ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    「大天狗 の 花嫁」DAITENGU NO HANAYOME เจ้าสาวแห่งขุนเขา

    ลำดับตอนที่ #24 : สงคราม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 57
      4
      17 ก.ย. 61


    ในห้องโถงของคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่นั้นแน่นขนัดไปด้วยการาสุเทนกุมากมายที่สวมชุดเกราะเพื่อที่จะออกไปทำสงครามเช่นกัน ไดกิสวมชุดเกราะเหล็กก่อนจะหยิบเกราะหมวกขึ้นมาที่มีหน้ากากเทนกุดูน่าเกรงขาม จากนั้นมือใหญ่จึงนำดาบขึ้นมาเช็ดก่อนจะเก็บเข้าฝักรอบข้างของเขานั้นมีเหล่าการาสุเทนกุที่คำนับเขาอยู่ที่พื้นอยู่นาน มายุเพียงนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหลังสุดของห้อง จากตรงนี้เธอมองเห็นท่านไดกิเล็กลงถนัดตาด้วยความห่างไกล หญิงสาวนั่งอย่างสงบเสงี่ยมและมองภาพเบิ้องหน้าเท่านั้น วันนี้ไดกิต้องออกไปรบเสียแล้วสิ หญิงสาวเองก็อดที่จะเป็นห่วงอีกฝ่ายหนึ่งไปเสียไม่ได้

    ข้าจะทำให้พวกข้ากลับมายิ่งใหญ่ครั้ง พวกท่านอย่าได้เป็นกังวลไป”ชายหนุ่มกล่าวขึ้น

    ขอรับ/เจ้าค่ะท่านไดกิ”การาสุเทนกุทั้งเก้าคำนับเขา รวมถึงการาสุเทนกุตนอื่นๆด้วยกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน ส่วนมายุก็คำนับเขาด้วยเธอมองพิธีเบื้องหน้าดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้นอยยู่สักพัก ในใจนั้นเต้นระรัวไปด้วยความหวาดกลัวสงคราม เมื่อรู้สึกตัวอีกทีชายหนุ่มที่ทำพิธีสำเร็จเสร็จสิ้นแล้วก็เดินมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าของเธอ

    ข้าเชื่อว่าเจ้าจะดูแลที่นี่ได้หากข้าไม่อยู่ มายุ ข้าตีดาบขึ้นมาให้เจ้าทาโร่ส่งดาบเล่มหนึ่งให้เขา ก่อนชายหนุ่มจะส่งให้เธอ มายุรับมา และจ้องมองเข้าไปภายในดวงตาของเขา

    ขอบคุณค่ะท่านไดกิ ดิฉันจะไม่ทำให้ท่านไดกิต้องเป็นห่วงค่ะ

    ข้ามีของจะให้เจ้า...แต่ไม่คิดว่าจะเอามาให้ตอนที่ข้ากำลังจะไปรบเช่นนี้ เมื่อเจ้าเห็นปิ่นปักผมนี้จงนึกถึงข้าชายหนุ่มหยิบปิ่นปักผมสีทองอร่ามขึ้นมาจากในแขนเสื้อของตน ที่ถูกแกะสลักลวดลายสวยงามและปราณีตยิ่งนักเป็นรูปหงส์ที่สง่างามยิ่ง

     ผมของเจ้ายาวขึ้นมากพอที่จะเกล้าผมได้แล้วนะเขาลูบเส้นผมของเธอที่ตอนนี้เกือบจะมีสีดำสนิทแล้ว

    ปิ่นปักผมอันนี้เป็นปิ่นปักผมแทนใจของข้า เจ้าดูแลให้ดีเสียล่ะ อย่าให้ห่างจากเจ้า

    ขอบคุณท่านไดกิมากเลยค่ะ ปิ่นปักผมสวยมากเลยค่ะแล้วดิฉันจะดูแลอย่างดีค่ะกล่าวจบร่างกำยำได้หันไปกล่าวกับเหล่าการาสุเทนกุ

    นี่คือนายหญิงของพวกเจ้า นางจะเป็นตัวแทนของข้ายามข้าไม่อยู่”เขากล่าวออกมาด้วยสุรเสียงที่แข็งกร้าว

    เจ้าค่ะ

    ขอรับการาสุเทนกุคำนับ แม้เธอจะทราบดีว่ายังมีคนไม่สะดวกใจนักที่เธอจะมาเป็นนายหญิงของเขา แต่มายุเองก็คำนับกลับอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ไดกิหันมามองอีกฝ่ายเขารู้ดีว่ามีเวลาร่ำลาอีกฝ่ายไม่นานนัก

    "มายุ ให้ที่นี่เป็นบ้านของเจ้า จงอยู่ที่นี่การาสุเทนกุจะดูแลเจ้าอย่างดี"

    "ค่ะ ท่านไดกิ"มายุตอบรับอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย ก่อนไดกิจะต้องนำทัพไปสมทบกับทัพของเซริวเขาเดินนำเหล่าการาสุเทนกุไปในทันที ก่อนมายุจะมองปิ่นปักผมเบื้องหน้าและรีบวิ่งตามอีกฝ่ายไป

    ท่านไดกิคะมายุเรียกอีกฝ่ายไว้ ที่หน้าคฤหาสน์

    ระวังตัวด้วยนะคะ ดิฉันจะรออยู่ที่นี่ รอท่านกลับมาค่ะร่างนั้นเมื่อได้ฟังจึงหันมา ดูเหมือนเขาจะหัวเราะในลำคอเพื่อกลบเกลื่อนความกังวลของตนเอง

    ถ้าข้าแพ้ เจ้าห้ามทำพิธีจิไกตัวเองเด็ดขาด แต่นั่นแหละ ข้าไม่แพ้หรอกเขาแสยะยิ้มออกมา

    ค่ะดิฉันเชื่อค่ะมายุกล่าวออกมา เธอยิ้มออกมาให้เขาได้เห็นและสบายใจขึ้นมาบ้าง

    ข้ารักเจ้า ข้าต้องกลับมาให้ได้

    ดิฉันก็รักท่านค่ะเธอดึงปิ่นปักผมออกมา และส่งให้เขา มิใช่ว่าเธอไม่อยากได้แต่อยากให้เขาเก็บเอาไว้เพื่อจะมามอบให้เธออีกครั้งหนึ่ง

    ท่านต้องกลับมาให้ได้นะคะ และเอาปิ่นปักผมนี้มาคืนดิฉันให้ได้นะคะชายหนุ่มเพียงรับปิ่นปักผมของเธอมามองและเก็บไว้  เขายิ้มออกมาที่มุมปาก ก่อนจะทะยานขึ้นท้องฟ้าไปพร้อมกับการาสุเทนกุจำนวนมาก เธอมองอยู่อย่างนั้นก่อนจะลับตาไป เมื่อหันไปก็ผงะเข้ากับอายุมุ จนเธอต้องคำนับอีกฝ่าย

    หลานชายข้า ต้องออกไปรบอีกแล้ว ทั้งๆที่เขาเพิ่งจะหายดีแท้ๆ การาสุเทนกุที่เจ้าช่วยไว้นั่นแหละ…”เธอมองไปบนท้องฟ้า ด้วยความกังวล

    เขาจะต้องไม่เป็นไรค่ะ

    ข้าไม่ชอบมนุษย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าช่วยชีวิตท่านไดกิไว้…”เธอพึมพำกับตนเอง

    ถ้าเช่นนั้นมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหมคะ

    ข้ากลัวว่ามันจะเป็นเช่นเดิมแบบที่ข้าเคยพบอายุมุกล่าวขึ้น เพราะเหล่าการาสุเทนกุอาวุโสไม่มีใครรู้เรื่องของเธอว่าเป็นมิวะมาก่อน  มายุตัวแข็งทื่อก่อนจะกล่าวออกมา

    ดิฉันเป็นหนี้บุญคุณท่านไดกิค่ะ ดิฉันจะไม่ทำอะไรให้ท่านไดกิเป็นกังวลเด็ดขาดค่ะอายุมุเพียงยิ้มกระตุกมุมปากก่อนจะเดินจากไป มายุเองก็ทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่ายนักก่อนทั้งสองจะแยกจากกันไป

     

    ไดกิรีบเดินทางจนมาถึงค่ายทางทิศตะวันออก กำแพงไม้มีป้อมที่คอยสอดส่องสังเกตการณ์ตั้งอยู่กลางป่าเขาเขียวขจี ภานในประกอบไปด้วยลานโล่งขนาดใหญ่และเพิงผ้าใบสีขาวจำนวนมาก ก่อนผู้ที่เห็นจะรีบส่งข่าวให้เทพมังกรฟ้านั้น ออกมาต้อนรับเขา ด้านหน้าของค่าย ที่มีเต๊นท์สีขาวขนาดใหญ่เป็นที่บัญชาการ ส่วนเต๊นท์อื่นๆที่มีขนาดเล็กลงมาก็เป็น เพิงพัก และที่เก็บอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ และเต๊นท์พยาบาล ด้านหน้าที่เป็นลานดินมีจำนวนทหารมากมายก่ายกอง ที่กำลังซ้อมรบอยู่อย่างขยันขันแข็ง ชายหนุ่มเมื่อมาถึงก็รีบก้าวเข้าไปในเพิงบัญชาการทันนที เขาพบเซริวนั่งอยู่บนเก้าอี้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นแม่ทัพ กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าเพื่อรอเวลาที่ชายหนุ่มปรากฏตัวขึ้น

    เจ้ามาถึงช้ากว่าที่ข้าคิดเซริวกล่าวขึ้น เหมือนจะแกล้งอีกฝ่าย

    ขออภัยครับ แต่เมื่อข้าทราบ ก็รีบมาในทันทีเลยขอรับ

    เช่นนั้นรึ? ทางนี้เดี๋ยวจะมีทัพของ อาโอะยูกิมาอีก”เซริวอธิบายออกมา

    อาโอะยูกิ? ยูกิอนนะรึ ไม่นึกว่าพวกนางจะต่อสู้เป็นไดกิถามขึ้น

    เจ้าประมาทนางเกินไปแล้วเซริวกล่าว และโดยที่ไม่ทันระวังตัว นางก็โผล่ขึ้นมาพอดี ร่างนั้นเดินเข้ามาใน เต๊นท์อย่างสง่าผ่าเผย

    ที่นี่ช่างร้อนยิ่งนักท่านเองรึ?นามว่าไดกิหญิงสาวผมสั้นผู้สวมเกราะหมวกและหน้ากากเหล็กครึ่งหน้า กับชุดเกราะที่ดูหนักอึ้งกล่าวขึ้น ก่อนจะเดินผ่านเขาไปแต่เธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

    เจ้ารู้จักนาง?”เซริวถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย

    ไม่ขอรับเขาสงสัยเช่นกันว่าทำไมอาโอยูกิถึงต้องยิ้มมอย่างมีเลศนัยเช่นนั้น

    ถ้าเช่นนั้นก็จงรีบเข้ามาประชุมกันเสียเถอะเซริวรีบกล่าว ก่อนทั้งสามจะนั่งลง

    พวกนั้นมีคุโระเฮียว คุโระทสึรุ คุโระเฮะบิ แถมยังมีอากะโอนิอีก

    เช่นนั้นพวกเราเสียเปรียบด้านกำลังพล แต่พวกปิศาจที่ถูกเกณฑ์มา ก็มิได้เก่งกาจการต่อสู้แต่อย่างใดอาโอะยูกิกล่าวขึ้น วิธีการพูดด้วยถ้อยคำสมัยใหม่เช่นนี้หวนให้ไดกินึกถึงคนรักอย่างน่าประหลาด จนเขาต้องสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก

    ยังไงคุโระเฮะบิที่อ่อนแรง คงไม่ได้ออกมาเป็นทัพหน้าหรอกขอรับ ข้าคิดว่าน่าจะอยู่เป็นทัพหลัง ไม่ก็แอบสอดแนมหรือรอตลบหลังอยู่ห่างๆไดกิออกความเห็น โดยที่ไม่ทันสังเกตุว่าหญิงสาวผู้มีผิวขาวผ่องประดุจหิมะก็แอบมองเขาก่อนจะยิ้มออกมา

    ดีมาก เช่นนั้นทัพใหญ่เช่นนี้ ข้าคิดว่า คุโระเฮียวจะนั่งบังคับบัญชาอยู่หลังสุด คอยสั่งทัพ เช่นนั้น พวกนั้นที่มีจำนวนมากกว่า คงจะพยายามปิดล้อมพวกเราอย่างแน่นอนเช่นนั้นจงระวังให้ดี

    ขอรับ/ค่ะไดกิรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของอีกฝ่ายนัก หรือแท้จริงคนอื่นๆอาจจะใช้คำสมัยใหม่หมดแล้ว

    ถ้าเช่นนั้น ข้าจะต้านทัพของคุโระทสึรุเองขอรับ การต่อสู้บนฟ้าข้าไม่เป็นรองใคร”เขากล่าวออกมาอย่างทระนงตน

    ถ้าอย่างนั้นข้าจะต้านทัพของอากะโอนิเองเซริวกล่าวอย่างมั่นใจ

    ดิฉันจะไปสู้กับคุโระเฮะบิเองค่ะไดกิเองที่มีความแค้นกับปิศาจงู จึงต้องจำใจยอมให้อีกฝ่ายไปสู้แทน แม้ที่จริงแล้วเขาอยากจะจัดการอีกฝ่ายเอง

    หากเช่นนี้แล้ว เราต้องเน้นการโจมตีไปที่พวกขุนพล แล้วชนะให้รวดเร็วที่สุด และค่อยๆรวมทัพกันไปโจมตีคุโระเฮียวดีไหม

    ข้าคิดว่าหากใครอยู่ทัพ ทางปีกซ้ายปีกขวานั้น ควรจะอ้อมไปจับคุโระเฮียวดีกว่าขอรับ ไม่เช่นนั้นเจ้านั่นต้องหนีแน่ๆเลยขอรับ

    ที่เจ้ากล่าวก็มีเหตุผลนัก

    ดิฉันเห็นด้วยค่ะชายหนุ่มเหลือบมองอีกฝ่าย อย่างสงสัย เขารู้สึกได้ว่าเธอมีพลังปิศาจแต่เบาบางยิ่งนัก หลังจากนั้นทั้งสามจึงดื่มสาเกหนึ่งจอกเป็นการสาบาน แต่ดูเหมือนอาโอะยูกิยังคงครุ่นคิดและอยากจะถามบางอย่างออกมาจนเซริวต้องถามไถ่อีกฝ่าย

    มีอะไรสงสัยรึ?”

    คิโยะฮิเมะล่ะคะ นางไม่มาหรือคะ?”อาโอะยูกิกล่าวขึ้น

    นั่นสิขอรับชายหนุ่มเองก็สงสัย

    ข้าคิดว่านางน่าจะยังอยู่กับคุโระเฮะบิ แต่นางไม่เก่งพอที่จะมาออกรบหรอก ทำไมรึเหตุใดพวกเจ้าจึงถามถึงนางเมื่อเทพมังกรฟ้าถามกลับทั้งสองก็เฉไฉในทันทีอย่างไม่ได้นัดหมาย

    ดิฉันแค่สงสัยเท่านั้นค่ะ นางทำร้ายมนุษย์เสียจนออกข่าวใหญ่โต ดิฉันจึงสงสัยเท่านั้นค่ะเธอกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เฉียบขาด

    นั่นสิขอรับ นางเคยมาถามไถ่ข้าว่าจะเข้าร่วมกับคุโระเฮียวหรือไม่ เมื่อนานมาแล้วขอรับ

    เช่นนั้นข้าเองก็ไม่รู้เซริวกล่าว ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เขากับเธออยู่ด้วยกันเท่านั้น ทั้งสองนั่งนิ่งไม่คุยกันจนกระทั่งไดกิถามอีกฝ่ายขึ้น

    เมื่อตอนเจ้ามา เจ้าถามชื่อของข้าทำไมรึ?”ไดกิหยิบดาบขึ้นมาเช็ด

    แล้วข้าถามมิได้รึ?”อีกฝ่ายตอบอย่างยียวน

    เจ้านี่ช่างแปลกประหลาด ทั้งพูดภาษาเก่าและใหม่ในเวลาเดียวกัน

    ข้าไม่คุ้นภาษาโบราณ หากข้ากล่าวกับผู้ที่สูงกว่า ข้าจะพูดด้วยคำสุภาพของภาษาสมัยใหม่มันง่ายกว่า

    เช่นนั้นรึ? ข้ามิเคยรู้มาก่อนว่า ยูกิอนนะจะต่อสู้เก่ง

    แล้วท่านคิดรึว่าข้าจะใช้เวลาวันๆหมดไปการหลอกล่อผู้ชายและดูดพลังชีวิตของเขากันรึ?”เขาถึงกับชะงักเมื่ออีกฝ่ายกล่าว

    ...ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะไถ่ถามอีกฝ่าย

    แล้วเหตุใจข้าถึงไม่รู้ถึงพลังปิศาจของเจ้ามากนัก เจ้าเหมือนมนุษย์เสียมากกว่าหญิงสาวยิ้มเหยียดออกมาเมื่อได้ฟัง

    ก็ข้าเป็นมนุษย์ยังไงล่ะ”ไดกิมีสีหน้าที่ประหลาดใจนักเมื่อได้ฟัง

    จริงรึ?”

    ตาของข้าเป็นมนุษย์ แต่ยูกิอนนะนั้นต่อสู้ไม่เป็นไม่สิ ไม่เก่งสักเท่าไหร่ เขาเลยส่งข้ามา ข้าเองก็ไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นยูกิอนนะแต่อย่างใด เพราะข้ามิได้เกิดจากหิมะ แต่จะให้ข้าทำเช่นไรเมื่อทุกคนอยากให้ข้ามาแทน ข้าก็ต้องมาเธอกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น

    เจ้าจะสู้ไหวรึ?”

    อย่าดูถูกข้านัก ท่านเทนกุผู้ยิ่งใหญ่ และท่านจะตกใจกับความสามารถของมนุษย์

    ข้าก็รู้แล้ว…”เขาหยิบปิ่นปักผมออกมา พิจารณาดู

    ของคนรักรึ?”อีกฝ่ายถามขึ้น อย่างสงสัย

    ใช่เขาตอบสั้นๆ ก่อนอาโอะยูกิจะยิ้มออกมา ก่อนจะมองไปทางอื่น

    ก็ตลกดี ข้าไม่ใช่ยูกิอนนะ แต่กลับได้ชื่อว่าอาโอะยูกิทั้งที่ข้าไม่มีพลังหิมะอะไรเลยก็เถอะเธอบ่นออกมา ก่อนจะเดินออกจากเพิงบัญชาการไปไป

     

    ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มหมั่นฝึกฝนอย่างจริงจัง การใช้อาวุธของเขาทั้งทวน กระบอง ดาบ นั้นไม่เป็นรองใคร รวมถึงพลังพายุที่ยิ่งใหญ่นักเพราะเขาได้รับพลังแห่งไดเทนกุกลับมาแล้ว เป็นพลังที่เขาเองก็ถึงกับประหลาดใจเช่นกัน เพียงวินาทีเดียว เขาก็บินได้อย่างรวดเร็วจนหาตัวจับได้ยาก และสามารถเคลื่อนย้ายได้ในพริบตา

    นี่คือพลังแห่งเทพ…”ไดกิยิ้มออกมา เมื่อในที่สุดเขาก็ได้กลับเป็นไดเทนกุอีกครั้งหนึ่ง คาบูโตะที่ติดตามเขามาก็มีสีหน้าตื่นเต้นและดีใจอย่างยิ่งนัก ที่ในที่สุดเวลาที่ท่านไดกิรอมาเนิ่นนานก็มาถึงสักที

    ยินดีด้วยขอรับท่านไดกิเขาคุกเข่า และคำนับ

    แล้วทาโร่ล่ะเขาสงสัยเพราะเมื่อครู่ยังเห็นทาโร่ฝึกซ้อมอยู่กับคาบูโตะอยู่

    ไม่ทราบขอรับคาบูโตะกล่าว และมองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นเขา

    เจ้าเงียบก่อนไดกิสั่ง เมื่อทุกสิ่งเงียบลงทั้งสองจึงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ และได้ยินเสียงสนทนาของทั้งสองดังอยู่ไม่ไกลนัก

    ท่านอาโอะยูกิ เรียกข้ามาทำไมขอรับ ข้าต้องไปฝึกซ้อมนะขอรับ”เสียงทาโร่ดังขึ้นน

    ข้าแค่สงสัย ไม่เคยเห็นการาสุเทนกุตัวเป็นๆมาก่อน ดูแล้วเจ้าก็น่ารักดีนี่ ขอบคุณนะที่คอยส่งจดหมายมาให้ข้าตลอดเวลาที่ผ่านมา พอเจอเจ้าจริงๆแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นชะมัด…”ไดกิกับคาบูโตะมองหน้ากันอย่างฉงน ไม่รู้ว่าเขาแอบคุยกับหญิงสาวผู้นี้มานานแล้วหรือยัง ก่อนไดกิจะเลิกสนใจและกลับไปฝึกซ้อมต่อ แต่คาบูโตะยังยืนฟังอย่างฉงน

    ...ท่านเองก็สวยกว่าที่ข้าคิดขอรับคาบูโตะถึงกับส่ายหัว ที่แท้เขากำลังเกี้ยวอีกฝ่ายอยู่ชัดๆ ก่อนจะเดินไปซ้อมต่อแต่ถูกไดกิเรียกเอาไว้

    เจ้ามาเป็นคู่ซ้อมให้ข้าเสีย

    ขอรับคาบูโตะรีบคว้ากระบองที่เขาโยนให้ ก่อนทั้งสองจะสู้กัน คาบูโตะที่เป็นถึงคนสนิทก็ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย กระบองไม้นั้นถูกฟาดลงใส่แต่เขาเพียงใช้กระบองกันอีกฝ่ายไว้อย่างแม่นยำและดันอีกฝ่ายออกก่อนจะฟาดกระบองใส่ทางด้ายซ้ายแต่ไดกิเองก็ใช้กระบองขัดอีกฝ่ายไว้ ก่อนจะสู้ต่อกันอยู่นานจนตะวันเคลื่อนต่ำลงเป็นเวลาบ่าย คาบูโตะเองนั้นก็เหนื่อยหอบยิ่งนัก แต่ไดกิยังดูไม่เหนื่อยแต่อย่างใด

    นี่รึ? พลังของไดเทนกุ?”เขากล่าวขึ้นก่อนจะปาดเหงื่อ ก็พอดีกับทาโร่ที่เพิ่งจะเดินกลับมา อย่างงงวย คาบูโตะที่เห็นก็เกิดโมโหขึ้นมา

    แกหายไปไหนมา ให้ข้าอยู่คนเดียว รู้ไหมว่าท่านไดกิเขาไม่มีใครจะซ้อมด้วย ทำไมแกถึงอู้งานเช่นนี้!!คาบูโตะต่อว่าอีกฝ่าย

    ...ข้าขอโทษ เช่นนั้นข้าจะเป็นคู่ซ้อมแทนเจ้าแล้วกันทาโร่รีบกล่าวและหยิบกระบองขึ้นมา

    เจ้าจีบนางอยู่รึ?”คาบูโตะถามขึ้น

    จีบ? ข้าจีบใครรึ?”เขาฉงน จนคนทั้งสองถึงกับถอนหายใจ

    ก็อาโอะยูกิยังไงล่ะคาบูโตะกับไดกิประสานเสียงกัน

    อ๋อ…. เปล่าขอรับทาโร่ตอบด้วยใบหน้าที่นิ่ง

    ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะพูดคุยอะไรกับนางตั้งนานคาบูโตะกล่าว แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบ ไดเทนกุก็รีบกล่าวขึ้นเสียก่อน

    ช่างเถอะ มาซ้อมกันต่อดีกว่าไดกิขัดจังหวะทั้งสอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาและเดินไปซ้อมการต่อสู้ เมื่อนึกถึงมนุษย์แล้ว เขาย่อมนึกถึงแต่มายุคนเดียวเท่านั้น

     

    เวลาหลายวันผ่านไป จนกระทั่งถึงวันที่คุโระเฮียวยกทัพมาถึง อาโอะยูกิรีบสวมชุดเกราะและขี่ม้าออกไปยังสนามรบในทันทีอย่างไม่เกรงกลัว พร้อมกับกองทัพของเหล่าอสูร ส่วนไดกิเองก็รีบไปตั้งรับอยู่ที่ซีกซ้าย ไม่นานนักก่อนท้องฟ้าและผืนดินเบื้องหน้าจะดำทะมึนด้วยอสูรจำนวนมาก ก่อนร่างในชุดเกราะนักรบสีดำจะปรากฏตัวขึ้น บนฟากฟ้าปรากฏตัวต่อหน้าปิศาจเทนกุ

    กระเรียนทมิฬเขาพึมพำกับตนเอง และให้สัญญาณฝั่งตนเองว่าเตรียมพร้อม ร่างเบื้องหน้าเองก็ส่งสัญญาณมือให้กำลังพลของเขาหยุดลง

    แล้วท่านจะรู้ว่าไม่ควรไปรับใช่ฝั่งเทพ ทำไมกันทั้งที่ท่านเป็นอสูรแท้ๆเสียงนั้นตะโกนขึ้นมา

    ข้าเองก็บอกเหตุผลไปหลายรอบแล้ว เลิกถามข้าเสียที!!”ไดกิกล่าวก่อนจะให้สัญญาณโจมตีอีกฝ่ายหนึ่ง และริ่งพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายก็เช่นกัน ร่างนั้นกางปีกสีขาวดำออกมา ชักดาบออกมาและพุ่งเข้ามา  ดาบเล่มเรียวนั้นตวัดอย่างรวดเร็วและเดาทิศทางได้ยาก ไดกิรีบตั้งรับอย่างพอดิบพอดีจนดาบเกิดประกายไฟ

    ข้าเองเป็นถึงอดีตสัตว์เทพของอิซานามิ!!! ข้าไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!”ร่างนั้นตีลังกากลางอากาศ และถอยหลังไปอย่างคล่องแคล่วและหยิบใบดาบขึ้นมาถือไว้อีกข้าง

    ดาบสองมือรึ?”ไดกิพยายามตั้งรับอีกฝ่ายด้วยจิตที่แน่วแน่ และตั้งรับอีกฝ่ายในทันที เมื่อมือขวาของเขาฟาดฟันลงมาเมื่อไดกิยกดาบขึ้นรับอีกมือหนึ่งก็รีบฟาดฟันลงมา ชายหนุ่มยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ลำตัวของอีกฝ่ายเซถลาไป ก้อนเขาเองจะเป็นฝ่ายบุกเข้าไปในทันที ดาบใหญ่ฟาดฟันลงที่คุโระทสึรุอย่างแม่นยำ ก่อนร่างนั้นจะตั้งดาบขึ้นรับแต่ถูกพลังของอีกฝ่ายดันไปไกล

    เจ้ากลับมาเป็นไดเทนกุแล้วรึ?”อีกฝ่ายกัดฟันพูด ก่อนแสยะยิ้มออกมา

    เช่นนั้นข้าจะได้ไม่ออมมือ!!!”ร่างของเขาเค้นพลังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่งมีพละกำลังพอที่จะดันดาบอีกฝ่ายกลับได้อย่างสบาย

                   ข้าสะสมพลังมานานนับหลายพันปี ยังไงก็มีพลังมากกว่าเจ้าแน่นอน เด็กน้อยร่างนั้นพุ่งชนเขาอย่างแรงจน ไดกิเป็นฝ่ายเซ จนลงไปยืนอยู่ที่พื้น

    ปีกของเจ้า ยังไม่ดีดังเดิมสินะดวงตาสีดำขลับมองเหยียดอีกฝ่าย อย่างสมเพช แต่ไดกิยังพุ่งเข้าไปพร้อมดาบอันแหลมคม ก่อนจะใช้เพลงดาบของเขา หลบการโจมตีอีกฝ่ายและสวนกลับ แต่ดาบนั้นยังรับได้อย่างแม่นยำอีกครั้ง

    เจ้าจะต้องตายเสียที่นี่ ไดเทนกุ

    ข้าจะไม่ตาย เด็ดขาด!!!!!”ทั้งสองใช้พลังผลักดันกัน ไปมา ก่อนลมพายุรอบข้างจะหมุนแรงขึ้น เป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดที่เคยเห็น และทั้งสองก็อยู่ตรงกลางของตาพายุนั้นจนมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ด้านนอก และประกายไฟได้สว่างแวบเป็นจังหวะพร้อมกับเสียงเหล็กกล้ากระทบกันอย่างไม่มีใครพลาดพลั่งให้ใคร

     

    ร่างของหญิงสาวผมสั้นสีดำนั้นหยุดมาลงเสียตรงเบื้องหน้า ก่อนจะพบกับจำนวนปิศาจที่มีมากนักหนา แต่ยูกิอนนะก็ไม่หวั่นเกรงแต่อย่างใด กระทั่งชายผู้มีเรือนผมสีขาวและดวงตาสีอำพันปรากฏตัวขึ้นในชุดเกราะ และยิ้มอย่างยียวนให้อีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อเขารู้ถึงพลังปิศาจที่บางเบาก็อดยยิ้มเยาะออกมาไม่ได้ ผู้หญิงเบื้องหน้าของเขา เขาเองคงจะจัดการเธอได้ในไม่นานนักอย่างแน่นอน

    พลังปิศาจของเจ้าช่างน้อยยิ่งนัก จะมาต่อกรกับข้าได้รึร่างนั้นแสยะยิ้มออกมา

    ข้าไม่แพ้เจ้าอย่างแน่นอน คราวก่อนเจ้ามันเก่งกับมนุษย์เท่านั้น แต่ตอนนี้เจ้านั่นแหละที่จะถูกข้าบดขยี้เสียให้สิ้นคุโระเฮะบิถึงกับหุบยิ้มด้วยภาพของหญิงสาวที่ซ้อนทับกัน แม้จะรู้เต็มอกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่เขาคำนึงอยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าทางที่ไม่เกรงกลัวอีกฝ่ายช่างชวนนึกถึงนางผู้นั้น

    เจ้าเป็นใครกัน?”ปิศาจงูถามไถ่ขึ้น

    ข้ามิจำเป็นต้องตอบเจ้า…”ร่างของเธอเรียกทวนน้ำแข็งออกมาและถืออย่างถนัดมือ

    ตัวแทนของยูกิอนนะเองรึ? เจ้ากับเทนกุช่างคล้ายกันนัก คือชอบเพ้อฝันว่าตนเองเป็นเทพเจ้า!! แต่ตอนนี้เจ้ายังทำได้เพียงยืมพลังจากผู้อื่นเท่านั้น!!!”เขาหัวเราะออกมา ฉับพลันร่างบางก็รีบควบม้าเข้าใส่อย่างไม่ลังเล

    ข้าไม่เคยยโสโอหัง อย่าเทียบข้ากับปิศาจเช่นนั้น!!!”ทวนของเธอตวัดใส่ปิศาจมากมาย อย่างเก่งกาจ แต่คุโระเฮะบิเองเพียงยืนอยู่นิ่งเท่านั้นปล่อยให้ปิศาจชั้นต่ำเข้าไปเป็นคู่ต่อสู้กับเธอแทน ร่างของผู้ที่วิ่งเข้าหาเธอต่างปลิดปลิวอย่างใบไม้ร่วง และรีบเดินหน้าไปถึงอีกฝ่ายให้เร็วที่สุด คุโระเฮะบิเองก็ไม่ได้หนีแต่อย่างใด ก่อนจะกระโดดจากหลังม้าลงไปฟาดฟันอีกฝ่าย อย่างจัง ทว่าร่างนั้น กลับหายไปเหลือเพียงหมวกเกราะประจำตัว เมื่อนั้นเธอจึงตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมศัตรู

    ข้าไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!! มันอยู่ที่ไหนกัน!!”ฉับพลันพื้นน้ำแข็งก็พุ่งขึ้นมาเป็นหนามแหลมคมทิ่มแทงอีกฝ่ายจนลงไปนอนเจ็บกันหลายคน ก่อนร่างเบื้องหน้าของคนทั้งสองจะปรากฏขึ้น

    เจ้ามนุษย์หน้าโง่ ทำไมจึงมาอยู่ที่แห่งนี้กัน เจ้ามันไม่ใช่แม้แต่ยูกิอนนะด้วยซ้ำคิโยะฮิเมะหัวเราะออกมา

    ข้าก็ไม่อยากเป็นปิศาจอยู่แล้วทวนนั้นฟาดฟันอีกฝ่ายอย่างทะมัดทะแมง แต่ทั้งสองเองก็พยายามหลอกล่อให้อาโอะยูกิ หลงกล แต่ด้วยจิตใจอันแน่วแน่เธอยังคงรักษาระยะห่างระหว่างตัวของเธอกับปิศาจทั้งสองอย่างไม่เพลี่ยงพล้ำนัก

    อะไรกัน? ข้าจะไม่เข้าไปนะ จนกว่าเจ้าจะสู้กับลูกสมุนของข้าได้จนหมดคุโระเฮะบิกล่าวด้วยความยียวน ทว่าทันใดนั้นร่างหนึ่งได้ลงมาข้างเธอ

    ท่านอาโอะยูกิขอรับ ข้ามาช่วยท่านแล้วทาโร่กล่าวและสู้กับปิศาจอย่างรวดเร็วด้วยอย่างไม่คณามือ

    เจ้ามาได้อย่างไรทาโร่เธอถามขึ้นแต่ดวงตายังจับจ้องที่อีกฝ่าย

    ข้าขอท่านไดกิมาขอรับเธอยิ้มมุมปากออกมาเมื่อได้ฟัง

    "แล้วเจ้านั่นก็ให้น่ะหรอ? ตลกชะมัดเธอกล่าว รีบรีบประชิดอีกฝ่าย คุโระเฮะบิรีบชักดาบออกมารับอย่างแม่นยำ ใบมีดทั้งสองฝ่ายที่ปะทะกันนั้นเกิดประกายไฟขึ้นมา ส่วนคิโยะฮิเมะรีบตรงเข้าหาเธอในทันที

    เจ้านี่เอง ต้นเหตุเรื่องราวในวันนั้น….”หญิงผมสั้นสีดำขลับคลับ กัดฟันกรอด ก่อนจะคำรามออกมา ฉับพลันฝ่ามือของเธอก็มีแท่งน้ำแข็งปลายแหลม ชี้ไปที่อีกฝ่ายพอดิบพอดี ก่อนจะพุ่งเข้าหาปิศาจสาวนั้น จนกระทั่งเธอได้รับบาดเจ็บ จากนั้นอาโอะยูกิจึงรีบใช้ทวนฟาดฟันชายเบื้องหน้าจนเขาล่าถอยไป

    ไม่เห็นจะเก่งเหมือนที่ทำกับมนุษย์เลย!!”ร่างบางทะลวงเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปาทวนใส่อีกฝ่ายจนทั้งคู่กระเจิงไปคนละทิศคนละทาง

    บ้าเลือดสิ้นดี!!”คิโยะฮิเมะกล่าว และพุ่งเข้าทำร้ายอีกฝ่ายทันที หญิงสาวที่ไร้อาวุธถูกอีกฝ่ายเข้าประชิดตัวหวังจะพ่นพิษแห่งความตายให้เธอเสีย แต่ทว่ามือเรียวจับคอเสื้อและทุ่มอีกฝ่ายลงกับพื้นอย่างแรง

    คิดจะสู้ระยะประชิดพร้อมใส่เกราะไปด้วยรึ?”ชายผู้นั้นเองก็กลับมาตามตอแยอาโอยูกิไม่เลิก

     

    ไดกิใช้พลังอย่างมากในการดันคมดาบออกจากเขาให้ได้นัก คุโระทสึรุนั้นเก่งกว่าคุโระเฮะบิหลายขุม ในการต่อสู้ด้วยฝีมือ และร่างนั้นจึงหยิบพัดขึ้นมาเมื่อโบกสะบัดเพียงครั้งเดียว คมดาบล่องหนก็ฟันทะล่วงอีกฝ่าย จนเลือดอาบที่แขน ก่อนร่างที่โมโหนั้น จะพุ่งเข้ามาชนเขาอย่างแรงจนกระเด็นไป

    ปีกของข้ากล้าแข็งกว่าของเจ้านัก ลมพายุเพียงนี้ข้าก็รอดมาได้พูดจบก่อนจะหมุนตัวอย่างรวดเร็วประดุจใบพัด ที่พร้อมจะเฉือนทุกสรรพสิ่งที่อยู่ใกล้ ไดกิเพียงรีบบินขึ้นไปด้านบน และตั้งสมาธิให้ดี ก่อนจะฟาดฟันดาบลงมา

    มุกเก่าๆ ยังจะเล่นอยู่อีกหรือเขาหัวเราะออกมา ทว่าไดกิรีบพุ่งลงมาด้วยความเร็วมาที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แรงมหาศาลนั้นทำให้อีกฝ่ายถึงกับคุกเข่าอยู่กับพื้น ไดกิกระหน่ำฟาดใบมีดของตนลงไปอย่างสุดแรง หลายครั้งและรวดเร็วจนกระทั่ง ใบมีดบางของอีกฝ่ายมีรอยร้าวเกิดขึ้น เมื่อนั้นคุโระทสึรุรีบกล่าว

    ขนนกของข้า จงทิ่มแทงอีกฝ่าย!!!ปีกของเขาได้หายไปสิ้นก่อนขนนกทั้งหมดจะพุ่งไปยังเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า ไดกิเอื้อมมือออกไปและพยายามใช้แรงลงในการต้านไว้อย่างยากลำบาก จนมือของเขาเริ่มสั่นแต่ขนนกนั้นก็ยังคงพยายามจะทิ่มแทงเข้ามาใส่ให้ได้

    เจ้าบ้าเอ๊ย!!” ไดกิสบถออกมา และตัดสินใจบินทะยานขึ้นฟ้าไปเพื่อหลบการโจมตีให้ได้ ก่อนคุโระทสึรุจะยิ้มเยาะออกมา

    ขนนกเหล็ก หนีไปสิ แต่ไม่ว่ายังไง หนีไปก็เท่านั้น…”เขาแสยะยิ้มออกมาและมั่นใจในฝีมือของตนเอง

    ไดกิทะยานไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ และรีบเปลี่ยนทิศทางลมให้พัดลงกับพื้นอย่างแรง เสียจนขนนกรวมทั้งคุโระทสึรุเองทรุดลงนั่งกับพื้นด้วยความหนักของเกราะเหล็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี จนร่างของชายหนุ่มนามไดกิจะรีบปักดาบลงมาอย่างสุดตัวใส่ผู้ที่อยู่เบื้องล่างในทันที

    ฉัวะ!!”

     

    ร่างบางยังคงยืนหยัดต่อสู้กับสองคนที่อยู่เบื้องหน้าอย่างไม่ลดละกระทั่งคิโยะฮิเมะเป็นฝ่ายเหนื่อยหอบ เพราะเธอไม่ได้เก่งการต่อสู้นัก แต่ก็ใช้พลังทั้งหมดพ่นพิษออกมาเป็นไฟสีฟ้าที่แผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง อาโอะยูกิเรียกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมากั้นได้อย่างทันท่วงที

    น่ารำคาญชะมัด ข้าไม่ยักรู้ว่ายูกิอนนะใช้พลังได้เช่นนี้!!”คุโระเฮียวกล่าวขึ้น

    เช่นนั้นก็จงรู้เสีย!!!”

    คุโระเฮะบิไม่รอช้ารีบกระโดดข้ามกำแพงน้ำแข็งไปและตวัดดาบใส่อย่างรวดเร็ว ยูกิอนนะตั้งรับดาบนั้นอย่างทันท่วงที แต่เมื่อเธอไม่ได้เฝ้ากำแพงน้ำแข็งที่ถูกพิษของคิโยะฮิเมะนั้น กำแพงก็พลันละลายอย่างรวดเร็ว

    ข้าจะแพ้ไม่ได้เธอเหลือบเห็นแผลบนฝ่ามือด้านซ้ายของอีกฝ่าย ที่เป็นแผลรอยถูกแทงจึงแสยะยิ้มออกมา แท่งน้ำแข็งที่แหลมคมปรากฎขึ้นในมือของเธอ ก่อนจะเอี้ยวตัวหลบดาบนั้นและใช้แท่งน้ำแข็งแทงไปที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ

    อ๊ากกกก!!!”คุโระเฮะบิร้องอย่างโอดโอย ก่อนจะถูกอีกฝ่ายจับทุ่มลงกับพื้นพร้อมกับปลดอาวุธของเขาเสียในทันที ยูกิหยิบมีดสั้นขึ้นมาแต่กลับลังเลใจ

    เจ้าอย่าฆ่าท่านพี่ข้า!!”คิโยะฮิเมะรีบกล่าวขึ้น ก่อนอาโอะยูกิจะลังเลอย่างหนัก

    หึ ทำไมไม่ฆ่าข้าเสียล่ะ เจ้าฆ่าคนไม่ลงรึ? ฮ่าๆ น่าขำสิ้นดี นี่เจ้ากำลังอยู่ในสนามรบนะคุโระเฮะบิระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

    มนุษย์นี่ช่างขี้กลัวเสียจริงฉับพลัน ผู้มีเรือนผมสีขาวได้แปลงกายเป็นงูแล้วเลื้อยหนีไป อาโอะยูกิชะงักไปและรีบถอยออกมาตั้งหลักอยู่ห่างจากเขามากนัก

    ข้ารู้แล้ว….ว่าเจ้ากลัวงู เจ้ามนุษย์น่าโง่ ในเมื่อในสนามรบเจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ก็จงตายเสียตรงนี้ซะ!!!!งูตัวใหญ่สีดำทมิฬแลบลิ้นสองแฉกออกมาอย่างมีชัย ลำตัวของมันขนาดใหญ่เสียยิ่งกว่ามนุษย์คนหนึ่งเสียอีก ก่อนจะพุ่งเข้าไปทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งในทันทีอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเหลืองอำพันทอประกายการล่าเหยื่อที่สนุกสนานยิ่งนัก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×