คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : FRIEND LOVE| 18 #อสแฟนหก (100 per.)
‘ทำไมต้องเขินกับอีแค่การจับหน้าผากด้วยวะ!?
กูเป็นอะไร!!?’
“แจ็คสันเมื่อวานนี้มึงแสบมากเลยนะ”เจบีเดินไปกระชากคอเสื้อคนตัวเล็กที่นั่งหลบมุมอยู่ตรงต้นไม้หน้าคณะพลางลากคอเสื้อคนตัวเตี้ยออกมายืนประจันหน้ากับตน
แจ็คสันยกยิ้มกวนประสาทใส่ก็อีกฝ่ายอยากโง่ให้เขาหลอกเองทำไมล่ะ
ในเมื่อชวนไปด้วยกันแล้วเจ้าตัวไม่ยอมไปแจ็คสันก็ไปเองคนเดียวก็ได้
“เออมึงรู้ไหมว่าไอ้เจบีแทบตายเกือบโดนหักคะแนนแล้วไหมล่ะ”เซฮุนโผล่มาจากด้านหลังเจบี เดินไปกอดคอแจ็คสันอย่างเนียนๆ
แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของร่างสูงอยู่ดีเจบีดึงมือที่เกาะกะอยู่ตามตัวแจ็คสันออกแล้วจัดการเหวี่ยงร่างไอ้ตัวน่ารำคาญจอมจุ้นนี่ออกไปให้ไกลๆทาง
เซฮุนแทบล้มหงายหลังแต่ทว่าแผ่นหลังของเขากลับไปกระทบเข้ากับอะไรบางอย่างแข็งๆเข้าเสีย
พอหันหลังกลับไปมองก็พบว่าจีมินกำลังยืนหน้านิ่งมองพวกตนอยู่
ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มพลางจับจ้องสายตาแพรวพราวไปยังร่างขาวที่หน้าซีดอยู่ตรงหน้าตน…เขาคนนะไม่ใช่ผีเห็นทีไรหน้าซีดอย่างกับไก่ต้มทุกที
“อรุณสวัสดิ์”จีมินทักทายแจ็คสันโดยไม่คิดจะสนใจเซฮุนที่จ้องตนราวกับจะฆ่าฟันเลยสักนิด
เหมือนอีกฝ่ายไม่อยู่ในสายตาของตัวเองยังไงอย่างนั้น
“โว้ย! นี่มึงเมินกูเหรอวะ!!”
“อยู่ตรงนี้ด้วยเหรอมึงน่ะ…โทษทีพอดีมองไม่เห็น”
“ไอ้! อ๊ากกกก!!!”
“ไปกินข้าวกันเดี๋ยวกูเลี้ยง”
จีมินไม่สนใจเซฮุนที่แหกปากร้องเขาเดินผ่านเจบีไปจูงมือแจ็คสันพาอีกฝ่ายตรงไปยังโรงอาหารโดยไม่คิดจะสนใจเลยสักนิดว่าคนด้านหลังมันทั้งด่าและสาปแช่งอะไรตนไว้บ้าง
ในสายตาของจีมินมีแค่แจ็คสันคนเดียวก็พอแล้วส่วนคนอื่นช่างหัวมันไม่ได้เป็นอะไรกันเพราะงั้นไม่ต้องไปสนใจอะไรมากหรอก
เจบีถอนหายใจตบบ่าเซฮุนแผ่วเบาด้วยความเห็นใจก่อนเอามือพาดไว้ที่คออีกฝ่ายแล้วออกแรงกระชากให้เจ้าตัวเดินตามตนเพื่อตามพวกแจ็คสันไปยังโรงอาหารโดยตลอดทางนั้นก็มีเซฮุนคอยส่งสายตาอาฆาตใส่จีมินอยู่เสมอ
เจบีคิดว่าบางทีจีมินอาจจะไม่ง่ายเหมือนคนอื่นๆ
เขามีลางสัมผัสได้ว่าจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาภายในกลุ่มเพื่อนแน่ๆ
เรื่องนี้ต้องบอกจินยองกับยองแจให้รู้ซะแล้ว
….เพราะตอนนี้เมียของพวกเขากำลังจะถูกหมาคาบไปกิน!.....
ณ.ฮ่องกง เวลา 06:00 AM.
ร่างสูงสมส่วนเกินร้อยเก้าสิบเซนติเมตรยืนหยุดอยู่ตรงหน้าประตูรั้วบ้านที่มีป้ายชื่อสีทองตัวใหญ่ๆติดไว้ว่า ‘WANG’ รอยยิ้มแปลกๆหลุดออกจากริมฝีปากชายหนุ่ม
มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลหนึ่งในสี่แผ่นดินใหญ่ของแคนนาดาและขยายอำนาจมายังจีนค่อยๆก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างสง่างามสมกับเป็นผู้ที่มีอำนาจและศักดิ์ยศสูงสุดในบรรดาแก๊งมาเฟีย
บอร์ดี้การ์ดภายในบ้านตระกูลหวังโค้งตัวให้เพื่อแสดงถึงความเคารพและความเกรงกลัวต่ออำนาจของอีกฝ่าย
มาเฟียหนุ่มยกยิ้มอีกครั้งพลางตรงไปยังห้องรับแขกที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดีเพื่อต้อนรับการมาของตน
นับว่าเป็นสิ่งที่น่าประทับใจพอสมควรเกี่ยวกับการต้อนรับแต่มีสิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มติดใจก็คือ…เจ้าของบ้านหายไปไหน?
เจ้าของร่างมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลย่อตัวลงนั่งตรงกลางหัวโต๊ะ
ข้างๆมีเมดและแม่บ้านต่างๆยืนเฝ้ามองตนนิ่งราวกับหุ่น
สายตาที่ดุดันและคมยิ่งกว่าเหยี่ยวไล่มองตามร่างของแม่บ้านไปทีละคนๆอย่างเพลินตา
สักพักนิ้วชี้ก็ชี้ไปยังเมดคนหนึ่งพร้อมกระดิกนิ้วเรียกให้เธอเดินมาหาตน
บางทีการรอเจ้าของบ้านนานๆก็ทำให้แขกเบื่อได้เพราะอย่างนั้น…ต้องทำอะไรแก้เบื่อสักหน่อยจะได้ไม่เฉาตายก่อนเจอหน้าคนที่จัดงานต้อนรับตน
“ชื่ออะไร”เสียงทุ่มเอ่ยถามเมดสาวพลางไล่มือลูบโครงหน้าหวานนั่นด้วยความหลงใหล…ไม่สิไม่เชิงว่าหลงใหลหรอกมันเหมือนกับว่าเอ็นดูเสียมากกว่า
“เหมยฟาง….กลับไปซะ”ยังไม่ทันที่ปากเล็กจะตอบกลับเสียงขัดขึ้นอย่างเสียมารยาทก็ทำให้เมดสาวรีบเดินออกจากอ้อมแขนชายหนุ่มกลับไปยืนยังที่เดิมของตนทันที
ใบหน้าหล่อมีแววความไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมามาก
เขาก็แค่เล่นๆกับผู้หญิงคนเมื่อกี้เท่านั้นแหล่ะแต่มาขัดจังหวะกันแบบนี้แถมยังมาช้าอีกนี่มัน…จะเกินไปหน่อยไหม
“ปล่อยให้แขกรอแบบนี้ได้ยังไงกายี”ชายหนุ่มกล่าวพลางเงยหน้ามองกายีที่เดินมานั่งตรงข้ามกับตน
“พอดีติดธุระนิดหน่อยต้องขอโทษจริงๆที่ปล่อยให้แขกต่างเมืองอย่างนายรอนานอี๋ฟาน”กายีโค้งขอโทษตามมารยาทที่ควรกระทำ
เขารู้ว่าอี๋ฟานแค่แกล้งเล่นแต่ในเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องของคนใหญ่คนโตอย่างอี๋ฟานแล้วจะทำอะไรที่มันเสียมารยาทมากไปกว่านี้ไม่ได้
แค่มาช้านี่ก็ถือว่าใช้ไม่ได้แล้ว
“กับต้วน อี๋เอินหรือไงกัน”ดวงตาคมเหลือบมองไปยังด้านหลังที่มีร่างของมาร์คกำลังเดินมาอยู่
มาร์คสบตากับอี๋ฟานก่อนยิ้มทักทายแล้วเดินไปนั่งตรงกลางโต๊ะแทน
“นิดหน่อย”กายีตอบอย่างไม่ใส่ใจมุมปากตนมีเลือดไหลซิบอยู่เล็กน้อย
ทำให้คิ้วของอี๋ฟานเลิกขึ้น…ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าธุระของกายีกับมาร์คนั้นคืออะไรกันแน่
ถึงขึ้นต้องตกเลือดยางออกกันเลยอย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมถึงมีแค่กายีคนเดียวล่ะที่เลือดออก
ทำไมมาร์คถึงไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยล่ะ?
“หึ! ที่จริงก็อยากจะถามหรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกนายสองคนแต่…ไม่ดีกว่าเอาเป็นว่าเรามาคุยเรื่องสำคัญของเรากันก่อนดีกว่าไหมหวัง กายี”
“เรื่องอะไร?”
“เจียเอ่อร์”
“ล้มเลิกซะ! ฉันไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับนาย”
ยังพูดไม่ทันจบกายีก็ตบโต๊ะเสียงดังลั่นพร้อมจ้องหน้าอี๋ฟานตาเหลือกใส่อย่างเกรี้ยวกราด
ใบหน้าจากที่เคยเรียบนิ่งและดูสุขุมบัดนี้กลับเต็มไปด้วยโทสะและความโกรธเหมือนกับแม็กม่าในภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดเต็มที่เมื่อเจ้าตัวหมดขีดจำกัดความอดทนในตัวเอง
อี๋ฟานก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมันสักเท่าไหร่…ก็แค่อาการโกรธของพี่ชายที่หวงน้องเป็นพิเศษคนหนึ่งเท่านั้น
“คิดว่าเสียงนายแค่เสียงเดียวจะหยุดฉันได้อย่างนั้นเหรอ
เชื่อเถอะยังไงซะน้องชายของนายสุดท้ายก็ต้องตกมาอยู่ในกำมือของฉันอยู่ดีกายี”
อี๋ฟานกล่าว
มาร์คที่คอยนั่งดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกเมื่อครู่นี้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ตกไปอยู่ในกำมืออย่างนั้นเหรอ?....แจ็คสันเนี้ยนะ?
“รู้จักกับเจียอย่างนั้นเหรอ”มาร์คเอ่ยปากถามขึ้นท่ามกลางความเงียบของทั้งสอง
“ก็ไม่เชิงแต่แค่เคยเห็นหน้า
อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมายหรอกเด็กนั่น”อี๋ฟานตอบตามความจริง
“เหรอ แล้วที่บอกว่าตกไปอยู่ในกำมือของนายมันหมายความว่ายังไงกัน”มาร์คยังคงถามต่อน้ำเสียงเริ่มกดต่ำทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูเครียดเข้าไปหนักกว่าเก่า
อี๋ฟานเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้งจ้องมองหน้านิ่งซึ่งมาร์คเองก็จ้องกลับอย่างไม่นึกเกรงกลัวเช่นเดียวกัน
เขาเองก็ใหญ่ไม่แพ้อีกฝ่ายหรอกนะบางทีอาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำไป
“หึ!นายจะอยากรู้ไปทำไมต้วน อี๋เอินเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนายหรอกแต่มันเกี่ยวกับฉันและกายีต่างหาก”อี๋ฟานบอกดวงตาเหลือบมองไปยังร่างของกายีเล็กน้อยพลางหัวเราะเสียงทุ่มในลำคอแผ่วเบา
“เกี่ยวสิ…เพราะเจียเป็นเด็กในปกครองของฉัน
ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องส่วนตัวของเขาก็ด้วย”อี๋ฟานจ้องมาร์คด้วยแววตาไม่ชอบใจยิ่งได้ยินประโยคเมื่อครู่นี้จากอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้หัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้มีอิทธิพลในประเทศแคนนาดารู้สึกอยากจะดวลปืนกับมาร์คสักสองสามนัดเสียจริง
“พอ! ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับเจียเอ่อร์ได้ถ้าฉันไม่อนุญาต!!แม้แต่นายอี๋ฟาน”กายีชี้หน้าอี๋ฟานสลับกับมาร์คที่นั่งนิ่งอยู่
แววตามองกลับอย่างไม่นึกเกรงกลัวแต่มันกลับทำให้กายีชะงักไปเล็กน้อย…
เป็นแววตาที่เรียบนิ่งสงบราวกับราชสีห์ที่กำลังควบคุมอารมณ์ความโกรธของตนเอาไว้ในใจอยู่
ซึ่งปกติมาร์คไม่เคยทำตัวแบบนี้ให้เขาเห็นเลยแจ็คสันคงจะเป็นเด็กที่มาร์คเอ็นดูและรักเหมือนน้องชายอีกคนมากจริงๆ
“เหอะกายีนายมันก็แค่ลูกนกที่พึ่งหัดบินจะมาสู่อะไรกับพญาอินทรีย์อย่างฉันได้
ขอเตือนเมื่อไหร่ที่เจียเอ่อร์เรียนจบเขาจะต้องตกอยู่ในกำมือของฉันทันทีโดยไม่มีข้อแม้”อี๋ฟานพูดเยาะเย้ยร่างสูงลุกขึ้นก่อนเดินออกจากโต๊ะไปโดยไม่สนว่าตนจะเสียมารยาทกับกายีหรือมาร์คหรือไม่ก็ตาม
กายีมองตามหลังอี๋ฟาน
สิ่งหนึ่งที่เขาเกลียดหมอนั่นคือการเอาแต่ใจและนิสัยเถื่อนๆโหดๆของเจ้าตัวที่เขารับไม่ได้ที่สุด
ถ้าแจ็คสันน้องชายเขาต้องไปตกอยู่ในกำมืออีกฝ่ายกายีขอปลอมตัวเป็นแจ็คสันแทนดีกว่าเขาไม่มีทางยอมให้น้องชายเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับวิถีชีวิตของมาเฟียแน่
ถ้ามันจำเป็นจริงๆกายีของยอมเป็นแทนแจ็คสันเอง
“รู้ไหมถ้านายไม่คอยมองมาทางฉัน
บางทีกระสุนอาจจะไปปักคาอยู่ที่หัวของอี๋ฟานก็ได้”มาร์คพูดขึ้นหลังจากที่อี๋ฟานเดินจากออกไปจนพ้นตาตนแล้ว
เขาหยิบเอาปืนพกสั้นวางไว้บนโต๊ะรับประทานอาหารพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่ซึมไหลอยู่ตามนิ้วมือ
มาร์คเกร็งแค่ไหนที่ต้องบังคับใจตัวเองไม่ให้เป่าหัวอี๋ฟานจนเป็นรูไปเสียก่อน
“ใจเย็นน่าอี๋เอินยังดีที่เจียเอ่อร์ไม่อยู่ที่นี่ไม่อย่างนั้นอี๋ฟานคงจะได้ตัวน้องชายฉันไปแล้ว”กายีกล่าว
“ลองมันเอาไปดูสิพ่อจะเป่าให้ร่วงเลย”มาร์คกัดฟันพูดด้วยความแค้นใจ
เขาไม่มีทางปล่อยให้อี๋ฟานเอาตัวแจ็คสันไปได้แน่นอนต่อให้ต้องฆ่าอีกฝ่ายให้ตายก็ตาม
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?
ทำเหมือนกับว่านายเป็นห่วงน้องฉันมากๆเลยอย่างนั้นแหล่ะ”ใบหน้าคมหันไปมองเพื่อนตนด้วยความสงสัย
กายีจ้องไปยังนัยน์ตาเรียวของมาร์คเพื่อค้นหาคำตอบจากปากอีกฝ่าย
มาร์คเกือบจะหลบตาของกายีแล้วถ้าเขาไม่มีสติรีบปั้นหน้าให้ดูนิ่งๆเหมือนเดิมทันเสียก่อนล่ะก็
“ฉันก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว เจียเป็นเด็กในปกครองของฉัน…ฉันรักของฉันเหมือนน้องเหมือนหลานนี่ หรือนายไม่เป็นกันล่ะกายี?”ยังดีที่สกิลในการแถของมาร์คยังใช้งานได้ผลอยู่ไม่อย่างนั้นกายีคงจะไม่มองเขาด้วยสายตาที่อ่อนลงจากเดิม
แอบขอบคุณความมีไหวพริบของตนเสียเหลือเกินดีที่เขาใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ทันไม่อย่างนั้นเขาคงโดนจับไปขังคุกใต้ดินแล้วโดนกายีซ้อมจนตายไปนานแล้ว
“แน่นอนเจียเอ่อร์เป็นน้องชายของฉัน…น้องชายที่ฉันรักมากที่สุด”
“ใช่ไหมล่ะใครๆก็รักและเอ็นดูน้องชายนายทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เจบีที่มันชอบกัดกับนายเป็นประจำ”
“ไอ้ตี๋นั่นอ่ะนะเหอะ!”
“เออไอ้ตาตี๋กวนประสาทจอมโวยวายนั่นแหล่ะ”
“ฉันควรสงสารเจียเอ่อร์ที่ไหมที่มีมันเอ็นดูน่ะ”
“นิดหน่อยก็ดีนะ เพราะมันค่อนข้างบ้าพอสมควรเลยล่ะตอนอยู่กับน้องนาย”
มาร์คไม่ได้เผาเจบีหรอกนะแต่ว่าเขาแค่พูดความจริงให้กายีฟังเฉยๆ
ยิ่งพอเห็นเพื่อนตัวเองทำหน้าหงึกเหมือนยักษ์แล้วก็ยิ่งสะใจอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วงจนหมดปากแต่ก็กลัวว่าแจ็คสันเห็นแล้วจะกลัวเอาจึงได้ทำเพียงแค่ยิ้มน้อยๆสไตล์ชายพิกุลทองเพียงเท่านั้น
มีสามีฟันหลอน่ากลัวกว่าสามีหน้าเป็นแผลอีกนะ
“แล้วนี่นายจะกลับเกาหลีวันไหน?”กายีเอ่ยถามเพราะวันนี้เขานัดอีกฝ่ายมาคุยงานที่ฮ่องกงด้วย
ไม่พ้นเรื่องยาและยังได้เจอคู่ปรับตัวฉกาจอย่างอี๋ฟานอีก
มาร์คเองก็มีงานให้จัดการเยอะเหมือนกันแต่กายีก็ดีใจที่เพื่อนเขามันยังอุตส่าห์เจียดเวลามาหาเขาโดยไม่บ่นเหมือนคนอื่นๆได้
“วันนี้แหล่ะ ว่าจะกลับไปดูพวกลูกน้องมันหน่อยวันก่อนไม่รู้ทะเลาะอะไรกันบ้านแทบแตก”มาร์คยังจำได้ตอนก่อนที่จะมาฮ่องกงไอ้พวกลูกน้องของเขาไม่รู้มันทะเลาะเรื่องอะไรกันตีกันแทบตายแถมยังมีท่าทีว่าจะชักปืนออกมายิงกันเสียด้วย
ดีที่มาร์คกลับมาทันไม่อย่างนั้นในบ้านของเขาคงจะมีคนตายกันสักศพสองศพไปแล้ว
“งั้นก็เดินทางปลอดภัยก็แล้วกันนะ”
“โอเค”
มาร์คลากายีก่อนเดินออกจากบ้านเจ้าตัวไป
แต่ก่อนกลับเขามีเรื่องบางอย่างที่จะต้องรู้ให้ได้…เกี่ยวกับชายที่ชื่อ
อู๋ อี๋ฟาน คนนั้น มาร์คอยากรู้ว่าหมอนั่นเป็นใครมาจากไหนมีอิทธิพลต่อคนในตระกูลหวังมากแค่ไหน
และ….เกี่ยวข้องอะไรกับแจ็คสันกันแน่
ทำไมมันถึงอยากได้ตัวแจ็คสันขนาดนั้น มาร์คจะต้องไปสืบให้รู้ให้ได้ว่าทำไม
มหาลัย JY’PARK
“มึงว่าไหมอาจารย์แม่งกั๊กข้อมูลไอ้สัส”เจบีพูดหลังจากที่เจ้าตัวได้ออกไปถามไถ่เกี่ยวกับวิชาคณิตศาสตร์ในข้อที่ตนไม่เข้าใจกับครูประจำวิชา
ซึ่ง…แม่งก็เสือกไม่เข้าใจมันแทบจะทุกข้อเลย
ก็ไม่แปลกที่อาจารย์เขาจะเลือกอธิบายเพียงแค่ข้อที่ยากๆให้มันฟังส่วนข้อง่ายๆค่อยให้มันไปหาวิธีทำเอาเอง
แน่นอนมันก็ไม่แพ้มาลอกเขาอยู่ดีนั่นแหล่ะ
“มึงเรียนไม่เข้าใจเองต่างหากไอ้เจบีอย่าโทษจารย์ได้ปะ”แจ็คสันโผล่พูดขึ้นหลังจากที่ช็อตโน้ตเฉพาะสูตรและเนื้อหาเล็กๆน้อยๆแต่สำคัญไว้ในสมุดเล่มเล็กที่พกพาสะดวกเรียบง่าย
แว่นทรงกลมขอบหนาสีดำถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับดวงตาใสหางตาตกเหมือนลูกหมามองไปยังเจบีที่ทำหน้าเบะปากไม่พอใจอาจารย์อยู่ก่อนยกมือขึ้นโบกหัวเพื่อนตัวเองไปทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้
….แหมไอ้สัสตอนมึงเล่นเกมที่เขาพึ่งปล่อยมาใหม่นี่ทำไมแสนรู้จัง…..
“ควาย”สั้นๆได้ใจความจากจีมินและเซฮุนที่ยืนประกบข้างแจ็คสันทั้งสองคน
“ไอ้พ่อคนฉลาด!”เถียงกลับไปโดยไม่มีความเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียวซึ่งมันเรียกเสียงหัวเราะจากแจ็คสันได้เป็นอย่างดี
ร่างขาวถึงกับระเบิดเสียงลั่นห้องหลังจบคำด่าของเจบี เขาไม่ได้เส้นตื้นไปใช่ไหม?
“…แจ็คสันเย็นนี้เจอกันที่สนามบาสด้วยห้ามโดด”จีมินพูดขึ้นหลังจากเงียบเป่าสากมานาน
นับวันๆยิ่งจะคิดว่ามันชักจะเหมือนยองแจไปทุกที
เงียบเหมือนกันเป๊ะแต่นิสัยนี่แตกต่างกันโคตรๆ
ถ้ายองแจเป็นเทวดาไอ้นี่ก็นรกส่งมาเกิดแล้วล่ะโหดเถื่อนหื่น! นิยามนี้แจ็คสันขอยกให้กับจีมินเลยส่วนกวนตีนนั้น…เซฮุนน่าจะพูดเองซะมากกว่า
“เออกูไปอยู่แล้ว…ว่าแต่เซฮุนมึงจะไปด้วยปะเย็นนี้”
“ก็ได้นะกูจะไปปกป้องมึงจากมันเอง”
“ปัญญาอ่อน”
“ไอ้เหี้ยจีมิน!!!”
“หึ”
เซฮุนและจีมินเริ่มเปิดศึกกันอีกครั้งหลังจากห่างหายกันไปประมาณสองถึงสามนาที
เมื่อกี้นี้ได้ข่าวว่าพวกมันก็พึ่งจะตีกันไปนี่เอาอีกแล้วอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าทะเลาะกันมากๆเดี๋ยวแจ็คสันหมั่นไส้จับแม่งขังไว้ในห้องด้วยกันซะเลยดีไหมให้มันตีกันตายไปข้างหนึ่งเลยไอ้พวกบ้า
“โอ้ย!!พวกมึงขอร้องอย่าจีบกันตอนนี้ได้ไหม”คำพูดของเจบีช่างแทงใจดำพวกจีมินและเซฮุนเสียเหลือเกิน
นอกจากจะได้คำด่าจากเซฮุนแล้วยังจะได้ตีนจากจีมินไปอีกหนึ่งข้างอีกด้วย…แน่นอนว่าแจ็คสันนั้นก็มีหน้าที่ขำและมองเจบีถูกถีบอย่างน่าสงสารอยู่เพียงคำเดียว
“ไอ้บ้าเจบีจีบบ้านป้ามึงสิครับ!”เซฮุนด่าพร้อมยกมือขึ้นชกเข้าที่แขนเจบีแรงประมาณปานกลาง
ใบหน้าหงึกงอไม่พอใจกับคำพูดของเจบีเป็นอย่างมาก…คนอย่างเขาเนี้ยนะจีบกับไอ้บ้าจีมินนี่น่ะ
“แค่คิดก็สยองวะ”จีมินพูดขึ้นแผ่วเบา
“ฮ่าๆพวกมึงนี่ตลกวะ”แจ็คสันหัวเราะกรามแทบค้าง
ทุกวันนี้สีสันเกิดจากคู่จีมินและเซฮุนและตัวชงอย่างเจบี
ถ้าไม่มีพวกมันเขาคงจะไม่ได้ตลกแบบนี้
Rrrr Rrrr
แจ็คสันปลีกตัวจากพวกเจบีเดินไปยังหน้าต่างเพื่อกดรับสายคนสำคัญคนหนึ่งของตนที่โทรมา
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอหน้ากันนาน
มือเรียวจิ้มกดตรงภาพสัญลักษณ์สีเขียวรูปโทรศัพท์เพื่อกดรับสายก่อนนำโทรศัพท์ยกขึ้นแนบข้างใบหูพร้อมรอฟังเสียงคนในสายพูด
[“ฮะ…ฮัลโหลนี่ใช่พี่แจ็คสันหรือเปล่าคะ?”]เสียงหวานน่ารักสดใสแบบที่แจ็คสันชอบพูดถามด้วยความลังเลใจนิดๆเพราะไม่ได้โทรมาหาเจ้าตัวนาน
ตั้งแต่มีเรื่องที่เจบีและจินยองแบ่งเป็นสองฝ่ายวันนั้นแจ็คสันกับยองจีก็ไม่เคยได้คุยหรือเจอกันอีกเลย
เขาดีใจมากๆที่เธอยังจำเบอร์ตัวเองและโทรมาหาตนได้
“ใช่สิครับตัวเล็กคิดว่าใครกันล่ะหืม”น้ำเสียงจากที่เคยหยาบโลนถูกปรับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างน่าประหลาดใจ
ทำให้เซฮุนเบะปากมองบนใส่ตามด้วยจีมินที่มองด้วยความสงสัยอยู่ด้านหลัง ส่วนเจบีได้แต่ยืนนิ่งมองคนตัวเล็กคุยกระนุงกระนิงกับแฟนเด็กของเจ้าตัวเงียบๆ
[“พี่แจ็คสันอ่า…วันนี้ตอนเย็นพี่ว่างไหมคะหนูอยากชวนพี่ไปเที่ยวด้วยจังเราไม่ได้เจอกันนานเลยหนูคิดถึง”]แจ็คสันหัวเราะกับเสียงอ้อนเหมือนแมวน้อยของยองจี
ยัยเด็กบ้ากล้าดียังไงมาทำให้เขาใจเต้นได้แบบนี้อย่าให้อยู่ต่อหน้านะเดี๋ยวแจ็คสันจะจับฟัดให้จมเขี้ยวเลยมันน่านัก
“พี่คงไม่ว่างเพราะว่าพี่มีซ้อมบาส งานกีฬาสีพี่ลงแข่งน่ะขอโทษนะตัวเล็ก”แจ็คสันกล่าวขอโทษจากใจ
เขาอยากจะเจอยองจีแทบใจจะขาดแต่ติดตรงที่ว่าวันนี้จีมินมันดันบังคับให้เขาไปซ้อมบาสตอนเย็นด้วยน่ะสิจึงไปหาเด็กน้อยของตนไม่ได้
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษจีมินนั่นแหล่ะที่ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปเที่ยวน่ะ
[“ไม่เป็นอะไรค่ะใช่สนามบาสที่คณะเราหรือเปล่าคะ?”]ยองจีบอกก่อนถามด้วยความสงสัย
“ครับทำไมเหรอ?”แจ็คสันตอบก่อนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
[“เดี๋ยวหนูไปดูพี่ซ้อมดีกว่าหนูยังไม่เคยเห็นพี่แข่งบาสเลยสักครั้งคิกๆพี่แจ็คสันต้องหล่อมากแน่ๆ”]ยิ่งเด็กสาวชมแก้มแจ็คสันก็ยิ่งแดง
ริมฝีปากและใบหน้าเต็มไปด้วยความเขินจากการเอ่ยชมของยองจี
แจ็คสันแทบจะตัวแตกเป็นเชอร์รี่อยู่แล้วหล่ออย่างนั้นเหรอ?....เจ้าตัวเล็กของเขาก็ช่างคิดจริงๆให้ตายสิ
“ครับแฟนยองจีหล่ออยู่แล้ว ตั้งใจเรียนนะครับตอนเย็นเจอกัน”แจ็คสันกล่าวบอกแฟนสาวตัวเล็กในสายเสียงอบอุ่นเหมือนพี่ชายคุยกับน้องสาว
เสียงหัวเราะร่าดังออกมาให้ได้ยินแผ่วเบาแจ็คสันคิดภาพตามแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหลุดขำตอบกลับไป
ตอนนี้ยองจีจะต้องอ้าปากกว้างๆหัวเราะจนเห็นลิ้นไก่อยู่แน่ๆ
ถึงมันจะน่าเกลียดในสายตาคนอื่นแต่แจ็คสันคิดว่ามันเป็นธรรมชาติดีในสายตาของเขา
[“ค่ะ งั้นแค่นี้นะคะพี่แจ็คสัน…”]พูดแล้วก็กดวางสายไป
แจ็คสันทำเพียงแค่มองจอภาพของยองจีพลางหันกลับไปมองซึ่งสายตาเขาก็สบเข้ากับตาของเจบีพอดี
ร่างกายแข็งทื่อไปหมดการกระทำทุกอย่างเหมือนถูกหยุดไว้แต่เพียงแค่นั้น
แจ็คสันสบตาตรงๆกับเจบีไม่มีแววว่าจะหลบหนีไปไหน
จู่ๆก็รู้สึกสงสารอีกฝ่ายขึ้นมาทันใจไม่รู้ทำไมแต่อกซ้ายเขามันเจ็บแปล๊บขึ้นมาแปลกๆ
ใบหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความเศร้าหมองและดูจะน้อยใจของเจบีมันน่าสงสารอย่างประหลาดใจ
ทั้งๆที่เมื่อก่อนนั้นเขาก็ไม่เคยจะเป็นอย่างนี้เลยแม้จะถูกมองด้วยแววตาเศร้าสร้อยเพียงใดก็ตาม
“นั่นแฟนมึงเหรอวะ”จีมินเอ่ยถามซึ่งมันช่วยเรียกสติของแจ็คสันกลับออกจากเจบีได้เป็นอย่างดี
“อะ…อืม ชื่อ ยองจี อยู่ปี 1
คณะวิศวกรรมศาสตร์”แจ็คสันตอบเสียงขัดขาดไม่เงยหน้าสบตากับใครทั้งนั้น
“คบกันมานานแล้วเหรอ?”จีมินยังคงถามต่อเพราะตนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ปึก!
“มึงจะถามไรหนักหนาวะน่ารำคาญไอ้สัส!!”เสียงตบโต๊ะดังขึ้นพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดของเจบี
ชายหนุ่มเดินออกจากห้องเรียนไปท่ามกลางความเงียบของคนในกลุ่ม
แจ็คสันมองตามแผ่นหลังนั่นพลางก้มหน้าหลบด้วยความรู้สึกผิดในใจเล็กๆ
เขาทำให้มันโกรธขนาดนั้นเลยเหรอวะ?
“เป็นเหี้ยไรของมัน…เฮ้ยแจ็คสันมึงเป็นไรปะหน้าซีดๆนะ?”เซฮุนมองตามพลางบ่นออกมาแผ่วเบา
เขาตามอารมณ์มันไม่ทันจริงๆเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“อย่าจับ”จีมินเอื้อมมือมากระชากมือเซฮุนให้ห่างจากหน้าแจ็คสันพร้อมออกแรงบีบแขนขาวๆเหมือนน้ำนมนั่นเล็กน้อยแต่ก็เกิดรอยแดงสร้างรอยประทับบนแขนอีกฝ่ายได้เช่นเดียวกัน
“อะไรของมึงวะ! ปล่อยกูเจ็บไอ้สัสจีมิน”
“มึงก็ขยับออกไปก่อนดิ”
“กูแค่เป็นห่วงอยากจะลองทาบมือดูว่ามันป่วยหรือเปล่าแค่นั้นมึงอะไรหนักหนาวะ”
“กูไม่ให้จับ อยากจับก็มาจับที่กูอย่าไปยุ่งกับแจ็คสัน”
มือเซฮุนถูกจีมินนำมาทาบบนหน้าผากตน
ใบหน้าเซฮุนแดงขึ้นมาเล็กน้อยไม่รู้ทำไมจู่ๆก็ใจเต้นขึ้นมากะทันหันซะอย่างนั้น เรื่องแบบนี้มันน่าจะเกิดขึ้นกับแจ็คสันสิไม่ใช่ไอ้หน้านิ่งเป็นตูดหมานี่
โคตรเกลียดมันเลย!!
“ปะ…ปล่อยมือกูนะเว้ย!
ไม่งั้นกูชกหน้ามึงแหกแน่ไอ้จีมิน”เซฮุนขู่มือยกขึ้นกำหมัดเตรียมจะชกหน้าจีมินอย่างที่พูด
แต่หมัดของเซฮุนมันสั่นไปหมดแทบทั้งตัวมันไม่แข้งแรงเหมือนหมัดของแจ็คสันเลยสักนิด
ทำให้จีมินรู้ว่าเซฮุนนั้น…อ่อนแอกว่าแจ็คสันด้วยซ้ำไปในบางครั้ง อ่อนแอจนน่าทะนุถนอม…?
“หึ ไก่อ่อน”จีมินกล่าวก่อนปล่อยมือเซฮุนให้เป็นอิสระ
“ไอ้บ้า!”ด่าไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้พร้อมก้มลงปิดหน้าที่แดงของตนเพื่อไม่ให้จีมินเห็น
บ้าเอ้ย!...บ้าเอ้ย!! ไอ้บ้าจีมิน ไอ้บ้า!! ทำไมเขาจะต้องไปเขินกับอีแค่มันเอามือเขาไปแตะหน้าผากตัวเองด้วย
ดวงตาคมที่ปิดลงพร้อมกับริมฝีปากบางอวบนั่นทำไมมองดูแล้วมันถึงดูดีเข้ากันอย่างน่าประหลาดใจกันนะ?
เซฮุนไม่ได้คิดกับมันในเรื่องอะไรแบบนี้นะเว้ย!แต่เขาแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้มองมันว่าหล่อไปชั่วขณะหนึ่งได้กัน
มันต้องเป็นเพราะความผิดปกติในสมองของเขาแน่ๆ
ไม่อย่างนั้นเซฮุนคงไม่มองมันแบบนั้นหรอก
“พวกมึงกูไปตามเจบีมันแปปนะอย่าตีกันตายก่อนล่ะ…อุ้ย! หรือต้องบอกว่าอย่าจีบกันจนท้องก่อนล่ะอิอิ”หลังจากดูไอ้สองหน่อนี่มันด่ากันไปมาอยู่นานแจ็คสันก็ตัดสินใจออกไปเดินตามหาเจบีทันที
คาบถัดไปเป็นคาบว่างเขาสามารถทำอะไรก็ได้ภายในคาบนั้น
แน่นอนว่าแจ็คสันเลือกที่จะเดินตามหาเจบีเพื่อง้ออีกฝ่าย….
….แม่งมีผัวนี่ก็เหมือนกับมีเด็กสามขวบเลยวุ้ยกู!......
เหลือเพียงเซฮุนและจีมินแค่สองคนที่อยู่ด้วยกัน
เซฮุนเลือกที่จะเป็นฝ่ายแผละตัวแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนบทเรียน
เห็นกรานๆแบบนั้นเขาก็ตั้งใจเรียนเหมือนกันนะไม่งั้นคงไม่สอบได้
A ทุกวิชาหรอก
แต่ก็เก่งไม่เท่าแจ็คสันรายนั้นติดท็อปอันดับต้นๆของมหาลัยเลยด้วย
หนทางของเซฮุนยังอีกยาวไหล
“เนิร์ดฉิบหาย”เสียงมารดังขึ้นพร้อมกับร่างของจีมินที่ลากเก้าอี้ตนมานั่งเท้าคางตรงหน้าเซฮุน
“เรื่องกูของไหม?
ไปนั่งที่มึงดิมานั่งทำห่าไรตรงนี้สัส”เซฮุนด่าก่อนไล่ให้จีมินกลับไปนั่งที่ของตนด้วยความรำคาญ
แม่งนั่งจ้องอยู่แบบนี้แล้วกูจะอ่านหนังสือรู้เรื่องไหม!?
“ความสุขจะอ่านก็อ่านกูไม่กวนหรอกแค่มองเฉยๆ”จีมินตอบแบบกวนๆหน้านิ่งใส่
แต่มันยั่วอารมณ์โมโหของเซฮุนได้ค่อนข้างมากพอตัว
แม่งถ้าทนไม่ไหวขึ้นมานะมึงเรื่องแน่ไอ้หน้าปลาไหลเผือก
“แค่มองก็กวนไอ้สัสไปเลยกูไม่มีสมาธิ”
“เรื่องมาก”
“ไม่ได้เรื่องมากโว้ย!”
“เสียงดังวะ”
“แล้วมึงจะทำไมห๊ะ! มึงจะทำไม!!?”
“เดี๋ยวจับจูบแม่ง”
เงียบสิครับรอพ่องตัดริบบิ้นเหรอ!?
เพียงแค่คำพูดคำเดียวก็สามารถสยบเซฮุนได้คนตัวขาวถึงกับหุบปากก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างรวดเร็วทันที
ไอ้ท่าทางเหมือนจิ๊กโก๋พร้อมต่อยคนเมื่อกี้นี้มันหายไปไหนหมดแล้วล่ะ
แค่จีมินพูดแบบนั้นออกไปเซฮุนก็ถึงกลับกลายเป็นเด็กเรียนแทบจะทันที
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าจีมิน
พอเจ้าตัวอยู่เงียบๆทำตัวสงบเสงี่ยมแล้วก็ดูดีไปอีกแบบมันก็ไม่ถึงกับน่ารักอะไรมากเหมือนแจ็คสันแต่พอมองนานๆแล้วก็เพลินตาดีเหมือนกัน
จีมินมีนิสัยชอบมองของน่ารักๆยิ่งตัวไหนที่มันน่ารักมากๆเขาก็จะยิ่งมองนานเป็นพิเศษบางครั้งก็เคยมองตุ๊กตาตัวหนึ่งมาแล้ว
3 ชั่วโมงเต็มก็มี ก็มันเพลินดีนี่เขาเลยอดใจไม่ไหวนั่งมองแม่งแบบนั้นไปเลย
3 ชั่วโมง
“ยิ้มเหี้ยไรของมึงขนลุกฉิบหาย”เงียบได้ไม่ถึงนาทีปากหมาๆนั่นก็พูดขึ้นควานหาตีนอีกรอบ
จีมินหุบยิ้มทันทีที่ถูกเซฮุนทักแล้วเปลี่ยนมาเป็นสบตากับอีกฝ่ายแทน
“มีความสุขไงถามอะไรโง่ๆ”จีมินตอบเสียงราบเรียบขณะมองใบหน้าเซฮุนไปด้วย
อีกฝ่ายขมวดคิ้วสงสัยความสุขบ้าอะไรของมันเห็นเมื่อกี้จู่ๆก็มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มออกมาถ้ามันไม่บ้าก็น่าจะกินยาไม่เขย่าขวดแล้วล่ะ
“ความสุขห่าอะไรของมึงวะ?”เซฮุนถามต่อ
นั่นทำให้จีมินส่ายหน้าให้กับความอยากรู้ไม่เข้าเรื่องของเซฮุนชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นดันหน้าผากอีกฝ่ายแผ่วเบาแต่ก็เจ็บมากสำหรับเซฮุน
มือมืออย่างกับช้างหนักโคตรดันมาทีนี่เหมือนหินดันมาเลยหัวเขาแทบจะหลุดแน่ะเมื่อกี้นี้
“ก็….”จีมินเว้นช่วงให้ลุ้นเล่นๆ
“ก็อะไร?”เซฮุนถามด้วยความอยากรู้
มันจะเว้นไว้หาหอยนางรมหรือไงวะ!
“ก็….เพราะว่า”ยังคงเล่นไม่เลิก
“เพราะอะไรล่ะโว้ย!!”เซฮุนเริ่มจะโวยวายเพราะยังไม่รู้ในสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดสักที
เขาอยากจะตบหัวมันจริงๆไอ้ใบหน้ากวนประสาทนั่นถ้าไม่ติดว่ามันค่อนข้างดูดีนิดหน่อยนี่เขาตบไปนานแล้วนะ!
“ก็เพราะว่ากูมีความสุขที่ได้มองของน่ารักๆไงวะ”จีมินยอมตอบโดยไรซึ่งการกลั่นแกล้งให้ลุ้นหรือเล่นใดๆกับเซฮุน
“ของไหนน่ารักวะ? ไม่เห็นมีเลย”เซฮุนส่ายหน้าไปมามองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่ารักเลยสักนิด
หรือมันกำลังมองอีช้างที่กำลังถ่างขานั่งอยู่เป็นโต๊ะเตรียมเต้นฮาเลย์ลูย่าห์อยู่อย่างนั้นเหรอ?
“แล้วเมื่อกี้กูมองใครล่ะ?”จีมินถามเซฮุนกลับ
“ก็มอง….เฮ้ย!”พอนั่งนึกดีๆแล้วเซฮุนจึงเข้าใจว่ามันกำลังมองใคร
ไอ้เหี้ย! นั่นมันมองกูอยู่นี่!!!
ฉิบหายแล้วทำไมรู้สึกร้อนๆที่หน้าไม่ใช่ว่า…..
“เข้าใจนะไอ้ชานมไข่มุก…กูอ่ะมองมึงไม่ได้มองใครที่ไหนหรอก”มันว่าก่อนจะยิ้มหัวเราะอย่าขำขันแล้วลุกเดินกลับไปนั่งที่ๆเดิมของตนโดยปล่อยให้เซฮุนนั่งเขินหน้าแดงอยู่คนเดียวที่โต๊ะตัวเดิมของตน
“=/////=*
olo”
…..แม่ง!….ยกนี้โอ เซฮุนแพ้ราบคาบเลยครับ!!.....ปาร์ค จีมิน กูเกลียดมึงไอ้สัส!!!
TALK
คิดถึงจังทุกคนกลับมาแล้วพบกับเรื่องที่ชวนหน้าปวดหัวมากกว่าเดิมนั่นคือมีตัวละครใหม่เพิ่มมากอีกคนคืออู๋
อี๋ฟาน หรือ พี่คริสของเรานั่นเองอิอิ
ก็เห็นว่าเดือนหน้าน้องจะต้องแข่งบาสกับพวกพี่เขานี่นาก็เลยอดไม่ได้ที่จะชิป
บอกแล้วว่าแจ็คสันกินกับอะไรก็อร่อยค่ะ555+
ส่วนน้องเซฮุนกับจีมินนี่คืออะไรจีบกันเหรอ555+เขินแทบเซฮุนเลยโถ้ลูกทำไมถึงได้เด๋อแบบนี้ล่ะคะ
แล้วแจ็คจะง้อเจบีได้มั้ยนะอย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะ^^ #อสแฟนหก
ความคิดเห็น