~สายใยของธรรมชาติ คือ สายใยของชีวิต~

ลำดับตอนที่ #5 : การพิจารณาวรรณกรรมด้านคุณค่า 1

“ นานมาแล้วที่ธรรมชาติสร้างความอุดมสมบูรณ์ขึ้นไว้ให้กับผืนแผ่นดินนี้ ดินทุก ๆ ตารางนิ้วต่างประกอบขึ้นด้วยธาตุอาหารที่ได้จากความชุ่มชื่นภายใต้ร่มเงาของป่าไม้  ใบไม้แต่ละใบที่ร่วงหล่นจากลำต้น คือระบบเล็ก ๆ ของธาตุอาหารที่เกิดขึ้นบนผิวดิน นั่นคือ เมื่อใดที่ใบไม้ร่วงหล่นถึงพื้นดิน มันก็จะผุพังและเน่าเปื่อย ด้วยความชุ่มชื้นและจุลินทรีย์เล็ก ๆ ที่ช่วยกันย่อยสลายให้ใบไม้นั้นกลายเป็นธาตุอาหารสะสมอยู่ในดิน และดินก็จะสะสมธาตุอาหารให้ตัวเองตลอดเวลาตราบเท่าที่มีป่าไม้  มีน้ำเป็นสายใยธรรมชาติเกื้อหนุนกันและกัน ”  ( หน้า 176 )

ใจความสำคัญ

·        “เมื่อใดที่ใบไม้ร่วงหล่นถึงพื้นดิน มันก็จะผุพังและเน่าเปื่อย ด้วยความชุ่มชื้นและจุลินทรีย์เล็ก ๆ ที่ช่วยกันย่อยสลายให้ใบไม้นั้นกลายเป็นธาตุอาหารสะสมอยู่ในดิน และดินก็จะสะสมธาตุอาหารให้ตัวเองตลอดเวลาตราบเท่าที่มีป่าไม้  มีน้ำเป็นสายใยธรรมชาติเกื้อหนุนกันและกัน” จากข้อความนี้จะสรุปใจความสำคัญได้ว่า ป่าไม้ ดินและน้ำต่างก็คอยเกื้อหนุนกันและกัน

กลวิธีในการนำเสนอ

·       ใช้กลวิธีการอธิบายแบบกล่าวซ้ำย้ำความเดิม (ส่วนสีเขียวและส้ม)

·       ใช้กลวิธีการอธิบายแบบอธิบายตามลำดับขั้นตอน โดยกล่าวถึงการเกิดธาตุอาหารในดิน (ตั้งแต่ข้อความเมื่อใดที่ใบไม้ร่วงหล่นถึงพื้นดิน จนจบส่วนสีส้ม)

โวหารที่ใช้

·       ใช้บรรยายโวหาร , พรรณนาโวหาร (ส่วนที่ขีดเส้น)

คุณค่าด้านวรรณศิลป์

·       โวหารภาพพจน์ประเภทบุคลาธิษฐาน

o  “น้ำเป็นสายใยธรรมชาติเกื้อหนุนกันและกัน”

ข้อความนี้จะเห็นได้ว่าน้ำคอยเกื้อหนุนดินและป่าไม้

·       โวหารภาพพจน์ประเภทอุปลักษณ์

o  “น้ำเป็นสายใยธรรมชาติ”

ข้อความนี้จะเห็นได้ว่ามีการเปรียบน้ำเป็นสายใยธรรมชาติ

ความบกพร่องของภาษา

·       จากข้อความ “…ธาตุอาหารที่ได้จากความชุ่มชื่นภายใต้ร่มเงาของป่าไม้ ”  เป็นการใช้สำนวนภาษาต่างประเทศ

คุณค่าด้านแนวคิด

·       ทุกสิ่งในโลกต่างก็คอยพึ่งพาซึ่งกันและกัน