คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : KNB [Kise x Kuroko] Shota Kikuro
สายฝนพรำพรำลงมาจากท้องฟ้าครึ้ม
เด็กชายผู้มีเรือนผมสีทองสว่างเดินกลางร่มเดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่เป็นทางกลับบ้านประจำ มือเล็กแกว่งไกวถุงขนมในมือไปมาอย่างคนอารมณ์ดี
ชั่ววินาทีที่เดินผ่านมาถึงสนามเด็กเล่น
ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมแลเห็นใครบางคนกำลังนั่งคู้ตัวหลบฝนอยู่ใต้เครื่องเล่นที่ด้านล่างเป็นอุโมงค์ขนาดพอที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งจะเข้าไปหลบฝนได้
ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เพียงพอสำหรับเด็กตัวเล็กๆสองคน
“นี่ๆ”
“...?”
เส้นผมสีฟ้าเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาในครรลองนัยน์ตาสีทอง
ตามมาด้วยแววตาเฉื่อยชาสีเดียวกัน เด็กชายขยับตัวมุดเข้าไปนั่งเบียดเสียดข้างๆเด็กชายตัวเล็กอีกคนที่เขยิบตัวไปจนติดผนังเครื่องเล่น
ร่มสีเหลืองลายเป็ดน้อยหุบลงวางไว้ด้านหน้า “ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ หลงทางเหรอ”
“...............”
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง.. ปิ๊บ
“นายไม่พูดเลยอ่า~~ ฉันชื่อ คิเสะ เรียวตะนะ นายชื่ออะไร”คิเสะไม่ยอมแพ้ยังคงตามหาสัญญาณ..เอ้ย
ถามหาคำตอบจากอีกฝ่าย
“..คุโรโกะ เท็ตสึยะ”น้ำเสียงที่เรียบเรื่อยไม่ต่างจากแววตาเอ่ยออกมาเสียงค่อย
“อื้มม คุโรโกะสินะ”
“...”เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีฟ้าเพียงพยักหน้ารับ
ดวงตาสีฟ้าทอดมองเม็ดฝนที่ตกเปาะแปะอยู่ตรงหน้า ห่างจากตัวเขาเพียงแค่ยื่นมือออกไป
“ฝากตัวด้วยนะ”คิเสะยิ้มกว้างให้เด็กชายคนข้างๆ
และอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่หันมามอง..แล้วผงกหัวรับ
“กินขนมมั้ย ?”ยกถุงขนมขึ้นมาให้ดู
อีกฝ่ายก็เพียงแค่มองแล้วสั่นหัวเบาๆ
ฮืออออ ทำไมนิ่งแบบนี้นะ
ทั้งที่เขาถูกชะตาด้วยแท้ๆอ่ะ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 10 ขวบ ไม่เคยมีใครเมินเขาเลยนะ
บอกเขาน่ารักร่าเริงน่าฟัดจะตาย นี่คนแรก คนแรกเลย!
“ทำไม..”
เปิดประเด็นก่อนแล้ว!! คิเสะหันควับมองคนตัวเล็กตาเป็นประกายราวกับสุนัขตัวน้อยเจอของเล่นถูกใจ
“ทำไมอะไรเหรอๆ ?”
“ทำไมต้องมานั่งเบียดด้วย”
“เอ่อะ..”หูลู่หางร่วงแปะกับพื้นคอตกทันที
“ก็เห็นนายอยู่คนเดียวนี่นาเหมือนจะหลงทางด้วยผมทนดูเฉยไม่ได้หรอกฮะ”พึมพำเสียงอ่อย
“..หลงทาง”
“อ๋า! นั่นไงว่าแล้วเชียว แล้วบ้านนายอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่งนะ”คิเสะทำท่าทางแข็งขัน
คุณแม่บอกว่าเจอคนเดือดร้อนต้องช่วยเหลือ!
“มะม๊าบอกว่าห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้า”
ฉึก!
คำว่าคนแปลกหน้ากระแทกหน้าหงายไปที
มือเล็กยีผมสีทองของตัวเองจนยุ่ง “ไม่ได้ไปไหนนะ ไปบ้านต่างหาก บ้านน่ะบ้าน ไปบ้านนายไง”
คุโรโกะมองท่าทางของอีกฝ่าย
เป็นคนที่น่ารำคาญ.. แต่ก็ดูจะเป็นคนดีละมั้ง คิดแบบนั้นแล้วก็พยักหน้าเบาๆ “ไปบ้านนะครับ”
“อื้อ! ไปบ้านสิ แล้วบ้านนายอยู่ที่ไหน”คิเสะลุกขึ้นทันที
ศีรษะเฉียดเพดานของอุโมงค์เล็กน้อยเพราะส่วนสูงที่ค่อนข้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน
ยื่นมือไปให้คนตัวเล็กจับเพื่อพยุงตัวยืนขึ้น
“ซอย
7 บ้านเลขที่ 11”
“เอ๋!? แสดงว่านายต้องเป็นเพื่อนบ้านใหม่น่ะสิ”ดวงตาสีทองเปล่งประกายวิบวับ
มองเพื่อนใหม่ด้วยแววตาถูกใจยิ่งกว่าเดิม ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน“ผมบ้านเลขที่ 12 แหละ”
“ครับ”ตอบรับด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยตามสไตล์
แต่แววตากับมีประกายขึ้นเล็กน้อย
“งั้นไปกันเถอะ!”ก้มหยิบร่มขึ้นมากางให้ตัวเองกับเพื่อนตัวเล็ก
พากันเดินออกจากสนามเด็กเล่นมุ่งหน้ากลับสู่บ้านของตัวเอง
เด็กน้อยสองคนจับมือกันเดินใต้ร่มคันเล็ก
คิเสะกระชับมือที่จับมือเพื่อนใหม่ไว้แน่นกลัวอีกฝ่ายจะหายไป
อาจะเพราะความรู้สึกบางอย่างที่รู้สึกว่าคุโรโกะเป็นคนที่เหมือนกับจะหายไปง่ายๆ
จืดจาง..? น่าจะเรียกแบบนั้นล่ะมั้ง
แต่ที่เขาเจอคนตัวเล็กมันก็เพราะเขารู้สึกถึงอีกฝ่ายนั่นแหละ
‘ความรู้สึกที่ท้องฟ้าลิขิต ให้คนที่เกิดมาคู่กันได้พบกัน’
“ถึงแล้วล่ะ”ฝีเท้าสองคู่หยุดลง คิเสะหันไปมองหน้าเพื่อนใหม่ก่อนยกมือขึ้นกดกริ่งหน้าประตู
ซึ่งรอเพียงชั่วครู่ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูออกมา
“คุโรโกะ!”หญิงสาวถลาออกมานอกประตูแบบไม่คิดจะหยิบฉวยอะไรมากำบังฝน
เปิดประตูรั้วออกย่อตัวลงรั้งลูกชายตัวน้อยมากอดไว้แน่น “ไปไหนมา..”
คิเสะยืนมองการพูดคุยของแม่ลูกด้วยรอยยิ้มเปรมปรีดิ์กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ
จนกระทั่งหญิงสาวที่พูดคุยกับลูกชายของตัวเองจนพอคลายกังวลจึงเงยหน้าขึ้นมองเด็กชายอีกคน
“หนู..
เรียวตะคุงใช่ไหม ?”
“อ๊ะ
ครับ ?” รู้จักเราด้วยแฮะ.. ริมฝีปากเผยอนิดๆ
“คุณแม่ตามหาอยู่นะ
เห็นว่าเราหายไปนาน”หญิงสาวมองเด็กชายผมสีทองที่นิ่งค้างไปชั่วแวบหนึ่ง
“หวายย
แย่แล้วฮะ ผมขอคุณแม่ไปซื้อขนมแปปเดียวนี่นา งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ”คิเสะโค้งให้หญิงสาว
“เดี๋ยวก่อน
คิเสะคุง”เสียงเล็กรั้งขาที่กำลังจะวิ่งเหยาะไปที่บ้านข้างๆเอาไว้
ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองใบหน้าของเด็กหนุ่มผมทองก่อนยิ้มออกมาเล็กๆ.. แต่ก็พอที่คิเสะจะสังเกตเห็นได้
“ขอบคุณนะครับ”
“อื้อ! งั้นผมไปก่อนนะ คุโรโกจจิ แล้วเจอกัน”
คุโรโกจจิ..?
เด็กชายผมสีฟ้าชะงักกับสรรพนามแปลกหูเล็ก
แต่มือเล็กก็ยังคงโบกไปมาลาอีกฝ่ายที่ส่งรอยยิ้มกว้างสดใสมาให้ก่อนหายลับไปจากแนวรั้ว
รอยยิ้มที่เหมือนแสงอาทิตย์หลังสายฝนพรำ
ดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่เมฆดำเริ่มกระจายตัวออก แสงอาทิตย์เริ่มเล็ดรอดออกมาสาดแสงตกกระทบพื้นดิน
สะท้อนหยอกล้อกับหยดน้ำบนใบหญ้าเป็นแสงประกาย
ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ..
สายรุ้งพาดผ่านขอบฟ้าสีคราม
เด็กชายสองคนต่างชี้ชวนมารดาของตนให้ดูความงดงามจากธรรมชาติที่หาดูได้ยากสำหรับคนในเมือง
บางทีอาจจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างก็ได้นะ
สัญญาณแห่งการเริ่มต้น
#Kikuromonth
#shotakikuro #711
ฟิคสั้นกิจกรรมเดือนเหลืองดำค่ะ ฝากด้วยนะคะ
ความคิดเห็น