ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่7: ความทรงจำ
บทที่ 7
เช้ามืดวันถัดมา
'ติ้ดๆ~ติ้ดๆ~ติ้ดๆ~'
"อือ~"
ร่างบางส่งเสียงครางในลำคออย่างเกียจคร้าน เมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาส่งเสียงปลุกให้ตนตื่นจากนิทรา เปลือกตาค่อยๆปรือเปิดขึ้น `นี่ไม่ใช่เพดานห้องเขานี่นา..` ร่างบางพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่มีแรงหนึ่งรั้งไว้ที่เอวจากด้านหลัง เมื่อหันไปก็เจอกับเจ้าของเรือนผมสีทองกำลังนอนหลับสบายราวกับเสียงนาฬิกาไม่มีทางจะปลุกเจ้าตัวได้ `อา....ใช่ เมื่อวานเขามานอนที่ห้องของธอร์ เพราะห้องของเขาโดนพวกเอเลียนมันระเบิดกำแพงเป็นรูบะเล่อ..แต่เดี๋ยวนะ....!!`
"เห้ย!!"
'พลัก!ตุบ!' เมื่อทอมเริ่มได้สติก็ออกแรงถีบร่างสูงที่กอดตนอยู่ตกจากเตียง พลันคนขี้เซาก็ตื่นเพราะความเจ็บที่หัวกระแทกพื้น
"โอ้ย!! ถีบข้าทำไมนะทอม"
"ใครเขาอนุญาติให้นายมานอนกอดฉันกันหะ!?"
"ก็เจ้าเป็นคนบอกให้ข้ามานอนที่เตียงด้วยกันไม่ใช่รึ"
"แต่ก็ไม่ได้อนุญาติให้นายมากอดฉัน!!"
----------------
"หากเจ้าไม่ไหวให้บอกข้าทันทีเข้าใจหรือไม่" ร่างสูงหันไปกำชับร่างบางเป็นรอบที่เท่าไหรก็ไม่รู้ จนทอมเริ่มชักสีหน้าใส่อย่างรำคาญ ร่างสูงจึงรีบง้อแทบไม่ทัน "ข้าเพียงแต่เป็นห่วงเจ้า ได้โปรดอย่างเพิ่งโกรธข้าเลยนะทอม"
"ฉันเป็นผู้ชายนะธอร์ ไม่ใช่ผู้หญิงฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น"
"ข้ารู้ แต่ก็ไม่อาจที่จะห้ามไม่ให้เป็นห่วงเจ้าได้ เพราะข้า..." ไม่อยากที่จะเสียเจ้าไปอีกแล้ว ธอร์คิดพลางเผลอแสดงสีหน้าที่หม่นลงจนร่างบางนึกสงสัย
"เพราะอะไร?"
"เปล่า ไม่มีอันใดหรอก" ร่างสูงรีบเปลี่ยนสีหน้ากลับมาแล้วหันไปส่งยิ้มให้แก่ร่างบาง
"พูดแล้วก็ไม่ยอมพูดต่อให้จบ" ทอมทำหน้ายู่ไม่พอใจ จนโทนี่ที่นั่งมองสองพี่น้องเทพที่งุ้งงิ้งกันไม่เลิกส่ายหน้าไปมาเบาๆ
"เอาเหอะนะทอม~จะงุ้งงิ้งอะไรกันแต่เช้าเนี่ย"
"เรื่องของฉัน" ร่างบางหันไปแว้ดใส่โทนี่ทันที จนโทนี่ได้แต่ยกมืออย่างยอมแพ้
"ข้ายังบอกเจ้าไม่ได้ทอม หากถึงเวลาข้าจะบอกเจ้ารู้เอง"
"สัญญา?" ร่างบางสะดุ้งกับคำกล่าวของเทพสายฟ้า จึงเงยหน้าจ้องเข้าไปดวงตาสีฟ้านภา
"แน่นอน"
ทำไมคำพูดเช่นนั้นมันช่างคุ้นเหลือเกินเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนในความฝัน... เขาเคยได้ยินมันในทุกราตรีที่เข้าต้องจมอยู่กับฝันร้าย `เป็นเจ้าจริงรึป่าวธอร์ผู้ที่คอยช่วยข้าให้หลุดออกมาจากฝันร้ายนั่นนะ`. ธอร์ที่ถูกทอมจ้องถึงกับทำตัวไม่ถูก "เอ่อ..หน้าข้ามันมีอะไรติดอยู่รึ"
"เปล่า" ร่างบางหันหน้าหนี "ฉันไปเตรียมตัวก่อนนะ เราไม่รู้ว่าเจ้าธานอสมันจะโผล่มาตอนไหน"
"เข้าใจแล้ว งั้นเจ้าก็ไปเถอะ" ร่างบางพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตน ร่างสูงมอตามหลังจนทอมหายไปจากสายตา
"มันจะดีจริงๆรึโทนี่ ที่ให้โลกิไปร่วมรบด้วย เพราะเวลาข้าไปรบโลกิไม่ยอมที่จะไปด้วยสักครา ข้ากลัว..กลัวว่าจะไม่สามารถปกป้องเขาได้อีก" ธอร์แสดงสีหน้าเจ็บปวดอย่างไม่คิดจะปิดบังใดๆ
"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะพ่อขุนค้อน ฉันเป็นเจ้านายทอมนะไม่ใช่พี่ชายแบบนาย ที่รู้แทบจะทุกเรื่องทอมนะ"
"บางคราข้าก็คิดว่า ข้าแทบจะไม่เข้าใจโลกิเลย"
"ทำไมละ"
"ยิ่งข้าพยายามจะเข้าใกล้ โลกิยิ่งพยายามจะตีตัวออกจากข้ามากเท่านั้น"
"น้องนายนี่โลกส่วนตัวสูงแหะ นายก็ไปเตรียมตัวได้แล้วธอร์" โทนี่ยักไหล่
"อา งั้นเดี๋ยวข้ามา"
"เฮ้อ...อะไรมันจะยุ่งยากขนาดนี้เนี่ย" เมื่อธอร์เดินจนลับตาไปก็ถอนหายใจพร้อมบ่นออกมาอย่างเพลียใจ ทำเอาร่างสูงที่เข้ามาใหม่มองอย่างเป็นห่วง
"เป็นไรหรอโทนี่"
"ป่าวหรอกแคป แค่เหนื่อยแทนพ่อขุนค้อนก็เท่านั้นเอง ฉันละไม่เข้าใจพวกเทพ จะทำให้มันยุ่งยากไปทำไมกะอีแค่บอกเจ้าตัวว่า 'เจ้าคือโลกิไงละ น้องข้า' แค่นั้นก็จบเดี๋ยวหมอนั่นก็จำได้เองแหละ" โทนี่บ่นต่ออีกเสียยาวทั้งยังดัดเสียงทำท่าประกอบ จนกัปตันหลุดขำกับมันอย่างเสียไม่ได้ ร่างบางก็ได้แต่ส่งค้อนวงโตไปหยุดอีกฝ่ายเท่านั้น
"ผมว่านั่นจะเป็นการบีบคั้นทอมเกินไปนะ" กัปตันรีบเสนอความคิด
"แต่ถ้าถึงเวลาจริงๆ..มันก็ต้องอยู่ดีทำใช่มั้ยละ ถ้าทอมไม่สามารถเอาความทรงจำกลับมาได้นะ"
"ก็รู้ แต่ถ้าได้ลองพยายามก็ดีกว่านะ"
"นั่นสินะ.." ร่างบางพยักหน้างึกๆเห็นด้วย "แต่ถ้าหมอนั้นจำได้ก็จะเป็นกำลังรบที่สำคัญเชียวนะ แถมเจ้านั้นถึงจะทั้งเจ้าเลห์แถมน่าหมั่นไส้ก็เป็นจอมวางแผนชั้นยอดที่หาตัวจับได้ยากเชียวนะ ยังไงทำให้จำได้ก็ดีกว่าอยู่ดีนั่นแหละ!"
"ไม่เถียงสำหรับข้อนี้ แต่จะทำไงละโทนี่" กัปตันมองเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอย่างตั้งใจ แต่คำตอบก็เล่นทำเอาเขาแทบหงายหลัง
"ยังไม่มีแผน" ร่างบางที่เห็นท่าทางของสตีฟก็ทำหน้ายู่ไม่พอใจ "อะไรเล่า!นายคิดเองมั้ยละพ่อคนเก่ง ดูสิขนาดธอร์มาอยู่ใกล้ขนาดนี้เจ้าตัวยังจำไม่ได้แล้วอย่างเราจะทำอะไรได้ละ แถมอยู่กับพวกเราที่เมื่อ 5ปี สู้กันจะปานฆ่ากันตายขนาดนั้นได้โดยไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักนิดนะ! มันแทบไม่มีหนทางที่จะเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ" ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ต้องทำไงนะถึงจะทำให้ทอมที่ทรมานจำเรื่องของตนเองไม่ได้จำได้สะที....
"เดี๋ยวนะ!" ไหงเขาถึงรู้ว่าทอมทรมานที่จำไม่ได้กันละ...ใช่หมอนั่นเคยถามเขาเรื่องนี้ เคยถามเขาว่าเคยลืมอะไรไปแล้วพยายามเท่าไหรก็นึกไม่ออกมั้ย..... "ใช่แล้ว!!!!" อยู่โทนี่ก็โพลงขึ้นมาหลังจากที่เงียบมาสักพักทำให้อีกคนนั่งช่วยครุ่นคิดอยู่ข้างสดุ้งตกใจ แล้วหันมามองอย่างไม่เข้าใจ
"ทำไมหรอ?"
"ไม่ใช่ว่าทอมจำไม่ได้หมอนั่นต้องเคยฝันเห็นมันแน่ๆ!" ร่างบางหันมาตอบด้วยสีหน้ายินดี
"เห็นอะไร?"
โอ้ย! ก็ความทรงจำไงเล่าพ่อตาแก่ล้านปี!"
"จริงหรอ!!!"
"ก็ใช่ไง! ทอมเคยถามฉันเรื่องนี้ เหมือนหมอนั่นบอกว่าตัวเองจะลืมอะไรสักอย่างที่สำคัญมากๆไปนะ"
"งั้นเราก็มีหวังแล้วสิ แต่ประเด็นคือเมื่อไหรกันละ"
"ก็คงต้องทำตามที่นายบอกแหละแคป คงทำได้แค่รอนะ...เฮ้อ.." พูดจบก็ถอนหายใจอย่างเหนื่ออ่อน
"แล้วที่จะให้ทอม- ไม่สิโลกิในตอนนี้...หมายถึงโลกิที่ไม่มีความทรงจำร่วมสู้มันจะดีจริงๆหรอครับ ถึงจะได้พวกเราฝึกให้มาตลอดก็เถอะ"
"ฉันก็กังวลเรื่องนั้นอยู่เหมือนกันน่ะ แต่คงได้แค่ต้องเชื่อใจทอมเท่านั้นแหละ"
"ครับ คุณก็ต้องระวังตัวด้วยนะโทนี่"
"รู้อยู่แล้วน่าาา ว่าคุณปู่ล้านปีของฉันต้องเป็นห่วงฉันนะ" ร่างบางขยับเข้าไปใกล้ๆพร้อมเอาแขนโอบรอบคอร่างสูงเชิงหยอกล้อ
"ก็ดีแล้วครับ แต่ถ้าคุณบาดเจ็บสาหัสกลับมาผมจะไม่ยอมคุณกับคุณเป็นเดือนเลยคอยดู ฟอด!" กัปตันไม่ลิมที่จะแอบขโมยหอมแก้มคนช่างยั่ว "ก็อยากจะจูบอยู่หรอก แต่เดี๋ยวมันจะไม่ได้จบ 'แค่จูบ' นะสิครับ" คำพูดที่แสดงถึงความต้องการของตนเองออกมาอย่างไม่ปิดบังนั่น ทำให้คนที่เจนจัดกับเรื่องแบบนี้หน้าแดงอย่างเสียไม่ได้ 'ใครมันเอาความคิดแบบนี้มาใส่หัวพ่อแสนซื่อของเขากันเนี่ย!! เอาสตีฟคนเดิมของเขากลับมาา โดนรุกแบบนี้ใครมันจะไปชินกัน!!'
'ตุบ!'
"เสียงอะไร ดังมาจากข้างนอกนะ" ทั้งสองพละออกจากกันก่อนจะมองหน้ากันอย่างงุนงง
"เสียงเหมือนมีอะไรหล่นนะครับ"
"ฉันไปดูเอง" โทนี่ลุกไปเลื่อนประตูให้เปิดออกก็ต้องตะโกนออกมาอย่างตกใจไม่แพ้อีกคนที่เดินตามมาเช่นกัน เมื่อเจอร่างบางที่เป็นหัวข้อสนธนาเมื่อครู่นอนสลบทั้งกำกุมอกตนเองและยังหอบหายใจอย่างทรมานเหมือนคนฝันร้าย
"แฮ่ก...แฮ่กๆ...อึก..แค่กๆ"
"ทอม!!!!"
------------------
อีกฝากของกำแพง
ร่างบางเจ้าของผมสีดำขลิบราวกับขนอีกาที่เตรียมตัวเสร็จกำลังจะเข้าไปในห้องทำงานของโทนี่ ก็ต้องชะงักมือที่จะเลื่อนไปเปิดประตูค้างไว้กลางอากาศ เมื่อได้ยินว่าบทสนธนาข้างในกำลังพูดถึงตนอยู่ แถมเนื้อหาที่พูดกันอยู่ยังเป็นเรื่องที่เขาสงสัยด้วยเช่นกัน
.
.
.
'จริงรึ!!!'
'ก็ใช่ไง! ทอมเคยถามฉันเรื่องนี้ เหมือนหมอนั่นบอกว่าตัวเองจะลืมอะไรสักอย่างที่สำคัญมากๆไปนะ'
........ใช่ เขาเคยกับโทนี่เรื่องนี้แล้วมันมีอะไรเป็นพิเศษ ทำไมสตีฟถึงต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้นกัน
'งั้นเราก็มีหวังแล้วสิ แต่ประเด็นคือเมื่อไหรกันละ'
......มีหวังเรื่องอะไรกันน่ะ แล้วเขาไปเกี่ยวอะไรด้วย
'ก็คงต้องทำตามที่นายบอกแหละแคป คงทำได้แค่รอนะ...เฮ้อ..'
........ทำไมต้องรอละ? ทั้งที่ฟังยังไงมันก็ดูสำคัญเหลือเกิน
'แล้วที่จะให้ทอม- ไม่สิโลกิในตอนนี้...หมายถึงโลกิที่ไม่มีความทรงจำร่วมสู้มันจะดีจริงๆหรอครับ ถึงจะได้พวกเราฝึกให้มาตลอดก็เถอะ'
....เมื่อกี้สตีฟเรียกเขาว่าอะไรนะ..'โลกิ'..ชื่อนี้มันช่างคุณเสียจริงๆ....!!!..วูบ..
'ฉันก็กังวลเรื่องนั้นอยู่เหมือนกันน่ะ แต่คงได้แค่ต้องเชื่อใจทอมเท่านั้นแหละ'
ร่างบางรู้สึกถึงลมบางอย่างที่พัดมาปะทะร่างขิงเขาเข้าอย่างจังทั้งที่อยู่มนอาคารที่ไม่มีทางมีลมที่จะมาพัดได้แท้ๆ แต่เขารู้สึกเช่นนั้นจริงๆ มันทั้งร้อนจนทำให้หายใจไม่ออก พลันภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของทอม มีเด็กคนหนึ่งกำลังที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายเขากำลังนั่งอ่านตำราเวท ที่ดูยังไงๆก็ดูไม่เหมาะกับเด็กอายุแค่นี้ เอ้ะ?ทำไมเขาถึงรู้ว่ามันเป็นตำราเวทละ ไม่ทันทีทอมจะได้คิดไปมากกว่านี้ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
'โลกิ!ไปเล่นกันเถอะ' พร้อมกับร่างของเด็กอีกคนที่มีเรือนผมสีทอง ดวงตากลมเล็กเป็นประกายสีท้องฟ้านภาอันกว้างใหญ่นั่นฉายแววสนุกสนาน
'แต่ข้าไม่อยากไปที่ ท่านพี่' แม้จะโดนอนุชาของตนปฏิเสธก็ยังคงดื้อดึงลากเด็กน้อยผมดำให้ไปกับตน
.....ภาพเปลี่ยนเป็นระเบียงโอ่อ่าสีทองดูหรูหราราวกับราชวังแดนเทพในนิทานก่อนนอนของเด็ก ทอมมองเห็นเจ้าของเรือนผมสีอีกาคนเดิม แต่ที่ดูแปลกตาไปคือส่วนสูงกับอายุที่ดูจะเพิ่มจากเดิมมามากโขกำลังยืนเหม่อมองออกไปยังนภาที่มีดวงดาราแข่งกันส่องแสงกันมากมายกว่าที่ปกติเขาเคยเห็น เขาตัดสินใจจะเข้าไปถามคนตรงหน้าว่าทั้งหมดนี่คืออะไรกันก็ถูกเสียงหนึ่งที่ฟังดูคุ้นเคยเสียเหลือเกินเหมือนที่เคยได้ยินในฝันเลยทอมคิดเช่นนั้น
'โลกิ ไยเจ้าไม่อยู่ในงานเลี้ยง ข้าหาเจ้าตั้งนาน'
'ข้าไม่ชอบที่ที่มีเสียงดังและผู้คนมากมาย เจ้าก็รู้นี่ธอร์' เสียงที่ร่างบางเอ่ยออกมาช่างเหมือนเสียงของเขาเลย ทำไมละ?แล้วยังชื่อนั่นอีก..ธอร์..นั่นคือเจ้าจริงๆหรือ?คนในฝันข้านะ แล้วคนที่อยู่ตรงหน้าข้านี่ก็คือข้านะรึ? ภาพเรื่องราวต่างๆไม่ใช่สิ..'ความทรงจำ'..สินะก็ไหลบ่าเข้ามาจนร่างร่างบางรับไม่ไหวจนทรุดตัวเอามือค้ำกับเข่าไว้
ทันใดก็รู้สึกมีบางอย่างแทงทะลุอกเขาไปดื้อๆเสียอย่านั้น เขากุมบริเวณที่รู้สึกเหมือนถูกแทงไว้แน่น
'อึก!..ทรมาน...' ณ ตอนนี้ไม่เหลือแรงใดๆพอที่จะใช้หยัดยืนได้อีกแล้ว เรี่ยวแรงทั้งถูกสูบออกไปจนหมด ร่างทั้งร่างทรุดลงกับพื้นทันที
"แฮ่ก...แฮ่กๆ...อึก..แค่กๆ"
"ทอม!!!!" ท่ามกลางสติอันเลือนลางก็เหมือนได้ยินเสียงประตูเลื่อนเปิดพร้อมกับเสียงตะโกนอย่างตกใจ เสียงใครกันนะ?..โทนี่?..สตีฟ?..
---------60%--------
"ช่วยด้วย... ช่วย..ข..ข้าด้วย..ธอร์.." ร่างบางไม่สามารถยื้ยสติของตนที่ค่อยๆพร่าเลือนได้ แต่ก่อนที่มันจะดับวูบไปเขาก็ได้ยินเสียงของผู้ที่เขาคนึงหามาตลอดแม้ยามฝันหรือยามใดก็ตาม ถึงความมั่นใจที่ว่าที่เห็นจะเป็นแค่ภาพหลอนที่เขาติดขึ้นแต่เขาก็ยังอยากจะเชื่อมัน แม้จะเป็นเพียงแค่ 'คำลวง' ที่ใครๆก็สามารถทำได้แต่ก็ยังจะเชื่อ...อาจจะเพราะ..ในนั้นมันมีเจ้าอยู่อย่างไรละธอร์..
"พวกเจ้าเอะอะอะไรกันเสียงดังนะ เกิดอะไรขึ้น....โลกิ!!!" ธอร์ที่ได้ยินเสียงโวยวายของสหายทั้งสองรีบวิ่งมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อมาถึงหัวใจของเขาร่วงหล่นลงไปอยู่แทบเท้าเขาเลย ราวกับเห็นภาพร่างบางขณะใกล้สิ้นใจซ้อนทับกับร่างบางที่กำลังนอนกุมหน้าอกพร้อมหายใจอย่างยากลำบาก ไม่ทันที่สมองจะได้สั่งการร่างทั้งร่างก็รีบถลาไปช้อนเจ้าของเรือนผมสีรัติกาล ด้วยความตกใจปนสับสนจึงเผลอเรียงชื่อที่คนคุ้นชินออกไปโดยไม่รู้ตัว
อา.....เจ้า..ก็เรียกข้า..ด้วยชื่อนี้ด้วยรึ...ธอร์..ด้วยชื่อของ...ข้า..'โลกิ' พลันสติก็ดับวูบราวกับใครมาปิดสวิตซ์
บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันยังติดสตั้น(ถรุ้ย!มันใช่เวลาเล่นมั้ยหะ!!?//โทนี่)เอ้ย! ยังคงตระหนกกับภาพตรงหน้าไม่หายจึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะเขยื้อนตัวไปไหน คงเป็นเทพสายฟ้ากระมังที่ดูจะได้สติก่อนใครรีบอุ้นร่างไร้สติที่ยังหายใจหอบถี่เช่นคนกำลังขาดอากาศหายใจไปนอนที่โซฟาซึ่งสบายกว่าพื้นหน้าห้องทำงานของโทนี่แน่นอน ก่อนจะนั่งลงที่พื้นแล้วนำมือเรียวมากุมไว้พร้อมกล่าวคำปลอบประโลม ดังเช่นทุกคราตั้งแต่เด็กๆเมื่อร่างบางฝันร้าย
"เจ้าไม่มีเรื่องอันใดต้องกลัวแล้วโลกิ ข้าอยู่นี่แล้วน้องข้า ไม่เป็นไร..เจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว..โลกิ..พี่อยู่ข้างๆเจ้าแล้ว" ร่างสูงลูบผมสีรัติกาลอย่างอ่อนโยน ลมหายใจของร่างบางค่อยๆผ่อนลงจนสงบ. แต่ความกังวลก็ยังคงฉายชัดอยู่บนใบหน้าของทุกคนและคำถามที่อยากได้คำตอมมากที่สุดคือ
'มันเกิดอะไรขึ้นวะ/ครับเนี่ย!?'
"มันเกิดอันใดขึ้นรึสหาย" ธอร์เงยหน้าขี้นถามหน้าเครียดจนคนถูกถามก็ทำได้เพียงอึกอักอย่างหาคำตอบไม่ออก ลำบากสมองกลต้องเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ดู แต่เหมือนทุกคนก็ยังไม่เข้าใจกันอยู่ดีว่าทำไมร่างบางอยู่ก็ล้มพับไป
`คุณทอมน่าจะได้ยินที่เจ้านายกับคุณสตีฟคุยกันนะครับเลยแอบฟัง` เมื่อได้คำตอบอย่างนั้นทั้งสองยิ่งหน้าเจื่อนลง โดยเฉพาะสตีฟที่ดูจะวิตกเป็นพิเศษ
"พวกเจ้าคุยเรื่องอะไรกัน" เมื่อได้ยินคำตอบร่างสูงก็หันไปถามสหายทั้งสองทันที
"พวกผมกำลังคุยเรื่องของคุณทอมอยู่ครับ เป็นความผิดของผมเองที่เผลอหลุดคำนั้นออกมา"
"เจ้ากล่าวอันใด!?"
"สตีฟเรียกชื่อของทอม 'โลกิ' " โทนี่เสริม "ไงก็เถอะรีบตามบรูซก่อนดีกว่านะ จาร์วิส" ธอร์พยักหน้ารับ ปล่อยให้สหายทำในสิ่งที่ควรทำ เขาจะโทษทั้งสองก็คงไม่ได้เพราะเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนุชาเขาจะมีปฏิกิริยากับชื่อตัวเองด้วย
'รับทราบครับเจ้านาย' ทันทีที่ได้รับคำสั่งระบบสมองกลก็ส่งข้อความไปให้พ่อยักษ์ตัวโตที่ยังไม่พร้อมออกรบให้มาอาการเลขาคนสวยทันที
.
.
.
"ทำไมทอมเป็นงี้หละ!?" คุณหมอจำเป็น(ทุกครั้ง)เบิกตากว้างเหมือนเห็นร่างที่กำลังทรมาน "รีบพาไปที่เตียงที" บรูซรีบสั่งการอย่างรวดเร็ว คนที่เร็วสุดกลับไม่ใช่กัปตันหรือโทนี่ แต่เป็นธอร์ที่รีบรุดมาช้อนแล้วพาขึ้นไปด้านบน
"เจ้าจะไม่เป็นไรดวงใจข้า.." ร่างสูงวางดวงใจตนอย่างเบามือที่สุดบนเตียงใหญ่ คอยลูบใบหน้าขาวพร้อมกอบกุมมือไว้แน่น และนิ่งแน่นขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำละเมออันแผ่วเบา เบายิ่งเสียกว่าเสียงกระซิบแต่กลับก้องอยในโสตเขาเป็นอย่างดี
"ช่วย..ช่วยข้า..ช่วยข้าด้วยธอร์...อย่า..ไปไหน.....อย่าปล่อยมือข้านะ..." ทอมกระชับมือหนาแน่นโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่ทำให้เจ้าทรมานคือการที่ข้าปล่อยมือเจ้าลงแล้วทิ้งเจ้าไว้ที่ดินแดนทมิฬนั่นใช่มั้ย เพราะข้าปล่อยให้ตายอย่างโดดเดี่ยวใช่มั้ย "อย่า...อย่าธอร์...อย่าทิ้งข้าไป" น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงเนตรมรกตที่ปิดสนิททั้งสองข้าง
"อึก!..ข้าอยู่นี่โลกิ! ข้ามาอยู่ข้างเจ้าแล้ว ข้ามารับเจ้าแล้ว ข้าโทษ...ข้าโทษ..อึก!.ที่ทิ้งเจ้าไว้เช่นนั้น" ไหล่กว้างองอาจภายใต้ผ้าคลุมสีแดงกำลังสั่นไหวอย่างอดกลั้น พยายามสุดความสามารถไม่ให้หยาดน้ำไหลริมลงมา ใบหน้ากร้านแดดซบลงไปบนมือเนียน หากร่างบางต้องทรมานเท่าใดเขาย่อมทรมานมากกว่าเป็นร้อยเท่า
"เอ่อ..ธอร์ขอฉันดูอาการของทอมหน่อยได้มั้ย" ร่างสูงได้ยินก็ค่อยลุกขึ้นแต่เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นก่อน จึงค่อยหย่อนตัวลงนั่งที่เดิมแต่ขะเยิบให้บรูซตรวจได้ดีขึ้น "นั่งต่อก็ได้น้องคุณคงต้องการคุณมากกว่าหมอนะ เพราะลมหายใจเริ่มดีขึ้นแล้ว ถึงยังดูทรมานแต่ก็น้อยลงมาก"
"เช่นนั้นรึ?" ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มออกออกมาเล็กน้อยอย่างโล่งใจ
"ฉันคิดว่าน่าจะเป็นความทรงจำที่ฝังใจมาก อะไรที่ทำให้ทรมานมาก คุณพอจะนึกออกมั้ยธอร์เพราะถึงจะบอกว่าเห็นทอมนอนกุมหน้าอกเอาไว้แต่ตรงนั้นมันมีแค่รอยแผลเป็นที่เจ้ายังจำไม่ได้ว่าไปได้มันมาตอนไหน พยายามเลี่ยงไว้ก็ดี น้องคุณเข้มแข็งขนาดไหนคุณยอมรู้ดีนะ" บรูซยิ้มบางให้กำลังใจ
"อืม โลกิถึงภายนอกจะแข็งกร้าว แต่ภายในกลับอ่อนไหวยิ่ง"
"ถ้างั้นก็คอยดูแลดีๆ แต่คงให้เขาลงสนามรบกับเราไม่ได้"
"ข้าเข้าใจดี" ร่างสูงพยักหน้าเบาๆ "คงต้องปล่อยให้รออยู่ที่นี่คนเดียวแล้วละ" ดวงหน้าคมเข้มฉายแววหมนหม่องออกมา เขาไม่อยากทิ้งอีกคนไว้คนเดียวอีกแล้ว อยากจะคอยอยู่ข้างๆ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือธาร์นอสไททันแปลกแยกตนนั้น เขาพอจะเคยได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างว่าร้ายกาจเพียงใด เขาต้องเป็นคนจักการด้วยตัวเขาเอง ธอร์โน้มหน้าลงไปจุมพิตบนหน้าผากนวลพลางกระซิบถ้อยคำให้ได้เพียงแค่สองคนก่อนร่างองอาจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
"ไปเถอะบรูซ ข้าต้องรีบจัดการเรื่องนี้ก่อนที่อนุชาข้าจะคืนสติ" พร้อมกับแบมือค้างไว้กลางอากาศไม่นานศาสตราวุทคู่ใจก็มาอยู่ในมือหนา แล้วเดินนำออกไปจากห้อง คุณหมอจำเป็นก็เดินตามมาติดๆเพื่อไปสมทบกับสมาชิกคนอื่นด้านล่าง "ข้าพร้อมแล้ว"
"แล้วปล่อยให้ทอมอยู่นี่คนเดียวมันจะดีหรอ" แม่ม่ายดำเอ่ยถาม
"เดี๋ยวจะให้จาร์วิสคอยรายงานสถานการณ์ทางนี้ให้เอง" โทนี่พูดให้เทพสายฟ้าคลายกังวลลงบ้าง
"ขอบใจนะสหาย ทั้งที่ข้าคอยแต่นำปัญหามาให้ดาวของพวกเจ้าแท้ๆ" ฟิวรี่เข้ามาตบไหล่ให้กำลังใจ
"ถึงคุณไม่สร้างเรื่องก็ใช่ว่าเจ้าพวกนี้จะไม่ทำน่ะนะ" ฟิวรี่เข้าไปตบไหล่ให้กำลังใจพร้อมแอบหัวเราะถูกใจเบาๆในลำคอ
"ไม่ต้องมาทำพูดดี นายก็ใช่ว่าจะไม่สร้างเรื่องอะไรเลยนิค" ฮอคอายอดไม่ได้ที่จะแซะหัวของทีมอย่างเซ็งๆ
"อย่ามัวเมาส์กันแล้วรีบออกไปลุยกันเถอะรู้สึกสนิมเกาะชุดหมดแล้วไม่ได้ออกโรงมานาน เอาให้เจ้าหน้าชมพูนั่นตั้งตัวไม่ทันกันไปเลย!" ร่างโปร่งตื่นเต้นที่จะได้เอาลูกๆ(?)คนสวยออกไปกระทบฝุ่นสักหน่อยให้หายคิดถึง
ท่าทีดีใจเกินเหตุไม่เข้ากับสถานการณ์ยิ่งทำให้คนอื่นพากันทำหน้าเอือม แต่ก็เพราะโทนี่ทุกคนก็กระตือรือล้นที่จะปฏบัติการจัดการแขกไม่ได้รับเชิญออกไปจากโลกของพวกเขา
"งั้นจะรออันกันอีกละ รีบไปกันสิ!"
ทุกคนพยักหน้าแล้วออกเดินไม่ยังยานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโยโลยีที่สตาร์กพัฒนาจนล้ำหน้าอาวุทยุทธโธปกรณ์ของกองทัพไปไกล ไม่นานยานสีดำเมื่อมก็เคลื่อนตัวออกจะสตาร์กทาวเวอร์ ทันทีที่ประตูหลังของยานปิดลง
"ธอร์ ผมไม่อยากจะคิดมากหรืออะไรนะ แต่ถ้าน้องคุณคงจะไม่ตื่นมาแล้วน้อยใจ โวยวายจะทล่มโลกอีกใช่มั้ย" สตีฟเอ่ยถามอ้อมแอ้ม นำพาเสียงหัวเราะชวนตะลึงกับคำถามที่ออกมาจากปากคุณปู่ร้อยปี ที่ได้ขึ้นแท่นสุภาพบุรุษทุกหล่อกล้ามแน่นขวัญใจสาวแท้สาวเทียมให้ใจละลายกันทั้งโลก
"55555555555555555!!!!" พอได้คำตอบแบบนี้มาก็เริ่มทำหน้าไม่ถูก
"ผมพูดอะไรผิดไปหรอ"
สมาชิกต่างพากันกลั้นขำแต่ก็เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร เสียงหัวเราะในลำคอยังคงดังอยู่เป็นระยะๆ คงมีในหัวทุกคนคือ 'นั่นนายกำลังพยายามเล่นมุขอยู่โดยไม่รู้ตัวใช่มั้ยหะพ่อคู้นนนนน!!?55555555555!?'
.
.
.
.
TBC......
จ้ะเอ๋!! ก็จบไปอีตอนละน้าาา ตอหน้าคงแอคชั่นหน่อยเพราะไรต์แต่เวลาคนไฟต์กันไม่เป็นสะด้วย แต่ก็จะพยายามแต่งต่อแล้วเอามาลงให้อ่านกันแล้วนะครับ^^ คิดถึงรีดเดอร์ทุกคนจังเลยยย~<3 รีดเดอร์คิดถึงไรต์กันอ้ะป่าวววว ถ้าคิดถึงอย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจให้ผมด้วยน้าสาา ช่วงนี้กำลังแต่งลื่นจะพยายามแต่งต่อให้อีกน้าาาา>[ ]<
ปล.ตอนเดิมนะแต่แค่มีลงใหม่+อัพบางส่วนเพิ่ม
ปลล.ใครพอจะมีทริกหรือข้อเสนอการแต่งฉากต่อสู้มั้ยครับ ถ้ามีช่วยเม้นบอกกันหน่อยยยน้าาา ไม่ก็แอตเฟสผมมาแล้วทักมาด้วยนะ (ผมเคยแอบให้ลิ้งเฟสไว้สักตอนหนึ่งของนิยาย ถ้าอยากรู้ก็ลองไปหากันดูน้าาาา อิอิ)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น