ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic:Thorki] Now is my turn.

    ลำดับตอนที่ #17 : บทที่ 12: The End??

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 64




    TK12

     





    ห้องนอนขนาดใหญ่สมกับฐานะที่เจ้าของเคยมี ภายในตกแต่งสีเขียวและทอง รายละเอียดต่างๆช่างดูวิจิตรละเอียดละออ เป็นใครก็คงต้องอิจฉาผู้ที่ได้ใช้ชีวิตในห้องนี้กันเสียทุกคน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ความงามทั้งหมดถูกบดบังด้วยความหนาวเน็บ ราวกับการเวลาถูกแช่ค้าง ดอกไม้ที่นำมาประดับไม่เหี่ยวเฉา ไม่โรยรา แม้จะเป็นดอกไม้ที่เกร่งเช่นกุหลาบ ก็ไม่สามารถเบ่งบางได้เช่นกัน



    น่าหดหู่


    ข้าเองก็คิดเช่นนั้น



    ยิ่งทอดสายตาไปมองร่างของบุตรชายบุญธรรมที่นอนทอดกายบนเตียงกว้าง แม้มีม่านสีขาวโปร่งมาบดบังก็ไม่ได้ทำให้สิ่งใดดีขึ้น ชายชราผู้หนึ่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ใคร่ครวญ เฝ้ารอให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับมา เด็กหนุ่มที่เขาได้ทำร้ายจิตใจไปแสนสาหัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรจะทำเช่นไร ถึงจะทำให้รอยร้าวนั้นสมานตัวสักเล็กน้อย ตัวเขาไม่รู้เลย เมื่อยามที่ไร้อิสตรีคู่ชีวิต นางผู้ที่คอยเป็นดั่งดวงอาทิตย์ นางที่คอยปลอบประโลมบุตรชายทั้งสอง



    เมื่อไร้นาง ก็ไม่รู้ควรจะทำเช่นไร


    ไหนจะมาเสียบุตรไปอีกหนึ่ง ใจคนเป็นพ่อเจ็บปวดเพียงใด

     


    หลังจากธอร์ลงไปยังมิดการ์ดชายชราลังเลอยู่นานกว่าจะมีความกล้าที่จะก้าวเข้ามาให้ห้องที่หนาวเหน็บนี้ 5 ปีแม้ไม่ยาวนานสำหรับเทพที่เวลาท้วมท้น แต่กับคนที่ต้องรอเวลาแค่เสี้ยววินาทีก็แทบฆ่ากันให้ตายได้ ทั้งเขาและธอร์ล้วนเจ็บปวด ธอร์ที่ไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่ตนรักไว้ได้ ส่วนเขาโอดินผู้เป็นพ่อทั้งหลอกลวง เพิกเฉย ใยสิ่งที่ทำไปจะไม่ทำให้บุตรรวดร้าว คงรู้สึกราวถูกผลักลงสู่เหวไร้ก้นบึ้ง ไม่มีแสงสว่าง ไร้แม้สิ่งเหนี่ยวรั้งไม่ให้ล่วงหล่น


    ความผิดนี้ช่างน่าระอายใจ


    โอดินคอยแวะเวียนเข้ามาราวกับกลัวว่าร่างบนเตียงจะเหงา เมื่อบุคคลเดียวที่มักจะมาอย่างธอร์ไม่อยู่ จากวันเลื่อนผ่านเป็นหลายสัปดาห์ ที่เก้าอี้ตัวเดิมข้างเตียงสี่เสา โอดินที่ได้เพียงหวังว่าบุตรชายคนโตจะพาบุตรอีกคนกลับมาได้ ไหล่กว้างองอาจในยามออกไปทำศึก ดูไร้เรี่ยวแรงเสียแล้ว เมื่อนั่งลงตรงนี้จึงได้เข้าใจ ความเงียบที่ธอร์มักจะอยู่นี้ไม่ใช่ความสงบแต่อย่างใด มันคือความเงียบเหงา การรอคอยใกล้มาถึงจุดจบแล้วแล้วหรือยัง


    ใจเริ่มที่จะคาดหวังอีกครั้ง


    กลับมาเถอะโลกิ บุตรข้า


    .


    .


    .


    วันนี้ก็เป็นเช่นอีกวันที่ความเย็นคืบคลานแทนที่ความอบอุ่น ไร้ชีวิต และดูคล้ายจะไร้ความหวังอยู่ในที กาลเวลาภายนอกเคลื่อนไป ดวงตะวันลอยขึ้นเหนือหัวแล้วแต่ความร้อนจากภายนอกคงไม่สามารถทำให้น้ำแข็งละลายได้ ช่างน่าแปลก...


    ใยวันนี้ถึงมีหยดน้ำล่วงหล่นมากระทบที่ไหล่กัน


    โอดินมองบริเวณที่เปียกชื้นอย่างนึกสงสัย พลันความรู้สึกอุ่นวาบก็ปรากฎขึ้นในใจ


    โลกิ...


    แสงสีฟ้าเรืองรองจากกายที่นอนแน่นิ่งมาเนิ่นนาน ก่อนที่ร่างจะสลายเป็นประกายเล็กๆและล่องลอยไป กลับสู่ผู้เป็นเจ้าของ ห้องที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ดอกไม้สีแดงสดเบ่งบานดั่งที่ควรจะเป็น ต้นไม้ใกล้หน้าต่างมีสีเขียวชะอุ่ม และกาลเวลากลับมาเดินอีกครั้ง


    อา...ถึงคราที่เหมันต์จะจากไป และวสันต์ได้หวนคืน


    .


    .


    .


    ความวุ่นวายเข้ามาปั่นป่วนราวกับพายุแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็ว จากไปราวกับไร้ตัวตน

     


    ก๊อกๆ

     


    มีคนอีกผู้หนึ่งกำลังนั่งภาวนาให้บุตรชายของนางกลับมาอย่างปลอดภัย หวังให้เรื่องวุ่นวายเหล่านี้เป็นเพียงอุปสรรคที่ก้าวผ่าน ไม่ใช้กำแพงที่ขวางกันให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันอีกครา เธอเงยหน้าจากมือซึ่งประสานกันไว้แน่น ผุดลุกจากเก้าอี้ไม้รวดเร็วจนมันล้มลงกับพื้นห้องครัวเสียงดัง แต่นั่นไม่ได้รั้งความสนใจของเธอได้เท่าเสียงเคาะแผ่วเบาที่แจ่มชัดในโสตประสาท


    สองขาก้าวเดินออกไปได้ช้ากว่าที่นางหวัง เวลารอบกายเชื่องช้านักยามที่ต้องการให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดประตูไม้สีเข้มก็กระชากเปิดออก แสงสว่างยามเช้าสาดเข้ามาภายใน ไล่ไปตามกำแพงสีอ่อน ทางเดินแคบ จนถึงภาพถ่ายของบุตรชายผู้มีผมสีดำขลับแตกต่างจากมารดาที่มีผมสีทองสว่าง แม้แตกต่างแต่รอยยิ้มบนใบหน้าของคนที่กำลังกอดกันในรูปนั้นดูสดใส

     



    เด็กน้อยสองคนที่มักจะทะเลาะกันอยู่ร่ำไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด


    เด็กน้อยที่เข้มแข็งกว่าใคร แต่ก็ยังมีมุมอ่อนแอเสียจนน่าเอ็นดู


    เด็กน้อยที่นางรักสุดหัวใจแม้หนึ่งในนั้นจะไม่ใช่บุตรของนางอย่างแท้จริง แต่ไหนเล่าเมื่อเป็นมารดาแล้วจะเลิกเป็นได้อย่างไรกัน


    เด็กน้อยที่ไม่ได้สูงเพียงเอวนางอีกต่อไป ตอนนี้เติบโตเสียจนน่าใจหาย เด็กน้อยของนางในตอนนั้นกลายเป็นชายหนุ่มเสียแล้ว


     


    ร่างของชายหนุ่มสองคนที่ตอนนี้สามารถบดบังแสงจนเกิดเงาทาบทับบนใบหน้าของนาง ชายหนุ่มสองคนที่ความสูงต่างกันอยู่เล็กน้อย ชายหนุ่มสองคนที่ต้องแยกจากกันไปอย่างไม่มีวันหวนคืนแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้มือคู่นั้นกระชับกันไว้แน่นไม่ยอมให้สิ่งใดมาพรากกันไปได้อีก บนในหน้านั้นที่เปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นนั้นกำลังส่งยิ้มสดใสเช่นในภายความทรงจำของนาง ภาพในอดีตซ้อนทับกับภาพตรงหน้าพร้อมกับเสียงที่ทุ้มขึ้นนั้นเอ่ยเรียกนาง

     


    .... ท่านแม่


    ข้ากลับมาแล้ว


    โลกิ....


    ข้าเองท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว น้ำเสียงและท่าทางที่นางคุ้นเคยกลับมาแล้ว น้ำตาค่อยไหลลงอาบแก้มผู้เป็นมารดา มือสั่นเทาเอื้อมขึ้นสัมผัสใบหน้าหวาน


    โอ้ โลกิ ลูกรัก...เจ้ากลับมาแล้ว มารดาแห่งทวยเทพโผเข้ากอดบุตรชายคนเล็กเพียงหนึ่งของนางแน่น ทั้งคู่ต่างร้องไห้ในอ้อมกอดของกันและกัน คนหนึ่งพร่ำบอกรัก อีกคนพึมพัมว่าตนกลับมาแล้วเพื่อย้ำเตือนต่อตนเองและมารดา


    ข้าพาน้องกลับมาแล้ว ท่านแม่ ฟริกาผินใบหน้ามองบุตรชายอีกคน เทพแห่งสายฟ้าส่งยิ้มอบอุ่นมาให้นางเช่นเสมอมา มือบางเอื้อมคว้าอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดเช่นดัยวกัน เหล่าบุตรของข้า ข้าดีใจนักที่เจ้าได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก


    บุตรของข้า พวกเจ้ากลับมาพร้อมหน้าเสียที


    .


    .


    .

     


    โอเค ขอสรุปแบบสั้นๆนะ เรื่องบ้าบอทั้งหมดนี่--


    โทนี่ ใจเย็นก่อน---


    มันเกิดจากที่ไททันตัวนึงอยากเอาใจเมียเนี่ยนะ!? เอาจริงดิ!?” สตาร์กแทบจะอยากเอาสวมชุดเกราะแล้วบินขึ้นฟ้า ก่อนจะทิ้งตัวเอาหัวโหม่งโลกให้รู้แล้วรู้รอด! ไหนจะสองพี่น้องคู่รักนี่อีก มีแต่ปัญหาๆๆๆ


    แน่นอนว่าตอนไหนที่โทนี่อาละวาดแบบนี้ ก็คงมีแค่สตีฟที่คอยพูดให้อีกฝ่ายใจเย็นลงได้ ถึงตัวเขาเองจะยังไม่เข้าใจเรื่องก็ตามที แต่จะปล่อยให้อีกฝ่ายโวยวายให้คนอื่นรำคาญเพราะฟังอีกฝ่ายอธิบายไม่รู้เรื่องต่อไปก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก


    เอาน่าโทนี่ อย่างน้อยก็ไม่ได้ก่อนเรื่องอะไรที่เลวร้ายกว่านี้ และมันจะจบลงด้วยดี ถึงจะเป็นแบบที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ก็ตามที


    ถ้าถามว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนก็แน่นอนว่าเจ้าเก่าเจ้าเดิม บนตึกระฟ้าของโทนี่ สตาร์ก พร้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มชนิดที่เจ้าของสถานที่แทบจะขนออกมาจากสต๊อกทั้งหมด หลังจัดการความวุ่นวายที่กองทัพของธานอสมาสร้างความวุ่นวายแล้วอยู่ๆก็หายตัวไปแบบรวดเร็ว ทิ้งไว้แค่สองพี่น้อง คู่รักคู่กัดนี่แหละที่ลอยกลับมาที่ยอดตึก

     

    ก็จบด้วยดี ถ้าไม่นับรวมความเสียหายในเมือง มาแล้วก็ไปแบบไม่ทันตั้งตัวน่ะนะ แคป บรูซพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของนาตาชา

     

    เรื่องเป็นแบบนี้จะให้ฉันรายงานกับพวกคนใหญ่คนโตว่ายังไงละ สงครามรักของเอเลี่ยนอย่างงี้หรอ บอบ้า!”


    นั่นค่อนข้างเกินกว่าจะรับไหวนะ นอกจะไม่ปลื้มแล้วคงได้โดนด่าซ้ำชัวๆ



    ทั้งฟิวรี่ และบรูซได้แต่กุมขมับคิดหาข้ออ้างในการตอบคำถามทั้งสื่อ ประชาชน ไหนจะพวกกองทัพอีก ข้ออ้างร้อยแปดข้อคงถูกยกขึ้นมาจนสีข้างคงไม่เหลือเนื้อให้ถลอก ถ้ายังไม่อยากโดนตะโกนกลับมาว่ารายงานนี้เหมือนนิยายหลังข่าว ก็เรื่องมันเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไรได้กัน ถึงเมืองจะได้รับความเสียหาย แต่โชคดีจนเรียกได้ว่าปฏิหาริย์ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว

     

    จะว่าไร้สาระหรือ เกินจริงไปก็ไม่ผิดหรอก


    หมายความว่าไง? คลินท์หันมองเทพคนน้องที่ลดแก้วเครื่องดื่มในมือลงอย่างุนงง ฉันคิดว่านายจะแก้ตัวสะอีก ว่าไม่ใช่ความผิดของนาย


    ทำไมต้องเอ่ยคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นด้วยเล่า เพราะอย่างไรส่วนหนึ่งก็มาจากข้าเป็นต้นเหตุ แต่ความจริงพวกเจ้าควรขอบคุณข้าด้วยซ้ำไปนะ ไม่เช่นนั้นจักรวาลคงได้พังทลายอีกครา ดินแดนทั้ง 9 จักเสียสมดุล เมื่อเทียบกับตอนนี้ สิ่งที่ต้องจ่ายมันมากขนาดที่พวกเจ้าคาดไม่ถึง โลกิขยับแก้วไวน์ในมือให้วนป็นจังหวะ ปัญหาครานี่ใหญ่กว่าที่ตัวเขาจะแก้ได้ การที่เทพยื่นมือมาช่วยดูออกจะผิดแผก แต่พวกเขาคงเห็นว่าคุ้มค่าสินะ...


    เหอะ พวกเทพเอาแต่ใจ


    เจ้านายเก่าของเขาบ่นอุบอิบไม่หยุด จนเขาหลุดขำหึออกมาเบาๆ จะทำอย่างไรได้ถึงแม้ชาวเอสการ์ดจะเรียกตนเองว่าเทพกลับไม่ต่างจากมนุษย์โลกสักนิด แต่เทพและเทพีที่ถือตนเป็นกลางอย่างแท้จริงนั้นเข้าใจยากยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่เคยคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะทำอะไร คงเพราะไม่เคยพบกันได้โดยง่าย เป็นความโชคร้ายหรือความโชคดีกันนะที่เด็กเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือ


    เจ้าว่าข้าหรอ สหาย ส่วนเทพที่ยังคงโง่งมก็ยังเหมือนเดิมอยู่วันยังค่ำ โถ่ธอร์...


    คิดว่าไงละหะ พ่อคุณณณณ


    โอ้ ไม่ใช้ข้าสินะงั้นข้าสบายใจ


    หมายถึงนายนั่นแหละ!!”


    การโต้เถียงระหว่างหนึ่งมิดการ์เดี้ยน และหนึ่งแอสการ์ดเดี้ยนเรียกเสียงหัวเราะครืนใหญ่ สร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับเหล่าผู้ที่เหน็ดเหนื่อยจากการปกป้องบ้านที่เป็นที่รัก บ้านที่เรียกว่าโลก แม้จะขัดแย้งกันบ้าง ทะเลาะกันด้วยเนื่องไร้สาระบ้าง แต่คนเหล่านี้คือทีมที่รักใคร่กันและเข้าใจกันมากที่สุด แตกต่างกันบ้างจะเป็นอะไรไป จริงมั้ย


    มือบางยกแก้วขึ้นจิบขณะซึมซับบรรยากาศตรงหน้าไว้ ช่วงเวลาของพวกเขาแตกต่างกันเสียจนหน้าใจหาย เช่นนั้นขณะที่นาฬิกาเหล่านี้ยังเดินต่อไปก็ขอสลักภาพไว้เป็นความทรงจำช่วงหนึ่งอันมีค่า ใช้เวลาไปด้วยกัน


    วันนี้คุณดูเงียบๆนะ


    ข้าแค่เหนื่อยนิดหน่อยนะ โลกิยกยิ้มส่งให้อีกฝ่าย ดูท่าสตีฟหมดแรงที่จะห้ามไม่ให้โทนี่ตีกับธอร์ ถึงได้หนีทัพมาอยู่ข้างๆเขาได้ ยิ่งพอต่างฝ่ายต่างเหนื่อยกับการกล่าวโต้เถียง จึงเปลี่ยนมาดวลด้วยแอลกอฮอล์แทนว่าใครที่ล้มไปก่อนคนนั้นแพ้ คนที่ไม่ถูกกับของมึนเมาก็หนีแทบไม่ทันด้วยกลัวว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย ให้ทำอะไรก็ได้แต่เรื่องของมึนเมาคนคออ่อนต้องขอผ่าน ส่วนพวกที่เหลือเริ่มเดิมพันว่าใครจะชนะสนุกสนานไปตามๆกัน


    นั่นสินะ เกิดเรื่องตั้งมากมายแค่ในวันๆเดียว แล้วหลังจากนี้พวกคุณจะทำอย่างไร


    ก็คงกลับแอสการ์ด ต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นคงยากจะบอกได้ชัดเจน ไม่แน่ข้าอาจจะถูกจับขังอีกก็ได้ รอยยิ้มหยันปรากฎบนใบหน้าหวาน


    ทำไมคุณคิดแบบนั้น มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายก็ได้นะโลกิ


    โลกของเราไม่ได้ดำเนินไปอย่างสวยงามนักหรอกนะ คุณปู่


    ฮ่าๆๆๆ นึกว่าจะไม่ได้ยินคำนี้จากปากคุณแล้ว เอาจริงๆคุณน่าจะอายุมากกว่าผมอีกนะ


    หึหึ โอ้ เป็นอย่างนั้นหรอกหรอเจ้าหนูโลกินึกสนุกที่ได้หยอกล้อคนรักของสตาร์กไม่น้อยเลย สตีฟเป็นคนดี ดีเสียจนน่าสงสารที่สุดท้ายมาลงเอยกับเจ้ามหาเศรษฐีตัวแสบนี่ และก็ต้องแปลกใจเมื่อมือหนาเลื่อนมาตรงหน้าเขา โลกิมองอีกฝ่ายอย่างุนงง


    ทำไมผมชักเริ่มอยากกลับไปแก่แล้วนะ... เอาเถอะยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันแล้วถูกมั้ย ไม่ว่าคุณจะเป็นทอมหรือว่าโลกิ สุดท้ายทั้งคู่ก็คือส่วนนึงของคุณ เพราะยิ่งได้รู้จะทอมนั่นยิ่งทำให้ผมรู้ว่า คุณก็ไม่ได้ร้ายไปเสียหมดหรอก ก็ยังพอมีด้านดีๆหลงเหลืออยู่บ้าง รอยยิ้มอ่อนโยนมักปรากฎบนใบหน้าของชายหนุ่มเสมอ


    และผมเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าธอร์จะปกป้องคุณได้ โลกิ


    ทุกถ้อยคำทำให้เทพแห่งคำลวงไม่สามารถเอ่ยสิ่งใดออกไปได้ นานแล้วที่ไม่มีใครพูดกับเขาเช่นนี้ พูดกับ โลกิเช่นนี้ ถ้อยคำที่ได้หากไม่ใช้เพื่อหวังใช้เขาเป็นสะพานไปยังธอร์ ก็เป็นคำพูดหยามเหยียด ไม่ก็ว่าร้ายลับหลัง เขาไม่มีวันขึ้นเป็นกษัตริย์แล้วอย่างไรกัน เขาไม่เคยต้องการบัลลังก์นั่น สิ่งที่โลกิต้องการคือเป็นที่ยอมรับของบิดา เป็นที่รักของมารดา และที่สำคัญคือได้เป็นคนสำคัญของเชษฐา


    ถึงไม่รู้ว่าสุดท้ายมันแปรเปลี่ยนเป็นความรักตั้งแต่เมื่อไหร่


    ลึกๆเขาอาจจะดีใจอยู่ก็ได้เมื่อรู้ว่าเขาและธอร์ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ หลังความจริงตีเข้าแสกหน้าพร้อมกับความสิ้นหวังผสมปนเปกันไปหมดยิ่งยามที่เห็นว่ากำลังมีคนมาแย่งที่ข้างๆธอร์ไปจากเขา ทุกอย่างตีรัวกันจนเป็นเคียดแค้นทุกสิ่งอย่าง ความมืดบดบังเสียจนไม่เห็นสิ่งใด ความพยายามที่ไร้ผู้ซึ่งมองเห็น ความรักที่ไร้ซึ่งคนต้องการ


    นึกดีใจพอๆกับเสียใจที่ชีวิตนี้จักจบเสียที การใช้ชีวิตช่างเหนื่อยสู้จบมันลงตรงนี้แล้วเริ่มต้นใหม่คงจะดีกว่า และยังคงไม่แน่ใจในปฏิหาริย์ว่าเขาได้รับชีวิตนี้คืนมา จนได้พบกับคนเหล่านี้ ได้พบกับธอร์อีกครั้ง


    หลังจากที่มือนี้พยายามไขว่คว้ามานานเนิน ในที่สุดก็มีคนที่ยื่นมือกลับมาหา


    ...ไปมาเจ้าเหมาะกับคำว่าคุณปู่จริงๆนั่นแหละ พูดจาอย่างกับคนแก่ มือบางเลื่อนไปจับมือที่ยื่นมาของสตีฟในที่สุด


    ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนนึงมาจากโทนี่น่ะ เขาอยากพูดอะไรหลายอย่างกับคุณ แต่ก็เจ้าศักดิ์ศรีเกินไป สตีฟยิ้มรับขำๆ


    ขอบคุณ สตีฟ โลกิตอบไปเพียงสั้นๆ ดวงตามรกตเลื่อนกลับไปมองวงสนทนาครื้นแครงอีกครั้ง ชายที่เขารักยังคงไม่ล้มไปแบบที่โทนี่ต้องการ แต่ต่างฝ่ายต่างก็เริ่มไม่มีสติ จนสุดท้ายก็เป็นคนที่ท้าเองนั่นแหละที่น็อคไปแล้ว


    ด้วยความยินดี โลกิ


    .


    .


    .


    โลกิ! น้องข้าาาาา เป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ที่เขา โลกิเทพแห่งคำลวงคนนี้ออกแรงยันหน้าของเชษฐาต่างมารดาให้ออกห่าง


    หุบปากธอร์


    ให้ตายสิเขาถอนคำพูดที่ว่ารักเจ้าพี่บ้านี่ได้มั้ย!?


    ย้อนกลับไปเล็กน้อยผลของการดวลแอลกอฮอร์เมื่อช่วงค่ำผลเป็นเอกฉันท์ว่าบุตรแห่งโอดินเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็มีสภาพไม่ต่างจากศพเดินได้ ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นชวนมึนเมา ไร้สติแถมยังเอาแต่เรียกชื่อเขาไม่หยุดปาก ลำบากเขามานั่งเช็ดตัวให้ เพราะจะให้ลากไปอาบน้ำก็ใช่เรื่อง ดูขนาดตัวเขากับธอร์เสียก่อน ถึงเขาจะเรียกได้ว่าตัวสูงเมื่อเทียบกับมนุษย์ทั่วไป แต่อีกฝ่ายก็ยังสูงกว่าเขาไหนจะกล้ามเนื้อที่เจ้าตัวภูมิใจนักหนาอีก


    ดีที่บอกท่านแม่แล้วว่าคืนนี้คงไม่ได้กลับบ้าน


    นี่ โลกิ


    อะไรอีก


    หลังจากที่เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อให้แล้วร่างโปร่งทิ้งตัวนั่งตรงปลายเตียงอย่างคิดไม่ตกว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหนดี เพราะพี่ชายเขาเล่นทิ้งตัวนอนแผ่ไปเสียเต็มเตียงคิงไซส์ จะดันให้ไปนอนแค่ฝั่งเดียวเขาคงหมดแรงก่อน หรือเขานอนที่โซฟาดี แต่นี่มันห้องเขานะ! ถึงจะเป็นห้องชั่วคราวก็เถอะ เพราะห้องเดิมกำแพงยังเป็นรูจากแรงระเบิดครั้งก่อน...


    ข้าดีใจ...ที่เจ้ากลับมาแล้ว


    ธอร์ เจ้าเป็นคนพาข้ากลับมาเอง


    โลกิไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงยังมีแรงมาพูดอะไรไร้สาระนี้อยู่ได้ ทั้งๆที่ไม่มีแม้แต่แรงจะเดินให้ตรงด้วยซ้ำ แม้เสียงจะเริ่มยานเสียจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่เทพคนพี่ก็ยังไม่หยุดพูด เขาจะปล่อยให้พูดต่อไปอีกสักครู่ หากยังไม่หยุดเขาจะร่ายเวทให้หลับไปเสีย คิดได้แบบนั้นโลกิก็ย้ายตัวเองมายืนที่ข้างเตียงเพื่อให้ง่ายต่อการร่ายเวท


    ช่ายยยย พาเจ้ากลับบ้านข้าน่ะ คิดถึงเจ้ามากๆเลยยยยย


    เพ้อเจ้อ เจ้าจะคิดถึงข้าทำไมกัน


    เพราะข้ารักเจ้าไง น้องข้าาาาา

     


     

    กึก


     

    ...


    ข้ารักเจ้าาาาา


    เฮ้อ...คนเมานี่มักพูดไปเรื่อยหรืออย่างไรกัน โลกิทิ้งตัวนั่งพร้อมถอนหายใจอย่างหมดแรง ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออก เขาไม่เข้าใจเลยเสียจริงๆ ใครเขาให้พูดเรื่องแบบนี้ตอนเมากันหะ!


    เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรกับพี่ชายดี โลกิก็เลือกที่จะเท้าคางมองชายตรงหน้าอย่างครุ่นคิด คนเมาจะเอ่ยสิ่งใดก็ได้ และยามที่ตื่นก็จะลืมเลือนทุกสิ่ง จางหายไปราวกับหมอกควันยามเช้า บ้างความจริง บ้างคำลวง... ก่อนต้องสะดุ้งหลุดจากภวังค์ยามที่มือหนาเลื่อนมาสัมผัสที่แก้ม ริมฝีปากยิ้มหวานเยิ้ม

    ข้าพูดจริงงงงง ข้ารักเจ้าาาาา โลกิ รักเจ้ามากๆ...จน..เจ็บแทบตายเลยย...พอรู้ว่าเจ้า..ตาย.... รอยยิ้มจางหายไป แทนที่ด้วยสีหน้ารวดร้าว


    ใจของเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ยามเห็นแววตาที่ส่งมา เขาลืมเลือนไปชั่วขณะหนึ่งว่าควรจะเอื้อนเอ่ยออกไปอย่างไร แต่ริมฝีปากก็ขยับเปิดขึ้นอีกครั้ง


    เดี๋ยวพรุ่งนี้ท่านก็ลืมว่ากล่าวสิ่งใดไว้บ้าง


    ข้าไม่มีทางลืม!” ธอร์ขมวดเข้าหากัน ไม่พอใจสิ่งที่โลกิตอบเท่าไหร่นัก ทั้งยังเอ่ยกลับเสียงดัง


    ...


    มรกตคู่นั้นเบิกโพลง จะว่าตกใจที่อีกฝ่ายอยู่ๆก็ตะโกนใส่เขาก็ได้ แต่คำพูดที่ส่งกลับมานั้นต่างหากที่ทำให้ใจเต้นระรัว แม้พอจะจับความรู้สึกบางอย่างได้แต่ก็ไม่อยากคิดไปเอง ไม่อยากฝันกลางวันว่าทุกสิ่งจะเป็นตามที่ต้องการ


    ไม่ร้องสิ



    หือ?


    ไม่ร้องสิ ดวงใจของข้า


    เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังร้องไห้ จนเมื่อมือหนาเลื่อนมาเกลี่ยมันออก


    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ภาพตรงหน้าช่างพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตา จนเมื่อธอร์ดึงเข้าไปกอดไว้


    ไม่รู้ตัวเลยว่าคิดถึงคำปลอบโยนเช่นนี้ จนเมื่อได้สัมผัสถึงมัน


    เจ้ามัน...งี่เง่า


    ข้าอยู่นี่แล้วโลกิ


    ...เชื่อไม่ได้


    จะไม่แยกจากเจ้าไปไหนแล้ว


    ...ฮึก..


    ไร้เสียงสะอื้น ไร้คำว่าร้าย ยามที่ริมฝีปากบางนั้นถูกทาบทับด้วยจุมพิตอ่อนหวาน มรกตปรือปิดลงปล่อยให้ใจเป็นผู้ฟังคำบอกรักไร้เสียงนี้ ปล่อยให้ริมฝีปากทั้งสองบดเบียดเข้าหากันตามความปราถนา น้ำตาที่ไหลข้างแก้มเองก็ไม่สามารถปลุกให้ตื่นจากห้วงฝันนี้ได้ ทุกอย่างเป็นอย่างที่ควรจะเป็น ลิ้นร้อนไล่ต้อนและฝ่ายถูกไล่ต้อน จนน้ำใสปริ่มจากริมฝีปาก ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จนเมื่อปากหนาผละออก มือทั้งสองยังคงประคองใบหน้างดงามเอาไว้ราวกับสิ่งล้ำค่า


    ข้ารักเจ้านะ


    ...


    แล้วเจ้าล่ะ โลกิ ท้องนภานั้นกำลังเว้าวอนขอความรัก แต่เขายังไม่อยากตอบ ไม่ใช่ตอนนี้


    ...ข้า


    ...


    ถาม...ถามอีกครั้งเมื่อท่านตื่น ตอนนั้นข้าจะฟังทุกเรื่องตอบทุกคำถาม เพราะงั้น...นอนได้แล้ว พี่ข้า


    เทพแห่งสายฟ้าดึงให้คนในอ้อมกอดทิ้งตัวลงนอนไปพร้อมกัน ไม่ลืมขยับจัดท่าให้เทพแห่งลำลวงนอนได้สบาย แต่อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างที่ยังคงกอดอีกฝ่ายไว้ ไม่ยอมให้หนีไปจากอ้อมแขนนี้ และโลกิเองก็ไม่คิดจะหนีไปไหนเช่นกัน ซุกหน้าเข้าหาไออุ่นเพียงหนึ่งที่ตนโหยหามาเนิ่นนาน


    อือ ราตรีสวัสดิ์ โลกิ


    ราตรีสวัสดิ์ ธอร์


    .


    .


    .




    บางคราเราไม่ได้ต้องการสิ่งใดมากไปกว่าความชัดเจน แม้การกระทำแม้จะสื่อออกมาให้เห็น แต่ยังคงต้องการคำพูดเพียงประโยคสั้น ประโยคที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นมากมายที่ต้องการจะสื่อไปให้ถึงอีกฝ่ายที่กำลังรับฟัง เพื่อให้การเฝ้ารอนี้คุ้มค่า เพียงเท่านั้นเอง


    อย่างที่มีใครสักคนเคยกล่าวไว้ เวลามักเดินช้าเสมอสำหรับผู้ที่รอคอย คงจะดีไม่น้อยหากที่ปลายทางมีสิ่งที่พวกเขาต้องการ


    ยามมรกตงดงามคู่นั้นปรือเปิดขึ้นอีกครั้งในยามเช้า สิ่งแรกที่มองเห็นคือท้องฟ้าสดใส


    ท้องฟ้าของเขาเพียงผู้เดียว และเขาเองก็จะเป็นมรกตที่งดงามที่สุดให้แก่ท้องนภานี้เพียงผู้เดียวเช่นกัน


    โลกิ


    ...


    ข้ารักเจ้า


    ข้าก็รักเจ้าธอร์


     

     

    END.


    .


    .


    .


    OR TBC??


    Talk:: สวัสดีอีกครั้งค่าาา ในที่สุดก็เดินทางมาถึงได้พบกันอีกตอนแล้ววที่ไม่แน่ใจว่าจะมีตอนต่อไปอีกรึเปล่า55555 ด้วยความตั้งเป้าหมายของปีนี้ว่าจะต้องจบนิยายมหากาพย์นี้สักทีTT ไม่รู้อ่านแล้วรู้สึกคุ้มกับเวลาที่รอมามั้ย แต่เขียนด้วยความตั้งใจเต็มร้อยเลยย หวังว่าจะชอบกันน้าาา คอมเม้นกันมาได้เลยเรารออ่านเสมอ รอๆๆๆ ส่วนตอนถัดไปจะมีจริงๆรึเปล่าคงต้องลุ้นกันน หรือจะมาคุยเล่นกันในทวิตกันได้น้าา<3   BlackWolfs_life


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×