ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Avril Lavugne

    ลำดับตอนที่ #8 : ประวัติA.L. ( 2 )

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 55


    วันเกิด : 27 กันยายน 1984

    ราศี : ตุลย์

    เกิดที่ : Belleville, Ontario, Canada

    โตที่ : Napanee, Ontario, Canada

    สัญชาติ : เเคนาดา

    พ่อ : John Lavigne

    เเม่ : Judy Lavigne

    น้องสาว : Michelle Lavigne

    พี่ชาย : Matt Lavigne

    คำว่า Avril หมายถึง เดือน เมษายน ในภาษาฝรั่งเศส

    สีผม : บลอนด์

    สีตา : ฟ้า-เขียว

    สูง : 5 ฟุต 2

    เบอร์รองเท้า : 7

    เจาะ : สะดือ เเละ หู

    สัตว์เลี้ยง : สุนัขชื่อ Sam (Minature Schnauzer)

    สีที่ชอบ : ดำ เเละ เเดง

    อาหารที่ชอบ : Pixie stix และPizza(Olives)

    นักร้อง/วงดนตรี่ที่ชอบ: Goo Goo Dolls, Blink 182, Sum 41, System of a Down, Green Day, Matchbox 20, Beach Boys, Alanis Morissette

    ภาพยนตร์ที่ชอบ : Miss Congeniality , 8 Mile

    นักเเสดงที่ชอบ :Tobey Maguire, Sandra Bullock

    เพลงที่ชอบที่สุด : Iris ของวง Goo Goo Dolls

    ประเทศที่ชอบที่สุด : อิตาลี ญี่ปุ่น

    ยี่ห้อเสื่อผ้าที่ชอบใส่ : Dickies, Osiris (รองเท้า)

    ถ้าไม่ได้เป็นนักร้อง อยากจะเป็นตำรวจหญิง

    แต่งงานแล้วกับ Deryck Whibley วง Sum 41

    ก่อนจะมาเป็น Avril Lavigne

    Avril Lavigne เกิดที่ Belleville, Ontario ในประเทศแคนาดาเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 1984 เป็นลูกสาวของ Judy และ John Lavigne(คุณพ่อเป็นฝรั่งเศส-เเคนเดียน).คุณเเม่ของ Avril เป็นคนเห็นเเววเมื่อตอนที่ Avril อายุได้ 2 ขวบ เมื่อตอนที่ Avril ได้ร้องเพลงที่โบสถ์คุณเเม่ก็เริ่มเห็นเเวว ต่อมาเมื่อ Avrilอายุได้ 5 ขวบก็ย้ายไปอยู่ที่ Napanee, Ontario

    แววการเป็นนักร้องของ Avril ได้ไปเข้าตา Cliff Fabri ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์มือาชีพคนเเรกของเธอ ระหว่างที่ Avril ได้ไปร้องเพลงคันทรี่ ที่ Chapters bookstore ใน Kingston, Ontario.และ ระหว่างการแสดงกับกลุ่ม Lennox Community Theatre ตัวของก็ได้ไปเข้าตานักร้องเเนวโฟล์กที่ชื่อว่า Steve Medd ที่ได้ชวน Avril มาร้องเพลง"Touch the Sky" ในอัลบั้มของเค้าตอนปี 1999 ที่มีชื่อว่า Quinte Spirit. และ Avril ก็ยังร้องเพลง "Temple of Life" และ "Two Rivers" สำหรับอัลบั้มต่อมาของเค้าในปี 2000 ชื่ออัลบั้ม My Window to You อีกด้วย.

    เเละเมื่อ Avril อายุ 16 ปี ได้เซ็นต์สัญญากับ Ken Krongard ผู้ซึ่งเป็นคนติดต่อเเละเชิญชวนให้ Antonio "L.A." Reid เจ้าของค่าย Arista มาฟัง Avril ร้องเพลงด้วยตัวเอง ที่สตูโอของโปรดิวเซอร์ Peter Zizzo ในนิวยอร์กหลังจาก Avril ก็ได้ทำงานอัลบั้มเเรก Let Go ร่วมกับ The Matrix.


    ประวัติ

    คำว่า "แอวริล" (Avril) ในชื่อนั้นมาจากคำภาษาฝรั่งเศสว่า "อาวรีล" (Avril) แปลว่า เดือนเมษายน ด้วยบิดาและมารดามีเชื้อสายฝรั่งเศส ทั้งนี้ แอวริลเกิดในเดือนกันยายน

    ในระยะวัยรุ่นของเธอ แอวริลได้เขียนเพลงและเล่นกีตาร์ และได้ร่วมร้องเพลงในคณะนักร้องในโบสถ์ งานเทศกาล และงานรื่นเริงประจำปีต่าง ๆ ของเมืองจนกระทั่งเมื่อ “ อองโตนิโอ แอล. เอ. รีด” (Antonio "L.A." Reid) ได้ยินเสียงของแอวริล รีดได้เสนอข้อตกลงให้เธอทำเพลง และเมื่อแอวริลอายุ 16 ปี เธอจึงได้เซ็นสัญญา

    ปี 2002 “ Avril Lavigne” แจ้งเกิดในวงการดนตรีกับอัลบัมแรก Let Go ทำยอดขายได้มากกว่า 16 ล้านก๊อปปี้ ในอัลบัมชุดนี้มีเพลงฮิตติดชาร์ทอย่าง "Complicated" ,"Sk8er Boi" และ "I'm With You" อัลบัมชุดนี้ได้ร่วมงานกับ “ คลิฟ แม็กเนซ” (Clif Magness) ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของ “ เซลีน ดิออน” (Céline Dion) “ วิลสัน ฟิลิปส์” (Wilson Phillips) และ “ ชีน่า อีสตัน” (Sheena Easton) อีกทั้งเธอยังได้รับรางวัลทางดนตรีมากมาย เช่น เอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิก อวอร์ดส (MTV Video Music Awards) จูโน อวอร์ดส (Juno Awards) เวิร์ลด์ มิวสิก อวอร์ดส‎ (World Music Awards) เรดิโอ มิวสิก อวอร์ดส (Radio Music Awards) นอกจากนี้ เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่(Grammys) ถึง 8 รางวัล

    สำหรับอัลบัมที่สอง “ Under My Skin” ในปี 2004 ก็สามารถคว้าอันดับ 1 จากอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักรมา ได้และยังประสบความสำเร็จกับ ยอดขายสูงถึง 3 แผ่นเสียงทองคำขาวในอเมริกา (“ Tripple Platinum”) อัลบัมชุดนี้ได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์หลายท่าน เช่น บูต์ช วอลเคอร์ (Butch Walker) โปรดิวเซอร์ของเดอะ มาร์วีลัส ทรี (the Marvelous 3) เรน เมดา (Raine Maida) โปรดิวเซอร์ของอาวเวอร์ เลดี้ พีซ (Our Lady Peace) และดอน กิวมอร์ (Don Gilmore) โปรดิวเซอร์ของลินคิน พาร์ค (Linkin Park) และเพิร์ล แจม (Pearl Jam)

    เธอเคยขึ้นปกนิตยสารมากมายหลายฉบับ (ไม่ว่าจะเป็นเซเว่นทีน,คอสโมโพลิแทน,แม็กซิม) และในนิตยสาร Canadian Business (2006) เธอขึ้นถึงอันดับ 7 ของชาวแคนนาดาที่มีอิทธิพลในฮอลลีวูด (powerful Canadians in Hollywood) เพลงของเธอจัดจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 32 ล้านอัลบัมทั่วโลก ต่อมาเดือนกรกฎาคม 2006 เธอได้แต่งงานกับ "เดอริก วิบลีย์" แฟนหนุ่มนักร้องนำวง Sum 41 ในที่ดินส่วนตัวแถบมอนเทซิโต, แคลิฟอร์เนีย

    แอวริล ยังได้พากย์เสียงในการ์ตูนเรื่อง Over the Hedge ในบท Heather และในปี 2007 เธอกลับมาพร้อมกับอัลบัมใหม่ล่าสุด “The Best Damn Thing” ซึ่งเป็นผลงานลำดับที่สามของเธอ โดยอัลบัมใหม่นี้ เธอได้เปลี่ยนรูปแบบการร้องและแนวเพลงไปค่อนข้างมาก เธอกล่าวถึงแนวเพลงในอัลบัมนี้ว่า "เร็ว สนุกสนาน วัยรุ่น ก้าวร้าว มีความเชื่อมั่นสูง แนวดีๆ" เพลง “ Girlfriend” เป็นเพลงที่แอวริลแต่งร่วมกับ Dr.Luke(โปรดิวเซอร์เดียวกับ Kelly Clarkson) และได้ถูกเลือกให้เป็นซิงเกิลแรกจากอัลบัม “The Best Damn Thing” นอกจากนั้น เธอยังได้ร้องเพลง "Keep Holding On" ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Eragon(2006)

    เพลง “ Girlfriend” สามารถขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงแรกของเธอในอเมริกา ส่วนในอังกฤษเพลงนี้ขึ้นสูงสุดอันดับที่ 2

    ล่าสุดเธอสร้างความดังอีกครั้งกับการถ่ายภาพลงหน้าปกนิตยสาร Blender ซึ่งในรูปเธอเหมือนเปลือยท่อนบน แต่เธอบอกว่า "ฉันไม่ได้เปลือยซะหน่อย ฉันใช้บอดีสูธคาดเอาไว้ที่หน้าอก แล้วพวกเขาก็ยังใช้แทกแปะทับอีกนะ!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×