ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    dark and light สายใยปาฏิหารย์

    ลำดับตอนที่ #2 : หอคอยตะวันออก

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 49


    ดาร์คยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า  พลางก้าวเดินไปตามถนนสายเล็กที่เชื่อมระหว่างหมู่บ้านของเธอกับหอคอยตะวันออก  เธอเลือกเดินทางมาทางทิศตะวันออกเพราะคิดว่ามันน่าจะมีความหมายบางอย่างกับไลท์น้องชายของเธอ (คิดเอาเอง)   และหอคอยตะวันออกก็เป็นเป้าหมายแรกของเธอ  

    ดาร์คเลือกที่จะไม่บอกใครเรื่องการตามหาน้องชายในครั้งนี้   ดังนั้นตอนที่ออกเดินทางชาวบ้านจึงคิดว่าเธอออกมาเพื่อที่จะลืมเรื่องราวการจากไปของมาเรีย   ผู้เป็นแม่   แต่ก็มีหลายคนไม่น้อยที่แสดงท่าทีแปลกใจเมื่อเห็นดาบเล่มโตที่เธอสะพายอยู่กลางหลัง

    นี่ข้าเดินทางมาได้เกือบอาทิตย์แล้วนะ  เมื่อไหร่จะถึงสักที   ดาร์คพูดกับตัวเอง  ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าบรรยากาศรอบๆตัวเริ่มเปลี่ยนไป   หมอกที่เคยหนาเพราะอยู่ในป่าเริ่มจาง   แสงอาทิตย์ก็ส่องประกายจ้าจนแสบตา   ดาร์คเห็นเป็นสัญญาณที่ดีจึงรีบเดินเร็วขึ้น

    ในที่สุดดาร์คก็เดินมาถึงหอคอยสูงที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ   มันเป็นหอคอยเก่าคร่ำคราและมีเถาวัลย์เลื้อยจับไปทั่ว   ที่ประตูมีห่วงขนาดใหญ่แขวนอยู่   ดาร์คจึงจับห่วงกระแทกไปที่ประตู

    ก่อให้เกิดเสียงดังสนั่น   แล้วเธอก็ยืนรอ  

    มันเป็นการรอที่นานพอสมควร  จนดาร์คยกมือไปจับห่วงหวังจะกระแทกอีกครั้ง   เธอจึงได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น  พร้อมกับประตูเปิดอ้าออก   ดาร์คไม่สามารถเดาได้ว่าคนที่เปิดประตูนั้นเป็นหญิงหรือชาย   เพราะเขาคนนั้นสวมผ้าคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ซ้ำยังมีทีท่าปกปิดใบหน้า   รู้ก็แต่ว่าเขาคนนั้นมีความสูงมากเสียจนดาร์คต้องเงยหน้าพูดด้วย

    ข้ามาหาเจ้าของหอ  ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องรู้   สิ้นสุดคำพูดบุคคลในชุดคลุมก็พยักหน้าเป็นเชิงให้เข้ามาในหอ

    ดาร์คสังเกตเห็นว่าภายในหอนี้มีแสงสลัวๆเป็นแสงสีทอง   แต่เธอก็ไม่เห็นคบไฟสักอันและหอนี้ก็ไม่มีหน้าต่างด้วย   ดาร์คเดินตามบุคคลในชุดคลุมมาจนถึงห้องๆหนึ่ง    ภายในห้องมีชุดโต๊ะกลมวางอยู่บริเวณกึ่งกลางของห้อง   บุคคลในชุดคลุมวาดมือเชื้อเชิญให้ดาร์คนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง   แล้วเขาจึงนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกัน

    ข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าของหอคอยตะวันออกเป็นผู้รอบรู้   ท่านเป็นเจ้าของหอนี้รึ   ดาร์คเปิดฉากสนทนาก่อนเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีทีท่าจะพูดอะไรออกมา   และเมื่อเห็นว่าบุคคลตรงหน้าพยักหน้าเธอจึงรีบถามต่อ

    ถ้าเช่นนั่นข้าก็มีเรื่องอยากถาม…”

    ข้าขอดูดาบเจ้าได้มั้ย   คำถามที่ทะลุพรวดขึ้นมาของเจ้าของหอทำให้ดาร์คทราบว่าบุคคลตรงหน้าเป็นผู้ชาย   และอึ้งเล็กน้อยเพราะน้ำเสียงนั้นบ่งบอกถึงอายุที่ไม่น่าจะมากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่

    ท่านว่าอะไรนะ

    ข้าขอดูดาบที่เจ้าสะพายอยู่น่ะ   สิ้นคำพูดดาร์คลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะปลดดาบและยื่นให้คนตรงหน้า

    เจ้าคือหนูน้อยยามค่ำคืนของมาเรียไช่มั้ย?”  ชายในชุดคลุมถามขึ้นหลังจากดูดาบอยู่สักพัก

    ท่านรู้งั้นท่านก็รู้เรื่องคำสาปของครอบครัวข้าด้วยใช้มั้ย  ดาร์คถามน้ำเสียงแฝงความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด

    เสียใจ   ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น   ชายในชุดคลุมพูดพลางเหลือบมองเด็กสาวตรงหน้าที่บัดนี้มีท่าทางงุนงง

    แต่พ่อข้า  เจ้าของหอคนก่อนน่ะ   ได้บอกข้าไว้ว่า   ยามใดที่ความมืดมิดมาเยือนหอคอยตะวันออก   เวลานั้นข้าจำต้องเดินทาง   ว่าแล้วชายผู้นั้นก็เปิดผ้าคลุมที่ปิดใบหน้าออก   เผยให้เห็นเค้าหน้าของเด็กหนุ่ม   ผิวขาวจนเกือบซีดนั้นบ่งบอกว่าไม่ได้ออกไปพบกับแสงตะวันนานแล้ว   ดวงตาสีน้ำเงินคมเข้มมีแววซุกซนเล็กน้อย   เขายกมือขึ้นขยี้ผมสีน้ำตาลทองยุ่งเหยิงของตัวเองก่อนจะยิ้มให้กับท่าทางตกตะลึงของดาร์ค

    เจ้าเจ้าต้องเดินทาง   หมายความว่าไง   ดาร์คถามขึ้นหลังจากที่ตั้งสติได้

    อ้าว  ก็ไปกะเจ้าไง   เราจะไปไหนกันดีล่ะ

    อย่าพูดพล่อยๆ   ข้ามีงานต้องทำ  งานสำคัญ   เจ้าอย่ายุ่ง  ดาร์คเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มกวน

    แต่ข้อมูลในการค้นหาอยู่ที่ข้านา  ชายหนุ่มยังคงยิ้มแบบกวนๆและเริ่มสนุกกับการยั่วคนตรงหน้า

    ไหนทีแรกเจ้าบอกว่าไม่รู้อะไรทั้งนั้นไงล่ะ

    ข้าโกหก คำพูดที่มาพร้อมใบหน้าซื่อๆทำให้ดาร์คชักอยากจะเอาดาบจี้คอหอยนัก  

    เจ้านี่มันฮึ่ย

    เอาน่า  เป็นอันว่าข้ากลายเป็นคนสำคัญของเจ้าแล้วนะ  ดีกันไว้ดีกว่านา    คำพูดที่มาพร้อมกับสายตาออดอ้อน   ทำเอาคนฟังหน้าขึ้นสี  แล้วเลยพูดกลบเกลื่อน

    ก็ได้   นี่ข้าเห็นแก่ข้อมูลของเจ้าหรอกนะ

    เย้งั้นข้าไปเอาของก่อนนะ  ท่าทีดีอกดีใจที่เหมือนกับเด็กๆของชายหนุ่ม   ทำให้ดาร์คถึงกับหัวเราะออกมา

    ยังกับเด็กๆ

                    สิบนาที่ผ่านไป   ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับร่ม 1 คัน และเด็กผู้ชายผมดำอีกคน

    เฮ้ยนี่เจ้าไปเอาใครมาเนี่ย

    ผู้ติดตามไง   คนเดียวไม่พอเหรอ  คำถามซื่อๆแต่ดวงตากลับมีแววว่ากำลังสนุกเต็มที่

    นี่เจ้าไม่เข้าใจหรือไง   ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น  แค่เจ้าก็เต็มทนแล้ว   ดาร์คระเบิดคำพูดออกมา

    เอาน่า   ฟังข้าก่อน   เจ้าหมอเนี่ยมีความสำคัญยิ่งกว่าข้าซะอีก   วางใจเถอะ

                    เมื่อดาร์คเห็นท่าทีของคนตรงหน้าว่าไม่มีแววล้อเล่น   จึงหันไปสนใจเด็กหนุ่มอีกคน   ซึ่งดูอายุแล้วไม่น่าจะเกิน 15 ปี   แต่แววตาสีเทานั้นกลับส่องประกายความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว  

    หมอนี่ท่าทางอ่อนแอจะตาย   มีความสำคัญยังไงกัน

    เอาล่ะ   ถ้าตกลงกันแล้วก็เดินทางกันเถอะ  คนตัวสูงรีบพูดเพราะกลัวว่าดาร์คจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาอีกจะยุ่ง

    แล้วขบวนนักเดินทางที่ไม่ค่อยปกตินักก็เคลื่อนขบวนออกจากหอคอยตะวันออก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×