ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นจับมาแต่ง (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : KNB [Kise x Kuroko] Shota Kikuro

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ค. 58


    สายฝนพรำพรำลงมาจากท้องฟ้าครึ้ม เด็กชายผู้มีเรือนผมสีทองสว่างเดินกลางร่มเดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่เป็นทางกลับบ้านประจำ มือเล็กแกว่งไกวถุงขนมในมือไปมาอย่างคนอารมณ์ดี

    ชั่ววินาทีที่เดินผ่านมาถึงสนามเด็กเล่น ดวงตาสีเดียวกับเส้นผมแลเห็นใครบางคนกำลังนั่งคู้ตัวหลบฝนอยู่ใต้เครื่องเล่นที่ด้านล่างเป็นอุโมงค์ขนาดพอที่ผู้ใหญ่คนหนึ่งจะเข้าไปหลบฝนได้

    ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เพียงพอสำหรับเด็กตัวเล็กๆสองคน

    “นี่ๆ”

    “...?”

    เส้นผมสีฟ้าเป็นสิ่งแรกที่เข้ามาในครรลองนัยน์ตาสีทอง ตามมาด้วยแววตาเฉื่อยชาสีเดียวกัน เด็กชายขยับตัวมุดเข้าไปนั่งเบียดเสียดข้างๆเด็กชายตัวเล็กอีกคนที่เขยิบตัวไปจนติดผนังเครื่องเล่น ร่มสีเหลืองลายเป็ดน้อยหุบลงวางไว้ด้านหน้า “ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ หลงทางเหรอ”

    “...............”

    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง.. ปิ๊บ

    “นายไม่พูดเลยอ่า~~ ฉันชื่อ คิเสะ เรียวตะนะ นายชื่ออะไร”คิเสะไม่ยอมแพ้ยังคงตามหาสัญญาณ..เอ้ย ถามหาคำตอบจากอีกฝ่าย

    “..คุโรโกะ เท็ตสึยะ”น้ำเสียงที่เรียบเรื่อยไม่ต่างจากแววตาเอ่ยออกมาเสียงค่อย

    “อื้มม คุโรโกะสินะ”

    “...”เด็กชายเจ้าของเรือนผมสีฟ้าเพียงพยักหน้ารับ ดวงตาสีฟ้าทอดมองเม็ดฝนที่ตกเปาะแปะอยู่ตรงหน้า ห่างจากตัวเขาเพียงแค่ยื่นมือออกไป

    “ฝากตัวด้วยนะ”คิเสะยิ้มกว้างให้เด็กชายคนข้างๆ และอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่หันมามอง..แล้วผงกหัวรับ

    “กินขนมมั้ย ?”ยกถุงขนมขึ้นมาให้ดู อีกฝ่ายก็เพียงแค่มองแล้วสั่นหัวเบาๆ

    ฮืออออ ทำไมนิ่งแบบนี้นะ ทั้งที่เขาถูกชะตาด้วยแท้ๆอ่ะ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 10 ขวบ ไม่เคยมีใครเมินเขาเลยนะ บอกเขาน่ารักร่าเริงน่าฟัดจะตาย นี่คนแรก คนแรกเลย!

    “ทำไม..”

    เปิดประเด็นก่อนแล้ว!! คิเสะหันควับมองคนตัวเล็กตาเป็นประกายราวกับสุนัขตัวน้อยเจอของเล่นถูกใจ

    “ทำไมอะไรเหรอๆ ?”

    “ทำไมต้องมานั่งเบียดด้วย”

    “เอ่อะ..”หูลู่หางร่วงแปะกับพื้นคอตกทันที “ก็เห็นนายอยู่คนเดียวนี่นาเหมือนจะหลงทางด้วยผมทนดูเฉยไม่ได้หรอกฮะ”พึมพำเสียงอ่อย

    “..หลงทาง”

    “อ๋า! นั่นไงว่าแล้วเชียว แล้วบ้านนายอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่งนะ”คิเสะทำท่าทางแข็งขัน คุณแม่บอกว่าเจอคนเดือดร้อนต้องช่วยเหลือ!

    “มะม๊าบอกว่าห้ามไปไหนกับคนแปลกหน้า”

    ฉึก!

                    คำว่าคนแปลกหน้ากระแทกหน้าหงายไปที มือเล็กยีผมสีทองของตัวเองจนยุ่ง “ไม่ได้ไปไหนนะ ไปบ้านต่างหาก บ้านน่ะบ้าน ไปบ้านนายไง”

                    คุโรโกะมองท่าทางของอีกฝ่าย เป็นคนที่น่ารำคาญ.. แต่ก็ดูจะเป็นคนดีละมั้ง คิดแบบนั้นแล้วก็พยักหน้าเบาๆ “ไปบ้านนะครับ”

                    “อื้อ! ไปบ้านสิ แล้วบ้านนายอยู่ที่ไหน”คิเสะลุกขึ้นทันที ศีรษะเฉียดเพดานของอุโมงค์เล็กน้อยเพราะส่วนสูงที่ค่อนข้างมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน ยื่นมือไปให้คนตัวเล็กจับเพื่อพยุงตัวยืนขึ้น

                    “ซอย 7 บ้านเลขที่ 11”

                    “เอ๋!? แสดงว่านายต้องเป็นเพื่อนบ้านใหม่น่ะสิ”ดวงตาสีทองเปล่งประกายวิบวับ มองเพื่อนใหม่ด้วยแววตาถูกใจยิ่งกว่าเดิม ยิ้มกว้างจนเห็นฟัน“ผมบ้านเลขที่ 12 แหละ”

                    “ครับ”ตอบรับด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยตามสไตล์ แต่แววตากับมีประกายขึ้นเล็กน้อย

                    “งั้นไปกันเถอะ!”ก้มหยิบร่มขึ้นมากางให้ตัวเองกับเพื่อนตัวเล็ก พากันเดินออกจากสนามเด็กเล่นมุ่งหน้ากลับสู่บ้านของตัวเอง

                    เด็กน้อยสองคนจับมือกันเดินใต้ร่มคันเล็ก คิเสะกระชับมือที่จับมือเพื่อนใหม่ไว้แน่นกลัวอีกฝ่ายจะหายไป อาจะเพราะความรู้สึกบางอย่างที่รู้สึกว่าคุโรโกะเป็นคนที่เหมือนกับจะหายไปง่ายๆ

    จืดจาง..? น่าจะเรียกแบบนั้นล่ะมั้ง แต่ที่เขาเจอคนตัวเล็กมันก็เพราะเขารู้สึกถึงอีกฝ่ายนั่นแหละ

     

    ความรู้สึกที่ท้องฟ้าลิขิต ให้คนที่เกิดมาคู่กันได้พบกัน

     

     

                    “ถึงแล้วล่ะ”ฝีเท้าสองคู่หยุดลง คิเสะหันไปมองหน้าเพื่อนใหม่ก่อนยกมือขึ้นกดกริ่งหน้าประตู ซึ่งรอเพียงชั่วครู่ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูออกมา

                    “คุโรโกะ!”หญิงสาวถลาออกมานอกประตูแบบไม่คิดจะหยิบฉวยอะไรมากำบังฝน เปิดประตูรั้วออกย่อตัวลงรั้งลูกชายตัวน้อยมากอดไว้แน่น “ไปไหนมา..”

                    คิเสะยืนมองการพูดคุยของแม่ลูกด้วยรอยยิ้มเปรมปรีดิ์กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำ จนกระทั่งหญิงสาวที่พูดคุยกับลูกชายของตัวเองจนพอคลายกังวลจึงเงยหน้าขึ้นมองเด็กชายอีกคน

                    “หนู.. เรียวตะคุงใช่ไหม ?”

                    “อ๊ะ ครับ ?” รู้จักเราด้วยแฮะ.. ริมฝีปากเผยอนิดๆ

                    “คุณแม่ตามหาอยู่นะ เห็นว่าเราหายไปนาน”หญิงสาวมองเด็กชายผมสีทองที่นิ่งค้างไปชั่วแวบหนึ่ง

                    “หวายย แย่แล้วฮะ ผมขอคุณแม่ไปซื้อขนมแปปเดียวนี่นา งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ”คิเสะโค้งให้หญิงสาว

                    “เดี๋ยวก่อน คิเสะคุง”เสียงเล็กรั้งขาที่กำลังจะวิ่งเหยาะไปที่บ้านข้างๆเอาไว้ ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองใบหน้าของเด็กหนุ่มผมทองก่อนยิ้มออกมาเล็กๆ.. แต่ก็พอที่คิเสะจะสังเกตเห็นได้ “ขอบคุณนะครับ”

                    “อื้อ! งั้นผมไปก่อนนะ คุโรโกจจิ แล้วเจอกัน”

                    คุโรโกจจิ..?

                    เด็กชายผมสีฟ้าชะงักกับสรรพนามแปลกหูเล็ก แต่มือเล็กก็ยังคงโบกไปมาลาอีกฝ่ายที่ส่งรอยยิ้มกว้างสดใสมาให้ก่อนหายลับไปจากแนวรั้ว

     

    รอยยิ้มที่เหมือนแสงอาทิตย์หลังสายฝนพรำ

     

                    ดวงตาสีฟ้าเงยขึ้นมองท้องฟ้าที่เมฆดำเริ่มกระจายตัวออก แสงอาทิตย์เริ่มเล็ดรอดออกมาสาดแสงตกกระทบพื้นดิน สะท้อนหยอกล้อกับหยดน้ำบนใบหญ้าเป็นแสงประกาย

                    ฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ..

                    สายรุ้งพาดผ่านขอบฟ้าสีคราม เด็กชายสองคนต่างชี้ชวนมารดาของตนให้ดูความงดงามจากธรรมชาติที่หาดูได้ยากสำหรับคนในเมือง

                    บางทีอาจจะเป็นสัญญาณอะไรบางอย่างก็ได้นะ

                  สัญญาณแห่งการเริ่มต้น



    #Kikuromonth

    #shotakikuro #711

    ฟิคสั้นกิจกรรมเดือนเหลืองดำค่ะ ฝากด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×