คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : Turn on (Nc-17)
ร้อน...
ร้อน......!!
ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยสีหน้าซีดเซียว มือหนายกขึ้นเช็ดเหงื่อไคลที่ไหลย้อยเต็มใบหน้าคม อุณหภูมิในร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้นเสียจนน่าตกใจ นัยน์ตาคนมองร่างกายตนเองที่เปลื่ยนไป พลังในตัวเขาพุ่งสูงพอกับอุณหภูมิร่างกาย และ...
เฮ้ย!!...
ดันเต้อุทานในใจ เมื่อเห็นลูกชายที่น่ารักกำลังดันกางเกงผ้าหมายจะออกมาเผชิญโลกกว้าง แต่ดูเหมือนผู้เป็นพ่อจะห้ามปรามไว้ว่ายังไม่ถึงเวลา
ดันเต้ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ...เรากินอะไรผิดสำแดงหรือไงฟร่ะ...
ในขณะที่สมองของร่างสูงกำลังพยายามประมวณภาพเห็นเหตุการ์ณ์ก่อนหน้านี้ พลันเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยเคลื่อนลงจากด้านบนสู่ด้านล่าง นัยน์ตาคมตวัดตามเสียงนั้น ร่างโปร่งบางกำลังเดินลงจากบันได ผ้าเช็ดตัวเนื้อหนาถูกพาดไว้บนแขน ร่างนั้นกำลังเดินพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตไปพลาง ดันเต้มองตามอย่างไม่ละสายตาราวกับตกอยู่ในภวังค์
“หืมม์ ตื่นแล้วหรือ ‘ไอ้หนู’ ” สายตาเย็นถูกส่งเข้าปะทะ ก่อนยักยิ้มจางๆ
“อืม
”
“เป็นอะไรไป...?”
“เปล่า...” เขาล้มตัวลงที่โซฟาอีกครั้ง ก่อนเบือนหน้าหนี ...ไม่อยากสบตา...เพราะอะไรกันนะ...
ผู้เป็นพี่มองตามอย่างสงสัยเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำ
“วันนี้...นายไปไหนมา...” คำถามที่ถูกยิงมาตรงๆนั้นทำให้คนที่กำลังสาวเท้าเดินหยุดชะงักลง นัยน์ตาห้วงสมุทรตวัดผู้ถามคำถามที่หันหน้ามามองอย่างเย็นชา
“เรื่องของข้า....”
“งั้นเหรอ...นั่นซินะ...” ร่างสูงยิ้มจางๆให้ตัวเองก่อนเบือนหน้ามองฝ้าเพดาน จดจ้องพัดลมอย่างเลื่อนลอยก่อนหลับตาลงอีกครั้ง
เวอร์จิลมองปฏิกิริยานั้นอย่างเคลือบแคลงก่อนสายตาจะไปสะดุดอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานตัวเด่นกลางห้อง เขาเข้าไปใกล้เพื่อดูให้ชัดขึ้น ปรากฏเป็นถุงมือเก่าๆสีดำเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น รอยคมยาวจากดาบปรากฏอยู่ รอยที่คุ้นเคยชัดขึ้นพอกับภาพในอดีตที่เขากำลังหล่นลงไปในเหวลึก น้องชายเอื้อมมือหมายจะช่วยเอาแต่เขาก็เป็นคนปฏิเสธการช่วยเหลือเอง
“ดันเต้...” ร่างโปร่งบางเอ่ยในขณะที่นัยน์ตายังจับจ้องที่ถุงมือเก่าคร่ำครึ
“มีอะไร...” น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชาเอ่ยขึ้น
“เจ้าจำเรื่องสมัยก่อนได้ไหม?”
“ตอนไหน”
“ตอนที่เจอข้า....”
“อ่อ....”
บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆโดยไม่มีการสบสายตา บรรยากาศอึมครึมยังแวดล้อมทั้งคู่อย่างไม่มีทีท่าจะหนีหายไปเลย...
เวอร์จิลค่อยๆเยื้องกลายเข้าไปใกล้ ก่อนโน้มลงไปหาคนที่นอนนิ่ง มือเรียวพลิกใบหน้าคมมาให้สบสายตา ริมฝีปากบางขยับทาบทับกลีบปากหนาและประทับอย่างนั้นอยู่เนิ่นนาน....
มือหนาที่วางอยู่ข้างตัวค่อยๆยกขึ้นลูบไล้ใบหน้านั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนเพิ่มสัมผัสของริมฝีปากให้หนักหน่วงขึ้น มือซุนซนเริ่มลูบไล้ไปตามสีข้าง วนเวียนสัมผัสเอวเพรียวบาง
“...ในที่สุดข้าทวงจูบของข้าคืนได้แล้ว...ดันเต้...” ร่างโปร่งบางค่อยๆยันตัวขึ้นพลางยิ้มยั่ว ผิดกับดันเต้ที่ทำหน้าเหมือนระลึกได้
It’s whole year since we last met , how about kiss from your little brother?...
“นายจำได้...” ดันเต้เอ่ยขึ้นท่ามกลางความแปลกใจในตัวพี่ชายที่จำได้กระทั่งตลกร้ายเมื่อหลายปีก่อน เขาไม่คิดว่าตัวตนของเขาจะปรากฏในมโนความคิดของผู้เป็นพี่แม้แต่น้อย
ไม่มีเสียงตอบรับ ประตูห้องน้ำปิดลงพร้อมเสียงน้ำไหลกระทบพื้น
สายน้ำอุ่นไหลไปตามเรือนกายชำระเอาความอ่อนล้าในกายให้ไหลไปตามน้ำ นัยน์ตาสีครามสวยปรือตาทำหน้าสบายใจ มือเรียวยังคงทำหน้าที่ลูบไล้ตามตัวเพื่อขจัดคราบเหงื่อไคลออก
แกร๊ก~ ปัง
เจ้าของนัยน์สีห้วงตวัดมองตามเสียงแต่เป้าหมายกลับอยู่ด้านหลังของเขาเสียแล้ว
“มีอะไร....”
“ชั้นอยากอาบน้ำกับพี่ชายน่ะ..” ดันเต้ไม่พูดเปล่า มือหนาที่ซุกซนลูบไล้ต้นขาอ่อน ลิ้นลื่นไล้เลียไปตามคอระหงอย่างหลงใหล
เวอร์จิลชายตามองก่อนยิ้มเยียดบางๆ มือของเขาคว้าสบู่ลื่นลูบไล้เรือนร่างของตนเองต่ออย่างไม่สนใจคนด้านหลัง
ร่างสูงกว่ามองปฏิกิริยานั้นแล้วยกยิ้มที่มุมปาก เขาคว้าข้อมือที่มือมีก้อนสบู่อยู่ ก่อนเปลื่ยนเป็นฝ่ายถือเอง มือหนาบรรจงใช้ก้อนสบู่ลูบไล้ไปตามเนินอกเนียน วนเวียนอยู่ที่บริเวณยอดอกสวยสีชมพูระเรื่อ มือแสนซุกซนอีกข้างวนเวียนบดเบียดหยอกล้อสะโพกเพรียว
“อืม...ข้าว่ามีอะไรแข็งๆโดนที่บั้นท้ายข้า” เวอร์จิลเอ่ยเป็นเชิงหยอกล้อพลางหันหน้ามาเอี้ยวมองผู้เป็นน้อง
ดันเต้ยิ้มกริ่มก่อนดันผู้เป็นพี่จนติดกำแพง กำแพงสีขาวสว่างตัดกับผิวขาวอมพูด้วยความร้อนจากสายน้ำอุ่น ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ห้วงลึกของผู้เฝ้ามองให้เอ่อล้นมากยิ่งขึ้น
ก่อนที่ร่างสูงจะได้ทำการอะไรต่อ เวอร์จิลพลิกตัวประจันหน้า ก่อนโอบคออีกร่างลงมามอบจุมพิตวาบหวามรุ่มร้อน
ดันเต้ตอบสนองความต้องการนั้น ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวลิ้นเรียวบางอย่างรักใคร่ ก่อนเพิ่มความหนักหน่วงและจังหวะที่รวดเร็วขึ้นเสียจนลืมหายใจ
“...อืม...อื้มๆ...” เสียงครางประท้วงหมายให้อีกฝ่ายลดรุนแรงลงกลับยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายได้ใจเพิ่มความรุนแรงบดเบียดเสียจนริมฝีปากบางจนแดงช้ำ
เจ้าของริมฝีปากหนาผละออกอย่างช้าๆก่อนพิศดูใบหน้าร่างโปร่งที่กำลังแดงระเรื่อเนื่องจากถูกช่วงชิงลมหายใจเสียจนเกือบหมดปอด นัยน์ตาสีห้วงสมุทรกำลังปรือมองอย่างยากลำบาก เสียงหอบกระเซ้าและท่าทางเหนื่อยหอบ ทุกอย่างดูยั่วยวนเสียเหลือเกินในสายตาของเขา
“
รอก่อน...ดันเต้” เวอร์จิลเอ่ยห้ามเสียงเบาเมื่อผู้เป็นน้องเริ่มไล้เลียไปตามแนวลำคอเรื่อยไปบริเวณกระดูกไหปลาร้า แนวฟันคมกระทบเรือนกายเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อเสียจนร่างผู้เป็นพี่สะดุ้งน้อยๆ
“วันนี้นายเหนื่อยซิ...ถึงได้เป็นแบบนี้...” ดันเต้ยักยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนยื่นหน้าไปกระซิบข้างหู
“
บ้าหรือไงเจ้า...ข้าเป็นปีศาจ...ไม่มีทางเหนื่อย..อึก!..” เสียงสะดุดเมื่อคนเจ้าเล่ห์จงใจขบกัดยอดอกสีระเรื่อก่อนเปลื่ยนเป็นไล้เลียสลับไปมาทั้งสองข้าง
ดันเต้เงยหน้าก่อนจูบเบาๆที่ริมฝีปากพร้อมยักยิ้มที่มุมปากน้อยๆกับท่าทางน่าเอ็นดูของพี่ชาย
ร่างโปร่งบางมองรอยยิ้มนั่น ก่อนค่อยๆย่อร่างกายลงช้าๆ มือเรียวสวยไล้มาเรื่อยๆจนถึง...
“ปัญหาคือ... ‘เจ้าหนู’ ...สินะ...”
“..วะ...เวอ..!”
ทันทีที่ตะขอและซิบถูกปลดออก แก่นกายที่กำลังแข็งขืนทำให้เวอร์จิลมองตาปริบๆไปช่วยครู่ ก่อนที่จะใช้ริมฝีปากอวบอิ่มครอบครองความแข็งแกร่งนั้น
ดันเต้มองท่าทางนั้นก่อนหลับตาลงพร้อมลมหายใจที่กระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าเพราะเวอร์จิลหรืออะไร วันนี้เขารู้สึกว่าต้องการมากกว่านี้...รุนแรงกว่านี้...
“เร็วอีก...เวอร์จิล...ซี้ด...” มือหนาวางมือลงบนเรือนผมสีเงิน ก่อนขยับให้แรงขึ้นด้วยห้วงอารมณ์
“...อึก...อื้ม~!” ไม่ทันไรสายน้ำนมสีขุ่นก็ทะลักเต็มโพรงปากนุ่ม นัยน์ตาสวยเบิกกว้างด้วยความตกใจรีบคายของในปากออกทันที รสชาติฝาดที่ปลายลิ้นยังคงรับรู้ได้
“
แค่กๆ...!!” ก่อนที่จะรับรู้อะไรร่างของเวอร์จิลก็ถูกยกลอยจากพื้น
“ชั้นมีเรื่องจะคุยกับนาย...หลายเรื่องเลย...คืนนี้
”
ความคิดเห็น