คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1: Beginning
-7 โมงนาฬิกา 45 นาที
สายฝนพรำกับกลุ่มเมฆสีครามปกคลุมดวงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่ ต้อนรับหญิงสาวชายหนุ่มที่ทยอยเดินเข้ามาโรงเรียนด้วยร่มคู่ใจ บางคนเดินจู๋จี๋มากับแฟน บางคนติดแหน็บอยู่กับเพื่อน บางคนก็เดินกางร่มอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เป็นการสะท้อนได้ดีว่า ณ โรงเรียนแห่งนี้ มีผู้คนหลากหลายประเภทมากมายขนาดไหน แต่เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งชินตาสำหรับหนุ่มๆเนื้อหอมทั้งสี่ ที่นั่งเล่นอยู่ในห้องเรียนตั้งแต่เช้าตรู่อย่างเบื่อหน่ายพลางทอดสายตาออกไปหน้าต่างซึ่งเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน มีเพียงแต่ชายหนุ่มผมแดงนามว่า เรโน่ กำลังยืนพิงผนังอ่านหนังสือโบราณที่เพิ่งยืมมากจากห้องสมุดอย่างจดจ่อราวกับว่าในโลกนี้มีแค่เขากับหนังสือนี้เท่านั้น ทว่าความอยากจะอ่านต่อคงมีมากกกว่านี้หากไม่มีเสียงหัวเราะคิกคักชวนกวนเส้นประสาทจากคนบางคน
"ขำไรแซ็ค ตูอ่านหนังสือมันผิดตรงไม่ทราบ?"
เรโน่จิกตาใส่หนุ่มเพลยบอย์ชั้นเทพ(และกวนบาทา) ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารณ์พร้อมกับปิดหนังสือดังพรึบ
"โอย ผิดตั้งแต่กิ้งก่าโง่ๆแบบแกเหยียบเข้าห้องสมุดแล้วเว้ย เมนส์มารึไง ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นแกจะไปเหยียบ"
ถึงจะจริงอย่างที่พูดก็เถอะ แต่เล่นพูดในสีหน้าท่าทางดูถูก(โคตรๆ)แบบนั้น พ่อขอสวนกลับให้หนำใจหน่อยเหอะ
"ไรวะ ก็ช่วงนี้ข้าเบื่อๆนี่ อีกอย่างหนังสือเล่มนี้น่ะมันไม่ธรรมดาเหอะ เพราะมันเล่าถึงคริสตัลในตำนานอะไรสักอย่าง ถ้าหากใครครอบครอง คนๆนั้นจะเป็นอมตะและมีพลังมากมายเลยนะ และที่สำคัญ..มันบอกโลเคชั่นของคริสตัลที่ว่าอีกด้วย ไม่แน่นะเว้ย มันอาจจะมีจริงก็ได้"
"เพ้อเจ้อ" หนุ่มน้อยผมทองนั่งเอกเขนกขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยตามสไตล์ สั้น ง่าย ได้ใจความ ถ้าจะเถียงกับนายคนนี้ล่ะก็ขอบายดีกว่า เพราะคลาวด์เป็นคนที่สามารถใช้วาจาสยบใครก็ได้เพียงแค่ไม่กี่ถ้อยคำ เท่านั้นยังไม่พอยังมีคำพูดเหน็บๆนิดๆของหนุ่มผมยาวอย่าง เซฟิร่อท ตามมากระแทกซ้ำอีกต่างหาก จะค้านกันไปไหนวะ!?
"ฉันก็เห็นด้วยกับคลาวด์น่ะนะ มันก็แค่นิทานหลอกเด็กน่าเรโน่"
หันซ้ายหันขวา ก็มีแต่พวกพ้องแสดงท่าทางไม่เชื่ิอหนำซ้ำยังมองเป็นเรื่องตลกขบขันอีก เรโน่ผู้น่าเศร้าจึงแย้งกลับอย่างไม่พอใจ
"อะไรวะพวกนาย รู้ได้ไงว่ามันเก๊ เคยลองค้นหาแล้วเหรอห้ะ!?"
"เออ" เซฟิร่อทตอบส่งๆ
"หึ ดูก็รู้ว่าแหลกันเห็นๆ"
"เอ้า!? รู้แล้วถามทำไมเนี่ย -_-"
"บอกแล้ว~ว่าไอ้กิ้งก่านี่มัน งอ โอ โง ไม้เอก โง่ คิคิ"
และแล้วเรโน่ก็เลือดขึ้นหน้าทันทีที่แซ็คมัวแต่ล้อเล่นเกินขอบเขต
"ไอ้แซ็ค อยากหน้าเบี้ยวใช่ปะ!!?"
"เออ ถ้ามีปัญญาทำก็เข้ามาเซ่!!"
เสี้ยววินาทีที่สองหนุ่มอารมณ์เตรียมตั้งท่าจะมีเรื่องกัน เซฟิร่อทรีบสยบโดยการเสียบดาบยาวบนพื้นเพื่อเป็นการคั่นกลางระหว่างทั้งสอง เมื่อสัมผัสได้ถึงเรดาร์ไม่พอใจของหัวหน้ากลุ่ม พร้อมกัน กลืนน้ำลายดังอึกและค่อยๆแยกตัวไปคนละทาง เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่า การที่ทำให้พี่แกของขึ้นนั้น มันไม่ใช่เรื่องน่ารักแน่ๆ
สักพัก คลาวด์ที่นิ่งเงียบไปก็ถามขึ้นเพื่อแก้บรรยกาศกดดันชอบกล
"เอ่อแล้ววันนี้เห็นจะมีเด็กใหม่เข้ามาสองคนใช่ไหม?"
"อืม ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง"
เซฟิร่อทตอบคำถามแบบหน้าเฉยพลางชักดาบกลับคืนอย่างไร้ความตื่นเต้น ช่างผิดจากแซ็คที่เมื่อกี้ยังกลัวๆเซฟิร่อทหน่อย เปลี่ยนเป็นหมาร่าเริงตัวน้อยซึ่งลุ้นแทบใจจะขาดว่ารูปร่างหน้าตาของเด็กใหม่ที่ว่าจะเป็นผู้หญิงอึ๋มเอ้ย หุ่นเป้ะเช้ะซักแค่ไหนกันนะ? เรโน่เห็นท่าทางกระดี้กระด้าแบบนั้นก็แอบยิ้มมุมปากหยั่งกับรู้ใจทัน
'หึ ทีงี้ห่างกระดิกเลยนะเอ็ง'
-----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างพร้อมกันกับก้อนเมฆที่ค่อยๆหลีกทางให้ดวงอาทิตย์ฉายแสงให้เต็มที่
บรรยกาศภายในโรงเรียนซึ่งโดนความมืดบดบังเมื่อสักครู่ ถูกแสงสว่างแสดงภาพบรรยกาศที่เคยเป็นอยู่ทุกวัน
ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่หญิงสาวหน้าใหม่ที่เพิ่งย่างก้าวเข้ามาเป็นอย่างมาก เดินไปทางไหนก็เห็นมีแต่คนถือกระเป๋าติดแบรด์ กดเล่นโทรศัพท์ราคาแพงเฉียดแสน ยิ่งพวกผู้หญิงไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าแต่งตาในโทนจัดจ้านราวกับจะไปถ่ายละคร บางคนอาการหนักถึงขั้นศัลยกรรมจมูกจนเห็นแท่งซิลิโคนโผล่อย่างชัดแจ๋ว รวมถึงการแต่งกายในเครื่องแบบนักเรียนที่คนทั่วไปมักเรียกว่า "แก่แดด"นั้น ถือเป็นเรื่องปกติของสังคมชั้นสูงทั้งยังเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเอาเป็นเยี่ยงอย่างของคนรุ่นต่อไปอีกด้วย พวกเหล่าอาจารย์ทั้งหลายทำได้แค่ส่ายหน้าเพราะเหนื่อยล้าที่จะลงทัณฑ์เด็กเหลือขอพวกนี้เต็มแก่
หญิงสาวหน้าใหม่ซึ่งยิ่งเห็นยิ่งรู้สึกรังเกียจกับสังคมแบบนี้ จึงพยายามหลีกเลี่ยงสายตาหลายๆคู่ที่จ้องมองเธอประหนึ่งเหมือนแกะดำ เพราะแทนที่เธอจะปล่อยผมน้ำตาลยาวสลวยของเธอให้ดูมีความยั่วยวน เธอกลับผูกมันเป็นเบียสองข้างอย่างประณีต ชุดนักเรียนที่ผู้หญิงในโรงเรียนนี้ทุกคนไม่เคยใส่เข้าที่เข้าทาง ก็เพิ่งเห็นหญิงสาวหน้าใหม่คนนี้ทำเป็นคนแรก
แต่สักพักสายตาที่เคยจ้องมองหญิงสาวกลับเปลี่ยนไปเหลียวตาตามใครบางคน เสียงกริ๊ดกร้าดจากสาวๆดังสนั่นภายในพริบตาราวกับเจอเทวดามาบังเกิดก็ไม่ปาน สร้างความรำคาญแก่พวกหนุ่มๆกับหญิงสาวหน้่าใหม่เล็กน้อย
"อะไรของคนพวกนี้เนี่ย?"
เธอหันขวับไปตามทางเรียกเสียงกริ๊ดอย่างใคร่รู้ ปรากฏร่างชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่หุ่นดีเดินมาอย่างสง่าในมาดสุขุมเยือดเย็น แม้ใบหน้าจะไร้รอยยิ้มแต่ก็หล่อเอาการ โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำเงินอันคมกริบนั้น ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ร่างบอบบางของเธอก็ยิ่งตัวสั่นไปด้วยความเขินอายผสมผสานกับหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยเรื่อย
..อะ อะไรเนี่ยความรู้สึกนี้...
เมื่อเขาหยุดอยู่ตรงหน้าในระยะประชั้นชิด ชายรูปหล่อคมคายเริิ่มเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำเรียบๆยากที่จะเดาอารมณ์
"เธอน่าจะเป็นเด็กใหม่สินะ"
หญิงสาวแก้มแดงเล็กน้อย ตอบในเชิงก้มหน้าก้มตา เพราะกำลังใช้ความพยายามสะกดความอายเอาไว้ให้อยู่หมัด
"อะ อื้ม ทำไมหรอ?"
แต่ดูท่าว่าชายหนุ่มไม่คงไม่สังเกตอาการเขินอายของหญิงสาว เลยพูดต่อไปเกาหัวไป
"อ๋อคือ...เราก็เป็นเด็กใหม่น่ะ ไม่รู้ว่าห้องเรียนอยู่ตรงไหนน่ะสิ"
..เอ่อแล้วคิดว่าฉันจะรู้หรอ? -_-'
ในขณะที่หญิงสาวครั้นจะหาคำตอบ จู่ๆก็มีเสียงสาวห้าวดังลอดมาจากบนอาคารเรียนชั้นสอง พอแหงนหน้ามองขึ้นไป พบหญิงสาวผมดำลุคหมวยแบบห้าวๆ ท่าทางตื่นเต้นแบบฉุดไม่อยู่กำลังกวักมือเรียกพวกเขาอยู่
"เฮ้ พวกเธอที่อยู่ตรงนั้นน่ะ แอริสกับน็อคทิสใช่ไหม!? มานี่เลย!!"
ทั้งสองรีบพยักหน้ารับก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปหาถึงที่ โดยไม่สนใจเสียงกริ๊ดกร้าดปนความอิจฉาใส่หญิงสาวหน้าใหม่ที่ได้อยู่เคียงคู่ชายหนุ่มรูปหล่อคนนั้น เมื่อทั้งสองวิ่งทะเล่อทะล่ามาถึงหน้าห้อง สาวห้าวรีบวิ่งเข้ามาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
"ดี ฉันชื่อทีฟ่านะ"
"คะ/ครับ!"
"เห้ย ไม่ต้องเรียบร้อยขนาดน้าน -0- เอาล่ะ ฉันจะให้พวกเธอไปนั่งที่ก่อน แอริสนั่งตรงนั้น ส่วนน็อคทิสก็..อ้ะนั่งตรงโน้นละกัน"
ด้วยความไม่รอช้า ทีฟ่าให้เด็กหน้าใหม่ทั้้งสองไปนั่งที่ที่ตัวเองสั่ง ซึ่งพูดให้ถูกก็คือสองที่ที่ว่างเหลือไว้อยู่แล้วน่ะนะ
หนุ่มสาวโค้งตัวขอบคุณเบาๆก่อนจะแยกย้ายไปหานั่งที่พร้อมวางกระเป๋าทิ้งไว้ข้างๆ
ในขณะที่แอริสกำลังนั่งกวาดสายตาไปทั่วห้อง เธอก็รู้สึกเสียวว้าบขึ้นมาทันทีเหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่อย่างงั้นแหละ และมันก็ใช่อย่างที่เธอคิด เมื่อหันข้างไปซ้าย พบชายหนุ่มนั่งข้างๆมีหน้าตาหล่อแบบทะเล้นกำลังจ้องเธออย่างไม่วางตาราวกับกระหายที่อยากจะเข้าไปทำความรู้จักให้ได้ และหนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
"แซ็ค" คนเดียวเท่านั้น แม้ดวงตาเขาจะน่ามองสักแค่ไหน แต่เล่นจ้องแบบไม่กระพิบตาแบบนี้ก็น่ากลัวไม่ใช่น้อยเลยนะเนี่ย แอริสเลยเอียงคอซักถามไปตรงๆ
"เอ่ออ หน้าเรามีอะไรติดรึเปล่า?"
"อ๋อ..ไม่มีอะไรหรอก"
"แล้วมองหน้าเราทำไมเนี่ย "
"เพราะสงสัยน่ะ"
ทันใดนั้นชายหนุ่มดวงตาสีฟ้าเย็นวาววับ แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับเอ่ยว่า
"ว่าตกลงเธอคือคนหรือนางฟ้ากันแน่'
เมื่อโดนแซวซะขนาดนี้แอริสถึงกับหมดสัญญาณไปชั่วขณะ
‘ไม่สัญญาณที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ
ยังไม่ทันที่แซ็คจะจีบปากจีบคอต่อ ทีฟ่ารีบเอาหนังสือเรียนเล่มหนาทุบกลางศีรษะหนุ่มน้อยเพิ่อสยบความหม้อจนเจ้าตัวลูบหัวร้องโอ้ย
"ให้มันน้อยๆหน่อยค่ะ ไอ้หัวงูห้าดาว ยังไม่ทันไรแกคิดจะสอยเด็กใหม่แล้วรึ!? ร้ายจริงๆ"
โดนมารผจญยืนชี้หน้าด่าต่อหน้าเหยื่อใหม่ เอ้ย แอริสจนเสียภาพพจน์แบบนั้น แซ็คเลยรีบแก้ตัวลวกๆ
"สอยบ้าอะไร เขาเรียกว่าทำความรู้จักกระชับมิตรเหอะ!"
ได้ยินเช่นนนั้นทีฟ่าเลยอดไม่ได้ที่จะทำหน้าทำตาหมั่นไส้ก่อนจะถุยน้ำลายลงบนโต๊ะของหนุ่มเพลยบอยมาดเยอะซึ่งเล่นเอาชายหนุ่มตกใจจนร้องเฮ้ย !! ออกมาซะดัง (สมควร) และแล้วเธอก็เดินยิ้มเชิดกลับไปนั่งที่โดยไม่แยแสสักนิดว่าเด็กใหม่อย่างแอริสจะมองยังไง ช่างกล้าจริงๆ
"ให้ตายสิ โต๊ะฉันมีหวังเน่าเพราะน้ำลายยัยนี่แน่ ผู้หญิงบ้าไรวะ กล้าถุยน้ำลายต่อหน้าผู้ชายเหอะ!!"
หลังจากที่แซ็คบ่นพึมพำไปพลางใช้ผัาเช็ดหน้าทำความสะอาดน้ำลายของคนบางคนจนสะอาดได้ที่ ก็รีบหันหน้าไปคุยกับแอริสต่อ
"ว่าแต่...เธอชื่อไรหรอ"
"แอริสจ้ะ"
รอยยิ้มหวานเล็กๆของสาวหน้าใหม่แทบจะกระชากหัวใจแซ็คหลุดออกจากร่าง ทั้งๆที่ปกติเวลาเขาเจอผู้หญิงคนไหนไม่เคยใจเต้นแรงเท่านี้มาก่อน ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรแต่แซ้คก็ต้องยิ้มกว้างกลับต่อไปให้ไม่เสียแรงที่เธอคนสวยอุตส่าห์ยิ้มมา
"แหม~ชื่อสวยจัง ฮิฮิเราแซ็คนะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
ส่วนฝั่งน็อคทิสนั้น เขานั่งติดริมหน้าต่างและดูเหมือนเจ้าตัวจะพึงพอใจเป็นอย่างมากเพราะตั้งแต่เข้ามานั่งตรงนี้ก็เอาแต่เหมอมองท้องฟ้าอย่างกับเป็นพระเอกในเอ็มวี ทำเอาคนที่นั่งโต๊ะติดกับเขาอย่างเรโน่อึดอัดสุดๆ คลาวด์กับเซฟิร่อทก็ดันออกไปซื้อของกิน เขาเลยต้องมานั่งอมทุกข์อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายซะงั้น ให้ตายสิไอ้หนุ่มหน้าใหม่นี่มันก็นิ่งเป็นหินซะด้วย..เอาวะ ลองทักๆดูละกัน
"ฮะ เฮ้นายชื่อไร?"
แทนที่เขาจะหันหน้ามาคุย ชายหน้าใหม่กลับตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไร้ความเป็นมิตรไมตรีสุดๆ
"น็อค"
'โฮ่ว มึงนั้นแหละจะโดนกูน็อคให้ตายคามือสิ หยิ่งจริงวุ้ย!! เรโน่ไม่ชอบบบบบ'
และยังไม่ทันหายใจ น็อคก็หันขวับมาราวกับอ่านใจพ่อหนุ่มขี้โวยออก แต่นั่นก็ไม่ทำเขาตกใจมากจนแทบล้มเก้าอี้หากน็อคไม่ถามว่า
"เดี๋ยวนาย รู้จักคริสตัลใช่ไหม?"
พอถูกซัดถามเข้าไปแบบนี้ เล่นเอาเรโน่เหงื่อตกพูดอะไรไม่ค่อยออก หมอนี่พูดอะไรแปลกๆของมันและที่สำคัญไปกว่านั้นรู้ได้ไงว่าเขากำลังสนใจเรื่องคริสตัลอยู่ แต่เรโน่ก็ต้องยุติการคิดในใจไปชั่วคราวเพราะถ้าหากเงียบเกินไปหมอนี่อาจจะพูดอะไรแปลกๆมาอีก
"พะ พูดไรของนายวะ"
"หึ จริงๆนายอยากไปหาคริสตัลใช่ไหมละ?"
ทันใดนั้นรอยยิ้มของน็อคทิสก็ค่อยๆฉีกกว้างเหมือนรู้ใจว่าเรโน่อยากไป แม้คำถามเขาจะจี้้ความต้องการลึกๆของเรโน่ก็จริง แต่เมื่อความคิดของพวกพ้องที่ต่างไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ผ่านแว๊บเข้ามาในสมอง เจ้าตัวเลยต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"เหอะ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ แกถามผิดคนแล้ว"
แต่ดูยังไงๆเรโน่ก็โกหกไม่เนียนเพราะสายตากับน้ำเสียงมันบ่งบอกเป็นนัยๆ น็อคซึ่งฉลาดพอที่จะสังเกตจึงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เพื่อโน้มตัวมากระซิบข้างหู
"งั้นถ้าอยากหาเมื่อไหร่ พาฉันไปด้วยนะ"
วินาทีที่เรโน่อ้าปากถามอะไรบางอย่างก็ถูกเบรคด้วยเสียงกริ่งเข้าเรียนซะได้ แม้น็อคจะกลับไปนั่งที่ในท่าเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรโน่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าไอ้หมอนี่ตกลงมันเป็นใครกันแน่ มันต้องการอะไรจากเขา หรือว่ามันอาจจะเป็น....
ความคิดเห็น