ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BIG BANG LOVE STORY:รักหมดใจ ยัยVIP

    ลำดับตอนที่ #1 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 33
      0
      10 พ.ค. 53

    02/04/10
    “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหนูนาค่ะ สิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ มันอาจจะฟังดูไร้สาระนะคะ วันที่ฉันถ่ายวีดีโอม้วนนี้คือวันที่ 13 มีนาคม ชั้นได้ติดตามข่าวของ big bangว่าพวกเค้ามีงานที่เมืองไทย ฉันมั่นใจว่าตัวเองเป็นVIPจริงๆคนหนึ่ง แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรที่เกี่ยวกับ big bang ได้เลย มันมีปัจจัยหลายอย่างน่ะค่ะ ถึงแม้ว่าตอนที่คุณได้ดู พวกเค้าอาจจะเดินทางมาที่เมืองไทยแล้ว หรืออาจจะอยู่ห่างกับฉันแค่ร้อย-สองร้อยกิโลฯเองก็ได้ กิจกรรมที่สาวไทยพอจะให้ความร่วมมือได้ ก็คือเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่มีเสน่ห์ได้ร่วมแสดงโฆษณาที่พวกเค้าเป็นพรีเซนเตอร์ หนึ่งในนั้นก็คงไม่ใช่ฉันอยู่แล้ว ตอนนี้แรงกดดันต่างๆมีมากมาย ฉันไม่สามารถเก็บไว้ได้ เลยต้องอัดวิดีโอม้วนนี้มาให้ จุดประสงค์ที่จริงอาจจะดูมากไปหน่อย ถ้าขอให้พวกเค้าสามารถจดจำฉันได้ผ่านสิ่งนี้ คงไม่หวังจะให้มันเป็นจริงหรอกค่ะ เพราฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึง เลยขอแค่ให้เค้าเฉียดเวลาว่างสักนิด มาชมวิดีโอสั้นๆนี้ด้วยนะคะ.....”
    หญิงสาวในภาพยิ้มปนหัวเราะก่อนพูดประโยคสุดท้าย
    “ถ้ามีเวลาว่างจากการทำงานที่นั่นแล้ว หาเวลาเที่ยวด้วยจะดีมากๆเลยนะคะ กลัวหลงจะติดต่อหนูนาก็ได้ เห็นทิวทัศน์แล้วรับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ”
    ...........ภาพบนจนวนกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเนื่องจากการถูกตั้งโปรมแกรมเอาไว้ ละสายตาไปดูที่หน้าจอโน้ตบุ๊กซึ่งกลับไปเป็นภาพสกรีนเซฟเวอร์หลังจากผ่านการเปิดวิดีโอคลิปวนไป-มาเป็นรอบที่ยี่สิบได้ วิดีโอภาพของเด็กหญิงต่างชาติคนหนึ่งที่เคยได้ดูเมื่อเกือบห้าปีที่แล้วผ่านทางเว็ปยูทูป ดูๆไปก็เป็นแค่ภาพจากปาร์ตี้สนุกสนานธรรมดาที่ตนเคยเปิดดูกระแสตอบรับจากแฟนเพลงของลูกชายที่ตั้งใจปั้นอย่างดี หากแต่เมื่อพิจารณาแล้ว เด็กต่างชาติผมเปียวัยประถมที่ร้องเพลงของบิ๊กแบงได้อย่างไม่ติดขัด แถมยังเป็นซิงเกิ้ลที่เพิ่งปล่อยออกไปแล้วด้วย จะต้องใช้พรสวรรค์หรือความพยายามแค่ไหนกันนะ นึกย้อนกลับไปวันแรกที่เห็น จำได้ว่ายังอดปลื้มแทนเจ้าของเพลงไม่ได้ จนผ่านมาเกือบห้าปีแล้วเด็กหญิงคนนี้โตขึ้นมาก เธอคงอยู่ชั้นมัธยม ท่านประทานยางกูลจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เด็กสาวท่าทางสะอาดสะอ้าน กริยาดูเรียบร้อย พูดภาษาอังกฤษได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ แม้จะไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่จากที่อยู่ ข้อมูลคร่าวๆ และหน้าตาของทั้งคู่ ก็ทำให้มั่นใจว่า พวกเธอคือคนๆเดียวกัน
    ...........เธอดูเปลี่ยนไปจากห้าปีก่อนจริงๆ.........
     คนดูได้แต่คิดในใจ ก่อนที่Desktopจะกลายเป็นภาพสกรีนเซฟเวอร์ไปอีกเครื่องเพราะถูกปล่อยทิ้งไว้นาน ภาพบนจอLCD ตอนนี้มีเพียงแค่ภาพของผู้ดูที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารใหญ่ของYG entertainment สีหน้าที่เคยดูยุ่งเหยิงเพราะครุ่นคิดอย่างหนักเริ่มยกมุมปากขึ้นมาแล้วปั้นเป็นรอยยิ้มเมื่อคิดอะไรออก ก่อนจะยกหูโทรศัพท์ต่อสายไปยังแผนกประสานงานภายในบริษัท
     “นี่ ตอนนี้บิ๊กแบงอยู่ที่ไทยแล้วใช่มั้ย”
    “ค่ะ ใช่ค่ะ คิดว่าคงจะกลับเร็วๆนี้”
    คนรับสายเติมหางเสียงเมื่อรู่ว่ากำลังคุยกับใคร
    “งั้นต่อสายให้ฉันคุยกับพวกเค้าเดี๋ยวนี้เลยนะ”
    ..........................................................................................................................
    ...........กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย..........
    “ฮะ ท่านประธาน”
    ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องถนนมีแสงสีส้มแดงสาดส่องไปทั่ว ผู้คนนับหมื่นนับแสนที่อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาเดินขวักไขว่ไปมา ภาพตรงหน้าที่ดูเหมือนวอลเปเปอร์ขนาดใหญ่ชั้นดี บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ใช่ตนคนเดียวที่ยังลืมตาอยู่ในเมืองที่วุ่นวายแห่งนี้
    “มาแล้วเหรอจียง นั่งสิ”
    พูดกับคนที่เดินหน้าเคร่งเข้ามาในห้อง เพราะเพิ่งดูตารางงานที่แน่นเอี๊ยดมา อีกไม่กี่วันก็จะมีวันหยุดเป็นของตัวเองบ้าง แต่กลับถูกเรียกมาหาถึงห้องทำงานของเจ้าของค่ายแบบไม่ได้นัดไว้ก่อนเช่นนี้ คงไมใช่เรื่องธรรมดาแล้วล่ะ
    “อืมมมม.....”
    เสียงที่เหมือนกำลังครุ่นคิดนี้ดังขึ้น ก่อนที่จียงจะรีบมองหน้าคู่สนทนาอย่างอัตโนมัติ เหมือนเรียกสติของจียงที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้ามกับ ยาง ฮยอนซอก แต่กลับไม่ได้มีสมาธิสักเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เล่นกับนิ้วชี้ของตัวเองอยู่
    “เป็นยังไงบ้างล่ะ ที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยดีมั้ย”
    ถึงจะรู้ข้อมูลจากทีมงานมาแบบละเอียดแล้ว แต่ก็ไม่เหมือนกับได้คุยกับเจ้าตัวเองหรอกนะ
    “ฮะ”
    “งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ อ่ะนี่ งานพรีเซนเตอร์ ต้องไปที่ไทยนะ ลองเอาไปดูแล้วกัน”
    ว่าแล้วก็ยื่นกระดาษปึกหนึ่ง ถูกเย็บมุมมาเรียบร้อย ส่งให้จียงก่อนที่เจ้าตัวจะรับเอาไว้ แค่งานพรีเซนเตอร์ ต้องผ่านมือผู้บริหารค่ายเลยเชียวเหรอ
    “ไม่ต้องดูหรอกฮะ ผมรับงาน!!”
    “โกรธอะไรฉันรึเปล่าเนี่ย ทำไมทำหน้าบอกบุญไม่รับแบบนั้นล่ะ”
    คนฟังรีบปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกติที่สุดเพราเพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าคงทำสีหน้าไร้มารยาทออกไป
    “ไม่นี่ฮะ”
    หยิบเอกสารตรงหน้าขึ้นมา มองดูข้อความสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งใจจะทำให้เด่นขึ้นมา ก่อนจะพลิกหน้าต่อไปอย่างไม่ใส่ใจนัก ไม่ได้อยากอ่าน แค่คั่นเวลารอให้อีกฝ่ายพูดอะไรบ้าง เพราะไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องพูดแค่นี้
    “ฉันกับพวกทีมงานคุยกันแล้วว่า ถ้างานนี้เสร็จ....”
    “....”มองฮยอนซอกอย่างรอคำตอบ
    “ชั้นจะเคลียร์งานให้พวกเธอพักผ่อนสักหน่อย”
    คำพูดที่ได้ยินทำเอาจียงยิ้มกว้างอย่างลืมตัว
    ‘ได้พักแล้วโว้ย เยสสสสสส!!!’
    ถึงในใจจะตอบออกไปแบบนี้แล้วก็ตาม แต่ตามมารยาทก็บอกให้ตอบออกไปเพียงแค่.....
    “ฮะ ขอบคุณฮะ”
    “อะไรกันจียง อยากพูดแค่นี้เองเหรอ”
    ถึงจะแอ๊บเนียนแค่ไหน ยังไงซะก็ไม่วายโดนเจ้าของYGจับได้อยู่ดีแหละน่า
    ..........................................
    “เป็นไรวะจียง”
    ทง ยองแบ นักร้องนำของวงและเพื่อนสนิทของจียงพูดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองนั่งยิ้มอยู่คนเดียวขณะที่คนอื่นๆกำลังนั่งเม้าท์กันอย่างมันส์ปากอยู่ ไม่รู้เลยว่าไปปลุกจียงให้หลุดจากฝันซะแล้ว
    “มีความสุขโว้ย”
    ท่าทางเริงร่าของลีดเดอร์ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ใครเลย เพราะทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกไม่กี่อึดใจจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ทุกคนต่างก็วางแผนเที่ยวเรียบร้อยแล้ว เวลาไม่นานนัก ก็ต้องกอบโกยความสุขไว้ให้มากๆ
    “แล้วนี่เราจะกลับกันวันไหนฮะ”
    อี ซึงริ น้องเล็กที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดแต่งจอนพูดพร้อมมองจียงผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง
    “ถ้าไม่ไปเที่ยวไหนกันก็คงอีกวันสองวันนี้แหละ”
    “จะว่าไป...”
    จู่ๆ ชเว ซึงฮยอน พี่ใหญ่จอมเสน่ห์ก็พูดขึ้นมาขณะกำลังยัดของฝากที่ได้จากแฟนๆใส่เป้สีชมพูใบเก่งอยู่ ซึ่งนั่นก็สามารถดึงความสนใจของทุกคนให้จดจ่อที่เค้าได้
    “ฉันก็ไม่รู้จะไปไหนอยู่ดีแหละ จะทำงานต่อหรือพักก็มีค่าเท่ากัน”
    “แหม ฮยองก็ ทำเป็นพูดไป แล้วเอานูน่าดาราคนสวยไปไว้ไหนเล่า”
    หลังจากที่ คัง แดซอง ที่กำลังปลื้มกับกิ๊ฟช็อปกองใหญ่ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวกับโดเรม่อน ได้แซวพี่ใหญ่เพื่อเรียกเสียงหัวเราะได้สำเร็จแล้ว ไม่นานนักก็มีสต๊าฟหญิงคนหนึ่ง วิ่งเข้ามาในห้องที่ไม่ได้ล็อคประตูอย่างรีบร้อน มาถึงก็ไม่ได้พูดจาอะไร รีบยื่นโทรศัพท์ในมือให้กับกลุ่มเด็กหนุ่มที่นั่งหน้างงอยู่บนเตียง
    “ท่านประทานโทรมาจากโซล มีธุระด่วนจี๋จะคุยด้วย”
    เมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูจะคะยั้นคะยอให้ตนรับโทรศัพท์เหลือเกินแล้ว ก็อดไม่ได้ที่เบี่ยงตัวหลบจากทิศทางที่มันชี้มาทางตน ราวกับว่าสิ่งที่เห็นคืออะไรสักอย่างที่จะต้องทำให้ตกใจจนอ้าปากค้างอย่างนั้นแหละ จนเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยากเข้าใกล้ และคนถือก็ยังยืนยันจะให้พวกตนรับ คนกล้าคนเดียวในตอนนั้นอย่างท็อปจึงออกโรง ยื่นมือไปรับโทรศัพท์อย่างใจเย็น
    “ว้าว ฮยอง เท่อ่ะ”
    จียงพูดเพราะทึ่งในความใจถึงของคนกล้า เจ้าตัวยิ้มก่อนจะยื่นมันไปให้คนข้างๆ
    “อ่ะยองแบ นายอยากคุยกับท่านประทานใช่ม้า”
    “ผมเหรอ”แทยังชี้มาที่ตัวเองก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะในความเจ้าเล่ห์ของพี่ใหญ่
    “ฮัลโหลครับ ผมแทยัง”
    คนรับกดเปิดลำโพงโทรศัพท์ก่อนจะวางลงบนเตียงนอน เพื่อให้ทุกคนได้ยินเสียงเดียวกันกับตน
    “ยองแบ อ่อ ใช่ฉันจำเสียงเธอได้”
    “ท่านประธานสบายดีรึเปล่าฮะ”
    และแล้วสิ่งที่ทำให้ซึงริออกห่างจากกระจกได้ก็คือ เสียงท่านประธานยางกูลนี่เอง
    “ไม่เท่าไหร่หรอก ตั้งแต่กำลังคิดว่าจะเสียรายได้จากพวกเธอน่ะ ฮ่าๆ”
    คำพูดติดตลกของเจ้าของค่ายก็ช่วยให้บรรยากาศที่คิดว่าจะเคร่งเครียดกลับครึกครื้นขึ้นมา
    “เราจะพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุด แล้วก็กลับไปเร็วๆฮะ”
    ลีดเดอร์วงพูดเพื่อยืนยันว่าจะไม่มีใครทิ้งงานแน่นอน
    “นั่นสินะ นี่..พวกเธอได้ไปเที่ยวที่ไหนรึยัง”
    “ก็ ยังเลยฮะ นอกจากในบริเวณโรงแรมนี่แล้วก็ไม่ได้ไปไหนเลย”
    ท็อปทำหน้าที่ตอบแทนน้องๆหลังจากมองหน้ากันครู่หนึ่งเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
    “เธอคิดยังไงเกี่ยวกับเมืองไทย”
    จู่ๆท่านประธานก็ถามคำถามที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา นึกว่าจะไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันธรรมดาซะอีก
    นี่เอาคำถามประกวดนางงามมาถามกันทำไมล่ะเนี่ย เลยเล่นเอาคนฟังยิ่งงงจนต้องมองหน้ากันครู่หนึ่งจึงให้ความสนใจกับโทรศัพท์
    “หมายถึงเรื่องอะไรฮะ ที่เที่ยวเหรอ”...จียงพูดแสดงความเห็น
    “สาวไทยรึเปล่าฮะ”...มักเน่พูดขึ้นบ้าง
    “รึว่า เรื่องวัดในไทยฮะ”...แทยังเองก็พูดในสิ่งที่ตนเองก็อยากรู้เช่นกัน
    “ของกินเหรอฮะ”....ซึงฮยอนคนพี่และแดซองต่างก็พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน
    ทำเอาคนฟังหัวเราะก๊ากในความเห็นแก่กินของทั้งคู่แทบไม่ทัน
    “ก็รวมๆกันนั่นแหละ เธอคิดยังไงกับที่นั่นล่ะ”
    คนถามต้องทวนคำถามอีกครั้งก่อนที่จียงจะตอบออกมา
    “อืมมม...พวกเราเองก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวจริงๆจังๆกันหรอกฮะ แต่ถ้ามีโอกาส ผมว่าก็คงไม่เลว”
    “ถึงจะร้อนตับแตกก็เถอะ”ตบท้ายด้วยประโยคบอกเล่าของแดซอง ที่ทั้งหมดเองก็เห็นด้วย และไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคต่อไปจากปลายสาย
    “ถ้างั้น พวกเธอก็เที่ยวที่นั่นซะเลยสิ!”
    “อะไรนะฮะ?!?!?!?!?!?”
    .......................................................................................................................................
    หมายเหตุ: 1ซึงริเป็นคนที่ชอบแต่งจอนที่ข้างหูของเขามากๆ ไม่ว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม จะต้องแบ่งเวลาไปแต่งจอนเสมอ
    2นักแสดงหญิงที่เคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับท็อป เธอชื่อ ชิน มินอา
    3ช่วงเดือนเมษายน(2010) BIG BANGได้เดินทางเข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมยี่ห้อดังที่ประเทศไทย โดยมีการเฟ้นหา big bang girls เพื่อร่วมแสดงโฆษณาเดียวกัน อย่าลืมติดตามชมนะคะ
    4 ‘แทยัง’ เป็นชือในวงการที่แปลว่าพระอาทิตย์เท่านั้น ชื่อจริงๆของเค้า คือ ทง ยองแบ
    ......มีอะไรอีกบ้างเนี่ย คิดไม่ออก ตอนนี้เป็นบทนำนะคะ ผู้แต่งชื่อนุ่นค่ะ ได้ยินข่าวที่BIG BANGมาเมืองไทยเลยเกิดความคิดจะแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา ส่วนความคิดที่นุ่นอยากทำหมายเหตุเพราะนุ่นมีเพื่อนคนนึงค่ะ เค้าเป็นเด็กเรียน แต่นุ่นทำให้เค้าชอบบิ๊กแบงได้ เลยอยากให้คนอื่นๆเป็นแบบนั้นบ้าง อ้อ...นุ่นจะลงบทนำไว้ก่อนนะคะ หนึ่งอาทิตย์จากนี้ วันอาทิตย์หน้าจะมาลงใหม่นะคะ ขอทราบก่อนว่ามีคนติดตามนิยายเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน ไว้เจอกันค่ะ... บทที่ 1ค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×