ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Ch Sp : New Year ( 100%)
-Harry say-
"ช้าจัง..รีบกลับมาสักทีสิ..คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ?" ฉันพึมพัมกับตนเองพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้ากำลังเปลี่ยนสีด้วยความคาดหวังว่าเขาคนนั้นกำลังกลับมาในอีกไม่ช้า
ฟ..ไฟดับ?
"ฟ..ไฟดับงั้นเหรอ?เฮ้!ดับแบบนี้คุณพี่กลัวนะเนี่ย!" ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเสียงใคร ..ไอ้บ้าฝรั่งเศษชัวร์ 100%
"สงสัยวันนี้บ้านนายพายุจะเข้านะอังกฤษ" พูดมีเหตุมีผลอย่างงี้ สงสัยจะเป็นเยอรมัน
เอ๊ะ!แล้วฉันจะอยู่ทำอะไรละเนี่ย?!!
"ดูเหมือนว่าไฟจะมาแล้วน้อ~ แล้วลื่อจะกอดอั๊วอีกนานไหมน่อ!อาเกาหลี!!"
"อะ..แว่น แว่นไปทำตกอยู่ตอนไหมน่า?.." หืม?ไทยทำแว่นตกงั้นเหรอ?แย่ละสิ รายนั้นยิ่งสายตาสั้นอยู่ด้วย ก็อยากช่วยหาอยู่หรอก ..แต่แฮร์รี่สำคัญกว่านี่น่า ขอโทษนะไทย..
"นี่ครับ ไทยซัง" เดี๋ยวนะ!เมื่อกี้ฉันว่าฉันเห็นนายหยิบแว่นนั่นออกมาจากในกระเป๋านายนะ ไอ้โอตาคุ!
ญี่ปุ่น หรือ ฉายาโอตาคุไม่เพียงพูดเปล่า แต่ยังบรรจงใส่แว่นตาให้คนตรงหน้าอย่างเบามือ ถ้าฉันถือว่านายแตะอั๊งไทยฉันจะผิดไหม?
"ขอบคุณจ๊ะ คุณญี่ปุ่น" ไทยนายอย่าไปหลงกลเจ้าโอตาคุนะ! แน่ะ!!ยังไม่ทันขาดคำ ญี่ปุ่นนายจะรู้ไหมนะว่านายกำลังเข้าข่ายหลอกลวงผู้อื่นอยู่น่ะ..
ฉันคงตาไม่ฝาดสินะที่เห็นท่อน้ำลอยเฉียดหน้าญี่ปุ่นไปเพียงเสียววินาที ราวกับว่ามันต้องการที่จะปักเข้ากลางหัวญี่ปุ่นถ้าไม่ติดว่ามีไทยยืนอยู่ตรงนั้น จะว่าไป..ท่อน้ำมาไงฟะ!!
"โคล่ โคล่ โคล่ หาแว่นเจอแล้วงั้นเหรอครับไทยคุง" นั้นไง..เจ้าของท่อน้ำปารกฏตัว!
"จ๊ะ คุณรัสเซีย" ยิ้ม..อย่ายิ้มบ่อยนักไทยฉันขอล่ะ..เพราะรอยยิ้มนายกำลังจะทำให้คนสองคนฆ่ากันตาย ..ฉันยังไม่อยากเห็นเหตุการ์ณนองเลือดแบบFull HD หรอกนะ
"คุณก็เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?" แน่ะ!ดูพูดเข้าสิ!ได้ข่าวว่าเขาไม่ได้ถามนายนะ!
"ออกมาได้แล้ว ฉันรู้ว่านายอยู่ใต้นั่น!"
"..ให้ตายสิ!เก่งจังนะที่รู้ว่าฉันซ่อนอยู่ใต้นี้" ฉันพูดพร้อมกับออกมาจากใต้โต๊ะประชุม ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเพื่อนที่หายไปนานแสนนาน..
"หึ!แค่นี้ไม่รู้ก็แปลก ว่าแต่นายนะทำไมไม่หนีไปตอนไฟดับล่ะ?"
"ก็นะ ถ้าฉันหนีไปตอนนั้นมันยุ่งยากนี้น่า~"
"ยุ่งยากงั้นเหรอ..แล้วแบบนี้ไม่ต่างกันรึไง?"
"ต้องแบบนี้สิ ถึงจะท้าทาย"
"ท้าทายงั้นเหรอ..นายเนี่ยไม่ทิ้งนิสัยโจรสลัดเลยนะ"
"หึ!ขอบใจที่ชมแล้วกันนะ" เฮ้!อย่าทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างนั้นสิ!!
"...."
"..กิลเบิตร์ ไม่สิ..ปรัสเซีย"
"หืม~มีอะไรงั้นเหรอ?"
"..ทำไมนายถึงช่วยฉัน?"
"..ก็อาจจะเป็นเพราะ.." หมอนั้นพูดออกมาเพียงแค่นั้น ก่อนจะแสยะยิ้มประจำตัวที่ไม่ได้เห็นมาเนิบนานออกมา
"พวกเราเหมือนกันขนาดนี้นี่น่า~"
"..." คำตอบของหมอนั้นทำเอาฉันอึ้งไปเลยแหะ ให้ตายสิ!ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าวันนี้รอยยิ้มของหมอนั้นเจิดจ้ากว่าปกตินะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้กล่าวพูดอะไรอีก หมอนั้นผู้ได้รับสมญานามว่าผู้พัดพาความตายราวเทพแห่งสงครามก็ขัดขึ้นเสียก่อน
"เอ้า!ไอ้คุณโจรสลัดไม่รีบไปซะล่ะ!!พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของพวกนายนะ!!!" อะ..จริงด้วยสิ พรุ่งนี้มัน!
"อืม!งั้นฉันไปก่อนนะ!" ฉันพูดอย่างรีบร้อน ก่อนจะรีบพุ่งตัวออกไปจกห้องประชุมทันที
"เดี๋ยว!อังกฤษ!!"
ก--เกือบเบรกแทบไม่ทัน..
"อะไร!" เห็นไหมว่าว่าคนกำลังรีบนะเฮ๊ย!
"อย่าปล่อยให้เขาต้องรอนานล่ะ"
"รู้แล้วละน่า!" ฉันรู้หรอก!ไม่ต้องมาย้ำ!! ก่อนฉันจะตัดสินใจวิ่งออกไปอีกครั้ง ถ้าหมอนั้นไม่ขัดขึ้นมาอีกล่ะก็นะ
ตกลงนายจะให้ฉันไปไหมเนี่ย!!
"อะไรอีกล่ะโว๊ย!ปรัสเซีย!!" ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดทน อดทนไว้..อนทนไว้อาเธอร์..นึกถึงแฮร์รี่เอาไว้..
ก่อนที่ฉันจะต้องเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นในใจทันที เมื่ออยู่ๆปรัสเซียก็โยนกุญแจรถของตนมาให้ฉันจนเกือบรับแทบไม่ทัน
"ฉันให้ยืมแล้วกันน่า~" หมอนั่นพูดพร้อมกับยิ้มระรื่น
"แต่.."
"เอาไปเถอะน่า~คนอื่นเขาจะได้ไม่สังเกต อย่าน้อยๆก็คงคิดว่าฉันกลับไปก่อนมั่ง?"
"ปรัสเซีย..นาย.."
"เอ้า!รออะไรอยู่ล่ะ!รีบไปซะสิ!!" หมอนั่นไม่พูดเปล่ายังอุตสาห์ผลักฉันออกมาให้พ้นจากเขตห้องประชุม ให้ตายสิ!ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงแล้ว!!
"..ขอบคุณ!" ฉันรีบหันกลับไปพูด ก่อนจะออกตัววิ่งไปอย่างสุดฝีเท้าเพื่อที่จะออกไปจากห้องประชุมแห่งนี้ เพื่อที่จะกลับไปหาแฮร์รี่!!
รอก่อนนะ!ฉันจะรีบกลับไปหาเดี๋ยวนี้แหละ!!
-Arthur End-
-Gilbert Say-
เฮย..ห้องประชุมที่เหลือเพียงแต่ฉันคนเดียวเนี่ย~ มันชังน่าเบื่อจริงๆ เอ๊ะ!ฉันเป็นใครงั้นเหรอ!มากไปแล้วนะ!!จะบอกให้ก็ได้~ ฉันคนนี้คือผู้ที่น่ากลัวที่สุดในโลก ปรัสเซียไงล่ะ!!!
..แต่มันก็เงียบเกินไปจริงๆล่ะนะ
"เฮย.. ขอให้นายโชคดีแล้วกันนะ อาเธอร์" ฉันพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างที่พายุฝนกำลังพัดอย่างบ้าคลั่ง
ได้โปรด..อย่างได้ทิ้งให้เด็กคนนั้นต้องอยู่ตัวคนเดียวอีกเลย..
อย่าทิ้งให้เด็กคนนั้นต้องโดดเดี่ยว..
อย่าให้ต้องกลายเป็นเหมือนกันกับตัวฉัน..
...ฉันที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว..
.
.
.
ทันทีที่ความคิดทั้งหมดสิ้นสุดลงอาเธอร์ก็ได้ทำการโขกหัวตัวเองเข้ากับพวงมาลัยทันทีไม่ต้องให้คิดอีกเป็นรอบที่สอง โดยไม่สนอีกแล้วว่าเป็นรถใคร พร้อมกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาอย่างทันท่วงที
..ให้ตายสิ!โรคจิตใหญ่แล้วแหะ
ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาเช็กเมล์ต่างๆที่เข้ามาตอนตนประชุมอยู่ แต่ก็ต้องชงักไปเมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับกว่า 180 สาย จายคนที่ตนคิดถึงสุดขั้วของหัวใจ
"แฮร์รี่.." ให้ตายสิ!คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ?..
รับสิรับ..แฮร์รี่รับสิ!!
ความกังวนทั้งหมดเอ่นล้นอยู่ในใจเมื่อปลายสายไม่มีท่าทีที่จะรับสายหรือตอบกลับมา จนต้องจำใจหันไปฟังข้อความที่แฮร์รี่ฝากไว้แทน แต่ก็ต้องชงักไปทันที่ที่เสียงซึ่งถูกบันทึกไว้ดังเข้าสู่ประสาทการได้ยิน
[..อาเธอร์..ฝนตกแล้วนะเป็นอะไรรึเปล่า ? รีบกลับมาก่อนฝนจะตกหนักนะ..แค่นี้นะ..]
[อาเธอร์มันมืดแล้วนะ ฝนก็ตกหนักแล้วด้วย ! นายใกล้ถึงบ้านรึยัง ? ฉันทำของโปรดของนายไว้เยอะเลยนะ..]
[นี่อาหารจะเย็นแล้วนะ นายยังไม่เลิกประชุมอีกหรอ ?]
[อาเธอร์ฝนมันตกหนักมากเลยนะ ถ้านายยังไม่ออกมาจากห้องระชุมก็ค้างที่นั้นเลยนะ เดี๋ยวขับรถฝ่าฝนออกมามันจะเกิดอุบัติเหตุนะ]
[อาเธอร์..นายไม่ตอบกลับมาเลย..เป็นอะไรรึเปล่า ?]
ทุกข้อความที่ส่งมาจากคนปลายสายล้วนแฝงไปด้วยความห่วงใยและทำให้อบอุ่นหัวใจอย่างแปลกประหลาด ก่อนดวงตาสีเขียวคู่งามจะต้องหุบลงเล็กน้อยเมื่อข้อความหลังๆเริ่มมีเสียงสะอื้นของคนปลายสายแทรกเข้ามาเล็กน้อย แบบที่ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังก็อาจจะไม่ได้ยินเลยก็ได้ มือที่ว่างอยู่จิกลงไปบนพวงมาลัยแน่นราวกับจะระบายความรู้สึกอัดอันทั้งหมดออกไป
อาเธอร์หลับตาแน่นราวกับจะนึกให้ออกว่าทำไมคนปลายสายถึงได้มีน้ำเสียงแสนเศร้าขนาดนี้ พร้อมกับความคิดว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ทำไมแฮร์รี่ถึงได้มีน้ำเสียงแสนเศร้าขนาดนี้..
ก่อนทุกความคิดจะต้องหยุดลงอยากช่วยไม่ได้เมื่อข้อความสุดท้ายแล่นเข้าสู่โสตประสาท ข้อความที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวอย่างแปลกประหลาด
[อาเธอร์ฉันรักนายนะ เพราะงั้น..ถึงมันจะฟังดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยก็เถอะ ! แต่นายห้ามเป็นอะไรไปนะ !! ..นี่..คือความเห็นแก่ตัวของฉัน..ฉันรักนายนะ..]
ทันทีที่ข้อความนั้นจบลงไม่ต้องรอให้ประธานเดินมาตัดริบบิ้นเมื่อการจราจรขยับแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม อาเธอร์หักพวงมาลัยจนสุดตีโค้งแซงหน้ารถคันอื่นเข้าช่องจอดรถที่เหลือช่องว่างเพียงนิดเดียวอย่างสง่างาม ก่อนจะรีบล๊อกรถแล้วออกตัววิ่งจนสุดฝีเท้าทันที ไม่สนสายตาของคนอื่นที่มองมาราวกับจะสื่อว่าเขาเป็นคนบ้าที่ออกมาวิ่งเล่นกลางสายฝนเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้คนสำคัญที่สุดของเขากำลังเศร้าอยู่ยังไงล่ะ คงไม่มีใครทนนั่งอยู่เฉยๆในเวลาแบบนี้ได้หรอกนะ
อาเธอร์วิ่งต่อไปเรื่อยๆโดยความเร็วไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่ร่างกายเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบอย่างชัดเจนกับการที่ต้องวิ่งฝ่าฝนออกมาตลอดทาง และดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างอาเธอร์ในวันนี้เอาซะเลยเมื่ออยู่ๆสายฝนก็ดันพัดโหมกระหน่ำแรงขึ้นอีก จนทำให้อาเธอร์ต้องหยุดชงักลงเล็กน้อยเส้นทางเบื้องหน้าเริ่มพร่ามัวจากสายฝนที่แรงขึ้น โดยไม่ทันให้ใครได้ตั้งตัวอาเธอร์ก็ถูกดึงเข้าไปในบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง
-Writer End-
-Arthur Say-
"แหม แหม~ เป็นชายหนุ่มที่ร้อนแรงดีจริงเลยน่า~" เสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังเป็นน้ำเสียงยียวนกวนประสาทที่ทำให้เผอนึกไปถึงเพื่อนผมเงินตาแดงคนหนึ่งขึ้นมา ก่อนฉันจะรีบหมุนตัวกลับไปมองคนที่กระชากฉันเข้ามาในบ้านหลังนี้ทันที่
ปากที่เตรียมจะเอ่ยต่อว่าคนที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลาอันมีค่าในการกลับไปหาแฮร์รี่หยุดชงักทันที เมื่อได้เห็นชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆชัดเจน หน้าตาหล่อเหลาราวกับเชื้อพระวงศ์ มีผิวที่ขาวซีดราวกับไม่เคยต้องแดดเลยสักครั้ง เส้นผมสั้นสีเงินมีผมปอยหนึ่งทางด้านขวายาวลงมาจนถึงเอว ที่ปอยผมนั้นมีเครื่องประดับแบบสวมทำจากแก้วมีอัญมณีสีแดงเม็ดหนึ่งประดับอยู่ตรงกลาง ดวงตาสีแดงราวกับเลือดสดๆ ชายหนุ่มคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวผูดเนคไทสีแดงสด กางเกงยีนส์สีดำสนิด และที่สำคัญชายหนุ่มคนนั้นกำลังส่งยิ้มกวนอวัยวะเบื้องล่างมาทางฉัน !
ให้ตายเหอะ ! หงอกโผล่มาอีกคน !!
"เฮ้ เฮ้ ! ใครหงอกฟะ ! นี่มันผมเงินตั้งหาก !"
"เดี๋ยว ! นายอ่านใจฉัน !" เป็นไปได้ไง !?
"ก็ฉันอยากจะอ่านซะอย่าง ว่าแต่นายเถอะคิดบ้ายังไงถึงได้ไปวิ่งฝ่าฝนมาอย่างงั้นล่ะ ? ไม่กลัวโดยลมพัดพลิ้วไปรึไง ?" ชายหนุ่มผมเงินพูด พร้อมกับดึงฉันไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
ให้ตายเหอะ ! เสียเวลาชมัดฉันต้องรีบกลับไปหาแฮร์รี่นะ !!
"..ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นและอีกอย่างภรรยาของฉันกำลังนั่งเป็นห่วงอยู่ที่บ้านด้วย" ฉันพูดพร้อมกับลุกออกไปจากตรงนี้ เพื่อที่จะได้รีบกลับไปหาแฮร์รี่ ถ้าไม่ติดว่ามีคนโยนผ้าขนหนูผืนเล็กมาใส่พร้อมกับดึงฉันกลับมานั่งที่เดิมน่ะนะ
ทำไมกันนะ ทำไมถึงได้ชอบมีคนมาขัดจังหวะฉันจัง !!
ฉันมองค้อนไปทางชายหนุ่มผมเงินที่นั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่บนโซฟาตรงข้ามทันที แต่ก็ทำได้แต่มองค้อนล่ะนะ..
"นั้นคือเหตุผลของนาย ?"
"ใช่" ฉันตอบรับหนักแน่น
"บ้า" ฉันรีบหันไปมองทางต้นเสียงที่ดังมาจากประตูอีกด้านทันที
เจ้าของเสียงผู้มาใหม่เป็นเด็กหนุ่มอายุราวๆ 16 ปี หน้าตาราวกับรูปแกะสลักของคนชั้นสูง ผมสั้นสีน้ำตาลท้าทายแรงโน้มถ้วง ผิวขาว ดวงตาสีเขียวมรกตคล้ายกับสีของคำสาปบทหนึ่ง หูขวาสวมต่างหูรูปไม้กางเขนสีดำมีอัญมณีประดับอยู่ตรงกลาง เด็กคนนี้ใส่ชุดแบบเดียวกับชายหนุ่มผมเงิน แต่เปลี่ยนจากเนคไทสีแดงเป็นเนคไทสีดำ ในมือถือแก้วน้ำมาสามใบ
"นายหมายความว่ายังไง ?" ฉันถามขึ้นทัันทีหลังจากนึกได้ว่าตอนที่เด็กคนนี้เดินเข้ามาเขาพูดว่าอะไร
"ก็นายลองคิดดูสิ คนที่นายบอกว่าเป็นภรรยากำลังนั่งเป็นห่วงนายอยู่ที่บ้าน แล้วนายกับมาวิ่งตากฝนในขณะที่ฝนกลายเป็นพายุขนาดย่อมเนี่ยนะ ! ถ้าเกิดว่าพายุฝนมันพัดนายไปชนเข้ากับอะไรขึ้นมา ไม่สิ ! ถ้าพายุมันพัดพวกของแข็งๆต่างมาชนนายเข้าจนนายบาดเจ็ดสาหัสภรรยาของนายจะรู้สึกยังไงกันห๊า !!"
คำพูดของเด็กคนนั้นทำให้ฉันนิ่งไปพักหนึ่ง มันทำให้ฉันคิดได้หลายอย่าง ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองที่อยากจะกลับไปอยู่กับแฮร์รี่ก็เท่านั้น ฉันไม่ได้คิดเลยว่าแฮร์รี่จะรู้สึกยังไงถ้าฉันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา
"มันก็จริงอย่างที่นายว่า แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงแฮร์รี่จริงๆนะ ทั้งน้ำเสียงแสนเศร้านั้น..ฉันอยากจะได้ยินเสียงหัวเราะร่าเริงของเขามากกว่า เพราะงั้นฉันจึงต้องรีบกลับไป" ฉันละสายตาจากแก้วน้ำที่ฉันพึ่งรู้ว่าเป็นช็อคโกแลตไปมองเด็กชายที่ตอนนี้กำลังจิบช็อคโกแลตอยู่บนตักของชายหนุ่มผมเงินด้วยสายตาแน่วแน่
"เฮ้~ นายก็พูดได้ดีเหมือนกันนีั อ๊ะ ! เรานั่งกันมาตั้งนานยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี้ ฉันคุไรคุโร ส่วนเด็กคนนี้ชื่อโลกา" ชายหนุ่มที่บอกว่าตัวเองชื่อคุไรคุโรพูดด้วยท่าทางลั้นลา ส่วนเด็กที่ชื่อโลกาก็ยังคงจิบช็อคโกแลตร้อนต่อพร้อมกับเบียดร่างของตนเข้าไปใกล้ชิดกับคุไรคุโรมากขึ้นราวกับจะหาความอบอุ่น จนคุไรคุโรยิ้มอย่างอ่อนใจแล้วโอบเอวบางให้เข้ามาแนบชิดกันยิ่งขึ้น
อิจฉาโว๊ย !!
"..ฉันอาเธอร์ เคิร์กแลนด์.." ฉันมองภาพตรงหน้าอย่างอิฉจา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
อยากให้แฮร์รี่อยู่ที่นี้ด้วยจัง..
"เฮ้ นั้นนายจะไปไหน ?" โลกาถามเมื่อเห็นว่าฉันลุกออกจากโซฟา
"กลับไปหาแฮร์รี่"
"ที่ฉันพูดไปนายยังคิดไม่ได้อีกรึไง ?"
"ฉันรู้น่า ! แต่ตอนนี้แฮร์รี่กำลังกลัว เขากำลังร้องไห้ ! จะให้ฉันทิ้งให้เขาต้องอยู่คนเดียวจนกว่าฝนจะหยุดน่ะ ฉันทำไม่ได้หรอก ! ยิ่งตอนนี้ฝนจะหยุดเมื่อไรก็ไม่รู้ โทรไปแฮร์รี่ก็ไม่รับสาย.."
"เฮ้~ นายเนี่ยกล้าพูดกว่าที่ฉันคิดไว้นะเนี่ย" โลกาพูดด้วยรอยยิ้มกวนประสาทก่อนเจ้าตัวจะดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ปรากฏช่อดอกไม้ช่อหนึ่งมาอยู่ในมือฉัน เป็นช่อดอกไม้ที่มีแต่ดอกกุหลาบสีดำแต่กลับมีดอกหนึ่งที่แปลกออกไป ดอกไม้ดอกนั้นเป็นสีดำสนิททั้งหมด
ก็รู้อยู่หรอกนะว่ากุหลาบสีดำถ้าให้คนรักจะมีความหมายว่า รักนิรันทร์หรือคุณเป็นของฉันตลอดไป แต่อีกดอกนี้สิ ?
ก่อนฉันจะต้องเบิกตาโพล่งเมื่อคุไรคุโรเดินไปปิดไป ทันทีที่ทั้งห้องเต็มไปด้วยความมืดนั้นทำให้ฉันเข้าใจถึงความหมายทันที ดอกไม้ที่กลายเป็นสีขาวเรืองแสงท่ามกลางความมืด Love Devil !!
"น--นายไปเอาดอกไม้ดอกนี้มาจากไหนน่ะ !!" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย โดยไม่ทันตั้งตัวใต้เท้าของฉันของมีวงเวทที่เขียนด้วยอักขระโบราณปรากฏขึ้น ยังไม่ทันที่จะขยับตัววงเวทก็เริ่มเรืองแสงสีฟ้าขึ้นมา ก่อนภาพเบื้องหน้าของฉันจะเริ่มเปลี่ยนไปสิ่งสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงของโลกา
"ฉันชอบคำพูดของนายจริงๆและนี้คือรางวัลที่ฉันจะสามารถให้นายได้ ต่อจากนี้ไปมันก็เป็นสิ่งที่นายต้องคิดเองแล้วนะ ว่าจะปลอบโยนความเศร้าของผู้เป็นที่รักยังไง อย่างทิ้งให้เขาต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกล่ะ..โชคดี"
-Arthur End-
-Writer Say-
"นายเนี่ยชอบแกล้งเขาจังนะ" คุไรคุโรพูดพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆโลกา
"นายก็ร่วมมือด้วยไม่ใช่รึไง ? อีกอย่างฉันก็ไม่ได้แกล้งสักหน่อย เรื่องทั้งหมดมันบังเอิญต่างหาก~"
"บังเอิญ ? บังเอิญมากเลยเนอะ ทั้งๆที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เคยมีร่องรอยของสิ่งที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักเกิดขึ้นเลยน่ะ บอกฉันมาเลยโลกานายให้พิภพวารีช่วยใช่ไหม~"
"ก็ใช่น่ะสิ ถึงฉันจะเป็นเจ้านายของหมอนั้นก็ไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถสร้างพายุฝนอย่างที่หมอนั้นทำได้นี่"
"อืมนั้นก็จริง" คุไรคุโรพยักหน้ารับก่อนจะพูดขึ้นมาอีกรอบเหมือนพึ่งนึกได้
"เฮ้ เรารีบกลับไปฉลองปีใหม่กับท่านแม่กันเถอะ"
"อืม~นั้นสินะ กลับกันเถอะที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอนั้นจัดการตัวเองแล้วกันนะ" โลกาพูดพร้อมกับวงเวทแบบเดียวกับที่ทำให้อาเธอร์หายไปปรากฏขึ้นใต้เท้าของทั้งคู่ก่อนพวกเขาจะหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตน ในไม่กี้นาทีต่อมาบ้านที่เคยตั้งอยู่ก็ค่อยๆมลายหายไปราวกับภาพลวงตา
ทางด้านอาเธอร์โดยที่เขาไม่รู้ตัวก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านของตัวเองแล้ววงเวทมลายหายไปหมดราวกับว่ามันไม่เคยมี สิ่งเดียวที่อาเธอร์สามารถคิดออกเกี่ยวกับตัวตนของสองคนนั้นคือพวกเขาคือเผ่าพันธ์ุแห่งความมืด..
แต่ก็คงไม่ใช่คนไม่ดีหรอกมั้ง ก็พวกเขาอุตสาห์ช่วยฉันไว้นี้น่า..ไฟในบ้านเปิดไว้แบบนี้แสดงว่าแฮร์รี่ยังไม่นอนสินะ นั้นคือสิ่งที่อาเธอร์คิดก่อนจะกระชับช่อดอกไม้ในมือเล็กน้อยแล้วไขกุญแจเข้าไปในบ้านทันที สิ่งแรกที่เห็นคือสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่วิ่งกระดิกหางรับอยู่หน้าประตูและสามนางฟ้าที่ตามมาติดๆ
"แพ็ตฟู๊ตหยุด หยุด ! ฮ่าฮ่า !!" อาเธอร์หัวเราะเมื่ออยู่ๆแพ็ตฟู๊ตก็กระโจนเข้าใส่ ก่อนอาเธอร์จะพยายามลุกขึ้นยืน
"อาเธอร์กลับมาแล้ว ! มานี้เลยมานี้เร็วๆ !" สามนางฟ้าประสานเสียงพร้อมกับใช้แรงที่มีฉุดกระชากอาเธอร์เข้าไปห้องนั่งเล่นทันที หลังจากทั้งสามทำสำเร็จก็รีบบินออกไปทันที
อาเธอร์ถอนหายใจเล็กน้อยกับพฤติกรรมประหลาดของสามนางฟ้า ก่อนจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดทั้งที่หลังจากเห็นร่างที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยคาบน้ำตา นี่คงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้แฮร์รี่ไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะเหนื่อยจากการร้องไห้
อาเธอร์ว่างช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะก่อนจะนั่งลงด้านหน้าภรรายาของตนกลับเพื่อที่จะดูการนอนหลับราวกับเด็กไร้เดียงสาของคนตรงหน้า นิ้วมือยกขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปิดหน้าให้ไปอยู่ตรงอื่น แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ริมฝีปากอิ่มที่เผยอเข้าออกตามจังหวะการหายใจ
อาเธอร์ยกยิ้มกับภาพตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวเข้าไปประกบกับริมฝีปากอิ่มยั่วยวนนั้น จนร่างใต้อาณัติเริ่มส่งเสียงครางหวาน ดวงตาของคนหลับเริ่มปรือขึ้นเล็กน้อยเผยให้ดวงตาสีเขียวมรกตน่าหลงใหล เมื่อเห็นว่าภรรนาสุดที่รักตื่นแล้วอาเธอร์จึงตัดสินใจถอนริมฝีปากออกไป
"ตื่นแล้วเหรอแฮร์รี่~" อาเธอร์พูดด้วยยิ้มทะเล้นเหมือนเห็นท่าทางงัวเงียของคนตกหน้า ก่อนจะต้องตกใจเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆแฮร์รี่ก็กระโดดเข้ามากอดแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
"อาเธอร์ อาเธอร์นายกลับมาแล้ว !" แฮร์รี่พูดด้วยเสียงสะอื้นเล็กน้อย สองมือกอดอาเธอร์แน่นใบหน้าซุกลงไปบนแผ่นอกแกร่ง มือทั้งสองของอาเธอร์ก็กอดตอบแฮร์รี่อย่างปลอบโยนพร้อมกระซิบถ้อยคำปลอบโยนไปเรื่อยๆข้างหูของคนในอ้อมกอด
ต้องใช้เวลาสักพักแฮร์รี่ถึงจะสงบลง แต่ก็ยังไม่ยอมออกห่างจากอาเธอร์ อาเธอร์ยิ้มเล็กน้อยกับภาพตรงหน้าก่อนจะเชิดคางมนขึ้นมาเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าแดงนะเรื่อชัดๆ
"อ--อาเธอร์" แฮร์รี่พูดด้วยความเขินอายเมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองทำอะไรไปบ้าง ก่อนแฮร์รี่จะต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออาเธอร์ยกตนขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วยืนช่อดอกไม้ช่อหนึ่งมาให้พร้อมกับก้มลงไปกระซิบถึงความหมายของกุหลาบดำ
"ข--ขอบคุณ" อาเธอร์ขำเล็กน้อยกับท่าทางเขินอายของแฮร์รี่
"นี่~แฮร์รี่นายรู้อะไรไหม ?" อาเธอร์ถามพร้อมกับหยิบดอกไม้ที่แปลกประหลาดกว่าใครเพื่อนยื่นให้แฮร์รี่
"นี่มันดอกอะไรเหรอ ?" แฮร์รี่ถามอย่างสนใจ
"เราเรียกมันว่าLove Devil นายอยากจะรู้ความหมายของมันไหมล่ะ?"
"อยากสิ !" แฮร์รี่ตอบทันทีก่อนใบหน้าจะขึ้นสีหนักกว่าเดิมเมื่อตัวเองหันหน้าไปทางอาเธอร์อย่างไม่ระวังจนใบหน้าห่างกันแค่คืบ
"ข--ขอโทษ"
"หืม~เรื่องอะไรเหรอ ? ปกติเราก็แนบชิดกันทุกคืนอยู่แล้วนี้" อาเธอร์พูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวพร้อมกับโอบเอวบางให้มานั่งบนตัก ตอนนี้มีเพียงเสื้อผ้าและดอกไม้ดอกเดียวที่กันกลางระหว่างทั้งคู่ ก่อนอาเธอร์จะตัดสินใจเริ่มเฉลยความหมายของLove Devilเมื่อชมเชยสีหน้าของแฮร์รี่จนพอใจแล้ว
"แพ็ตฟู๊ตปิดไฟที"
"โฮ่ง !"
ทันทีที่สิ้นเสียงขานรับจากสุนัขตัวโปรดทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดทันที ก่อนดอกไม้ในมือจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวเรืองแสงขึ้น จนอาเธอร์อดที่จะขำออมาไม่ได้เมื่อได้เห็นถึงสีหน้าตกตะลึงของแฮร์รี่
"..สวยจัง"
"ใช่ไหมหร้า~ " อาเธอร์พูดก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งที
"อาเธอร์ !"
"ครับ ?"
"อะ-- นายมันบ้า.." แฮร์รี่พึมพัมเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้างุมเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ
"แหะ แหะ สงสัยมันจะเป็นจะเป็นเพราะฉันอยู่กับพวกหัวหงอกนานเกินไปน่ะ" อาเธอร์พูดพร้อมกับนึกไปถึงพวกหัวหงอกสองคนที่เจอในวันนี้ โดยเฉพาะคนสุดท้ายที่ดันมานั่งจู้จี้กันต่อหน้าตน
"หัวหงอก ? หมายถึงกิลเบิร์ตเหรอ แล้วอีกคนใครงั้นเหรอ ?" แฮร์รี่เอียงคอถามอย่างหน้ารัก
"ไม่ต้องไปสนใจหมอนั้นหรอกแฮร์รี่..ตอนนี้ที่นี้มีแต่เรื่องของเรา~"
"บ้า ! แล้วก็บอกความหมายของLove Devilมาได้แล้ว !"
"อืม~นั้นสินะ แฮร์รี่นายรู้ไหมว่าLove Devil แปลว่าอะไร ?"
"..รักของปีศาจ ?"
"ใช่แฮร์รี่ ความหมายของมันเหมือนกับชื่อของมันนั้นแหละ มันมีความหมายว่า.." อาเธอร์โน้มตัวเข้าไปใกล้หูบางเพื่อที่จะกระซิบถึงความหมายของLove Devil
"หากถ้าเพื่อคุณแล้วล่ะก็หากฉันจะต้องกลายเป็นปีศาจฉันก็ยอม แล้วก็อีกความหมายหนึ่ง ไม่ว่าทุกสิ่งในโลกนี้จะเปลี่ยนไปยังไงก็ตามหัวใจและจิตวิญญาณของฉันจะอยู่กับนายเสมอ"
ก่อนจะประกบริมฝีปากของตนกับริมฝีปากอิ่มน่าหลงใหลโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว ลิ้นสองลิ้นพันเกี่ยวกันอย่างโหยหา ก่อนร่างสองร่างจะผละออกจากกันโดยมีน้ำเชื่อมสีใสเชื่อมระหว่างปากของทั้งคู่ แฮร์รี่นั่งหอบหายใจจนตัวโยกจากการที่ขาดอากาศเป็นเวลานานจนใบหน้านั้นแดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี่
"อ--อาเธอร์"
"หืม ? มีอะไรงั้นเหรอแฮร์รี่ ?" อาเธอร์พูดแต่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าแดงระเรื่อ
"อาหารเย็นแล้วด--เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้นะ"
"ไม่ต้องหรอกแฮร์รี่ ฉันมีอยางอื่นที่อยากกินแทนแล้วล่ะ แต่นายอาจจะต้องอดอาหารหน่อยนะคืนนี้"
"ทำไมล่ะ ?"
"นั้นก็เพราะว่าคืนนี้ฉันจะกินนายเป็นอาหารเย็นแทนไงล่ะ"
"บ้า !" ถึงปากจะพูดอย่างงั้นแต่แฮร์รี่ก็ไม่ได้ขัดขืนให้อาเธอร์อุ้มไปที่ห้องนอนอย่างง่ายดาย
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนผู้คนมากมายต้องพากันอยู่ในบ้านเพราะสายฝนที่ตกลงมาไม่มีท่าทีจะหยุด กิจกรรมมากมายที่ตั้งใจจะทำในวันนี้เป็นอันต้องยกเลิกทั้งหมด พยากรณ์อากาศคาดเดาว่าฝนจะหยุดตกก็ต่อเมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธุ์สร้างความวิตกกังวนให้กับหลายๆ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่สะทกสะท้านอะไรกับเรื่องนี้ เพราะพวกเขาคิดแต่เพียงว่า ไม่ว่าอะไรในโลกนี้จะเกิดขึ้นขอแค่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือพี่น้อง..
"เวสต์~นายว่าตอนนี้อาเธอร์จะกลับถึงบ้านรึยังน๊า~"
"พี่ ทั้งๆที่อยู่กับผมแท้ๆก็ยังไปคิดถึงคนอื่นสิ แบบนี้เราคงไม่ได้นอนกันแล้วล่ะครับ"
"ห๊ะ ! อ๊ะ อื้อออ~" และบทเพลงรักก็ดำเนินต่อไปโดยไม่มีท่าทีจะหยุดในเร็วๆนี้..
เป็นครอบครัว..
"ท่านแม่เรากลับมาแล้ว~" สองเสียงประสานกัน
"หืม ? คุไรคุโรโลกา !!" หญิงสาววัย 20 ปีผู้มีใบหน้าราวกับรูปแกะสลักของชนชั้นสูง ผมสีดำเงางามดวงตาสีแดงวิ่งเข้ามาของคุไรคุโรและโลกาแน่น จนทั้งคู่เกือบขาดหายใจตาย
"อุ้ย ! แม่ไม่ได้ตั้งใจ ก็นานๆทีลูกจะกลับมากันนี้น่า.."
"โธ่ๆๆท่านแม่~อย่างอนกันสิ"
"ใช่ท่านแม่เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก"
"โลกา !!"
"โอ๊ย ! ท่านแม่ล้อเล่นน่า~แล้วแกไม่คิดจะช่วยเลยใช่ไหมคุไร !"
"เรื่องอะไรล่ะ นายทำนายก็แก้เองสิ~ โอ๊ย ! ท่านแม่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"ทำสิ ! ข้อหาที่พวกเรานานๆทีจะกลับมาหาแม่ไงล่ะ !" แล้วเรื่องในครอบครัวก็ดำเนินต่อไป..
หรือจะเป็นสามีภรรยา..
"หืม ปีใหม่แล้วรอเนี่ย แฮร์รี่~วันนี้วันครบรอบแต่งงานของเราล่ะ"
"อือ อาเธอร์เอาออกไปได้นะ"
"ไม่เอาน่าแฮร์รี่แบบนี้มันอบอุ่นดีออก~ แล้วฉันก็ยังกินนายไม่อิ่มเลยนะ~"
"อ--เอ๋ !? ตะ--แต่นายเสร็จไปหลายรอบแล้วนะ !"
"นายก็รู้นี้แฮร์รี่ว่าสำหรับฉันแค่นี้มันไม่พอหรอก ฉันน่ะถ้าเป็นนายล่ะก็..กินเท่าไรก็ไม่อิ่มหรอกนะ"
"ไม่..ไม่เอาแล้วนะอาเธอร์..ฉันไม่ไหวแล้ว อื้อ~"
"แหม~ปากบอกไม่เอาแต่ตรงนี้กับแข็งขนาดนี้เนี่ยนะ ?"
"อ๊ะ อื้อออ อะ อาเธอร์ อ๊า~!"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรที่รักค่ำคืนนี้ของเรายังอยู่อีกยาวไกล~" แล้วบทเพลงแห่งรักก็ยังคงดังเรื่อยไป..
"ช้าจัง..รีบกลับมาสักทีสิ..คงไม่ได้เกิดอะไรขึ้นหรอกนะ?" ฉันพึมพัมกับตนเองพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้ากำลังเปลี่ยนสีด้วยความคาดหวังว่าเขาคนนั้นกำลังกลับมาในอีกไม่ช้า
แปะ!แปะ!
ซ่าาา!!
ซ่าาา!!
เสียงหยาดฝนที่ตกกระทบกับพื้นดังขึ้นเป็นจังหวะก่อนจะค่อยๆพัดโหมกระหน่ำราวกับพายุเข้า
"อาเธอร์..." ช้าจริง..ช้าเกินไปแล้วนะ
"หงิง..หงิง" ทันทีที่ก้มลงมองหาที่มาของเสียงก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่กำลังมองมาที่ตนด้วยสายตาห่วงใย
"หือ ขอโทษแพ็ตฟู๊ต..ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ" ฉันพูดพร้อมกับลูบหัวแพ็ตฟู๊ตเล็กน้อย ..จะว่าไป แพ็ตฟู๊ตก็เป็นของขวัญครบรอบแต่งงานครั้งแรกสินะ ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือน..เหมือนกันกับแอนิเมจัสของเขาคนนั้น ..ซีเรียส
"งือ~.."
"อะ!ดะ..เดี๋ยว!หยุดนะ อย่าเลียนะแพ็ตฟู๊ต!!ฮ่า ฮ่า" ฉันหัวเราะดังลั่นเมื่ออยู่ๆแพ็ตฟู๊ตก็กระโจนเข้าใส่ฉันอย่างรวดเร็ว
ทำไมกันนะ?ทำไม..ฉันถึงรู้สึกว่าเขากำลังปลอบฉันว่า ..ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อีกไม่นานนายท่านก็จะกลับมาแล้วนะครับ
"โธ่!!แฮร์รี่โทรไปตามอาเธอร์สักหน่อยสิ!" เสียงบ่นจากนางฟ้าสีฟ้าที่บินวนเวียนอยู่รอบๆแทรกเข้ามาในโสทประสาทการได้ยินจนทำให้ฉันหลุดจากห้วงความคิด
"แต่ถ้า.." ถ้าเขายังประชุมกันอยู่ล่ะ?
"ไม่มีแต่แฮร์รี่!!" นางฟ้าสีชมพูขัดขึ้นทันทีที่เห็นฉันทำท่าจะปฎิเสธ
"โอเค โอเค" ฉันพูดพร้อมกับหยิบไอโฟนสีขาวขึ้นมาโทรออก
[ติ๊ด..ติ๊ด..] เสียงสัญญาณรอสายดังออกมาเป็นระยะ
[..หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความไว้หลังเสียงสัญญาณ ..ติ๊ด!]
"..อาเธอร์ ฝนตกแล้วนะเป็นอะไรรึเปล่า?รีบๆกลับมาก่อนฝนจะตกหนักนะ ..แค่นี้นะ" อาเธอร์..เป็นห่วงนะ
อาเธอร์รีบๆกลับมาสักทีสิ!ขอร้องล่ะ!!
ก่อนที่ฉันจะต้องละความสนใจจากทุกสิ่งที่คิดเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
ทำไม?ทำไมกันนะ?
ทำไม..ฉันถึงได้รู้สึกเศร้าถึงขนาดนี้?
กลัว ..หวาดกลัวเหลือเกิน
หากจะต้องสูญเสียเขาไป...
"ฮึก!" ตั้งแต่เมื่อไรกันก็ไม่รู้ที่ฉันเผลอกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดไหลซึมออกมา
ไม่เอานะ!ไม่เอา!ฉันยังไม่อยากจะสูญเสียเขาไป!!ได้โปรดเถอะอาเธอร์ รีบๆกลับมาสักที!!
"ขณะนี้ได้มีพายุฝนจากทางซีกโลกเหนือเข้ามาเยือนยังสหราชอาณาจักร แนะนำไม่ให้ออกจากบ้านในช่วงเดือนนี้ จริงไหมซ่าร่า?" เสียงของนักรายงานข่าวสาวดังมาจากทีวีที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น ดึงความสนใของแฮร์รี่ทั้งหมด
"ใช่แล้วล่ะแอเนส ในขณะนี้ได้มีเหตุรถชนไปแล้วสองคัน รถติดทั่วทั้งสหราชอาณาจักรเพราะสายฝนที่พัดกระหน่ำบดบังเส้นทางการมองเห็นทั้งหมด ฉะนั้นในขณะนี้ของความร่วมมือทุกท่านอย่าออกจากบ้านในช่วงเดือนนี้.."
"อาเธอร์..." ช้าจริง..ช้าเกินไปแล้วนะ
"หงิง..หงิง" ทันทีที่ก้มลงมองหาที่มาของเสียงก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่กำลังมองมาที่ตนด้วยสายตาห่วงใย
"หือ ขอโทษแพ็ตฟู๊ต..ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ" ฉันพูดพร้อมกับลูบหัวแพ็ตฟู๊ตเล็กน้อย ..จะว่าไป แพ็ตฟู๊ตก็เป็นของขวัญครบรอบแต่งงานครั้งแรกสินะ ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือน..เหมือนกันกับแอนิเมจัสของเขาคนนั้น ..ซีเรียส
"งือ~.."
"อะ!ดะ..เดี๋ยว!หยุดนะ อย่าเลียนะแพ็ตฟู๊ต!!ฮ่า ฮ่า" ฉันหัวเราะดังลั่นเมื่ออยู่ๆแพ็ตฟู๊ตก็กระโจนเข้าใส่ฉันอย่างรวดเร็ว
ทำไมกันนะ?ทำไม..ฉันถึงรู้สึกว่าเขากำลังปลอบฉันว่า ..ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อีกไม่นานนายท่านก็จะกลับมาแล้วนะครับ
"โธ่!!แฮร์รี่โทรไปตามอาเธอร์สักหน่อยสิ!" เสียงบ่นจากนางฟ้าสีฟ้าที่บินวนเวียนอยู่รอบๆแทรกเข้ามาในโสทประสาทการได้ยินจนทำให้ฉันหลุดจากห้วงความคิด
"แต่ถ้า.." ถ้าเขายังประชุมกันอยู่ล่ะ?
"ไม่มีแต่แฮร์รี่!!" นางฟ้าสีชมพูขัดขึ้นทันทีที่เห็นฉันทำท่าจะปฎิเสธ
"โอเค โอเค" ฉันพูดพร้อมกับหยิบไอโฟนสีขาวขึ้นมาโทรออก
[ติ๊ด..ติ๊ด..] เสียงสัญญาณรอสายดังออกมาเป็นระยะ
[..หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความไว้หลังเสียงสัญญาณ ..ติ๊ด!]
"..อาเธอร์ ฝนตกแล้วนะเป็นอะไรรึเปล่า?รีบๆกลับมาก่อนฝนจะตกหนักนะ ..แค่นี้นะ" อาเธอร์..เป็นห่วงนะ
อาเธอร์รีบๆกลับมาสักทีสิ!ขอร้องล่ะ!!
ก่อนที่ฉันจะต้องละความสนใจจากทุกสิ่งที่คิดเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
ทำไม?ทำไมกันนะ?
ทำไม..ฉันถึงได้รู้สึกเศร้าถึงขนาดนี้?
กลัว ..หวาดกลัวเหลือเกิน
หากจะต้องสูญเสียเขาไป...
"ฮึก!" ตั้งแต่เมื่อไรกันก็ไม่รู้ที่ฉันเผลอกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดไหลซึมออกมา
ไม่เอานะ!ไม่เอา!ฉันยังไม่อยากจะสูญเสียเขาไป!!ได้โปรดเถอะอาเธอร์ รีบๆกลับมาสักที!!
"ขณะนี้ได้มีพายุฝนจากทางซีกโลกเหนือเข้ามาเยือนยังสหราชอาณาจักร แนะนำไม่ให้ออกจากบ้านในช่วงเดือนนี้ จริงไหมซ่าร่า?" เสียงของนักรายงานข่าวสาวดังมาจากทีวีที่ตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่น ดึงความสนใของแฮร์รี่ทั้งหมด
"ใช่แล้วล่ะแอเนส ในขณะนี้ได้มีเหตุรถชนไปแล้วสองคัน รถติดทั่วทั้งสหราชอาณาจักรเพราะสายฝนที่พัดกระหน่ำบดบังเส้นทางการมองเห็นทั้งหมด ฉะนั้นในขณะนี้ของความร่วมมือทุกท่านอย่าออกจากบ้านในช่วงเดือนนี้.."
ปิ๊ด!
ไม่ต้องรอให้เขารายงานข่าวจบฉันก็กดปิดทีวีทันที มันคงไม่เกิดอะไรขึ้นกับอาเธอร์หรอกนะ?
"หงิง หงิง" ไม่ว่าตอนนี้แพ็ตฟู๊ตจะส่งเสียงร้องเรียกสักแค่ไหนฉันก็ไม่อาจสนใจอีกแล้ว ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแต่ภาวนาให้เขากลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น
ไม่เอานะ..ไม่เอาอีกแล้ว
ครั้งแรก ฉันสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นทารก
ครั้งที่สอง เซกริด..เพียงเพราะเขาอยู่กับฉันในตอนนั้น..
ครั้งที่สาม ซีเรียส..คนแรกที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับคำว่าครอบครัว
ครั้งที่สี่ รีมัส..อีกคนที่สนใจในตัวฉันแบบที่ฉันเป็น
ครั้งที่ห้า แม้กระทั่งสเนปที่เกลียดฉัน ..เขาก็ยังยอมแลกด้วยชีวิตเพื่อปกป้องฉัน
และก็ยังคนอื่นๆอีกมากมายที่เป็นเพื่อนฉัน ยอมรับฉันในแบบของฉัน เฮ็ดวิก เฟร็ด โคลิน..
"นายนะมันตัวซวย !! ดูสิ ไม่ว่าใครที่อยู่รอบๆตัวนายก็มีแต่ต้องตายเท่านั้นแหละ !! เพราะงั้นอย่าเข้ามาใกล้ฉัน ครอบครัวของฉันนะ ไอ้ตัวหายนะ !!" เสียงตวาดของรอน วียลีย์ยังคงดังก้องอยู่ในหัวไม่ลืมเลือน ราวกับจะตอบย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน
ได้โปรด..อาเธอร์..
รีบๆกลับมาสักที!อย่าได้ทิ้งฉันไป!!
ได้โปรด..
-Harry End-
-Arthur say-
"เฮย..แย่ แย่ แย่ ทำไมการประชุมมันถึงได้เลิกช้าอย่างงี้เนี่ย!!" ฉันบ่นออกมาอย่างสุดทน ก็ดูสิ นี้มันสองทุ่มแล้วนะ!ฝนก็ตกจนฉันต้องมาติดแง่งในห้องนี้เนี่ย!!
เฮย..ป่านนี้แฮร์รี่ของฉันจะเป็นไงบ้างเนี่ย..
อ๊าก!!ฉันจะเป็นบ้าตายแล้วเนี่ย!!
ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดออกไป พร้อมกับเส่มองออกไปนอกหน้าต่างที่สายฝนยังคงโหมกระหน่ำอย่างเบื่อหน่าย จนเผลอกลับไปคิดถึงเรื่องราวของผู้เป็นที่รักยิ่งสุดดวงใจตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ก่อนที่จะ..
"หงิง หงิง" ไม่ว่าตอนนี้แพ็ตฟู๊ตจะส่งเสียงร้องเรียกสักแค่ไหนฉันก็ไม่อาจสนใจอีกแล้ว ตอนนี้ฉันทำได้เพียงแต่ภาวนาให้เขากลับมาอย่างปลอดภัยเท่านั้น
ไม่เอานะ..ไม่เอาอีกแล้ว
ครั้งแรก ฉันสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นทารก
ครั้งที่สอง เซกริด..เพียงเพราะเขาอยู่กับฉันในตอนนั้น..
ครั้งที่สาม ซีเรียส..คนแรกที่ทำให้ฉันได้รู้จักกับคำว่าครอบครัว
ครั้งที่สี่ รีมัส..อีกคนที่สนใจในตัวฉันแบบที่ฉันเป็น
ครั้งที่ห้า แม้กระทั่งสเนปที่เกลียดฉัน ..เขาก็ยังยอมแลกด้วยชีวิตเพื่อปกป้องฉัน
และก็ยังคนอื่นๆอีกมากมายที่เป็นเพื่อนฉัน ยอมรับฉันในแบบของฉัน เฮ็ดวิก เฟร็ด โคลิน..
"นายนะมันตัวซวย !! ดูสิ ไม่ว่าใครที่อยู่รอบๆตัวนายก็มีแต่ต้องตายเท่านั้นแหละ !! เพราะงั้นอย่าเข้ามาใกล้ฉัน ครอบครัวของฉันนะ ไอ้ตัวหายนะ !!" เสียงตวาดของรอน วียลีย์ยังคงดังก้องอยู่ในหัวไม่ลืมเลือน ราวกับจะตอบย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน
ได้โปรด..อาเธอร์..
รีบๆกลับมาสักที!อย่าได้ทิ้งฉันไป!!
ได้โปรด..
-Harry End-
-Arthur say-
"เฮย..แย่ แย่ แย่ ทำไมการประชุมมันถึงได้เลิกช้าอย่างงี้เนี่ย!!" ฉันบ่นออกมาอย่างสุดทน ก็ดูสิ นี้มันสองทุ่มแล้วนะ!ฝนก็ตกจนฉันต้องมาติดแง่งในห้องนี้เนี่ย!!
เฮย..ป่านนี้แฮร์รี่ของฉันจะเป็นไงบ้างเนี่ย..
อ๊าก!!ฉันจะเป็นบ้าตายแล้วเนี่ย!!
ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดออกไป พร้อมกับเส่มองออกไปนอกหน้าต่างที่สายฝนยังคงโหมกระหน่ำอย่างเบื่อหน่าย จนเผลอกลับไปคิดถึงเรื่องราวของผู้เป็นที่รักยิ่งสุดดวงใจตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ก่อนที่จะ..
ปัง!!
"เฮ๊ย!อังกฤษจะไปไหนนะ!!"
"ใช่ครับ ฝนยังตกอยู่เลยนะครับ" ฝนตกงั้นเหรอ?ฉันว่าเรียกว่าพายุเข้ายังเหมาะกว่าอีก
เสียงแรกคือเสียงของเจ้าบ้าฝรั่งเศษ กับคนอื่นๆอีกมากมายที่พยายามฉุดกระชากลากฉันไว้ไม่ให้ออกไปพ้นเขตห้องประชุม ตามด้วยเสียงที่สองซึ่งเป็นเสียงของญี่ปุ่น
"ปล่อย!ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!!ฉันจะรีบกลับไปหาแฮร์รี่!!!" ฉันพูดพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่จับยึดขอบประตูแน่น ..ก็ดูแรงของแต่ละคนซะก่อนสิ!โดยเฉพาะไอ้อ้วนอเมริกา!แรงมันมนุษย์มนาซะที่ไหนล่ะ!!
"แต่ฝนมันยังตกอยู่เลยนะลุง" เงียบไปเลยไอ้อ้วน! ฉันทำได้เพียงแต่ก่นด่าไอ้อ้วนในใจเท่านั้น
..ก็ตอนนี้น่ะ แฮร์รี่สำคัญที่สุดนี่น่า..
"ใช่ครับ ออกไปตอนนี้เดี๋ยวก็ตายหรอกครับ" แกก็เป็นไปกับเขาด้วยงั้นเรอะ!ไอ้โอตาคุ!!แล้วเมื่อกี้แกแช่งฉันนี่!!!
"พวกนายเงียบไปเลยนะ!แล้วก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" ป่านนี้แฮร์รี่จะกินข้าวรึยังน่า~?
"ใช่ครับ ฝนยังตกอยู่เลยนะครับ" ฝนตกงั้นเหรอ?ฉันว่าเรียกว่าพายุเข้ายังเหมาะกว่าอีก
เสียงแรกคือเสียงของเจ้าบ้าฝรั่งเศษ กับคนอื่นๆอีกมากมายที่พยายามฉุดกระชากลากฉันไว้ไม่ให้ออกไปพ้นเขตห้องประชุม ตามด้วยเสียงที่สองซึ่งเป็นเสียงของญี่ปุ่น
"ปล่อย!ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!!ฉันจะรีบกลับไปหาแฮร์รี่!!!" ฉันพูดพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่จับยึดขอบประตูแน่น ..ก็ดูแรงของแต่ละคนซะก่อนสิ!โดยเฉพาะไอ้อ้วนอเมริกา!แรงมันมนุษย์มนาซะที่ไหนล่ะ!!
"แต่ฝนมันยังตกอยู่เลยนะลุง" เงียบไปเลยไอ้อ้วน! ฉันทำได้เพียงแต่ก่นด่าไอ้อ้วนในใจเท่านั้น
..ก็ตอนนี้น่ะ แฮร์รี่สำคัญที่สุดนี่น่า..
"ใช่ครับ ออกไปตอนนี้เดี๋ยวก็ตายหรอกครับ" แกก็เป็นไปกับเขาด้วยงั้นเรอะ!ไอ้โอตาคุ!!แล้วเมื่อกี้แกแช่งฉันนี่!!!
"พวกนายเงียบไปเลยนะ!แล้วก็ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" ป่านนี้แฮร์รี่จะกินข้าวรึยังน่า~?
เปรี้ยง!!พรึบ!!แว๊ก!!
ฟ..ไฟดับ?
"ฟ..ไฟดับงั้นเหรอ?เฮ้!ดับแบบนี้คุณพี่กลัวนะเนี่ย!" ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเสียงใคร ..ไอ้บ้าฝรั่งเศษชัวร์ 100%
"สงสัยวันนี้บ้านนายพายุจะเข้านะอังกฤษ" พูดมีเหตุมีผลอย่างงี้ สงสัยจะเป็นเยอรมัน
เอ๊ะ!แล้วฉันจะอยู่ทำอะไรละเนี่ย?!!
พรึบ!
"ดูเหมือนว่าไฟจะมาแล้วน้อ~ แล้วลื่อจะกอดอั๊วอีกนานไหมน่อ!อาเกาหลี!!"
"อะ..แว่น แว่นไปทำตกอยู่ตอนไหมน่า?.." หืม?ไทยทำแว่นตกงั้นเหรอ?แย่ละสิ รายนั้นยิ่งสายตาสั้นอยู่ด้วย ก็อยากช่วยหาอยู่หรอก ..แต่แฮร์รี่สำคัญกว่านี่น่า ขอโทษนะไทย..
"นี่ครับ ไทยซัง" เดี๋ยวนะ!เมื่อกี้ฉันว่าฉันเห็นนายหยิบแว่นนั่นออกมาจากในกระเป๋านายนะ ไอ้โอตาคุ!
ญี่ปุ่น หรือ ฉายาโอตาคุไม่เพียงพูดเปล่า แต่ยังบรรจงใส่แว่นตาให้คนตรงหน้าอย่างเบามือ ถ้าฉันถือว่านายแตะอั๊งไทยฉันจะผิดไหม?
"ขอบคุณจ๊ะ คุณญี่ปุ่น" ไทยนายอย่าไปหลงกลเจ้าโอตาคุนะ! แน่ะ!!ยังไม่ทันขาดคำ ญี่ปุ่นนายจะรู้ไหมนะว่านายกำลังเข้าข่ายหลอกลวงผู้อื่นอยู่น่ะ..
เคร้ง!
ฉันคงตาไม่ฝาดสินะที่เห็นท่อน้ำลอยเฉียดหน้าญี่ปุ่นไปเพียงเสียววินาที ราวกับว่ามันต้องการที่จะปักเข้ากลางหัวญี่ปุ่นถ้าไม่ติดว่ามีไทยยืนอยู่ตรงนั้น จะว่าไป..ท่อน้ำมาไงฟะ!!
"โคล่ โคล่ โคล่ หาแว่นเจอแล้วงั้นเหรอครับไทยคุง" นั้นไง..เจ้าของท่อน้ำปารกฏตัว!
"จ๊ะ คุณรัสเซีย" ยิ้ม..อย่ายิ้มบ่อยนักไทยฉันขอล่ะ..เพราะรอยยิ้มนายกำลังจะทำให้คนสองคนฆ่ากันตาย ..ฉันยังไม่อยากเห็นเหตุการ์ณนองเลือดแบบFull HD หรอกนะ
"คุณก็เห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ?" แน่ะ!ดูพูดเข้าสิ!ได้ข่าวว่าเขาไม่ได้ถามนายนะ!
เปรี้ยง!
ฉันมั่นใจว่าคราวนี้ฉันไม่ได้ตาฝาดที่เห็นกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านไปมาระหว่างตาทั้งคู่นะ ให้ตายสิ!แล้วนั้นพวกแกจะเตรียมชักอาวุธขึ้นมาเพื่อ!!
แฮร์รี่..ได้โปรดภาวนาให้ฉันกลับไปอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ~
"นี่!ทั้งคู่อย่าทะเลาะกันสิจ๊ะ!!" ไทยรีบห้ามอย่าลุกลี้ลุกลน
ให้ตายสิ!!ฉันล่ะสงสารนายจริงๆไทย..
"แหมๆพวกนั้นเนี่ยสนุกกันจังนะ" ฝรั่งเศษพูดอย่างหงอยเหงา.. โทษเหอะ!ฉันไม่สงสารหรอกนะ!!
"เฮย..คุณพี่ละเศร้า~งั้นเราไปดื่มกันบ้างเถอะ!อะ!!?" ไอ้บ้าฝรั่งเศษพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองนะจุดที่ฉันเคยยืนอยู่
"เฮ๊ย!อังกฤษหาย!!" พึ่งรู้เรอะ!ฉันละอึ้ง!!
"ห๊ะ!!" ประสานเสียงกันเชียวนะพวกแก..
"ฉันว่าหมอนั่นคงยังไปไม่ไกลหรอกนะ" เสียงนี้มัน?หรือว่า!
"นั่นสิครับ ถึงไม่อยากจะยอมรับว่าผมกำลังคิดในสิ่งเดียวกันก็เถอะ.." คำพูดแบบนี้ ออสเตรียงั้นเหรอ?
"งั้นเราไปตามหาลุงกันเถอะ!เดี๋ยวฮีโร่นำเอง!!" แกว่าใครลุงห๊ะ!เดี๋ยวพ่อตบกลิ้งสักหรอก!!
แฮร์รี่..ได้โปรดภาวนาให้ฉันกลับไปอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ~
"นี่!ทั้งคู่อย่าทะเลาะกันสิจ๊ะ!!" ไทยรีบห้ามอย่าลุกลี้ลุกลน
ให้ตายสิ!!ฉันล่ะสงสารนายจริงๆไทย..
"แหมๆพวกนั้นเนี่ยสนุกกันจังนะ" ฝรั่งเศษพูดอย่างหงอยเหงา.. โทษเหอะ!ฉันไม่สงสารหรอกนะ!!
"เฮย..คุณพี่ละเศร้า~งั้นเราไปดื่มกันบ้างเถอะ!อะ!!?" ไอ้บ้าฝรั่งเศษพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองนะจุดที่ฉันเคยยืนอยู่
"เฮ๊ย!อังกฤษหาย!!" พึ่งรู้เรอะ!ฉันละอึ้ง!!
"ห๊ะ!!" ประสานเสียงกันเชียวนะพวกแก..
"ฉันว่าหมอนั่นคงยังไปไม่ไกลหรอกนะ" เสียงนี้มัน?หรือว่า!
"นั่นสิครับ ถึงไม่อยากจะยอมรับว่าผมกำลังคิดในสิ่งเดียวกันก็เถอะ.." คำพูดแบบนี้ ออสเตรียงั้นเหรอ?
"งั้นเราไปตามหาลุงกันเถอะ!เดี๋ยวฮีโร่นำเอง!!" แกว่าใครลุงห๊ะ!เดี๋ยวพ่อตบกลิ้งสักหรอก!!
ก๊อก!ก๊อก!
"ออกมาได้แล้ว ฉันรู้ว่านายอยู่ใต้นั่น!"
"..ให้ตายสิ!เก่งจังนะที่รู้ว่าฉันซ่อนอยู่ใต้นี้" ฉันพูดพร้อมกับออกมาจากใต้โต๊ะประชุม ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเพื่อนที่หายไปนานแสนนาน..
"หึ!แค่นี้ไม่รู้ก็แปลก ว่าแต่นายนะทำไมไม่หนีไปตอนไฟดับล่ะ?"
"ก็นะ ถ้าฉันหนีไปตอนนั้นมันยุ่งยากนี้น่า~"
"ยุ่งยากงั้นเหรอ..แล้วแบบนี้ไม่ต่างกันรึไง?"
"ต้องแบบนี้สิ ถึงจะท้าทาย"
"ท้าทายงั้นเหรอ..นายเนี่ยไม่ทิ้งนิสัยโจรสลัดเลยนะ"
"หึ!ขอบใจที่ชมแล้วกันนะ" เฮ้!อย่าทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างนั้นสิ!!
"...."
"..กิลเบิตร์ ไม่สิ..ปรัสเซีย"
"หืม~มีอะไรงั้นเหรอ?"
"..ทำไมนายถึงช่วยฉัน?"
"..ก็อาจจะเป็นเพราะ.." หมอนั้นพูดออกมาเพียงแค่นั้น ก่อนจะแสยะยิ้มประจำตัวที่ไม่ได้เห็นมาเนิบนานออกมา
"พวกเราเหมือนกันขนาดนี้นี่น่า~"
"..." คำตอบของหมอนั้นทำเอาฉันอึ้งไปเลยแหะ ให้ตายสิ!ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าวันนี้รอยยิ้มของหมอนั้นเจิดจ้ากว่าปกตินะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้กล่าวพูดอะไรอีก หมอนั้นผู้ได้รับสมญานามว่าผู้พัดพาความตายราวเทพแห่งสงครามก็ขัดขึ้นเสียก่อน
"เอ้า!ไอ้คุณโจรสลัดไม่รีบไปซะล่ะ!!พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญของพวกนายนะ!!!" อะ..จริงด้วยสิ พรุ่งนี้มัน!
"อืม!งั้นฉันไปก่อนนะ!" ฉันพูดอย่างรีบร้อน ก่อนจะรีบพุ่งตัวออกไปจกห้องประชุมทันที
"เดี๋ยว!อังกฤษ!!"
เอี๊ยด!!
ก--เกือบเบรกแทบไม่ทัน..
"อะไร!" เห็นไหมว่าว่าคนกำลังรีบนะเฮ๊ย!
"อย่าปล่อยให้เขาต้องรอนานล่ะ"
"รู้แล้วละน่า!" ฉันรู้หรอก!ไม่ต้องมาย้ำ!! ก่อนฉันจะตัดสินใจวิ่งออกไปอีกครั้ง ถ้าหมอนั้นไม่ขัดขึ้นมาอีกล่ะก็นะ
ตกลงนายจะให้ฉันไปไหมเนี่ย!!
"อะไรอีกล่ะโว๊ย!ปรัสเซีย!!" ฉันตะโกนออกไปอย่างสุดทน อดทนไว้..อนทนไว้อาเธอร์..นึกถึงแฮร์รี่เอาไว้..
ก่อนที่ฉันจะต้องเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นในใจทันที เมื่ออยู่ๆปรัสเซียก็โยนกุญแจรถของตนมาให้ฉันจนเกือบรับแทบไม่ทัน
"ฉันให้ยืมแล้วกันน่า~" หมอนั่นพูดพร้อมกับยิ้มระรื่น
"แต่.."
"เอาไปเถอะน่า~คนอื่นเขาจะได้ไม่สังเกต อย่าน้อยๆก็คงคิดว่าฉันกลับไปก่อนมั่ง?"
"ปรัสเซีย..นาย.."
"เอ้า!รออะไรอยู่ล่ะ!รีบไปซะสิ!!" หมอนั่นไม่พูดเปล่ายังอุตสาห์ผลักฉันออกมาให้พ้นจากเขตห้องประชุม ให้ตายสิ!ฉันไม่รู้จะขอบคุณนายยังไงแล้ว!!
"..ขอบคุณ!" ฉันรีบหันกลับไปพูด ก่อนจะออกตัววิ่งไปอย่างสุดฝีเท้าเพื่อที่จะออกไปจากห้องประชุมแห่งนี้ เพื่อที่จะกลับไปหาแฮร์รี่!!
รอก่อนนะ!ฉันจะรีบกลับไปหาเดี๋ยวนี้แหละ!!
-Arthur End-
-Gilbert Say-
เฮย..ห้องประชุมที่เหลือเพียงแต่ฉันคนเดียวเนี่ย~ มันชังน่าเบื่อจริงๆ เอ๊ะ!ฉันเป็นใครงั้นเหรอ!มากไปแล้วนะ!!จะบอกให้ก็ได้~ ฉันคนนี้คือผู้ที่น่ากลัวที่สุดในโลก ปรัสเซียไงล่ะ!!!
..แต่มันก็เงียบเกินไปจริงๆล่ะนะ
"เฮย.. ขอให้นายโชคดีแล้วกันนะ อาเธอร์" ฉันพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างที่พายุฝนกำลังพัดอย่างบ้าคลั่ง
ได้โปรด..อย่างได้ทิ้งให้เด็กคนนั้นต้องอยู่ตัวคนเดียวอีกเลย..
อย่าทิ้งให้เด็กคนนั้นต้องโดดเดี่ยว..
อย่าให้ต้องกลายเป็นเหมือนกันกับตัวฉัน..
...ฉันที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว..
.
.
.
.
.
"แฮร์รี่~"
"อะ..กิล?กิลเบิตร์..ฮึก!" ในวันนั้นฉันยังคงจำได้ดีถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตา ริมฝีปากบางๆที่สั่นระริกราวกับกำลังอดกันบางสิ่งบางอย่างไว้ จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีล่ะ?ที่ฉันดันมาพบเข้า..
"อืม ฉันเองล่ะ!แล้วนายเป็นอะไรงั้นเหรอ?" ฉันถามออกไปอย่างห่วงใยพร้อมกับนั่งลงข้างๆ
"อะ!ปะ..เปล่า!!ไม่มีอะไรหรอก!!!" แฮร์รี่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ โทษเหอะ!ฉันเห็นหมดแล้วล่ะ!!
"แฮร์รี่!" ฉันตัดสินใจตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ให้ตายสิ!เด็กน่อเด็ก~ ..ถ้าฉันถือว่าอาเธอร์พรากผู้เยาว์จะผิดไหม?
"..ฉัน..ฉันมันตัวซวย!ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ฉันเขาก็ต้องตายกันทั้งนั้น!! เพราะงั้น..ฮึก" แฮร์รี่ตะโกน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างสุดที่จะกันไว้ได้
..น่าแปลก..ทำไม่กันนะ?ฉันถึง..
ได้เห็นภาพของตัวเองซ้อนทับกันกับแฮร์รี่..
"อะ..กิล?กิลเบิตร์..ฮึก!" ในวันนั้นฉันยังคงจำได้ดีถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตา ริมฝีปากบางๆที่สั่นระริกราวกับกำลังอดกันบางสิ่งบางอย่างไว้ จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีล่ะ?ที่ฉันดันมาพบเข้า..
"อืม ฉันเองล่ะ!แล้วนายเป็นอะไรงั้นเหรอ?" ฉันถามออกไปอย่างห่วงใยพร้อมกับนั่งลงข้างๆ
"อะ!ปะ..เปล่า!!ไม่มีอะไรหรอก!!!" แฮร์รี่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ โทษเหอะ!ฉันเห็นหมดแล้วล่ะ!!
"แฮร์รี่!" ฉันตัดสินใจตะโกนออกไปอย่างเหลืออด ให้ตายสิ!เด็กน่อเด็ก~ ..ถ้าฉันถือว่าอาเธอร์พรากผู้เยาว์จะผิดไหม?
"..ฉัน..ฉันมันตัวซวย!ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ฉันเขาก็ต้องตายกันทั้งนั้น!! เพราะงั้น..ฮึก" แฮร์รี่ตะโกน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างสุดที่จะกันไว้ได้
..น่าแปลก..ทำไม่กันนะ?ฉันถึง..
ได้เห็นภาพของตัวเองซ้อนทับกันกับแฮร์รี่..
.
.
.
"พี่ครับ!!" เสียงเรียกของน้องชายเพียงคนเดียวทำให้ฉันหลุดออกจากพวังค์ จนต้องหันกลับไปมองหาต้นเสียง
"พี่มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวนะ!!" ดูสิ!เดี๋ยวนี้เขากล้าที่ตวาดใส่ฉันคนนี้แล้วเนี่ย!นี่ ฉันเป็นพี่นะ!อย่าให้รู้นะว่าใครสั่งใครสอน!!
ว่าไปนั้น..ก็คนที่มีสิทธิสั่งสอนลุควิกนะ..
มันก็มีแต่ฉันคนเดียวนี้น่า~
"พี่คงไม่ได้ช่วยให้อังกฤษหนีไปหรอกใช่ไหม?" แน่ะ!เดี๋ยวนี้กล้าสงสัยพี่คนนี้แล้วงั้นเรอะ!!
"เปล่าสักหน่อย~ เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อใจพี่คนนี้แล้วหรือไง?" ก่อนฉันจะต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆเวสต์ก็เอื้อมมือมาจับมือฉันไว้แน่น พร้อมกับลากฉันออกไปจากห้องประชุมที่เดียวดายแห่งนี้
..นั้นสินะ..
"ผมนะ.."
ก็ตอนนี้นะ..
"รักพี่นะ รักที่สุดเลย.."
ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่น่า..
"อีกอย่างตอนนี้..พวกเราก็ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว..เพราะงั้น"
แต่ฉันยังมีเด็กคนนี้..น้องชายคนนี้อยู่..
"..อย่าได้จากผมไปไหนอีกเลยนะ" หึ!ดูสิ!หูของเขาแดงด้วยล่ะ!!สงสัยจะเขิน แต่ทำไม?ฉันถึงได้ยินน้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนจากเขากันล่ะ?
"นายกำลังกลัวอยู่งั้นเหรอ?" ฉันตัดสินใจถามออกไป
"ผมไม่ได้กลัวนะ!ผมนะเป็นถึงเยอรมันที่พี่สร้างขึ้นนะ!!" คราวนี้เขาหันมาเผชิญหน้ากับฉันตรงๆพร้อมกับจับแขนทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น ราวกับว่าถ้าเขาปล่อยฉันไปแล้วฉันจะหายไปจากเขาตลอดกาลงั้นแหละ
"ผมนะ.." ฉันทำได้แค่นิ่งฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดออกมาเท่านั้น
"ถ้าเป็น..ถ้าเป็นเรื่องของพี่ล่ะก็!" เขาพูดก่อนที่ฉันจะต้องสะดุ้งเป็นรอบที่สองของวัน เมื่ออยู่ๆเวสต์ก็ดึงฉันเข้าไปกอดแน่น ราวกับว่าเขาอยากที่จะมั่นใจว่าฉันยังคงยื่นอยู่ตรงนี้
ให้ตายสิ เวสต์ล่ะก็..
"..ถึงจะไม่อยากให้พี่ต้องผิดหวังที่ผมอ่อนแอ แต่พอเป็นเรื่องของพี่ล่ะก็..ผมกลัว กลัวอย่างใจจริง กลัวที่จะต้องสูญเสียพี่ไปอีก.." เขาพูดพร้อมกับซบหน้าลงที่ไหล่ของฉัน จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของเขาที่เป่าลดต้นคอ
"ถ้าหากพี่ต้องหายไปอีกละก็.." ไม่ต้องรอให้เวสต์ต้องพูดอะไรอีก ฉันรีบกระชากเวสต์ให้เงยหน้าขึ้นแล้วเข้าประกบจูบทันทีไม่ให้เวสต์ได้ทันตั้งตัว ก่อนจะค่อยๆผละริมฝีปากออกจากกันอย่างช้าๆ เผยให้เห็นน้ำเชื่อมสีใสที่ไหลเยิ้มเชื่อมระหว่างปากของเราทั้งคู่
"พ..พี่!ทำอะไรนะ" แน่ะ!มีโวยวายด้วย!! ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังจูบตอบอย่างดีแท้ๆ แหม~ดูสิ เขาหน้าแดงใหญ่เลยล่ะ
น่ารักจริงๆน้องชายฉัน~
"ก็นายจะได้รู้ว่าฉันยังอยู่ตรงนี้ไง!ไปเวสต์!เลิกตามหาอังกฤษแล้วไปดื่มกับฉันดีกว่า!!" ฉันพูดพร้อมกับฉุดกระชากลากเวสต์ไปทางห้องอาหารแทน
"แต่พี่!" เวสต์พยายามประท้วง ให้ตายสิ!ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ!!
"เวสต์ ปล่อยอังกฤษไปเถอะ พรุ่งนี้น่ะเป็นวันสำคัญของพวกเขาทั้งคู่นะ" ฉันพูดพร้อมกับมองหาทางไปยังห้องอาหาร
"แต่ถ้ารอให้พายุหยุดก่อน.."
"นายไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศเย็นนี้งั้นเหรอเวสต์?เขาก็บอกอยู่ว่าพายุจะไม่หยุดจนกว่าจะผ่านช่วงเดือนนี้ไป"
"แต่" ฉันล่ะอย่างจะเอาหัวโขกฝาผนักแถวนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่เถียงฉันสักครั้งจะเป็นไรไหมเวสต์?
"เวสต์..ถ้าเราไม่ให้เขาไปตอนนี้ พรุ่งนี้..ไม่สิ!เดือนนี้ทั้งเดือนพวกเขาอาจจะไม่ได้เจอกันเลยนะ!!"
"..งั้น..เราไปดื่มกันที่ห้องเราแทนไหมครับ?" ห๊ะ!เดี๋ยวนะ!!ว่าไงนะ!!! ก่อนที่ฉันจะต้องหมุนตัว 360 องศา เพื่อหันไปเผชิญหน้ากับเวสต์ตรงๆ
..เมื่อกี้..ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
"ก็..ก็ผมกับพี่ตอนนี้เราก็รวมเป็นหนึ่งกันแล้ว.."
"แล้ว.." ฉันเร่ง เมื่อเห็นว่าเวสต์ไม่มีท่าทีที่จะพูดต่อ
"..ผม..ผมก็เลย ให้เขาย้ายของของพี่ไปไว้กับผม" เวสต์พูดพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ขึ้นสีอย่างหนัก แหม~น้องชายใครเนี่ยน่ารักจริงๆ~
"แหมๆเวสต์~อย่านอนกับฉันก็ไม่บอก~" ฉันพูดพร้อมกับโอบคอเวสต์ลงมาประชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ..ก็แหม~เวสต์น่ะสูงกว่าฉันอีกนี้น่า~
"พ..พี่!จะทำอะไรน่ะ!!"
"เอ๋~ทำอะไรดีน่า~" ฉันพูดพร้อมกับดึงเวสต์เข้ามาจูบอีกรอบแต่เนิบนานกว่าเดิม ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมกัน
ให้ตายสิ!ฉันจะทนไม่ไหวแล้วน่ะ!!
"อื้ม~ ว..เวสต์" ฉันพูดกะตุกเมื่อริมฝีปากของเราผละออกจากกันและมือของเวสต์ที่ไม่ยอมหยุดอยู่นิ่งแถมยังล้วงมือเข้ามาใต้สาบเสื้ออีก
"..พี่ครับ" เวสต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ให้ตายสิ!ดูเหมือนเวสต์ก็คงทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
ก่อนที่ฉันจะต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่ออยู่ๆเวสต์ก็อุ้มฉันขึ้นมาแล้วพาตรงไปทางห้องนอนของพวกเราทันที
อา~งั้นคงได้แต่ภาวนาให้พวกนายโชคดีแล้วกันน่าอาเธอร์~
ให้ตายสิ!พรุ่งนี้ฉันจะลุกไหวไหมเนี่ย!!
-Gilbert End-
-Writer Say-
"ให้ตายสิ!ให้ตายสิ!!ทำไมรถมันถึงได้ติดอย่างงี้เนี่ย!!!" เสียงบ่นอย่างหงุดหงิดดังออกมาจากปากของชายหนุ่มผมบอร์นเป็นรอบที่ 108
ให้ตายสิ!อยากจะเอาหัวโขกพวงมาลัยให้หายหงุดหงิดซะจริง ..ถ้าไม่ติดว่าเป็นรถคนอื่นล่ะก็นะ..
นี้คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาหลังจากที่ต้องติดทั้งพายุฝนและการจราจรที่ติดขัดมาได้ 2 ชั่วโมงเศษ
เฮย..ป่านนี้แฮร์รี่จะเป็นยังไงบ้างนะ..
จะกินข้าวรึยัง?..
หรือว่าจะอาบน้ำก่อน?
แฮร์รี่คงไม่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าใช่ไหม?
อ๊าก!คิดถึงแฮร์รี่ชมัดเลยแหะ
ทั้งริมฝีปากบางได้รูปนั่น
ทั้งผิวขาวๆที่หน้าทำให้เป็นรอยนั้นอีก
หรือแม้กระทั่ง..
..เสียงหวานๆที่ถูกส่งออกมายามต้องตกอยู่ใต้อาณัติ..
"พี่มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวนะ!!" ดูสิ!เดี๋ยวนี้เขากล้าที่ตวาดใส่ฉันคนนี้แล้วเนี่ย!นี่ ฉันเป็นพี่นะ!อย่าให้รู้นะว่าใครสั่งใครสอน!!
ว่าไปนั้น..ก็คนที่มีสิทธิสั่งสอนลุควิกนะ..
มันก็มีแต่ฉันคนเดียวนี้น่า~
"พี่คงไม่ได้ช่วยให้อังกฤษหนีไปหรอกใช่ไหม?" แน่ะ!เดี๋ยวนี้กล้าสงสัยพี่คนนี้แล้วงั้นเรอะ!!
"เปล่าสักหน่อย~ เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อใจพี่คนนี้แล้วหรือไง?" ก่อนฉันจะต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆเวสต์ก็เอื้อมมือมาจับมือฉันไว้แน่น พร้อมกับลากฉันออกไปจากห้องประชุมที่เดียวดายแห่งนี้
..นั้นสินะ..
"ผมนะ.."
ก็ตอนนี้นะ..
"รักพี่นะ รักที่สุดเลย.."
ฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่น่า..
"อีกอย่างตอนนี้..พวกเราก็ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว..เพราะงั้น"
แต่ฉันยังมีเด็กคนนี้..น้องชายคนนี้อยู่..
"..อย่าได้จากผมไปไหนอีกเลยนะ" หึ!ดูสิ!หูของเขาแดงด้วยล่ะ!!สงสัยจะเขิน แต่ทำไม?ฉันถึงได้ยินน้ำเสียงขอร้องอ้อนวอนจากเขากันล่ะ?
"นายกำลังกลัวอยู่งั้นเหรอ?" ฉันตัดสินใจถามออกไป
"ผมไม่ได้กลัวนะ!ผมนะเป็นถึงเยอรมันที่พี่สร้างขึ้นนะ!!" คราวนี้เขาหันมาเผชิญหน้ากับฉันตรงๆพร้อมกับจับแขนทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น ราวกับว่าถ้าเขาปล่อยฉันไปแล้วฉันจะหายไปจากเขาตลอดกาลงั้นแหละ
"ผมนะ.." ฉันทำได้แค่นิ่งฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดออกมาเท่านั้น
"ถ้าเป็น..ถ้าเป็นเรื่องของพี่ล่ะก็!" เขาพูดก่อนที่ฉันจะต้องสะดุ้งเป็นรอบที่สองของวัน เมื่ออยู่ๆเวสต์ก็ดึงฉันเข้าไปกอดแน่น ราวกับว่าเขาอยากที่จะมั่นใจว่าฉันยังคงยื่นอยู่ตรงนี้
ให้ตายสิ เวสต์ล่ะก็..
"..ถึงจะไม่อยากให้พี่ต้องผิดหวังที่ผมอ่อนแอ แต่พอเป็นเรื่องของพี่ล่ะก็..ผมกลัว กลัวอย่างใจจริง กลัวที่จะต้องสูญเสียพี่ไปอีก.." เขาพูดพร้อมกับซบหน้าลงที่ไหล่ของฉัน จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนของเขาที่เป่าลดต้นคอ
"ถ้าหากพี่ต้องหายไปอีกละก็.." ไม่ต้องรอให้เวสต์ต้องพูดอะไรอีก ฉันรีบกระชากเวสต์ให้เงยหน้าขึ้นแล้วเข้าประกบจูบทันทีไม่ให้เวสต์ได้ทันตั้งตัว ก่อนจะค่อยๆผละริมฝีปากออกจากกันอย่างช้าๆ เผยให้เห็นน้ำเชื่อมสีใสที่ไหลเยิ้มเชื่อมระหว่างปากของเราทั้งคู่
"พ..พี่!ทำอะไรนะ" แน่ะ!มีโวยวายด้วย!! ทั้งๆที่เมื่อกี้ยังจูบตอบอย่างดีแท้ๆ แหม~ดูสิ เขาหน้าแดงใหญ่เลยล่ะ
น่ารักจริงๆน้องชายฉัน~
"ก็นายจะได้รู้ว่าฉันยังอยู่ตรงนี้ไง!ไปเวสต์!เลิกตามหาอังกฤษแล้วไปดื่มกับฉันดีกว่า!!" ฉันพูดพร้อมกับฉุดกระชากลากเวสต์ไปทางห้องอาหารแทน
"แต่พี่!" เวสต์พยายามประท้วง ให้ตายสิ!ทำไมถึงดื้ออย่างนี้นะ!!
"เวสต์ ปล่อยอังกฤษไปเถอะ พรุ่งนี้น่ะเป็นวันสำคัญของพวกเขาทั้งคู่นะ" ฉันพูดพร้อมกับมองหาทางไปยังห้องอาหาร
"แต่ถ้ารอให้พายุหยุดก่อน.."
"นายไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศเย็นนี้งั้นเหรอเวสต์?เขาก็บอกอยู่ว่าพายุจะไม่หยุดจนกว่าจะผ่านช่วงเดือนนี้ไป"
"แต่" ฉันล่ะอย่างจะเอาหัวโขกฝาผนักแถวนี้ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่เถียงฉันสักครั้งจะเป็นไรไหมเวสต์?
"เวสต์..ถ้าเราไม่ให้เขาไปตอนนี้ พรุ่งนี้..ไม่สิ!เดือนนี้ทั้งเดือนพวกเขาอาจจะไม่ได้เจอกันเลยนะ!!"
"..งั้น..เราไปดื่มกันที่ห้องเราแทนไหมครับ?" ห๊ะ!เดี๋ยวนะ!!ว่าไงนะ!!! ก่อนที่ฉันจะต้องหมุนตัว 360 องศา เพื่อหันไปเผชิญหน้ากับเวสต์ตรงๆ
..เมื่อกี้..ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?
"ก็..ก็ผมกับพี่ตอนนี้เราก็รวมเป็นหนึ่งกันแล้ว.."
"แล้ว.." ฉันเร่ง เมื่อเห็นว่าเวสต์ไม่มีท่าทีที่จะพูดต่อ
"..ผม..ผมก็เลย ให้เขาย้ายของของพี่ไปไว้กับผม" เวสต์พูดพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ขึ้นสีอย่างหนัก แหม~น้องชายใครเนี่ยน่ารักจริงๆ~
"แหมๆเวสต์~อย่านอนกับฉันก็ไม่บอก~" ฉันพูดพร้อมกับโอบคอเวสต์ลงมาประชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ..ก็แหม~เวสต์น่ะสูงกว่าฉันอีกนี้น่า~
"พ..พี่!จะทำอะไรน่ะ!!"
"เอ๋~ทำอะไรดีน่า~" ฉันพูดพร้อมกับดึงเวสต์เข้ามาจูบอีกรอบแต่เนิบนานกว่าเดิม ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมกัน
ให้ตายสิ!ฉันจะทนไม่ไหวแล้วน่ะ!!
"อื้ม~ ว..เวสต์" ฉันพูดกะตุกเมื่อริมฝีปากของเราผละออกจากกันและมือของเวสต์ที่ไม่ยอมหยุดอยู่นิ่งแถมยังล้วงมือเข้ามาใต้สาบเสื้ออีก
"..พี่ครับ" เวสต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ให้ตายสิ!ดูเหมือนเวสต์ก็คงทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
ก่อนที่ฉันจะต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่ออยู่ๆเวสต์ก็อุ้มฉันขึ้นมาแล้วพาตรงไปทางห้องนอนของพวกเราทันที
อา~งั้นคงได้แต่ภาวนาให้พวกนายโชคดีแล้วกันน่าอาเธอร์~
ให้ตายสิ!พรุ่งนี้ฉันจะลุกไหวไหมเนี่ย!!
-Gilbert End-
-Writer Say-
"ให้ตายสิ!ให้ตายสิ!!ทำไมรถมันถึงได้ติดอย่างงี้เนี่ย!!!" เสียงบ่นอย่างหงุดหงิดดังออกมาจากปากของชายหนุ่มผมบอร์นเป็นรอบที่ 108
ให้ตายสิ!อยากจะเอาหัวโขกพวงมาลัยให้หายหงุดหงิดซะจริง ..ถ้าไม่ติดว่าเป็นรถคนอื่นล่ะก็นะ..
นี้คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาหลังจากที่ต้องติดทั้งพายุฝนและการจราจรที่ติดขัดมาได้ 2 ชั่วโมงเศษ
เฮย..ป่านนี้แฮร์รี่จะเป็นยังไงบ้างนะ..
จะกินข้าวรึยัง?..
หรือว่าจะอาบน้ำก่อน?
แฮร์รี่คงไม่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าใช่ไหม?
อ๊าก!คิดถึงแฮร์รี่ชมัดเลยแหะ
ทั้งริมฝีปากบางได้รูปนั่น
ทั้งผิวขาวๆที่หน้าทำให้เป็นรอยนั้นอีก
หรือแม้กระทั่ง..
..เสียงหวานๆที่ถูกส่งออกมายามต้องตกอยู่ใต้อาณัติ..
ปัง!
ทันทีที่ความคิดทั้งหมดสิ้นสุดลงอาเธอร์ก็ได้ทำการโขกหัวตัวเองเข้ากับพวงมาลัยทันทีไม่ต้องให้คิดอีกเป็นรอบที่สอง โดยไม่สนอีกแล้วว่าเป็นรถใคร พร้อมกับความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นมาอย่างทันท่วงที
..ให้ตายสิ!โรคจิตใหญ่แล้วแหะ
ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาเช็กเมล์ต่างๆที่เข้ามาตอนตนประชุมอยู่ แต่ก็ต้องชงักไปเมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับกว่า 180 สาย จายคนที่ตนคิดถึงสุดขั้วของหัวใจ
"แฮร์รี่.." ให้ตายสิ!คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ?..
รับสิรับ..แฮร์รี่รับสิ!!
ความกังวนทั้งหมดเอ่นล้นอยู่ในใจเมื่อปลายสายไม่มีท่าทีที่จะรับสายหรือตอบกลับมา จนต้องจำใจหันไปฟังข้อความที่แฮร์รี่ฝากไว้แทน แต่ก็ต้องชงักไปทันที่ที่เสียงซึ่งถูกบันทึกไว้ดังเข้าสู่ประสาทการได้ยิน
[..อาเธอร์..ฝนตกแล้วนะเป็นอะไรรึเปล่า ? รีบกลับมาก่อนฝนจะตกหนักนะ..แค่นี้นะ..]
[อาเธอร์มันมืดแล้วนะ ฝนก็ตกหนักแล้วด้วย ! นายใกล้ถึงบ้านรึยัง ? ฉันทำของโปรดของนายไว้เยอะเลยนะ..]
[นี่อาหารจะเย็นแล้วนะ นายยังไม่เลิกประชุมอีกหรอ ?]
[อาเธอร์ฝนมันตกหนักมากเลยนะ ถ้านายยังไม่ออกมาจากห้องระชุมก็ค้างที่นั้นเลยนะ เดี๋ยวขับรถฝ่าฝนออกมามันจะเกิดอุบัติเหตุนะ]
[อาเธอร์..นายไม่ตอบกลับมาเลย..เป็นอะไรรึเปล่า ?]
ทุกข้อความที่ส่งมาจากคนปลายสายล้วนแฝงไปด้วยความห่วงใยและทำให้อบอุ่นหัวใจอย่างแปลกประหลาด ก่อนดวงตาสีเขียวคู่งามจะต้องหุบลงเล็กน้อยเมื่อข้อความหลังๆเริ่มมีเสียงสะอื้นของคนปลายสายแทรกเข้ามาเล็กน้อย แบบที่ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังก็อาจจะไม่ได้ยินเลยก็ได้ มือที่ว่างอยู่จิกลงไปบนพวงมาลัยแน่นราวกับจะระบายความรู้สึกอัดอันทั้งหมดออกไป
อาเธอร์หลับตาแน่นราวกับจะนึกให้ออกว่าทำไมคนปลายสายถึงได้มีน้ำเสียงแสนเศร้าขนาดนี้ พร้อมกับความคิดว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ทำไมแฮร์รี่ถึงได้มีน้ำเสียงแสนเศร้าขนาดนี้..
ก่อนทุกความคิดจะต้องหยุดลงอยากช่วยไม่ได้เมื่อข้อความสุดท้ายแล่นเข้าสู่โสตประสาท ข้อความที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวอย่างแปลกประหลาด
[อาเธอร์ฉันรักนายนะ เพราะงั้น..ถึงมันจะฟังดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยก็เถอะ ! แต่นายห้ามเป็นอะไรไปนะ !! ..นี่..คือความเห็นแก่ตัวของฉัน..ฉันรักนายนะ..]
ทันทีที่ข้อความนั้นจบลงไม่ต้องรอให้ประธานเดินมาตัดริบบิ้นเมื่อการจราจรขยับแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม อาเธอร์หักพวงมาลัยจนสุดตีโค้งแซงหน้ารถคันอื่นเข้าช่องจอดรถที่เหลือช่องว่างเพียงนิดเดียวอย่างสง่างาม ก่อนจะรีบล๊อกรถแล้วออกตัววิ่งจนสุดฝีเท้าทันที ไม่สนสายตาของคนอื่นที่มองมาราวกับจะสื่อว่าเขาเป็นคนบ้าที่ออกมาวิ่งเล่นกลางสายฝนเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้คนสำคัญที่สุดของเขากำลังเศร้าอยู่ยังไงล่ะ คงไม่มีใครทนนั่งอยู่เฉยๆในเวลาแบบนี้ได้หรอกนะ
อาเธอร์วิ่งต่อไปเรื่อยๆโดยความเร็วไม่ตกลงเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่ร่างกายเริ่มออกอาการเหนื่อยหอบอย่างชัดเจนกับการที่ต้องวิ่งฝ่าฝนออกมาตลอดทาง และดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างอาเธอร์ในวันนี้เอาซะเลยเมื่ออยู่ๆสายฝนก็ดันพัดโหมกระหน่ำแรงขึ้นอีก จนทำให้อาเธอร์ต้องหยุดชงักลงเล็กน้อยเส้นทางเบื้องหน้าเริ่มพร่ามัวจากสายฝนที่แรงขึ้น โดยไม่ทันให้ใครได้ตั้งตัวอาเธอร์ก็ถูกดึงเข้าไปในบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง
-Writer End-
-Arthur Say-
"แหม แหม~ เป็นชายหนุ่มที่ร้อนแรงดีจริงเลยน่า~" เสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังเป็นน้ำเสียงยียวนกวนประสาทที่ทำให้เผอนึกไปถึงเพื่อนผมเงินตาแดงคนหนึ่งขึ้นมา ก่อนฉันจะรีบหมุนตัวกลับไปมองคนที่กระชากฉันเข้ามาในบ้านหลังนี้ทันที่
ปากที่เตรียมจะเอ่ยต่อว่าคนที่ทำให้ฉันต้องเสียเวลาอันมีค่าในการกลับไปหาแฮร์รี่หยุดชงักทันที เมื่อได้เห็นชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆชัดเจน หน้าตาหล่อเหลาราวกับเชื้อพระวงศ์ มีผิวที่ขาวซีดราวกับไม่เคยต้องแดดเลยสักครั้ง เส้นผมสั้นสีเงินมีผมปอยหนึ่งทางด้านขวายาวลงมาจนถึงเอว ที่ปอยผมนั้นมีเครื่องประดับแบบสวมทำจากแก้วมีอัญมณีสีแดงเม็ดหนึ่งประดับอยู่ตรงกลาง ดวงตาสีแดงราวกับเลือดสดๆ ชายหนุ่มคนนี้สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวผูดเนคไทสีแดงสด กางเกงยีนส์สีดำสนิด และที่สำคัญชายหนุ่มคนนั้นกำลังส่งยิ้มกวนอวัยวะเบื้องล่างมาทางฉัน !
ให้ตายเหอะ ! หงอกโผล่มาอีกคน !!
"เฮ้ เฮ้ ! ใครหงอกฟะ ! นี่มันผมเงินตั้งหาก !"
"เดี๋ยว ! นายอ่านใจฉัน !" เป็นไปได้ไง !?
"ก็ฉันอยากจะอ่านซะอย่าง ว่าแต่นายเถอะคิดบ้ายังไงถึงได้ไปวิ่งฝ่าฝนมาอย่างงั้นล่ะ ? ไม่กลัวโดยลมพัดพลิ้วไปรึไง ?" ชายหนุ่มผมเงินพูด พร้อมกับดึงฉันไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
ให้ตายเหอะ ! เสียเวลาชมัดฉันต้องรีบกลับไปหาแฮร์รี่นะ !!
"..ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นและอีกอย่างภรรยาของฉันกำลังนั่งเป็นห่วงอยู่ที่บ้านด้วย" ฉันพูดพร้อมกับลุกออกไปจากตรงนี้ เพื่อที่จะได้รีบกลับไปหาแฮร์รี่ ถ้าไม่ติดว่ามีคนโยนผ้าขนหนูผืนเล็กมาใส่พร้อมกับดึงฉันกลับมานั่งที่เดิมน่ะนะ
ทำไมกันนะ ทำไมถึงได้ชอบมีคนมาขัดจังหวะฉันจัง !!
ฉันมองค้อนไปทางชายหนุ่มผมเงินที่นั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่บนโซฟาตรงข้ามทันที แต่ก็ทำได้แต่มองค้อนล่ะนะ..
"นั้นคือเหตุผลของนาย ?"
"ใช่" ฉันตอบรับหนักแน่น
"บ้า" ฉันรีบหันไปมองทางต้นเสียงที่ดังมาจากประตูอีกด้านทันที
เจ้าของเสียงผู้มาใหม่เป็นเด็กหนุ่มอายุราวๆ 16 ปี หน้าตาราวกับรูปแกะสลักของคนชั้นสูง ผมสั้นสีน้ำตาลท้าทายแรงโน้มถ้วง ผิวขาว ดวงตาสีเขียวมรกตคล้ายกับสีของคำสาปบทหนึ่ง หูขวาสวมต่างหูรูปไม้กางเขนสีดำมีอัญมณีประดับอยู่ตรงกลาง เด็กคนนี้ใส่ชุดแบบเดียวกับชายหนุ่มผมเงิน แต่เปลี่ยนจากเนคไทสีแดงเป็นเนคไทสีดำ ในมือถือแก้วน้ำมาสามใบ
"นายหมายความว่ายังไง ?" ฉันถามขึ้นทัันทีหลังจากนึกได้ว่าตอนที่เด็กคนนี้เดินเข้ามาเขาพูดว่าอะไร
"ก็นายลองคิดดูสิ คนที่นายบอกว่าเป็นภรรยากำลังนั่งเป็นห่วงนายอยู่ที่บ้าน แล้วนายกับมาวิ่งตากฝนในขณะที่ฝนกลายเป็นพายุขนาดย่อมเนี่ยนะ ! ถ้าเกิดว่าพายุฝนมันพัดนายไปชนเข้ากับอะไรขึ้นมา ไม่สิ ! ถ้าพายุมันพัดพวกของแข็งๆต่างมาชนนายเข้าจนนายบาดเจ็ดสาหัสภรรยาของนายจะรู้สึกยังไงกันห๊า !!"
คำพูดของเด็กคนนั้นทำให้ฉันนิ่งไปพักหนึ่ง มันทำให้ฉันคิดได้หลายอย่าง ทั้งหมดที่ฉันทำไปก็เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองที่อยากจะกลับไปอยู่กับแฮร์รี่ก็เท่านั้น ฉันไม่ได้คิดเลยว่าแฮร์รี่จะรู้สึกยังไงถ้าฉันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา
"มันก็จริงอย่างที่นายว่า แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงแฮร์รี่จริงๆนะ ทั้งน้ำเสียงแสนเศร้านั้น..ฉันอยากจะได้ยินเสียงหัวเราะร่าเริงของเขามากกว่า เพราะงั้นฉันจึงต้องรีบกลับไป" ฉันละสายตาจากแก้วน้ำที่ฉันพึ่งรู้ว่าเป็นช็อคโกแลตไปมองเด็กชายที่ตอนนี้กำลังจิบช็อคโกแลตอยู่บนตักของชายหนุ่มผมเงินด้วยสายตาแน่วแน่
"เฮ้~ นายก็พูดได้ดีเหมือนกันนีั อ๊ะ ! เรานั่งกันมาตั้งนานยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี้ ฉันคุไรคุโร ส่วนเด็กคนนี้ชื่อโลกา" ชายหนุ่มที่บอกว่าตัวเองชื่อคุไรคุโรพูดด้วยท่าทางลั้นลา ส่วนเด็กที่ชื่อโลกาก็ยังคงจิบช็อคโกแลตร้อนต่อพร้อมกับเบียดร่างของตนเข้าไปใกล้ชิดกับคุไรคุโรมากขึ้นราวกับจะหาความอบอุ่น จนคุไรคุโรยิ้มอย่างอ่อนใจแล้วโอบเอวบางให้เข้ามาแนบชิดกันยิ่งขึ้น
อิจฉาโว๊ย !!
"..ฉันอาเธอร์ เคิร์กแลนด์.." ฉันมองภาพตรงหน้าอย่างอิฉจา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
อยากให้แฮร์รี่อยู่ที่นี้ด้วยจัง..
"เฮ้ นั้นนายจะไปไหน ?" โลกาถามเมื่อเห็นว่าฉันลุกออกจากโซฟา
"กลับไปหาแฮร์รี่"
"ที่ฉันพูดไปนายยังคิดไม่ได้อีกรึไง ?"
"ฉันรู้น่า ! แต่ตอนนี้แฮร์รี่กำลังกลัว เขากำลังร้องไห้ ! จะให้ฉันทิ้งให้เขาต้องอยู่คนเดียวจนกว่าฝนจะหยุดน่ะ ฉันทำไม่ได้หรอก ! ยิ่งตอนนี้ฝนจะหยุดเมื่อไรก็ไม่รู้ โทรไปแฮร์รี่ก็ไม่รับสาย.."
"เฮ้~ นายเนี่ยกล้าพูดกว่าที่ฉันคิดไว้นะเนี่ย" โลกาพูดด้วยรอยยิ้มกวนประสาทก่อนเจ้าตัวจะดีดนิ้วหนึ่งครั้ง ปรากฏช่อดอกไม้ช่อหนึ่งมาอยู่ในมือฉัน เป็นช่อดอกไม้ที่มีแต่ดอกกุหลาบสีดำแต่กลับมีดอกหนึ่งที่แปลกออกไป ดอกไม้ดอกนั้นเป็นสีดำสนิททั้งหมด
ก็รู้อยู่หรอกนะว่ากุหลาบสีดำถ้าให้คนรักจะมีความหมายว่า รักนิรันทร์หรือคุณเป็นของฉันตลอดไป แต่อีกดอกนี้สิ ?
ก่อนฉันจะต้องเบิกตาโพล่งเมื่อคุไรคุโรเดินไปปิดไป ทันทีที่ทั้งห้องเต็มไปด้วยความมืดนั้นทำให้ฉันเข้าใจถึงความหมายทันที ดอกไม้ที่กลายเป็นสีขาวเรืองแสงท่ามกลางความมืด Love Devil !!
"น--นายไปเอาดอกไม้ดอกนี้มาจากไหนน่ะ !!" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย โดยไม่ทันตั้งตัวใต้เท้าของฉันของมีวงเวทที่เขียนด้วยอักขระโบราณปรากฏขึ้น ยังไม่ทันที่จะขยับตัววงเวทก็เริ่มเรืองแสงสีฟ้าขึ้นมา ก่อนภาพเบื้องหน้าของฉันจะเริ่มเปลี่ยนไปสิ่งสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงของโลกา
"ฉันชอบคำพูดของนายจริงๆและนี้คือรางวัลที่ฉันจะสามารถให้นายได้ ต่อจากนี้ไปมันก็เป็นสิ่งที่นายต้องคิดเองแล้วนะ ว่าจะปลอบโยนความเศร้าของผู้เป็นที่รักยังไง อย่างทิ้งให้เขาต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกล่ะ..โชคดี"
-Arthur End-
-Writer Say-
"นายเนี่ยชอบแกล้งเขาจังนะ" คุไรคุโรพูดพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆโลกา
"นายก็ร่วมมือด้วยไม่ใช่รึไง ? อีกอย่างฉันก็ไม่ได้แกล้งสักหน่อย เรื่องทั้งหมดมันบังเอิญต่างหาก~"
"บังเอิญ ? บังเอิญมากเลยเนอะ ทั้งๆที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เคยมีร่องรอยของสิ่งที่จะทำให้เกิดฝนตกหนักเกิดขึ้นเลยน่ะ บอกฉันมาเลยโลกานายให้พิภพวารีช่วยใช่ไหม~"
"ก็ใช่น่ะสิ ถึงฉันจะเป็นเจ้านายของหมอนั้นก็ไม่ใช่ว่าฉันจะสามารถสร้างพายุฝนอย่างที่หมอนั้นทำได้นี่"
"อืมนั้นก็จริง" คุไรคุโรพยักหน้ารับก่อนจะพูดขึ้นมาอีกรอบเหมือนพึ่งนึกได้
"เฮ้ เรารีบกลับไปฉลองปีใหม่กับท่านแม่กันเถอะ"
"อืม~นั้นสินะ กลับกันเถอะที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอนั้นจัดการตัวเองแล้วกันนะ" โลกาพูดพร้อมกับวงเวทแบบเดียวกับที่ทำให้อาเธอร์หายไปปรากฏขึ้นใต้เท้าของทั้งคู่ก่อนพวกเขาจะหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตน ในไม่กี้นาทีต่อมาบ้านที่เคยตั้งอยู่ก็ค่อยๆมลายหายไปราวกับภาพลวงตา
ทางด้านอาเธอร์โดยที่เขาไม่รู้ตัวก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านของตัวเองแล้ววงเวทมลายหายไปหมดราวกับว่ามันไม่เคยมี สิ่งเดียวที่อาเธอร์สามารถคิดออกเกี่ยวกับตัวตนของสองคนนั้นคือพวกเขาคือเผ่าพันธ์ุแห่งความมืด..
แต่ก็คงไม่ใช่คนไม่ดีหรอกมั้ง ก็พวกเขาอุตสาห์ช่วยฉันไว้นี้น่า..ไฟในบ้านเปิดไว้แบบนี้แสดงว่าแฮร์รี่ยังไม่นอนสินะ นั้นคือสิ่งที่อาเธอร์คิดก่อนจะกระชับช่อดอกไม้ในมือเล็กน้อยแล้วไขกุญแจเข้าไปในบ้านทันที สิ่งแรกที่เห็นคือสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่วิ่งกระดิกหางรับอยู่หน้าประตูและสามนางฟ้าที่ตามมาติดๆ
"แพ็ตฟู๊ตหยุด หยุด ! ฮ่าฮ่า !!" อาเธอร์หัวเราะเมื่ออยู่ๆแพ็ตฟู๊ตก็กระโจนเข้าใส่ ก่อนอาเธอร์จะพยายามลุกขึ้นยืน
"อาเธอร์กลับมาแล้ว ! มานี้เลยมานี้เร็วๆ !" สามนางฟ้าประสานเสียงพร้อมกับใช้แรงที่มีฉุดกระชากอาเธอร์เข้าไปห้องนั่งเล่นทันที หลังจากทั้งสามทำสำเร็จก็รีบบินออกไปทันที
อาเธอร์ถอนหายใจเล็กน้อยกับพฤติกรรมประหลาดของสามนางฟ้า ก่อนจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดทั้งที่หลังจากเห็นร่างที่นอนหลับสนิทอยู่บนโซฟา ใบหน้าสวยที่เปื้อนไปด้วยคาบน้ำตา นี่คงจะเป็นเหตุผลที่ทำให้แฮร์รี่ไม่ได้รับโทรศัพท์เพราะเหนื่อยจากการร้องไห้
อาเธอร์ว่างช่อดอกไม้ไว้บนโต๊ะก่อนจะนั่งลงด้านหน้าภรรายาของตนกลับเพื่อที่จะดูการนอนหลับราวกับเด็กไร้เดียงสาของคนตรงหน้า นิ้วมือยกขึ้นมาเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปิดหน้าให้ไปอยู่ตรงอื่น แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ริมฝีปากอิ่มที่เผยอเข้าออกตามจังหวะการหายใจ
อาเธอร์ยกยิ้มกับภาพตรงหน้าก่อนจะตัดสินใจโน้มตัวเข้าไปประกบกับริมฝีปากอิ่มยั่วยวนนั้น จนร่างใต้อาณัติเริ่มส่งเสียงครางหวาน ดวงตาของคนหลับเริ่มปรือขึ้นเล็กน้อยเผยให้ดวงตาสีเขียวมรกตน่าหลงใหล เมื่อเห็นว่าภรรนาสุดที่รักตื่นแล้วอาเธอร์จึงตัดสินใจถอนริมฝีปากออกไป
"ตื่นแล้วเหรอแฮร์รี่~" อาเธอร์พูดด้วยยิ้มทะเล้นเหมือนเห็นท่าทางงัวเงียของคนตกหน้า ก่อนจะต้องตกใจเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆแฮร์รี่ก็กระโดดเข้ามากอดแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
"อาเธอร์ อาเธอร์นายกลับมาแล้ว !" แฮร์รี่พูดด้วยเสียงสะอื้นเล็กน้อย สองมือกอดอาเธอร์แน่นใบหน้าซุกลงไปบนแผ่นอกแกร่ง มือทั้งสองของอาเธอร์ก็กอดตอบแฮร์รี่อย่างปลอบโยนพร้อมกระซิบถ้อยคำปลอบโยนไปเรื่อยๆข้างหูของคนในอ้อมกอด
ต้องใช้เวลาสักพักแฮร์รี่ถึงจะสงบลง แต่ก็ยังไม่ยอมออกห่างจากอาเธอร์ อาเธอร์ยิ้มเล็กน้อยกับภาพตรงหน้าก่อนจะเชิดคางมนขึ้นมาเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าแดงนะเรื่อชัดๆ
"อ--อาเธอร์" แฮร์รี่พูดด้วยความเขินอายเมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองทำอะไรไปบ้าง ก่อนแฮร์รี่จะต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออาเธอร์ยกตนขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วยืนช่อดอกไม้ช่อหนึ่งมาให้พร้อมกับก้มลงไปกระซิบถึงความหมายของกุหลาบดำ
"ข--ขอบคุณ" อาเธอร์ขำเล็กน้อยกับท่าทางเขินอายของแฮร์รี่
"นี่~แฮร์รี่นายรู้อะไรไหม ?" อาเธอร์ถามพร้อมกับหยิบดอกไม้ที่แปลกประหลาดกว่าใครเพื่อนยื่นให้แฮร์รี่
"นี่มันดอกอะไรเหรอ ?" แฮร์รี่ถามอย่างสนใจ
"เราเรียกมันว่าLove Devil นายอยากจะรู้ความหมายของมันไหมล่ะ?"
"อยากสิ !" แฮร์รี่ตอบทันทีก่อนใบหน้าจะขึ้นสีหนักกว่าเดิมเมื่อตัวเองหันหน้าไปทางอาเธอร์อย่างไม่ระวังจนใบหน้าห่างกันแค่คืบ
"ข--ขอโทษ"
"หืม~เรื่องอะไรเหรอ ? ปกติเราก็แนบชิดกันทุกคืนอยู่แล้วนี้" อาเธอร์พูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวพร้อมกับโอบเอวบางให้มานั่งบนตัก ตอนนี้มีเพียงเสื้อผ้าและดอกไม้ดอกเดียวที่กันกลางระหว่างทั้งคู่ ก่อนอาเธอร์จะตัดสินใจเริ่มเฉลยความหมายของLove Devilเมื่อชมเชยสีหน้าของแฮร์รี่จนพอใจแล้ว
"แพ็ตฟู๊ตปิดไฟที"
"โฮ่ง !"
ทันทีที่สิ้นเสียงขานรับจากสุนัขตัวโปรดทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืดทันที ก่อนดอกไม้ในมือจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาวเรืองแสงขึ้น จนอาเธอร์อดที่จะขำออมาไม่ได้เมื่อได้เห็นถึงสีหน้าตกตะลึงของแฮร์รี่
"..สวยจัง"
"ใช่ไหมหร้า~ " อาเธอร์พูดก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มไปหนึ่งที
"อาเธอร์ !"
"ครับ ?"
"อะ-- นายมันบ้า.." แฮร์รี่พึมพัมเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้างุมเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ
"แหะ แหะ สงสัยมันจะเป็นจะเป็นเพราะฉันอยู่กับพวกหัวหงอกนานเกินไปน่ะ" อาเธอร์พูดพร้อมกับนึกไปถึงพวกหัวหงอกสองคนที่เจอในวันนี้ โดยเฉพาะคนสุดท้ายที่ดันมานั่งจู้จี้กันต่อหน้าตน
"หัวหงอก ? หมายถึงกิลเบิร์ตเหรอ แล้วอีกคนใครงั้นเหรอ ?" แฮร์รี่เอียงคอถามอย่างหน้ารัก
"ไม่ต้องไปสนใจหมอนั้นหรอกแฮร์รี่..ตอนนี้ที่นี้มีแต่เรื่องของเรา~"
"บ้า ! แล้วก็บอกความหมายของLove Devilมาได้แล้ว !"
"อืม~นั้นสินะ แฮร์รี่นายรู้ไหมว่าLove Devil แปลว่าอะไร ?"
"..รักของปีศาจ ?"
"ใช่แฮร์รี่ ความหมายของมันเหมือนกับชื่อของมันนั้นแหละ มันมีความหมายว่า.." อาเธอร์โน้มตัวเข้าไปใกล้หูบางเพื่อที่จะกระซิบถึงความหมายของLove Devil
"หากถ้าเพื่อคุณแล้วล่ะก็หากฉันจะต้องกลายเป็นปีศาจฉันก็ยอม แล้วก็อีกความหมายหนึ่ง ไม่ว่าทุกสิ่งในโลกนี้จะเปลี่ยนไปยังไงก็ตามหัวใจและจิตวิญญาณของฉันจะอยู่กับนายเสมอ"
ก่อนจะประกบริมฝีปากของตนกับริมฝีปากอิ่มน่าหลงใหลโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว ลิ้นสองลิ้นพันเกี่ยวกันอย่างโหยหา ก่อนร่างสองร่างจะผละออกจากกันโดยมีน้ำเชื่อมสีใสเชื่อมระหว่างปากของทั้งคู่ แฮร์รี่นั่งหอบหายใจจนตัวโยกจากการที่ขาดอากาศเป็นเวลานานจนใบหน้านั้นแดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี่
"อ--อาเธอร์"
"หืม ? มีอะไรงั้นเหรอแฮร์รี่ ?" อาเธอร์พูดแต่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าแดงระเรื่อ
"อาหารเย็นแล้วด--เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้นะ"
"ไม่ต้องหรอกแฮร์รี่ ฉันมีอยางอื่นที่อยากกินแทนแล้วล่ะ แต่นายอาจจะต้องอดอาหารหน่อยนะคืนนี้"
"ทำไมล่ะ ?"
"นั้นก็เพราะว่าคืนนี้ฉันจะกินนายเป็นอาหารเย็นแทนไงล่ะ"
"บ้า !" ถึงปากจะพูดอย่างงั้นแต่แฮร์รี่ก็ไม่ได้ขัดขืนให้อาเธอร์อุ้มไปที่ห้องนอนอย่างง่ายดาย
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนผู้คนมากมายต้องพากันอยู่ในบ้านเพราะสายฝนที่ตกลงมาไม่มีท่าทีจะหยุด กิจกรรมมากมายที่ตั้งใจจะทำในวันนี้เป็นอันต้องยกเลิกทั้งหมด พยากรณ์อากาศคาดเดาว่าฝนจะหยุดตกก็ต่อเมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธุ์สร้างความวิตกกังวนให้กับหลายๆ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่สะทกสะท้านอะไรกับเรื่องนี้ เพราะพวกเขาคิดแต่เพียงว่า ไม่ว่าอะไรในโลกนี้จะเกิดขึ้นขอแค่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือพี่น้อง..
"เวสต์~นายว่าตอนนี้อาเธอร์จะกลับถึงบ้านรึยังน๊า~"
"พี่ ทั้งๆที่อยู่กับผมแท้ๆก็ยังไปคิดถึงคนอื่นสิ แบบนี้เราคงไม่ได้นอนกันแล้วล่ะครับ"
"ห๊ะ ! อ๊ะ อื้อออ~" และบทเพลงรักก็ดำเนินต่อไปโดยไม่มีท่าทีจะหยุดในเร็วๆนี้..
เป็นครอบครัว..
"ท่านแม่เรากลับมาแล้ว~" สองเสียงประสานกัน
"หืม ? คุไรคุโรโลกา !!" หญิงสาววัย 20 ปีผู้มีใบหน้าราวกับรูปแกะสลักของชนชั้นสูง ผมสีดำเงางามดวงตาสีแดงวิ่งเข้ามาของคุไรคุโรและโลกาแน่น จนทั้งคู่เกือบขาดหายใจตาย
"อุ้ย ! แม่ไม่ได้ตั้งใจ ก็นานๆทีลูกจะกลับมากันนี้น่า.."
"โธ่ๆๆท่านแม่~อย่างอนกันสิ"
"ใช่ท่านแม่เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก"
"โลกา !!"
"โอ๊ย ! ท่านแม่ล้อเล่นน่า~แล้วแกไม่คิดจะช่วยเลยใช่ไหมคุไร !"
"เรื่องอะไรล่ะ นายทำนายก็แก้เองสิ~ โอ๊ย ! ท่านแม่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
"ทำสิ ! ข้อหาที่พวกเรานานๆทีจะกลับมาหาแม่ไงล่ะ !" แล้วเรื่องในครอบครัวก็ดำเนินต่อไป..
หรือจะเป็นสามีภรรยา..
"หืม ปีใหม่แล้วรอเนี่ย แฮร์รี่~วันนี้วันครบรอบแต่งงานของเราล่ะ"
"อือ อาเธอร์เอาออกไปได้นะ"
"ไม่เอาน่าแฮร์รี่แบบนี้มันอบอุ่นดีออก~ แล้วฉันก็ยังกินนายไม่อิ่มเลยนะ~"
"อ--เอ๋ !? ตะ--แต่นายเสร็จไปหลายรอบแล้วนะ !"
"นายก็รู้นี้แฮร์รี่ว่าสำหรับฉันแค่นี้มันไม่พอหรอก ฉันน่ะถ้าเป็นนายล่ะก็..กินเท่าไรก็ไม่อิ่มหรอกนะ"
"ไม่..ไม่เอาแล้วนะอาเธอร์..ฉันไม่ไหวแล้ว อื้อ~"
"แหม~ปากบอกไม่เอาแต่ตรงนี้กับแข็งขนาดนี้เนี่ยนะ ?"
"อ๊ะ อื้อออ อะ อาเธอร์ อ๊า~!"
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรที่รักค่ำคืนนี้ของเรายังอยู่อีกยาวไกล~" แล้วบทเพลงแห่งรักก็ยังคงดังเรื่อยไป..
END
สารบัญพืชพรรณแห่งความมืด
บทที่ 2301
LOVE DEVIL
สารบัญพืชพรรณแห่งความมืด
บทที่ 2301
LOVE DEVIL
ในโบราณกาลมีเรื่องราวเล่าขานถึงทูตสวรรค์ตนหนึ่งที่ได้ตกหลุมรักกับบุตรสาวของจ้าวแห่งสวรรค์ 'อีฟ' นั้นคือนามเรียกขานของเธอ แต่ความรักนั้นไม่อาจเป็นจริงได้จ้าวแห่งสวรรค์ได้พิโรธโทสะ สั่งฆ่าทูตสวรรค์ตนนั้นแต่พลาดไปฆ่าบุตรสาวของตนที่มาช่วยคนรักแทน จนทำให้จ้าวแห่งสวรรค์เข้าใจผิดว่าทูตสวรรค์ตนนั้นเป็นคนฆ่าบุตรสาวตนจนแค้นทูตสวรรค์ตนนั้นมาก ทางด้านทูตสรรค์ที่หนีรอดมาได้ก็ถูกความมืดกลืนกินจนกลายเป็นมารร้าย..
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชื่อlove Devil เพราะดอกไม้ดอกนี้มีลักษณะเด่นคือ ทุกๆส่วนเป็นสีดำสนิด มีกลีบดอกคล้ายดอกกุหลาบ แต่เมื่อตกอยู่ในความมืดจะกลายเป็นสีขาวเรืองแสง
และการที่จะพบดอกlove devilได้นั้นจะต้องเข้าไปในดินแดนแห่งความมืดที่ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดสามารถเข้าได้นอกจากเผ่าพันธุ์แห่งความมืดเอง และจะต้องเดินต่อไปสู่จุดที่หนาวเย็วติดลบหลายองศาจนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยได้ เพราะจุดนั้นเป็นจุดที่ทูตสวรรค์ตนนั้นตกลงมาและร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนโดนความมืดกลืนกิน
แต่ที่สำคัญดอกlove devilในหนึ่งปีจะเกิดเพียงดอกเดียวและล่วงโรยเมื่อปีต่อไปมาถึงเวียนวนอย่างนี้เรื่อยมา ที่เป็นอย่างนี้เพราะคนที่ทูตสวรรค์ตนนั้นรักมีเพียงอีฟเท่านั้น..
ความหมายของlove devil คือ หากถ้าเพื่อคุณแล้วล่ะก็หากฉันจะต้องกลายเป็นปีศาจฉันก็ยอม แล้วก็อีกความหมายหนึ่ง ไม่ว่าทุกสิ่งในโลกนี้จะเปลี่ยนไปยังไงก็ตามหัวใจและจิตวิญญาณของฉันจะอยู่กับคุณเสมอ..
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชื่อlove Devil เพราะดอกไม้ดอกนี้มีลักษณะเด่นคือ ทุกๆส่วนเป็นสีดำสนิด มีกลีบดอกคล้ายดอกกุหลาบ แต่เมื่อตกอยู่ในความมืดจะกลายเป็นสีขาวเรืองแสง
และการที่จะพบดอกlove devilได้นั้นจะต้องเข้าไปในดินแดนแห่งความมืดที่ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดสามารถเข้าได้นอกจากเผ่าพันธุ์แห่งความมืดเอง และจะต้องเดินต่อไปสู่จุดที่หนาวเย็วติดลบหลายองศาจนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอาศัยได้ เพราะจุดนั้นเป็นจุดที่ทูตสวรรค์ตนนั้นตกลงมาและร้องไห้อยู่ตรงนั้นจนโดนความมืดกลืนกิน
แต่ที่สำคัญดอกlove devilในหนึ่งปีจะเกิดเพียงดอกเดียวและล่วงโรยเมื่อปีต่อไปมาถึงเวียนวนอย่างนี้เรื่อยมา ที่เป็นอย่างนี้เพราะคนที่ทูตสวรรค์ตนนั้นรักมีเพียงอีฟเท่านั้น..
ความหมายของlove devil คือ หากถ้าเพื่อคุณแล้วล่ะก็หากฉันจะต้องกลายเป็นปีศาจฉันก็ยอม แล้วก็อีกความหมายหนึ่ง ไม่ว่าทุกสิ่งในโลกนี้จะเปลี่ยนไปยังไงก็ตามหัวใจและจิตวิญญาณของฉันจะอยู่กับคุณเสมอ..
*****************************
จบ จบแล้ว!!ฉันเขียนตอนนี้ทั้งตอนมากี้วัน ไม่สิ กี่เดือนเนี่ย !(นั่งนับวันตั้งแต่ 1 มกรา..)
ทุกท่านเรากลับมาแล้ว เสร็จสิ้นทุกอย่าง หลังสงกรานต์นี้เราจะพยามยามอัพถี่ขึ้นนะจนถึงเปิดเทมอเราจะหายเงียบไปอีกครั้ง..
แต่มันก็อีกนานอยู่น่ะนะ..
และอีกอย่างใครที่อย่างรู้จักเรื่องราวคราวๆของคุไรคุโรและโลกาติดตามได้ใน http://writer.dek-d.com/kuro-00/writer/view.php?id=1324767 (ซึ่งตองนี้มันก็มีเพียง 70%น่ะนะ) ส่วนรูปทั้งสองคนที่เราวาดเองแต่ไม่สวยก็ขออภัย พอดีเราไม่มีทักษะด้านนี้นานๆวาดที..วาดแต่ล่ะครั้งก็ไม่เหมือนกันอีกตั้งหาก..
คนแรกที่จะนำเสนอ Kurai Kuro
คนที่สอง Loga
ส่วนคนคิดพิภพวารีเป็นเพื่อนคนนี้ owfuck
ความจริงส่วนนี้ที่บ่นๆมาไม่ต้องมาสนใจมันหรอก ข้ามๆมันไปเถอะ เจอกันอีกทีหลังสงกรานต์นะครับ (เอาจริงๆภาพสองคนนี้ในจิตนาการเรามันสวยกว่านี้ตั้งเยอะแต่ดันวาดออกมาไม่ได้ซะงั้น ให้ตายสิ !)
จบ จบแล้ว!!ฉันเขียนตอนนี้ทั้งตอนมากี้วัน ไม่สิ กี่เดือนเนี่ย !(นั่งนับวันตั้งแต่ 1 มกรา..)
ทุกท่านเรากลับมาแล้ว เสร็จสิ้นทุกอย่าง หลังสงกรานต์นี้เราจะพยามยามอัพถี่ขึ้นนะจนถึงเปิดเทมอเราจะหายเงียบไปอีกครั้ง..
แต่มันก็อีกนานอยู่น่ะนะ..
และอีกอย่างใครที่อย่างรู้จักเรื่องราวคราวๆของคุไรคุโรและโลกาติดตามได้ใน http://writer.dek-d.com/kuro-00/writer/view.php?id=1324767 (ซึ่งตองนี้มันก็มีเพียง 70%น่ะนะ) ส่วนรูปทั้งสองคนที่เราวาดเองแต่ไม่สวยก็ขออภัย พอดีเราไม่มีทักษะด้านนี้นานๆวาดที..วาดแต่ล่ะครั้งก็ไม่เหมือนกันอีกตั้งหาก..
คนแรกที่จะนำเสนอ Kurai Kuro
คนที่สอง Loga
ส่วนคนคิดพิภพวารีเป็นเพื่อนคนนี้ owfuck
ความจริงส่วนนี้ที่บ่นๆมาไม่ต้องมาสนใจมันหรอก ข้ามๆมันไปเถอะ เจอกันอีกทีหลังสงกรานต์นะครับ (เอาจริงๆภาพสองคนนี้ในจิตนาการเรามันสวยกว่านี้ตั้งเยอะแต่ดันวาดออกมาไม่ได้ซะงั้น ให้ตายสิ !)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น