คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #46 : { JaeDo } โรงเรียนวังโฮฮวา - 04 | หม่อมราชวงศ์ดงยอง
เสียงล้อยางบดไปกับถนน
รถสีดำแล่นเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงามขนาดกลาง
ไม่เล็กไม่ใหญ่ผิดกับฐานะเจ้าของที่ร่ำรวยมั่งคั่ง
เป็นเพราะอยากได้ที่พักที่อบอุ่นอยู่สบายเป็นบ้านจริงๆ
ไม่ต้องการความใหญ่โตแต่ไร้คนอยู่ คฤหาสน์ตระกูลคิม
เมื่อพาหนะสีดำเงาเคลื่อนมาจอดยังลานหน้าบ้านเพื่อเดินเข้าไปยังส่วนของคฤหาสน์
ประตูรถถูกเปิดออกโดยฝีมือคนรับใช้
เผยให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มสองคนภายในชุดเครื่องแบบของโรงเรียนชื่อดัง
โดยเจ้าบ้านเป็นผู้เดินนำลงมาก่อน ตามด้วยว่าที่คู่หมั้นที่เดินยิ้มๆตามออกมา
วันนี้มีงานเลี้ยง
2 ตระกูลที่คฤหาสน์ของหม่อมราชวงศ์คิม ดงยอง
ทั้งตัวเจ้าบ้านเองและว่าที่คู่หมั้นอย่างหม่อมราชวงศ์จอง ยุนโอ
จึงต้องทำเรื่องลาโรงเรียนแล้วออกจากภูเขาที่เป็นอาณาเขตของโรงเรียนวัง
เข้าเมืองมาด้วยประการฉะนี้
ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนชุดอาบน้ำหรือแต่งกายใหม่ให้สะอาดกว่า
เพราะใส่ชุดนักเรียนเช่นนี้มาทั้งวัน
เป็นเพราะจากโรงเรียนมาถึงที่นี้ต้องใช้เวลามากโข
ทั้งคู่จึงตรงไปยังห้องอาหารที่มีญาติผู้ใหญ่มารออยู่ก่อนแล้ว
"ขอโทษที่ต้องให้รอครับ"คุณชายยุนโอเป็นคนที่เดินเข้ามาถึงก่อนแล้วโค้งขออภัยที่ต้องให้ผู้ใหญ่รอ
แต่ก็ไม่ได้มีใครถือสาอะไรเพราะเข้าใจกันอยู่แล้ว
จากนั้นยุนโอก็เดินเข้าไปนั่งประจำที่ของตัวเอง
เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่จะมีงานเลี้ยงเล็กๆระหว่าง
2 ตระกูลเช่นนี้
แน่นอนว่ามันต้องเคยเกิดขึ้นมาเมื่อนานมาแล้ว
นานพอๆกับตำแหน่งว่าที่คู่หมั้นที่ทางผู้ใหญ่หมั้นหมายเอาไว้ให้
แต่เหมือนอีกคนจะไม่ต้องการ
"ดูทำสีหน้าเข้า
สงสัยจะเดินทางมาเหนื่อย"ผู้เป็นมารดาเอ่ยทักลูกชายคนเล็กของตัวเองที่เดินเตาะแตะตามคุณชายยุนโอไปนั่งประจำที่ข้างกายมารดา
ดงยองค่อมหัวโค้งเกือบ 45 องศาให้แก่คนอื่นๆแล้วนั่งลง
"ได้ยินว่าคุณชายดงยองเป็นถึงรองประธานนักเรียนเลยหรือจ้ะ"
ฝ่ายแม่ของคุณชายยุนโอเป็นคนเปิดบทสนทนาเมื่อทุกคนนั่งกันเรียบร้อยทั้งหมด
"ครับ"
"ไม่ใช่แค่รองประธานนักเรียนนะครับ
ยังเป็นประธานหอพักคคนางค์ด้วย"ยุนโอเป็นเอ่ยเสริมต่อ
ด้วยตำแหน่งที่ว่าทำให้คนทั้งโต๊ะอาหารประหลาดใจไม่น้อย
เพราะตัวคุณชายดงยองเองไม่เคยบอกใครเลยแม้แต่ผู้เป็นพ่อกับแม่ และอีกอย่าง
สำหรับตระกูลของหม่อมราชวงศ์หากเป็นได้แค่คณะกรรมการนักเรียนที่ประธานนักเรียนเลือกเองแล้วก็ว่าดีถมไปเท่าไร
นี่ได้เป็นถึงประธานหอพัก และรองประธานนักเรียนอีก
"เช่นนั้นคุณชายดงยองก็คงมีเรื่องวุ่นไม่เว้นแต่ละวันเลยสิ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"
"อา
เรื่องวุ่นๆก็คงจะเป็นเรื่องของลูกชายแม่มากกว่า
วันๆเอาแต่งสร้างเรื่องปวดหัว"
"เห็นจะเป็นเช่นนั้นครับ"
คุณชายดงยองก็ไม่คิดจะปฏิเสธ แม้จะรู้ใจว่าอีกฝ่ายพูดเพื่อเอ่ยแซวพวกเขาตามประสาคนที่อยากให้คู่กัน
แต่เมื่อความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่การรักษาน้ำใจ
แต่มันคือการพูดเรื่องจริงตามแบบฉบับของคุณชายดงยอง
เป็นคนที่ชอบก็บอกว่าชอบ
ไม่ก็บอกว่าไม่ ซื่อสัตย์ มีเหตุผล และไว้ใจได้ นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหม่อมเจ้าชิตพลถึงวางใจเลือกให้มาเป็นรองประธานเพื่อช่วยแบ่งเบางาน
แม้งานภายในโรงเรียนจะไม่มีอะไรมาก
เพราะส่วนใหญ่นักเรียนทุกคนก็ทำตามกฎระเบียบเรียบร้อย
อย่างมากก็แค่เดินตรวจโรงเรียน แล้วก็เตรียมงานเอกสารเมื่อถึงเวลาที่จะมีกิจกรรม
แต่ก็ไม่ได้จัดกันบ่อยๆถึงขนาดนั้น
"เมื่อสมัยที่แม่เรียนที่โรงเรียนวังโฮฮวาก็อยู่หอพักคคนางค์
ไม่รู้ตอนนี้จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน"
"นั้นสิครับ
สมัยนั้นองค์ชายลี.. ไม่สิ ตอนนี้เขาเป็นกษัตริย์แล้วนี่
เป็นประธานนักเรียนที่ทั้งขรึม ทั้งกระล่อนไปพร้อมๆกัน องค์รัชทายาทก็ดูจะถอดแบบออกมาเต็มๆ"
"อ้ะ
จะว่าไป คุณชายยุนโอก็สนิทกับองค์รัชทายาทด้วยนี่จ้ะ"
"ครับ
เราเคยเป็นรูมเมทกันก่อนที่องค์ชายจะเป็นประธานหอธราดล
เลยต้องย้ายไปอยู่ห้องรับรองของประธานหอ"
ห้องรับรองหอพักของประธานหอจะมีอยู่ทุกหอ
เพื่อใช้เป็นทั้งห้องทำงาน และห้องพักสำหรับประธานหอแต่ละคน
โดยห้องรับรองจะอยู่ชั้นสามของหอพักทั้งหมด 6 ชั้น
เพื่อให้สะดวกเวลามีคนมาร้องทุกข์ทั้งจากชั้นบนชั้นล่าง หรือบางทีเวลาเดินตรวจหอ
แน่นอนว่าต่อให้องค์ชายจะมีห้องของตัวเองแต่ก็ชอบไปใช้ชีวิตอยู่กับหอรัตนากรมากกว่า
หอพักที่มีหม่อมเจ้าชิตพลเป็นประธาน
ดังนั้นหน้าที่รับรอบทุกข์ส่วนมากจึงเป็นหม่อมราชวงศ์ยุนโอที่จะตัดสินแก้ไขเฉพาะหน้าไปให้ก่อน
หากเรื่องใดใหญ่จริง ก็จึงจะใช้โทรศัพท์บ้านที่มีอยู่ในห้องขององค์ชายโทรไปหา
บทสนทนาย้อนวันวานของคนรุ่นเก่าคุยกันอย่างออกรสเพราะแต่ละคนก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นร่วมสมัยจบมาไล่เลี่ยกัน
คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ตกลงปลงใจแต่งงานกัน เป็นเพื่อนรักกัน
ก็เลยเกิดข้อตกลงบ้าๆของคนแก่ๆว่าอยากให้ครอบครัวพวกเขาเป็นดองกัน
แต่เพราะตระกูลคิมมีลูกชายสองคน
แต่ครอบครัวจองมีคนเดียว พอจะให้คนพี่หมั้น เจ้าตัวก็หนีไปต่างประเทศกลับมาพร้อมทะเบียนสมรสให้อีกหลายปีต่อมา
ผลจึงตกมาอยู่ที่ลูกชายคนเล็กอย่างคุณชายดงยองที่หนีไม่ทัน
ส่วนคนจากบ้างจองนั้น
ดูเจ้าตัวจะมีความสุขมากนักละ
ก็เพราะเขารักคุณชายดงยองจริงๆนี่
เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
ความประทับใจแรก หรือไปตกหลุมรักตอนไหนคุณชายยุนโอก็จำไม่ได้หรอก
แค่รู้ว่าตอนนี้รักและอยากดูแล
ถึงแม้ว่าอีกคนจะแสดงท่าที่ปฏิเสธอยู่เป็นประจำก็เถอะ
ไม่พอนะ
เวลาอยู่ที่โรงเรียนก็ชอบแสดงท่าทางกริยาเจ้าชู้ต่อคนอื่นๆไปทั่ว
บางทีหนีออกไปเที่ยวด้วยกันยังควงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเขาเลย
"ก่อนที่พวกลูกจะมา
พวกแม่ได้เริ่มคุยกันเรื่องฤกษ์หมั้นแล้วนะ แต่ต้องรออีกสักระยะเลย"
"นั้นนะสิ
แม่ละอยากให้พวกลูกหมั้นกันเร็วๆ"
จบเรื่องโรงเรียน
ก็เข้าเรื่องครอบครัว
เพราะเคยตกลงกันไว้แล้วว่าเวลาอาหารกับครอบครัวจะไม่มีการพูดเรื่องงาน
แต่ถึงอย่างนั้น พอจบเรื่องครอบครัว.. ไม่สิ อาจจะไม่จบ
เพราะเรื่องเรียนก็อาจจะกลับเข้ามาแทรกใหม่ก็ได้ เป็นแบบนี้อยู่ประจำนั้นแหล่ะ
"ผมอิ่มแล้ว
ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ"คุณชายดงยองวางช้อนส้อมลงอย่างมีมารยาทแล้วลุกขึ้นค่อมหัวบอกลา
จากไปเพียงเท่านั้น พอทุกสายตามองตามจนลับตาก็หันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่ดูท่าจะยังกินต่อเรื่อยๆ
"ตามไปสิลูก"
จนผู้เป็นแม่ต้องรีบหยิกแขนให้รู้สึกตัว
"อ..อะไรอ่ะ ผมยังไม่อิ่มเลย"
"ตามไปก่อน
เดี๋ยวแม่บอกให้แม่ครัวเก็บไว้ให้"
"ซะงั้นอ่ะ"
แต่หม่อมราชวงศ์ยุนโอก็ลุกเดินตามไปอยู่ดี
"จริงๆแล้วคุณชายไม่จำเป็นต้องตามออกมาเลยนะ"
คำกล่าวน้ำเสียงเรียบเฉยราวกลับเป็นการไล่กลายๆ จากหม่อมราชวงศ์ดงยอง
สองขาที่เดินตามเส้นทางไม่ยาวมากเพื่อตรงเข้าไปในห้องของตัวเอง
ตามด้วยร่างสูงใหญ่กว่าของอีกคนที่เดินหน้ามุ่ยตามมาแทบจะเรียกว่าติดๆ
"ผมอยากมานี่"
"แต่ผมไม่อยากให้มานี่"
คุณชายดงยองเปิดประตูเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของตน ก้าวขาเข้าไปแล้วหันกลับมามอง
แววตา สีหน้า ท่าทางแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจสักเท่าไร
แต่สำหรับคนมองก็แทบจะเคยชินกับมันแล้วละ
"กลับไปเถอะ
ผมจะพักผ่อน"คำพูดที่ยังดูมีการรักษาน้ำใจจากคุณชายดงยอง
ทั้งๆที่จริงอยากจะออกปากไล่ไปเสียให้พ้นๆสักที
ไม่เคยชอบใจเลยสักครั้งที่คุณชายยุนโอเอาแต่ป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่รอบๆแบบนี้
"ผมอยากพักด้วย"
ความดื้อคงไม่มีใครเกิน แม้บานประตูที่เปิดจะแง้มเอาไว้
เผยให้เห็นเพียงร่างของเจ้าของห้อง ที่พร้อมจะปิดประตูใส่หน้าได้ทุกเมื่อ
แต่หม่อมราชวงศ์ยุนโอก็ยังยืนชิดประตูอย่างไม่กลัวว่าถ้าเกิดอีกฝ่ายปิดประตูมา
จนฟาดหน้า ฟาดตัวจนต้องเจ็บแน่ๆ
"งั้นคุณก็ไปพักที่ห้องของคุณ"
"ผมอยากพักห้องนี้"
พูดไปแล้วก็พยายามแทรกตัวเข้าไปอีก
แต่เพราะคุณชายดงยองออกแรงเกรงเอาไว้จนแทรกเข้าไปมากกว่านี้ไม่ได้
พลั่ก
ยื้อแย่งกันอยู่แบบนั้นจนเส้นความอดทนบางๆขาดผึง
หม่อมราชวงศ์ดงยองปล่อยมือจากบานประตูแล้วยกขึ้นมาจะผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นๆเสียที
แต่กลับโดนรู้ทันเมื่อคุณชายยุนโอจับเข้าที่ข้อแขนแล้วดันตัวเองแทรกเข้าไปในห้องได้สำเร็จ
บานประตูปิดลงหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาในห้อง
สีหน้าที่พยายามรักษาเอาไว้ตอนนี้แทบจะกลายเป็นหน้ายักษ์หน้ามาร
แววตาเกรี้ยวโกรธจนแทบจะเห็นเป็นเปลวไฟอยู่ด้านใน
"ออกไป"
"ไม่"
"ผมบอกให้ออกไปไง"
"ผมบอกว่าไม่ไง"
"อย่ามากวนอารมณ์ผมนะ
คุณมันแย่"ถึงอย่างไร ก็ไม่เอ่ยคำพูดที่ไม่สุภาพ เพราะถูกเลี้ยงสั่งสอนมาดี
จนคำบางคำหากได้เผลอหลุดปากพูดไปครั้งหนึ่ง ครั้งต่อไปก็คงตามมาอีกเรื่อยๆ
"ผมไม่เข้าใจ
ทำไมคุณถึงไม่ชอบผม"
"คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ
แค่รู้ว่าผมไม่ชอบคุณ และไม่มีวันจะชอบคุณเท่านั้นก็พอ" คำพูดที่นิ่ง สงบ
แต่เยือกเย็นจนเป็นเหมือนลิ่มน้ำแข็งที่ตอกเข้าไปในใจคนฟัง ไม่รื่นหูเลยสักนิด
ทั้งๆที่พยายามแสดงออก ทุกอย่าง สิ่งที่ได้รับไม่ควรเป็นเช่นนี้เลย
นึกเหตุผลไม่ออกจริงๆ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้
"ผมชอบคุณ"ไม่ใช่ครั้งแรก
เป็นหลายๆครั้งที่หม่อมราชวงศ์ยุนโอพยายามบอก บอกเท่าไร
แต่ก็เหมือนจะไม่เข้าไปในหู เข้าไปในใจคุณชายดงยองเลยสักนิด
"เรื่องของคุณสิ
ผมไม่ได้ชอบคุณ"
"อืม..
งั้นก็เรื่องของคุณสิ ผมก็ยังชอบคุณอยู่ดี"
หม่อมราชวงศ์ยุนโอหลับตาลงแล้วย้อนคำพูด แล้วมันจะทำไมหากจะชอบใครสักคน
ถึงจะบอกว่าไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลว่าเขาจะชอบน้อยลงหรือเลิกชอบนี้
คำพูดที่บอกว่าชอบ
เอ่ยออกมาง่ายๆ หลายๆครั้ง จากคนที่ไม่น่าไว้ใจ
สำหรับคนที่เชื่อใจใครได้ยากแล้วอย่างหม่อมราชวงศ์ดงยองนั้น
ไม่มีเลยสักครั้งที่จะเชื่อคำบอกจากหม่อมราชวงศ์ยุนโอ
เพียงแค่ผู้ใหญ่เอ่ยปากบอกอยากให้พวกเขาหมั้นกัน
อีกฝ่ายก็ดูระริกระรี่แล้วแสดงท่าทีราวกับกำลังแข่งขันอยากเอาชนะ บอกว่าชอบ
ก็ยังใช้คำว่าชอบกับคนอื่นทั่วไป
เช่นนั้นจะให้เชื่อลมปากจากคนไม่มีสัจจะได้อีกหรือ
หากเปรียบกับองค์ชายรัชทายาทที่ไม่จำเป็นต้องบอกว่ารักหม่อมหลวงชิตพลเลยแต่การกระทำ
สายตา และท่าทางการแสดงออกหลายๆอย่างมันทำให้เชื่อ แม้แต่ที่อยู่นอกเกมมองเข้าไปยังความรักของทั้งคู่ยังรับรู้และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
และความรักของทั้งคู่
มันเทียบไม่ได้เลยกับคนที่เมื่อวานยังบอกรักคนนี้
แล้ววันนี้จะมาบอกว่าชอบกัน
เป็นคนปลิ้นปล้อนประเภทที่หม่อมราชวงศ์ดงยองเกลียดที่สุด
"ถึงอย่างไรผมก็ไม่เคยคิดพิศวาสคุณชายเลยสักครั้ง
เพราะฉะนั้นออกไปจากห้องของผมได้แล้ว"
"ทำไม.."
"อะไร"
"ทำไมคุณชายถึงผลักไสผมตลอดเวลา"
ในที่สุดก็เอ่ยถาม คำถามที่วนเวียนอยู่ภายในใจตลอดเวลา ไม่เข้าใจ
และไม่เคยเข้าใจเลยสักครั้ง ความเงียบและอากาศที่เริ่มเย็นตัวลง เข้าสัมผัสผิวกายจนแทบจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่แม้จะอยู่ด้วยกันกับคนที่เรารัก
แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจมันรู้สึกเหงาและเหน็บหนาวเพียงใด
"ทำไมคุณชายไม่ลองให้โอกาสผมบ้าง"
น้ำเสียงเกือบจะตัดพ้อ แม้แต่แววตาก็ยังเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ
แต่ก็ยังไม่มีทีท่าที่หม่อมราชวงศ์ดงยองจะแสดงอาการอะไรไปมากกว่ายืนมองเฉยๆ
"..."
"คำบอกรักที่ผมบอกคุณชายเสมอ
มันไม่เคยเข้าไปอยู่ในใจคุณชายเลยใช่ไหม"
"คุณชายถึงไม่เชื่อมัน"
"ไม่เชื่อใจผม"
ความเงียบและเย็นชา
จนจิตใจห่อเหี่ยว รู้สึกเปล่าเปลี่ยวใจแต่ความรู้สึกก็มาไกลเกินกว่าจะให้เดินถอยหลังกลับ
แต่แล้วเจ้าของห้องก็เพียงสะบัดหน้าเล็กน้อยและแสดงท่าทีไม่แยแสเลยสักนิด
หม่อมราชวงศ์ยุนโอยิ้มบางๆ
ก้มหน้ามองพื้นแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"อย่างไรก็คงไม่เชื่อกันสินะ"
"..."
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ"
"ยังไงคุณชายก็จะเป็นภรรยาในอนาคตของผม"
ร่างสูงก้าวขายาวเข้าประชิดตัวแล้วโน้มลงประทับริมฝีปากลงบนส่วนเดียวกัน
เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ผละออกแล้วเดินออกจากห้องพักส่วนตัวของเจ้าบ้าน
"วันนี้เหนื่อยแล้วคุณชายพักผ่อนเถอะ"
แต่บางทีก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าใครกันแน่ที่เหนื่อยกว่า
-------------------------
หอพักจากหินอิฐขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่บริเวณหลังเขาเป็นส่วนของที่พักนักเรียนของโรงเรียนวังโฮฮวา
ต้นสนและต้นไม้ขนาดใหญ่แผ่อาณาเขตปกคลุมเป็นร่มเงาให้ แต่ในยามวิกาลเช่นนี้ก็ดูน่ากลัวเช่นกัน
ภายในห้องพักรับรองของประธานหอพักคคนางค์
ร่างสูงเพรียวของเจ้าของห้องกำลังนั่งเขียนรายงานการบ้านทีต้องทำส่งอาจารย์ในอีกไม่กี่วัน
ความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงเครื่องเล่นเพลงสบายๆ ที่เปิดคลอเบาๆ
ไม่ให้ในห้องมันเงียบจนเกินไป
แม้ภายนอกจะดูเป็นคนแข็งๆ
และเย็นชา แต่ความจริงแล้วกลับเป็นคนที่ไม่ชอบความเงียบ แม้จะอยู่คนเดียว
แต่ก็ยังต้องมีอะไรให้รู้สึกถึงตลอดเวลา
พรึ่บ
"
!!!! "
ฉับพลันที่ความสว่างทั่วทั้งโรงเรียนถูกดับลงราวกับว่ามีคนสับคัตเอาต์ลงในคราเดียว
ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือกจนใจแทบร่วง สั่นสะท้าน
ดวงตากลมเบิกกว้างพยายามมองให้เห็นแม้ในที่มืดแต่ก็ไม่เป็นผล
คนที่ไม่ชอบความเงียบ
ก็ไม่ชอบความมืดเช่นกัน
ความมืดมักมาพร้อมความเงียบเช่นนี้
เงียบจนแทบได้ยินเสียงของลมลู่ใบไม้จากภายนอก มือเท้าเย็นเฉียบ นั่งนิ่งอยู่กับที่เพราะขยับไม่ออก
ความกลัวแล่นเข้าจับขั้วหัวใจจนน้ำตาแทบไหลออกมาแต่ไม่มีเสียงสะอื้น
เพราะประธานหอจะได้ห้องพักรับรองส่วนตัวของตัวเองคนเดียว
ยิ่งรับรู้ถึงข้อนี้ก็ยิ่งตอกย้ำเข้าภายในใจว่าภายในห้องแสนกว้างและมืดจนเงียบสงัดเช่นนี้
มีเพียงเขาที่อยู่คนเดียว
ครืดดดดด
ร่างทั้งร่างสะดุ้งแล้วหันไปมอง
แม้แต่แสงจันทร์ยังไม่เป็นใจ เมื่อถูกเมฆบดบังรัศมีไปกว่าครึ่ง
กิ่งไม้ที่ครูดกับหน้าต่าง และลมที่พัดปลิว ยิ่งอยู่ในป่าเขาเช่นนี้แล้ว
เงาต้นไม้สีดำและบรรดากิ่งก้านสาขาก็กลายเป็นปิศาจร้ายที่กำลังอาละวาดอยู่ภายนอก
กลัว
กลัวจนร้องไม่ออก
ใครก็ได้
ช่วยที
------------------------------
100%
หายไปแต่งเรื่องอื่นมา ขอโทษค่ะ U_U ไม่รับปากว่าจะกลับมาปั่นเรื่องนี้จริงจัง เพราะก็แต่งวนๆไปนี่แหล่ะค่ะ ไม่มาเรื่องนี้ก็ไปโผล่เรื่องโน่นเนอะ ติดตามกันได้นะ 555555555555
เพราะคุณชายยุนโอเครดิตไม่ดีไงเลยไม่เชื่อ พอไม่เชื่อก็เลยเป็นเหมือนกำแพงปิดกั้นใจไม่ให้รัก
#โรงเรียนวังโฮฮวา
@MelloPizery
ความคิดเห็น