คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Open the Gate
เสียงลมหวีดหวิวพัดอ่อนหยอกล้อเมฆหมอกยามราตรี ดวงดาวพราวกระจ่างฟ้า บรรยากาศเย็นสบายขับกล่อมให้หมู่สรรพชีวิตเคลิ้มไปกับนิทรากาล
...แต่หาใช่ปีศาจไม่...
ท่ามกลางบรรยากาศมืดหม่นและร้านDevil May Cryที่ไร้ซึ่งแสงไฟดูสงบเงียบ พลันเสียงกระโดดและเสียงฝีเท้าเดินราวกับรีบรน เสียงนั้นดังสม่ำเสมอไล่เรื่อยไปตามทางเดิน เสื้อชุดสีน้ำเงินกระทบแสงติดๆดับๆของไฟทาง ก่อนความมืดแห่งราตรีจะปกคลุมจนภาพนั้นเบือนเลือนรางไป
“ยินดีต้อนรับกลับอีกครั้ง ท่านเวอร์จิล”
/> ร่างสูงเรือนผมสีรัตติกาลเอ่ยขึ้นท่ามกลางความมืด บรรยากาศรอบๆตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้เปลื่ยนไปเสียจนร่างโปร่งบางรู้สึกแตกต่างไปจากตอนแรกที่ได้พบมากเสียจนต้องขมวดคิ้ว ความรู้สึกคุกคาม กดดัน แต่ก็มีแรงดึงดูดให้เข้าหา
ก่อนได้เอ่ยสิ่งใด มือเรียวสวยนั่นถูกเกาะกุมก่อนดึงลากเข้าตัวบ้านที่รกร้าง ประตูเหล็กบานใหญ่เปิดออกราวกับมีชีวิต กุหลาบนับร้อยผลิดอกออกบานราวกับต้อนรับยินดีก่อนจะแปรสภาพเป็นดวงไฟเย็นสีฟ้า
“คิกๆ...” เสียงหัวเราะที่น่าพรั่นพรึงดังขึ้นเป็นระลอกๆรอบๆตัวทั้งสอง ไอเย็นและหมอกขาวลงเรื่อยปกคลุมบ้านหลังนั้นอย่างเงียบเชียบแช่มช้า ก่อนที่บ้านหลังนั้นจะจางหายไป...
...ที่ไหนเนี่ย..
ร่างสูงเอ่ยถามตนเองในใจในขณะเรียวขายาวยังคงขยับเดินไปเรื่อยตามทางเดินสีหมอก ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนอกจากสีขาว
พลันทันเท่าความคิดนัยน์ตาตวัดไปสะดุดกับร่างเลือนรางที่คุ้นตาที่ปลายสุดของระยะสายตา ร่างนั้นกำลังเงยหน้าจดจ้องอะไรบางอย่างก่อนหันมายิ้มจางๆให้ร่างสูงที่กำลังเร่งฝีเท้าเพื่อมุ่งมาหา แต่ยิ่งวิ่ง ยิ่งห่างไกล ริมฝีปากบางขยับยกเอ่ยบางอย่าง
...นายพูดอะไร!! ชั้นไม่ได้ยิน!!...
...”F……………”…
…อะไรนะ!...
…“…Farewell (ลาก่อน)...”…
ภาพร่างบางที่คุ้นเคยค่อยๆหันหลังให้ผู้เป็นน้อง และค่อยๆเลือนหายไปจากมโนทัศน์ เสียงที่เรียกของผู้เป็นน้องพยายามเรียกหา มือแกร่งตะเกียดตะกายไปหาจุดหมาย แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงความว่างเปล่า...
“เดี๋ยว! เวอร์จิล!” ใบหน้าคมที่ชุ่มเหงื่อกระสับกระส่ายก่อนนัยน์ตาสีฟ้าหม่นจะเบิกกว้างและลืมตาตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ เขาลุกขึ้นนั่งก่อนปาดเหงื่อออกจากในหน้าคม ลมหายใจกระหืดกระหอบเป็นตัวบ่งบอกได้เลยว่าความฝันนี้เลวร้ายมากพอดู
ดันเต้ค่อยลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขายาวๆก้าวฉับๆจุดหมายคือ ห้องนอนข้างๆ...
มือแกร่งออกแรงราวกับกระชาก ประตูที่ถูกล็อคกลอนอยู่ด้านในถึงกับฉีกออกราวกับกระดาษทิชชูบางๆ (คนแต่ง/แรงควายนั่นเอง -*- )
ภายใต้แสงจันทร์นวลที่ส่องเล็ดลอดผ่านเหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้กระทบผ้าปูที่นอนที่สีนวลขาว มีเพียงความว่างและเสียงลมหายใจกระหืดกระหอบของตนเองเท่านั้น…
“นายสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ...เวอร์จิล...”
อีกครั้งภายในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในหน้าต่างบานเล็กที่แตกหักและเต็มไปด้วยยักไย่ เดิมรอบๆห้องมีรูปปั้นรูปร่างต่างกันเจ็ดอย่างแต่บัดนี้มันแตกหักเป็นส่วนเสียแล้ว ความรู้สึกที่น่าหวาดหวั่นปกคลุมห้องโถงนี้ กลิ่นกำยานหายไป มีเพียงกลิ่นคาวของเลือดสัตว์ป่าที่น่าสะอิดสะเอียน
“ไปยืนที่กลางห้องโถงซิครับ...ท่านเวอร์จิล...” เสียงของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างเรียบๆซึ่งน่าแปลกที่เวอร์จิลเองกลับทำตามอย่างง่ายดาย
พลันร่างของปีศาจทั้งเจ็ดค่อยๆเผยจากผืนดินช้าๆ มีทั้งหญิงสาว เด็กตัวกลม และชายผู้หยิ่งผยองที่พบกันเมื่อคราวก่อน ทั้งเจ็ดร่างส่งยิ้มยะเยือกมาให้ นัยน์ตาทุกคู่จับจ้องเจ้าของนัยน์สีห้วงสมุทรอย่างไม่กระพริบสายตา ก่อนทุกตนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรื่อยเอื่อย
...ต้องการสิ่งใด...
“ข้าต้องการเปลี่ยนแปลงกุญแจแห่งโลกมนุษย์”
…ต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน...
“…?...”
…แด่ปีศาจทั้ง 7...
....เลือดของเจ้า...
ก่อนได้เอ่ยสิ่งใด ร่างโปร่งรู้สึกได้ถึงผิวหนังที่ตึงแน่นก่อนฉีกขาดไปเป็นแนวยาวราวกับมีมีดนับพันเฉือนทั้งแขนและขา หยาดโลหิตซึมผ่านเนื้อผ้าสีน้ำเงิน หยดกระทบพื้นอย่างไม่หยุด แต่ร่างนั้นยังคงฝืนยืนพลางส่งสายตาเย็นยะเยือกให้ร่างทั้ง 7 แต่มีเพียงรอยยิ้มเย้ยหยันที่ส่งผ่านกลับมา เหล่าปีศาจทั้ง 7 ค่อยๆเยื้องกรายเข้ามาก่อนทั้งหมดจะก้มลงไล้เลียหยาดแดงชาตที่ไหลซึม
“พวกเจ้า...พอใจหรือยัง...” น้ำเสียงเยียบเย็นเรียกเสียงหัวเราะน้อยๆที่ชวนให้ขนลุก
พลันยามาโตะดาบคู่กายนั้นถูกกระชากออก ตัวดาบคมกริบกำลังสะท้อนแสงสู้จันทราโดยมีผู้เป็นนายเฝ้ามองอย่างประหลาดใจ
...กุญแจใหม่ถูกเลือกแล้ว...
“ว่าไงนะ~!?” นัยน์ตาสีสมุทรเบิกกว้างเมื่อสิ้นเสียงนั่น ดวงหน้างามสีนวลตานั้นซีดลงถนัดตา ยามาโตะมิใช่เพียงขุนศึก...เป็นทั้งของล้ำค่าที่พ่อที่จากให้...และเป็นเพื่อนของเขามามากกว่าครึ่งชีวิต...ทั้งหมดกำลังจะหายไป...
ภาพเบี้องหน้าที่พร่ามัวค่อยๆปรากฏภาพเด็กหนุ่มที่คุ้นเคยกำลังส่งรอยยิ้มจางเบามาให้ก่อนทั้งหมดจะจางหายไปพร้อมๆตัวดาบที่แตกออกเป็นส่วนๆ
“…ไม่...อ้ะ!....อ๊ากกก~!!” พลังในกายของเวอร์จิลกำลังปั่นป่วน ร่างนั้นทรุดลงกับพื้นอย่างทุรนทุราย ลมหายใจหอบถี่รัว ก่อนที่เนื้อผ้าด้านแผ่นหลังจะฉีกขาดเนื่องด้วยบางสิ่งที่เข้ามาเพิ่มเติมในร่างกายที่งดงามนั่น
...ปีกสีดำ...
ก่อนที่สติจะดับวูบ สายตาเย็นเหลือบไปเห็นชายในเรือนผมสีรัตติกาลกำลังยกยิ้มแสยะเยียดในมุมมืดของห้องโถง ริมฝีปากนั่นขยับไปมาได้ใจความว่า...
ความคิดเห็น