กรรมของเด็กชาย - กรรมของเด็กชาย นิยาย กรรมของเด็กชาย : Dek-D.com - Writer

    กรรมของเด็กชาย

    เรื่องบาปกรรมมีจริง และถึงใครไม่เชื่อ ไม่เคยเจอ เขาคนนั้นแหละที่ประสบกับตัวเองและเชื่อเรื่องบาปกรรม100%

    ผู้เข้าชมรวม

    287

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    287

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ธ.ค. 52 / 18:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
    วันนี้ลองมาอ่านนิทานหลอกเด็ก
    เฮ้ย
    ไม่ใช่นิทานดีมีสาระกันดีกว่าค่ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      กรรม

      ‘‘เฮ้ยไผ่เอ็งดูดิตลกดีว่ะ’’เด็กชายพูดกลั้วหัวเราะข้าว่าแกะออกแล้วปล่อยมันไปเหอะไผ่ว่า กะอีแค่ด้ายเส้นเล็กๆไม่ถึงตายหรอกว่ะภาพตรงหน้าคือกบตัวหนึ่งกระโดดหัวทิ่มหัวตำ ขาทั้ง2ข้างถูกมัดด้วยสายป่านเส้นเล็กๆ อ้อเด็กหนุ่มวัย14ปีดูสนุกเพลิดเพลินกับอาการของมัน ผิดกับไผ่ เด็กชายอายุอ่อนกว่าสานป่านคือด้ายเล่นว่าวที่ถูกรูดด้วยกาวหนังควายผสมกับเศษแก้วชิ้นเล็กๆต่อให้เกิดความคมตลอดเส้น แม้มันจะถูกมัดไม่แน่นเท่าไรนักแต่ด้วยแรงดิ้นบวกกับคมด้าย บริเวณขากบที่โดนมัดจึงเกิดเป็นแผลบาดลึกเหวอะหวะและด้วยการดิ้นติดต่อกันอีกไม่กี่ทีขาของมันก็ขาดออกด้วยสัญชาตญาณกบเคราะห์ร้ายกระเสือกกระสนด้วยขาที่เหลืออีกข้างลงคูข้างทางอย่างทุลักทุเล ทิ้งอ้อกับไผ่ให้ยืนอึ้งไปพักใหญ่อ้อคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นขนาดนี้  และหวังว่าจะแกะออกหลังจากหมดสนุกแล้วก็เท่านั้น

                บ่ายคล้อยดวงอาทิตย์กลมแดงทอแสงเหลืองอมส้มฉาบไปทั่วท้องฟ้า สองเด็กชายเดินลัดเลาะตามคันนามุ่งหน้ากลับบ้าน ก่อนจะมายืนหยุดคุยกันที่หน้าบ้านของไผ่

                พรุ่งนี้ไปตกปลาที่หลังวัดโคกกันดีกว่าว่ะ เออ!เอ็งต้องตื่นแต่เช้านะโว๊ยประโยคหลังอ้อชี้หน้ากำชับ

                ได้  ข้าจะรีบตื่นไผ่รับคำก่อนจะผละจากอ้อหันหลังเดินเข้าบ้านไป

                บ้านของอ้อและไผ่ไม่แตกต่างกันนักรั้วเป็นไม้ไฝ่สะไว้อย่างลวกๆมุมด้านหนึ่งมีไผ่ที่ลำโตกว่าแบบที่ใช้ทำรั้วขัดกันแข็งแรงล้อมพื้นที่ไม่มากเป็นคอกสำหรับวัวควาย บริเวณบ้านเป็นพื้นดินค่อนข้างแข็งมีหญ้าขึ้นเป็นหย่อมๆบางตา ยกเว้นส่วนที่เป็นคอกที่มีลักษณะเป็นโคลนเละ ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกใต้ถุนสูงตามแบบฉบับบ้านไทยในชนบท บางบ้านใช้เป็นที่เก็บเครื่องมือหากิน บ้างก็ปล่อยโลงผูกเปล  ตั้งแคร่ไปตามเรื่อง

                ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมอย่างรวดเร็วท้องฟ้าสีแดงช้ำตั้งเค้าฝนมาแต่ไกล ลมพัดอื้ออึงไปทั่วบริเวณ โหมกอไผ่เสียดสีกันดังซู่ซ่าพ่อกับแม่และอ้อนั่งดูข่าวหลังมื้อเย็นจากโทรทัศน์เครื่องเก่าคร่ำ

                มือปืนดังอนาถ ปืนระเบิดใส่ตัวเสียงผู้ประกาศข่าวอ่านขาดๆหายๆตามจังหวะของคลื่นรบกวน บนจอแก้วปรากฏภาพชายรูปร่างกำยำนอนแน่นิ่งจมกองเลือดแดงฉาน

                เนี่ยน้า บาปกรรมมันตามทันแม่พูดก่อนก้มลงเก็บจานข้าวเดินเข้าครัว พ่อลุกขึ้นไปนั่งมวนยา สูบ แล้วพ่นควันขาวลอยฟุ้งก่อนจะอันตรธารไปด้วยแรงลมนอกบ้าน

              สายฝนเริ่มโปรยปรายเม็ดฝนกระทบสังกะสีดังเปาะแปะก่อนจะลงห่าใหญ่ส่งเสียงอื้ออึงกลบสรรพสำเนียงรอบบริเวณบ้านจนหมด อ้อนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียงไม้ในห้องเล็กๆของเขารวมไปถึงเรื่องเมื่อกลางวัน เขาคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องกรรมเวรไม่นานนักก็เผลอหลับไปท่ามกลางเสียงอึงคะนึงของฝนที่ยังกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย

                โอ๊ย!เจ็บช่วยด้วยอ้อตะโกนลั่น มือเกร็งกำแน่นอยู่ที่ต้นขา เนื้อตัวชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ กับดักสัตว์ขนาดใหญ่งับติดแน่นอยู่ที่ขาของเด็กชายและดูเหมือนว่าจะค่อยๆบีบตัวเข้าเรื่อยๆจนดูเหมือนมีชีวิต

                กึก!

                เสีย

      ฟันเหล็กแหลมของมันกระทบกันพร้อมๆกับขาของอ้อที่ขาดออก เลือดทะลักจากแผลที่ถูกตัดขาดนองเต็มพื้นที่เด็กชายเคราะห์ร้ายนั่งอยู่

                โอ๊ย!อ้อตะโกนสุดเสียง สะดุ้งตัวลุกขึ้นนั่ง เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นเต็มใบหน้าที่ขาวซีดแสดงอาการตกใจสุดขีด

                ขาข้าเร็วเท่าความคิดเขาเสือกเอามือเข้าใต้ผ้าห่มจับขาที่ถูกตัดขาดในความฝัน

                ฝันบ้าอะไรวะ อ้อสบถกับตัวเองใบหน้าเริ่มมีเลือดมาหล่อเลี้ยงจนกลับกลายเป็นปกติ เขาสนใจความฝันแปลกๆอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหลับไปอีกด้วยความง่วง

                ไอ้อ้อ  ไอ้อ้อโว๊ยสิ้นเสียงตะโกนของไผ่ตรงหน้าต่างห้องของอ้อ เด็กชายยื่นหน้าออกมาเอามือป้องแดดมองลงมาที่เจ้าของเสียงเรียกแวบหนึ่ง แล้วหันหลังหายไป

                ไผ่วางกระป๋องเหล็กบุบๆลง และทิ้งก้นลงบนแคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน พูดคุยทักทายกับแม่ของอ้อที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกวาดเศษใบไม้ที่ร่วงเต็มบริเวณบ้านไผ่นั่งฟังเสียงแกรกกรากของคราดที่ลากเศษใบไม้มาสลับกับเสียงจู๋จี๋ของนกเล็กๆที่จะได้ยินชัดขึ้นในตอนที่แม่ของอ้อละมือจากการกวาดใบไม้ ไม่นานอ้อก็ลงมาจากบ้านพร้อมกระป๋องในมือที่มีสภาพไม่ต่างจากของไผ่เท่าไรนัก

                ไปเหอะไผ่ คันเบ็ดไว้ไปหาไผ่ลำสวยๆเอาข้างหน้าอ้อหันมาโบกมือเรียกไผ่ก่อนหันไปคว้ามีดดายหญ้าเล่มเก่าคร่ำคร่าที่วางพิงเสาอยู่พาดบ่า แล้วเดินดุ่มๆออกจากบ้านไปไผ่ล่ำลาแม่ของอ้อและเดินตามเด็กหนุ่มไปติดๆ

                เส้นทางที่ทั้งคู่เดินผ่านสองข้างทางเป็นทุ่งนาสีเขียวกว้าสุดลูกหูลูกตานานๆจึงจะเจอบ้านคนที่ปลูกอยู่ในกลุ่มกอไม้ร่มครึ้มจุดหมายที่ทั้งคู่จะไปนั้นคือบึงขนาดใหญ่ท้ายวัดโคกที่ต้องเดินต่อไปราว1ชม.

                อึ๊บนี่ เป็นไงเอ็งโดดถึงเปล่าอ้อตะโกนอวดเด็กรุ่นน้องขณะที่ตัวกระโดดขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้ใหญ่ข้างทาง

                เออเอ็งเก่งไผ่พูดตัดบท แต่ข้าว่าลงมาเหอะว่ะเดี๋ยวได้ตกลงมาจนได้ประโยคหลังเขาเตือนด้วยเห็นว่าอ้อเริ่มแกว่งตัวแรงขึ้น

                พลั่ก! ฉับ!

                อ้อพลาดท่าตกลงมาจากกิ่งไม้ที่โหนอยู่ร่างของเด็กชายร่วงลงมาทับด้ามมีดดายหญ้าที่เขาเอาติดตัวมาและวางทิ้งไว้ตอนที่กระโดดขึ้นไปโชว์ความสามารถ ด้วยน้ำหนักกดทับรุนแรง ปลายมีดถูกดีดกลับและฟันเข้าที่ขาของอ้ออย่างเต็มรัก

                โอ๊ย !อ้อร้องเสียงหลง เลือดแดงฉานไหลทะลักออกจากแผลคมมีดสนิมกรังผังตัวเข้าไปลึกพอสมควร ไผ่หน้าซีดเผือดตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลุกลี้ลุกลน ทำอะไรไม่ถูก  ฝ่ายอ้อก็แผดเสียงดังไปทั่วบริเวณก่อนสลบไปด้วยอาการช็อก

                อ้อรู้สึกตัวอีกทีก็รู้ว่าตัวเองนอนอยู่ในโรงพยาบาลแล้วที่ยืนอยู่รอบตัวตอนนี้คือ พ่อ แม่ ไผ่ และลุงเจิมคนที่พาเขาส่งโรงพยาบาล และทันทีที่ได้สติอ้อเสือกมือเข้าไปใต้ผ้าห่มควานหาขาของตนที่เขาคิดว่าน่าจะขาดไปแล้ว

                โอ๊ยเด็กชายอุทานเสียงดังเมื่อมือจับโดนแผลที่ต้นขา

                เบาๆ สิแผลยังไม่หายเลยนะเอ็งแม่พูดเบาๆ

                ดีนะที่ทิดเจิมเขาอยู่แถวนั้พอดีพ่อว่า

                แล้วลุงเจิมรู้ได้ไงว่าข้านอนเจ็บอยู่ตรงนั้น

              ก็เอ็งแหกปากออกดังลั่นขนาดนั้น ข้าไม่ได้หูหนวกนะโว๊ยตอนที่ไปถึงข้าคิดว่าเอ็งตายแล้วซะอีกเลือดงี้ไหลนองพื้นที่เต็มไปหมด ไอ้ไผ่ก็ยืนหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูกทิดเจิมเล่าบุ้ยหน้าไปทางไผ่ที่ยืนไม่พูดอะไรอยู่ข้างเตียง

                หลังจากพูดคุยอยู่พักใหญ่ ทิดเจิมก็ขอตัวกลับ เหลือเพียง พ่อ แม่ และไผ่ไผ่มองดูแผลของอ้อและเอ่ยขึ้นเบาๆ

      เห็นขาเอ็งแล้วข้านึกถึงกบตัวนั้นจังเลยว่ะ ถ้าเอ็งไม่ทำมันขนาดนั้น เอ็งคงไม่เป็นไร

                เอ็งรู้จักเรื่องกรรมตามทันมั้ย คราวหน้าจะเล่นอะไรอย่าทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ก็ตามแต่ รู้มั้ยพ่อพูดเชิงสอนลูกชาย

                เหตุการณ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นฝันร้าย  คำพูดของแม่  หรือมือปืนที่ตายในโทรทัศน์ เขาไม่รู้หรอกว่ามันเป็นลางบอกเหตุอะไรรึเปล่า ที่แน่ๆ เรื่องบาปกรรมมีจริง และถึงใครไม่เชื่อ ไม่เคยเจอ เขาคนนั้นแหละที่ประสบกับตัวเองและเชื่อเรื่องบาปกรรม100%

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×