ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ภาคลุยนอกหนังสือ

    ลำดับตอนที่ #14 : วันธรรมดา ของแม่ตัวยุ่ง กะน้องสาวสุดแสบ \"คุรุเอะ กะน้องไวท์ ช่วยกันแต่ง\"

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 48




    คำชี้แจ้ง  โปรดอ่านค่ะ



    ตอนนี้ ส่วนของเฟริน  คุรุเอะ เป็นคนเขียน   อืม  ไม่ยาววเพราะสมองมันหดหายไปตั้งแต่ตอนก่อนหน้า  ที่ยาว  มาก  ชนิดไม่เคยมากเท่านี้มากก่อน ละอาจ จะไม่มีมาอีก  ถ้าไวท์ ไม่อันนั้นอะ    พี่ เพิ่งได้อ่านแบบเต็มๆนี่ละ  เพิ่งจบงานร.ร.ไปแมบๆทำไมทำกันได้  เอางานร.รอันอื่นมาอีกละ หึ    ตอนต่อที่รวมกันน้องหนูไวท์  ที่รู้จักกันในเด็กดี ช่วยเขียนให้  ตอบขอบใจเขาละ  ขอบใจหลายๆเดอร์



    กลับเข้าเรื่องกันค่ะ  ขอบคุณ  (^/|\\^)



    .....................................................................................  



    ในห้องๆหนึ่ง มีหญิงสาวกำลังหลับสนิท ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส   แพรขนตาสีน้ำตาลยาวของเธอที่ปิดสนิทไม่มีทีท่าว่าจะเปิดโชว์นัยน์ตาคู่สวย  ใบหน้ายามหลับของจ้าหล่อนช่างน่ารัก ซะจริงในสายตาของชายหนุ่มนัยน์ตาฟ้าที่ยืนรอคอยการตื่นจากนิทราของเจ้าหล่อนมาได้สักพัก



    เมื่อความ อดทนถึงขีดสุด เขาก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ มันบอกเวลา 7.30  ดูท่าวันนี้เจ้าหล่อนเองคงไม่ยอมตื่นเองอีกแน่



    เฟริน ตื่นได้แล้วสายแล้ว\" เสียงเย็นที่คุ้นเคยสงเสียงเรียกเจ้าตัวดี มือใหญ่ของเขาเอื้อมไปเขย่าตัวแม่ตัวดี เบาๆ



    \"อืม อีก ห้านาที นะคาโล\" เสียงใสกล่าว ขณะยังคงหลับตาสนิท



    \"ไม่ได้ ลุก เฟริน\" เสียงเย็นเริ่มดุขึ้น



    \" ตอนนี้อย่าเพิ่งกวนน่า ขอห้านาทีจริงๆ \" ปากแดงเรียวสวยอวบอิ่มเอื้อนเอ่ย



    \" เฟริน นายอยากให้ฉันใช้วิธิสุดท้ายอีกแล้วใช้ไหม\" เสียงทุ้มถามขึ้น



    \" อืม....\" คำตอบที่ไม่ได้ของคนไม่ฟังคำถาม



    ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงของสาวน้อยคนเดิมที่ยังคงหลับสนิท  มือของเขาค่อยๆลูบลงบนใบหน้า แล้วค่อยๆปัดเส้นผมสีน้ำตาลของจากหน้าคนหลับ ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลง จุมพิสที่หน้าผากของเธอเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่จมูก ไปที่ต้นคอระหงค์ ก่อนจะกลับมาที่ปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อย จุบแสนนุ่มนวนที่ยาวนานของสองคน ภายในห้องที่สดใส  ชายหนุ่มค่อยๆ ถอนริบฝีปากออกก่อน  นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยยังคงจดจ่องอยู่ที่หน้าน่ารักของเจ้าหญิงสุดที่รัก ที่ยอมลืมตาตื่นได้สักที  นัยน์ตาสีน้ำตาโต สบกับนัยน์ตาสีฟ้าที่ห่างกันแค่คืบ ริมฝีปากของหญิงสาวเผยออกเหมือนจะเตรียมกล่าวอะไรสักอย่าง แต่ก็ปิดลงพร้อมคำพูดเสียงทุ้มกลั้วหัวเราะของฝ่ายชาย  



    \"ตื่นได้สักที่นะเจ้าหญิงขี้เซา  ต้องจูบอรุ่นสวัสก่อนถึงจะยอมตื่นได้นะ\"  ชายหนุ่มกล่าวพร้อมพร้อยยิ้มน้อยๆมุมปาก

    หญิงสาวผู้ถูกล้อเลียหน้าแดง เธอผลักจากหนุ่มที่คล้อมเธอออก ก่อนจะค่อยๆดันตัวขึ้นนั่ง



    ใบหน้าสวยยังคงแดงระเรื่อยน่ารัก    นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยคู่โตยังคงจดจ่องอย่างเอาเรื่องบนใบหน้ารูปสลักที่ตอนนี้ดูจะยิ้มกว้างมากกว่าเก่าเเขยังคงนั่งอยู่ข้างเธอที่เดิม



    \" ไม่ต้องมาทำยิ้มดีใจคาโล\" เสียงใสดุ แบบที่ไม่เคยมีครั้งใดดุเท่า แต่มันกลับทำให้คนฟังยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้น



    \" นายไม่ชอบรึไงเฟริน\" คำถามยียวนจากปากของคนที่ไม่ค่อยกวน ทำให้ใบหน้าที่กำลังจะหายแดง แดงกว่าเก่า



    \"จะชอบได้ไงเล่า\" คนตอบตอบเสียงดังแต่กลับหลบตาคนถาม ทำให้ฝ่ายถามนึกอะไรสนุกๆขึ้นมาได้ในทันที



    ชายหนุ่มค่อยๆขยับเข้าไปใกล้หญิงสาว ที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่  ใบหน้าหล่อเหลาของเขาค่อยๆโน้มลงไปใกล้ใบหน้าน่ารัก  



    \" คาโล เดี๋ยวมีคนมา\"  หญิงสาวเตือนพร้อมๆกับค่อยๆ หลับตาลงรอค่อยจุมพิสแสนอ่อนโยนจากอีกฝ่าย





    ปัง ประตูกระทบผนังห้องอย่างแรง





    \"เฟริน แต่งตัวเสร็จยัง พี่ๆให้มาตาม \"







    พลัว  เสียงตกเดียงของคนที่ถูกผลักอย่างแรง  ก่อนสาวเจ้าจะรีบลุกจากที่นอนยิบเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว



    \"โทษที ที่มาขัดจังหวะนายสองคน \" คิลกล่าวพร้อม ยิ้มเยาะๆ ขัดตาทัพให้อีกคนที่เหลือ



    ทำไมเราเฮง ได้เห็นของดีประจำเลยวะ



    คาโลมองหน้าคิล นัยน์ตาสีฟ้าบอกชัดว่าไม่ค่อยพอใจกับการกระทำของเพื่อนคนนี้สักเท่าไร



    \"ฉัน จำได้ว่าฉันบอกนายหลายครั้งแล้วว่าถ้าจะเข้าห้องใครให้เคาะประตูและรอให้เขาอนุญาตก่อน\" เสียงเย็นเปรยออกมา เล่นเอาคนฟังแทบแข็งตายได้ถ้า แม่สาวเตาพิงไม่ออกจากห้องน้ำมาทันเวลา



    \"เสร็จแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ\"  เธอกล่าว ไม่แม้แต่จะมองหน้าเพื่อนซี้



    ภายในห้องอาหารที่ทุกทีจะคึกคักตัวการกินอย่างสนุกสนานของแม่สาวสวยคนเดียวภายในบ้านแต่ตอนนี้กลับเงียบสนิท เมื่อเจ้าหล่อนรีบกินอย่างรวดเร็วไม่คอยใครและเมื่อกินเสร็จ เจ้าหล่อนก็เผ่นไปรร ก่อนไม่รอใครอีกเช่นกัน





    เฟรินเดินตรงเข้ารร เรียนเพียงคนเดียว วันนี้เธอมาเช้ากว่าปกติ ประมาณ  5 นาที   (ทุกทีมาถึงรรเกือบ8โมง) ทำให้เธอเหลือเวลาพอที่จะเดินเตร็ดแตร่ ก่อนเข้าห้อง  เธอเดินๆเรื่อย พร้อมๆกับคิดอะไรไปเพลินๆ ไม่มองข้างหน้า ทำให้เธอไปเดินชนเข้ากับใครคนหนึ่ง



    \" ขอโษค่ะ บังเอินไม่ได้มองข้างหน้า\"  เฟรินกล่าวก่อนจะพยายามเลียงเพื่อจะเดินกลับไปที่ห้อง



    \"นึกว่าใครที่แท้ก็พี่สาวคนสวยของยายฮิวจ์นี่เอง\"  



    เฟรินรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของคนที่เธอไม่รู้จัก เธอเลยเงยหน้าขี้นมองคนตกหน้าแล้วตกใจอย่างมากเมื่อรู้ว่าเธอเดินชนใคร



    ชายหนุ่มตัวสูงบิ๊ก หน้าตาน่ากลัว มีรอยแผลเป็นและรอยสักตามตัวมากมาย  ผมและสีตาเป็นสีเดียวกันคือสีม่วงเข้ม  สายตาที่มองมาที่เธอนั้นทั้งหาเรื่องและ ชอบกลแปลกๆ



    \"นายเป็นใคร ฉันจำไม่ได้ว่ามีคนรู้จักหน้าตาไม่ได้เรื่องอย่างนาย\"  ปากมอมทำงานได้อย่างดี แม้เจ้าของตอนนี้จะรู้สีกกลัวคนตรงหน้าจับใจ



    \"ฉัน เลออน ลูซิเฟอร์ จำกันไม่ได้รึไงพี่สาวคนสวย\"



    \"ไม่ \" พร้อมรอยยิ้มบางๆแบบใจดีสู่เสือ



    \"งั้นจำไว้ละกันพี่สาว  แต่ว่าตอนนี้ เธอมากลับพวกฉันก่อนดีกว่านะถ้าไม่อยากเจ็บตัว\" เลออนยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเอามือมาคว้าข้อมือเฟริน



    \"ปล่อยฉันนะ นายกล้าดียังไงเอามือสกปรกมาโดนตัวฉัน\" เฟรินกล่าว ขณะพยายามสบัดมือออก



    \"ไม่ต้องกลัวหรอกน่าพี่สาว พวกฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่อยากให้ไปด้วยกันแปบนึง\"  เลออน กล่าว รอยยิ้มหน้าเกลียดพลุดขึ้นบนใบหน้าของเขา



    \" ไม่ ปล่อยนะ ปล่อย\" เฟรินปฎิเสทและก็พยายามดึงตัวกลับอย่างสุดแรง



    \"ปล่อยพี่เฟรินเดียวนี้นะ\"  เสียงใสดังขึ้นพร้อมๆกับการล้มลงไปกองบนพื้นของนายยักษ์เลออน



    \" พี่เฟรินเป็นไงมั่งฮะ เจ็บตรงไหนหรือปล่าว\" เสียงน้องสาวผู้น่ารักดังขึ้น



    \"พี่ไม่เป็นไรฮิวจ์  \" เฟรินตอบ  พร้อมยิ้มหวานส่งให้น้อง



    \"ฮิวจ์จะจัดการไอ้นี่อย่างไงต่อ\" เพิร์ซ กล่าวขณะมือหิ้วคอเสื่อเลออน



    \" นายไม่ต้องยุ่งเพิร์ซ นี้มันเรื่องของฉันกับมัน มันบังอาจมาทำร้ายพี่สาวฉันมันต้องโดนสั่งสอน\" ฮิวจ์กล่าวเสียงเข้ม สายตาที่มองเลออนฉายแววไม่พอใจอย่างมาก



    \"มันยุ่งกับพี่สาวฮิวจ์ก็เท่ากับยุ่งกับพี่สาวเราเช่นกันแล้วเราจะไม่เกี่ยวได้ไง\" เพิร์ซ์กล่าวออกมาอย่างกวนนิดๆ



    ฮิวจ์มองหน้าเพิร์ซตาเขียว ถ้าเธอไม่คิดว่ามันเป็นเพื่อนเธอคงอัดมันไปกองที่พื้นอีกคน สวนเฟรินมองหน้าน้องสาวที่น้องชายที่ แล้วยิ้มขำๆออกมา



    \"ตามใจนาย\"  อิวจ์กล่าว ก่อนหันกลับมาพูดกับเฟรินอีกครั้ง



    \"พี่เฟรินกลับห้องก่อนเถอะฮะทางนี้ผมกับไอ้เพิร์ซจัดการได้\"  



    \"อย่าให้ถึงตายนะฮิวจ์ \" เฟรินกล่าวเตือน เธอไม่ได้ห่วงนายเลออนว่าจะตายหรือปล่าวหรอก เธอห่วงน้องสองคนจะติดคุกข้อหาฆ่าคนตายมากกว่า



    \"ดูแลฮิวจ์ด้วยนะเพิร์ซ \" เสียงใสบงบอกความห่วงใยน้องสาวจอบเฮียว



    น้องชายที่ได้รับคำสั่ง ยิ้มกว้างขึ้น ก่อนรับปาก \" ทราบแล้วครับ\"



    \"งั้นพี่กลับห้องก่อนเสร็จแล้วก็รีบกลับห้องกันละ\" เฟรินกำชับก่อนเดินกลับห้อง



    \"ทราบแล้วฮะ/ ครับ\" เสียงรับปากจากทั้งสองคนทำให้เฟรินเดินกลับห้องอย่างสบายใจ



    ฮิวจ์และเพิร์ซจัดการกับนายยักษ์เลออนและพักพวกจนหนำใจ จากนั้นก็ลากพวกนั้นไปทิ้งไว้ในปาหลังร.ร. ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องเรียน ให้ทันเวลา ทั้งคู่รักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเฟรินอย่างเคร่งครัดคือไม่ซ้อมพวกเลออนจนถึงตาย พวกเธอเอาแค่พวกนั้นสลบเมือบและคงมาร.ร.ไม่ได้สักพักเท่านั้น







    \"ไปไหนมาเฟริน นายมาร.ร.ก่อนพวกฉันทำไมเพิ่งเข้าห้อง\" เสียงเย็นของคนข้างตัวดังขึ้นเมื่อเธอเดินมานั่งที่เรียบร้อย



    \"มีเรื่องนิดหน่อย\" เฟรินตอบ ยิ้มหวาน กับเรื่องนิดหน่อยในสายตาเธอ แต่นัยน์ตาสีฟ้าที่ยังจองมองกับไม่แสดงความเชื่อใจสักนิด



    \"นิดหน่อยของนายนี้ขนาดไหนวะ เฟริน\" คิลถามถึงเรื่องนิดหน่อยที่ท่าจะไม่นิดหน่อย แถมยังน่าสนุกในความคิดของเขา



    \"นิดหน่อยจริงๆ ไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง\" เสียงใสเอ่ยอย่างสบายใจ



    \"อย่าลืมเล่าละ\" เสียงทุ้มของหนุ่มนัยน์ตาสีเขียวดังขึ้น ข้างหลังเธอเช่นเคย



    \"รู้แล้ว น่า โร  พี่โรเวนมาแล้ว รีบกับไปนั่งที่นายไป\" เฟรินไล่โรที่มายืนข้างหลังเธอเมื่อเห็นว่าอาจารย์โรเวนเข้ามายืนหน้าห้องเรียบร้อยแล้ว





    \" สวัสดีนักเรียนทุกคน  เรื่องที่เราจะเรียนวันนี้คือ...\" อาจารย์หนุ่มเอ่ย



    ยามเช้าของนักเรียนกลับเข้าเป็นปกติอีกครั้งเมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องมาและเริ่มสอน

















    ฮิวจ์กำลังเดินกลับบ้านตามเวลาปกติ แต่ที่ไม่ค่อยปกติก็คงเป็นลางสังหรณ์แปลกๆ รบกวนเธอมาตั้งแต่เที่ยง



    มันเหมือนกับว่า…อาจจะมีอันตราย



    แต่อาจจะ ก็คืออาจจะแหละฟะ! ช่างหัวมัน! (โห เป็นเด็กที่คิดมากจริงๆ)







    หมับ พลั่ก!





    เสียงแรกเป็นเสียงข้อมือที่ถูกรวบไว้อย่างรวดเร็ว อีกเสียงเป็นเสียงฮิวจ์ถูกชกท้อง ก่อนร่างเล็กจะถูกกระชากตัวไปหลังโรงเรียนอย่างรวดเร็ว



    (แมร่ง)เห็นกันเกือบทั้งโรงเรียน แต่ไม่มาช่วยกันซักคน



    เป็นเพื่อนที่ดีจริงจริ๊ง…



    ร่างเล็กถูกกระแทกอัดเข้ากับกำแพงหลังโรงเรียน ดวงตาคู่สีน้ำตาลเข้มเงยขึ้นมอง’ตัวการ’ ทำร้ายเธอในครั้งนี้อย่างหงุดหงิด “เลออน ลูซิเฟอร์”



    “มีอะไรยายฮิวจ์ หรืออยากร้องขอความเมตตาเป็นครั้งสุดท้าย”



    “เฮอะ” เด็กสาวสบถพรืดกับไอ้บ้าขี้เก๊กหลงตัวเองข้างหน้า “ใครที่ต้องร้องขอความเมตตากันแน่มิทราบ” ดวงตาหลังแว่นกรอบเหลี่ยมจ้องประสานกับดวงตาสีม่วงเข้มตรงไปตรงมาปนอวดเก่ง นักเรียนอันธพาลกัดฟันกรอด ก่อนจะเหวี่ยงหมัดลงไปหมายจะกระแทกหน้าใสๆ ของทอมปากดีซักตั้ง



    เด็กสาวเอียงหน้าหลบเพียงนิดเดียว หมัดของเลออนก็กระทบกับกำแพงอิฐโครมใหญ่ ฮิวจ์มองอย่างสะใจพร้อมกับใช้จังหวะที่คนตัวใหญ่กว่าอย่างเทียบกันไม่ติดตรงหน้าเผลอตีเข่าพลั่กเข้าให้อย่างแรง แต่มืออีกข้างที่จับอยู่ที่ไหล่ บัดนี้มันค่อย ๆเลื่อนไปที่ลำคอและกุมไว้แน่น อีกมือหยิบแว่นออกจากใบหน้าของเด็กสาว



    “เพิร์ซมันต้องถอดแว่นตอนแข่ง แต่สำหรับเธอน่ะ คงไม่ต้องสิใช่ไหม” ว่าแล้วแว่นกรอบเหลี่ยมสีชาก็ถูกหักออกเป็น2ท่อนด้วยมือข้างที่ว่าง เลออนยิ้มแสยะอย่างถูกใจ แต่ต้องชะงักกับคำตอบของเธอ



    “ก็ ถ้าจะบอกว่าต้องล่ะนายจะว่ายังไง เลออน ลูซิเฟอร์” เสียงใสตอบกลับมาอย่างสบายๆ



    “จะบอกให้เอาบุญเผื่อแก้โรคโง่นายได้บ้างนะ ไม่ว่าจะแข่งพุมเซ่หรือฟรีสแปลลิ่ง เค้าก็ห้ามใส่แว่นทั้งนั้นล่ะโว้ย!!!” พูดขาดคำเด็กสาวก็บิดตัวอย่างคล่องแคล่ว ศอกโครมลงที่ท่อนแขนจนหลุดการเกาะกุม แล้วท่าหมัดหลังมือก็บินเข้าใส่นักเรียนนักเลงอย่างเร็ว ตามด้วยลูกเตะปลายคางทำให้เลออนถึงกับทรุด



    “เป็นไง หมดแรงแล้วเหรอ ไหนบอกจะทำให้ฉันร้องขอความเมตตาไง”











    “ทำไมวันนี้ฮิวจ์ไม่มาซ้อม”



    เสียงบ่นจากเพิร์ซที่ดูท่าทางหงุดหงิดกว่าปกติดังขึ้น



    “นายนี่ห่วงมันจังเลยนะ” เรน(ตามมาดูการซ้อม+ทำการบ้าน)พูดขึ้นน้ำเสียงล้อๆ)



    ทำให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะรีบพูดกลบเกลื่อน “เปล๊า…

    แค่กลัวมันจะฝึกไม่ทันคนอื่นเค้า อาทิตย์หน้าก็จะแข่งแล้วไม่อยากให้มันแพ้อะ”



    เพียงแค่นั้นทุกคนก็ยิ้มๆ แล้วหันไปพยักเพยิดกันและกัน เล่นเอาใบหน้าของคนกวนบาทาแต่ไม่เก่งวิชาหน้ากากฟาโรห์แดงวาบอย่างไม่ตั้งใจ



    โครม!



    เสียงที่ดังมาจากหลังโรงเรียนทำให้ทั้งชมรมสะดุ้งเฮือก แม้ว่าเสียงจะไม่ดังแต่ก็ทำให้เรนเริ่มหน้าซีด อลิสเริ่มสยอง ส่วนเพิร์ซตอนนี้นั่งหน้าเครียด



    เสียงแบบนี้…. ไอ้ฮิวจ์…. มีใครสักคนทำแว่นมันหลุด!



    “พี่ชาร์ลส์ ผมไปดูให้นะครับว่าใครทำ” เด็กหนุ่มลุกพรวด



    ก่อนจะแว้บหายไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผมยุ่งเกาหัวแกรกๆ





    “มันกะอู้อีกล่ะสิท่า…”





    “ไอ้บ้าฮิวจ์!” เสียงตะโกนดังลั่นเมื่อภาพที่เห็นเป็นภาพ…



    ฮิวจ์กำลังทุ่มไอ้เจ้าอันธพาลลูซิเฟอร์ลงกระถางต้นไม้



    แม้จะเห็นไม่ค่อยถนัด แต่หนนี้เขากล้าเอาสายน้ำตาลสองของเขาเป็นเดิมพันเลยว่า ไอ้คู่หูเลือดร้อนของเขา…

    มันไม่ได้ใส่แว่น ไม่ว่าจะถอดเอง(คงไม่มีวัน) หรือไอ้บ้าเลออนนั่นเป็นคนถอดหวังจะให้’เธอ’มองไม่ชัด

    ซึ่งก็ขออุทิศส่วนกุศลให้มันด้วยแล้วกัน… ก็ถอดแว่นใครไม่ถอด ดันไปถอดแว่นไอ้ทอมบ้าเลือดที่โหดขึ้นมาทีเขายังแทบจะเอาไม่อยู่แล้วนับประสาอะไรกับไอ้หมอนี่!



    “ไอ้ฮิวจ์!!! ทำไรของแก” เสียงตะโกนที่ดูเหมือนจะได้ผล เมื่อคนบ้าเลือดหันมามองตามงงๆ



    มันไม่ได้ใส่แว่นจริงๆ ด้วยฟ่ะ เวรแล้ว เพิร์ซคิด



    “อัดไอ้นี่” คำตอบง่ายที่เล่นเอาเขาอยากกระโจนไปบีบคอแม่คุณเสียเหลือเกิน แต่ติดปัญหาอยู่ที่ถ้าโดนบีบกลับอาจไม่ใช่แค่ขาดอากาศหายใจ



    เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “แล้วแว่นนาย…”



    ฮิวจ์ชี้มือไปที่พื้นอย่างหงุดหงิด พร้อมยื่นมืออีกข้างออกมา



    “ขอคอนแทคหน่อยเดะ”



    เพิร์ซโยนซองเล็กๆ ให้ “ทำไมนายไม่ไปซ้อม”



    เด็กสาวทำหน้างง “นายลืมอีกแล้วใช่ปะเนี่ยว่าฉันซ้อมวันจันทร์”



    “เออ ผมผิดเอง ขอโทษนะครับไอ้รุ่นพี่!” เด็กหนุ่มกัดฟันตอบอย่างสุดเซ็ง



    “ว่าแต่ไอ้นั่นล่ะจะเอาไง”(ชี้มือไปทางคนที่นอนสลบเหมือดเลือดอาบอยู่ใกล้ๆกระถางต้นไม้ที่แตกยับ)



    “ก็ทิ้งไว้เนี่ยล่ะ” ฮิวจ์ตอบง่ายๆ ตามเคย



    “คงไม่คิดจะให้ฉันแบกมันไปห้องพยาบาลหรอกนะ”



    ทั้งคู่เดินกลับมาพร้อมกัน ทันทีที่เพิร์ซเปิดประตูชมรมยูโด-เทควันโดเข้ามา เสียงผิวปากเบาๆ จากเรนและอลิสก็ดังขึ้นพร้อมกัน



    ก่อนจะหยุดกึ้กเมื่อฮิวจ์ตามเข้ามาด้วยใบหน้าที่ไร้แว่นกรอบเหลี่ยมปิดบังดวงตา แถมชุดที่ใส่ก็เปื้อนเลือดเป็นบางแห่งถึงจะมองไม่ค่อยชัดเพราะใส่เสื้อสีดำก็ตาม



    ทั้งห้องกลืนน้ำลายเอื๊อกและเงียบกริบ จนอลิเซียที่กำลังซ้อมยูโดอยู่เปิดประตูออกมาดูด้วยความงง ก่อนจะหันไปทางฮิวจ์



    ”เธอไปเล่นอะไรมาอีกล่ะเนี่ย”



    เด็กสาวยิ้ม “ก็ไปจัดการไอ้พวกอันธพาลปากไม่ดี งี่เง่า แพ้แล้วพาล



    แถมชอบใช้กำลังตัดสินที่หลังโรงเรียนมาล่ะฮะ



    ได้ลองใช้ท่าที่พี่สอนผมเมื่อวันจันทร์ด้วย”





    ทั้งสี่เดินกลับบ้านพร้อมกันตามเคย แต่ที่ไม่ปกติคือความเงียบที่ปกคลุมทำให้รู้สึกอึดอัดแปลกๆ จนฮิวจ์ทนไม่ไหวแล้วเปิดประเด็นสนทนาขึ้นก่อน



    “งานนิทรรศการศิลปะเดือนหน้า เค้าให้ทำไรมั่งเหรอ”



    บรรยากาศลดความเครียดลงหน่อยเดียว แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใครพูดอะไร



    “จับกลุ่ม 4 คนในระดับชั้นเดียวกันแต่ไม่จำกัดห้อง



    แล้วส่งผลงาน1ชิ้นภายในสิ้นเดือนนี้…หัวข้อคือ’เพื่อนกันตลอดกาล’ไม่จำกัดเทคนิค คนที่ได้รางวัลที่1

    ของแต่ละชั้นปีก็เหมือนเดิมคือรางวัลคนละ500(น้อยว่ะ-ไวท์)กับเกียรติบัตรอีกคนละใบ…”อลิสตอบ





    ความจริงเรื่องนี้ทางโรงเรียนยังไม่ได้แจ้งมา แต่ด้วยความที่เป็นคนในวงการของอลิส ทำให้พรรคพวกที่เหลืออีก3 โชคดีไปด้วย



    “ยังห่วยเหมือนเดิมเลยว่ะ” หนนี้คำพูดโคตรลุ่นจากเพิร์ซและฮิวจ์พร้อมกัน บรรยากาศเครียดถึงได้แตกโพละ เสียงหัวเราะกลับมาสู่เด็กทั้ง4อีกครั้ง  อลิสกับเรนเดินแยกไปอีกทางเมื่อถึงซอยแยกเข้าบ้าน เหลือ1หนุ่มและอีก1

    เกือบหนุ่มเดินกลับบ้านไปพร้อมกัน



    “เออฮิวจ์ นายฝึกยูโดกับพี่อลิเซียตั้งแต่เมื่อไหร่อะ”



    “ก็วันจันทร์ พ่อฉันบอกจะกลับดึกให้อยู่ซ้อมต่อถึงหกโมงได้เลย ทีนี้พอซ้อมเสร็จมันไม่มีไรทำ เลยไปเล่นที่ชมรมยูโด แล้วพี่เค้าก็สอนให้ หนุกดีเหมือนกัน” เด็กสาวตอบสบายๆ มือสองข้างประสานกันไว้หลังศีรษะ





    เสี้ยวหน้าของเด็กสาวยามไม่มีแว่นปกปิดดวงตาน่ามองกว่าที่เคย จนทำให้เด็กหนุ่มเคลิ้มไปชั่วขณะ



    แล้ว… พลั่ก?



    “ตื่นสิวะ! เหม่ออยู่ได้นายนี่”



    “หา? อะไร”



    “ฉันถามว่ารายงานวิทยาศาสตร์ที่นายบอกจะให้ฉันช่วยนายจะมาทำบ้านฉันหรือให้ฉันไปทำบ้านนาย”



    “ตามใจดิ…”



    “เอองั้นนายทำบ้านฉันละกัน… ใครไปถึงช้าจ่ายค่ารายงานนะเว้ย!”



    ประโยคสุดท้ายตะโกนดังลั่นก่อนจะวิ่งนำหน้าไปก่อน

    เพิร์ซมองตามหลังเธอด้วยแววตาอ่อนโยนประหลาด ก่อนจะสะดุ้งเฮือกแล้ววิ่งตามไปทันที “ขี้โกงนี่หว่า ไอ้ฮิวจ์” แล้วหลังจากนั้นเสียงหัวเราะดังลั่น2เสียงจึงประสานกันคับซอย









    “แล้วเป็นไงล่ะรายงาน”เสียงถามจากอลิส(หลังจากที่พวกเขามารวมกลุ่มกับพวกเฟรินแล้วฮิวจ์กระโดดกอดเฟริน+หอมแก้มไปหนึ่งทีทำให้คาโลมองตาเขียวและเพิร์ซทำหน้าบูด)



    “เสร็จเรียบร้อย ไอ้ฮิวจ์หาข้อมูลเก่งเป็นบ้า แปปเดียวได้ตั้งเยอะ” เพิร์ซตอบ



    “แล้วนอนกับฮิวจ์สนุกไหม” หนนี้คำถามจากเรนทำให้เพิร์ซหน้าแดง ฮิวจ์หัวเราะหึๆ ส่วนกลุ่มเฟรินทั้งกลุ่มค้างไปเรียบร้อยแล้ว



    นอนด้วยกัน…?



    “สนุกกะผีน่ะสิ โดนทั้งถีบทั้งเตะ” เพิร์ซตอบหลังจากตั้งสติได้



    ทั้งถีบทั้งเตะ…?



    คราวนี้ฮิวจ์ทนไม่ไหวปล่อยออกมาก๊ากใหญ่ ทำให้เพิร์ซหน้าแดงหนักกว่าเดิม



    “หัวเราะอะไร”



    “ก็มันขำนี่หว่า มีอย่างที่ไหนเพิร์ซ ร็อคเก็ต



    นักกีฬาเทควันโดโรงเรียนสายน้ำตาลสอง โดนรุ่นน้องสายเขียวสองถีบตกเตียงอะ”



    “ช่าย แถมยังมีละเมอทำแพทเทิร์นอีกนะ” เพิร์ซประชด



    “ไม่ต้องฟิตแข่งพุมเซ่ขนาดนั้นก็ได้”



    คราวนี้พวกเฟรินถอนหายใจโล่งอก (เห้ยๆ ท่านๆคิดไปถึงไหนกันเนี่ย-ไวท์)







    มาย้อนอดีตดูสภาพเมื่อคืนกัน



    19.30 – กินข้าวด้วยกัน 5คน พ่อแม่ พี่สาว ฮิวจ์ แล้วก็เพิร์ซ



    20.30 – ฮิวจ์+เพิร์ซขึ้นไปทำรายงาน(ใช้คอมส่วนตัวของฮิวจ์)



    21.00 – ทำเสร็จ แต่ฮิวจ์หาเรื่องอู้โดยการเล่นเพลย์ทูกับเพิร์ซ



    22.00 – ฮิวจ์โดนด่าข้อหาพาเพื่อนเสีย(มันเสียมานานแล้วล่ะนะ)

    แต่แม่คุณก็ไม่สนใจเล่นเกมต่อ



    22.30 – โดนไล่ให้ไปนอน(เตียงฮิวจ์เป็นเตียง2ชั้นที่เอามาต่อกันเป็นเตียงใหญ่)



    22.45 –ฮิวจ์แอบอ่านหนังสือในห้อง(“วิธีการสอบเลื่อนขั้นสายสี”)ส่วนเพิร์ซหลับไปแล้ว



    23.00 – ฮิวจ์หลับ+เริ่มนอนดิ้น



    01.00 – ฮิวจ์ละเมอทำแพทเทิร์นเขียว2 พอถึงท่าที่7(ไซด์คิก)ฮิวจ์ก็ถีบเพิร์ซตกเตียง



    06.00 – เพิร์ซตื่นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่พื้น ส่วนฮิวจ์ยังหลับไม่รู้เรื่อง



    07.00 – ไปโรงเรียน(วันนี้ห้อง c ใส่ชุดพละเพิร์ซเลยใส่ของฮิวจ์)



    “เออนี่ รู้สึกว่าเพิร์ซกับฮิวจ์นี่แปลกๆ นะ” เฟรินพูดหลังจากเด็กทั้ง4ไปเข้าตึกเรียนของพวกปี1แล้ว



    “ยังไง” คิลถาม



    “ก็” เฟรินตั้งท่าจะตอบ แต่โดนโรแย่งซีนซะก่อน “ฮิวจ์เป็นผู้หญิง แต่นอนห้องเดียวกับเพิร์ซไง”



    “แล้วไง ก็เพื่อนกันแท้ๆ อย่างฉัน คาโล เฟรินก็นอนห้องเดียวกันมาตั้งนานตอนอยู่เอดินเบิร์ก”คิลยังงงไม่หาย



    “แต่ที่ฉันบอกแปลกไม่ใช่เรื่องนั้น” เฟรินค้าน



    “แล้วเรื่องไหนล่ะ(โว้ย)”คิลพูดอย่างเริ่มหมดความอดทน เฟรินหัวเราะหึๆ



    “พวกนายไม่เห็นรึไงว่าน้องสาวสุดห้าวของฉันน่ะ เวลาถอดแว่นแล้วน่ารักขนาดไหน”



    เออว่ะ จริงของมัน… ทุกคนคิดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายยกเว้นโรกับเฟริน



    “พวกนายไม่ได้สังเกตสายตาของเพิร์ซด้วยล่ะสิตอนที่ฮิวจ์หอมแก้มเฟริน” โรถามคราวนี้คาโลเริ่มชักสีหน้าบูดขึ้นมาอีกส่วนทุกคนพยักหน้าหงึกๆ



    เฟรินเริ่มยิ้มแปลกๆ “รู้สึกเราจะมีเรื่องสนุกอีกเรื่องแล้วล่ะ”





    “เรื่องสนุก?”



    “อือ ก็น้องชายสุดแสบมันดันไปชอบน้องสาวสุดโหด เอ๊ย น่ารักของฉันตอนนี้หน้าที่ของพวกเราก็คือเป็นคิวปิดให้2คนนั้นสมหวังไง”



    “คงยาก” คาโล(ที่พึ่งมีบทเพราะไอ้หมอฟันหาจังหวะลงเหมาะๆ ไม่ได้-ไวท์)



    “ทำไม” ทั้งเฟรินทั้งคิลถามพร้อมกัน



    “พวกนายรู้นิสัยฮิวจ์ดีนะ”



    “อือ แล้วไง”



    “ฮิวอี้ห้าวขนาดนั้น จะสนใจผู้ชายเหรอ” ลูคัส(ที่ฟังอยู่นาน)ถามขึ้นบ้าง…..เออว่ะ เฟรินและคิลผู้เพิ่งถึงบางอ้อ



    “แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีทาง” ลอเรนซ์(O_o –ไวท์)พูดขึ้นบ้าง



    “งั้นก็ดี”คาโลงึมงำ แต่รู้สึกจะไม่พ้นหูนรกของลูคัส “คาลี่หึงล่ะสิ”



    เจ้าชายแห่งคาโนวาลสะดุ้งเฮือกหน้าแดงก่ำ คิลกับโรหัวเราะคิก



    “แต่เชื่อเหอะเฟรี่ คาลี่ รับรองเรื่องสนุกไม่ได้มีแค่นั้นแน่”



    ลูคัสพูดทิ้งท้ายพร้อมกับตบไหล่รุ่นน้อง เอ้อ ตอนนี้เป็นลูกศิษย์คนละที











    “ประชุม?ตอนนี้เนี่ยนะ” เฟรินถามหน้าเหรอเมื่อคาโลมาเรียก



    “ใช่เฟริน ตอนนี้ ที่หอประชุมใหญ่”



    “เอาล่ะทุกคน เรื่องที่เรียกมาประชุมพร้อมหน้ากันครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากโรงเรียนเรามีนิทรรศการศิลปะ ซึ่งจะจัดขึ้นเทอมละ1 ครั้งรายละเอียดก็ดูตามใบที่แจกไปนี่...”อาจารย์หัวหน้าระดับปี1(และอาจารย์สอนภาษา)

    เรนาเซีย ลูซิเฟอร์พูดขึ้น





    ระหว่างนั้นรุ่นพี่หลายคนกำลังเดินแจกรายละเอียดให้นักเรียน





    (นิทรรศการศิลปะประจำภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2548ขอเชิญนักเรียนทุกระดับชั้น เข้าร่วมประกวดงานศิลปะ

    เป็นทีม ทีมละ 4 คนในระดับชั้นเดียวกันในหัวข้อ’เพื่อนกันตลอดกาล’ไม่จำกัดเทคนิคภายในวันที่ xx/xx/2548 นี้)





    “ไม่ยุติธรรมเลย งานนี้แก๊งดนตรี กีฬา ภาษา ศิลปะก็ซิวอีกล่ะสิ”



    เสียงบ่นของใครคนหนึ่งข้างหลังดังขึ้น



    “ดนตรี กีฬา ภาษา ศิลปะ?”เฟรินพูดงงๆ “อะไรเหรอ”ประโยคหลังหันไปถามไนฟ์ข้างๆ



    “เฟรินไม่รู้จักเหรอ” เฟรินส่ายหน้าดิกๆ “อ้าวก็เห็นเดินมาด้วยกันเมื่อเช้า..”เฟรินทำหน้าเหรอ

    “ซะงั้น”ไนฟ์บ่นก่อนเฟมจะอธิบายแทน



    “ดนตรี กีฬา ภาษา ศิลปะนี่เป็นชื่อแก๊งของเด็กปีหนึ่ง 4คนน่ะ



    เฟลิน่าจังน่าจะรู้จักนะดังจะตาย”



    เฟรินยังทำหน้างงอยู่ “ดัง?”



    “ดนตรีก็วิเฮลมิน่า อเล็กซิส คาเรน กีฬาก็เพอริไคน์ ร็อคเก็ต ภาษาก็วิลเลี่ยม ฮิวจ์ ส่วนศิลปะก็อลิส เอ. แองเจิ้ลไง 4คนนี้เก่งมากเลยนะ วิเฮลมิน่าก็เล่นดนตรีได้ทุกประเภท ขนาดได้เกียรติบัตรมาตั้งหลายใบแล้ว เพอริไคน์ก็เป็นนักกีฬาโรงเรียนได้เหรียญมาหลายที่เหมือนกัน วิลเลี่ยมก็เคยได้รับรางวัลนักเขียนเรื่องสั้นเยาวชนดีเด่นแห่งปีสมัยยังอยู่เกรดหก  อลิสก็ได้รางวัลจิตรกรเยาวชน…”



    เฟรินยิ่งทำหน้าเหรอหนักกว่าเดิม



    “ไม่รู้จักจริงดิ?”



    เฟรินส่ายหน้า



    “แล้วงงอะไร” คราวนี้คาโลถามบ้าง



    เฟรินส่ายหน้าอีกรอบ



    เปล่า แต่เอ๋อกินเพราะนึกไม่ถึงใครมันจะไปรู้ฟะ เรนเห็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์อย่างนั้น

    เพิร์ซเห็นมันท่าทางกวนๆ เป็นถึงนักกีฬาโรงเรียนว่าแต่ชื่อจริงชื่อเพอริไคน์เหรอ? ยัยฮิวจ์ เห็นดูโหดๆ อย่างนั้น ดันได้รางวัลเรื่องสั้นเยาวชน อลิส เห็นอารมณ์ดีได้ทั้งปีแต่ได้รางวัลศิลปะ โห….อึ้งรับประทาน…





    “แล้วทุกคนต้องลงสิเนี่ย” เฟรินบ่นอุบอิบ



    “ไม่ต้องหรอก ส่วนใหญ่คนที่ต้องลงก็พวกชมรมศิลปะ…ส่วนงานอื่นๆ ที่จะแสดงเค้าก็ให้วาดๆ กันในคาบศิลปะนะแหละ แต่รู้สึกปีนี้เค้าบอกว่าถ้าได้รางวัลจะมีคะแนนเพิ่มขึ้นวิชาละ10 นะ”

    โรตอบ(ประสาคนรู้มาก...)



    ทุกคน OO+ (หันขวับมามองทันที)



    “จริงดิ” 2เสียงจากเฟรินกับคิล



    “ไปเอามาจากไหน”4เสียงจากอาจารย์รุ่นพี่ทั้ง3 และคาโล



    “เปล่าฉันพูดเล่น”



    คำตอบหน้าตาเฉยทำให้เฟรินลืมความเป็นหญิงที่สั่งสมมานานตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แล้วถลาเข้าไปวางมวย

    แต่โดนคาโลกันไว้ก่อน



    “ปล่อยนะคาโล ปล่อย บอกให้ปล่อย!”



    ครั้งสุดท้ายเฟรินกระทืบพลั่กเข้าให้แบบเต็มๆ เท้าคาโลสะดุ้งเฮือกก่อนจะเผลอปล่อยเฟรินแล้วล้มลงกับพื้น

    หมดมาดเจ้าชายน้ำแข็งทันที ส่วนเฟรินถูกใครบางคนที่ตัวเล็กๆ แต่แข็งแรงพอที่จะพยุงเฟรินที่เสียหลักไว้ได้โดยไม่ร่วงไปทั้งคู่รับไว้



    “พี่เฟรินเป็นอะไรรึเปล่าฮะ” เจ้าของแขนที่พยุงไว้ถามขึ้น ฮิวจ์นั่นเอง



    ไม่มีเสียงตอบ พูดกันตรงๆ ก็คือทุกคนเงียบกริบกันหมดนั่นแหละฮิวจ์ถึงได้คิดอะไรได้ แล้วก้มลงไปมองร่างที่ตัวเองพยุงไว้



    ด้วยอาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก+ดวง+ความน่าจะเป็น ทำให้ภาพที่เกิดขึ้นกลายเป็น ฮิวจ์กำลังอุ้มเฟรินไว้ในอ้อมแขน แถมหน้าของทั้งคู่ก็ใกล้กันมากๆ ชนิดชวนให้คนดูเข้าใจผิดง่ายๆ เฟรินหน้าแดง ฮิวจ์หน้าขึ้นสีเรื่อ อลิสและเรนกลั้นหัวเราะ เพิร์ซทำหน้าบูด คาโลทำตาเขียว คนอื่นตาค้าง ส่วนพวกนักเรียนมุงก็ผิวปากวิ้ว  ชวนให้กระทืบเป็นอย่างยิ่ง



    “อ่า ขอโทษฮะพี่เฟริน”ฮิวจ์พูดเบาๆ ก่อนจะช่วยให้เฟรินลุกขึ้นยืน แล้ว…



    วิ่งไล่เตะพวกนักเรียนมุงวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง หมดมาดนักแข่งพุมเซ่มือหนึ่งจอมซ่อนคมภายในพริบตาเดียว



    “มุงหาพระแสงไรฟะ!!!”











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×