ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate ขอปกป้องเพียงเธอ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ------พบเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 58


    บทนำ

    พบเจอ

     

                    ณ ห้องรับแขก ปราสาทคาลิเทียร์ อาณาจักรเฟราเชียร์...

    เพล้ง!!!!

                    เหยือกแก้วน้ำสีเงินตกกระทบพื้นอย่างแรงจากการเหวี่ยงแรงๆของเด็กผู้ชายร่างสูงโป่รงคนหนึ่ง เขาใช้ดวงตาคมเรียวสีเงินบริสุทธิ์กวาดมองเด็กผู้หญิงร่างเล็กซึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นท่ามกลางเศษแก้วสีเงินที่กระจัดกระจายไปทั่วด้วยสายตาเย็นชา...หญิงสาวที่หน้าตาละมายคล้ายเด็กชายรีบปราดวิ่งมาประคองร่างเล็กของเด็กหญิงด้วยความรีบร้อนและตกใจ ก่อนจะปรายตามองเด็กชายด้วยสายตาโกรธขึ้งเป็นระยะ ซึ่งเด็กชายก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด เขาเดินผ่านร่างเด็กหญิงและหญิงสาวราวกับมองไม่เห็นด้วยท่าทีเย็นชาเสียจนหน้าหวั่นใจ ในดวงตาคู่สวยไม่มีแม้เศษเสี้ยวเดียวของความรู้สึกผิด...

                    “ฟาริส หยุดเดียวนี้!!!!

                    เสียงประกาศกร้าวจากหญิงสาวทำให้เด็กชายที่ถูกเรียกว่า ฟาริส หยุดยืนนิ่งอย่างช่วยไม่ได้ หากแต่เขาก็ไม่ได้หันกลับไปมองหญิงสาว เพียงแค่ยืนนิ่งเงียบด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเท่านั้น...หญิงสาวผละออกจากเด็กหญิงตัวน้อยที่หยุดร้องไห้แล้ว ก้าวฉับไปยืนตรงหน้าฟาริส..ง้างฝ่ามือเรียวขึ้นก่อนจะ

                    เพี้ยะ!!!!!

                    ตบหน้าเด็กชายฉาดใหญ่ด้วยความโมโห ฟาริสยกมือขึ้นกุมแก้มที่แสบแปล๊บไว้แน่น ก่อนจะหันไปมองหญิงสาวผู้เป็นมารดาของตน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

                    “ข้าไม่คิดว่าข้าต้องขอโทษนาง ข้าไม่คิดว่าตนเองทำผิดเสียหน่อย!!!!

                    “เจ้ากล้าดียังไงถึงได้พูดเช่นนี้!ขอโทษเรลลานีเดี๋ยวนี้!!!

                    สั่งเสียงดังลั่น ฟาริสจ้องมองมารดานิ่ง ก่อนจะหันหลังเดินตรงไปยังเด็กหญิงนาม เรลลานี เขาก้มตัวลงให้อยู่แนวเดียวกับเรลลานี ทว่าเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา มีเพียงความนิ่งเงียบและบรรยากาศเย็นเยียบจากฟาริส..เรลลานีตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ดวงตาที่จดจ้องตนอย่างเย็นชาทำให้นางหวาดผวา..

                    “ฟาริส!!!!

                    เมื่อเห็นท่าไม่ดี หญิงสาวจึงตวาดลั่นเพื่อนเตือนฟาริสอีกครั้ง.ฟาริสค่อยๆลุกขึ้นยืน เอื้อมมือข้างหนึ่งไปหยิบแอปเปิ้ลซึ่งเป้นผลไม้ที่เขารู้มาว่าวเรลลานีชอบกินที่สุดจากโต๊ะ แล้วปล่อยลงบนพื้นให้กลิ้งไปอยู่ตรงหน้าเรลลานีอย่างไม่ใยดี และ....

                    แผล่ะ!!!!

                    “กรี๊ดดด!!

                    เรลลานีกรีดร้องลั่น นางใช้มือทั้งสองข้างปิดดวงตาเอาไว้เพื่อไม่ให้ต้องมองเห็นฟาริสที่กำลังบดขยี้แอปเปิ้ลอย่างสนุกสนานตรงหน้านาง หญิงสาวรีบวิ่งเข้ามากอดปลอบเรลลานีอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมส่งสายตาโกรธขึ้งไปให้ลูกชายตน ฟาริสยิ้มรับด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องกว้างไปอย่างสบายใจ

     

     

                    “ท่านฟาริส ท่านไม่ควรทำแบบนั้นกับท่านเรลลานีเลยนะขอรับ”

                    เมื่อฟาริสเดินออกมาจากห้องรับแขก ก็พบชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนรออยู่ที่หน้าประตูพร้อมสีหน้ากังวลและคำติเตียน..ฟาริสเดินนำชายหนุ่มไปอย่างไม่ใส่ใจนัก

                    “แอบดูหรือไง ไลเนอร์..”

                    “..เปล่าขอรับ..ข้าแค่ได้ยินเสียงน่ะขอรับ..ยังไงท่านเรลลานีก็เป็นคู่หมั้นหมายของท่านฟาริส แม้ท่านไม่ได้ต้องการแต่ท่านก็ไม่ควรทำเรื่องรุนแรงเช่นนั้นเลย..ถ้าหากฝ่าบาททรงรู้เข้า...”

                    “เสด็จพ่อจะรู้หรือไม่ก็ช่างสิ ข้าไม่สนใจหรอก”

                    ฟาริสพูดตัดบทด้วยน้ำเสียงรำคาญ ไลเนอร์จึงได้แต่ก้มหน้าเดินตามอย่างเงียบๆ..ไม่ว่าใครต่างก็รู้ว่าฟาริส พระโอรสที่จักรพรรดิทรงโปรดปรานที่สุดนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจมากเพียงใด แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าต่อว่าเขา เพราะความสามารถอันเก่งกาจในทุกด้านอีกทั้งรูปร่างหน้าตาที่งดงามของฟาริสเป็นเรื่องจริงที่ทุกคนต่างก็ยอมรับ แล้วฟาริสยังเป็นเจ้าชายเพียงองค์เดียวที่จักรพรรดิไม่เคยขัดใจสักครั้งแถมยังตามใจทุกอย่าง ทุกคนจึงรู้ดีว่าการทำให้ฟาริสอารมณ์เสียเป็นเรื่องร้ายกาจอย่างที่สุด แต่กระนั้นก็ยังมี        ไลเนอร์ องครักษ์คนสนิทเพียงคนเดียวของฟาริสที่สามารถกล่าวเตือนเจ้าชายคนนี้ได้โดยไม่เคยทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจและยังเป็นคนที่จักรพรรดิไว้วางใจให้อยู่ข้างกายฟาริส..

                    ที่นี่คืออาณาจักรเฟราเชียร์ ถูกเรียกว่าเป็น 1 ใน 2 อาณาจักรที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก โดยอาณาจักรเฟราเชียร์แห่งนี้เป็นที่ที่ซึ่งรวบรวมผู้มีพลังแห่งเทพเจ้าเอาไว้มากมาย และฟาริสก็เป็นเจ้าชาย      รัชทายาทลำดับที่ 1 ของอาณาจักร เป็นพระโอรสคนโปรดขององค์จักรพรรดิ แต่ตรงกันข้ามเขาไม่เคยได้รับความรักจากมารดาผู้ให้กำเนิดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนั่นก็เพราะอาร์เนฟ น้องชายของฟาริสที่อายุห่างกันเพียงหนึ่งปี..อาร์เนฟเป็นคนร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก มารดาจึงรักและเอ็นดูเขามากและยังกล่าวหาว่าเพราะ    ฟาริสมีพลังกล้าแข็งมากเกินไป ทำให้น้องชายได้รับผลกระทบจากพลังนั้นจนร่างกายอ่อนแอ..ตั้งแต่เด็กฟาริสจึงได้รับแต่ความเกลียดชังจากมารดา ขณะเดียวกันก็ได้รับความรักเต็มเปี่ยมจากบิดา ฟาริสจึงมีนิสัยที่เรียกได้ว่า เย็นชาและเอาแต่ใจจนไม่สนใจสิ่งใด และเขายังไม่มีเพื่อนสักคนอีกด้วย..หากแต่ไลเนอร์ องครักษ์ประจำตัวที่บิดาของฟาริสส่งมาให้กลับเป็นเพียงผู้เดียวที่ฟาริสยอมเปิดใจด้วยอย่างหมดเปลือก...

                    “ท่านฟาริส จะไปไหนน่ะขอรับ??”

                    ไลเนอร์ถาม เมื่อพบว่าฟาริสไม่ได้กำลังเดินกลับห้องของตนเอง หากแต่เดินอ้อมไปทางด้านหลังปราสาท ฟาริสหันมายกนิ้วชี้แตะริมฝีปากแผ่วเบาให้ไลเนอร์เพื่อจะบอกให้เดินตามมาเงียบๆ ไลเนอร์จึงเดินตามไปแม้จะรู้สึกสงสัยในการกระทำของฟาริส...

                    ด้านหลังของปราสาทคือป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สีเขียวขจี พอแหวกพุ่มไม้หนาออกก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังมาตามสายลมเย็น...เมื่อเดินตรงไปตามเสียงนั้น ลึกลงไปตามทางเดินในป่า..ก็พบรอยเลือดสีเข้มแห้งกรังติดตามใบหญ้า ไม่ไกลกันเท่าไหร่นักก็พบร่างเด็กทารกนอนร้องไห้อยู่ บนตัวเด็กคนนั้นมีผ้ากำมะหยี่สีทองสลักลายนกยูงประณีตงดงาม ตามตัวมีรอยเลือดเปื้อนเล็กน้อย..ฟาริสรีบเดินเข้าไปอุ้มเด็กน้อยไว้ทันที วินาทีที่สบประสานสายตากับทารกน้อย ราวกับมีบางอย่างเหนี่ยวรั้งหัวใจเอาไว้ มันรัดแน่นเหมือนโหยหาบางสิ่ง..ดวงตาสีทองบริสุทธิ์งดงามคู่นั้นจ้องมองและยิ้มให้ฟาริสอย่างไร้เดียงสา..

                    อะไรน่ะ?เด็กคนนี้..ถูกทิ้งงั้นเหรอ?หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่..??

                    คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัว แต่ร่างกายที่เย็บเฉียบจนน่าตกใจของเด็กน้อยทำให้ฟาริสตัดสินใจโอบกอดเด็กน้อยไว้เพื่อให้ความอบอุ่น ถึงจะไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่สำหรับฟาริส การพบกันของพวกเขาราวกับเป็นพรหมลิขิตจากพระเจ้า..แม้จะรู้สึกเคลือบแคลงใจหรือสงสัยอยู่บ้างเล็กน้อยก็ตาม ทว่าในวินาทีที่มือเล็กๆนั้นแตะที่แก้มของเขาอย่างแผ่วเบาและแย้มรอยยิ้มงดงามนั้นให้ ฟาริสรู้สึกราวกับบางอย่างกำลังถูกเติมเต็มทีละน้อย...เขาตัดสินใจในทันทีโดยไม่คิดว่าจะต้องเสียใจในภายหลังหรือไม่..

                    “ถึงข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร..แต่ไม่ต้องกลัวนะ เด็กน้อย ข้าจะรักและปกป้องเจ้าเอง”

     

    -----------------------------------------------------------------------------------------------
     

    แค่บทนำก็เหนื่อยแบ๊ววว แต่จะพยายามปั่นต่อไปค่ะ(ก็แหม พึ่งบทนำจะให้ท้อได้งายย)  ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ!!
    เม้นสักหน่อยจะดีมากๆเลยค่ะ=w=

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×