฟรย่าเริ่มเข้าสู่โหมดความคิดส่วนตัวเพื่อค้นหาคำตอบที่สงสัยในใจ แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรออกเฟรินก็ขัดขึ้น
“เออ ไม่ทราบว่าพี่ พอจะทราบทางไปห้องอาจารย์ใหญ่ไหมค่ะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตที่สวมหน้ากากฟาโรห์ ส่งสายตาแสนซื่อที่ทำให้คนมองอดที่จะนึกเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้ ก่อนที่จะนึกเรื่องหนึ่งได้
“นึกออกแล้วเธอคือหนึ่งในกลุ่มคนที่ยายลอรี่ตามหาอยู่นี่เอง”
“ลอรี่!”เฟรินทวน  นัยน์ตาสีน้ำตาฉายแววสงสัยลึกๆแต่ก็ไม่ได้เอยอะไรมากไปกว่านั้น
“อืม เพื่อนพี่เองมีอะไรหรือ”
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”เฟรินปฏิเสธด้วยรอยยิ้มซื่อทั้งที่ใจจริงยังติดใจกับชื่อที่คุ้นหูชื่อนั้นอยู่มากก้ตาม
“เราไปหายายลอรี่กันดีกว่า รู้สึกว่าจะอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนนะถ้าพี่จำไม่ผิด”นัยน์ตาคู่สวยสีฟ้าน้ำทะเลคู่สวยยังคงฉายแววเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าอย่างมาก น้ำเสียงทุมนุ่มใจดี กับมือที่เอือมมาจับมือเฟรินให้เดินตาไปการกระทำที่ผิดกับใครบ้างคน ที่เฟรินยังนึกโมโหว่าทำไมมันไม่ยอมตามมางอสักที่ ทำให้เฟรินยิ่งรู้สึกถูกใจกับพี่ชายคนใหม่อย่างมาก (แต่ในแบบพี่ชายนะ)
“ลมอะไรพัดนายให้เดินกลับมาที่ประตูโรงเรียนได้นี่เฟนี่”คำยั้วจากเสียงหวานๆ ของสารวัตร นักเรียนคนสวยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าประตูโรงเรียนดังขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเดินตรงกลับมาอีกรอบพบตัวเองอีกครั้ง
“ทำเป็นพูดดีไปลอรี่ ฉันก็ไม่ค่อยอยากเดินมาหาแกเท่าไรหรอก”คำย้อนชวนปวดหัวจากรุ่นพี่ที่เฟรินเพิ่งนึกชอบใจไปหยกๆ
“แล้วกับมาทำไมจ๊ะ”สาวสวยยังเล่นไม่เลิกอย่างอารมณ์ดี
“พาเด็กใหม่ที่แกกำลังหาอยู่มาส่ง”พูดเสร็จก็ขยับให้เพื่อนได้เห็นหน้าเฟริน
เมื่อสาวสวยเห็นเฟรินเธอก็ส่งยิ้มหวานมาให้ ตามด้วยการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
“พี่ชื่อลอเรีย บาวานี่ย์ ชื่อเล่น ก็ลอรี่อย่างที่เธอได้ยินไอ้เฟนี่มันเรียกนั้นละ”
เฟรินที่ได้เห็นหน้าของสาวสวยตรงหน้าก็ถึงกะอึ้งทึ่งจนค้าง ตอนแรกคิดว่าคล้ายกันแค่ชื่อที่ใช้เรียนกันเล่นๆ แต่นี้ชื่อจริงก็คล้ายแถมหน้าตาก็เหมือนอย่างยังเหมือนกันยั่งกะแกะ กับรุ่นพี่คนที่ยิ้มยากแสนยากและอารมณ์เสียเป็นนิจคนนั้น มันช่างต่างกันก็แค่พี่สาวคนนี้ยิ้มหวาน และถ้าจะอารมณ์ดีเป็นนิจ ราวสวรรค์ กะนรกก็ไม่ปาน
“นี่ น้องหนูไม่คิดจะแนะนำตัวให้พี่รู้จักหรือจ๊ะ”เสียงหวาน กึ่งเล่นกึ่งจริงเรียกสติเฟรินให้กลับมาก่อนจะรีบแนะนำตัวกับพี่สาวตรงหน้า
“หนูเฟลิโอน่า เกรเดเวล ปี2 ห้อง เอส ชื่อเล่นเฟรินค่ะ”สีหน้าตื่นๆอายๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลดูกลัวๆพี่สาวตรงหน้าเล็กน้อย ทำให้คนเป็นพี่นึกเอ็นดูจนอยากแกล้งเด็ก
ลอรี่ยิ้มหวานพร้อมเปรย“พวกเบบี่ แล้วก็นิวธีสเชอร์ที่เหลืออยู่ที่ไหนจ๊ะ”
ภายนอกพี่ลอเรนซ์ ภายในมันพี่ลูคัส ชัดๆความคิดที่ต้องเก็บงำไว้ในใจ  งัดเอาหน้ากากฟาโรห์มาใช้อีกรอบ ยิ้มซื่อๆแล้วตอบออกไป
“อยู่ที่ม้านั้งใต้ต้นไม้ข้างตึกมัธยมปลายค่ะ”
พี่สาวยิ้มมากขึ้นอีกกับคำตอบที่ถูกใจ จากนั้นก็หันไปพูดอะไรสักอย่างกับพี่เฟรย่า 
“เฟรินเดียวเธอไปกลับลอรี่นะ พี่จะไปทำธุระนิดหน่อยไว้เจอกันค่อยเจอกันใหม่ ” เฟรย่าหันมาพูดกับเฟรินก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
“เฟรี่จังเราได้เวลาไปหาคนอื่นกันแล้วละเดียวจะสาย”กล่าวจบก็จัดการคว้ามือเฟรินลากไปหากลุ่มเป้าหมายที่รออยู่ทันที
“อยู่นั้นไงค่ะ”
เสียงใสของเฟรินดังมาก่อนตัว คิลที่นั่งเล่นเกมรออยู่ วางเกมลงกะจะบ่นเฟรินที่ไปนาน
“ในที่สุดก็กลับมะ”แต่ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็อึ้งจนพูดต่อไม่จบไปเฉยๆเป็นคนแรก
“เป็นอะไรไปคิล”โรที่จิบน้ำชาที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ทักขึ้นเมื่อสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
“........................”ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
“คิล!” โรเสียงดังมากขึ้น
คิลไม่ตอบแต่หันมาปุยใบ้ให้ทุกคนหันไปมองที่เดียวกัน โรเห็นว่าแปลกๆจึงหันไปมองตามแล้วก็อึ้งเงียบไปอีกคน
“ฉันพาคนนำทางมาให้แล้ว พวกนายเป็นอะไรไป”นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่โตส่งคำถามมาให้เพื่อนสองคนที่อึ้งจนแข็งไปแล้ว
“เฮ้!” เฟรินพยายามเรียกสติเพื่อน ที่ตอนนี้แข็งเป็นหินอย่างกับเจอเมดูซ่าไปวะแล้ว
“ปล่อยมันไปถะ”คาโลที่เริ่มรำคาญหันมาพูดขัดแต่ก็พูดไม่จบอึ้งเป็นรูปสลักน้ำแข็งไปอีกคน และไม่ต้องถามถึงพี่ชายอีก 3คนที่เหลือ พวกเขาอึ้งจนแข็งตั้งแต่หันมาสนใจกับสิ่งที่คิลเรียกให้ดูแล้ว
“นี่ทุกคนเป็นอะไรกัน” เฟรินเริ่มรำคาญระคนห่วงอาการของทุกคนในกลุ่ม
“นี่! คาโล คิล โร พี่ๆได้ยินม้ายยยย”เจ้าตัวยุ่งแผดเสียงดัง  สูง หวังเรียกสติทุกคนให้กลับมา  (ในสภาพที่ต้องปวดแก้วหูไปตามๆกันแน่)
“โอ๊ย  นายไม่ต้องเสียงดังก็ได้เฟริน” คิลบ่นหลังได้สติจากเสียงแปดหลอดของเฟริน
“พวกนายเป็นอะไรกัน”เฟรินยิงคำถามเมื่อเห็นว่าทุกคนได้สติกันหมดแล้ว
“ก็กำลังอึ้งนิดหน่อยกับคนที่ตามหลังเฟรี่มานะสิ”ลูคัสยังคงพูดกวนประสาทแม้ว่าตอนนี้ยังเอามือนวดหูที่ปวดอยู่ก็ตาม
“คนที่ตามมา”เฟรินทวน กันไปมองพี่สาวที่เดินมาด้วยกัน ก่อนถึงบางอ้อ แล้วนึกขึ้นได้ว่าตอนที่ตัวเองเจอพี่คนนี้ตอนแรกก็อึ้งไม่แพ้กัน
“ลอรี่ ฉันจำได้ว่านายไม่มีพี่น้องนี่”ลูคัสเปรย พร้อมส่งยิ้มกวนให้ลอเรนซ์
“ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าเป็นใบ้นะลูคัส    แล้วก็ถ้ายังเรียกชื่อฉันผิดๆอีกนายได้ตายสมใจแน่” ลอเรนซ์พูดเสียงเฮี้ยม และเริ่มกลับมาอารมณ์ไม่ดีอีกครั้ง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจลอรี่” น้ำเสียงถูกทำให้ฟังแล้วเศร้านิหน่อย ออกกวนมากกว่ากับสีหน้าที่แสร้งทำว่าเสียใจสุดๆจริงๆ
เฟียว ! โป๊ก ! (ไม่ใช่ฉึกแหะ)  เสียงในใจของเหล่าผู้รู้เรื่องนี้เป้นอย่างดี เพราะคุ้นเคย
“เจ็บนะลอรี่ ปาชอล์กมาได้”ลูคัสร้องขึ้นเมื่อหลบก้อนชอล์กที่เล็กว่ามีดไม่พ้น(อ๋อ  เพราะอยู่ในโรงเรียนและยังเป็นอาจารย์ห้ามพกอาวุธเลยเปลี่ยนจากมีดเป็นชอล์กแทนนี่เอง)  คำอธิบายในใจของเหล่าผู้รู้เรื่องดีที่ให้กับตัวเอง
“อยากได้อีกไหมละ”ลอเรนซ์พูดเสียงจริงจังกว่าเก่า คราวนี้มียิ้ม เฮี้ยมๆ แถมให้ด้วย
“ไม่แล้วจ้า”ลูคัสพูดพร้อมส่งสายตาอ้อนวอน เหมือนลูกหมาจะถูกทิ้ง มาให้
“พี่สาวคนนี้ชื่อลอเรีย บาวานี่ย์ ฮะ”เฟรินแนะนำตัวแทนลอเรียหลังจากจบสงครามเล็กๆระหว่างคู่หูเอลสงบลง และแถมด้วยการแนะนำตัวแทนทุกคนอีกเช่นกัน ตั้งแต่คาโลที่อยู่ใกล้สุด ต่อมาก็ คิล โร โรเวน และลูคัส ลอเรียก็ทักทายกับทุกคนอย่างดีไม่มีปัญหาจนกระทั่งเฟรินแนะนำลอเรนซ์ให้ลอเรียรู้จักจึงเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะ อาจารย์ลอเรนซ์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ หนูเป็นสารวัตรนักเรียน ที่จะมาปฏิบัติงานภายใต้การดูแลของอาจารย์ หวังว่าเราคงจะทำงานรวมกันอย่างไม่มีปัญหาค่ะ”ลอเรียยิ้มหวานให้ลอเรนซ์ แม้ว่าตอนที่เฟรินแนะนำให้รู้จักเธอจะอึ้งเล็กน้อยที่หน้าตาและชื่อเรียกเล่นของลอเรนซ์เหมือนเธอ แถมชื่อจริงยังมาคล้ายกันมากๆอีกแต่นั้นไม่ใช่ปัญหาจนกระทั้ง
“ยินดีที่ได้รู้จัก แค่เธอไม่มาสร้างปัญหาให้ฉันก็ขอบคุณมากละ”ลอเรนซ์ทักทายตอบเสียงเย็น ส่วนประโยคหลังน้ำเสียงจริงจังขึ้น เขาสังหรว่าเจ้าหล่อนที่หน้าตาเหมือนเขาแต่นิสัยกลับเหมือนเจ้าเพื่อนตัวยุ่งมันจะทำเขาปวดหัวในไม่ช้าแน่ๆถ้าต้องร่วมงานกัน และถ้าไม่รีบปรามคงได้ยุ่งเป็นแน่
อวดดีชะมัด  คิดว่าตัวเองเป็นอาจารย์แล้วใหญ่มาจากไหนยะ  นี่เราทำบาปอะไรมานี่ถึงต้องเกิดมาหน้าตาเหมือนนายนี่ แล้วยังต้องมาทำงานร่วมกับมันอีก  หวังว่าตอนเรียนคงไม่ต้องเจอมันนะ 
เสียงบ่นยาวเยียดที่ดังได้แต่ในใจของลอเรียที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะงอตามลอเรนซ์เข้าไปอีกคน
กันได้หรือยังค่ะ”เฟรินสังเกตว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีเลยรีบขัดขึ้น
ลอเรียหันมายิ้มหวานให้เฟรินอีกครั้ง
“จ๊ะเฟรี่จัง”จากนั้นก็หันไปยิ้มให้คนอื่นๆด้วยเช่นกันยกเว้นลอเรนซ์ที่เธอไม่มองหน้าด้วยซ้ำ เธอเดินนำทุกคนไปส่งให้อาจารย์ใหญ่ตามที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อทุกคนได้พบกับอาจารย์ใหญ่เรียบร้อยแล้ว พวกพี่โรเวนที่ต้องมาทำงานเป็นอาจารย์ก็แยกเดินตามอาจารย์ใหญ่ไปอีกทาง  ส่วนพวกเฟรินก็เดินตามลอเรียไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนใหม่ห้องเอสที่หอประชุมรวม แล้วลอเรียก็แยกกลับออกไปทำหน้าที่ต่อ พวกเฟรินเลยต้องไปหาที่นั่งตรงที่นั่งของห้อง2เอสกันเอง
\"พวกเธอคือเด็กใหม่ที่เขาพูดถึงกันใช่ปะ\"เสียงใสฟังหาวดูหาวนิดๆ ทักขึ้นหลังจากเจ้าตัวยุ่งเลือกนั่งลงข้างๆเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่จัดว่าเป็นคนที่สวยทีเดียว ใบหน้ารูปใข่ ผิดขาวหุ่นดี  นัยน์ตาสีน้ำทะเล ผมยาวประบ่าสีกรมเข้ม ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มบ่งบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ดีอยู่ไม่น้อย
\"ฉัน ไนเลฟ บาคาเอล เรียกไนฟ์ ก็ได้ แล้วนี่ พี่ชายฝาแฝด ชื่อเฟมินิน บาคาเอล\"
\"ยินดีที่ได้รู้จัก เรียกฉันว่าเฟมดีกว่านะ จะได้ดูสนิดกันดี\"
เฟมยิ้มให้เพื่อนใหม่ก่อนกล่าวแซวนิดๆ \"แล้วพวกคุณไม่คิดจะแนะนำตัวหรือครับ\"
รอยยิ้มที่เฟรินคิดว่ามันกวนประสาทเบื้องล่างไม่น้อย แต่เธอก็ยังยิ้มหวานยั้วยวนตอบกับ\"เฟลิโอน่า เกรเดเวน ค่ะแต่เรียกเฟรินก็ได้\"
\"อีกสามคนนั้นก็เพื่อนเฟลิน่าจังใช่ไหมจ๊ะ\"ไนฟ์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าบุคคลที่เหลือยังไม่ยอมแนะนำตัวสักที
เฟรินสะดุ้ง  หน้างามๆขึ้นสีน้อยๆกับการเรียกชื่อของไนฟ์ อย่างเดาอารมณ์ไม่ออก หันไปมองหน้าเพื่อนแสบที่นั่งข้างเธอที่ตอนนี้กำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดกำลังกับชื่อใหม่ที่เพื่อนใหม่ตั้งให้เจ้าตัวยุ่งของพวกเขา แล้วทอดมองต่อไปที่แฟนน้ำแข็งที่ตอนนี้มันก็เอากับเพื่อนมันด้วย ไล่ไปถึงห้องสมุดเคลือนที่ แต่ต้องแปลกใจที่มันไม่หัวเราะเธอ แต่กลับยิ้มน้อยๆตอบมาแทน เจ้าตัวยุ่งเลยต้องทำใจและหันกลับไปตอบคำถามเพื่อนใหม่
\"ใช่ มันสามคนเป็นเพื่อนฉัน  คนผมดำนี่ คิล ฟิลมัส  คนต่อไปผมเงินนั่น คาโล วาเนบลี  และคนผมน้ำตาลคนสุดท้านนั่นโร เซวาเรส\" พูดจบก็ถอนหายใจกลับอาการของสามคนที่เธอเพิ่งแนะนำให้เพื่อนใหม่รู้จักก่อนจะหุบปากเงียบผิดวิสัยเพราะไม่อยากได้ยินชื่อใหม่ที่ไนฟ์เพิ่งตั้งให้เธออีกรอบตอนนี้
\"พวกนายย้ายมาจากโรงเรียกไหน\" เฟมถามขึ้นด้วยใบหน้าอยากรู้อยากเห็นมากก่อนเปรยต่อ \"คงไม่ใช่โรงเรียนพระราชเอเดินเบิร์กหรอกนะ \"ว่าแล้วก็หัวเราะเอาเป็นเอาตาย
ชื่อโรงเรียนที่พวกเขาเพิ่งจากมาไม่นาน คนพวกนี้รู้จักได้ยังไงในเมื่อมันเป็นโรงเรียนคนละมิติกับโรงเรียนแห่งนี้ ความคิดที่ก่อตัวในใจของนักเรียนใหม่ทุกคน แต่ยังไม่มีใครตอบอะไรออกไป แล้วแฝดผู้น้องของเฟมก็แทรกขึ้น
\"คิดได้ไงว่าพวกเฟลิน่าจังมาจากเอดินเบิร์ดนะพี่  โรงเรียนนั้นมีในโลกซะที่ไหนละ ถ้าในหนังสือละก็ว่าไปอย่าง\"
คำตำนิกับหน้าตาที่ไม่สบอารมณ์ที่หาได้ยากจากน้องสาวสุดที่รัก ทำให้คนเป็นพี่ยิ้มน้อยๆ  ก่อนไขความกระจ่างให้น้องและเพื่อนใหม่ที่ทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจกลับกำลังจดจ่อรอคำตอบอยู่แบบแทบทนไม่ได้
\"ก็ชื่อพวกนายมันเหมือนชื่อตัวละครในหนังสือหัวขโมย แห่งบารามอสที่ฉันชอบนี่นา\"พูดแล้วก็หัวเราะออกมา
\"ทั้งชื่อ ทั้งสกุล แล้วยัง เขาเงียบไปนิดอย่างยั้วคนฟังให้อยากรู้มากขึ้น รูปร่างหน้าตา ไม่ว่าจะสีผม สีตาเหมือนที่คุณแร๊ปบิทบรรยายไว้ไม่มีผิด ว่าแต่พวกนายมาจากที่ไหนละ\"เขายังคงยืนยันจะกลับมาถามคำถามเดิม ที่อยากรู้
ตอนนี้พวกเฟรินเชื่ออย่างหมดใจแล้วว่าพวกเขามาจากคนละมิติ แต่พวกเขาจะบอกได้ยังไงว่าพวกเขามาจากเอดินเบิร์ด แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไปเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นเมื่อมีคนมาประกาศว่าอาจารย์ใหญ่ได้มาถึงที่ประชุมแล้วให้นักเรียนทุกคนอยู่ในความสงบ  พวกเขาเลยรอดตัวไม่ต้องตอบและกลับไปเงียบฟังอาจารย์ใหญ่กล่าว
\"สวัสดีนักเรียนที่รักทุกคน ครูดีใจมากที่ได้มาเจอพวกเธออีกครั้ง วันนี้ครูมีเรื่องจะมาแจ้งให้พวกเธอทราบ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือในอาทิตย์ หน้าโรงเรียนจะมีการจัดนิทัศการณ์วันครบรอบโรงเรียนครบ100 ปี ดังนั้นจึงไม่มีการเรียนการสอนในอาทิตย์นี้เพื่อที่นักเรียนแต่ละห้องจะได้เตรียมงานสำหรับอาทิตย์หน้าจ๊ะ\"
ข่าวแรกของอาจารย์ใหญ่เรียกเสียงเฮ จากนักเรียนได้ทั้งห้องประชุม ไม่เว้นแม้นักเรียนใหม่อย่างเฟริน จนตั้งมีคนออกมาประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
\"เรื่องที่สอง พวกนักเรียนเก่าคงจะทราบแล้วว่าเทอมที่แล้วมีอาจารย์ออกไปสามคน วันนี้ครูเลยจะมาแนะนำพวกเขาให้พวกเธอรู้จัก\"
ครูใหญ่ยิ้มให้นักเรียนก่อนจะหันขอให้ผู้ช่วยช่วยเรียกอาจารย์ใหม่ออกมาแนะนำตัว เมื่ออาจารย์ใหม่เดินออกมาครบก็เรียกเสียงโฮ่ดังจากนักเรียนชายที่เสียใจว่าไม่ใช่อาจารณ์ผู้หญิงอยู่ไม่น้อย ปนกับเสียงกรีดร้องดังด้วยความ
ดีใจสุดๆของนักเรียนหญิงที่ได้อาจารณ์ใหม่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อถึงสามคน กลุ่มคนที่ไม่แสดงอาการออกมาเห็นจะมีแต่พวกเฟรินที่รู้จักอาจารณ์ใหม่พวกนั้นดีเท่านั้นเอง
\"เอานักเรียนที่รักทั้งหลายโปรดอยู่ในความสงบอีกเดียวครูจะปล่อยแล้ว\"เมื่อเสียงอาจารย์ใหญ่จบห้องประชุมก็กลับมาสงบเหมือนเก่าอาจารย์ใหญ่ถึงกลับถอนหายใจ เมื่อทั้งห้องสงบลงแล้วจริงกลับมาพูดต่อ
\"อาจารย์ โรเวน ฮาเวิร์ดจะมาสอนคณิตศาสตร์ มอปลาย แทนอาจารย์ จินนี่ ที่ออกไป  อาจารย์ลอเรนซ์ ดอร์นจะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครองแทนอาจารย์ คิมปัส  แล้วก็อาจารย์ลูคัส ซาโดเรีย จะมาเป็นอาจารย์ห้องพยาบาลแทนอาจารย์ มาเรีย เรื่องที่ครูจะแจ้งก็มีแค่นี้จ๊ะใครจะไปไหนก็เชิญตามสบาย แต่อย่าลืมงานอาทิตย์หน้าละ\" กล่าวจบอาจารย์ใหญ่ก็ออกจากห้องไปพร้อมกับอาจารย์ใหม่ทั้งสาม พอพวกอาจารย์ออกไปนักเรียกก็ทะยอยกันออกจากห้อง พวกเฟรินก็ทำท่าว่าจะออกไปเหมือนกันแต่ไนฟ์ก็เรียกไว้ก่อน
\"เฟลิน่าจังมีโปรแกรมไปไหนหรือยัง\" ไนฟ์ถามพร้อมรอยยิ้มหวาน
เฟรินทำหน้างงกับคำถามนิดหน่อยตอบออกไปพร้อมคำถาม \"ยังทำไมเหรอ\"
\"เปล่าถ้ายังไม่มีไปกับพวกเราไหมละ เดียวพวกเราพาชมโรงเรียนเอง\"ไนฟ์พูดพร้อมเสนอตัวช่วยเต็มที่ นัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรก่อนจะหันไปส่งสายตาเป็นคำถามให้พวกเพื่อนที่มาด้วยกัน
คาโล  คิลและ โร เมื่อได้รับสัญญาณเอสโอเอสจากเฟรินกันส่งสายตาเป็นคำถามให้กันก่อนจะหันหน้ามาผยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย กับข้อเสนอที่ได้รับโดนไม่มีใครว่าอะไร(พวกนี่นี่แค่ส่งสายตาก็คุยกันรู้เรื่องแล้วเฮะ  0_o)
\"ตรงลง พวกฉันจะไปกลับพวกเธอ\"เฟรินหันกลับมาตอบไนฟ์ด้วยรอยยิ้มหลังจากปล่อยให้ไนฟ์ต้องรอนาน
\"ว้าว ดีใจจังที่เฟลิน่าจังยอมไปกับพวกเราด้วย\"เฟมพูดขึ้นข้างๆเฟริน พร้อมกับเอามือโอบไหล่เฟรินทันที่ ที่พูดจบ (มาตอนไหนเนีย 0_0)
คาโลเมือเห็นการกระทำของเฟมที่ทำกับเฟรินก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า และด้วยแรงหึง จึงรีบเดินมาดึงเฟรินออกจากเฟมทันที่ พร้อมกำคำพูดเบาที่ให้เฟมได้ยินเพียงคนเดียวว่า \"ของๆฉัน นายอย่ายุ่ง\" 
\"เออ ไนฟ์เราจะไปกันได้ยัง\"คิลที่สังเกตเห็นความแปรปวนของสภาพอากาศในห้องที่เริ่มจะเย็นขึ้นมาทันไดจึงรีบชวนทุกคนให้ออกจากห้องประชุมโดยด่วน
\"จ๊ะงั้นตามมาเลย\" ไนฟ์ยังคงยิ้มหวานอารมณ์ดีไม่รับรู้สักนิดกับสภาพการภายนอกที่เขากำลังจะรบกันอยู่แล้ว จากนั้นจึงเดินนำออกจากห้องไปคนแรก ตามด้วย โร คิล คาโลกับเฟริน ที่จับมือกันอยู่ 
ของๆฉันนายอย่ายุ่งงั้นเหรอ  หึนึกว่ารักแรกพบมันตัดใจได้ง่ายๆหรือไงคาโล ระวังไว้ให้ดีละ  ความคิดที่เรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ปรากฏบนใบหน้าอันหล่อเหล่าของเฟม ก่อนที่เขาจะเดินตามเพื่อนออกจากห้องประชุมไป
\"ตึกที่อยู่ทางทิศใต้ของหอประชุมแห่งนี้เป็นตึกเรียนรวมของฝ่ายมอปลาย\"ไนฟ์อธิบายไปเรื่อยเกียวกับโรงเรียนE.D.Sโดยไม่สนใจกลุ่มผู้ที่เดินตามมาข้างหลังแม้แต่น้อย
\"เฟลิน่าจังตอนเที่ยงไปทานข้าวกับผมสักมือได้ไหมครับ\"นัยนืตาสีน้ำทะเลฉายแววจริงจัง
\"ไม่ได้เฟรินจะไปทานกลับพวกฉัน\"คาโลขัด สีหน้าและน้ำเสียงบอกได้คำเดียวว่าตอนนี้อารมณ์บ่อดีสุดๆ
\"ฉันบอกนายตอนไหนเหรอจ๊ะ คาโล\" น้ำเสียงหวานยั้วยวน นัยน์ตาสีน้ำตาลระริก มองตรงไปที่นัยน์ตาสีฟ้าตรงๆอย่างท้าทาย
\"เฟริน!\"คาโลเริ่มเสียงดุ  นัยน์ตาสีฟ้าดุไม่เหลือเค้าความเย็นชา
\"ไม่เอาน้า คาโล แค่กินข้าว\" ตาสีน้ำตาลยังคงฉายแววสนุก ไม่เกรงกลัวสักนิด ยิ้มหวานมากขึ้น
\"ถ้าคาโลเขามีปัญหาก็ไว้คราวหน้าก็ได้ครับเฟลิน่าจัง\" นัยน์ตาของเฟมลู่ลงเล็กน้อย
\"ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ว่างอยู่แล้ว\" เฟรินหันมาตอบพร้อมยิ้มหวานให้เฟม
\"ขอบคุณครับ\"เฟมยิ้มตอบเฟริน แล้วก็หันไปส่งนัยน์ตาอย่างผู้ชนะท้าทายคาโลซึ่งๆหน้า
นัยน์ตาสีฟ้ารับคำท้าเฟม ก่อนที่ความคิดนึ่งจะทำให้รอยยิ้มที่หาได้ยากผุดขึ้นมาบนใบหน้า เขาหันมาจ้องหน้าสาวน้อยข้างตัว นัยน์ตาสีฟ้าระริกออกจะเจ้าเล่ห์ ทำให้ใบหน้าสาวน้อยขึ้นสีแดงจังหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ถอยหลังไปไม่รู้ตัว
\"นายอย่าทำอะไรบ้าๆตอนนี้นะคาโล\" เสียงหวานสั่นเครืองเล็กน้อยด้วยรู้สึกกลัวคนข้างกายขึ้นมาทันได ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มยิ้มมากขึ้นด้วยความเอ็นดูสาวน้อย และก่อนที่เธอจะถอยห่างจากเขามากกว่านี้ มือของเขาก็คว้าเอวสาวน้อยเข้ามาแนบชิด 
หน้าที่จะหายแดงยิ่งแดงมากขึ้น ดิ้นคลุกคลักภายในวงแขนปากก็บ่นไม่หยุด \"ปล่อยนะ คาโล ปล่อยเดียวนี้นะ\"
\" ไม่\" คำปฏิเสธสั่นและเข้าใจง่าย ก่อนที่ใบหน้าคมคายนั้นจะโน้มเข้ามาใกล้และหอบแก้มสาวน้อยแรงๆหนึ่งทีต่อหน้าเพื่อน
\"คาโล!\"เฟรินเสียงดัง ตอนนี้อายไม่รู้จะอายยังไงแล้ว นัยน์ตาโตสีน้ำตาคู่โตฉายประกายไม่พอใจการกระทำของชายหนุ่มสักเท่าไร
\"คาโลคราวหน้าครางหลังจะทำอะไรก็บอกกันมั่งสิวะ\"คิลพูดขึ้นหลังจากหายอึ้งจากการกระทำอันกล้าหาญของเพื่อนซี้ กลับมาหัวเราะชอบใจแทน
\"ใช่ พวกฉันยังไม่อยากเป็นตากุ้งยิงนะโว้ย\"โรแซว ยิ้มๆ
คาโลเพียงแค่หัวเราะตอบคำแซวเพื่อน มือเปลี่ยนจากคล้องเอวมา โอบรอยคอสาวน้อยแทน แล้วจึงตอบกลับเพื่อน \"ฉันก็แค่อยากแสดงความเป็นเจ้าของนิดหน่อยก็เท่านั้น\"พูดจบก็หันมาสบตาเฟมด้วยสายตาแห่งผู้ชนะแบบว่าฉันเท่านั้นโว้ยที่แบบนี้ทำได้
นัยน์ตาสีน้ำทะเลมีเพียงแค่ความเย็นชาสุดๆกลับไปให้ ก่อนเปรยเสียงเรียบ \"ฉันไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก\"
\"นี่พวกนายฟังที่ฉันพูดบ้างหรือปล่าวเนีย\" ไนฟ์ที่หันกลับมาดูเพื่อนข้างหลังว่ายังตามมาหรือปล่าวและเมื่อรับรู้ว่าไม่มีใครฟังที่เธอพร่ำบอกไปเลยก็เลยเริ่มไม่พอใจ เสียงหวานเลยเริ่มดังมากขึ้น
\"ฟังสิจ๊ะ ฉันหิวแล้วเราไปที่โรงอาหารกันดีกว่านะ\"เฟรินสะบัดตัวหลุดจากวงแขนของคาโลก่อนที่จะเดินมาจำมือไนฟ์เร่งให้ไปที่โรงอาหารโดยด่วน
\"อืม จ๊ะ ตามมาทางเลยเฟลิน่าจัง\" ว่าแล้วทั้งสองสาวก็เดินนำหน้ากลุ่มหนุ่มไป
\"เฮ้ย คาโล กินข้าวก่อนสงครามไว้ทีหลัง\"คิลที่เดินมาตบบ่าคาโลก่อนแซว
\"นั้นดิ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะโว้ย\"โรเอ่ยด้วยความเห็นด้วยแล้วก็ตบบ่าคาโลมั่ง
คาโลถอนใจ ก่อนจะเดินไปพร้อมๆกับกับเพื่อน
เฟมที่เฝ้าดูเหตุการณ์ถอนใจมั่ง ในหัวยังยืนยั้นเรื่องที่เขาต้องการ
กลับตัวเองอีกครั้งแล้วจึงเดินตามกลุ่มนำไป
\"ไงไนฟ์วันนี้ลมอะไรพัดเธอมาถึงโรงอาหารได้เนีย ทุกทีเห็นกินข้าวกล่องที่สวนกลางนี่\" เสียงใส หวานชวนฟังดังขึ้นเมื่อพวกเธอเดินเขามาในโรงอาหารกลาง
หญิงสาวในเครื่องแบบนักเรียนห้องสองเอส  ผมสีน้ำตาลเข้ม นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเล หน้าตารูปร่างสวยใช้ได้ แต่ไม่เท่าเฟริน กับไนฟ์ ถามขึ้นจากโต๊ะใกล้ๆกับประตูทางเข้าโรงอาหาร
\"นึกว่าใครที่แท้ก็ยายลิเนย่า พากิ้น นี้เอง\"ไนฟ์เปรยเสียงเรียบอย่างไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไร
\"นั้นใครเหรอไนฟ์\" ลินนี่ยังถามต่อไปเรื่อยๆ
\"อ้อ นักเรียนใหม่ที่เขาพูดถึงไง ชื่อเฟลิโอน่า เกรเดเวน ชื่อเล่น เฟลิน่า\" ไนฟ์ตอบ
\"ชื่อเล่นฉันชื่อเฟริน ไม่ใช่เฟลิน่า ไนฟ์\" เฟรินแก้
\"ว้าว หนุ่มรูปหล่อ หน้าใหม่สาวคนข้างหลังนั้นใครเหรอ แนะนำมั่งสิ\" ปากว่าสาม แต่สายตากับมองคาโลตาไม่กระพริบ ไม่วางสายตา
\"คาโล วาเนปลี  คิล ฟิลมัส แล้วก็โร เซวาเรส\"ไนฟ์ยังคงแนะนำไปเรื่อยๆเรียบๆ ไม่ใส่ใจเท่าไร
\"ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ\" ลินนี่ยิ้มหวาน นัยน์ตาเชิญชวนคาโลสุดฤทธิ์สุดเดช แต่คาโลก็ไม่สนใจ ตอนนี้ขาสนใจแต่เจ้าตัวยุ่งที่ตอนนี้แทบจะรอไปกินข้าวไม่ไหวแล้ว ทำให้ลินนี่ แทบอยากกรี๊ดดังๆ แต่ก็ได้แต่เก็บอาการแล้วยิ้มเข้าไว้เท่านั้นเอง
\"พวกเราหิวข้าว ขอตัวไปกินข้าวกันก่อนนะ\" ไนฟ์ตัดบท จากนั้นพวกเขา ก็พากันเดินไปซื้ออาหารและหาที่นั่งที่ห่างจากโต๊ะของลินนี่แบบว่าไกลกันมากๆ ทางด้าน ลินนี่เมื่อกลุ่มผู้มาใหม่เดินจากไปเธอก็รีบวิ่งออกจากโรงอาหาร ไปหาที่ๆปลอดคน จากนั้นเธอก็กรี๊ดเสียง ดังอย่างอดไม่อยู่ปากบ่นพึมพำ
\"ค่อยดูนะยายเฟลิโอน่า ฉันไม่ยอมแพ้เธอหลอก\"
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น