ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ภาคลุยนอกหนังสือ

    ลำดับตอนที่ #13 : วันงาน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 48


    \"เฟริน นายไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว \" คิลเอ่ยหลังจากออกจากมุมหนึ่งของห้องว่างห้องหนึ่งที่ถูกดัดแปลงให้เป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับงานในวันนี้  ตอนนี้เขาอยู่ในชุดปีเตอร์เพนเรียบร้อยแล้ว



    \"ฉันไม่มีชุดเปลี่ยน\" เฟรินตอบ เสียงอ่อน แม้ริมฝีปากจะไม่แย้มรอยยิ้ม แต่นัยน์ตากลับระริกอย่างพอใจ



    \"ทำเป็นลืมเอามาละซี้ \"  ไนฟ์แซว  



    วันนี้เธอมาในชุดกิโมโนสีขาว ลายดอกซากุระ ผมยาวประบ่าถูกกล้าว แล้วปักด้วยปิ่นสีเงินรูปผีเสื้อ



    \"ไม่ได้แกล้งแต่ ลืมจริงๆ\" เฟรินเถียง  พร้อมกับทำหน้าจริงจัง



    \"ชุด นายอยู่นี่เฟริน \"



    เสียงเรียบเรียกให้ผู้ที่กำลังสนทนากันหันไปสนใจ   แน่นอนตอนนี้คนพูดอยู่ในชุดหมาน้อยเต็มยศ สีเงิน



    เฟริน แย้มยิ้มกว้างออกมา ถ้าไม่ใช่ว่าเคยเห็นมันในชุดอย่างนี้มาแล้วเธอคงลงไปนอนขำกลิ้งแน่  และส่วนคิลถึงแม้ว่าจะเห็นภาพนี้มาแล้วก็ตามแต่มันก็ยังคงไปรวมก้วนขำกลิ้งอยูที่พื้นกับไนฟ์อยู่ดี ซึ่งการกระทำเช่นนี้เรียกสายตาดุๆจากคาโลได้อย่างดี และสายตานั้นคงจะได้ทำงานได้ดีกว่านี้ถ้าเขาไม่แต่งตัวเป็นหมาน้อยอย่างงั้น



    \"นี้ชุดนายรีบไปเปลี่ยนๆซะ หรืออยากจะให้ฉันช่วย\"



    คำพูดที่ฟังดูก็ไม่มีอะไรน่าคิดมาก ถ้าไม่ติดว่าไอ้มุมปากที่เมื่อกี้ยังเรียบสนิดกลับปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้น  มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึก เพราะอีกสองคนที่ร่วมวงกันยังสติกลับมาไม่สมบูรณ์



    \"รู้แล้ว เอาชุดมาสิ\" เฟรินกล่าว



    ดวงหน้าเธอขึ้นเรื่อสีจางๆ เธอรับชุดแมวเหมียวที่ต้องใส่มาจากมือหมาน้อยคาโล แล้ววิ่งเข้าห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เรียกความสนใจจากเพื่อนสองคนที่เพิ่งได้สติดีเป็นอย่างยิ่ง



    \"คาโลนายทำไงให้เฟรินรีบไปเปลี่ยนชุดนะ\" ไนฟ์ถามขึ้นหลังจากหัวเราะจนท้องแข็งวงไปรอบ และกำลังจะหัวเราะอีกรอบที่ต้องมองคาโลตรงๆ



    คาโลนิ่งไม่ตอบคำถาม คิลที่ฟังอยู่ข้างๆเลยอาสาตอบแทน อย่างผู้รู้



    \"คาโลมันมีเคล็ดลับพิเศษสำหรับเฟรินโดยเฉพาะ\" คิลตอบแทนพร้อมกลั้วหัวเราะจนต้องเอามือปาดน้ำตาที่ไหลออกมา  คาโลส่งสายตามาห้ามแต่เขาทำเป็นไม่สนใจและเตรียมจะพูดต่อ  แต่ก็ถูกขัดด้วยคำถามที่เขาเต็มใจตอบอย่างยิ่งแม้ตอนจบของคำตอบอาจถูกจับแช่แข็ง



    \"เคล็ดลับอะไรเหรอ\" เฟม ที่เดินเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคนถามขึ้น



    เขามาในชุดยูกาตะสีน้ำเงินเข้ม เขามองไปที่คิลด้วยความสงสัย ก่อนที่พยายามกลั้นหัวเราะเมื่อมองมาทางคาโล



    \"เป็นเคล็ดลับที่แฟนเท่านั้นจะใช้ได้\" คิลอธิบายพรางทำเสียงให้ดูว่าเป็นความลับมากๆ ซึ่งเรียกความสนใจจากพี่น้องบาคาเอลเป็นอย่างดีจนพากันยิ้มกว้างรอคำตอบ ส่วน เจ้าของเคล็ดลับกลับรู้สึกมีเมฆทะมึนรอบหัว  แม้จะยังรักษามาดนิ่งได้อย่างไรที่ติ



    “ความลับก็คือประโยคที่ว่า ถ้านายไม่#####” คิลกล่าวแต่ไม่มีใคร ฟังออก เพราะถูกขัดด้วยเสียงอันดังลั่นจากเฟรินที่เพิ่งออกจากห้องแต่งตัวด้วยชุดแมวน้อย และมารับรู้เรื่องราวพอดิบพอดี





    \"ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่านายเป็นใบ้นะคิล อ๊ะ หรือนายอย่างเป็นใบ้จะได้ไม่ต้องพูดได้ฮะ \"เสียงแปดรอดยาวเหยียดที่คนพูดตั้งใจจะกลบคำพูดของเพื่อนซี้ ให้มิด



    คิลยิ้มแยะๆ พร้อมสายหัวไปมา ก่อนกล่าวขอโทษเพื่อน \" โทษที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ\" ด้วยเสียงที่ทำเป็นสำนึก  แต่นัยน์ตากลับไม่มีวี่แววของความสำนึกเลยแม้แต่น้อย  คนฟังเลย แยกเขี้ยวแถมให้อย่างหมั่นใส้



    \"แหม เฟลิน่าจัง ไม่เห็นต้องเป็นความลับขนาดนั้นก็ได้นี่ \" ไนฟ์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงบอกความอยากรู้อยากเห็น เป็นผลทำให้คนฟังหน้าขึ้นเรืองสีทันที หันมามองหน้าเพื่อนด้วยสายตาดุๆ



    \"อุ้ยแมวน้อยหน้าแดงด้วย อย่างงี้ก็ยิ่งอยากรู้นะสิ บอกหน่อบน้า\" ไนฟ์แซว แล้วก็กล่าวหยอกเฟริน เล่นด้วยเสียงที่ออดอ้อนสุดๆ



    \" ไม่บอก ถ้าอยากรู้ก็ไปสืบเอาเอง \" เฟรินกล่าวกับไนฟ์ก่อนหันมามองคิล



    \" ถ้านายบอกนายคงรู้นะว่ากลับไปจะโดนอะไร\" เฟรินกล่าวก่อนเดินแยกออกไป ด้วยสายตาที่คิลไม่กล้าพอที่จะเหย่มันเล่นต่อ



    \"คาโลบอกหน่อยสิ\" ไนฟ์หันมาอ้อนคาโลแทน



    \"ไม่ละ  \" คาโลปฏิเสทอย่างเรียบง่ายก่อนเดินตามเฟรินไปอีกคน





    ที่พึ่งสุดท้ายตอนนี้ตกกลับมาที่คิล ที่กำลังก้าวขาตามเพื่อนสองคนไปมั่งถ้าไม่ถูกรั้งไว้ก่อน





    \"คิลบอกหน่อย เฟลิน่าจัง กับคาโลไม่อยู่แล้วเขาไม่รู้หรอก\" คำกล่าวมาพร้อมรอยยิ้มหวาน



    \"ไม่เอา ฉันไม่อยากเสี่ยง แล้วเมื่อกี้ก็บอกไปแล้วแต่ไม่มีคนฟังออกเอง\" คิลตอบปัดก่อนจะรีบวิ่งตามพวกเพื่อนซี้ไป



    \"ทำเป็นความลับใหญ่โตเชียว ยิ่งไม่บอกก็ยิ่งจะรู้ให้ได้\" ไนฟ์เปรยกับตัวเอง ซึ่งทำให้พี่ชายที่ยื่นฟังเงียบๆหัวเราะออกมาเบาๆ



    \"แล้วเราจะทำยังไงละ\" เฟมถามขึ้น



    \"ไม่รู้ แต่ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้\" ไนฟ์ตอบด้วยเสียงที่แน่ใจอย่างยิ่ง



    \"จ้าๆ ยังไงตอนนี้ตามพวกนั้นไปก่อนเถอะ ปะ\" เฟมกล่าว ไนฟ์พยักหน้ารับรู้ แล้วเขาทั้งสองก้รีบเดินไปรวมกลุ่มกับพวกเพื่อน















    \"สวัสดีค่ะ คุณโร ไม่ทราบว่าคุณโรมีคู่เต้นรำคืนนี้แล้วรึยังค่ะ\"



    สาวน้อยเด็กปี 1ห้อง เอ  ผู้แต่ตัวเป็นนางพยาบาลน่ารัก ในชุดขาว ผมยาวดำระสวยถูกรวบไว้ใต้หมวกขาว



    \"ยังครับ เออ น้องชื่ออะไร\" โรตอบแล้วก็ต่อด้วยการถามชื่อสาวน้อยตรงๆ



    \"วิเฮลมิน่า อเล็กซิส คาเรน เรียกเรนเฉยๆก็ได้ค่ะ\" เรนตอบ ดวงหน้าติดจะแดงๆด้วยความเขิน  คนมีศักย์ เป็นพี่เลยเผอมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู



    \"งั้นน้องเรนจะให้เกียรติเต้นกับผมได้ไหมครับ\" คำชวน พร้อมยิ้มอย่างใจดีให้เรน



    \"ค่ะ ยินดีค่ะ\" เรนตอบพร้อมรอยยิ้มหวานดีใจ



    \"งั้นตอนห้าโมงเย็นเจอกันนะครับ\"



    \"ค่ะ ห้าโมงเจอกันค่ะ\" เรนตอบ

    ตอนนี้หน้าแดงเป็นสีชมพูน่ารักทีเดียว แล้วเธอก็เดินจากไปรวมกับเพื่อนๆ ทิ้งให้โรนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม





    \"อั่นแน่  โร เผอแป๊บเดียว มีสาวมาจีบด้วย\" เฟรินที่จะเข้ามาหาแต่พอเห็นโรกำลังคุยอยู่กับสาวน่ารักเลยหยุดดู



    \"ปล่าว น้องเขาแค่มาถามว่ามีคู่เต้นรำรึยังก็เท่านั้น\" โรตอบเสียงเรียบ ไม่แสดงอาการอะไร



    \"จริงอะ\" เฟรินยังทำท่าไม่เชื่อ



    \"จริง\"



    \"งั้นทำไม\" เฟรินทำถ้าจะถามต่อแต่คาโลขัดไว้



    \"เฟรินเรื่องของเขา นายจะไม่ยุ่งไม่ได้รึไง\" เสียงเรียบแถมสายตาดุๆ



    \"รู้แล้ว ไม่ยุ่งก็ได้\"



    แต่หน้าตากับแสดงความไม่พอใจที่ถูกห้ามไม่ให้ถาม มันทำให้คนมอง  คนหนึ่งสายหน้าอย่างละอา อีกคนหัวเราะขำๆอาการเจ้าหล่อน









    \"โอ้ โรจังแต่งเป็นกับตันฮุกหรอก \" เสียงแซวดังมาแต่ไกลของพี่ลอเรีย  ที่กำลังตรงมาทางทุกคน



    \"ครับ\" โรตอบยิ้มๆ



    \"ว้าว เฟรี่ คาลี่ชุดน่ารักนี่ แถมเข้ากันอีกต่างหากนะ \" ลอเรียยังคงแซวน้องๆไม่เลิก ซึ่งมันทำให้ผู้ถูกแซวหน้าขึ้นสีไปตามกัน



    \"ชุดพี่ก็น่ารักค่ะ แต่เป็นอะไรเหรอค่ะ\" เฟรินถามเพื่อเบี่ยงแบนความสนใจ



    \"อลิสจ้า อลีสในดินแดนมหัศจรรย์\" ลอเรียตอบพร้อมยิ้มหวานอย่างพอใจในชุดที่ใส่เต็มที่



    \"วันนี้สวยจังนะฮะพี่ลอรี่\" คิลกล่าวเมื่อเข้ามาร่วมวงด้วยอีกคน



    \"ขอบใจจ๊ะ คิลเองก็เป็นปีเตอร์เพนใช่ไหม\" ลอเรีย ตอบเสียงหวาน พร้อมถามกลับด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี



    \"ครับ\" คิลตอบ



    \"งั้นพี่กลับห้องก่อนนะ มีงานต้องทำ ถ้าว่าก็ไปที่ห้องพี่นะเป็นร้านน้ำชา มีขนมอร่อยๆเลี้ยงด้วยนะ\" ลอเรียกล่าวชวน



    \"จะไปค่ะ\" เฟรินตอบ ตาโตเมื่อได้ยินว่ามีขนมเลี้ยง



    \"ไว้เจอกันจ้า \" ลอเรียลา แล้วเธอก็เดินกลับห้องตัวเองไป



    \" เราก็ไปที่ห้องของเรามั่งเถอะไม่รู้ที่ร้านยุ่งขนาดไหนแล้ว\" โรกล่าวเตือน  จากนั้นพวกเขาทุกคนก็พากันกับไปที่ห้องเพื่อดูว่างานของห้องเป็นยังไงบ้างตอนนี้









    \"หมาน้อย หมาน้อย น่ารักจังเลยชื่ออะไรหะเรา อ๊ะเจ้าก็น่ารัก ชื่อไรเอ่ย \" เสียงทุ้นนุ่มมีเสน่ห์ดังมาจากห้องที่จัดเป็นเพ็ดช๊อป



    \"เสียงอะไรเอะอะ\" คาโรที่เดินเข้ามาในห้องคนแรก เอ่ยถามสถานการณ์ภายใน พรางมองไปรอบๆห้อง



    \"คือคุณมิกี่ เข้ามาเที่ยวดูในร้านนะค่ะ แต่พอเห็นเจ้าหนูพวกนี้เขา พี่แกเลยออกอาการยังงั้นเข้า\" เพื่อนสาวคนหนึ่งกล่าว พร้อมกับชี้มือไปทางชายหนุ่มผมสีน้ำตาลทอง หน้าตาดีมากๆคนหนึ่งที่ตอนนี้กำลังยิ้มน้อบยิ้มใหญ่คุยเล่นอยู่กับพวกสุนัขที่เอามาให้เช่าในวันนี้



    \"มีอะไรเหรอคาโร\" เสียงใสของเจ้าตัวยุ่งที่ตามเขามาติดๆ แถมเจ้าหล่อนยังพยายามที่จะสอดส่ายสายตาสำรวจเหตุการณ์



    \"...............\" คาโรไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้าให้เฟรินหันไปมองต้นเสียงเอง  เฟรินเข้าใจเหตุการณ์ในทันทีที่เธอรับรู้ เธอเดินเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นอย่างเงียบๆแล้วเอ่ย \" สนใจตัวไหนเป็นพิเศษรึปล่าวค่ะ\" เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มการค้า  ชายหนุ่มไม่หันมองหน้าเธอ  เขาเพียงแค่พยักหน้า เอามืออุ้มลูกหมาขึ้นมาสามตัว ก่อนกล่าวสั้นๆ \" สามตัวนี้เท่าไร\" เขาพูดพร้อมกับหันหน้ามามองเฟริน



    เฟรินอึ้งนิดหน่อยก็เจ้าตัวน้อยที่ลูกค้าคนนี้สนใจมันเป็นหมาน้อยของพวกเธอสามคน ซึ่งเธอเองก็ยังไม่ได้คิดราคาค่าเช่าต่อชั่วโมงไว้เลย เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากคาโลและก็พอดีกับที่คิลเดินเข้ามาให้ห้องเธอเลยขอความช่วยเหลือจากคิลด้วยอีกคน



    \"ชั่วโมงละ 50 สำหรับ เรนี่ของผม\" คิลกล่าว หลังจากทราบเรื่องทั้งหมดจากคาโลแล้ว



    \"เฟร์ ของฉัน ชั่วโมงละ 50  ส่วน คารุของเฟรินชั่วโมงละ 55 \" คาโรตอบ เสียงเรียบ



    \"ชื่อเฟร์ คารุ และเรนี่ งั้นรึ ชื่อน่ารักดีนี่เจ้าตัวน้อยว่าแต่ชื่อไหนของตัวไหนละเนีย  ให้ฉันเดานะ เจ้าชื่อ เฟร์ เจ้าชื่อ คารุ และเจ้าชื่อเรนี่ถูกไหม\" มิเกลกล่าวขณะเอ่ยเดาเขาก็เกาคางให้เจ้าตัวน้อยที่ละตัวเริ่มจาก ตัวสีเงิน สีน้ำตาลทองแล้วจบด้วยชิสุน้อยสีขาวดำ



    \"ถูกแค่ เรนี่  เฟร์นะตัวสีน้ำตาล ส่วนคารุตัวสีเงิน\" เฟรินแก้ความเข้าใจผิดให้



    \"โอ๊ะ ขอโทษนะ คารุ เฟร์ \" มิเกล พูดพร้อมกับเอามือเกาท้องให้ทั้งสองตัวเล่น



    \"นี่นายจะหันมาคุยดีๆก่อนที่จะเล่นกับหมาได้มะ\" เฟรินเริ่มเสียงดังด้วยความรำคาญ หน้าสวยๆเริ่มฉายแววงุดหงิดอย่างรุ่นพี่บางคนที่เธอรู้จักดี



    \" เช่าทั้งวันเท่าไรก็พูดมา\" มิเกลกล่าวเสียงเย็นเรียบสนิทพร้อมหันมามองหน้าเฟรินอย่างไม่สนใจกับอาการของเธอเลย



    นายนี่กวน ชะมัด ถ้าจะเป็นโรค คลั่งหมา  ขาดหมาไม่ได้ ถ้าขาดอาจถึงตาย   ความคิดที่ดังขึ้นในใจ คิวขมวดเป็นโบ เธอไม่ได้บอกราคาไปเพราะเธอไม่ถนัดไอ้วิชาตัวเลขเอาซะเลย



    \"105 ต่อชั่วโมง เช่าได้ถึง 6 โมงเย็น ตอนนี้ 10โมง รวม 8 ชั่วโมง ทั้งหมดก็ 840  ครับ\" โรที่เข้ามาทราบเรื่องตอนบอกเวลา ตอบพร้อมรอยยิ้มแบบพ่อค้า



    \"จ่ายเงินที่ไหน\" มิเกลถามเสียงเรียบ หน้าตาเวลามองเพื่อนมนุษย์ ด้วยกันนี้ช่างเฉยชาไร้ความรู้สึก



    \"ทางนู้นครับ เชิญจ่ายเงินแล้วรับอาหารกับ เชือกได้เลยครับ\" โรชี้ไปทางเค้าเตอร์เก็บเงิน แล้วตอบ



    มิเกลอุ้มเจ้าลูกหมาทั้งสาม ไปจ่ายเงิน รับของ แล้วออกจากห้องไปโดยไม่สนใจผู้คนที่ต่างมองมาที่เขาเลยสักนิด



    \"นายนี้ถ้าจะบ้าหมามาก \" เฟรินกล่าวออกมาด้วยเสียงงุดหงิดที่อดทนไว้นาน



    \" เขาก็บ้าหมาไม่ปิดบังมาตั้งนานแล้วนี่ ไม่เห็นต้องไปงุดหงิดเลยเฟริน\" โรกล่าวยิ้มกับอาการบ่จอยของเจ้าตัวยุ่ง



    \"นายรู้จักนายนั้น\" เฟรินกล่าวออกมาด้วยความสนใจ พรางนึกขึ้นได้ว่าไม่ค่อยมีเรื่องที่ไอ้นี่มันจะไม่รู้นี่หว่า



    \"แน่นอนสิ ใครๆ เขาก็รู้จัก มิเกล วามิเอล  ไอดอลประจำโรงเรียนกันทั้งนั้น อะหรือนายไม่รู้จักเฟริน\" คิลเปรย พร้อมกับทำหน้าตกใจเมื่อคิดขึ้นได้ว่าเฟรินไม่รู้จักลูกค้าคนเมื่อครู่



    \" ใช่สิ ฉันมันไม่รอบรู้อย่างพวกนายนี่\" เฟรินเอ่ยเสียงน้อยใจ ทำไมนะ เธอถึงรู้อะไรต่ออะไรช้ากว่าเจ้าพวกนี้ทุกที



    \"ไม่ใช่มั้ง เฟรินนะมีคนที่ตัวเองสนใจมากกว่าอยู่แล้วนี่\" คิลพูดด้วยนำเสียงรู้ดี อย่างขำๆทำให้เจ้าตัวยุ่ง กับบุคคลพาดพิงพากกันหน้าแดงด้วยความเขินตามๆกัน



    \"กำลังทำอะไรกันอยู่ฮะ ท่าทางสนุก\" น้องสาวคนดีของเฟริมทักทายเสียงใส



    \"ไม่มีอะไรหรอกฮิวจ์\"เฟรินบอกปัด  ดวงตาสีน้ำตาลดุๆที่หาไม่ค่อยได้ถูกส่งมาปิดปากเพื่อนซี้ตัวกวน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ผลเพราะมันยังคงยิ้มร่าไม่เปลี่ยน



    \"พี่คิลมีเรื่องอะไรสนุกๆก็บอกมั่งสิ\"  ฮิวจ์ยังคงแสดงอาการอยากรู้อยากเห็น



    \"ความจริงพี่ก็อยากบอกนะแต่ไปถามพี่เฟริน ไม่ก็พี่คาโลจะดีกว่า  คือแบบว่าพี่ยังไม่อยากโดนเชือดนะ\" คิลปฏิเสทอย่างสุภาพ  ก่อนจะหันไปส่งยิ้มสะใจ พร้อมหยักคิ้วให้เพื่อนซี้ที่หน้าเริ่มขึ้นสีนิดๆอีกแล้ว



    \"พี่เฟรินบอกหน่อยน้า\" ฮิวจ์อ้อนเต็มที่ เฟรินมองน้องสาวอย่างเอ็นดูแต่เธอยังคงปิดปากเงียบ



    โรเกิดนึกสนุก เขาหันไปกระซิบกระทราบอะไรบ้างอย่างกับคิล  แล้วทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมาเสียงดัง  และก่อนที่จะทันมีใครพูดอะไรออกมาโรก็เอ่ยขึ้น \" ฮิวจ์รู้จักมิเกล รึปล่าว\"



    ฮิวจ์นิ่งหน้าครุ่นคิด เมื่อนึกออกเธอก็ยิ้มออกมาแล้วกล่าว \"รู้จักสิฮะ มิเกล วามิเอล คนดังที่ความจริงต้องอยู่ปี 3แล้วแต่ดังโดดบ่อยเลยยังอยู่แค่ปี2 รู้สึกว่าพี่แกจะอยู่ห้องนี้ด้วยนี่นะ\"



    \"ห้องนี้เหรอ ปีสองห้องเอสห้องนี้น่ะนะ ไม่ยักจะเคยเห็น\" เฟรินกล่าวออกมาด้วยเสียงไม่เชื่อเต็มที



    \" ฮะ \" ฮิวจ์ยืนยัน \"ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับพี่เขาละ\" ฮิวจ์ยังคงถามต่อ



    \"อ้อไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่พี่สาวเราเขาไม่รู้จักคนดังประจำโรงเรียนก็เท่านั้น\"  คิลตอบเสียงเรียบ อย่างกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร  แต่ฮิวจ์ก็จับความได้ เธอหันมามองหน้าคาโล ก่อนอย่างท้าทาย  สายตาบ่งบอกว่าอย่างไงก็ไม่ยกพี่สาวคนงามให้นายง่ายๆหรอก จากนั้นจึงค่อยขยับเข้าไปใกล้เฟริน   แล้วจัดการหอมแก้มพี่สาวคนงามไปที่ ก่อนจะประกาศเสียงดังฟังชัดว่า\" ถ้าแน่จริงก็ เข้ามาเอาซี\"



    คำพูดกำกวม แต่คนฟังอย่างคาโลรึจะไม่เข้าใจคำท้าทายจากฮิวจ์ เกิดความหึงหวงไม่ชอบใจขึ้นในใจ แต่ในทันที่ก็เกิดแผนการเอาคืนขึ้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กระตุกที่มุมปาก



    ความซ ว ย ไปตกที่แม่ตัวดี ที่เริ่มรู้สึกไม่ดีและขยับออกห่างไปชิดน้องสาวจมหาเรื่องแทน



    คาโลเลยต้องเดินไปคว้าตัวเฟรินออกหาจากฮิวจ์  เข้าสู่วงแขนของเขาแทน



    \"ปล่อยนะ คาโลนายจะทำอะไร\" เฟริน กล่าวเสียงดัง ดิ้นคลุกคลัก อยู่ในอ้อมแขนชายหนุ่ม ใบหน้าสวยขึ้นสีเรื่อน่ารัก



    คาโลมองหญิงสาวในอ้อมกอด นัยน์ตาสีฟ้าระริก รอยยิ้มยังคงฉายชัดบนใบหน้ารูปสลัก  เขาไม่ได้พูดพร่ำอะไร  เพียงแต่ค่อยๆโน้นหน้าลงมาประทับริมฝีปากกับปากสวยๆของหญิงสาวที่รัก  เฟรินที่ดิ้นคลุกคลักตอนแรกค่อยๆ สงบลง  แล้วทั้งคู่ก็ใช่เวลาอยู่อย่างนั้นเนินนานโดยไม่สนใจสายตาทุกคู่ที่มองมาจนกระทั้งมีเสียงเพื่อนซี้ที่ทนดูฉากหวานแหววของทั้งคู่นานไม่ได้ขัดขึ้น



    \"นายจะสวีทกันก็ไปทำกันในที่ลับหน่อยดิ พวกฉันเลียนวะ\" เสียงกลั้วหัวเราะ



    “ไม่อายหน้าอิน หน้าพรหม เลยนะ กลางห้องเลย” โรเอ่ยขึ้นบาง  เสียงกลั้วหัวเราะขำขัน บวกสะใจที่แผนไปได้สวย



    หญิงสาวผู้มีฉากหวานแหว๋ว ตามเพื่อนบอกเมื่อได้สติ ก็รีบผลักชายหนุ่มผู้ทำให้ตนขาดสติออกหาจากตัว จากนั้นใบหน้าขาวสายๆก็ขึ้นสีแดงซะยิ่งกว่าลูกตำลึง  ฝ่ายชายแม้ว่าจะรู้สึกอายไม่แพ้กันที่ปล่อยให้ความหึงไม่เข้าเรื่องทำขาดสติ แต่ก็ยังนึกสะใจอยู่นิดๆที่ได้เอาคืนน้องตัวดีของแฟนได้สำเร็จ  



    ส่วนน้องสาวจอมซ่าที่อยู่ๆเกิดห่วงพี่สาวขึ้นมาเมื่อเห็นฉากหวานแบบไม่อายใครก็เล่นเอาค้าง  มาได้สติอีกที่ก็เห็นพี่ตัวเองหน้าแดงก้มหน้าไม่สนใครแล้ว   เธอหันไปมองหน้าคู่คดีกับพี่สาวอย่างแค้นนิดๆ กัดฟันกรอดๆพร้อมกับความคิดที่ว่า



    ฉันฝากไว้ก่อนเถอะ



    แต่เรื่องไม่ได้หยุดอยู่เท่านั้น   ยังมีสายตาอาคาดส่งมาจากไกลอีก  สองคน   แม้ทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรออกมาก็ตาม





    กรี๊ด.........ด  ยายเฟริน  แกบังอาจ จูบกะคุณคาโลกลางห้องเลยนะยะ    แกรู้จักลินนี่คนนี้น้อยไปแล้ว



    สายตาอาฆาต จากสาวน้อยที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ตอนจนจบ  แต่ไม่มีโอกาสเดินเข้าไปทักคนคนนั้นเท่านั้นเอง



    คาโลแกกะฉันได้เจอดีกันสักวันแน่



    รอยยิ้ม ปรากฏบนใบหน้าของคนที่ตามเข้ามาเห็นเหตุการณ์บาดตาบาดใจพอดี พร้อมน้องสาวที่รู้สึกต่างกัน เธอยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มเอ็นดูเพื่อนทั้งสอง





    ส่วนคนอื่นๆในห้อง ก็มีหลากหลายอารมณ์กับเหตุการณ์ที่น่าตกใจ ที่เกิดกะสองเพื่อนใหม่



    กล้าดีนะ



    น่ารักจัง



    อยากมีแฟนอย่างงั้นบ้างอะ



    งี้เง้า



    น่าเสียดาย



















    \"คาโล นายจะเดินเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไง \" สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ในชุดแมวไทย แสนสวย  ทำหน้ากังวลเมื่อพบว่าตัวเองกำลังจะไปร่วมงานปาร์ตี้สาย



    \"นายจะรีบไปไหน  เวลาเหลืออีกตั้ง 5นาที งานก็อยู่ข้างหน้าแค่เนี้ย \" เพื่อนซี้ในชุดปีเตอร์เพน ที่แทบจะต้องวิ้งตามเจ้าแมวน้อยที่เดินนำลิ่วๆแต่ยังไงก็ตามไม่ทันอยู่ดีเลยกลับไปเดินสบายๆเก็บแรงไว้ใช้ในงานแทน และทิ้งให้สาวเจ้าเดินห่างออกไป



    \"นายลืมไปแล้วหรือไง ว่าเราต้อง เต้นเปิดงาน\" เฟรินกล่าว พร้อมๆกับเร่งฝีเท่าเพิ่มมาขึ้น



    \"นายอยากเต้นกับฉันขนาดนั้นเลยรึ \" คาโลกล่าวเสียงขมขัน เขาเพิ่มความเร็วในการเดินมากขึ้นเพื่อตามเจ้าแมวน้อยของเขาให้ทัน



    \"ปล่าว แค่อยากจะรีบไปหาอะไรกินก่อนที่จะกินไม่ลงไปซะก่อน\" สาวเจ้า ตอบน้ำเสียงจริงจังมาก



    ชายหนุ่มผู้ที่รู้สึกตัวว่าตัวเองสำคัญน้อยว่าอาหารที่รอเจ้าหล่อนอยู่ข้างหน้า ถึงกับอึ้งในคำพูดที่น่าสั่งสอนนักของเธอ  และแทนที่เขาจะเร่งความเร็วเพื่อจะได้ไปถึงงาน เร็วขึ้น เจ้าหล่อนจะได้มีเวลากินมาขึ้น เขากับลดความเร็วลง



    \" เป็นไรไปอีกละ \" เฟรินสังเกตได้ถึงความผิดปกติของคาโลเลยถามขึ้น



    \"อาหารสำคัญกับนายนักใช่มะ\"



    แม้ใบหน้าและเสียงจะยังคงราบเรียบไม่แสดงอารมณ์ แต่นัยน์ตาคู่ฟ้ากับระริกด้วยความน้อยใจเล็กๆ



    \"นายก็รู้ว่าฉันกินจุ ถ้าไม่รีบไปก็กินไม่อิ่มนะสิ\" ข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ค่อยจะขึ้น กับใบหน้าสวยๆที่งงงวยกับอาการของชายหนุ่มตรงหน้า



    \" แล้วอาหารกับฉันอันไหนสำคัญกับนายมากกว่ากัน\"



    ชายหนุ่มในชุดหมาน้อย ตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดหมาป่าที่กำลังจะล่าลูกแกะ นัยน์ตาของเขาระริกเหมือนเดิมกับเมื่อครู่แต่แตกต่างกันที่มันดูเจ้าเล่ห์  รอยยิ้มน้อยๆที่แย้มตรงมุ่มปากนั้นยิ่งเสริมให้ไม่น่าไว้ใจมากขึ้นในสายตาของสาวน้อยที่กลายเป็นลูกแกะรอเชือด



    \" ไม่รู้สิ\" เธอตอบแบบรวกๆ  แต่หน้าตากับตอบความในใจด้วยการขึ้นสีแดงจัดแทบจะทันที ที่ถามจากปากชายหนุ่มจบลง



    \"นายรีบไม่ใช่เหรอแล้วหยุดทำอะไร\" เพื่อนซี่ที่เดินตามสองคนมาทัน  เมื่อเดินมาถึงตรงที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน จึงถามขึ้น



    \"ไม่มีอะไร เรารีบเข้างานเถอะ สายแล้ว พี่ลอเรนซ์ต้องบ่นอีกแน่เลย\" เฟรินปฏิเสท แม้ว่าหน้าของเธอจะยังเรืองสีแดงอ่อนๆอยู่ก็ตามแล้วรีบเดินแยกออกไป ยิ่งสร้างความสงสัยให้เจ้าเพื่อนซี้จอมยุ่งมากขึ้น



    \"มันเป็นไรของมันนะ\" คิลผู้อยากรู้อยากเห็นถามชายหนู่มอีกคนที่ยัง่ยื่นอยู่ข้างๆเขา



    \"จะไปรู้มันเราะ\" คาโลตอบเสียงขบขัน แม้ปากจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเพื่อนซี้ที่อยู่ด้วยกันมานานได้ คิลรู้ว่าคาโลต้องแอบไปทำอะไรเฟรินอีกแน่ไม่งั้นมีรึคนอย่างเฟรินจะหน้าแดงได้ง่ายๆ ที่เขาไม่รู้มีแค่ว่ามันเรื่องอะไรก็เท่านั้นละ













    \"ลอเรนซ์เห็นพวกเฟรินไหม\" โรเวนผู้ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของงานถาม สีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด



    \"ไม่เห็น \" ลอเรนซ์ตอบเสียงเรียบเย็น ใบหน้าแสดงออกถึงอารมณ์ที่เสียมากกว่าปกติประมาณ 3เท่า



    \"ลูคัส นายทำอะไรอีกละคราวนี้\"โรเวนถามเพื่อนซี้อีกคนที่กำลังชิมไวท์อย่างสบายอารมณ์ข้างๆคนอารมณ์เสีย



    คำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับสำลักไวท์เลิศรส ลูคัสทำหน้าพิลึก ตื่นๆ ก่อนตอบ\" ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ คนทำนะนั้น... สาวน้อยคู่เต้นรำนายนั้นละ หล่อนเป็นคนทำ อยากรู้ว่าหล่อนไปทำอะไรก็ไปถามกันเองสิ  ฉันไม่เกี่ยวสักหน่อย\"   กล่าวจบลูคัสก็เดินเลี่ยงออกไปขอไวท์แก้วใหม่มาชิมต่อ



    โรเวนเมื่อไม่ได้คำตอบจากลูคัสเขาเลยเดินเข้าไปถามหญิงสาวที่ลูคัสบอกว่าเธอรู้เรื่องดีแทน



    เซเรียวันนี้เธอมาในชุดสีขาวบริสุทธ์ เป็นชุดเสื้อเกาะอกที่มีปีกเล็กๆข้างหลัง  สวมกระโปรงที่บานพริ้วๆสั้นเหนือเข่า  รองเท้าส้นสูงที่ถ้าเยีบบเท้าใครเข้าเท้าคนนั้นคงเป็นรูเพราะส้นแหลมมากเครื่องประดับคือสายรัดคอกับจี้ไม้กางเขน  กำไรสีเงินที่แขน เส้นผมยาวสลวยสีน้ำผิ้งถูกผูกเป็นเปียเส้นเล็กๆและรวบไว้ด้วยโบอันใหญ่  ตอนนี้สาวน้อยคนนี้ดูราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆก็ไม่ปาน เจ้าหล่อนกำลังคุยอยู่กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน  เพื่อนคนนี้ก็คือลอเรียหญิงสาวผู้หน้าตาระม้ายกับเจ้าเพื่อนตัวแสบที่กำลังหน้าบึ้งอารมณ์เสียอะไรก็ไม่รู้จนเดือดร้อนต้องมาหาทางแก้ให้มันก่อนงานเริ่มไม่งั้นงานกร่อยไม่สนุกแน่งานเนี้ย



    \"เซเรีย \" โรเวนเรียกหญิงสาวเมือเดินเข้ามาใกล้เธอ



    \"อาจารย์มีอะไรจะให้เซเรียช่วยหรือค่ะ\"เธอถามพร้อมรอยยิ้มหวานพราวเสน่ห์ รอยยิ้มที่ทำให้ชายหนุ่มหลายคนที่อยู่แถวนั้นแทบละลายยกเว้นโรเวนที่ยังคงรักษาสีหน้าได้เรียบสนิทแม้ภายในใจจะหวั่นไหวเล็กน้อยก็ตาม



    \"เธอไปทำอะไรให้ลอเรนซ์ มันถึงได้อารมณ์เสียหนักขนาดนั้น เธอก็รู้ไม่ใช่รึว่ามันก็หนึ่งในคู่ที่ต้องไปเต้นเปิดงาน  ให้เต้นทั้งงั้นพอดีงานล่ม\"



    คำถามที่รัวเป็นชุดกับรอยขมัวของคิวบนใบหน้าของอาจารย์หนุ่มสุดหล่อทำให้ถึงสาวแสดงสีหน้างงกับคำถามในตอนแรกนิดหน่อยแต่เมื่อเธอเข้าใจทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างน่ารักสุดๆ (ในสายตาหนุ่มๆแถวนั้น)แต่โรเวนกับยิ่งทำหน้าไม่ไว้ใจในเสียงหัวเราะและไม่สบายใจมากขึ้น



    \"หนูไม่ได้ทำอะไรให้อาจารย์ลอเรนซ์อารมณ์เสียนะค่ะแค่ไปบอกเขาว่าวันนี้คู่เต้นรำของเขาคือลอรี่ก็เท่านั้นเองค่ะ\" เธอตอบและกับมายิ้มหวานอีกครั้ง



    โรเวนทำหน้าไม่เชื่อในคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไร  เขาจึงถามย้ำอีกรอบ



    \" แน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไร\"  



    \"แน่ใจค่ะ หนูไม่ได้ทำแต่ลอร์รี่จะทำอะไรหรือปล่าวหนูก็ไม่ทราบนะค่ะ\"เซเรียตอบเสียงใส



    โรเวนหันไปมองหน้าลอเรียที่อยู่ในชุดอลีส เธอดูน่ารักไม่แพ้นางฟ้าเจ้าเล่ห์ที่เขาเพิ่งสนทนาด้วยจบถ้าไม่ติดว่ามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก  ผู้หญิงพวกนี้ไปทำอะไรไว้นะลอเรนซ์ถึงอารมณ์บูดขนาดนั้น เขาคิดก่อนถามเจ้าหล่อนที่กำลังยิ้มหวานด้วยใบหน้าของเพื่อนสนิทผู้ไม่ค่อยยิ้ม

    \" ลอเรียเธอคงไม่ได้ไปทำอะไรลอเรนซ์มันหรอกนะ \"   เขาถามอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ



    \"ไม่แน่ใจค่ะ แค่คุยกันเฉยๆ\"  ลอเรียตอบพร้อมรอยยิ้ม ไม่น่าไว้ใจ  ในสายตาของโรเวน แต่น่ารักนสายตาขอลคนแถวนั้นหลายคน



    \"ถ้าเธอไปทำอะไรไว้ก็ช่วยไปแก้ปัญหาก่อนงานเริ่มด้วยละกัน\"  โรเวนกล่าวก่อนเดินออกมาจากกลุ่มสาวสวยทั้งสอง   ที่พากันหัวเราะชอบใจกับการกังวลไม่เข้าเรื่องของอาจารณ์หนุ่มที่เพรียบพร้อมไปซะหมด







    \"ลอรี่เธอไปทำอะไรลอเรนซ์อีกละงานนี้\" เซเรียถามเพื่อนเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่มาหาเมื่อครู่ออกไปพ้นระยะได้ยิน



    \"ปล่าวนะไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย\" พูดจบก็หัวเราะกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปไม่นาน



    \"มีอะไรบอกมานะ\" เซเรียพยายามคาดคั้น



    \"ไม่มีก็ไม่มีสิ\" ลอเรียปฏิเสธยิ้มๆ พร้อมกับนึกย้อนไปเมื่อ 15นาทีที่แล้ว ตอนที่เธอไปคุยกับลอเรนซ์





    15นาทีที่แล้ว.........



    \"อาจารย์ค่ะ  ขอเวลาเดียวได้ไหมค่ะ\" ลอเรียกล่าวเสียงหวานเรียบร้อย  การพูดด้วยเสียงเช่นนี้สร้างความไม่ไว้ใจให้กับลอเรนซ์เป็นอย่างมากแต่เขาก็ยอมตกลงเดินตามหญิงสาวไป



    \"จะพูดอะไรก็พูดมาฉันไม่มีเวลามากนัก\"ลอเรนซ์กล่าวเสียงเรียบ เมื่อทั้งคู่มายื่นอยู่ที่สวนสวยนอกที่จัดงานเต้นรำ



    \"อาจารย์แต่งเป็นกระต่ายน่ารักดีนะค่ะ\" ลอเรียกล่าวชมพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งทำให้ลอเรนซ์ถึงกับสะอึก ก่อนจะรีบระงับสติไม่ให้หน้าแดง



    \"หนูพูดจริงนะค่ะอาจารย์ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ\" ลอเรียกล่าวเสียงหวาน



    ยายนี่ไปกินอะไรผิดสำแดงมารึปล่าวถึงได้พูดกับเราซะเสียงหวาน



    ลอเรนซ์คิดแล้วคิวของเขาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยและไม่ไว้ใจ



    \"วันนี้หนูแต่งเป็นอลีส ละค่ะ\" ลอเรียกล่าวเสียงใสและยิ้มหวานให้ลอเรนซ์



    \"อืม แล้วมีเรื่องอะไรก็ว่ามาสิ\" ลอเรนซ์พูดด้วยเสียงที่เริ่มไม่ไว้ใจในผู้หญิงตัวน้อยๆข้างหน้าเขาอย่างเต็มที่



    \" เซเรียบอกแล้วใช่ไหมค่ะว่าเราได้เต้นคู่กัน\" ลอเรียยังคงกล่าวเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มไม่นาไว้ใจในสายตาของลอเรนซ์



    \"แล้วไง  มีแค่นี้รึที่จะพูดกับฉันนะ\" ลอเรนซ์กล่าวเสียงเรียบ ตอนนี้เขากำลังรวบรวมสติไม่ให้มันขาด



    \"ปล่าวหรอกค่ะ\" ลอเรียเอ่ยเสียงใสอารมณ์ดี



    ลอเรนซ์ยิ่งทำหน้าไม่ไว้ใจ ตอนนี้เขาเริ่มจะทนเธอไม่ไหมแล้ว



    \"อาจารย์เป็นไรไปค่ะ\" ลอเรียถามด้วยเสียงเป็นห่วง  แต่คนมองไมรู้สึกถึงความเป็นห่วงมีแค่เริ่มใจไม่ดี และความอดทนก็สิ้นสุดลง



    \" เธอจะมาไม้ไหนกันแน่ลอเรียฉันไม่มีเวลาจะมาเล่นกะเธอนะ\" ลอเรนซ์กล่าวออกมาเสียงเย็น ตอนนี้เขาหมดความอดทนกับการกระทำของลอเรียเรียบร้อยแล้ว



    \"ก็ไม่ได้เล่นอะไรนี้ค่ะ\" หญิงสาวกล่าวพร้อมยิ้มหวานมากขึ้นกับสิ่งหนึ่งใสใจ



    สำเร็จ ตกหลุมแล้ว



    \"แล้วเธอต้องการอะไร\" ลอเรนซ์เอ่ยเสียงเครียด



    \" ก็แค่อยากจะมาบอกว่าอาจารย์อย่ามาทำให้หนูขายหน้าตอนเต้นเพราะมีคู่เต้นไม่ได้เรื่องนะค่ะ\" ลอเรียยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก  



    \" เธอนั้นละอย่ามาทำให้ฉันต้องขายหน้าละกัน\"  ลอเรนซ์ตอบกลับเสียงเย็น มองคนตรงหน้าตาดุๆ แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะคนตรงหน้ายังแย้มรอยยิ้มกว้าง



    \"ค่ะๆ แล้วหนูจะค่อยดูว่าใครจะทำให้ใครเดือดร้อย หนูขอตัวก่อนนะค่ะ ไว้เจอกันเมื่อถึงเวลาค่ะ\" ว่าจบ ลอเรียก็เดินจากไปทิ้งให้ลอเรนซ์ยืนหงุดหงิดอยู่เพียงคนเดียว









    \"ลอรี่ว่าไงบอกได้รึยังว่าเธอไปทำอะไรอาจารย์ลอเรนซ์ถึงอารมณ์บูดขนาดนั้นนะ\" เซเรียยังคงกระเซ้าถาม



    \" ไม่บอก เรื่องอะไรต้องบอกด้วยละ แกล้งนายนั้นนะสนุกจะตาย ฉันรอเวลาที่จะได้เอาคืนมาตั้งนานแล้วค่อยดูนะวันนี้จะทำให้มันขายหน้าจนไม่กล้าทำหน้ายิ่งๆต่อหน้าฉันเลยค่อยดู \" ลอเรียกล่าวด้วยเสียงที่มั่นใจอย่างเต็มที่



    \"จ้าๆแล้วจะค่อยดูนะ ว่าแต่นี้ก็ใกล้ได้เวลาแล้วนะอีกเดียวเค้าก็คงจะเรียกผู้เกียวข้องออกไปเต้นเปิดแล้วละ รีบเดินไปอยู่ใกล้ๆพวกหนุ่มๆดีกว่านะ\"



    ยอมแพ้เธอจริงๆลอรี่  พรางสายหน้าอย่างอ่อนใจกะเพื่อนคนข้างๆ



    \"งั้นก็ไปกันเลยสิ\"  ลอเรียตอบ เสียงใสอารมณ์ดียิ่งขึ้น  



    สองสาวเดินไปหยุดไม่ใกล้จากสามอาจารย์หนุ่มสักเท่าไร  ลอเรียมองหน้าลอเรนซ์ เธอยิ้มหวานอย่างผู้ชนะให้เขา ซึ่งทำให้หน้าของเขายิ่งงอหงิกเข้าไปใหญ่



    \" ใจเย็นๆลอร์รี่ถ้านายไม่อยากเสียท่าลอรี่จัง นายต้องใจเย็นๆ  ไวท์สักแก้วมะ\" ลูคัสกล่าวเตือนเพื่อนที่ทำท่าว่าพร้อมที่จะฆ่าคนได้แล้ว



    \"นายเงียบ แล้วดื่มไวท์ของนายไปลูคัส ถ้านายไม่อยากตายก่อน\"  ลอเรนซ์เสียงเย็นกลับมา



    \"ขอโทษฮะที่มาสาย\" หญิงสาวในชุดแมวเหมียวที่เพิ่งรีบเร่งมาถึงที่นัดกล่าวหอบๆ



    \" ยังไม่สายแค่เกือบเฟรี่\" ลูคัสเอ่ยขำๆกับอาการของเจ้าแมวน้อย



    \" แล้วคาโร กับคิล ละ \" โรเวนถามเมื่อไม่เห็นอีกสองคนที่ตัวติดกันประจำมาด้วยกับแม่ตัวยุ่ง



    \"กำลังตามมาฮะ\" เฟรินตอบ รอยยิ้มอารมณ์ดีกลับมาบนใบหน้าสวยอีกครั้ง



    \"งานเริ่มรึยังครับ\" เสียงทุ้มต่ำดังมาก่อนตัว



    \"ยัง แต่ใกล้แล้วละ   คาโล \" โรเวนกล่าวตอบ



    \" มีใครเห็นอลีสไหมครับ\" คิลถามเมื่อเดินมารวมกลุ่ม



    \"นั้นไงอลีส\" ลูคัสพูดพร้อมชี้นิ้วไปทางลอเรีย



    \"ไม่ใช่พี่ลอเรียที่แต่เป็นอลีสแต่เป็น อลิส เอ. แองเจิ้ล ต่างหากครับ หล่อนเป็นคู่เต้นรำผม แล้วหล่อนหายไปไหนละเนียงานจะเริ่มแล้วด้วย\" คิลกล่างเสียงเป็นกังวล



    \" ถ้าอลีสจังละก็เห็นอยู่กับพวกฮิวจ์จังกะโรนะ\" โรเวนตอบ



    \"งั้นผมขอตัวไปตามก่อนนะครับ\" คิลกล่าวจบก็รีบวิ่งไปตามตัวอลีส









    \"อลีสทำอะไรอยู่นะ\" คิลที่มุ่งตรงมาหาสาวน้อยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าสาวน้อยกำลังดอมๆมองๆอะไรสักอย่างอยู่



    \" ซู่.....เงียบหน่อยสิพี่คิลกำลังเข้าได้เข้าเข็มเลย\" สาวน้อย  ในชุดนางฟ้าตอบกับ



    \"อะไร\" กล่าวพร้อมเขารวมวงแอบดู



    \" นั้นไงๆ พี่โรกับไอ้เรนกำลังจู้จี้กันอยู่\"นัยน์ตาสีกาแฟจดจ้องไปข้างหน้า พร้อมๆกับนัยน์ตาสีม่วงของผู้มาใหม่



    หน้าลานน้ำพุก่อนกเข้างานมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังกระนุ่งกระหนิ่งกับอย่างน่ารัก (ในสายตาของผู้เฝ้าดูนะ)



    \"พี่โร ขอบคุณนะค่ะที่ให้เกียรติเต้นรำกับหนู\"  สาวน้อยหน้ารักในชุดแบบลูกขุนนางอังกฤษใน ค.ศ. ที่18 กระโปงซุ่มไก่สีฟ้า กับเสื้อลูกไม้แขนตุ๊กตาน่ารัก ใบหน้าแดงๆที่ก้มหน้าหลบสายตาคมของหนุ่มน้อยตรงน่ายิ่งทำให้หล่อนยิ่งดูน่าถนุถนอม



    \" ไม่หรอก  แค่นี้เอง แล้วเรนก็ไม่ต้องขอบคุณพี่แล้วนะ \" ชายหนุ่มในชุดโจนสลัดกล่าวเสียงอ่อนโยน หญิงสาวเลยยิ่งหน้าแดงด้วยความเขินเข้าไปใหญ่



    \" เออพี่โรเราจะเข้าไปในงานเลยดีไหมค่ะ\" สาวน้อยพยายามหาเรื่องคุยแก้เขินความจริงเธอยังไม่อยากเขาไปข้างในอยากอยู่สองต่อสองกับเขาสองคนมากกว่า



    \" อีกเดียวละกัน  ข้างในคนเยอะท่าจะร้อน\" ชายหนุ่มตอบพร้อมร้อยยิ้มหวาน



    \"พี่คิลเยิบไปหน่อยได้ปะร้อน\" เสียงใสดังมากระทบประสาทการได้ยิ้นของสองคนที่นั้งเย็นสบายข้างน้ำพุ



    \" ถ้าห่างมากว่านี้พวกมันก็เห็นหัวพี่สิตรงนี้พุ้มไม้สูงกว่าตรงนั้นนะ\" อีกเสียงเถียง



    \" พี่พูดเบาๆไม่ได้รึไงเดียวพวกนั้นก็ได้ยินหรอก\"  เสียงใสปรามอีกเสียง



    \" พี่พูดเบาแล้วนะ อลีสนั้นละพูดดัง\"  อีกเสียงสวนกลับ



    \" ไม่ต้องเถียงกันพวกนายออกมาจากตรงนั้นได้ละ\" เสียงทุ้มต่ำ ฟังดูมีอำนาจ และ เย็นชา ดังมาจากหน้าพุ้มไม้ที่คนสองคนซ่อนอยู่และกำลังเถียงกันเอาเป็นเอาตาย



    คนที่กำลังเถียงกันอยู่สะดุ้งเฮือกพากันคิด  



    มันมาตอนไหนวะ  



    มันรู้ได้ไงอะ



    \"หวัดดีโร   หวัดดีเรน \" สองคนที่แอบอยู่ลุกขึ้นจากพุ่มไม้ และ กำลังยิ้มเยาะๆ รอรับกรรม



    \" ไม่ต้องมาหวัดดงหวัดดีเปลี่ยนเรื่องเลยคิล  นายได้ยินอะไรบ้างคลายมาให้หมด\" เสียงทุ้มยังฟังดูโหดๆ ทำเอาเพื่อนที่ฟังเสียงสันหลังรีบตอบทันได



    \" ฉันมาได้ยินแค่น้องเรนเขากล่าวขอบคุณนายอายๆเท่านั้นละ\" คิลยิ้มๆตอบ แบบกลัวๆ



    ไอ้นี่เวลาโกรธ น่ากลัว ฉิบ



    \" แล้วอลีสละ \" เจ้าความยังคงถามเสียงดุต่อไป



    \" ฮะๆ ได้ยินตั้งแต่ต้นค่ะ\" สาวน้อยแกล้งหัวเราะก่อนสารภาพออกไป



    \"ดีๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ พวกนายเป็นบ้าอะไรต้องมาทำแอบมองถ้าอยากรู้ก็เดินเขามาถามเลยเดะ \" โรรู้สึกงุดหงิกกับการกระทำของสองคนตรงหน้าโดยไม่รู้สาเหตุ เลยเสียงดัง



    \"  งั้นอลีสถามเลยได้ไหมค่ะ พี่ชอบเรนบ้างรึป่าวค่ะ\" อลิสถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่



    \" เออ...คือ\" โรทำหน้าลำบากใจที่จะตอบแต่ก็ทำท่าว่าจะตอบแต่โดนเรนขัดไว้ก่อน



    \"พี่โรเราเข้าไปในงานเถอะค่ะงานเริ่มแล้วเดียวพี่ๆคนอื่นๆจะว่าเอา\" กล่าวพร้อมยิ้มหวานให้โร แม้ใบหน้าจะขึ้นสีระเรื่อ



    \"จ๊ะ...เราเข้างานกันเถอะ คิล  อลิส พวกนายก็ไปได้แล้ว งานเริ่มแล้ว\"  โรเรียก เสียงเฮี้ยมไม่สบอารมณ์



    \" เสียงดายจังถ้าเรนไม่ขัดคงได้รู้ความจริงจากปากพี่โรแน่ๆฮิๆ  \" อลีสพูดเสียงสนุก  ขณะเดินอยู่ห่างๆจากคู่กรณีข้างหน้าพอสมควร



    \"ทำเป็นพูดดีไประวังเถอะไอ้โรมันจะเอาแกตาย อลิส\" คิลเตือน   พร้อมสายหัวอย่างเอือมๆ



    \" ไม่กลัวหรอก  \" หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ



    \"ทำไม\" คิลถามด้วยเสียงที่บงบอกว่าสงสัยมาก



    \" ก็ถ้าพี่โรจะทำอะไรอลิสพี่คิลก็ช่วยอลีสเองละ \" เสียงใสมั่นใจเต็มร้อย



    \" ทำไมพี่ต้องช่วยเราด้วยละ\" คิลยังคงถามอย่างสงสัย



    \"เพราะเราทำความผิดร่วมกัน อลีสโดนพี่คิลก็โดน\" สาวน้อยตอบขำๆ กับสีหน้าปันยาก  อึ้งกับคำตอบที่ได้รับของคิล



    \" อะนะ\" ความอึ้งทำให้เขาตอบออกมาได้เพียงเท่านี้



    งานเลี้ยงราตรีจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการอนุเคราะห์ทุนจากผ.อ. ทำให้ภายในงานหรูหราเละเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสและเกมมากมาย มีเสียง ดนตรขับกล่อมเบาๆ  เพื่อเพิ่มบรรยากาศและหลังจากการเต้นรำที่มีคู่หนุ่มสาว 6 คู่ เต้นเปิดฟรอ



    เฟริน-คาโล ที่มองหน้ากันหวาน เฟรินหน้าแดงนิดหน่อยด้วยความเขินที่ถูกนัยน์ตาสีฟ้าจ้องไม่กระพริบ

    \\(^///^)/\\(6///6)/



    โรเวน -เซเรีย  ทั้งคู่คุยกันไปเต้นกันไป และหัวเราะอะไรกับบ้างอย่าง

    /(^0^)/\\(^0^)\\



    ลอรี่-ลอรี่  ฝ่ายชายหน้างอหงิก อย่างไม่สบอารมณ์ ส่วนฝ่ายหญิงยิ้มหวานอย่างสะใจ

    \\(=_=**)/\\(^ _,^)/



    โร -เรน  คนหนึ่งกำลังพูดอะไรสักอย่างให้อีกคนฟัง ส่วนคนฟังก็ตั้งตาฟังอย่างตั้งใจพร้อมใบหน้าน่ารักที่แดงระเรื่อย

    \\(^0^)/\\(^///^)\\



    ลูคัส -อลิเซีย มองหน้ากันเต้นไปพร้อมรอยยิ้มทั้งคู่

    /(^_^)/\\(^_^) /



    คิล -กับอลิส เต้นไป  ก็มองพากันกระซุบกระซิบให้คู่เต้นมองตามที่ตนมองอยู่และคุยกันอย่างออกรส

    \\(^o^)/\\(^o^)/



    หลังจบการเต้นของทั้ง 6คู่ ก็มีหลายคู่ที่เต้นรำต่อไปและอีกหลายคู่ที่หาอะไรกินอะไรทำ



    แมวน้อยกำลัง จัดการกับอาหารมากมายที่มีให้เติมไม่จำกัด โดยมีหมาน้อยค่อยปรามอยู่ข้างๆ  และสายตาของพวกเพื่อนที่พากันหัวเราะสนุกสนานกับการกระทำของทั้งคู่โดนไม่ช่วยอะไรเลย



    \" เฟรินนายจะกินดีๆสักวันไม่เป็นรึไงหะ\" คาโลกล่าวเสียงเย็น สายตาระอากับการกระทำของหญิงสาวสุดที่รัก



    \" ถ้ามัวกินดีๆ ก็กินไม่ทันกันพอดี \" เฟรินกลืนอาหารลงคอก่อนเถียง



    \" ไม่ต้องกลัวหมดหรอกมันมีให้เติมอันลิมิต\" เสียงใสบนหัวเราะเย้ยหยัดขัดขึ้นทำให้คาโลและเฟรินหันไปมอง



    สาวสวยในชุดเซ็กซี้ สีแดง สดสวย ส่วนกระโปงตัวนี้ยาวประมาณแค่คืบถ้าวัดจากเอวคนใส่ลงมา มันสั้นมาก แต่ก้ยังแหวกซะเห็นสายชั้นในสีดำเล็บๆทั้งสองข้าง มีเพียงสายสีแเดงหน้าประมาณ2นึ้วผูกไว้ที่เอวขาว  แต่แค่นั้นยังไม่พอ เพราะตัวเสือสายเดียวที่สั้นและแหวกจะเกือบหลุดเป็นสองชินถ้าไม่มีเชือกเส้นบางๆผูกไว้โชว์อกขาวๆที่โนบา   ทำให้ผู้คนที่มองหล่อนเกิดความคิดมากมาย แต่ที่แน่ๆ สาวๆในงานส่วนใหญ่มองหล่อยด้วยสายตารังเกียจพร้อมความคิดที่ว่า ถ้าอยากโชว์นักทำไมไม่แก้ผ้ามาเลยละ ส่วนหนุ่มๆในงานนะเหรอ แทบเลือดกำเดากระฉูดตามๆกัน



    \"คาโลขา...เราไปทางโน้นกันดีกว่านะค่ะอย่าไปสนใจเด็กกระโปโรที่มัวแต่กินเลยค่ะ\" เสียงหวานเซ็กซี้กล่าวพร้อมคว้าแขนหนุ่มหล่อตรงหน้ามาแนบอก



    \" ลิเน่ย่า คุณกรุณาปล่อยแขนผมด้วยครับ\" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันสงบเย็นสีหน้าเขายังคงปกติไม่แสดงอาการอะไร



    \" แหม คาโลนี่ละก็ขี้อายจัง เราไปทางนู้นกว่านะค่ะ ไม่ค่อยมีคนและยังมีอะไรสนุกๆให้ทำด้วยนะค่ะ\" ลินนี้ยังคงออดอ้อมพร้อมๆกับกระชับแขนคาโลให้แนบอกเธอมากขึ้น



    \"ผมต้องค่อยดูแลเฟรินไม่ให้ก่อเรื่อง ดังงั้นปล่อยแขนผมได้แล้วลิเน่ย่า\" คาโลพูดเสียงเย็นมากกว่าเก่า



    \" ทำไมละค่ะไปกับลินนี่สนุกว่ามานั่งเฝ้านังนั้นเป็นไหน\" ลินนี้เอยเสียงออดอ้อนยิ่งขึ้น แต่คำว่านังนั้นที่หล่อนใช้เรียกเฟรินทำให้คาโลยั้วจัดสะบัดลินนี่ออกไปจากแขนของเขาอย่างแรก ทำแอบหล่อยกระเดนไปโดนชายหนุ่มคนอืนในงาน



    \" คาโลใจร้าย ทำยังงี้กับลินนี่ได้ไง ลินนี้ไม่ยอมนะ นังนั้นมีดีกว่าลินนี่ตรงไหน คาโลถึงไปชอบมัน  บอกมานะ ๆ คาโลบอกมานะ\" ลินนี่โว้ยวายดังลั่น



    \" คนอย่างเธอนะเอาไปเทียบกับเฟรินเขาไม่ได้หรอก ผู้หญิงอย่างเธอนะไม่มีทางสู่เฟรินของฉันได้เด็ดขาด เออแล้วจำไว้ด้วยว่าอย่ามาเรียกเฟรินว่านังนั้นให้ฉันได้ยินอีก ไม่งั้นเธอได้โดนดีแน่”คาโลกล่าวออกมาด้วยเสียงอันดังและเย็นเชียบ



    \"กรี๊ด....ฮือๆ จำไว้นะ คาโลจำไว้นะลินนี่ไม่มีทางยอมเลิกราแค่นี้แน่  เฟริน แกระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ \" ว่าจบก็รีบวิ่งออกจากงานไป  



    \"ฮิๆ นายทำสาวสวยร้องไห้ไม่ไปปลอบหน่อยเหรอคาโล\" เฟรินที่นั่งฟังและดูเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบๆพูดออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ



    \" ทำไมอยากให้ฉันไปปลอบลินนี่รึไง\" คาโลเอ่ยเสียงงุดหงิด



    \"ไม่เลย ซะใจมากต่างหากที่ยายนั้นโดนงั้น 555\" พูดจบก็หัวเราะออกมาอีก



    \"หัวเราะพอใจรึยังเฟริน\" คาโรปราม พร้อมสายตาดุๆ



    \"คาโลฉันดีใจมากนะที่นายทำยังงั้น\" กล่าวจบก็ยิ้มหวานให้คาโล



    \" ....\" เล่นเอาชายหนุ่มหน้าขึ้นสีเงียบไม่ตอบ



    \" ฉันดีใจที่นายห่วงฉันมากและไม่ยอมตามยายลินนี่ไป\" คราวนี้คนพูดน่าแดงตามบ้าง



    \"ถ้าฉันตามลิเน่ย่าไปเฟรินนายจะทำไง\" คาโลถามนัยน์ตาระริกอย่างอยากรู้



    เฟรินหน้างอหงิกทันที่กับคำถามที่ได้รับ



    \" ก็ลองตามไปสิ แม่ไม่เอาไว้แน่\" คำกล่าวราวคำรามออกมาพร้อมรอยยิ้มอำมหิต



    คาโลมองหน้าเฟรินยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะดึงตัวหญิงสาวเขาสู่อ้อมแขน ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเธอ



    \" เรื่องอะไรจะปล่อยนายไว้ตามลำพังให้ไอ้หน้าไหนมายุ่งเล่า  \"



    คำพูดยียวนที่ทำให้เฟรินหน้าแดงก่อนจะรีบพยายามผลักคาโลไปไกลๆ แต่เจากับยิ่งกระชับวงแขนแน่นขึ้น ใบหน้าของสองคนอยู่ห่างกันแค่คืบก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆโน้มลงมาละ จุมพิส สาวน้อยอย่างอ่อนโยน  ก่อนที่เขาจะปล่อยให้หญิงสาวเป็นอิสระ เขาไม่ลืมที่จะกระซิบถ่อยคำหนึ่งที่ข้างหูเธอ



    \" ดีใจนะที่นายจะโกรธถ้าฉันไปกับคนอื่นเหมือนกัน\"



    “อะเฮม   พวกนายลืมฉันอีกแล้วนะ”



    คิลขัดขึ้น  มองหน้าเอนสองคนที่พากันหน้าแดงเราะสวีทไม่ดูเวลำเวลา







    หญิงสาวที่หลุดออกมาจากวงแขนหน้าแดงอย่างอายๆ ก่อนเปลี่ยนเรื่อง  \" ฉันยังกินไม่อิ่ม ขอไปกินต่อนะ\" ว่าแล้วรีบตรงไปหยิบอาหารมาเพิ่ม



    คาโลมองเฟรินอย่างขำๆ ก่อนเอ่ยเสียงดัง \" รีบกินเร็วๆจะได้กลับบ้าน



    “หวานกันจังนะคาลี่จัง” กาเซ่ทักขึ้น



    กาเซ่ที่มาในชุดราตรีสีขาวยาวคร่อมพื้น  ปิดลำคอ แต่แขนกุด  มีผ้าคลุมไหมสีเงินยวงคลุมปิดไหลกว้าง   ดูแล้วสวยน่ารัก  ผมยาวที่คนๆนี้ไว้ถูกปล่อยสยาย   ถ้าเขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นอาจารย์ชาย  คงหน้าขึ้นสีเพราะความอายแทนที่จะชักสีหน้าปันยากกะภาพที่เห็น



    กาเซ่ปรากฏตัวพร้อม  จีนัส เพื่อนซี้  ที่วันนี้มาในชุด เทพกรีก องค์หนึ่ง  โชว์อกแน่นที่สาวๆพากันกรี๊ดสลบ มีเพียงผ้าบางๆคลุมที่ไหล่ข้างหนึ่งและ กางเกงแบบที่ชาวกรีก โบราณสวมใส่ก็ทิ้งตัวพลิ้วไหว จนทำให้คนตรงหน้าไม่ต่างกะเทพพระบุตร ถ้าไม่ติดหน้าที่งอหงิก  



    “อาจารย์ทำไมแต่งตัวงั้นละฮะ”  คิลที่ชักสีหน้าปันยากไม่แพ้กัน ที่เห็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนหนึ่งมาในชุดสาวงาม



    “แล้วเหมาะไหมละ” กาเซ่ถาม แย้มยิ้มหวานส่งมาให้



    “จะว่าเหมาะก็เหมาะฮะ” คิลตอบก่อนกลืนน้ำลายเฮือก



    “แกมันกาแฟเน่า แถมบ้า  เอสเพรสโซ่” จีนัส กล่าวเสียงเฮี้ยม



    “แหม   ฉันอุสาใส่มากันสาวให้นายนะเฮิบจัง” กาเซ่กล่าวแล้วแย้มรอยยิ้มมากว่าเก่า





    “อาจารย์ทำไมแต่ตัวยังงั้นละค่ะ” แม่ตัวดีถามขึ้นเมื่อกลับมาจากตักอาหารเพิ่ม



    “แต่งมากันสาวให้เฮิบจังจ๊ะ” น้ำเสียงที่ตอบบ่งบอกความพอใจในคำถามอย่างมาก



    “คนหล่อเริดอย่างฉันไม่ได้ขอให้แกช่วยสักคำ กาแฟเน่า” จีนัสกล่าวด้วยเสียงที่ราวกับคำราม



    “ไฮ้  กาซี่วันนี้แต่งตัวสวยนี่”  ลูคัสทักขึ้น   จากข้างหลังของกาเซ่  และมีโรเวน และโร ตามมาติดๆ



    ตอนนี้ลูคัสกำลังพยุงปีกลอเรนซ์  ที่เมาจัดจนไม่ได้สติ   และกำลังแย้มรอยยิ้มหราอย่างหาไม่ค่อยจะได้บนใบหน้ารูปสลักนั้น  



    “ฮาย....ย    ดื่มกันสักแก้วไหม จีนัส  เอสเพรสโซ่” ลอเรนซ์ถามขึ้นด้วยเสียงสดใสหายาก





    “ทำไม ปล่อยให้ลอเรนซ์เมาไม่รู้เรื่องงั้นละ ลูคิจัง” กาเซ่ถามพร้อมชักสีหน้าเอื้อมคนเมา   ที่เมาจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน



    “ก็ฉันไม่รู้ว่ามันคออ่อน ดื่มแค่ แก้วสองแก้วแล้วจะเมา” คำตอบที่มาพร้อมสีหน้าอ่อนใจกะคนข้างๆตัว



    “ลูคัสเอามาอีกแก้ว” ลอเรนซ์ยังคงเรียกหาเหล้า  ทำให้คนที่ช่วยพยุงหันมามองอย่างไม่พอใจแล้วปรามเสียงดุ



    “พอได้แล้วลอรี่”



    “ขออีกแก้วเดียวลูคัส นะ อีกแก้ว” คนเมายังดื้อ



    “ไม่”



    “เมาจนไม่ได้เรื่อง” จีนัสสบถด้วยความหัวเสีย  เมื่อเห็นว่าคนที่เขาคิดว่าน่าคบตอนนี้กลายเป็นคนไม่ได้เรื่องไปแล้ว



    “ฉันชัดอยากเห็นนายเมาบ้างแล้วซิเฮิบจัง”  กาเซ่พูด พร้อมหันมายิ้มให้ ซึ่งคนฟังแยกเขี้ยวรับ แล้วตอบกลับไป



    “คนสุดเริดอย่างฉันไม่คออ่อนอย่างไอ้บ้านั้นหร๊อก”



    “พวกฉันกลับก่อนนะ”  โรเวนเอ่ยลาแทนคนเมา



    “โชคดีกลับดีๆละ”  กาเซ่อวยพร  และเดินพลัดออกไปหาอะไรกินมั่งกะจีนัสที่พยักหน้ารับแล้วเดินนำไปก่อน





    “กลับได้แล้วเฟริน  คาโล” โรเวนสั่งก่อนเดินออกจากงานเลี้ยงตรงไปที่รถ  พร้อมคนอื่นยกเว้นสองคนที่เอ่ยชื่อละยังนั่งอยู่











    “พอได้แล้วเฟริน”  คาโลปรามเสียงเข้ม



    “จะรีบไปไหนคาโล งานยังไม่เลิกสักหน่อย”  เฟรินเถียง ขณะกำลังตัดสะเต๊กในจาน



    “พี่ลอเรนซ์เมาขนาดนั้น   รึว่านายจะยังไม่กลับคนเดียว” คาโลเตือนเสียงเรียบ



    “ก็ได้”  เฟรินวางมีดลงแล้วยันตัวลุกขึ้น





    ทั้งคู่เดินไปสบทบกับทุกคนในบ้านที่ตอนนี้รออยู่ที่รถเรียบร้อย    และเมื่อแม่ตัวยุ่งขึ้นรถ  ทุกคนก็เดินทางกลับบ้านด้วยสติที่ครบถ้วน ยกเว้นคนเมาที่หลับไปแล้วตอนนี้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×