คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่10 ทดสอบ
TK10
“เจ้า เป็น ใคร”
“อึก คุณพูดอะไร นี่ฉันไง--” หญิงสาวพยายามสะบัดให้ตัวเองหลุดจากแรงที่กอบกุมรอบคอ มือบางจับข้อมือของร่างสูงไว้ แล้วออกแรงแต่ก็ยังไม่เป็นผล นอกจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ลมหายใจของเธอเองก็จะถูกช่วงชิงไปด้วยหากไม่ทำอะไร
“อย่าคิดว่าข้าโง่จนเชื่อคำพูดของเจ้า ตอบมา!” ธอร์ตวาดกลับ
หญิงสาวรู้ว่ายิ่งทำต่อไปยิ่งต้องเสี่ยงมากขึ้นไปอีก
ถัดจากลมหายใจก็คงเป็นชีวิตของเธอ
คงต้องหยุดเวลาเล่นสนุกไว้เท่านี้ก่อน
“โอ้ ดูเหมือนเจ้าจะฉลาดกว่าที่ข้าคิดนะ” พลันแววตาที่เคยหวาดกลัวของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความเจ้าเล่ห์และมาดร้ายเข้ามาแทนที่ ดวงตาสีอความารีนมองสลกับท้องนภาอย่างไม่มีใครจะยอมลงให้ใคร ต่างไม่คิดว่าตนอ่อนแอกว่าอีกคน
ฉึก!
“อึก!” ร่างสูงผละออกจากหญิงสาวไร้ชื่อตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ความเจ็บที่หน้าท้องขวาแล่นเข้ามาไม่ทันตั้งตัว
มือหนากุมแผลตรงนั้นไว้ยามโลหิตเริ่มไหล่ริน
“ข้าเป็นใคร นั่นสำคัญด้วยรึ” เธอยกมีดสั้นในมือแกว่งไปมา สิ่งที่สร้างบาดแผลให้กับเทพสายฟ้า ใบหน้าสวยยกยิ้มเย้ยหยันสะใจที่ตนทำให้เลือกของเทพตกสู่พื้นได้
เส้นผมลอนสีน้ำตาลค่อยแปรสภาพ เช่นเดียวกับใบหน้าและเสื้อผ้าของหล่อน คนตรงหน้าธอร์ไม่ใช่คนที่เขารู้จักอีกต่อไป กลายเป็นหญิงสาวผู้มีผมตรงยาวสีดำขลับ ดวงตาสีอความารีนสวยสดดั่งน้ำทะเลลึก ผิวขาวสะอาดราวกับมันไม่เคยต้องแสงอาทิตย์ และโครงหน้าสวยสมวัยนั่นดูคล้ายว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
แต่เขาไม่เคยรู้จักเธอ
“เพราะอีกไม่นาน เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี บุตรแห่งโอดิน!” หญิงสาวในชุดตัวยาวกล้อมเท้าสีเดียวกับดวงตาประกาศกร้าว พร้อมกับเสียงของบางสิ่งที่ขานรับพร้อมกับคำพูดของเธอ
ธอร์หมายจะพุ่งตัวไปหาอนุชาที่ยังไม่ได้สติ แต่ก็ถูกขัดขวางไว้
กรร!!
และอีกครั้งที่ถูกโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัว
สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายหมาป่าสีเงินกระโจนเข้ามาจากความมืด พร้อมคมเขี้ยวที่พร้อมจะฝังมันลงไปในเนื้อหนังของเขา จักไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยหากมันมีขนาดเท่าหมาป่าทั่วไปที่พบเห็นได้บนมิดการ์ด แต่ขนาดที่สูงกว่าเขาเกือบเท่านึงเช่นนี้ทำให้ลำบากไม่มากก็น้อยหากถูกกัดเข้า
ดวงตาสีฟ้าสดที่จ้องมองเทพหนุ่มตรงหน้า ล้นปรี่ไปด้วยความแค้นเคือง
“เราไม่ให้เจ้าได้เข้าใกล้เขาหรอก บุตรแห่งโอดิน”
หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าเคลื่อนที่ไปอยู่ข้างแท่นที่โลกิสลบอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยขึ้น เธอทิ้งตัวลงนั่งข้างร่างนั้น มือบางวางมีดเล่มเดิมลงข้างตัว ก่อนจะใช้มือข้างเดิมเกลี่ยแก้มขาวที่ซีดลงของเทพแห่งคำลวง
“อย่าแตะต้องเขา!” ร่างตะโกนอย่างเดือดดาล อยากจะเข้าไปกระชากมือนั้นออกจากร่างโปร่ง แต่ตรงหน้าก็มีเจ้าหมายักษ์นี่คั้นกลาง
“เขาเป็นของเรา เจ้าต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์”
เหมือนยิ่งร่างสูงต้องทนกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้ามากเท่าไหร่ ความขุ่มมัวภายในยิ่งยากจะดับลงได้ มือหนาฟาดอาวุทคู่กายลงกับพื้นด้วยโทสะ หมายเรียกสายฟ้าให้ผ่าลงใส่ร่างบาง แต่ก็ถูกขัดขวางอีกครั้งจากชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีดำยาวเช่นเดียวกับเด็กสาว ที่แตกต่างกันคือดวงเนตรสีมรกต
อัสนีถูกปัดป้องได้โดยง่าย
ไม่ทำให้หญิงสาวต้องบาดเจ็บหรือมีแม้รอยขีดข่วน
หญิงสาวแย้มยิ้มแทนคำขอบคุณให้ชายหนุ่ม เขาเองก็พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าหับเทพสายฟ้าด้วนความไม่พอใจ
“ท่านอยากให้คนผู้นี้ต้องบาดเจ็บไปด้วย จากการโจมตีไม่คิดหน้าคิดหลังของท่านหรือยังไงกัน” ชายหนุ่มผมสีดำถามเสียงแข็ง พลางปรายตาไปทางโลกิ
“ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร และมันจะไม่ทำร้ายโลกิ” พลังของเขาเองเขาย่อมรู้จักมันดีที่สุด
“หึ รู้ตัวเองดี งั้นก็จงกระเสือกกระสนมาให้ถึงที่นี่ โดยยังมีลมหายใจอยู่เถอะ”
สายตาเหยียดหยามถูกส่งมายังธอร์
พร้อมกับหมาป่าสีเงินนั้นพุ่งตัวเข้ามาโจมตีอีกครั้ง ไม่มีครั้งใดที่เขี้ยวแหลมคมนั้นจะไม่พยายามแทงทะลุร่างเขา
บ้างขยับตัวหลบบ้างใช้อาวุทในมือฟาดอีกคนให้ห่างออกไป
อีกฝ่ายก็ไม่ได้ลดความพยายามที่จะสังหารเขาแม้แต่น้อย ทุกอย่างวนเวียนไม่รู้จบ
เมื่อเวลาผ่านทั้งสองคงเหนื่อยล้า และร่างกายมีแต่บาดแผล
หญิงสาวคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นยิ่งสร้างความไม่สบายใจ ในหัวเร่งหาวิธีช่วยเหลือฝ่ายของเธอ
“อย่ากังวลไป เจ้าก็รู้ดีว่าเขาแข็งแกร่ง”
“และท่านก็รู้ว่า พวกเราไม่เคยสู้เขาได้” ชายหนุ่มแตะหลังมือที่กำลังกำกระโปรงแน่น หวังให้หญิงสาวอ่อนวัยข้างตนคลายความกังวล แม้ที่เธอพูดนั้นจักเป็นเรื่องจริงก็ตาม
“เจ้าอยากให้พี่เข้าไปช่วยมั้ย” เธอส่ายหน้า
“นั่นจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย และเราจะไม่มีโอกาสครั้งที่สองในการกลับไปเริ่มใหม่”
“งั้นอดทนอีกสักหน่อยเถอะ พวกพี่สัญญาแล้ว ว่าเจ้าจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป”
ดวงตาสองคู่ต่างสีสันจ้องมองผู้ที่มีเกศาสีเดียวกับตนด้วยความรู้สึกโหยหา
ปราถนาอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่เคยได้รับ
เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง
.
.
.
“เห้ย ทำไมพวกมันน้อยลงแล้วละ” โทนี่ถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
ไม่นานหลังจากธอร์ตามโลกิขึ้นไปบนยานหลังของธานอส ศัตรูที่ตอนแรกมียั้วเยี้ยค่อยๆหายไปจนไม่แทบไม่เหลือ หลังจากที่พวกเขาจัดการกลุ่มสุดท้ายไป นี่เป็นการโจมตีดาวแบบไหนกัน ไร้รูปแบบ ไร้แววที่จะชนะ คล้ายกับมาเพื่อก่อกวนให้โลกปั่นป่วนเพียงเท่านั้น
“อาจะเพราะมันได้ตัวโลกิไปแล้ว” คลินท์ออกความเห็น ซึ่งโทนี่เองก็ค่อนข้างเห็นด้วย ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือความปลอดภัยของโลกิ
“เป็นไปได้ หวังว่าธอร์จะช่วยเขาออกมาทัน”
“แต่เพื่อคนๆเดียวที่ทำงานไม่สำเร็จ มันคุ้มค่าที่จะต้องลงทุนทำขนาดนี้เลยหรอ” หญิงสาวเพียงหนึ่งของกลุ่มเอ่ยถาม “ถ้าหากธานอสคือบุคคลที่ทำให้ทั้งกาแล็กซี่ต้องปั่นป่วนได้ การกระทำที่ได้สิ่งตอบแทนไม่คุ้มค่ากกับแรงที่ลงไป คนแบบนั้นจะยอมทำหรอ”
“ผมว่าสิ่งเขาจะได้ตอบแทนมันไม่น่าใช่แค่ชีวิตของโลกิ” สตีฟเอ่ยพลางมองไปยังยานต่างดาวลำยักษ์ที่ลอยลำอยู่นอกชั้นบรรยากาศนั่น ยานลำอื่นที่ขนาดเล็กกว่าถอนกำลังไปอยู่จุดนั้นเช่นกัน
สิ่งที่เขาได้ตอบแทนจากชีวิตโลกิมันชวนหอมหวานขนาดไหนกัน
.
.
.
ยิ่งยืดเยื้อยิ่งอ่อนล้าราวกับนี่จะเป็นการปะทะที่ไม่มีวันจบลงได้ เขาต้องทำให้มันจบลงได้เสียที ทั้งสองต่างหอบหายใจ ทั้งสองต่างบาดเจ็บ โลหิตไหลซึมตามร่างกาย ขนสีเงินถูกย้อมให้หม่นแสง ร่างสูงขยับกายติดขัดจากแผลแรกที่หญิงสาวฝากไว้ สะบักสะบอมไม่ต่างกัน
ร่างของหมาป่าขนาดใหญ่ทรุดกายลง เหนื่อล้ากับการที่ต้องอยู่ในร่างนี้ เมื่อมันใช้พลังกายมากเกินไปการกลับร่างที่เล็กและเคลื่อนไหวสะดวกกว่าย่อมเป็นเรื่องดี ร่างใหญ่นั้นค่อยๆแปรเปลี่ยนเล็กลงเรื่อยๆจนมีความสูงไม่ต่างจากธอร์ เรือนผมยังคงเป็นสีเงินยวง สัญชาตญาณของนักล่ายังไม่หายไปจากดวงตาสีฟ้า
“หึ เจ้าเก่งกว่าที่ข้าคิดไว้จริงๆ” ชายหนุ่มเอ่ยเย้ยหยันแม้กำลังเหนื่อยอ่อน ต่างจากร่างสูงที่มีสภาพไม่ต่างกันแต่ยังคงยื่นได้อย่างมั่นคง หรือไม่ก็พยายามให้ดูมั่นคง
“หยุดพล่ามแล้วหลีกทางเสียที”
“ไม่มีทาง เขาสำคัญขนาดที่เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเลยรึ กลับไปดูแลคนของท่านไม่ดีกว่ารึเจ้าชายแห่งแอสการ์ด”
“เจ้าไม่รู้เรื่องก็อย่ามาพูดให้มากความ”
“โอ้ ข้าว่าข้ารู้นะ รู้เยอะเสียด้วย” รอยยิ้มร้ายฉายชัดบนหน้าคม เอ่ยต่อไม่สนใจว่าธอร์จะโมโหเพียงใด “โลกิ บุตรแห่งลาฟฟี่ ทรราชแห่งแอสการ์ด ผู้ที่เปิดทางให้ศัตรูเข้ามาในวังในวันที่เจ้าจะขึ้นเป็นราชาจนเป็นชนวนสงครามระหว่างเผ่า ทำให้ท่านไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ซ้ำยังถูกส่งมายังมิดการ์ด ไหนยังสังหารบิดาแท้ๆเพื่อให้คนที่คิดว่าเป็นบิดาภูมิใจ ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเช่นไรกันถึงทำเรื่องเช่นนี้”
“หยุด”
“แกล้งทำเป็นว่าตายไปแล้ว แต่ก็กลับมาสร้างความวุ่นวายให้ดาวที่สตรีที่ท่านชอบพออยู่ คนเช่นนี้คงเป็นคนไร้ความรู้สึกกระมัง เอาตัวรอดมาได้ทุกอย่างเช่นนี้ หรือไม่แน่อาจจะเคยเอาตัวเข้าแลกเพื่อบรรลุเป้าหมายก็เป็นได้นะ ท่านว่ามั้ย? บุตรแห่งโอดิน” ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย
ธอร์พุ่งตัวเข้าใส่ทันทีที่เขาพูดจบ แรงจากโทสะทุ่มกดอีกฝ่ายลงกับพื้นจนเกิดรอยร้าวเป็นวงกว้าง และตามมาคร่อมทับไว้ไม่ให้ขยับ
“ท่านพี่!” อีกสองชายหญิงเรียกชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง
“หุบปาก!! โลกิเป็นคนที่เข้มแข็งและอ่อนโยนที่สุดที่ข้าเคยเจอมา พวกเจ้าไม่ได้รู้จักเขาเช่นข้า อย่ามากล่าวราวกับว่าเป็นคนไร้หัวใจ! เรื่องที่เคยผ่านมาแล้วมันยังไง เหตุผลที่เขาทำมันทั้งหมดนั่นข้ารู้แล้ว แล้วมันจะทำไมกันละ!?”
อนุชาเขาแท้จริงแล้วไม่เคยต้องการอำนาจ
ที่ทำไปเป็นเพียงเพราะความน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง หากโลกทั้งใบที่เคยคิดว่ามีพังลงไปต่อหน้า
คิดว่าคนๆนึงจะรับไหวหรอ
ความแค้นที่เกิดขึ้นจนวิ่งไปขอพลังจากธานอสมันผิดที่ตรงไหนกัน
หรือคำพูดร้ายๆที่เคยพูดใส่เพียงเพื่อปกปิดความอ่อนแอภายในมันผิดตรงไหนกัน
ทุกอย่างมันก็เป็นเพราะเขาเองที่ใส่ใจไม่มากพอที่จะรู้ว่าโลกิรู้สึกเช่นไร
โลกิรักแอสการ์ดมากกว่าที่ใครคิด รักและเคารพท่านพ่อท่านแม่มากเท่าที่คนๆนึงจะรู้สึกได้ ไม่รู้ว่าหลังจากโดนหักหลังด้วยเรื่องโกหกนานนับร้อยปี หลังหน้ากากนั้นต้องร้องไห้มาเพียงไรถึงจะสามารถกลับมาเข้มแข็งได้ดังเดิม
“เจ้ากำลังแก้ต่างให้คนทรยศหรือนี่ ช่างน่าอับอายนัก แค่ก!” แม้กำลังตกเป็นรองก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดหวั่นใดๆ ออกคำสั่งผ่ายสายตาไม่ให้คนอ่อนกว่าทั้งสองเข้ามายุ่ง ถึงร่างกายจะปวดร้าวเกินกว่าจะขยับก็ยังเลือกที่จะพูดต่อไป
เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันที่เขาจะชนะคนๆนี้ได้
“น่าอับอายหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกอย่างเจ้าจำเป็นต้องมาตัดสินใจแทน!”
“หึ ความพยายามที่ไร้ประโยชน์นั่น เจ้าจะทำไปทำไมกัน”
“เพราะเขาคือดวงใจเพียงหนึ่ง
เพราะข้ารักโลกิ และข้าจะไม่มีวันเชื่อสิ่งที่ใครว่าร้ายเขา
หากข้าไม่ได้เห็นมันด้วยตาคู่นี้เอง” ความหนักแน่นในน้ำเสียงและแววตานั้นที่ตอบทำให้ทุกคนชะงัก
“...ฮะ ฮ่า” ชายหนุ่มสภาพสะบักสะบอมเจ้าของผมสีเงินยวง ยกมือทั้งสองขึ้นปิดบังใบหน้าของตนไว้ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่กำลังขันกับคำพูดของธอร์ แต่กำลังเย้ยหยันในโชคชะตา ไม่มีความหรรษาเจือ ทั้งหมดทำเพียงเพื่อซ่อนความเจ็บปวด จนผู้ได้ยินกัดฟันกรอด
“...ทำไม...ทำไมกันนะ” น้ำเสียงที่เคยหยิ่งยโสตอนนี้กำลังทรมาน
ธอร์มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วยความสับสน
หากต้องการชีวิตทำไมจนป่านนี้ถึงไม่ลงมือ ทั้งเขาและโลกิยังมีชีวิตอยู่
แม้บาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับจะเอาชีวิตได้ เป้าหมายแท้จริงคืออะไร
แล้วทำไมพวกเจ้าต้องทำท่าทีเจ็บปวดเช่นนี้ด้วย ไม่ใช่ควรเป็นข้าหรือที่ต้องทำเช่นนั้น
“ทำไมถึงไม่เกิดขึ้นเร็วกว่านี้กันนะ น่าปวดใจจริงๆ ฮึก...” จนสุดท้ายก็ไม่สามารถกลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้อีกต่อไป
ร่างสูงลุกออกจากตัวชายหนุ่มมองทั้งสามสลับกันไปมา การที่มีจำนวนของแต่ละฝ่ายต่างกันขนาดนี้ปกติน่าจะเข้ามาพร้อมกัน ถึงจะมีโอกาศชนะมากกว่า ทำไมเด็กพวกนี้ไม่ทำ? ยังคงหยุดนิ่ง เขาเองก็ด้วย
“อะไรของพวกเจ้า ตั้งใจจะทำอะไรอยู่กันแน่ หากคิดจะเอาชีวิตก็เข้ามา ไม่ว่ายังไงข้าก็จะไม่ยอมตายจนกว่าจะได้โลกิกลับมา! และหากไม่คิดจะสู้อย่างจริงจังก็หลบไป!” ธอร์ตวาดอย่างหัวเสีย คนพวกนี้ทำให้เขาหงุดหงิด
หญิงสาวเพียงหนึ่งส่ายหน้าช้าๆ
“หากท่านตายไป ที่พยายามมาจะมีประโยชน์อะไรกัน” เป็นครั้งแรกที่ธอร์เห็นรอยยิ้มที่ไร้สิ่งใดแอบแฝงจากเธอ
“พวกเจ้า!?”
“ท่านรู้จักแร็กนาร็อกรึเปล่า บุตรแห่งโอดิน”
“รู้จัก”
ตำนานโบราณเกี่ยวกับสงครามระหว่างทวยเทพและอสูร
ฝั่งหนึ่งนำทัดดยโอดินและธอร์ อีกฝ่ายคือโลกิ ความขัดแย้งซึ่งนำมาสู่อวสานของอิกดราซิล
ก่อนที่เซิร์ทยักษ์แห่งไฟจะกวัดแกว่งดาบเหนือขว้างลูกไฟให้ลุกไหม้ล้างทุกสิ่งหายไปทั้งเก้าโลก
เพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ว่ากันว่า เทพีแห่งชะตากรรม ได้บอกเรื่องนี้กับโอดินบิดาแห่งทวยเทพไว้ล่วงหน้า
หวังให้เขาได้แก้ไขไม่ให้หายนะนี้เกิดขึ้นซ้ำ แต่โอดินก็พลาดเสียทุกคราไป
โชคชะตาอันเลวร้ายวนซ้ำซากไม่รู้กี่พันครั้ง
และทุกเรื่องราวในแต่ละครั้งจะมี เทพีผู้ทักทอ จดบันทึกลงบนผืนผ้าแห่งโชคชะตา
ผู้หนึ่งชี้แนะ ผู้หนึ่งจดบันทึก
เทพีทั้งสองยังคงคาดหวังเรื่องราวแบบใหม่เสมอ... เช่นเดียวกับพวกเขาทั้งสาม
“มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหนกัน”
“พวกข้าทำไปเพียงเพื่อทดสอบท่านเท่านั้น บุตรแห่งโอดิน” เธอมองไปร่างโปร่งที่นอนไม่ได้สติจากเวทมนต์ที่เธอร่ายไว้ พวกเธอไม่อยากให้คนผู้นี้ตื่นมาพบพวกเธอทั้งสาม อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาสมเท่าไหร่นัก
“ทดสอบข้า? เพื่ออะไร”
“ทดสอบว่าท่านจะดูแลมารดาของพวกเราได้หรือไม่” ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำขลับเอ่ย พร้อมกับเจ้าของเรือนผมสีเงินจะลากตัวเองมายืนพร้อมกันข้างแท่นที่โลกินอนอยู่
“มารดาพวกเจ้า ...ห๊ะ! มารดา?”
TBC.
อ่านเกี่ยวกับสงคราม Ragnarok >>>จิ้ม<<< ทางนี้เลยค่ะ เราว่าของทางนี้อธิบายได้เข้าใจง่ายดีค่ะ
TALK:: แบบว่าจากตอนเมื่อกี้คือมีหลายๆคนมาคอมเมนท์ให้กำลังใจกับบอกว่าคิดถึงนิยายเรื่องนี้ และยังติดตามอยู่ ถึงไม่ได้หลายคนมากมายอะไรแต่เป็นกำลังใจให้เรามากๆเลยค่ะ ขอบคุณอีกหลายๆครั้งเลยค่ะTTuTT ดีใจมากๆๆๆๆที่ยังติดตามกัน น่าจะไม่ได้มีโอกาสมาต่อบ่อยๆแต่จะพยายามเขียนเรื่องนี้ให้จบตามสมกับที่รอมานาน สัญญาเลยค่ะ ใช้เวลาต่อจากนี้ไม่น่านานมากเพราะคิดว่าน่าจะจบได้ในอีกไม่เกิน 5-6ตอน
ส่วนตอนนี้แบบว่าเขียนฉากต่อสู้ไม่เป็นอย่างแรงเลยค่ะ ออกมางงๆรึเปล่า5555 งงหรือไม่เข้าใจมาเม้นทิ้งไว้ได้นะคะเราจะไปเขียนตอบไว้ ถ้าไม่เป็นการสปอยเนื้อเรื่องในตอนต่อๆไป เรื่องของเทพอันนี้บางส่วนเราเพิ่มเติมขึ้นมาเองค่ะ จะไม่ตรงกับตำนานของจริงหรือจาก MCU 100%
ว่าแต่ทุกคนคิดว่าภาษาของเราเป็นยังไงบ้างคะ ver.สมัยก่อนกับ ver.ปัจจุบัน ชอบแบบไหนมากกว่าหรือว่าไม่ต่างกันเลยมาบอกเราหน่อยนะคะ เพราะเรากำลังคิดว่าควรจะrewrite บทที่1-8 ดีมั้ยอยู่ ทุกคนคิดว่ายังไงบ้างงง
ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะะะ หรือจะเข้ามาทักกันบนทวิตก็ได้ค่ะ>> BlackWolfs_life
ความคิดเห็น