ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #44 : การจากลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 55
      3
      17 ต.ค. 61


    ในวิหารที่ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนรับใช้มากมายนั้น ห้องบัลลังค์ที่ดูโอ่โถงตระการตา กลับมีร่างหนึ่งที่นั่งครุ่นคิดอยู่ที่แท่นบัลลังค์นั้น ใบหน้าที่สวยสดงดงามนั้นมีสีหน้าครุ่นคิดเป็นอย่างมาก และดูเหมือนจะโศกเศร้าเสียใจเมื่อได้ทราบข่าวที่ร่างของสุนัขจิ้งจอกได้กลับมาบอกเธออย่างเร็วที่สุด เทพีเบนไซเทนถอนหายใจออกมา และให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไปจากห้อง เสียงเพลงและการเต้นรำที่รื่นเริงนั้นหยุดลง มีเพียงความเงียบงันเท่านั้นในห้องบัลลังค์

    นางตายแล้วสินะเบนไซเทนกล่าวกับซายูริในร่างของจิ้งจอก

    เจ้าค่ะ นางเลือกจะจบชีวิตตนเองเพื่อช่วยให้ปิศาจเทนกุรอดเบนไซเทนครุ่นคิดอย่างหนักเมื่อได้ฟัง เธอลุกขึ้นยืนและเดินไปมาด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

    นางขอร้องให้เทพอิซานากิเห็นใจ แต่เขาไม่ตอบรับคำร้องขอของนางแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายเหตุการณ์มันจบลงเช่นนั้นเจ้าค่ะซายูริอธิบายต่อ

    ทำไมกัน? ข้าล่ะสงสารและเห็นใจคนทั้งสองเสียจริง ทำไมพวกเขาต้องพบเจอเหตุการณ์เช่นนั้น แล้วนางล่ะเป็นอมนุษย์ไปเสียแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป หากนางไปเกิดเป็นมนุษย์ไม่ได้อีก….”เบนไซเทนกลับมานั่งลงที่บัลลังค์เช่นเคย ซายูริเองก็นิ่งเงียบ ไม่ตอบสิ่งใด

    โชคชะตาช่างเล่นตลกเสียจริงเหมือนทุกคนอยากจะรุมกลั่นแกล้งคนทั้งสองอย่างไงอย่างงั้นเบนไซเทนกล่าวถึงเทพทั้งสองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้

    แล้วท่านเบนไซเทนจะทำสิ่งใดต่อไปได้หรือไม่เจ้าคะ ถ้าจะแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น?”ซายูริถามด้วยความอยากรู้

    ข้าไม่มีหรอก มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว….บ้าที่สุดเลย การเห็นคนอื่นเป็นที่ระบายอารมณ์นี่มันแย่เสียจริงเทพีแห่งความงามรู้สึกขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างนั้นลุกขึ้นเสียอีกสักรอบหนึ่งเพราะความร้อนใจ

    ข้าขอให้นางได้มาเกิดใหม่เสียก็ยังดี แม้จะไม่ได้เป็นมนุษย์อีกก็ตาม ไม่ว่านางจะต้องกลายเป็นสิ่งใด ข้าก็ขอให้นางมีใบหน้าที่สวยสดงดงามที่สุด ขอให้นางพบเจอคนที่เหมาะสมกับนางมากกว่านี้ ขอให้นางมีความรักที่ดี....ข้าสงสารนางเสียเหลือเกินเทพีกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกสงสารและรู้สึกเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ร่างบางเดินไปยังด้านนอกวิหารและมองไปยังหมอกควันสีขาวจากไปเย็นเบื้องหน้าวิหารอยู่นานสองนาน ปิศาจจิ้งจอกรีบเดินตามร่างงามไปเมื่อเห็นดังนั้น และดูเหมือนเบนไซเทนยังไม่ทันจะรู้ตัวว่าตนได้กล่าวคำพูดนั้นออกไปแล้ว ซายูรินั่งลงด้านหลังอีกฝ่ายก่อนจะกล่าวออกมา

    "ท่านเบนไซเทนเจ้าคะ ข้าคิดว่านางมนุษย์คงได้รับรู้ถึงความจริงใจของท่านเป็นแน่เจ้าค่ะ"เมื่อเทพได้สดับฟังก็หันขวับมามองอย่างสงสัย

    "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

    "ข้าเองก็คิดว่านางต้องการเช่นนี้พอดีเจ้าค่ะ ท่านเบนไซเทนได้กล่าววาจาเช่นนี้แล้ว วิญญาณของนางต้องได้รับรู้คำอวยพรของท่านเป็นแน่เจ้าค่ะ"ซายูริกล่าวอออกมาและมองไปยังท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ มนุษย์ผู้นั้นช่างเจ้าเล่ห์และดื้อรั้นเหมือนกับเธอเสียจริง อย่างนางคงยอมฝืนโชคชะตาเป็นแน่ แต่การฝืนโชคชะตาเป็นเรื่องธรรมดาประดุจปลาที่ว่ายทวนน้ำในลำธาร ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้อย่างแท้จริงนอกจากตนเองเท่านั้น

     

    ร่างกำยำค่อยๆรู้สึกตัวในไม่ช้าหลังจาก เขาหมดสติไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวดที่เกินจะพรรณาออกมาได้ ไดกิค่อยลุกขึ้นยืนช้าๆ และสงสัยว่าทำไมเขาจึงยังมีชีวิตอยู่ ร่างนั้นสำรวจตนเองและมองไปยังร่างที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้นหิมะสีขาว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังจ้องมาที่เขาแม้จะไร้วี่แววชีวิตแล้วก็ตาม ไดกิ ที่เห็นก็ถึงกับรีบตรงไปหาร่างบางนั้นในทันที ขาของเขาที่บาดเจ็บทำให้เขาไปหาเธออย่างยากลำบาก และทรุดนั่งลงที่ข้างๆร่างนั้น ไดกิเศร้าเสียใจอย่างมากกับภาพเบื้องหน้า ชายหนุ่มตรงไปกอดร่างนั้นเอาไว้แน่น

    มายุไม่จริง!!! อย่าจากข้าไปแบบนี้ ข้าขอร้องล่ะเขากุมมือที่เย็นเฉียบของหญิงสาวไว้ ไดกิรู้สึกเจ็บเข้าไปในอก นั่งมองร่างตรงหน้าด้วยความเงียบงัน ไม่มีแม้แต่เสียงที่จะเปล่งออกมา เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ลง เบื้องหน้าของเขามีเพียงซากศพไร้วิญญาณของนาง

    มายุ…”เขาเรียกชื่อเธออยู่อย่างนั้น และหวังให้อีกฝ่ายฟื้นขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง น้ำตาของเขาไม่อาจไหลออกมาได้อีกแล้ว สุดท้ายเขาก็ยังเพียงมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้

    ทำไม? พวกเราช่างโชคร้ายกันขนาดนี้ ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกกับเราเช่นนี้…”ไดกิพึมพำออกมา เหมือนกับว่าเขายังไม่ได้สติ

    ข้ารักเจ้ามากขนาดไหนเจ้าก็รู้ ทำไมถึงทิ้งข้าไปล่ะ  มายุ!!”เขาเขย่าร่างที่นอนอยู่ แต่ก็ไม่ได้ผล

    ทำไมเหล่าเทพช่างโหดร้ายกับข้าเช่นนี้!!!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังประดุจเสียงกัมปนาทรู้สึกแค้นเคืองเหล่าเทพยิ่งนัก จนอยากจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้หมดสิ้น และกอดร่างนั้นไว้ไม่ไปไหน มือใหญ่ลูบผมของเธออย่างเบามือ และปิดเปลือกตาของหญิงสาวลงช้าๆ ใบหน้านั้นนิ่งเหมือนกำลังนิทราอยู่เท่านั้น ซึ่งทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะยอมรับความจริงขึ้นมา

    มายุของข้าให้มันเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นได้ไหม?”เขากุมมือที่เย็นเฉียบของเธอเอาไว้ และนั่นก็ตอกย้ำชายหนุ่มว่าอีกฝ่ายไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

    ถ้าข้าตื่นขึ้นมา จะพบเจ้าอยู่ข้างๆข้าได้หรือไม่…”ชายหนุ่มพึมพำออกมา เขาอยากตายลงเสียตรงนี้หากเขาทำได้ แต่คำพูดของมายุยังคงดังก้องในหัวของเขา ไดกิจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แทนมายุเองอีกสักสี่พันปี บางทีเขาถึงจะได้ติดตามเธอไปยังปรโลก ถึงตอนนั้นเขาคงจะได้อยู่กับเธออีกครั้งหนึ่ง

    ไม่มีอะไรแยกเราจากกันได้ตลอดกาลหรอกมายุ ข้ารับปากเจ้าไว้แล้ว ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแม้ว่าจะชีวิตของข้าจะไม่มีเจ้าก็ตาม สักวัน...ข้าจะได้พบเจอเจ้าอีกครั้ง ถึงตอนนั้นเจ้าจะจำข้าได้หรือไม่ และข้าเองจะจดจำเจ้าได้หรือเปล่า ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ข้าขอสาบานว่าข้าจะรักเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น จะมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่จะทำให้จิตใจของข้านั้นสั่นไหวได้ 

    ไดกิลุกขึ้นยืนช้าๆ และมองไปเห็นห่อผ้าที่ตกอยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มค่อยๆลากเท้าเดินไปหยิบห่อผ้าที่ตกอยู่ที่พื้น ภายในมีผ้าผืนยาวที่ถักมาอย่างสวยงาม ไดกิเพียงหลับตาลงช้าๆ

    เจ้าคงจะเตรียมเอามาให้ข้าสินะ มายุ…”ร่างนั้นนั่งลงใกล้ๆมายุ ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าเขาต้องไปที่ไหนต่อ แต่ว่าไม่มีทางที่เขาจะปล่อยร่างของเธอทิ้งไว้เช่นนี้ได้ เมื่อนึกถึงแล้ว พายุหิมะด้านบนก็เริ่มจะพัดถล่ม ไดกิสูญเสียความสามารถในการควบคุมพลังไปทั้งสิ้น เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้เขาหลงลืมเสียทุกอย่างอย่างแท้จริง

    สักวันข้าจะตามเจ้าไป ถึงตอนนั้นจะรอข้าไหม? ถ้าข้าเป็นมนุษย์ จะได้อยู่เคียงคู่เจ้านานกว่านี้ไหม พวกเราคงจะแก่ลงไปพร้อมๆกัน ข้าจะดูแลเจ้าให้ดีกว่าตอนนี้เลยมายุ...แต่ข้าไม่มีวันได้เกิดเป็นมนุษย์ ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะเป็นปิศาจที่ยอมรักมนุษย์อย่างเจ้าอยู่เรื่อยไปเขาก้มลงจุมพิตที่ศีรษะอีกฝ่ายหนึ่งและประคองกอดร่างที่ไร้ลมหายใจของนางเอาไว้แน่น ไดกิปิดเปลือกตาลงช้าๆ น้ำตาหยดใสไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองอย่างเงียบงัน มีเพียงนางที่เขาจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าได้อย่างเคอะเขิน มีเพียงมายุเท่านั้นที่รู้และเข้าใจเขาทุกอย่าง แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว

    "ข้ารักเจ้าเหลือเกิน ข้ายอมตายแต่หากเจ้าบอกให้ข้าอยู่ ข้าก็จะอยู่เพื่อเจ้า แต่ชีวิตที่ไม่มีเจ้าอยู่ด้วยแล้ว ข้าไม่เคยคิดหรือนึกฝันมาก่อนมายุ ต่อไปนี้ข้าจะมีชีวิตอยู่อย่างไรดี...ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนก่อนได้แล้ว ข้าเสียใจเป็นที่สุด เจ้ารู้หรือไม่ ข้าน่ะตั้งตารอที่จะได้อยู่กับเจ้า แต่ว่าวันนั้นมันคงไม่มีวันมาถึงแล้ว"

     

    เสือขาวรีบวิ่งกลับมาที่ภูเขาหิมะก่อนจะพบกับพายุหิมะที่ถาโถมเข้ามาและพัดถล่มอย่างหนัก แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเทพก็เถอะ แต่พายุหิมะนี้มันไม่ใช่พายุหิมะธรรมดาเท่านั้น เพราะเขารู้สึกถึงพลังที่รุนแรงอย่างมาก เบียคโกะจึงต้องกลับมารออยู่ที่ด้านนอก และยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยความตกใจก่อนจะหลับตาลงและเพ่งสมาธิเพื่อดูว่ายังเหลือร่องรอยของอมนุษย์เหลืออยู่ไม่ ภายในห้วงสมาธินั้น พยัคฆ์ขาวปรากฏตัวขึ้นด้านในกระท่อมไม้หลังเก่า เด็กสาวอมนุษย์ที่ดูเหมือนสติใกล้จะเลือนรางเต็มทีค่อยๆลืมตาขึ้นมามองเห็นภาพมายานั้น และมีสีหน้าตกใจแต่ร่างกายของเธอไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับไปไหนแล้ว

    "อย่าเข้ามานะ..."เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ก่อนใบหน้านั้นจะค่อยๆสงบนิ่งลงเมื่อเห็นว่าเป็นพยัคฆ์ขาว

    "ท่านเบียคโกะ..."ฮิคาริกล่าวออกมาอย่างช้าๆ ร่างของเสือขาวแปรเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มเขามองใบหน้าของฮิคาริอยู่สักพัก ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ

    "เจ้าเป็นมิโกะ ที่คอยดูแลศาลเจ้าของข้า...ฮิคาริ"ดวงตาของเขาจับจ้องที่ร่างบาง มือนั้นกำหมัดแน่น

    "ท่านจำข้าได้...."

    "มีหรือข้าจะจดจำเจ้าไม่ได้ ข้าจำทุกคนในศาลเจ้านั้นได้ ตั้งแต่ต้นตระกูลของเจ้า... ทั้งๆที่ข้าควรปกป้องพวกเขารวมถึงเจ้า....นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย แบบนี้ข้ายังเรียกตัวเองว่าเทพได้เต็มปากอย่างนั้นรึ? นี่ข้ากำลังทำอะไรอยู่...

    "ท่านจะฆ่าข้าหรือเจ้าคะ"เธอถามออกมา เบียคโกะกำดาบในมือแน่น

    "ข้าจำเป็น แต่ว่าหน้าที่ของข้าคือปกป้องพวกเจ้าไม่ใช่หรือ พวกเจ้าที่คอยดูแลและสักการะข้ามาตลอด ถ้าข้าฆ่าเจ้าไป..."เบียคโกะเพียงเก็บดาบและมอง มิโกะเบื้องหน้าค่อยๆหลับตาลงและสิ้นใจในที่สุด เมื่อนั้นเขาจึงออกจากห้วงสมาธิ กว่าจะรู้ตัวอีกทีชายในชุดขาวก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาแล้ว เสือขาวที่หันไปพบก็รีบคำนับเทพอิซานากิในทันที

    ท...ท่านอิซานากิ อยู่นี่เองหรือขอรับ

    อมนุษย์ถูกกำจัดลงหมดแล้ว ช่างน่ายินดียิ่งนักมือใหญ่ลูบหนวดเคราของตนเอง และกล่าวต่อ

    เช่นนี้ เจ้าอยากได้พรอะไรจากข้าก็กล่าวมาเบียคโกะยืนนิ่งไปสักพัก เมื่อได้ฟัง และหันไปมองพายุหิมะ

    ...ถ้าเช่นนั้นข้าขอถามหน่อยขอรับ อมนุษย์ที่ท่านมาที่แห่งนี้ก็เพราะอมนุษย์นั้นได้หมดลงแล้วใช่ไหมขอรับเทพประจำทิศตะวันตกถามขึ้น

    ใช่แล้วแม้จะน่าเศร้าสำหรับเทนกุตนนั้นรวมถึงเจ้า แต่ว่าเพื่อสมดุลของโลก มันเลยเป็นสิ่งที่น่ายินดีน่ะอิซานากิ กล่าวออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ทำให้พยัคฆ์ขาวถึงกับตกตะลึงกับท่าทีของอีกฝ่าย

    ข้าคิดว่า ข้าเป็นเทพเทพที่มีดีมากกว่าปิศาจมาตลอด ข้าบำเพ็ญเพียรมากมาย ถือศีล บำเพ็ญตบะ ยอมกระทั่งไม่กินเนื้อสัตว์ แม้ว่าข้าจะเป็นเสือก็ตาม นั่นเป็นความคิดของข้าเมื่อตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าเชื่อว่าเทพต้องมีจิตใจดี มีความเมตตากรุณา คอยช่วยเหลือผู้อื่น มีความเสียสละ แต่ในตอนนี้มันคงไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดกระมังขอรับเสือขาวกระแนะกระแหนอีกฝ่าย

    เจ้า…”อิซานากิมีสีหน้าที่ดูฉุนเฉียว ไม่นึกว่าเทพชั้นล่างอย่างอีกฝ่ายจะกล่าวเช่นนี้กับเขาได้

    ข้าหมายถึงตัวข้าเองต่างหากขอรับ หากทำให้ท่านไม่สบายใจก็ขออภัยด้วยขอรับ พอดีว่าข้ามันแค่สัตว์เดรัจฉานที่ได้มาเป็นเทพชั้นล่าง หากจะให้ข้าพูดหรือกล่าวอะไรยากๆ ข้าทำไม่ได้หรอกขอรับ ข้าเพียงโง่เกินไปเท่านั้น!!”เบียคโกะแสยะยิ้มออกมา และรีบวิ่งหายไปในที่สุด ทิ้งให้อิซานากิยืนอยู่อย่างนั้นด้วยความขุ่นเคืองและหันกลับไปมองพายุหิมะแห่งนั้นที่พัดถล่มหุบเขาลูกนั้นไม่มีหยุดหย่อน ก่อนจะหวนนึกถึงตอนที่เขาสาปหญิงสาวด้วยความโกรธ

     

    วันคืนผ่านไปปิศาจตนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แม้จะรู้และย้ำเตือนตนเองมากเพียงไรว่ามายุไม่อาจตื่นขึ้นมาได้อีกแล้ว เขาก็ทำได้เพียงโศกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น ไดกิยังไม่พร้อมที่คลายกอดจากเธอไปจริงๆ เขามองใบหน้าที่นอนหลับตาพริ้มด้วยความเงียบงัน แต่ตอนนี้มันคงถึงเวลาที่เขาจะต้องจากนางไปจริงๆแล้วเขาคลายอ้อมกอดออกจากเธอช้าๆ ชายหนุ่มลุกเก็บดาบของยามาคาวะที่นำมาให้มายุเข้าฝักด้วยความรู้สึกอันว่างเปล่า ร่างกำยำอุ้มมายุขึ้นมาและทะยานขึ้นไปบนฟ้าที่แสนกว้างใหญ่ไดกิมองไปรอบๆและเห็นยอดเขาอยู่ไกลๆ ไม่น่าเชื่อว่าทุกทีที่เขาอุ้มเธอขึ้นมามันจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและมีความสุขนัก แต่คราวนี้มันมีแต่ความหนาวเย็นและความเงียบงันเท่านั้น เขากางปีกสีดำขนาดใหญ่ไปยังยอดเขาอย่ารวดเร็ว นานไม่กี่อึดใจ ชายหนุ่มก็ขึ้นมาถึงบนยอดเขานั้น และค่อยๆวางร่างนั้นนอนลงอย่างเบามือ มายุที่หลับตาพริ้มเหมือนตอนที่เขามองเธอตอนกำลังนอนหลับอย่างมีความสุขนั้น ไดกิหยิบปิ่นปักผมของเธอออกมา และวางปิ่นปักผมลงบนอกของเธอ และจัดท่าทางให้เธออย่างดี ชายหนุ่มยังคงนั่งมองเธออยู่อย่างนั้นบางครั้งเขาก็เพียงเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังนิทราอยู่ แต่เขาก็รีบสลัดความคิดนั้นออกไปไม่ว่าอย่างไรคนตรงหน้าได้จากเขาไปจริงๆแล้ว นี่คือความรักของมนุษย์กับปิศาจเช่นเขาสินะ เรื่องที่ไม่อาจหลีกหนีได้ ยังไงมนุษย์ก็เหมือนกับที่เขาเข้าใจมาตลอดว่าทั้งอายุสั้นและก็อ่อนแอ คนรักของเขาเองก็เช่นกัน

    "ข้ามันเป็นคนรักที่แย่เสียจริงมายุ แต่ข้าโชคดีที่มีเจ้า ข้าอยากมีโอกาสได้เป็นคนรักที่ดีของเจ้าบ้าง" เขาก้มหน้าลงพยายามเก็บงำความรู้สึกต่างๆเอาไว้ ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา

    "ข้าร้องไห้มากไปแล้ว ข้าไม่อยากให้เจ้ากังวล มายุของข้า ข้ารักเจ้า แต่ข้า...."เขาหยุดกล่าวลงในทันทีเพื่อห้ามความรู้สึกของตนไว้

    ข้า ต้องไปแล้วมือใหญ่ลูบใบหน้าของหญิงสาว เขามองไปรอบๆที่ดูเงียบสงบ

    ที่นี่เงียบสงบ จะไม่มีใครมารบกวนเจ้าอีก มายุ หลับให้สบาย...ข้าจะรีบไปเจอเจ้าให้เร็วที่สุด...ข้าคงไม่ได้อยู่จนสิ้นอายุขัยที่แท้จริงของข้าชายหนุ่มมองเธออยู่อย่างนั้น ด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย และลังเลอยู่สักพัก ก่อนสุดท้ายเขาจะบินขึ้นไปในอากาศและไม่หันกลับมามองเธออีก ไดกิบินขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงมากพอที่จะพานางกลับไปฝังที่สุสานในอาณาเขตเสียด้วยซ้ำ เพราะเขายังรับไม่ได้ที่จะคิดว่ามายุได้จากไปแล้ว ปีกใหญ่ทะยานไปกลางท้องนภาด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าในหัวใจ เขาร่อนลงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งก่อนจะทรุดลงนั่งด้วยความเหนื่อยล้า ไดกิไม่รู้ว่าตนเองควรจะไปที่แห่งใดต่อหลังจากนี้ เขายังไม่อยากกลับไปเจอใครทั้งสิ้น ดวงตาสีดำขลับเพียงจับจ้องไปยังท้องฟ้า หากสวรรค์อยู่กลางนภากาศจริงก็คงจะดี อย่างน้ยการที่เขามองขึ้นไปก็ยังอยู่ในสายตาของมายุอย่างแน่นอน ร่างนั้นพิงกับลำต้นไม้ใหญ่ยามฤดูหนาวอย่างหมดอาลัยตายอยาก ก่อนอีกาตนหนึ่งจะบินมาเกาะที่กิ่งไม้ข้างๆเขา อีกาตนนั้นคงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากบริวารของยามะคาวะ

    "ท่านไดกิขอรับ ได้โปรดกลับมาที่คฤหาสน์เถิดขอรับ ทุกคนเป็นห่วงท่านไดกินะขอรับ"เสียงของยามะคาวะเปล่งออกมา ชายหนุ่มเพียงเหลือบตามองอีกาตัวนั้น ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความเหนื่อยล้า

    "ข้ายังไม่พร้อม ข้าขอโทษขอรับ แต่ข้ายังไม่อยากกลับ ที่ตรงนั้น มีแต่ความทรงจำของนาง ข้ายังไม่พร้อม"กล่าวจบเขาก็กางปีกและบินขึ้นไปในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ปล่อยให้อีกาตนนั้นมองไดกิและค่อยบินจากไป

    ชายหนุ่มบินท่ามกลางท้องนภาจนถึงเวลาพลบค่ำโดยที่ตนเองไม่มีจุดหมาย ดวงดาวบนท้องฟ้าทอแสงระยิบระยับมากมายหากแต่ไร้แสงจัทร์เขาค่อยๆลงไปยังพื้นเบื้องล่างที่มีเพียงบ้านไม้ที่ผุพังหลังคาเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่แต่เขากลับเลือกที่จะเดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงที่มุมห้องด้วยความหมดอาลัยตายอยาก จิตใจของเขาว้าวุ่นจนไม่อาจนอนหลับได้ลง ค่ำคืนที่มีแต่ความเงียบงันเช่นนี้ช่างน่าหดหู่ยิ่งนัก


    การาสุเทนกุทั้งสามเมื่อได้รับฟังสิ่งที่ยามาคาวะกล่าวออกมาก็โศกเศร้าเสียใจ อากาเนะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตนเองไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวมันจะจบลงเช่นนี้เธอรู้สึกว่าไดกิและมายุช่างน่าสงสารเหลือเกิน คาบูโตะเพียงโอบอีกฝ่ายไว้โดยไม่กล่าวสิ่งใดออกมา หากท่านไดกิโสกเศร้าถึงเพียงนี้เขาก็รู้สึกโศกเศร้าไปด้วย เหลือเพียงทาโร่ที่รีบกลับมาที่คฤหาสน์เพื่อรับฟังข่าวคราวจากยามะคาวะ การาสุเทนกุมือขวานิ่งงันไปอย่างน่าประหลาด เรื่องท่านมายุ เขาเองก็จะเป็นคนไปบอกท่านยูกิให้ทราบ การจากไปของมายุทำให้ทุกคนในที่นี้รู้สึกเศร้าโศกอย่างมาก แม้แต่อายุมุเองก็ตามที ทุกสิ่งทุกอย่างช่างเงียบงันไร้ความสดใสหรือมีความชีวิตชีวาไป โดยเฉพาะท่านไดกิที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยแล้ว แต่การที่ทาโร่ได้อยู่กับยูกิ นั่นก็ทำให้เขาพอจะรู้เรื่องราวบางอย่างที่จะช่วยเหลือไดเทนกุผู้นี้ได้ หากแต่เขาคงต้องลาจากที่นี่โดยที่ยังไม่มีโอกาสอำลาเจ้านายของตน ทาโร่ครุ่นคิดเป็นอย่างมากแต่เขาตัดสินใจแล้ว


    วันคืนผ่านพ้นไปนานนับสัปดาห์ในที่สุดชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นที่สุดขอบของอาณาเขตของตนด้วยความอ่อนล้า อากาเนะ คาบูโตะ และการาสุเทนกุอาวุโสต่างรีบมาต้อนรับไดกิที่กลับมาในที่สุด พวกเขาเองก็เป็นห่วงชายหนุ่มเบื้องหน้าเสียจนไม่เป็นอันกินอันนอนเช่นกัน และเมื่ออากาเนะเห็นใบหน้าของไดกิที่ยังคงดูโศกเศร้าอยู่นั้น เธอเองก็ร้องไห้ออกมาในทันทีด้วยความสงสารเขาอย่างจับใจ รวมถึงสงสารมายุด้วย 

    "อากาเนะ อย่าร้องไห้ให้ข้าเลย ข้าไม่เป็นอะไร"เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าเต็มทน หลายวันที่ผ่านมาชายหนุ่มเองก็ยังไม่ได้นอนเลยสักครั้งเดียวรวมถึงไม่ได้ทานอะไรอีกด้วย

    "แต่ท่านไดกิต้องเศร้ามากแน่ๆ"เธอสะอึกสะอื้น ก่อนจะกล่าวออกมา

    "ข้าจะไปเตรียมของก่อนนะเจ้าคะ ท่านไดกิไปพักเถิดเจ้าค่ะ"อากาเนะรีบวิ่งจากไป ชายหนุ่มหันไปมองการาสุเทนกุอาวุโสสูงสุดก่อนจะคำนับ

    "ท่านปลอดภัยดี ข้าก็โล่งอกขอรับ ท่านไดกิไปพักผ่อนเถิดขอรับ ทุกคนเป็นห่วงท่าน"ชายหนุ่มส่งไม้เท้าคืนยามะคาวะก่อนจะเดินผ่านไป การาสุเทนกุชรารับไม้เท้ามาพิจารณา

    "ข้าให้วิญญาณของนางพบเจอความสงบด้วยเถิด"เขาหลับตาและยืนนิ่งด้วยความอาลัย ส่วนอายุมุที่มองอยู่เพียงห่างๆเองก็ยืนไว้อาลัยให้เช่นกัน


    ไดกิทรุดลงนอนบนเตียงแทบจะในทันที แม้อากาเนะจะถามไถ่อะไรเขาไป อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ เขาไม่อยากพูดคุยหรือเอ่ยถึงเรื่องราวของมายุเลย ดวงตาสีดำขลับจับจ้องผ้าพันคอที่ได้รับมา เขาทำได้เพียงวางไว้ข้างๆกายเขาเท่านั้น ไดกิหลับตาลงและระลึกถึงอีกฝ่ายหนึ่ง เขาหวังให้เธออยู่ตรงนี้เหมือนแต่ก่อน เขาคิดถึงเสียงเจื้อยแจ้วของเธอเหลือเกินที่คอยถามไถ่เรื่องราวต่างๆ คอยรับฟังเขาอย่างสนอกสนใจ คอยยิ้มให้เขาอยู่เสมอและเธอมักจะทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่เสมอ ไม่น่าเชื่อว่าเวลาช่างผ่านไปไวเสียจริงที่เขาพบเจอเธอครั้งแรกจนถึงตอนนี้ ไดกิหลับตาลงอยู่เช่นนั้นก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับ เพื่อที่เขาเองจะไม่ต้องทนทรมาณกับความเป็นจริงนัก และในห้วงนิทรานั้น ไดกิพบว่าตนเองยืนอยู่กลางทุ่งหิมะที่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนมากมาย โลหิตสีดำเริ่มเจิ่งนองขึ้นมาที่พื้นจนท่วมพื้นที่ว่างเปล่า ชายหนุ่มใช้ดาบฟาดฟันไปที่ร่างหงิกงอมากมาย จนร่างนั้นกองเป็นภูเขา และร่างตรงหน้าปรากฏหญิงสาวผู้ถือดาบมาหาเขา และพุ่งใส่ไดกิในทันที เขารู้ดีว่ายังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีทางชนะเขาไปได้แน่นอน ชายหนุ่มฟันร่างนั้นจนล้มลงไป ก่อนที่ไดกิจะได้เห็นใบหน้าอีกฝ่ายชัดๆ และเห็นร่างของมายุนอนอยู่แทน ดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมองเขาอย่างไร้สัญญาณแห่งชีวิต โลหิตสีดำที่ทะลักออกมาจากร่างนั้น ไดกิทรุดลงนั่งอย่างเจ็บปวดก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาณ


    กึก!!!”ไดกิตัวสั่นเทาเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ตามหลอกหลอนเขา จนอากาเนะค่อยๆเข้ามาดูความเรียบร้อย เธอพบว่าไดกิลุกขึ้นมาเขียนหนังสือที่โต๊ะ พร้อมกับทำหินหมึกที่เต็มไปด้วยน้ำหมึกสีดำหกลงเสื่อทาทามิ ร่องรอยสีดำนั้นชวนนึกถึงโลหิตของเหล่าอมนุษย์ ไดกิถึงกับรีบเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเจ็บปวดในทันที

    ท่านไดกิ!!”อากาเนะตกใจที่เขาตื่นขึ้นมากลางดึกและยังลงมือเขียนงานเช่นนี้ แถมยังมีอาการที่ไม่ค่อยดีอีก ก่อนจะรีบทำความสะอาดเสื่อให้สะอาด และมองอีกฝ่ายที่ยกมือขึ้นมาปิดหน้าของตน

    ท่านไดกิเจ้าคะ เป็นอะไรไปหรือคะ!!”อากาเนะร้องออกมาด้วยความตกใจ และประคองอีกฝ่ายไปที่เตียงนอน ชายหนุ่มนั่งลงที่ขอบเตียงแต่ก็ยังตัวสั่นเทาอยู่ เมื่อใดที่เขาคิดถึงเรื่องราวที่ตนเองได้ทำลงไป ไดกิรู้ตัวดีว่าจิตใจของเขามันไม่อาจกลับมาเป็นปกติได้เช่นเดิมแล้ว

    ข้าจะทำความสะอาดเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ ท่านไดกิไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะอากาเนะรีบลุกไปทำความสะอาดและดูให้แน่ใจว่าไม่มีร่องรอยของหยดหมึกหลงเหลือ ก่อนจะเหลือบมองอีกฝ่าย เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้ท่านไดกิผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้

    แค่หยดหมึกเท่านั้น ทำไมกัน ข้าถึงรู้สึกหวาดกลัวและสะอิดสะเอียนตัวตนของข้าถึงเพียงนี้ ข้ามันเลวเสียเหลือเกิน กับทุกอย่างที่ข้าได้ทำลงไป ข้าอยากจะจัดการเจ้าให้สิ้นซาก ไอ้พวกเทพทั้งหลาย!!! ข้าอยากจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด ให้สาสมกับสิ่งที่เจ้าทำข้า ให้กลายเป็นปิศาจบ้าคลั่งเช่นนี้!!!! เจ้าพรากคนรักของข้าไป มีเพียงนางผู้เดียวเท่านั้น...มายุ แต่พวกมันยังพรากนางไปจากข้า ทำไมกัน!!!...พอกันเสียที!! อสูรรับใช้พวกเหล่าเทพ ข้าจะไม่ยอมเป็นอสูรรับใช้ให้พวกมันอีกต่อไปแล้ว ไว้ให้ข้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ข้าจะฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่าพวกมันทั้งหมด!!!!! 

    ไดกิที่นั่งสั่นเทิ้มอยู่ที่ปลายเตียงมือทั้งสองกุมขมับของตนอย่างทุกข์ทรมาณ เขามองบานกระจกที่สะท้อนภาพของตนเอง ดวงตาสีดำขลับของเขามองเห็นรอยยิ้มเหยียดที่ดูน่าหวาดกลัวในกระจกนั้น ก่อนชายหนุ่มจะหลับตาลง ตอนนี้เขายังแก้แค้นใครไม่ได้ทั้งนั้นแค่ควบคุมตนเองให้เป็นไปดั่งหวัง ก็ยังไม่อาจทำได้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เขาเป็นเพียงปิศาจที่บ้าคลั่งไร้การควบคุมเท่านั้น เขาหันหน้าหนีกระจกเงาบานนั้นด้วยความทรมาณ เห็นสารรูปตนเองแล้วช่างน่าอดสูเสียจริง ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาตอนนี้มันไม่พร้อมสักอย่างเดียว แม้จะอยากแก้แค้นให้คนรักของตนเองก็มิอาจทำได้อย่างหวัง  ก่อนร่างสั่นเทานั้นจะค่อยๆลุกขึ้นยืนช้าๆ และเดินไปที่ตู้ยาไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฟากของห้องนอน มือกำยำคว้าขวดยาเบื้องหน้ามาเปิดก่อนจะดื่มจนหมดขวด ด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะค่อยๆเดินกลับมาที่เตียงอย่างยากลำบากและหวังว่ายาที่เขาได้ดื่มเข้าไปจะช่วยให้เขาอยู่ในนิทราอีกนานแสนนานเพื่อให้ผ่านพ้นค่ำคืนนี้ไปให้ได้

    ระหว่างนั้นอากาเนะกับคาบูโตะได้เพียงมองอยู่ห่างๆจากด้านนอกห้องด้วยความสงสาร อากาเนะแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวเพราะความเป็นห่วงแต่ทั้งสองก็ไม่อาจช่วยอะไรไดกิได้บ้างเลยแม้แต่น้อย ทั้งมายุและไดกิ ทั้งสองคนต่างมีชะตากรรมอันน่าอดสู หรือเพราะการพยายามฝืนโชคชะตาของมนุษย์ ทำให้ทั้งสองต้องมีจุดจบเช่นนี้ อากาเนะและคาบูโตะได้เพียงแค่ภาวนาในใจว่าท่านไดกิจะอาการดีขึ้นในเร็ววัน 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×