คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #64 : { JohnIl } Becoming a tooth fairy
"มึง~ ดูนี้" เตนล์
เพื่อนสนิทนั่งพิงหลังแทอิลอยู่แล้วเบี่ยงตัวมาด้านหน้าเพื่อโชว์รูปในมือถือให้ดู
ชายหนุ่มที่ยืนถอดเสื้อโชว์รอยสักบนร่างกายด้วยลวดลายแสนเท่กับแคปชั่นว่าออกแบบลายสักเอง
"ใครอีก"
แทอิลถามไปอย่างเบื่อหน่าย เพื่อนคนนี้เขาทั้งน่ารัก อัธยาศัยดี
มีคนคุยแบบนับคนไม่ได้เลย วันนี้คุยๆ อยู่กับคนนั้น สักพักก็เปลี่ยนไปคุยกับอีกคน
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยสักนิดที่เตนล์จะเอารูปผู้ชายหล่อๆ เท่ๆ หน้าตาดีๆ
มาเปิดให้ดู
"เจ้าของร้านสัก"
"อยากสักลายหรือไง"
"ไม่อ่ะ
อยากโดนเข็มสักมากกว่า งื้ออออ" พูดเองก็เขินเอง
เตนล์มุดหลังแทอิลแล้วทำท่าดิ้นๆ เขินๆ
จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งไถทวิตเตอร์ร้านสักดูเรื่อยๆ แม้ 40% จะเป็นรูปแขน ขา หลัง หรือบริเวณร่างกายอื่นๆ ของคนที่มาสักลาย อีกเกือบ
60% ก็เป็นรูปวาดลายเส้นของพ่อหนุ่มอาร์ทติสที่เตนล์กำลังปลื้มมากอยู่ตอนนี้
"มันไม่ได้มีแค่สักนะ
แบบแทททูก็มี" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความฟุ้งเพ้อ
ต้องยอมเขาล่ะว่าตอนนี้เตนล์กำลังชอบผู้ชายคนนี้มากจริงๆ
"แล้วยังไง
จะไปสักไหมล่ะ"
"ไม่เอาอ่ะ
กลัว"
"เอ้า
ไหนว่าอยากโดนเข็มสักไง"
"แทอิลอาาาา
เขิน พี่เขาวาดรูปสวยมากเลยเด้อ" เตนล์เปิดดูรูปวาด และรูปลายสักต่างๆ
ในแอคเคาท์ เป็นสไตล์เส้นแบบขาวดำ สีน้อยๆ แต่ดีเทล
รายละเอียดเหมือนวาดด้วยปากกาหัวเล็กๆ คือดีมาก เก็บงานละเอียดสวยจริงๆ
ไม่ต้องบอกว่าเจ้าของร้านหล่อหน้าตาดีก็ได้ ถ้ารูปวาดเขาก่อน
เตนล์ก็คงตกหลุมรักรูปวาดเขานั้นแหล่ะ
"มึงเคยบอกว่าอยากสักลายหนิ
ไปร้านนี่มะ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน"
แทอิลไม่ตอบในทันที
ก็จริงอยู่ว่าอยากสักลาย แต่ยังคิดลายสักไม่ออก
กลัวว่าถ้าสักลายนี้ไปแล้วสักพักเบื่อๆ อยากเปลี่ยนลายมันจะลบไม่ออกนะสิ
เพราะเขาเป็นคนขี้รำคาญซะด้วย
"ไว้คิดออกว่าจะสักลายอะไรค่อยว่ากันนะ"
"ง่ะ
ก็เอาพวกนี้ไปดูไง นี่ สวยๆ ทั้งนั้น"
ลายกราฟิกที่เตนล์เปิดให้ดูแต่ละอย่างก็สวย
พวกลายวาดคาแรคเตอร์ต่างต่าง ก็สวย แต่มันยังไม่ใช่ลายในแบบที่แทอิลต้องการ เอาเข้าจริง
แค่คิดว่าจะสักตรงไหนสักที่ ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาตรงไหนดี ตรงนี้ก็อยาก
ตรงนั้นก็อยาก แต่มันจะเยอะๆ ไปไหมนี่สิ
คิดไปเยอะๆ
มันก็เบื่อๆ เซ็งๆ เลยยังไม่ได้สักจริงๆ สักที
"ลองไปดูก่อน
เผื่อให้เขาช่วยออกแบบลายสักให้ไง"
"นี่อยากไปเจอจริงๆ
ใช่ไหมเนี่ย"
เตนล์ยิ้มตาปิดแล้วพยักหน้าขึ้นลง
พร้อมกับเผยให้เห็นแจ้งเตือนในไอจีว่ามีคนมารัวกดไลค์รูปเป็นสิบๆ รูปเลย
แอคเคาท์นั้นที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นพี่เจ้าของร้านสักนั้นแน่ เตนล์ถึงได้ดิ้นขนาดนี้
"เมื่อกี้ไปรัวไลค์รูปพี่เขาแค่สองสามรูปเอง
แล้วดูเขาไลค์กลับมาดิ ฮือ ทักแป๊บ"
ว่าแล้วเตนล์ก็กดเข้าไดเรคไอจีส่งสติ้กเกอร์ง่ายๆ ไปแค่อันเดียว
"มึง
เขาตอบกลับมาว่าหวัดดี กูได้แน่ๆ กูมั่นใจ"
แทอิลส่ายหน้าให้กับเพื่อนอย่างเอือมระอาอีกครั้ง
พวกเขาทั้งคู่รู้จักกันครั้งแรกไม่ใช่เพราะประกาศผลแอดมิชชั่น แล้วก็ไม่ได้เรียน
ม.ปลายที่เดียวกันด้วย แต่เพราะตอนอายุ 17 18
ที่แหกกฎหมายเข้าผับบาร์แล้วไปเจอกันในนั้นบ่อยๆ ไม่เคยทักกันหรอก
แต่พอมารายงานตัวปี 1 เจอหน้ากันก็ขำๆ แม้ภายนอกจะดูเรียบร้อย สดใสยังไง
เพื่อนในคณะก็รู้กันไปทั่วแล้วว่าเตนล์กับแทอิลนี่เป็นสายขี้เมา
"เดี๋ยวกูขอลองคุยสักสองสามวัน
แล้วถ้ามึงอยากสักกูจะบอกพี่เขาให้ เค๊"
"จ้าแม่"
เตนล์จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ แทอิลก็รับปากไปส่งๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก
สมมติว่าเตนล์ไปตกลงว่าจะสักจริงๆ แต่เจ้าตัวไม่ยอม
แทอิลที่อยากสักอยู่แล้วก็คงเลือกลายสวยๆ สักอย่างเอาลงที่แขนตรงไหนสักจุด
แต่แทอิลคงลืมไปว่าเตนล์เป็นคนที่คุยอะไรได้เร็วมาก
แม้ว่าจะไม่ใช่คนขี้เบื่อ คุยไปสักพักก็เทเหมือนแทอิล
แต่เตนล์ออกแนวว่าถ้าคุยไปแล้วไม่ใช่ก็กลายเป็นว่าได้เพื่่อนเพิ่มอีกคน
เมื่อตอนนี้เตนล์ลากแทอิลขึ้นรถแล้วขับตรงไปยังเส้นทางตาม
GPS บอก จุดหมายคือร้านสักชื่อดังที่เตนล์เคลมว่าทำงานดี
ทำงานสวย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็พึ่งมาครั้งแรกเถอะ
พึ่งคุยกันเมื่อวานเองไม่ใช่หรือไง
แทอิลยังไม่ตัดสินใจเรื่องสักจริงๆ จังๆ เลยเถอะ
"สักตรงแขนไง
ตรงใกล้ๆ ข้อพับ สวยๆ"
"อยากสักตรงข้อมือด้วย
ตรงน่องแขนด้วย"
"งั้นสักตรงมือไหม
ลายปลาทองเล็กๆ น่ารักๆ"
"ถ้าสักลายเล็กๆ
แป๊บเดียวก็เสร็จสิ"
"งงง
งั้นเอาแบบใส่สีลงเงาเยอะๆ เลยเนอะ"
แทอิลรู้ว่าเตนล์เอาตัวเองมาเป็นข้ออ้าง
ทั้งๆ ที่จริงจะมานั่งคุยกับพี่เจ้าของร้านอะไรนั้นคนเดียวก็ได้ แต่มากับเพื่อน
เอาเพื่อนมาเป็นข้ออ้างคงช่วยให้อุ่นใจมากกว่า.. มั้งนะ
"สวัสดีฮะ
พี่แทยง" ทันทีที่จอดรถแล้วเดินลงไปไม่รอล็อกรถเลย แทอิลตามเตนล์ลงมาแบบงงๆ
เมื่อเพื่อนสนิทเดินไปทักทายชายหนุ่มถือซองขนมยืนกินอยู่หน้าร้านส่วนอีกมือก็คีบบุหรี่ไว้
สวมเสื้อกล้ามเพื่อโชว์รอยสักบนแขนทั้งสองข้าง พี่แทยงอะไรนั้นคงเป็นพี่เจ้าของร้านที่เตนล์เคยเปิดรูปให้ดู
หันมาส่งยิ้มให้
"หวัดดีครับน้องเตนล์"
"นี่เพื่อนที่อยากมาสัก
แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะทำลายไหนดี พี่แทยงช่วยหน่อยได้ไหมอ่ะ"
"ได้สิครับ
เข้าไปในร้านเลย กินหนมไหม?"
แทอิลแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
คนสองคนที่พึ่งมาเจอกันแต่กลับเหมือนกันจนน่าใจหาย ทั้งๆ
ที่คุยเรื่องสักลายของแทอิลแต่น้ำเสียงกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
เหมือนกำลังคุยเรื่องตัวเองอยู่ ไม่วายยังแอบสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าของกันและกัน
แถมยังมีแววตาพึงพอใจกันอีก อย่างกับว่าจะลากกันขึ้นไปกินกันเสียตอนนี้
นี่ยังกลางวันแสกๆ
อยู่นะ
"จอห์นนี่
ลูกค้ามา"
"..หืม?" แทอิลเดินเข้ามาช้าสุด ภายในร้านไม่ใหญ่มาก
มีเตียงสักสองเตียงเท่านั้น
หนึ่งในนั้นก็มีชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนอนเอาหมวกปิดหน้าอยู่
ชายคนนี้ไม่ได้สวมเสื้อกล้ามแต่เป็นเสื้อยืดธรรมดาๆ ที่มีรอยสักแพลมออกมาให้เห็นนิดๆ
หน่อยๆ
"เดี๋ยวพี่ให้เพื่อนน้องเตนล์คุยกับจอห์นนี่นะครับ
เขาเป็นช่างประจำของที่นี้"
"อ้าว
แล้วพี่แทยงละครับ?"
"พี่ก็สักได้
แต่วันนี้อยากคุยกับเตนล์มากกว่า"
แทอิลอยากจะหัวเราะเห่อๆ
ใส่หน้าสักครั้ง พี่ึคนนี้อาจจะคิดว่าเตนล์เหมือนเด็กที่เคี่ยวง่ายก็ได้
แต่เชื่อเถอะว่าพี่มันไม่ได้กินตอนนี้หรอก ภายนอกเตนล์ดูใสๆ น่ารัก ซื่อๆ
เหมือนเด็กๆ แต่กริยาอ่อยๆ หยอกให้อยากแล้วจากไปมันก็เชี่ยวชาญไม่น้อย
แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่แทอิลจะสนใจมากนัก
เมื่อช่างสักจอห์นนี่ลุกขึ้นมานั่ง
หมวกที่ปิดหน้าไว้หล่นใส่บนตักแล้วยกมือปัดผมยุ่งไม่เป็นทรง
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองกันชัดๆ
"...."
"...."
เอาเป็นว่าโลกกลมๆ
นี่มันก็กว้างใหญ่มาก แต่ดันทำให้คนสองคนกลับมาพบกันอีกได้ นี่มันน่าทึ่งจริงๆ
แทอิลไม่ได้ติดใจว่าคนที่ชื่อจอห์นนี่นี่มันเป็นใคร
มาจากไหน แต่ถ้าไม่ใช่คนที่บังเอิญเคยลากกันขึ้นไปเชือดเมื่อราวๆ
สองอาทิตย์ก่อนแบบ one night stan จะกลายมาเป็นช่างสักที่ดูท่าว่าจะต้องทำให้เขาวันนี้อีก
"อ่า..
อยากสักตรงไหนดี"
"ไม่รู้ดิ
จริงๆ ก็ยังไม่ได้คิดจริงๆ จังๆ เท่าไร"
พอจอห์นนี่ลุกขึ้น
แทอิลก็เดินลงไปนั่งแทน วางแขนไว้บนพนักที่พักแขนสำหรับสักลาย
ขยับตัวเองให้นั่งนอนสบายแล้วเอนหลังพิง
จอห์นนี่ลากเก้าอี้สำหรับช่างมานั่งข้างๆ
แล้วเอากระดาษมาวาดออกแบบลายสักโดยที่ไม่ถามถึงความชอบหรือขนาดที่ต้องการเลย
"เขียนว่าจอห์นนี่ดีไหม?"
"เขียนเพื่อ?"
"เก็บแต้มไง"
"งั้นคงต้องเขียนอีกเยอะเลยสิ"
สายตาแบบเดียวกันที่เคยมองกันในร้านเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
จอห์นนี่ค่อยๆ ยกยิ้มขึ้นมาช้าๆ จนเกิดเสียงหัวเราะเบาๆ จริงๆ ที่เขากำลังวาดอยู่นี่มันไม่ใช่คำว่าจอห์นนี่แบบที่บอกหรอก
แต่จะว่ายังไงดี เขาจำได้หรอกว่าคนๆ นี้มีลักษณะยังไง
เพราะตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา จอห์นนี่งานยุ่งจนไม่ได้ไปกับใครอีกเลย
ภาพร่างถูกยกให้แทอิลดู
รอยย่นระหว่างคิ้วขมวดเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพซี่ฟันกราม 3 ซี่ ขวดโหลใส่ลูกตา
และกิ่งของดอกไม้
แทอิลไม่เข้าใจความหมายของภาพที่จอห์นนี่วาด
แต่ต้องยอมรับว่าจอห์นนี่วาดรูปสวยจริงๆ และเขาก็รู้สึกชอบมันมากเหมือนกัน
"Becoming
a toothfairy"
จอห์นนี่ชี้ไปที่รูปฟันที่วาดเอาไว้
นั้นยิ่งทำให้แทอิลงงเข้าไปใหญ่
"ก็นึกว่าชอบฟัน"
แต่เหมือนว่าแทอิลจะไม่เล่นด้วย
จอห์นนี่หัวเราะแห้งๆ แล้วกลับไปร่างภาพใหม่ที่คิดเอาไว้ก่อนหน้านี้
วาดและลงเส้นขอบแบบคร่าวๆ อย่างรวดเร็วแล้วหันกลับไปให้แทอิลดูอีกรอบ
"..."
ถ้าจอห์นนี่วาดรูปฟัน
โหลในลูกตา กิ่งของดอกไม้เล่นๆ ตั้งใจแกล้งเขา แล้วนี่คือรูปจริงๆ
ที่จอห์นนี่มองว่ามันเหมาะกับแทอิล ก็ต้องยอมรับเลยว่าเขารู้สึกชอบมันมากจริงๆ
ภาพของชายที่นั่งคุกเข่าหันหลัง มีปีกอยู่กลางหลัง
สองมือและเท้าถูกมัดเข้าหากันแน่น
ภาพขาวดำง่ายๆ
ที่มีเพียงเส้นร่างกลับดูมีความหมายหลายอย่างที่ทำให้แทอิลรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
"วาดจากรสนิยมของคุณหรอกนะ"
แทอิลยกยิ้มขึ้นมาอย่างพึงใจมาก
เสื้อเชิ้ตที่สวมมาวันนี้ถูกปลดกระดุมจากเม็ดล่างขึ้นมาช้าๆ
ได้เพียงครึ่งตัวก็แหวกปลายเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นหน้าท้องขาวเนียนอยู่ตรงหน้า
"สักไว้ตรงนี้"
แทอิลเกลี่ยนิ้วชี้ของตัวเองบริเวณหน้าท้องแถวๆ สะโพกที่ยังมีรอยแดงจางๆ
จากกิจกรรมรักเมื่อสามก่อนยังไม่หายไป
เหมือนต้องการบอกกับจอห์นนี่ว่าเขาพึ่งไปทำกับใครที่ไหนก็ไม่รู้มาหลังจากที่มีกับจอห์นนี่เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
ช่างสักทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวแล้วแปะกระดาษที่ใช้ร่างแบบเมื่อครู่ลงไปเพื่อลอกลายให้ติดลงบนผิวหนังเป็นการบอกจุดคร่าวๆ
ก่อนจะเริ่มทำการสักจริงๆ
อีกทั้งเป็นการให้ลูกค้าดูก่อนว่าถ้ามีรอยสักตรงนี้จะพอใจหรือเปล่า
หรืออยากได้ที่อื่นอีก
"รอยสักจะเป็นประมาณนี้
ผมจะลงสีดำบริเวณที่เป็นเงา แต่ไม่ไล่เชด จะทำเหมือนรอยปากกาวาดลงบนผิว
ทั้งกางเกงและเชือกรัดแขนตรงนี้"
จอห์นนี่อธิบายรอยสักว่าจะทำอย่างไรบ้างให้แทอิลดูผ่านกระจกบนใหญ่ตรงหน้า
ดวงตาของทั้งคู่จ้องกันผ่านกระจกอย่างไม่มีใครยอมใคร
เมื่อแทอิลพนักหน้าพึงพอใจกับรอยที่ว่าแล้วจอห์นนี่ก็เริ่มประกอบเครื่องมือที่พึ่งแกะออกจากซองใหม่
รวมถึงเทสีลงในภาชนะแยกต่างหาก
"ถ้าเจ็บก็บอกนะครับ
ผมจะทำเบาๆ"
"อืม..
เข็มใหญ่กว่านี้ก็เจอมาแล้วล่ะ"
"ก็ไม่แน่นะครับ
โดนเข้าไปอีกหลายๆ ที ก็มีเลือดออกบ้าง"
"ก็ต้องรอดู"
เสียงเครื่องมือจากมอเตอร์เล็กๆ
ที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เข็มสักทำงาน น้ำหมึกสีดำค่อยๆ
ทิ่มลงไปครั้งแรกครั้งเล่าบนผิวหน้าท้องขาว
เมื่อสักไปสักพักจอห์นนี่ก็ใช้ผ้าซับน้ำหมึกที่เกินซึมออกมาออกแล้วทำเช่นนั้นวนต่อไปเรื่อยๆ
ความเจ็บที่คราวแรกพอทนได้
แต่พอโดนเข็มเล็กๆ ทิ่มแทงเข้าผิวหนังบ่อยๆ ย้ำๆ เข้าที่จุดเดิมนานๆ แทอิลก็แสบเหมือนกัน
เมื่อมองดูผ่านกระจกแล้วเห็นว่ามีเลือดซึมๆ ออกมาด้วย มันก็คงเป็นปกติ
แต่เอาเข้าจริงเขาก็เจ็บเหมือนกัน
"ถ้าคุณลูกค้าไม่อยู่นิ่งๆ
ผมจะสักยากนะครับ"
"..อึก.."
ไม่รู้ทำไมต้องเผลอกลั้นหายใจ แทอิลกำลังเผลอแขม่วท้อง ยิ่งจอห์นนี่โน้มหน้าเข้ามาใกล้ยามซับน้ำหมึกออก
ลมหายใจร้อนๆ รดลงบนแผลสักที่เป็นเนื้อแดงๆ ไวต่อความรู้สึก แล้วก็อะไรอีกหลายๆ
อย่าง ตอนนี้ท่านั่งสักของพวกเขาถ้ามองจากภายนอก จากคนที่ไม่รู้ มันคงล่อแหลมมาก
เพราะแทอิลที่นอนเอนไปกับพนักพิงของเก้าอี้แล้วกางขาออกเพื่อให้จอห์นนี่นั่งแทรกตรงกลาง
ก้มๆ เงยๆ สักบนเอวให้อยู่แบบนั้น มันค่อนข้างจะใกล้มาก ยิ่งทำให้ตื่นตัว
ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา
หายใจผิดจังหวะไปหมด
แทอิลไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว
มันเหมือนว่าจะอ่านมานานเป็นชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้น จอห์นนี่ทำต่อไปอีกสักพักก็ลุกขึ้นมานั่ง
พาดแขนไว้บนหน้าตักของแทอิลแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
"คุณเป็นคนแรกของผมเลยนะ
ที่สักลายให้อยู่ดีๆ ก็มีอารมณ์"
"..."
"นี่ยังลงเส้นผมไม่เสร็จเลย
คุณช่วยอยู่นิ่งๆ ก่อนสิครับ เดี๋ยวเสร็จแล้วผมทำให้ก็ได้ ไม่คิดค่าบริการ"
"เหอะ"
ช่างสักปากเสียไม่เกรงใจลูกค้าเลยสักนิด
แทอิลชักจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงที่ทั้งคู่เคยอะไรๆ
กันมาก่อน ก็ใช่ว่าจะให้ได้ทุกที่ทุกเวลาขนาดนั้นปะ นี่ก็ไม่ได้แรดขนาดนั้นไง
แทอิลขยับตัวเอาโทรศัพท์ที่เหน็บไว้กระเป๋าหลังขึ้นมาเปิดเล่นให้มันเรียกความสนใจอื่นไปมากกว่าที่จะเห็นจอห์นนี่นั่งสักลายให้อยู่แบบนี้
"ทำไมถึงอยากจะสักลายละครับ"
"ก็อยากสัก"
"ไม่ได้มีลายหรือคำพูด
ตัวเลขอะไรในใจเลยเหรอครับ"
"ไม่มี"
จอห์นนี่แค่อยากลองชวนคุย
เห็นแทอิลเอาแต่สนใจในโทรศัพท์แล้วก็อยากแกล้งดูบ้าง
คนตัวเล็กนี่ท่าทางเงียบไม่ค่อยพูด
แต่ถ้าลองให้เจ้าตัวได้ติดใจแล้วส่งสายตามาชวนเหมือนเมื่อคราวนั้นก็เซ็กซี่ไม่หยอก
ไม่คิดว่าจะเป็นเด็กมหาลัยปีสองเท่านั้นเอง
ก็ว่าทำไมเนื้อยังแน่น
จอห์นนี่ลงรอยสักต่อจนเสร็จ
ลายสักเล็กๆ ขนาด 12เซน แต่จอห์นนี่ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า ทั้งๆ
ที่ปกติไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว เป็นเพราะผิวขาวๆ
ที่พอโดนเข็มสักทิ่มจนแดงเถือก แถมยังมีเลือดช้ำในบางจุดมันดูน่าสงสารจนต้องค่อยๆ
ทำเบาๆ ช้าๆ อย่างที่บอกไว้ในคราแรก
"เสร็จแล้วครับ"
จอห์นนี่ใช้ครีมสำหรับรอยสักปาดทาให้เรียบร้อย พอเสร็จก็ลุกออกเพื่อให้แทอิลได้เห็นรอยสักชัดๆ
"..."
ใจแทอิลเต้นแรงอีกครั้ง
ตื่นเต้นกับรอยสักครั้งแรกของตัวเองที่ออกมาดูสวยกว่าที่คิดไว้เสียอีก
ต่อไปถ้าใส่เสื้อเชิ้ตแบบเปิดให้เห็นรอยสักวับๆ แวมๆ คงเซ็กซี่ไม่หยอก
คิดแล้วก็ยกยิ้มพึงพอใจกับตัวเองเงียบๆ
จอห์นนี่ใช้ผ้าปาดครีมอีกรอบแล้วปิดด้วยอะไรสักอย่างคล้ายกับพลาสติกใสคลุมอาหาร
"ปิดไว้อย่างนี้สักสามสี่ชั่วโมงค่อยแกะออกมาทำความสะอาดนะครับ"
จอห์นนี่ถอดอุปกรณ์ที่ใช้สักลายออกแล้วเอาไปทิ้ง
เก็บข้าวของและสีหมึกที่วางไว้เกลื่อนโต๊ะ
"ดูเหมือนว่าคุณจะต้องกลับเองคนเดียวแล้วล่ะ
เพื่อนคุณกับเจ้านายผมเขาออกไปข้างนอกได้สักพักแล้วล่ะ" จอห์นนี่พูดทั้งๆ
ที่ยังหันหลังอยู่ แต่มองสะท้อนกลับกระจกตั้งตรงหน้าไม่พบใครในร้าน
เพราะทั้งเจ้านายและเพื่อนคนตัวเล็กนี่ที่น่าจะนั่งเล่นกันอยู่หรือเข้าไปในห้องพักด้านใน
ก็เดินออกไปข้างนอกกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่วาดออกแบบลายสักแล้วยังไม่กลับมา
"รู้แล้วล่ะ"
เตนล์ส่งข้อความมาบอกตั้งนานแล้ว
แทอิลก็เปิดดูแล้วตอนที่เล่นโทรศัพท์
นึกอยากจะด่าอยู่เหมือนกันว่าเป็นคนพาเขามาแท้ๆ ยังจะทิ้งเขาไว้ตรงนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังโดนเข็มสักทิ่มอยู่ แทอิลคงเดินหนีกลับไปแล้ว
"แล้ว.."
อยู่ๆ
แทอิลก็พูดขึ้นระหว่างที่จอห์นนี่กำลังจะเดินไปหาที่นอนที่ใหม่ ทั้งๆ
ที่คิดว่าวันนี้จะไม่มีลูกค้าแล้วได้พักผ่อนซะอีก
"ครับ?"
"ไหนว่าเสร็จแล้วจะทำให้ไง
ไม่คิดค่าบริการ"
มาอีกแล้ว..
สายตาแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้
แบบที่จอห์นนี่ก็ชอบเสียงด้วย
"เห็นว่าจะทำตรงนี้ไม่ได้นะสิครับ
ที่นี่มันหน้าร้าน"
"..."
แทอิลเอียงคออย่างสงสัยประมาณว่าหน้าร้านแล้วยังไง
แค่ทำให้ไม่มีใครเข้ามาก็สิ้นเรื่อง
"ไปที่หลังร้านจะสะดวกกว่านะครับ"
ในเมื่อเจ้าของร้านยังทิ้งร้านได้
จอห์นนี่เป็นแค่หุ้นส่วนและช่างสักก็ทิ้งร้านได้เหมือนกันสิ ป้ายที่เปิด OPEN
ไว้ถูกพลิกกลับให้เป็นคำที่มีความหมายตรงข้าม
ภายในห้องพักด้านหลังร้าน
ทั้งๆ
ที่จริงมันก็แค่ห้องนอนสำหรับพวกขี้เหล้าที่กินเมาจนหาทางกลับบ้านไม่ได้มากกว่า
และตอนนี้มันก็เป็นห้องพักสำหรับจอห์นนี่ที่ออกปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะช่วย
แทอิลนั่งลงบนเตียงนอนโครงเหล็กเก่าๆ
ที่ขึ้นสนิม แค่นั่งลงก็มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดจนนึกรำคาญ
ฟูกที่นอนไม่ได้มีความนิ่มสบายเลยสักนิด แถมผ้าห่มก็เป็นผืนบางๆ โง่ๆ
ที่มีติดห้องไว้ ก็แน่สิ พวกคนที่เมาจนหาทางกลับบ้านไม่ได้ ใครมันจะเลือกที่นอนกันล่ะ
แค่มีที่ให้ซุก มีผ้าห่มให้คลุมกันหนาวหรือบางทีก็นอนลงไปบนพื้นเลยนั้นน่ะ
เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว
จอห์นนี่นั่งคุกเข่าแทรกลงไประหว่างขาของแทอิล
ปลายเสื้อเชิ้ตที่แหวกออกจากกันถูกปลดกระดุมสองเม็ดสุดท้ายด้านบนออกพร้อมกับริมฝีปากที่ประกบจูบกันอย่างเชื่องช้า
ราวกับคนที่ตั้งใจละเลียดชิมรสชาติอย่างหวานละมุนที่สุด
เสียงครางที่เปล่งออกมาพร้อมลมทางจมูกแสดงถึงความพึงพอใจ
แทอิลยกมือลูบรอบลำคอของร่างสูงกว่ากับจอห์นนี่ที่ลูบไปทั่วหน้าตักที่มีกางเกงยีนส์เนื้อดีกั้น
ลูบเอว
ลูบตักอย่างเดียวไม่พอ เมื่อมือกว้างแปะลงบนกลางเป้าแล้วลูบนวดไปตามสิ่งที่สัมผัสได้ใต้กางเกง
เพราะช่วงตัวที่สูงไม่เท่ากัน
แม้ว่าจอห์นนี่จะนั่งคุกเข่าแต่ก็สูงพอๆ กับแทอิลที่นั่งอยู่บนเตียง
จึงไม่ต้องให้แทอิลก้มลงมาก
รอยแผลที่พึ่งสักมาจึงไม่ย่นจนแสบแผลหรือทำให้รอยสักเสียรูป
แทอิลลากมือเล็กๆ
ขึ้นสัมผัสที่สันกรามนูนชัดของจอห์นนี่ เอียงหน้าเพื่อรับจูบที่ดูดดื่มมากขึ้น
เกลียวลิ้นไล่ต้อนกันอย่างไม่รู้เบื่อ เมื่อมีคนรุก อีกคนก็ยิ่งรุกกลับ
จอห์นนี่ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของแทอิลออกแล้วผละจูบออกมา
แทอิลลุกขึ้นยืนเพื่อให้ถอดกางเกงง่ายขึ้น
แต่เพียงแค่ร่นกางเกงลงมาถึงเข่าแทอิลก็กลับลงไปนั่ง
ส่วนจอห์นนี่ก็ใช้ฝ่ามือสากกดนวดวนบนส่วนที่นูนออกบนกางเกงในยี่ห้อดัง
"หึหึ"
แทอิลนึกขำตัวเอง
"อะไร"
"พาเพื่อนมาหาผู้ชายแท้
แล้วดูตอนนี้สิ" ตัวเองกำลังจะได้ผู้ชาย คิดแล้วก็ขำ จอห์นนี่เลิกคิ้วแล้วส่ายหน้าช้าๆ
มันน่าขำตรงไหน
จอห์นนี่เงยหน้าขึ้นไปจูบแทอิลอีกครั้ง
แล้วค่อยไล่ลงมาถึงลำคอและหน้าอก คนตัวเล็กกว่าก็รู้งาน
เมื่อจอห์นนี่ก้มไปใกล้จุดไหนก็แอ่นส่วนนั้นรับให้เข้ากับจังหวะของริมฝีปากที่ทาบจูบลงไป
รอยคิสมาร์คบนตัวสีแดงช้ำตัดกับผิวขาวกำลังถูกดูดให้เกิดรอยช้ำมากกว่าเดิม
แถมยังสร้างรอยใหม่ให้แทอิลอีก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ว่า
ออกจะชอบเวลาโดนดูดแรงๆ
เสียด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะเวลาที่จอห์นนี่ดูดตรงนั้น
แม้ว่าจะมีเนื้อผ้าบางๆ จากชั้นในกั้นไว้
แต่แทอิลก็รู้สึกได้ถึงลิ้นและความเปียกชื้นที่สัมผัสอย่างจาบจ้วง
ใจเต้นแรงอีกแล้ว
ไม่ใช่ครั้งแรกแต่แทอิลกลับรู้สึกตื่นเต้นกับครั้งนี้
จนแม้แต่ตัวเองยังแปลกใจเลย
"อือ..อ่า..า.."
ขอบของชั้นในตัวสุดท้ายถูกดึงออก
ส่วนที่กำลังขยายใหญ่ภายในเนื้อผ้าบางๆ
ถูกครอบลงไปด้วยริมฝีปากที่แสนเชี่ยวชาญกับเรื่องอย่างว่า แทอิลเคยสัมผัสมาแล้ว
ครั้งนี้เขาจึงไม่ต้องลุ้นว่าจอห์นนี่จะทำได้ดีหรือเปล่า
เพราะถ้าไม่เก่งจริงแทอิลไม่ชวนทำอีกรอบหรอก
เป็นครั้งแรกที่จอห์นนี่นึกหงุดหงิดที่เตียงอันนี้มันมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดแถมเบาะยังแข็งไม่สบายตัว
รู้งี้ทำตั้งแต่อยู่บนเตียงสักเมื่อกี้ยังดูท่าจะสบายกว่า
เพราะพอให้แทอิลนอนลงบนเตียง หมอนแข็งๆ นั่นคงทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจอยู่หรอก
ดูจากใบหน้าแล้วถ้าไม่ติดว่ากำลังทำอยู่จอห์นนี่ก็โดนลุกหนีไปแล้วล่ะ
สิ่งเดียวที่จะทำให้แทอิลอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างก็มีแต่เล้าโลมให้ตัวอ่อนเอวหวานเท่านั้นแหล่ะ
"เจ็บแผลไหม?"
"ถ้าบอกว่าเจ็บล่ะ"
จอห์นนี่ลุกขึ้นถอดเสื้อยืดตัวเองออก
รอยสักมากมายเหมือนเดิมที่แทอิลเคยเห็นมาแล้ว
เสื้อยืดถูกพับแล้วสอดรองได้หลังของแทอิลรองเอาไว้เพราะแถวนี้ไม่มีอะไรมารองหลังได้นอกจากหมอนแข็งๆ
นั้น
ที่เอามารองหลังแทอิลไว้เพื่อให้หน้าท้องที่พึ่งมีแผลสดจากการสักมันเรียบตึงและแอ่นมาด้านบน
จากนั้นจอห์นนี่ก็ถอดกางเกงของแทอิลออกไปให้พ้นทาง
"..."
อยู่ๆ
จอห์นนี่ก็นิ่งไป ทำหน้าเหมือนใช้ความคิด
แต่ก็เพียงครู่เดียวชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาถอดกางเกงตัวเองออกอีก
"คุณอยู่ข้างบนดีกว่า
ผมไม่อยากกระแทกโดนแผลคุณ เดี๋ยวรอยสักมันจะเลือน อีกอย่างคุณจะเจ็บ"
แทอิลก้มลงมองดูแผลที่ตอนนี้เริ่มแสบๆ
ตึงๆ เพราะเป็นแผลสด ก็ยอมลุกให้จอห์นนี่ลงไปนอนแทน ทั้งๆ
ที่ปกติแล้วแทอิลไม่ค่อยชอบอยู่ด้านบนเท่าไร เพราะเมื่อยแถมยังเสร็จยาก แต่ครั้งนี้ก็คงต้องยอมไปก่อนเพราะมันเลี่ยงไม่ได้
แม้แทอิลจะเป็นคนที่นั่งทับอยู่บนตักของจอห์นนี่
แต่คนที่ลุกไซร้ไปทั่วลำคอและบริเวณอกคือจอห์นนี่ ส่วนสูงที่พอดี
แค่แทอิลเอนตัวไปด้านหลังเพียงนิดเดียวจอห์นนี่ก็ซุกได้ทั่วอก
คนตัวเล็กหน้าซื่อคนนี้ชอบให้ทำแบบแรงๆ
การทำรอยบนตัวแทอิลไม่ใช่เรื่องผิด
จอห์นนี่ไม่แปลกใจว่าเด็กคนนี้จะมีรอยที่ตรงไหนบ้าง
ตอนแรกที่มีอะไรกันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่ผ่านมาสองอาทิตย์มันมีรอยใหม่เกิดขึ้นมาอีก
แถมตอนนี้เจ้าตัวยังอนุญาตให้เขาทำเพิ่มอีก
มันจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวเกินไปหน่อยไหม
"อ๊ะ!"
จอห์นนี่กัดลงบนต้นของแทอิลจนเป็นรอยฟัน
จังหวะเดียวกับที่มีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของแทอิลมาพอดี
ขึ้นเบอร์เป็นชื่อของเพื่อนสนิท คงจะกลับมาแล้วไม่เจอเลยโทรหา
"ฮัลโหล.."
แทอิลกดรับสายทั้งๆ
ที่ตัวเองก็กำลังคุกเข่ายกสะโพกขึ้นเพื่อรับเอาส่วนกลางกายของจอห์นนี่เข้ามา
(ทำไรอยู่เนี่ย !) จากเสียงที่แทอิลพูดรับสายนั้นทำให้เตนล์เดาได้ลางๆ
แล้วรีบถามกลับอย่างตื่นเต้น
"อื..ม..
นิดนึง"
"อะไรนิดนึงนะ?" อันนี้จอห์นนี่ตั้งใจแกล้ง
แต่เหมือนว่าแทอิลจะไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยด้วยน้ำ
(อื่อออออออ พี่แทยง
เพื่อนเตนล์มันแรดอ่าาาาา) เสียงจากปลายสายกำลังงอแง
แทอิลคิดว่าเพื่อนน่าจะรู้แล้วว่าตอนนี้ไม่ว่างก็กดตัดสายไปง่ายๆ
แล้วกลับมาสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าต่อ
เมื่อแก่นกายของจอห์นนี่เข้าไปจนสุดแล้วแทอิลก็ค่อยๆ
ขยับสะโพกตาม
อย่างที่คิด
มันเมื่อยมากจริงๆ
เพราะต้องระวังแผลด้วย
จอห์นนี่เลยให้แทอิลเอนตัวไปด้านหลังแล้วใช้มือกอดรอบเอวแทอิลเอาไว้หนึ่งข้างเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กหงายล้มตึงไปก่อน
"ปกติแล้วคุณออกกำลังกายบ้างไหมเนี่ย
แค่นี้ก็เมื่อยแล้วเหรอ"
"ลองมาเป็นคนที่อยู่ข้างบนบ้างไหมละ"
"ในความหมายไหนละครับ"
แทอิลกอดรอบคอจอห์นนี่ไว้เป็นที่ยึดอีกแรง
แล้วปล่อยให้จอห์นนี่เป็นคนกระแทกสวนขึ้นมาแทน
---------------------------
"แรดอ่ะ
เพื่อนทำไมเป็นคนแบบนี้"
ทันทีที่เจอหน้ากันในคลาสเรียน
เพราะตอนที่ไปสักลายแล้วสุดท้ายแทอิลก็หารถกลับเองหลังจากที่ทำความสะอาดแผลไป
เลยไม่ได้เจอเตนล์อีกเลยจนถึงตอนนี้
"..."
แทอิลเลิกคิ้วแล้วก็ยิ้มขำๆ ปฏิเสธไม่ถูก แรดจริงๆ ไปอ่อยเขาก่อนด้วยอ่ะ
"เป็นไง
เขาดีมะ"
"ก็ดี
จริงๆ เคยได้แล้วบังเอิญเจอเลยได้อีก"
"โห จริงปะ
แซ่บอ่ะ ร้าย ร้ายกาจ" ไม่ว่าเปล่า
เตนล์ดึงตัวแทอิลเข้ามาใกล้แล้วพลิกคอเสื้อดู
ยิ่งเห็นร่องรอยอย่างชัดเจนแม้แทอิลจะใส่เสื้อทับตัวบางไว้ข้างในแล้วแต่ส่วนที่มันปกปิดไม่ได้ก็ต้องเผยเอาไว้
แต่ก็ยังดีที่จอห์นนี่ไม่ทะลึ่งทำรอยสูงเกินจนคอเสื้อปิดไม่มิด
"แล้วยังไง
ต่อไหมคนนี้"
"ก็..
ดีมั้ง"
เตนล์หรี่ตามอง
แต่พอจะอ้าปากด่าก็กลายเป็นอ้าปากค้างไปเมื่อแทอิลพูดต่อ
"อยากไปสักอีกอ่ะ"
------------------------------------------
100%
สงสัยว่าแทอิลนี่ติดใจอะไร
ชอบสักลายหรืออยากได้เข็มช่าง
OS ลั่นเล่นๆ เห็นรูปในทวิตเตอร์แล้วมันแบบ.. เออ อยากสักเอง แต่ใจไม่กล้าพอ
กลัวโดนพ่อตบ 5555555555555
#มอฟิค
@mellopizery
ความคิดเห็น