คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Dinner Time
“ของแค่นั้น...เอาจากชั้นก็ได้นี่นา...” ดันเต้พูดขึ้นลอยๆ ท่าทางไม่ยี่หระที่อีกฝ่ายไม่ยอมทานอาหารฝีมือตน
“ข้ากลัวว่า จะยั้งมือไม่ดื่มวิญญาณของเจ้าจนหมด ไม่ได้น่ะสิ....” เวอร์จิลกล่าวด้วยยิ้มเยียบเย็น “เจ้าเป็นหนึ่งในของ ‘จำเป็น’ ในการเปิดประตูสู่โลกปีศาจ ข้าไม่ทำร้ายสิ่งเป็นประโยชน์ต่อข้าหรอก...”
ปีศาจอยู่ได้โดยการดูดกลืนวิญญาณของผู้อื่น แต่สำหรับครึ่งปีศาจอย่างพวกเขาแค่ทานอาหารอย่างมนุษย์ทั่วไปก็อยู่ได้แล้ว ส่วนการถ่ายทอดพลังวิญญาณเพียงสัมผัสตัวอีกฝ่ายก็ทำได้แล้ว
“ของพรรณนั้นชั้นมีอยู่มากเกินพอ” ร่างที่สูงกว่าเล็กน้อยกระตุกยิ้มวูบ พลางเดินเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย ปลายนิ้วแกร่งล็อกคางมนเอาไว้ให้หันมาทางเขา “ลองดูมั้ยล่ะ?”
“แน่จริงก็ลองสิ...ไอ้น้อง”
...ทำไมนะ?...
...ทั้งๆที่เราไม่เคยนึกพิสวาสพี่ชายร่วมสายเลือดคนนี้เลยซักนิด...
...น่าจะรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าด้วยซ้ำ...
...แต่ความรู้สึกในตอนนี้...มันอะไรกันนะ?...
ริมฝีปากหนาระบายยิ้มบางๆกับตนเอง “ชั้นบอกแล้วไงล่ะว่า อย่ามาสั่งชั้น”
มือแกร่งดึงใบหน้านวลนั้นให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาให้มากขึ้น ถึงจะเป็นเพียงครู่เดียวแต่เขาก็มั่นใจว่า เห็นแววตานิ่งเย็นนั้นไหววูบอย่างแปลกใจ
...อยากจะเห็นสีหน้า....ที่ต่างออกไปจากนี้...ให้มากกว่านี้....
ร่างสูงกว่ากดริมฝีปากของตนแนบกับกลีบปากนิ่มโดยไม่บอกกล่าว
เวอร์จิลมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะกลับเป็นใบหน้าน้ำแข็งในเสี้ยววินาที มือเรียวสวยประทับกับใบหน้าคมแล้วตั้งสมาธิในการกลืนกินพลังวิญญาณอันเหลือล้นของร่างเบื้องหน้า
การตอบสนองนั้นยิ่งทำให้ดันเต้ได้ใจมากขึ้น เขาถือโอกาสดุนลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มสัมผัสความหวานของคนที่รั้งใบหน้าของเขาอยู่ ท่อนแขนแข็งแรงโอบรั้งเอวอีกฝ่ายเข้ามาแนบชิด
...ทำไมกันนะ...ทั้งๆที่ไม่ควรรู้สึกแบบนี้แท้ๆ...
ใบหน้าของผู้ถูกรุกล้ำค่อยๆขึ้นสีระเรื่อ ก่อนจะเป็นฝ่ายผละออกอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากแดงช้ำรีบสูดอากาศเข้าไปแทนที่ส่วนที่ถูกช่วงชิง ดวงตาสีห้วงน้ำลึกตวัดมองอีกฝ่ายที่โอบรั้งเขาอยู่อย่างช้าๆ
“มองอะไร...มันก็เพียงปฏิกิริยาของมนุษย์”
“นั่นสินะ...มันก็แค่ปฏิกิริยาของมนุษย์....” ดันเต้มองใบหน้าที่ขึ้นระเรื่อโดยไม่แสดงความรู้สึกออกมา เสียงที่เอ่ยตอบรับคำของอีกฝ่ายนั้นคล้ายจะตอกย้ำตัวเองในเวลาเดียวกัน
ดันเต้ยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินผละออกจากอีกฝ่ายเพื่อเริ่มมื้ออาหารเสียที
...ไม่อยากยอมรับ....ความรู้สึกที่แล่นหวาบ...จนเจ็บปลาบ...
“ฮะๆ...นี่เราหนีเหรอเนี่ย....” ดันเต้พึมพำกับตัวเองเบาๆ
ร่างโปร่งบางเดินเลี่ยงอีกฝ่ายก็จะสำรวจไปรอบๆบ้านที่รกรุง แต่การกระทำทั้งหมดก็อยู่ในสายตาผู้น้อง
“เฮ้ ถ้าไม่รู้จะทำอะไร ก็ไปอาบน้ำซะสิ ห้องทางซ้ายมือ ประตูขาวๆนั่นล่ะ”ดันเต้กล่าวขึ้นก่อนจะลงมือกระซวก(?)อาหารในจานต่อ
ผู้เป็นพี่พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะปฏิบัติตาม...ถ้าข้าอาบแล้วข้าจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลื่ยนล่ะ ไอ้น้องสมองทึบ...เผลอซักซะหมดบ้านไปแล้ว....(คนเขียน/ เอ่อ...รู้สึกจะขยันกว่าคนเขียน 10 เท่า เอิ้ก...)
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงลองเปิดเข้าไปสำรวจดู
...นี่น่ะเรอะ?...สถานที่อาบน้ำ...แล้วจะอาบยังไงล่ะ?....อ่างก็ไม่มี.....แล้วน้ำจะมาจากไหนล่ะ????
เวอร์จิลมองไปรอบๆพร้อมขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะสะดุดกับสิ่งหนึ่ง
...แล้วไอ้ที่ยื่นๆแล้วมีสายนี่มันอะไร??....ท่าทางต้องลองบิดๆดู....
ดูเหมือนมือจะไวเท่าความคิด แต่ร่างโปร่งบางดันไม่ได้สังเกตแถบที่มีไฟเรืองอยู่ว่า...ร้อนนะจ้ะ...
กึก....ซู่~~~~~~~~!!!!!
“โอ้ย!!”
คนที่กำลังกระซวก(?)อาหารแทบสำลักเมื่อได้ยินเสียงหวานที่ตะโกนลั่น เขารีบวิ่งไปที่ต้นเสียงอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!”
“นี่มัน...อะไร” ร่างเพรียวที่เปียกปอนเขยิบหนีสายน้ำร้อนจนเป็นไอ เวอร์จิลสะบัดผมไปมาจนผมบางส่วนที่จัดทรงไว้ลู่ลง เสื้อสีขาวแนบกับผิวเนียนที่อมชมพูเพราะความร้อน มันดูยั่วยวนให้ผู้มองใจเต้น...ถ้าผู้มองที่กล่าวถึงเป็นคนธรรมดาอ่ะนะ...
“โธ่เอ้ย! นึกว่าอะไร ตะโกนซะดัง ฮะๆๆๆ!” คนที่เพิ่งเข้าหัวเราะดังลั่นกับสีหน้าเอ๋อๆของอีกฝ่าย มือแกร่งทุบประตูห้องอย่างบ้าคลั่ง “นั้นมัน...ฝักบัวอาบน้า...โอ้ย! ปวดท้อง! ฮะๆๆๆ!”
“ข้าไม่รู้นี่...” ร่างบางเอ่ยอย่างเสียความมั่นใจ ใบหน้ามนแดงระเรื่อด้วยความอาย
“ฮะๆ...อืมๆ” ดันเต้พยายามกลั้นหัวเราะพลางเอื้อมมือไปปิดน้ำ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนหนึ่ง
“เปียกหมดแล้ว...”มือแกร่งวางผ้านั้นคลุมศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเริ่มเช็ดให้อย่างเบามือ
ร่างที่ดูจะงงๆกับสถานการณ์ อยู่นิ่งๆให้ฝ่ายตรงข้ามเช็ดผมให้แต่โดยดี
ถึงแม้มือที่เช็ดผมนั้นจะขยับอยู่ตลอดเวลา แต่ดวงตาคมนั้นกลับมองไปตามเสื้อเชิ้ตที่เปียกชื้นจนแนบไปกับเรือนกายขาวผ่อง
“มีอะไรงั้นรึ?”
“เปล่า....แค่คิดว่าแบบนี้...ก็ไม่เลว” ริมฝีปากหนายิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เจ้าอยากเปียกอย่างข้าหรือไง?” เวอร์จิลกล่าวพลางยิ้มยั่ว
“ชั้นไม่ได้พูดแบบนั้นซักหน่อย”
ยิ้มแบบนั้น...ไม่รู้เหรอไงนะว่าพออยู่ในสภาพแบบนี้...คนมองจะคิดยังไง...
“แล้วเจ้าหมายความอย่างไรล่ะ?” ใบหน้ามนเข้ามาใกล้อีกฝ่ายอย่างนึกสนุก โดยหวังให้ใบหน้าตรงหน้ามีแววตื่นตระหนก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นไปในทางตรงข้าม เมื่อรอยยิ้มที่ฉายเบื้องหน้าช่างดูเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีครามนั้นดูเหมือนจะฉาบความต้องการหยอกล้ออย่างปิดไม่มิด ใบหน้าคมคร้ามเลื่อนมาจนแทบชิดกับดวงหน้าอีกฝ่าย
“แล้วนายว่า...ชั้นหมายความถึงอะไรล่ะ?”
มือเรียวสวยผลักร่างที่สูงกว่าเข้ากำแพงก่อนจะเดินเข้าไปประชิด มือข้างหนึ่งนาบกับอกแกร่ง
“ไม่รู้ซิ...” เวอร์จิลกล่าวพลางเหยียดยิ้มหวานสะกดให้ร่างเบื้องหน้าใจสั่นอยู่กับที่
ส่วนมือซนอีกข้าง...ตรงเข้าบิดเข้าที่ฝักบัวอาบน้ำ ส่งผลให้กระแสน้ำอุ่นโดนร่างสูงที่ยืนเอ๋ออยู่แบบเต็มๆ จากสิงโตหัวฟูตอนนี้กลายเป็นลูกหมาตกน้ำเปีบกม่อล่อกม่อแล่กเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตัวการอาศัยจังหวะผละออกมาก่อนกระแสน้ำจะลงมา เจ้าตัวเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์โดยไม่สนใจสายตาอาฆาตที่อีกฝ่ายส่งมาให้
คนที่ตัวเปียกโชกถอนหายใจพลางบิดปิดน้ำแล้วเดินตามออกไป ...กางเกงตัวสุดท้ายแล้วด้วย....
“แล้วชั้นจะใส่อะไร?”
“เรื่องของเจ้า” ...เมินซะล่ะ...
“ทำเป็นพูดดี ตัวเองมีเสื้อเชิ้ตตัวเดียวแท้ๆ...” ดันเต้บ่นอุบอิบ สายตาตวัดมองคนที่เดินขึ้นชั้น2ไป
“อะไรนะ...” คนที่กำลังจะเดินเข้าห้องเก่าของผู้เป็นพ่อ ชะงักแล้วหันมามองอย่างเอาเรื่อง
“เปล่า...ไม่ได้พูด” ดันเต้ผิวปาก ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ก็แล้วไป...” พูดจบร่างนั้นหายเข้าไปในห้อง
ผู้เป็นน้องมองร่างนั้นจนหายไป เขาถอนหายใจ แล้วเดินเอาจานไป ‘หมก’ ในอ่างล้างก่อนจะเปิดตู้เย็นคว้าเอาน้ำมะเขือเทศมาดื่ม
“ดันเต้...” เสียงเย็นๆเรียบๆเอ่ยเรียกให้ร่างที่กำลังเดินออกจากครัวหันมามอง
“มีอะไร?”
“พรุ่งนี้ข้าจะทำความสะอาดห้องท่านพ่อ วันนี้เจ้าเตรียมนอนอึดอัดได้เลย...”
“หมายความว่าไง?”
“คืนนี้ข้าจะนอนห้องเจ้า...”
“หา? แล้วนายจะนอนตรงไหน??” เจ้าของห้องถามแบบงงๆก็ในเมื่อรอบๆเตียงเขาแม้แต่ทางเดินยังไม่มีเลย...
“บนเตียงเจ้าสิ แกล้งโง่เหรอไง?”
“ชั้นไม่นอนพื้นหรอกนะ ขอบอกไงก่อน”
“แล้วข้าบอกให้เจ้านอนที่พื้นงั้นเหรอ?”
“ก็เปล่า...แต่มันเตียงเดี่ยว...เฮ้อ...เอาไงก็เอา...นอนด้วยกันก็ได้...” ถึงตอนเด็กๆจะเคยนอนเตียงนั้นด้วยกันก็เถอะ..แต่ตอนนี้มัน....
“งั้นก็ดี ราตรีสวัสดิ์” ถึงพระอาทิตย์ยังไม่ลาลับขอบฟ้า แต่งานบ้านก็สูบพลังงานไปเสียเยอะ
“เฮ้ย! เสื้อเปียกแบบนั้นเดี๋ยวเตียงเปียกหรอก!”
“เดี๋ยวถอดก่อนนอน....”
ความคิดเห็น