ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic:Thorki] Now is my turn.

    ลำดับตอนที่ #15 : บทที่10 ทดสอบ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 63




    TK10

     




    เจ้า เป็น ใคร



    อึก คุณพูดอะไร นี่ฉันไง--หญิงสาวพยายามสะบัดให้ตัวเองหลุดจากแรงที่กอบกุมรอบคอ มือบางจับข้อมือของร่างสูงไว้ แล้วออกแรงแต่ก็ยังไม่เป็นผล นอกจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ลมหายใจของเธอเองก็จะถูกช่วงชิงไปด้วยหากไม่ทำอะไร


    อย่าคิดว่าข้าโง่จนเชื่อคำพูดของเจ้า ตอบมา! ธอร์ตวาดกลับ


    หญิงสาวรู้ว่ายิ่งทำต่อไปยิ่งต้องเสี่ยงมากขึ้นไปอีก ถัดจากลมหายใจก็คงเป็นชีวิตของเธอ


    คงต้องหยุดเวลาเล่นสนุกไว้เท่านี้ก่อน



    โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดกว่าที่ข้าคิดนะ พลันแววตาที่เคยหวาดกลัวของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง


    ความเจ้าเล่ห์และมาดร้ายเข้ามาแทนที่ ดวงตาสีอความารีนมองสลกับท้องนภาอย่างไม่มีใครจะยอมลงให้ใคร ต่างไม่คิดว่าตนอ่อนแอกว่าอีกคน



    ฉึก!

    อึก! ร่างสูงผละออกจากหญิงสาวไร้ชื่อตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ความเจ็บที่หน้าท้องขวาแล่นเข้ามาไม่ทันตั้งตัว มือหนากุมแผลตรงนั้นไว้ยามโลหิตเริ่มไหล่ริน


    ข้าเป็นใคร นั่นสำคัญด้วยรึ เธอยกมีดสั้นในมือแกว่งไปมา สิ่งที่สร้างบาดแผลให้กับเทพสายฟ้า ใบหน้าสวยยกยิ้มเย้ยหยันสะใจที่ตนทำให้เลือกของเทพตกสู่พื้นได้


    เส้นผมลอนสีน้ำตาลค่อยแปรสภาพ เช่นเดียวกับใบหน้าและเสื้อผ้าของหล่อน คนตรงหน้าธอร์ไม่ใช่คนที่เขารู้จักอีกต่อไป กลายเป็นหญิงสาวผู้มีผมตรงยาวสีดำขลับ ดวงตาสีอความารีนสวยสดดั่งน้ำทะเลลึก ผิวขาวสะอาดราวกับมันไม่เคยต้องแสงอาทิตย์ และโครงหน้าสวยสมวัยนั่นดูคล้ายว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน


    แต่เขาไม่เคยรู้จักเธอ


    เพราะอีกไม่นาน เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี บุตรแห่งโอดิน! หญิงสาวในชุดตัวยาวกล้อมเท้าสีเดียวกับดวงตาประกาศกร้าว พร้อมกับเสียงของบางสิ่งที่ขานรับพร้อมกับคำพูดของเธอ

    ธอร์หมายจะพุ่งตัวไปหาอนุชาที่ยังไม่ได้สติ แต่ก็ถูกขัดขวางไว้


     

    กรร!!

     


    และอีกครั้งที่ถูกโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัว


    สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายหมาป่าสีเงินกระโจนเข้ามาจากความมืด พร้อมคมเขี้ยวที่พร้อมจะฝังมันลงไปในเนื้อหนังของเขา จักไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยหากมันมีขนาดเท่าหมาป่าทั่วไปที่พบเห็นได้บนมิดการ์ด แต่ขนาดที่สูงกว่าเขาเกือบเท่านึงเช่นนี้ทำให้ลำบากไม่มากก็น้อยหากถูกกัดเข้า


    ดวงตาสีฟ้าสดที่จ้องมองเทพหนุ่มตรงหน้า ล้นปรี่ไปด้วยความแค้นเคือง


    เราไม่ให้เจ้าได้เข้าใกล้เขาหรอก บุตรแห่งโอดิน


    หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าเคลื่อนที่ไปอยู่ข้างแท่นที่โลกิสลบอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยขึ้น เธอทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างนั้น มือบางวางมีดเล่มเดิมลงข้างตัว ก่อนจะใช้มือข้างเดิมเกลี่ยแก้มขาวที่ซีดลงของเทพแห่งคำลวง


    อย่าแตะต้องเขา!” ร่างตะโกนอย่างเดือดดาล อยากจะเข้าไปกระชากมือนั้นออกจากร่างโปร่ง แต่ตรงหน้าก็มีเจ้าหมายักษ์นี่คั้นกลาง


    เขาเป็นของเรา เจ้าต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์


    เหมือนยิ่งร่างสูงต้องทนกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้ามากเท่าไหร่ ความขุ่มมัวภายในยิ่งยากจะดับลงได้ มือหนาฟาดอาวุทคู่กายลงกับพื้นด้วยโทสะ หมายเรียกสายฟ้าให้ผ่าลงใส่ร่างบาง แต่ก็ถูกขัดขวางอีกครั้งจากชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีดำยาวเช่นเดียวกับเด็กสาว ที่แตกต่างกันคือดวงเนตรสีมรกต


    อัสนีถูกปัดป้องได้โดยง่าย ไม่ทำให้หญิงสาวต้องบาดเจ็บหรือมีแม้รอยขีดข่วน


    หญิงสาวแย้มยิ้มแทนคำขอบคุณให้ชายหนุ่ม เขาเองก็พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าหับเทพสายฟ้าด้วนความไม่พอใจ



    ท่านอยากให้คนผู้นี้ต้องบาดเจ็บไปด้วย จากการโจมตีไม่คิดหน้าคิดหลังของท่านหรือยังไงกัน ชายหนุ่มผมสีดำถามเสียงแข็ง พลางปรายตาไปทางโลกิ


    ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร และมันจะไม่ทำร้ายโลกิ พลังของเขาเองเขาย่อมรู้จักมันดีที่สุด


    หึ รู้ตัวเองดี งั้นก็จงกระเสือกกระสนมาให้ถึงที่นี่ โดยยังมีลมหายใจอยู่เถอะ


    สายตาเหยียดหยามถูกส่งมายังธอร์ พร้อมกับหมาป่าสีเงินนั้นพุ่งตัวเข้ามาโจมตีอีกครั้ง ไม่มีครั้งใดที่เขี้ยวแหลมคมนั้นจะไม่พยายามแทงทะลุร่างเขา บ้างขยับตัวหลบบ้างใช้อาวุทในมือฟาดอีกคนให้ห่างออกไป อีกฝ่ายก็ไม่ได้ลดความพยายามที่จะสังหารเขาแม้แต่น้อย ทุกอย่างวนเวียนไม่รู้จบ เมื่อเวลาผ่านทั้งสองคงเหนื่อยล้า และร่างกายมีแต่บาดแผล


    หญิงสาวคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นยิ่งสร้างความไม่สบายใจ ในหัวเร่งหาวิธีช่วยเหลือฝ่ายของเธอ


    อย่ากังวลไป เจ้าก็รู้ดีว่าเขาแข็งแกร่ง


    และท่านก็รู้ว่า พวกเราไม่เคยสู้เขาได้ ชายหนุ่มแตะหลังมือที่กำลังกำกระโปรงแน่น หวังให้หญิงสาวอ่อนวัยข้างตนคลายความกังวล แม้ที่เธอพูดนั้นจักเป็นเรื่องจริงก็ตาม


    เจ้าอยากให้พี่เข้าไปช่วยมั้ย เธอส่ายหน้า


    นั่นจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย และเราจะไม่มีโอกาสครั้งที่สองในการกลับไปเริ่มใหม่


    งั้นอดทนอีกสักหน่อยเถอะ พวกพี่สัญญาแล้ว ว่าเจ้าจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป


    ดวงตาสองคู่ต่างสีสันจ้องมองผู้ที่มีเกศาสีเดียวกับตนด้วยความรู้สึกโหยหา ปราถนาอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่เคยได้รับ


    เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง


    .


    .


    .


    เห้ย ทำไมพวกมันน้อยลงแล้วละ โทนี่ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ


    ไม่นานหลังจากธอร์ตามโลกิขึ้นไปบนยานหลังของธานอส ศัตรูที่ตอนแรกมียั้วเยี้ยค่อยๆหายไปจนไม่แทบไม่เหลือ หลังจากที่พวกเขาจัดการกลุ่มสุดท้ายไป นี่เป็นการโจมตีดาวแบบไหนกัน ไร้รูปแบบ ไร้แววที่จะชนะ คล้ายกับมาเพื่อก่อกวนให้โลกปั่นป่วนเพียงเท่านั้น


    อาจะเพราะมันได้ตัวโลกิไปแล้ว คลินท์ออกความเห็น ซึ่งโทนี่เองก็ค่อนข้างเห็นด้วย ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือความปลอดภัยของโลกิ


    เป็นไปได้ หวังว่าธอร์จะช่วยเขาออกมาทัน


    แต่เพื่อคนๆเดียวที่ทำงานไม่สำเร็จ มันคุ้มค่าที่จะต้องลงทุนทำขนาดนี้เลยหรอ หญิงสาวเพียงหนึ่งของกลุ่มเอ่ยถาม ถ้าหากธานอสคือบุคคลที่ทำให้ทั้งกาแล็กซี่ต้องปั่นป่วนได้ การกระทำที่ได้สิ่งตอบแทนไม่คุ้มค่ากกับแรงที่ลงไป คนแบบนั้นจะยอมทำหรอ


     ผมว่าสิ่งเขาจะได้ตอบแทนมันไม่น่าใช่แค่ชีวิตของโลกิ สตีฟเอ่ยพลางมองไปยังยานต่างดาวลำยักษ์ที่ลอยลำอยู่นอกชั้นบรรยากาศนั่น ยานลำอื่นที่ขนาดเล็กกว่าถอนกำลังไปอยู่จุดนั้นเช่นกัน


    สิ่งที่เขาได้ตอบแทนจากชีวิตโลกิมันชวนหอมหวานขนาดไหนกัน


    .


    .


    .


    ยิ่งยืดเยื้อยิ่งอ่อนล้าราวกับนี่จะเป็นการปะทะที่ไม่มีวันจบลงได้ เขาต้องทำให้มันจบลงได้เสียที ทั้งสองต่างหอบหายใจ ทั้งสองต่างบาดเจ็บ โลหิตไหลซึมตามร่างกาย ขนสีเงินถูกย้อมให้หม่นแสง ร่างสูงขยับกายติดขัดจากแผลแรกที่หญิงสาวฝากไว้ สะบักสะบอมไม่ต่างกัน


    ร่างของหมาป่าขนาดใหญ่ทรุดกายลง เหนื่อล้ากับการที่ต้องอยู่ในร่างนี้ เมื่อมันใช้พลังกายมากเกินไปการกลับร่างที่เล็กและเคลื่อนไหวสะดวกกว่าย่อมเป็นเรื่องดี ร่างใหญ่นั้นค่อยๆแปรเปลี่ยนเล็กลงเรื่อยๆจนมีความสูงไม่ต่างจากธอร์ เรือนผมยังคงเป็นสีเงินยวง สัญชาตญาณของนักล่ายังไม่หายไปจากดวงตาสีฟ้า


    หึ เจ้าเก่งกว่าที่ข้าคิดไว้จริงๆ ชายหนุ่มเอ่ยเย้ยหยันแม้กำลังเหนื่อยอ่อน ต่างจากร่างสูงที่มีสภาพไม่ต่างกันแต่ยังคงยื่นได้อย่างมั่นคง หรือไม่ก็พยายามให้ดูมั่นคง


    หยุดพล่ามแล้วหลีกทางเสียที


    ไม่มีทาง เขาสำคัญขนาดที่เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเลยรึ กลับไปดูแลคนของท่านไม่ดีกว่ารึเจ้าชายแห่งแอสการ์ด


    เจ้าไม่รู้เรื่องก็อย่ามาพูดให้มากความ


    โอ้ ข้าว่าข้ารู้นะ รู้เยอะเสียด้วย รอยยิ้มร้ายฉายชัดบนหน้าคม เอ่ยต่อไม่สนใจว่าธอร์จะโมโหเพียงใด โลกิ บุตรแห่งลาฟฟี่ ทรราชแห่งแอสการ์ด ผู้ที่เปิดทางให้ศัตรูเข้ามาในวังในวันที่เจ้าจะขึ้นเป็นราชาจนเป็นชนวนสงครามระหว่างเผ่า ทำให้ท่านไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ซ้ำยังถูกส่งมายังมิดการ์ด ไหนยังสังหารบิดาแท้ๆเพื่อให้คนที่คิดว่าเป็นบิดาภูมิใจ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเช่นไรกันถึงทำเรื่องเช่นนี้


    หยุด


    แกล้งทำเป็นว่าตายไปแล้ว แต่ก็กลับมาสร้างความวุ่นวายให้ดาวที่สตรีที่ท่านชอบพออยู่ คนเช่นนี้คงเป็นคนไร้ความรู้สึกกระมัง เอาตัวรอดมาได้ทุกอย่างเช่นนี้ หรือไม่แน่อาจจะเคยเอาตัวเข้าแลกเพื่อบรรลุเป้าหมายก็เป็นได้นะ ท่านว่ามั้ย? บุตรแห่งโอดิน ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย


    ธอร์พุ่งตัวเข้าใส่ทันทีที่เขาพูดจบ แรงจากโทสะทุ่มกดอีกฝ่ายลงกับพื้นจนเกิดรอยร้าวเป็นวงกว้าง และตามมาคร่อมทับไว้ไม่ให้ขยับ


    ท่านพี่!” อีกสองชายหญิงเรียกชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง


    หุบปาก!! โลกิเป็นคนที่เข้มแข็งและอ่อนโยนที่สุดที่ข้าเคยเจอมา พวกเจ้าไม่ได้รู้จักเขาเช่นข้า อย่ามากล่าวราวกับว่าเป็นคนไร้หัวใจ! เรื่องที่เคยผ่านมาแล้วมันยังไง เหตุผลที่เขาทำมันทั้งหมดนั่นข้ารู้แล้ว แล้วมันจะทำไมกันละ!?”


    อนุชาเขาแท้จริงแล้วไม่เคยต้องการอำนาจ ที่ทำไปเป็นเพียงเพราะความน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง หากโลกทั้งใบที่เคยคิดว่ามีพังลงไปต่อหน้า คิดว่าคนๆนึงจะรับไหวหรอ ความแค้นที่เกิดขึ้นจนวิ่งไปขอพลังจากธานอสมันผิดที่ตรงไหนกัน หรือคำพูดร้ายๆที่เคยพูดใส่เพียงเพื่อปกปิดความอ่อนแอภายในมันผิดตรงไหนกัน ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะเขาเองที่ใส่ใจไม่มากพอที่จะรู้ว่าโลกิรู้สึกเช่นไร


    โลกิรักแอสการ์ดมากกว่าที่ใครคิด รักและเคารพท่านพ่อท่านแม่มากเท่าที่คนๆนึงจะรู้สึกได้  ไม่รู้ว่าหลังจากโดนหักหลังด้วยเรื่องโกหกนานนับร้อยปี หลังหน้ากากนั้นต้องร้องไห้มาเพียงไรถึงจะสามารถกลับมาเข้มแข็งได้ดังเดิม


    เจ้ากำลังแก้ต่างให้คนทรยศหรือนี่ ช่างน่าอับอายนัก แค่ก!” แม้กำลังตกเป็นรองก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดหวั่นใดๆ ออกคำสั่งผ่ายสายตาไม่ให้คนอ่อนกว่าทั้งสองเข้ามายุ่ง ถึงร่างกายจะปวดร้าวเกินกว่าจะขยับก็ยังเลือกที่จะพูดต่อไป


    เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันที่เขาจะชนะคนๆนี้ได้


    น่าอับอายหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างเจ้าจำเป็นต้องมาตัดสินใจแทน!”


    หึ ความพยายามที่ไร้ประโยชน์นั่น เจ้าจะทำไปทำไมกัน


    เพราะเขาคือดวงใจเพียงหนึ่ง เพราะข้ารักโลกิ และข้าจะไม่มีวันเชื่อสิ่งที่ใครว่าร้ายเขา หากข้าไม่ได้เห็นมันด้วยตาคู่นี้เอง ความหนักแน่นในน้ำเสียงและแววตานั้นที่ตอบทำให้ทุกคนชะงัก


    ...ฮะ ฮ่า ชายหนุ่มสภาพสะบักสะบอมเจ้าของผมสีเงินยวง ยกมือทั้งสองขึ้นปิดบังใบหน้าของตนไว้ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่กำลังขันกับคำพูดของธอร์ แต่กำลังเย้ยหยันในโชคชะตา ไม่มีความหรรษาเจือ ทั้งหมดทำเพียงเพื่อซ่อนความเจ็บปวด จนผู้ได้ยินกัดฟันกรอด


    ...ทำไม...ทำไมกันนะ น้ำเสียงที่เคยหยิ่งยโสตอนนี้กำลังทรมาน



    ธอร์มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วยความสับสน หากต้องการชีวิตทำไมจนป่านนี้ถึงไม่ลงมือ ทั้งเขาและโลกิยังมีชีวิตอยู่ แม้บาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับจะเอาชีวิตได้ เป้าหมายแท้จริงคืออะไร


    แล้วทำไมพวกเจ้าต้องทำท่าทีเจ็บปวดเช่นนี้ด้วย ไม่ใช่ควรเป็นข้าหรือที่ต้องทำเช่นนั้น



    ทำไมถึงไม่เกิดขึ้นเร็วกว่านี้กันนะ น่าปวดใจจริงๆ ฮึก... จนสุดท้ายก็ไม่สามารถกลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้อีกต่อไป


    ร่างสูงลุกออกจากตัวชายหนุ่มมองทั้งสามสลับกันไปมา การที่มีจำนวนของแต่ละฝ่ายต่างกันขนาดนี้ปกติน่าจะเข้ามาพร้อมกัน ถึงจะมีโอกาศชนะมากกว่า ทำไมเด็กพวกนี้ไม่ทำ? ยังคงหยุดนิ่ง เขาเองก็ด้วย


    อะไรของพวกเจ้า ตั้งใจจะทำอะไรอยู่กันแน่ หากคิดจะเอาชีวิตก็เข้ามา ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไม่ยอมตายจนกว่าจะได้โลกิกลับมา! และหากไม่คิดจะสู้อย่างจริงจังก็หลบไป!” ธอร์ตวาดอย่างหัวเสีย คนพวกนี้ทำให้เขาหงุดหงิด


    หญิงสาวเพียงหนึ่งส่ายหน้าช้าๆ


    หากท่านตายไป ที่พยายามมาจะมีประโยชน์อะไรกัน เป็นครั้งแรกที่ธอร์เห็นรอยยิ้มที่ไร้สิ่งใดแอบแฝงจากเธอ


    พวกเจ้า!?”


    ท่านรู้จักแร็กนาร็อกรึเปล่า บุตรแห่งโอดิน


    รู้จัก


    ตำนานโบราณเกี่ยวกับสงครามระหว่างทวยเทพและอสูร ฝั่งหนึ่งนำทัดดยโอดินและธอร์ อีกฝ่ายคือโลกิ ความขัดแย้งซึ่งนำมาสู่อวสานของอิกดราซิล ก่อนที่เซิร์ทยักษ์แห่งไฟจะกวัดแกว่งดาบเหนือขว้างลูกไฟให้ลุกไหม้ล้างทุกสิ่งหายไปทั้งเก้าโลก เพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ว่ากันว่า เทพีแห่งชะตากรรม ได้บอกเรื่องนี้กับโอดินบิดาแห่งทวยเทพไว้ล่วงหน้า หวังให้เขาได้แก้ไขไม่ให้หายนะนี้เกิดขึ้นซ้ำ แต่โอดินก็พลาดเสียทุกคราไป โชคชะตาอันเลวร้ายวนซ้ำซากไม่รู้กี่พันครั้ง



    และทุกเรื่องราวในแต่ละครั้งจะมี เทพีผู้ทักทอ จดบันทึกลงบนผืนผ้าแห่งโชคชะตา


    ผู้หนึ่งชี้แนะ ผู้หนึ่งจดบันทึก


    เทพีทั้งสองยังคงคาดหวังเรื่องราวแบบใหม่เสมอ... เช่นเดียวกับพวกเขาทั้งสาม



    มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหนกัน


    พวกข้าทำไปเพียงเพื่อทดสอบท่านเท่านั้น บุตรแห่งโอดินเธอมองไปร่างโปร่งที่นอนไม่ได้สติจากเวทมนต์ที่เธอร่ายไว้ พวกเธอไม่อยากให้คนผู้นี้ตื่นมาพบพวกเธอทั้งสาม อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาสมเท่าไหร่นัก


    ทดสอบข้า? เพื่ออะไร


    ทดสอบว่าท่านจะดูแลมารดาของพวกเราได้หรือไม่ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับเอ่ย พร้อมกับเจ้าของเรือนผมสีเงินจะลากตัวเองมายืนพร้อมกันข้างแท่นที่โลกินอนอยู่


    มารดาพวกเจ้า ...ห๊ะ! มารดา?

    .

    .

    .

     

    TBC.


    อ่านเกี่ยวกับสงคราม Ragnarok >>>จิ้ม<<< ทางนี้เลยค่ะ เราว่าของทางนี้อธิบายได้เข้าใจง่ายดีค่ะ


    TALK:: แบบว่าจากตอนเมื่อกี้คือมีหลายๆคนมาคอมเมนท์ให้กำลังใจกับบอกว่าคิดถึงนิยายเรื่องนี้ และยังติดตามอยู่ ถึงไม่ได้หลายคนมากมายอะไรแต่เป็นกำลังใจให้เรามากๆเลยค่ะ ขอบคุณอีกหลายๆครั้งเลยค่ะTTuTT ดีใจมากๆๆๆๆที่ยังติดตามกัน น่าจะไม่ได้มีโอกาสมาต่อบ่อยๆแต่จะพยายามเขียนเรื่องนี้ให้จบตามสมกับที่รอมานาน สัญญาเลยค่ะ ใช้เวลาต่อจากนี้ไม่น่านานมากเพราะคิดว่าน่าจะจบได้ในอีกไม่เกิน 5-6ตอน

    ส่วนตอนนี้แบบว่าเขียนฉากต่อสู้ไม่เป็นอย่างแรงเลยค่ะ ออกมางงๆรึเปล่า5555 งงหรือไม่เข้าใจมาเม้นทิ้งไว้ได้นะคะเราจะไปเขียนตอบไว้ ถ้าไม่เป็นการสปอยเนื้อเรื่องในตอนต่อๆไป เรื่องของเทพอันนี้บางส่วนเราเพิ่มเติมขึ้นมาเองค่ะ จะไม่ตรงกับตำนานของจริงหรือจาก MCU 100%

    ว่าแต่ทุกคนคิดว่าภาษาของเราเป็นยังไงบ้างคะ ver.สมัยก่อนกับ ver.ปัจจุบัน ชอบแบบไหนมากกว่าหรือว่าไม่ต่างกันเลยมาบอกเราหน่อยนะคะ เพราะเรากำลังคิดว่าควรจะrewrite บทที่1-8 ดีมั้ยอยู่ ทุกคนคิดว่ายังไงบ้างงง

    ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะะะ หรือจะเข้ามาทักกันบนทวิตก็ได้ค่ะ>> BlackWolfs_life

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×