ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยจอมจุ้นสุดซ่าส์กันหนุ่มหน้าใสหัวใจหิน

    ลำดับตอนที่ #1 : นักเรียนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 50


    ตอนที่ 1 นักเรียนใหม่

           “ โอ๊ย........ยัยพริวนี่เธอจะนอนไปถึงเมื่อไหร่กันห๊า ไหนเธอสัญญากับพี่
    แล้วไงว่าจะไม่ตื่นสายอีกอ่ะ แล้วนี่อะไร เดี๋ยวก้อไม่ทำกับข้าวให้กินซะเลยนี่ ”

    “ ไม่นะพี่พลอย อย่าทำอย่างนั้นเชียวนะ วันนี้วันเปิดเรียนวันแรกของปี่สุดท้าย
    พริวก้อแค่อยากจะนอนตื่นสายเป็นการส่งท้ายก้อแค่นั้นเอง เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ไม่ตื่นสายชัวร์ ”

    “ จ้า.......แม่น้องสาวผู้ไม่เคยผิดคำสัญญา ฉันอยากจะรู้นักเชียวว่าถ้าฉันไม่อยู่
    ซักคนแล้วไอ้พวกนี้มันจะอยู่กันยังไง ”

    “ ก้ออยู่กันอย่างที่เคยอยู่นั่นแหละค่ะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะพี่สาว ”

    “ ประจำเลยเถียงคำไม่ตกฟาก เร็วๆแระกัน ”

    “ พี่ก้อบ่นคำไม่ตกฟากเหมือนกันนั่นแหละ ”

    “ ว่าไงนะ ”
    “ อ๋อ....ปะ ปะ ปะ ป่าวค่ะ ไปอาบน้ำดีกว่า  ”

    “ ยัยน้องคนนี้นี่ยังไงนะ ”

            นั่นก้อเป็นเสียงบ่นของพี่สาวฉันเองแหละค่ะคุณผู้อ่าน แก่ก้อขี้บ่นตามประสาคนแก่
    นั่นแหละค่ะ หุหุ ^o^ ล้อเล่นค่ะ ถึงพี่พลอยจะปากจัดไปหน่อย แต่พี่พลอยก้อไม่เคยปล่อย
    ให้พวกเราอดตายเลยซักครั้ง เป็นพี่สาวที่แสนดีของน้องๆเสมอ เอ๊าะลืมบอกไปค่ะฉันมีพี่ชาย
    อีกคนค่ะ ชื่อ พาย เป็นน้องของพี่พลอยอีกทีนึง ฉันก้อไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะว่าพี่พายแกเป็น
    ผู้ชายเต็มตัวรึป่าว ก้อดูดิคะทั้งบ้านมีผู้ชายคนเดียวนอกนั้นก็มีฉันกับพี่พลอย อย่าให้พี่พายแก่เป็น
    อย่างงั้นเลยถ้าเป็นคงสยองน่าดู อู้ย...ไม่อยากจะคิด  พ่อแม่ของพวกเราเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
    ตั้งแต่ฉันอายุได้เพัยง 12 ขวบ อุ้ย 12 ปี ตั้งแต่นั้นมาฉันกับพี่พายก้ออยู่กับพี่สาวคนสวย&ปาก
    จัดนิดๆมาจนถึงทุกวันนี้แหละค่ะ  อืม...บางคนมักถามว่าชื่อพริว หมาถึงอะไร ถามฉัน ฉันก้อไ
    ม่รู้หรอกค่ะ รู้แต่ว่าคนเขียนเป็นคนตั้งให้อ่ะค่ะ บ่นมาเยอะแระเข้าเรื่องกันต่อเถอะค่ะ

    “ อ้าวยัยพริวมาพอดีเลย มาทานข้าวก่อนเร็ว พี่ทำซุปเต้าเจี้ยวของโปรดเธอด้วยนะ
    ไม่ทานแล้วจะเสียใจนะจะบอกให้ คนเราทุกควรน่ะต้องทานอาหารเช้าทุกวันรู้มั้ย
    จะได้ฉลาดๆคิดคำแปลกๆมาเถียงพี่ได้ไง เข้าใจมั้ย ”

    “ พูดจบแล้วใช่มั้ยคะ พวกพี่ทานเถอะค่ะพริวต้องรีบไปโรงเรียน เดี๋ยวสาย ”
    “ ถ้าโง่แล้วอย่ามาโทษว่าพี่แล้วกัน ”

    “ กะจะลดหุ่นก้อบอกมาเหอะยัยพริว พี่ว่าช่วงปิดเทอมเธอดูตัวบวมขึ้นนะ ”

    “ หุบปากไปเลยไอ้พี่พาย เดี๋ยวกลับมาเจอดีแน่ ”

    “ อ๋อเหรอ รีบกลับมาเร็วๆนะ ”

    “ โอ้ยยยยยยย...ไม่เถียงด้วยแล้วไปโรงเรียนดีกว่า ”

    “ อ้าว ใครห้ามเธอไว้ล่ะ ”

    “ จำไว้ โอ้ยทำไมวันเรียนวันแรกของปีสุดท้ายถึงวุ่นวายอย่างนี้นะ ช่างเหอะ

    ทำใจให้สงบไว้เดี๋ยวดีเองแหละ ” ( ให้กำลังใจตัวเองเข้าไป )

    ++++ที่โรงเรียน++++
    “ เฮ้อ นึกว่าจะไม่ทันซะแระ แฮะๆ ร้อนจังเลยไปนั่งตากแอร์ในห้องดีกว่า ”

           เมื่อฉันไปถึงห้องฉันก้อวิ่งไปกอดเพื่อนซี้ทั้ง 2 คนของฉัน คือ เมย์เพื่อน
    ซี้ที่นิสัยไม่ต่างจากฉันเท่าไหร่นัก พูดง่ายๆก็คือซ่าส์เหมือนกันนั่นแหละค่ะ
    ส่วนอีกคนชื่อ อ้อน ก้อขี้อ้อนสมชื่อ แล้วฉันก้อเหลือบไปเห็นผู้ชายที่นั่งอยู่หลังห้อง
    ที่กำลังโดนกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งจ้องเค้าแล้วก้อซุบซิบกัน แล้วเมย์ก้อพูดขึ้น

    “ นี่ ยัยพริวเธอทำยังกับว่า ไม่ได้เจอพวกเรามาเป็นปีงั้นแหละ นี่เลิกกอดได้แล้ว ”

    “ เมย์ ผู้ชายที่นั่งอยู่หลังห้องเค้าเป็นใครหรอ ”

    “ เด็กใหม่ล่ะมั้ง ”

    “ ก้อรู้....ว่าเด็กใหม่ ”

    “ อ้าว แล้วเธอจะถามทำไมเนี่ย ”

    “ ฉันก้อแค่สงสัยว่าทำไมเค้าถึงมองไอ้หมอนั่น แล้วอีกอย่างทำไมถึงย้ายมาตอน ม.6 ด้วย
    ท่าจะเพี้ยนแฮะ เหลืออีกปีเดียวแท้ๆ ไม่มีความอดทนเอาซะเลย ”

    “ บ่นพอยัง ”

    “ อืม พอก้อได้ ”

    “ อืม ฉันจะเล่าตั้งแต่ต้นจนจบให้ฟัง เรื่องก้อมีอยู่ว่า จบแล้ว ”

    “ ห๊า...แค่เนี๊ย ฉันยังไม่รู้เรื่องเลยนะยัยเมย์ ฉันว่าเธอยังไม่ได้เล่านะ อยู่กันมาเป็นปีฉัน
    ก้อพึ่งรู้วันนี้แหละว่ามีเพื่อนติ๊งต๊องอย่างเธอ ”

    “ โอ้ย........ก้อใครจะไปรู้เล่า อยู่ดีๆหมอนั่นก็เดินเข้ามา พอแก๊งค์สาวๆกริ๊ดเท่านั่นแหละ
    หมอนั่นก้อพูดภาษาไรก้อไม่รู้สงสัยภาษาญี่ปุ่นมั้ง รู้แต่ว่าตอนนั้นน่ะหน้าตาเค้าโกรธสุดๆไปเลยอ่ะ ”

    “ น่าเสียดายจังหล่อก้อหล่อไม่น่าดุเลย แต่ก้อเท่ห์ดีเหมือนกันแฮะ ถ้าแฟนฉันเป็นอย่างนี้บ้างก้อดีซิ ”

    “ ช่างเค้าดิจะดุหรือจะโหดมันก้อเรื่องของเค้า ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกะฉันซะหน่อย
    ก้อแค่เด็กใหม่จะซ่าส์เท่าไหร่นักเชียว ”

    “ เกี่ยวดิ เธอจะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะพริว เพราะเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องเดียวกัน
    กับหมอนั่นไปจนจบปีนี้เลยนะ ”

    “ นี่ยัยเมย์ เธออย่าเรื่องมากได้มั้ย เรื่องมากอย่านี้ไงถึงไม่มีแฟนกะเค้าซะทีอ่ะ
    ดูท่าทางเค้าเป็นมิตรออกจะตายไป เสียตรงที่ขี้เก็กมากไปเท่านั้นเอง ไม่มีไรน่าเครียดหรอกน่า  ”

    “ ใครจะไปแสนดีเหมือนเธอล่ะพริว ที่มีแฟนทั้งหล่อทั้งแสนดี เอาใจเก่ง
    แล้วก้อปากหวานอีก พูดมาแล้วอยากจะอาเจียนออกมาเป็น...ไปดีกว่า  ”

    “ เป็นอะไร ห๊า ยัยเมย์กลับมาบอกฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ”

    “ เรื่องไรจะกลับไปให้โง่เล่า ”

    “ กลับมาเคลียร์กันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้เลยนะ ยัยเมย์ ”

    “ น่านยัยเมย์พูดยังไม่ทันขาดคำเลยหวานใจของเธอก้อมาแระ ”

    “ พี่พริวครับ ”

    “ อ้าว แจ็คมีไรหรอจ๊ะ ”

    “ เอ่อ..ตอนเที่ยงเจอกันที่โรงอาหารนะครับ แล้วผมจะรอ ”

    “ อ้าวไปซะแระ ” แล้วจู่ๆพริวก้อตะโกนถามแจ็คจนคนในห้องหันมามอง

    “ แจ็คคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า ” แจ็คก้อตะโกนตอบกลับว่า

    “ คิดถึงพี่พริวสุดหัวใจเลยครับ ” พริวก้อได้ยิ้มด้วยความตื้นตัน ( คงไม่รู้ซิท่าว่ามีคนมองอยู่ อิอิ )

    “ นี่ยัยพริว เธอเพี้ยนไปแล้วหรอ ไม่อายเค้าบ้างรึไง ”

    “ อายทำไมก้อคนเค้ารักกันนี่ แล้วก้อไม่มีคนได้ยินซะหน่อย ”
    ( โห แม่คุณตะโกนซะดังลั่นขนาดนั้น ถ้าใครไม่ได้ยินก้อบ้าแล้ว ) เมื่อพริวหันหลังกลับมาก้อต้องสะดุ้ง
    หน้าก้อแดงขึ้นเรื่อยๆแล้วก้อซีดภายใน 1 วินาที ( ก้อจะไม่ให้เกิดอาการแบบนี้ได้ยังไงล่ะคะ
    ก้อทุกคนกำลังจ้องมองมาที่พริวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายซะงั้น ) แล้วพริวก้อทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินกลับไป
    ที่นั่งอย่างหน้าตาเฉย ( ก้อทำฟอร์มไปงั้นแหล๊ะ แต่ที่จริงพริวเค้าอายจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้า
    ไปไว้ที่อวัยวะส่วนไหนของร่างกายแล้วล่ะค่ะ ) แล้วอาจายร์ก้อมาได้จังหวะพอดี

    “ สวัสดีนักเรียนทุกคนจ้ะ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก สำหรับพวกเธอก้อเป็นนักเรียนปีสุด
    ท้ายแล้ว จะทำอะไรก้อนึกถึงชื่อเสียงของโรงเรียนไว้บ้างก้อดีนะจ๊ะ อืม วันนี้ครูมีนักเรียน
    ใหม่มาแนะนำให้รู้จักกันจ้ะ เท็สสึคุงออกมาแนะนำตัวเร็ว ”

    “ โอไฮโยโกไซมัส ฮาจิเมะมะชิเทะ วาตาชิวาเท็สสึเดส โดโสโยโรชิคุโอเนะกะอิชิมัส ”   
       
    “ นี่พริวเค้าพูดว่าไรอ่ะ ”

    “ เค้าบอกว่าสวัสดี เค้าชื่อ เทสสึ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย”

    “ เอ้าล่ะจ้ะ เท็สสึกลับไปนั่งที่ได้แล้วจ้ะ ทุกคนก้อช่วยดูแลเท็สสึด้วยนะจ๊ะ ”

    “ โห โตจนจะทำมาหากินได้แระยังจะต้องให้มาดูแลอีกหรอเนี่ย ”

    “ เอาน่าพริวปีเดียวเอง ”

    “ แล้วยัยเมย์หายหัวไปไหนล่ะเนี่ย ”

    “ ไม่รู้ดิ คงถุงบ้านแล้วมั้ง กลับมาฉันต้องรู้ให้ได้ว่าอาเจียนออกมาเป็นอะไร
    ยัยเมย์นะยัยเมย์หัดมีความลับกับเพื่อน ” พูดยังไม่ทันขาดคำเมย์ก้อมาพอดี

    “ ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ ”

    “ จ้ะ เข้ามาซิจ๊ะ ”

           ทุกคนในห้องกำลังเมาส์กันอย่างเมามันส์อย่างไม่เกรงใจอาจารย์
    จู่ๆก้อมีเสียงดังแกร็กดังขึ้นทีละนิดๆ

    “ เท็สสึคุงเก้าอี้หักหรอจ๊ะ งั้นก้อมานั่งข้างๆพริวไปก่อนนะจ๊ะ ”

           เท็สสึก้อเดินมานั่งข้างๆพริว พริวก้อทักเท็สสึตามมารยาทเป็นภาษาญี่ปุ่น
    แบบงูๆปลาๆตามประสาคนบ้าญี่ปุ่น ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและอ่อนโยน โดยไม่เหลือ
    ภาพพจน์ของสาวซ่าส์ในอดีตเลยแม้แต่น้อย แล้วตอนนี้ความทรงจำเรื่อง
    อาเจียนที่เมย์พูดก้อเลือนหายไปจากสมองอันชาญฉลาดของพริว
    อย่างไม่น่าเชื่อ ( ลืมซะได้ก้อดี ) แล้วเท็สสึก้อตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แข็งจน
    หลายคนอาจทนฟังไม่ได้เลยทีเดียว

    “ ใครอยากจะรู้จักเธอมิทราบ ”

    “ อ๋อ นี่พูดไทยได้นี่ ไม่พูดตั้งแต่แรกปล่อยให้ฉัน มั่วญี่ปุ่นแบบงูๆปลาๆอยู่ตั้งนาน ”

    “ ทางที่ดีถ้าเธอไม่อยากเดือดร้อนเธออยู่เฉยๆจะดีกว่านะ เพราะฉันเกลียดผู้หญิงทุกคน
    รวมทั้งเธอด้วยเข้าใจมั้ย ”

    “ แล้วนายมาบอกฉันทำไมใครถามยานมิทราบ อยากมีเรื่องกับฉันหรอห๊า นายขี้เก็ก ”

           แกจะเก็กไปเพื่ออะไรก้อในเมื่อแกเกลียดผู้หญิง

    “ เฮ้อ ฉันไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงอ่อนหัดอย่างเธอหรอกมันน่าเบื่อ ”

    “ หนอย ” ฉันกำลังจะเถียงคืนแต่ก้อดันไปนึกถึงคำพูดของเท็สสึ ที่ว่าเกลียดผู้หญิง
     
    แล้วฉันก้อถามแบบกวนๆว่า

    “ ถ้านายเกลียดผู้หญิงแสดงว่านายเกลียดแม่นายด้วยซิ ”

    “ เธออย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่เตือน ”

           เฮ้ยมันเป็นอะไรของมันเนี่ยคนอุตส่าห์พูดดีๆด้วยแท้ๆ กลับมาว่าเรายุ่งวุ่นวายซะงั้นอ่ะ
    นายนี่มันวอนซะแล้ว นายทำให้ต่อมความซ่าส์ของฉันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาเรื่อยๆแล้วนะ อภัยให้ไม่ได้
          
                          เม้นวันละนิดจิตแจ่มใสนะคะ ขอให้สวยๆ หล่อๆ น่ารักๆ กันทุกคนนะค๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×