คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หอคอยตะวันออก
ดาร์คยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า พลางก้าวเดินไปตามถนนสายเล็กที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านของเธอกับหอคอยตะวันออก เธอเลือกเดินทางมาทางทิศตะวันออกเพราะคิดว่ามันน่าจะมีความหมายบางอย่างกับไลท์น้องชายของเธอ (คิดเอาเอง) และหอคอยตะวันออกก็เป็นเป้าหมายแรกของเธอ
ดาร์คเลือกที่จะไม่บอกใครเรื่องการตามหาน้องชายในครั้งนี้ ดังนั้นตอนที่ออกเดินทางชาวบ้านจึงคิดว่าเธอออกมาเพื่อที่จะลืมเรื่องราวการจากไปของมาเรีย ผู้เป็นแม่ แต่ก็มีหลายคนไม่น้อยที่แสดงท่าทีแปลกใจเมื่อเห็นดาบเล่มโตที่เธอสะพายอยู่กลางหลัง
“นี่ข้าเดินทางมาได้เกือบอาทิตย์แล้วนะ เมื่อไหร่จะถึงสักที” ดาร์คพูดกับตัวเอง ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าบรรยากาศรอบๆตัวเริ่มเปลี่ยนไป หมอกที่เคยหนาเพราะอยู่ในป่าเริ่มจาง แสงอาทิตย์ก็ส่องประกายจ้าจนแสบตา ดาร์คเห็นเป็นสัญญาณที่ดีจึงรีบเดินเร็วขึ้น
ในที่สุดดาร์คก็เดินมาถึงหอคอยสูงที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ มันเป็นหอคอยเก่าคร่ำคราและมีเถาวัลย์เลื้อยจับไปทั่ว ที่ประตูมีห่วงขนาดใหญ่แขวนอยู่ ดาร์คจึงจับห่วงกระแทกไปที่ประตู
ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น แล้วเธอก็ยืนรอ
มันเป็นการรอที่นานพอสมควร จนดาร์คยกมือไปจับห่วงหวังจะกระแทกอีกครั้ง เธอจึงได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น พร้อมกับประตูเปิดอ้าออก ดาร์คไม่สามารถเดาได้ว่าคนที่เปิดประตูนั้นเป็นหญิงหรือชาย เพราะเขาคนนั้นสวมผ้าคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ซ้ำยังมีทีท่าปกปิดใบหน้า รู้ก็แต่ว่าเขาคนนั้นมีความสูงมากเสียจนดาร์คต้องเงยหน้าพูดด้วย
“ข้ามาหาเจ้าของหอ ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องรู้” สิ้นสุดคำพูดบุคคลในชุดคลุมก็พยักหน้าเป็นเชิงให้เข้ามาในหอ
ดาร์คสังเกตเห็นว่าภายในหอนี้มีแสงสลัวๆเป็นแสงสีทอง แต่เธอก็ไม่เห็นคบไฟสักอันและหอนี้ก็ไม่มีหน้าต่างด้วย ดาร์คเดินตามบุคคลในชุดคลุมมาจนถึงห้องๆหนึ่ง ภายในห้องมีชุดโต๊ะกลมวางอยู่บริเวณกึ่งกลางของห้อง บุคคลในชุดคลุมวาดมือเชื้อเชิญให้ดาร์คนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วเขาจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกัน
“ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าของหอคอยตะวันออกเป็นผู้รอบรู้ ท่านเป็นเจ้าของหอนี้รึ” ดาร์คเปิดฉากสนทนาก่อนเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีทีท่าจะพูดอะไรออกมา และเมื่อเห็นว่าบุคคลตรงหน้าพยักหน้าเธอจึงรีบถามต่อ
“ถ้าเช่นนั่นข้าก็มีเรื่องอยากถาม
”
“ข้าขอดูดาบเจ้าได้มั้ย” คำถามที่ทะลุพรวดขึ้นมาของเจ้าของหอทำให้ดาร์คทราบว่าบุคคลตรงหน้าเป็นผู้ชาย และอึ้งเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงนั้นบ่งบอกถึงอายุที่ไม่น่าจะมากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่
“ท่านว่าอะไรนะ”
“ข้าขอดูดาบที่เจ้าสะพายอยู่น่ะ” สิ้นคำพูดดาร์คลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะปลดดาบและยื่นให้คนตรงหน้า
“เจ้าคือหนูน้อยยามค่ำคืนของมาเรียไช่มั้ย?” ชายในชุดคลุมถามขึ้นหลังจากดูดาบอยู่สักพัก
“ท่านรู้
งั้นท่านก็รู้เรื่องคำสาปของครอบครัวข้าด้วยใช้มั้ย” ดาร์คถามน้ำเสียงแฝงความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
“เสียใจ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” ชายในชุดคลุมพูดพลางเหลือบมองเด็กสาวตรงหน้าที่บัดนี้มีท่าทางงุนงง
“แต่พ่อข้า เจ้าของหอคนก่อนน่ะ ได้บอกข้าไว้ว่า ยามใดที่ความมืดมิดมาเยือนหอคอยตะวันออก เวลานั้นข้าจำต้องเดินทาง” ว่าแล้วชายผู้นั้นก็เปิดผ้าคลุมที่ปิดใบหน้าออก เผยให้เห็นเค้าหน้าของเด็กหนุ่ม ผิวขาวจนเกือบซีดนั้นบ่งบอกว่าไม่ได้ออกไปพบกับแสงตะวันนานแล้ว ดวงตาสีน้ำเงินคมเข้มมีแววซุกซนเล็กน้อย เขายกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลทองยุ่งเหยิงของตัวเองก่อนจะยิ้มให้กับท่าทางตกตะลึงของดาร์ค
“เจ้า
เจ้าต้องเดินทาง หมายความว่าไง” ดาร์คถามขึ้นหลังจากที่ตั้งสติได้
“อ้าว ก็ไปกะเจ้าไง เราจะไปไหนกันดีล่ะ”
“อย่าพูดพล่อยๆ ข้ามีงานต้องทำ งานสำคัญ เจ้าอย่ายุ่ง” ดาร์คเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มกวน
“แต่ข้อมูลในการค้นหาอยู่ที่ข้านา” ชายหนุ่มยังคงยิ้มแบบกวนๆและเริ่มสนุกกับการยั่วคนตรงหน้า
“ไหนทีแรกเจ้าบอกว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้นไงล่ะ”
“ข้าโกหก” คำพูดที่มาพร้อมใบหน้าซื่อๆทำให้ดาร์คชักอยากจะเอาดาบจี้คอหอยนัก
“เจ้านี่มัน
ฮึ่ย”
“เอาน่า เป็นอันว่าข้ากลายเป็นคนสำคัญของเจ้าแล้วนะ ดีกันไว้ดีกว่านา ” คำพูดที่มาพร้อมกับสายตาออดอ้อน ทำเอาคนฟังหน้าขึ้นสี แล้วเลยพูดกลบเกลื่อน
“ก็ได้ นี่ข้าเห็นแก่ข้อมูลของเจ้าหรอกนะ”
“เย้
งั้นข้าไปเอาของก่อนนะ” ท่าทีดีอกดีใจที่เหมือนกับเด็กๆของชายหนุ่ม ทำให้ดาร์คถึงกับหัวเราะออกมา
“ยังกับเด็กๆ”
สิบนาที่ผ่านไป ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับร่ม 1 คัน และเด็กผู้ชายผมดำอีกคน
“เฮ้ย
นี่เจ้าไปเอาใครมาเนี่ย”
“ผู้ติดตามไง คนเดียวไม่พอเหรอ” คำถามซื่อๆแต่ดวงตากลับมีแววว่ากำลังสนุกเต็มที่
“นี่เจ้า
ไม่เข้าใจหรือไง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น แค่เจ้าก็เต็มทนแล้ว ” ดาร์คระเบิดคำพูดออกมา
“เอาน่า ฟังข้าก่อน เจ้าหมอเนี่ยมีความสำคัญยิ่งกว่าข้าซะอีก วางใจเถอะ”
เมื่อดาร์คเห็นท่าทีของคนตรงหน้าว่าไม่มีแววล้อเล่น จึงหันไปสนใจเด็กหนุ่มอีกคน ซึ่งดูอายุแล้วไม่น่าจะเกิน 15 ปี แต่แววตาสีเทานั้นกลับส่องประกายความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว
หมอนี่ท่าทางอ่อนแอจะตาย มีความสำคัญยังไงกัน
“เอาล่ะ ถ้าตกลงกันแล้วก็เดินทางกันเถอะ” คนตัวสูงรีบพูดเพราะกลัวว่าดาร์คจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาอีกจะยุ่ง
แล้วขบวนนักเดินทางที่ไม่ค่อยปกตินักก็เคลื่อนขบวนออกจากหอคอยตะวันออก
ความคิดเห็น