ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Farentel magic Library ฟาเรนเทล ห้องสมุดมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 4 บาปทั้ง7 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 57


    บทที่ 4

    บาปทั้ง 7

          หลังจากที่ลีเวลตัดสินใจกลับเข้าไปตรวจทานหนังสือต้องห้ามก็พบว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งหายไป และหนังสือที่หายไปนั้นเป็นหนังสือที่ร้ายแรงมากด้วย ถ้าได้ตกไปอยู่ในมือคนชั่ว แน่นอนว่าหายนะได้มาเยือนหอสมุดในอีกไม่นานนี้แน่ และเธอก็มันใจเรื่องที่หนังสือจะไปอยู่กับพวกหัวหน้าทรอยด์เป็นแน่ เพาะฟังจากที่หญิงสาวคนนั้นบอก หนังสือเล่มนั้นต้องอยูในมีของพวกทรอยด์และมันคงเปิดออกมาใช้กับคนใกล้ตัวของลีเวลแน่ๆ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รู้จักกับลีเวลมาก่อน ทำให้ลีเวลสงสัยว่ามันใช้เกณฑ์อะไรคัดเลือก”มันใช้อะไรเลือกกันแน่นะ ความเหมาะสมหรือคนใกล้ตัว...?”ลีเวลเอยกับตัวเองเบาๆในขณะที่ยืนเก็บหนังสืออยู่เพียงคนเดียวในหอสมุดฝังตะวันตก”ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว”ลีเวลเอ่ยเบาๆก่อนจะหยิบหนังสือเล่มสุดท้ายเก็บเข้าชั้น

            ลีเวลใช้เวลลาทั้งวันหมดไปกับกาเก็บหนังสือฝั่งตะวันตกและตะวันออก ทำให้ไม่ได้ไปประจำที่เคาน์เตอร์รวมถึงการเห็นวิวสวยๆของเมเคียและโยมิที่ตอนนี้เข้ามานั่งกระหนุงกระหนิงกันในหอสมุดเป็นชั่วโมง นอกจจากที่ลีเวลจะเก็บหนังสือ เธอยังต้องคัดลอกตำราเรียนที่มีคนทำเปื้อนไปหน้าหนึ่งเต็มๆแน่นอนว่าคาปรับนั้นทำให้คนๆนั้นไม่กล้าทำหนังสือพังอีกเลย”ทำยังให้ให้มันเปื้อนไปขนาดนี้ สาดน้ำใส่หรือยังไงกันนะ”ลีเวลเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“บ่นอะไรจ๊ะ...ทำงานเป็นบรรณารักษ์ก็ต้องทนทานต่อสภาพแวดล้อมและงานที่ทำนะ เข้าใจไหม?”วาเซียเอ่ยในขณะที่มือนั้นก็แบกหนังสือเล่มโตหลายเล่มก่อนวางละตรงหน้า”งั้นถ้าเธอจะต้องไปทำงานกลางถ้ำหิมะแล้วก็ไม่มีๆฟ แถมยังจะต้องคัดลอกหนังสือสักสามเล่ม เธอจะทนไหวไหม?”ลีเวลยิ้มอย่างกวนๆก่อนจะก้มลงทำงานต่อ”นั่นก็เกินไป คนอะไรจะทนทานเป็นสีทาบ้านตราเมทเทรกกันล่ะยะ!? ไม่เอาแล้วไม่คุยกับเธอดีกว่า ฉันไปทำงานแล้วนะ”วาเซียยิ้มให้กับลีเวลก่อนจะเดินออกไปจากห้อง”จะว่าไป ใช้เวทย์ชวยมันไม่ง่ายกว่าหรือไงนะ”ลีเวลเอ่ยพลางร่ายวงเวทย์ขึ้นก่อนจะปล่อยให้มันลอยเข้าไปในหนังสือ การกระทำทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของบารอนทั้งหด วงเวทย์ที่สร้างได้อย่างสมบูรณ์ หลังเวทย์นั้นก็มีความอ่อนโยน ไม่เหมือนกับพลังเวทย์ทั่วๆไป”สมแล้วที่เป็นลูกสาวของวิซิจ ใช้พลังเหมือนพ่อไม่มีผิด ลูกไม้หล่นใต้ต้นจริงๆเด็กคนนี้...”บารอนพูดกับตัวเงเบาๆ ความจริงเขาก็เคยมีลูกสาว...แต่ว่าการเกิดของภูติที่มีพลังมากๆแบบนี้มีโอกาสน้อยมากที่จะรอด บ้างก็เกิดมาแล้วตายเลย บ้างก็ตายตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่ในกรณีของบารอน ลูกสาวของเขาตายเพราะพลังที่มีมากจนรางกายับไม่ไหว ร่ายการของภูติถูกสร้างมาให้ปรับเข้ากับพลังที่ใช้ แต่ว่าร่างบางร่างนั้นกต่อต้านพลังที่ได้รับทำให้ร่างกายต้องต่อสู้กับพลังของตนเอง ภูติบางตนที่โชคดีจะสามารถอยู่รอด แต่บางคนที่โชคร้ายก็ต้องจบชีวิตลงเหมือนกับลูกสาวของเขา บารอนคิดว่านั่นคงเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการ และเขาก็น้อมรับคำบัญชาของพระเจ้าแต่โดยดี....

    ฟึบ! ภาพแปรเปลี่ยนเป็นควันที่เทาลอยฟุ้งทั่วกระจกบานใหญ่ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นภาพของลูกไฟหลายสี”ลูกไฟแห่งบาป! มันหลุดไปได้ยังไงกัน!?”เมื่อเห็นเช่นนั้น บารอนก็เรียกประชุมบรรณารักษ์ทั้งหอสมุด บารอนมีคำสั่งให้ปิดหอสมุดแบบไม่มีกำหนดเปิด จนกว่าจะหาลูกไฟทั้งหมดครบเขาจะไม่เปิดทำการหอสมุด

        ตั้งแต่เข้าประชุมมามีเพียงลีเวลที่เงียบและไม่ออกความคิดเห็นใดๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าลูกไฟพวกนั้นอยู่ที่ไหน เธอกำลังคิดอยู่ว่าควรจะบอกความจริงบารอนตอนนี้เลย หรือจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นจัดการสืบเรื่องนี้”ลีเวล เธอไม่มีความคิดเห็นหน่อยเลยหรอ”ซีเวลมองหน้าลีเวลที่นั่งเงียบอยู่ตั้งแต่เริ่มต้น”ฉันมีเรื่องจะบอก....คือฉันรู้แล้วว่าลูกไฟอยู่ที่ไหน...”หลังจากได้ยินคำพูดของลีเวล ทุกคนก็ทำหน้าตื่นตะลึงและคิดไปต่างๆนาๆ”วันนั้น...ฉันสู้กับผู้หญิงคนนั้น เธอมีลูกไฟริษยา ฉันจำได้....”ลีเวลอธิบาย”เธอแน่ใจว่านั่นคือลูกไฟ ไม่ใช่พลังที่แผ่ออกมา”ลีเวลพยักหน้าเป็นคำตอบ”ผู้หญิงคนนั้นพูดถึงพวกทรอยด์...หนังสือน่าจะอยู่กับพวกมัน ลูกไฟทั้งหมด น่าจะอยู่กับสามัญชนทั่วไป และอาจมีบางอย่างเกี่ยวกับตัวฉัน...”ลีเวลมองหน้าทุกคนก่อนจะสรุปเรื่องราวให้ทุกคนฟัง”สรุปเลยนะ พวกมมันอาจจะต้องการตัวฉัน แตมันเข้มาที่หอสมุดไม่ได้ มันก็เลยหาคนที่เครู้จักหรือคุยกับฉัน ส่วนผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นเพื่อนของเมเคีย...เขาเป็นลูกค้าประจำของเราและมักจะเจอฉันประจำ เราคุยกันและค่อนข้างที่จะสนิทกัน...มันอาจจะให้ความริษยาของผู้หญิงเป็นทุน แล้วก็หว่านล้อมนิดหน่อยแค่นี้มันก็ไม่ต้องเปลืองแรงมาจัดการฉันเอง ลูกไฟมีตั้งเจ็ดลูก ถ้ามาพร้อมกัน ฉันก็คงต้านไม่ไหวหรอก...”หลังจากลเวลสรุปจบ ทั้งหมดก็วางแผนกันเพื่อที่จะล่อให้พวกนั้นมาติดกับ แต่หารู้ไม่ว่าแผนที่วางไว้เป็นเพียงแค่แผนหลอกๆ เพราะแผนจริง ลีเวลนั้นได้ไปวางแผนกับบารอนทีหลัง และเขาก็คิดว่าแผนของลีเวลนั้นดีกว่าแผนเก่าที่วางไว้

     

              สายลมหนาวยามค่ำคืนพักมาทำให้คนที่ไม่ชินกับความเย็นเสียเทาไห่ถึงกับต้องใส่เสื้อกันหนาวนอนแล้ว ลมหนาวเริ่มพัดมาเรื่อยๆและดูจะหนาวขึ้นทุกวัน ที่นี่ร้อนน้อยหนาวมากทำให้สองพี่น้องต้องปรับตัวกันยาว ส่วนพวกที่อึด ถึก ทน(?)กันอยู่แล้ว เขาบอกกันมาว่าเป็นอากาศสบายๆ จะหนาวก็หิมะตกนั่นละถึงจะเรียกว่าหนาวกัน”หนาวจนจะตายอยู่แล้ว...กุมพาหิมะตก แล้วเราจะทำงานยังไงละเนี่ย ยิ่งแพ้อากาศเย็นอยู่ด้วย”ลีเวลพูดด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ เธอเกลียดอากาศเย็นเพราะมันมักจำทำให้พี่สาวเธอไม่สบายและแน่นอนเธอเองก็เป็นด้วยแต่นานๆทีจะเป็นไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน”ถ้าเกิดอากาศในห้องมันอุ่นขึ้นมาหน่อยก็คงจะดีสินะ.....”ร่างบางนั่งบ่นกับตัวเองก่อนที่จะเดินไปเติมถ่านให้ในเตาผิงที่จวนจะหมด

          ลีเวลกลับไปนั่งบนโต๊ะทำงานและนั่งเหม่อมองไฟที่กำลังลุกขึ้นมาอีกครั้ง ลีเวลนั่งคิดถึงเรื่องแผนการแล้วก็อดหวั่นใจไม่ได้ ถึงจะมั่นใจในแผนที่รัดกุม แต่ก็คิดว่าถ้ามีหนอนบ่อนไส้  การที่เธอมาวางแผนกับบารอนในครั้งนี้ก็ถือว่าดีแล้ว....”พรุ่งนี้แล้วสินะ...”

     

             ลีเวลมองนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงครึ่ง หอสมุดดูเงียบเหงาขึ้นมาทันใดมีเพียงเสียงลมอ่อนๆของลมหนาวที่ฟาเรนเทล ลีเวลหวนนึกถึงคำที่แม่สอนเธอตลอดเวลาว่าอย่าคิดว่าทำไม่ได้ ถ้าเราไม่ลองทำลีเวลกำลังกังวลถึงเรื่องแผนการที่เธอต้องเดินทางคนเดียวในคืนนั้น โดยที่พรุ่งนี้เช้าบารอนจะช่วยให้ทุกคนตามไปที่นั่นและชิงลูกไฟคืน แต่เธอก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ว่าถ้าเกิดเธอทำไม่สำเร็จ การลงมือชิงลูกไฟครั้งต่อไป...มันจะยากกว่าเดิม

    “เป็นอะไรลีเวล เครียดกับเรื่องแผนหรอ?”ไลลาถามน้องสาวที่นั่งมองนาฬิกาตั้งแต่เช้า”ไม่...ไม่เลย”ลีเวลตอบคำถามโดยไม่หันมามองหน้าพี่สาว”ถ้าเธอไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ทำเองก็ได้”ลีเวลมองหน้าพี่สาวหลังจากคำพูดของพี่สาวสิ้นสุดลง เธอส่ายหนาก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่สวน

     

           เย็นมากแล้ว ทุกคนก็เริ่มต้นลงมือรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว ก็มแต่ลีเวลที่ไม่ยอมแตะอาหารเย็นทั้งๆที่มื้อนี้เป็นอาหารที่ลีเวลชอบที่สุดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่”ไม่สบายหรือ? ทำไมไม่แตะอาหารเลย?”ลิว่าถามพลางเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ”ขอตัวนะคะ รู้สึกไมค่อยอยากอาหารเท่าไหร่...”ลีเวลว่าก่อนจะค่อยๆลูกออกจากโต๊ะอาหารโดยมีสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอ”ลีเวล...มีอะไรก็อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวนะ...อย่าซ่อนความรู้สึก ฉันรู้สึกไม่ชอบเลยเวลาที่ฉันอ่านใจใครแล้วอ่านไม่ออก”ซีเวลยิ้มก่อนที่จะลงมือทานอาหารต่อ”อืม...”ลีเวลตอบสั้นๆก่อนเดินออกไปจากตรงนั้น

           ในกระเป๋าเป้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มีของทีต้องใช้ในการเดินทางทั้งน้ำ อาหรเล็กน้อยและอุปกรณ์อีกมากมายสำหรับเดินทาง ลีเวลเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงเพื่อที่จะได้เดินได้อย่างถนัดยิ่งขึ้น”แค่นี้คงพอแล้ว....”ลีเวลวางมือจากกระดาษจดหมายแล้วจัดการใส่มันลงในซองที่มีตราหอสมุดแล้ววางไว้บนโต๊ะทำงาน”ถ้าแผนสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นผลงานของคุณก็แล้วกันนะ”ลีเวลว่าก่อนที่จะหยิบเป้ขึ้นสะพายแล้วปีนลงข้างๆหอสมุดแล้วออกอย่างไม่มีใครสังเกต

         เพราะมันเย็นมากแล้วรถโดยสารที่จะไปยังสถานีรถไฟก็ยิ่งหายาก รถไฟเป็นทางเลือกเดียวที่เธอพอจะมีเงินจ่ายไหว เพราะเงินที่บารอนให้มาเป็นค่าเดินทางและอาหารก็ไม่ได้มากมายอะไร ก็แค่พอที่จะเดินทางขึ้นเหนือไปได้ สวนเรื่องอาหารและน้ำก็ยังพอมีติดกระเป๋า เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องซื้อให้เปลืองเงิน ลีเวลไม่ค่อยกินอะไรอยูแล้ว เพาะฉะนั้นเงินสำหรับอาหารก็คงพอจะแบ่งๆออกมาจ่ายค่ารถได้

         โชคดีของลีเวลที่มีคุณลุงใจดีไปส่งเธอที่สถานีรถไฟโดยไม่คิดเงินทำให้เธอไม่ต้องจ่ายค่ารถโดยสาร หลังจากขอบคุณและลาคุณลุงเสร็จลีเวลก็ไปทันตั๋วใบสุดท้ายที่จะขึ้นเหนือพอดิบพอดี”โชคดีนะเนี่ย ตั๋วใบสุดท้าย...เห้ย! ตายแล้ว เหลือเวลาอีกแค่ห้านาที”ลีเวลรีบวิ่งขึ้นรถไฟและพบวามันเหลือตู้ที่นั่งเพียงตู้เดียว และถ้าเธอต้องกาความเป็นส่วนตัว มันก็เหลืออยู่เพียงแค่นั้น ลีเวลรีบโดยประเป๋าเข้าไปก่อนจะวิ่งเข้าไปนั่งในนั้น ลีเวลค่อยๆปิดประตูลง”ฟู่ว...”ลีเวลพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะนั่งลง”แล้วจะเอาไงต่อดี นั่งไปถึงนั่น...”ลีเวลวาพลางหยิบแผนที่ข้างๆที่นั่ง เมื่อมองปลายทางแล้วหันไประยะเวลาทำให้ลีเวลเบิกตาโพลง”หกชั่วโมง! ให้ตายเถอะ!...ว่าแต่คงไม่เป็นไรหรอก...อีกตั้งนานกว่าจะเช้า เราเองก็พักหน่อยดีกว่า”ลีเวลว่าก่อนจะเอนตัวลงนอนดดยใช้กระเป๋าเป็นหมอน....

            ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆ ลีเวลตื่นมาเพราะเสียงกระเป๋ารถไฟมาปลุก ลีเวลสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากตู้รถไฟ ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาดึกมากแล้วแต่นี่ก็ยังมีผู้คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะเป็นมนุษย์ครึ่งภูติกันทั้งนั้น”แล้วเราจะไปยังไงต่อละเนี่ย?”ลีเวลเอ่ยกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินออกจากสถานีรถไฟ....

    โชคดีของลีเวลที่ยังพอมีโรงแรมเหลืออยู่บ้างเธอจึงตัดสินใจจะพักที่โรงแรมก่อนออกเดินทางลุยพรุ่งนี้ เธอไม่คิดว่าการลอบเข้าไปที่นั่นตอนนี้เป็นเรื่องที่ควรเพราะเธอคิดว่าเป็นการผลาญพลังงานและทำให้ศัตรูรู้แผนการเสียเปล่าๆ สู้พักเอาแรงแล้วค่อยลุยพรุ่งนี้ทีเดียวก็คงไม่เป็นไร เพราะกว่าพวกนั้นจะรู้ว่าเธอหายไปก็สายๆนู่น กวาจะมาถึงที่นี่ก็คงเย็นและแน่นอนว่าเธอจะปฏิบัติการพรุ่งนี้ ไม่มีใครตามหาเธอพบแน่ๆ....

    แกร๊ก! ซ่า....! เสี่ยงของน้ำที่กระทบกับพื้นกระเบื้องชั้นดี ร่างบางนั่งลงบนอ่างอาบน้ำข้างๆฝักบัวแล้วเหม่อมองสายน้ำที่ไหลไปเรื่องๆ”สายน้ำกับชีวิตคน มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่เลยนะ...ไหลไปๆไม่มีวันกลับ”ลีเวลนั่งพึมพัมกับตัวเองก่อนจะไปอาบน้ำ

         หลังจากอาบน้ำเสร็จร่างบางก็มานั่งดูแผนที่ท่องเที่ยวที่ได้จากตอนลงจากรถไฟ เธอสงสัยอยู่ว่าทำไมแถวๆแถบเหนือของที่นี่ทำไมมันถึงโล่งไม่มีแม้แต่ที่ท่องเที่ยวเล็กๆเลย คาดว่าที่นั่นน่าจะเป็นรังของพวกมันแน่นอนแต่วิธีการไปนี่สิ ต้องนั่งรถไฟไปอีกหนึ่งเที่ยว และระยะเวลาในการนั่งก็ตั้งหนึ่งชั่วโมง รอบรถก็มีน้อย ทำให้ลีเวลมั่นใจว่าที่นั่นต้องเป็นที่อยู่ของพวกมันเหลือก็แต่เธอแล้ว ว่าจะกล้าไปหรือเปล่า

    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ร่างบางที่นั่งเครียดอยู่บนเตียงหันไปมองต้นเสียงก่อนจะเดินไปเปิดประตูและพบกับเด็กน้อยตาสีแดง ผมสีทองยาวถึงกลางหลัง และพูดกับเธอว่า”พี่สาวคะ....พี่สาวรู้มัยคะว่าห้องอาหารไปทางไหน?”ลีเวลส่ายหน้าก่อนจะค่อยๆปิดประตูแต่ถูกเด็กคนนั้นดึงไว้ และแรงที่ดึงก็ไม่ใช่แรงเด็กด้วยแรงเยอะกว่าเธอมากเลย”หนูเป็นใครคะ!?”ลีเวลเปิดประตูมาถามเด็กน้อยด้วยสีหน้าที่สงสัยปนตกใจ”อะไรกัน ไม่ได้เจอกันเดี๋ยวเดียว ลืมฉันเสียแล้วหรือ?”เด็กน้อยกลายร่างเป็นชายร่างสูง”เมวิล! คุณมาที่นี่ได้ยังไง?!”ลีเวลเบิกตาโพลงเมื่อเห็นร่างของเจ้าชายตัวดีที่ตามเธอมาได้ยังไงก็ไม่รู้ ไหนจะที่อยู่นี่อีก”ฉันรู้จากบารอน...เขาขอให้ฉันตามมาช่วยเธอ เขากลัวว่าเธอจะต้านพวกมันไม่ไหว”เมวิลเอ่ยพลงมองหน้าแล้วก็หยิบกระเป๋าที่แอบไว้ที่ข้างๆกำแพง”ให้ผมเขาไปได้หรือยังล่ะ?”ลีเวลมองหน้าร่างสูงเล็กน้อยก่อนจะหลีกทางให้เจ้าชายตัวแสบที่แอบตามเธอมาได้เข้ามาในห้อง โชคดีที่มีสองเตียง ทำให้เธอไม่ต้องมาทนนอนเบียดกับเขา”เอายังไงต่อ จะลุยพรุ่งนี้หรือคืนนี้”ลีเวลส่ายหน้าก่อนจะตอบไปพร้อมกับสีหน้าเอือมระอาเล็กน้อย”ไม่ลุยวันนี้ ถ้าลุยวันนี้เราก็ไม่ชนะสิเรี่ยวแรงยิ่งไม่มีอยู่”เมวิลมองหน้าก่อนพยักหน้าเบาๆแล้ว....ล้มตัวลงนอน

    “เห้ย! อาบน้ำก่อนสิยะ! ฉันทนนอนกับคนไม่ได้อาบน้ำไม่ได้หรอกนะยะ!”ลีเวลตวาดเสียงดัง เสียงแหลมๆตามประสาหญิงสาวกระทบเข้ากับโสตประสาทของเจ้าชายตาแดงอย่างจัง”อะไรกันเนี่ย! ผมเดินทะลุมิติมาจะมาอาบนงอาบน้ำอะไรเลา เพิ่งอาบมาเนี่ย ไม่เชื่อก็เข้ามาดมเลย เนี่ย!”หนุ่มตาแดงลุกขึ้นพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ลีเวลที่พยายามรักษาระยะห่างเอาไว้แล้วทำจมูกฟุดฟิดก่อนจะกลับไปนั่งที่เตียงของตน”แล้วก็ไม่บอกว่ามีประตูมิติ ฉันจะได้ไปยืมใช้...”ลีเวลบ่นเบาๆก่อนจะปิดโคมไฟที่หัวเตียงแล้วค่อยๆหลับ ทิ้งให้เจ้าชายตาแดงนอนมองเธออยู่

    ”ถ้าฉันไม่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว...ก็ดีสินะ ลีเวล...”เมวิลมองร่างของหญิงสาวที่สวมชุดนอนมิดชิด ไม่เหมือนกับพวกสาวๆที่เขาเคยเห็น ลีเวลถือเป็นผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวเสียจริงๆ”อยากรู้จริงๆว่าแม่เธอลี้ยงเธอมายังไง...ทำไมถึงมีอธิพลต่อชีวิตฉันมากขนาดนี้...”หลังจากนั้นเจ้าชายตาแดงก็ค่อยๆหลังลง...

        เช้าวันใหม่ ลีเวลตื่นมาพร้อมอากาศที่สดใส แต่ที่น่าสงสัยก็คือ...หนุ่มตาแดงที่แอบตามเธอมาเมื่อคืนหายไป! ถ้าเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนธรรมดาเธอจะไม่คิดตามหาดีไม่ดีปล่อยทิ้งไว้ที่นี่โดยไม่สนใจเลยเสียด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นถึงเจ้าชายรัชทายาท หายไปเธอได้โดนประหารชีวิตก่อนได้รับเกียรติบัตรบรรณารักษ์แน่“หายไปไหนของเขากันเนี่ย...รู้ไหมเนี่ยว่าจะต้องรีบทำงาน”ลีเวลเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะได้ยินเสยงของประตูที่เปิดออกพร้อมกันร่างของชายหนุ่มร่างสูงที่ถือถึงกระดาษเต็มไม้เต็มมือ”บ่นอะไรครับคุณผู้หญิง?”ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆก่อนจะค่อยๆเดินเอาของมาวางบนโต๊ะขนาดเล็ก”ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเถอะ...ต้องใช้แรงไม่ใช่หรือ อีกอย่างพวกนั้นคงรู้แล้วว่าเอหนีมาที่นี่ เธอควรจะรีบกินแล้วรีบไปกันได้แล้ว ถ้าโชคดีพวกทหารจะไม่ให้พวกเขาใช้ประตูมิติ”หนุ่มตาแดงยิ้มให้กับลีเวลก่อนจะหวนนึกไปถึงตอนที่ตนเองยังเด็ก...

           เขาจำได้ว่าตอนที่เขาอายุสามขวบ เขาเคยไปร่วมฉลองงานวันเกิดของลูกสาวคนที่สองของท่านวิซิจเขาจำได้ติดตาว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นมีผมสีทองตาสีเขียวแต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่ลีเวลหรือเปล่า เพราะเขาจำพี่สาวของเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ แต่โดยปกติเด็กที่เกิดมาจากพ่อและแม่ที่มีเวทย์ระดับสูง...มักจะมีโอกาสรอดน้อยมาก ดีไม่ได้หลังจากตอนที่หอสมุดโดยบุกรุก เด็กคนนั้นอาจจะตายไปแล้วก็ได้

     

         บางทีหนุ่มตาแดงอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าจิตของเขาได้ผูกกับเด็กทารกคนนั้นตั้งแต่เจอกันครั้งแรก คู่แท้ของชีวิตของชาวฟาเรนเทลนั้นจะมีวงแหวนเวทย์ และมันจะผูกจิตกับคู่แท้เมื่อหากันเจอและถึงแม้ทั้งสองจะไกลขนาดไหน ทั้งสองก็จะกลับมาพบเจอกันอีก วงแหวนของแต่ละคนนั้นจะมีด้ายสีแดงผูกกันไว้อยู่แต่เมื่อหากันจนเจอและได้แต่งงานกัน ด้ายแดงจะรวมตัวกับแหวน

        พ่อของเมวิลเป็นครึ่งภูติ โดยปู่และยายของเมวิลเป็นภูติตาและย่าเป็นมนุษย์ ทำให้โดยรวมแล้วเมวิลก็เป็นภูติแต่ไม่ได้เต็มร้อยเท่ากับบารอน วิล่าและลีเวล หรือไลลาหือภูติคนอื่นๆ เพราะพ่อและแม่เป็นลูกครึ่ง ทำให้มีบางส่วนที่ยังเป็นมนุษย์แต่ก็น้อยมาก จนถ้าไม่สังเกตดีๆเขาก็เป็นภูติที่มีพลังเยอะมากๆตนหนึ่งเลย แต่ถ้าเป็นบารอนเขารู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไมใช่ภูติเต็มร้อย

      

          หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จทั้งสองก็เก็บกระเป๋าแล้วเดินทางต่อ พวกเขานั่งรถไฟต่อไปยังตอนเหนือของพื้นที่ ในระหว่างทางก็ต้องคอยระวังพวกลุกน้องที่เคยมาบุกหอสมุดด้วยเพาะขบวนนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครนั่งทำให้คนโล่ง และถ้ามันเป็นทางไปยังฐานทัพของพวกมันจริงๆ เธอก็ต้องระวังให้มากกว่าเดิม

    ฟึบ! วิ้ง....! เมวิลร่ายเวทย์เปลี่ยนรูปร่างให้ลีเวลกลายเป็นเด็กผู้หญิงเพื่อความปลอดภัยของลีเวล”ทำไมฉันจะต้องกลายเป็นเด็กด้วย แค่เปลี่ยนหน้าตาก็พอแล้วไม่ใช่หรอ?”เมวิลส่ายหน้าก่อนจะแจงให้เจ้าหล่อนเข้าใจ”ถ้าเปลี่ยนหน้าก็ต้องมีบัตรประชาชน ส่วนเด็กไม่มีบัตร มันง่ายกว่าเยอะเลย”เมวิลเอ่ยพลางจูงมือเด็กหญิงลีเวล...ไม่สิเด็กหญิงลิวาร่าขึ้นรถไฟ”แล้วนายไม่เหนื่อยหรือ?”ลีเวลหันมามองร่างสูงที่จูงมือเธออยู่”แค่นี้...สบายมาก ไม่เหนื่อยมากหรอก”เมวิลยิ้มให้กับลีเวลก่อนจะพาเข้าไปหาที่นั่งที่มีความเป็นส่วนตัว

          ลีเวลนั่งลงบนที่นั่งในตู้โดยสารพลางมองหน้าเมวิลที่ดูระแวงตั้งแต่ขึ้นรถไฟมาแล้ว”มีอะไรหรือ...ทำไมเหลียวหลังบ่อย”เมวิลค่อยๆนั่งลงแล้วพยายามทำตัวตามปกติก่อนจะพูดกับลีเวลเบาๆว่า”มีคนจับตามองเราอยู่”

       ลีเวลพยายามชะเง้อไปมอง แต่ขนาดตัวและความสูงของเด็กทำให้ไม่สามารถเห็นได้ และถ้าเดินออกไปดู กลิ่นจิตของเธออาจจะทำให้พวกมันรู้ได้”เอาอย่างนี้ ทำตัวให้ปกติ เข้าใจมั้ย?”เมวิลมองหน้าทำให้ลีเวลพยักหน้าเป็นเชิงตกลงก่อนจะกลับมานั่งแล้วแกล้งทำเป็นคุยกับคุณพ่อเสียงแจ๋วเพื่อให้แนบเนียนที่สุด

         กว่าคนในหอสมุดจะรู้ว่าแม่สาวผมทองหายไปก็เกือบเก้าโมง เพราะคิดว่าลีเวลไม่สบายจึงไม่ได้ไปตามแต่พอไลลาขึ้นไปหาจึงรู้ ทำให้คนทั้งหอสมุดวุ่นวายไปหมด กระเป๋าเป้หลายใบถูกวางกองไว้ในรถยนต์ขนาดใหญ่เพราะไปกันหลายคนจึงต้องใช้รถยนต์ที่นานๆทีจะได้ใช้ออกมา ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะยังใช้ได้หรือเปล่า?

    “จะไปตามหากันที่ไหนดีล่ะเนี่ย ที่เมืองทางเหนือก็ไม่ใช่เล็กๆ”วาเซียบ่นอุบ”เอาเถอะน่า....ไหนๆเราก็จะไปกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”วิลเล่ว่าพลางยื่นกระเป๋าเป้ให้เอลฟ์เอาไปไว้ที่รถ”มันก็จริง แต่มันก็ไม่น่าจะรีบขนาดนั้นนี่ หรือว่า!”วาเซียหันมาหาภูติหนุ่มที่ทำห้ามึนใส่เธอก่อนที่ภูติหนุ่มจะส่ายหน้ากับความคิดที่แสนจะบ้าของเธอ”จะบ้าหรือไง ถ้าลีเวลคิดจะทรยศ....ฉันไม่คิดว่าเธอจะต้องหนีไปนี่ เธออยู่กับพวกเราแล้วค่อยตลบหลังทีหลัง มันไม่ง่ายกว่าหรือ?”วาเซียพยักหน้าพลางคิดตามที่หนุ่มใสแว่นพูด”ท่านบารอนจะไม่ไปด้วยจริงๆหรือ?”ซีเวลเอ่ยถามคนผมยาวในขณะที่บารอนเดินมาส่ง”สังขารฉันมันไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ...ฮะๆ”บารอนหัวเราะน้อยๆให้กับบรรณรักษ์สาว ทำให้เธอหน้ามุ่ยบารอนจึงยิ้มให้เธอแล้วพูดว่า”ถึงจะไม่มีฉัน พวกเธอก็ชนะได้อยู่แล้ว...ในเมื่อลูกสาวเขาอยู่ที่นั่นแล้วนี่....”ท้ายประโยคบารอนค่อยๆแผ่วเสียงลงจนคนข้างๆแทบไมได้ยิน”บางทีวางใจมากเกินไป มันก็ไม่ได้ดีนะ”ลัซเมียว่าพลางยิ้ม

          ถ้าเป็นยิ้มแบบอ่อนโยนเหมือนเขาคนเดิมก็คงจะดี แต่นี่เป็นรอยยิ้มที่ถ้าใครเห็นก็คงจะรู้สึกแปลกๆ น่าแปลกที่คนอย่างเขาจะเป็นคนที่คิดทรยศ ลัซเมียเป็นคนเดียวที่ซีเลวอ่านใจไม่ออก ทำให้เวลาที่เขาคิดอะไรก็ไม่มีใครรู้แต่วาเขาก็ปิดได้แค่พวกมนุษย์ ภูติแล้วก็สัตว์ชั้นสูงบางชนิดเท่านั้นแหละ เพราะเจ้าสองแฝดเป็นสัตว์ชั้นสูงที่มีกะแสจิตและพลังที่สามารถรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยสัญชาตญาณ เพียงแต่พวกมันให้โอกาสพวกเขาให้แก้ตัวใหม่ แต่ถ้าไม่...จุดจบเพียงหนึ่งเดียวคือ....ตาย

          แต่กับลัซเมียมันต่างออกไป เขาไม่ได้ทำเพื่ออำนาจ พวกมันรู้และเข้าใจ ถึงวิลลาซจะไม่เห็นด้วยกับน้องชาย แต่พอมาคิดดูดีๆแล้ว ปล่อยให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของเขาดีกว่า พวกมันทั้งสองถึงจะไม่รู้อนาคตเหมือนไลลา แต่พวกมันก็สัมผัสได้ว่าคนที่จัดการกับลัซเมียก็คือนายเหนือหัวคนใหม่ของพวกมัน แม้ไม่มีอะไรจะมายืนยันวาใครคือทายาทที่ถูกต้องตัวจริง แต่มันก็แน่ใจว่าความรู้สึกของมันที่มีต่อลีเวล มันไม่ผิด...

     

           ด้านของหนุ่มตาแดงและลูกสาวจำเป็นก็ได้มาถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว พวกเขาพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับนักท่องงเที่ยวคนอื่นๆมากที่สุด แต่ที่ดูจะไม่ค่อยไหวเท่าไหร่ก็คงจะเป็นเมวิลนั่นแหละ เพราะเขาจะต้องส่งพลังไปหล่อเลี้ยงร่างเทียมที่สร้างขึ้นตลอดสองชั่วโมงที่ผ่านมา พลังยิ่งเหลือน้อยลงทุกทีๆ ไม่รู้ว่าจะเหลือพอไปสู้กับพวกนั้นหรือเปล่า แต่ยังไงก็เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมง เขาคงได้พักบ้างล่ะ

    “อึก!” ฟุบ! ในขณะที่เดินตามตรอกแห่งหนึ่ง ร่างของหนุ่มตาแดงก็ล้มลงเพราะการเสยพลังมาตลอดสองชั่วโมงติดต่อกันทำให้เขาไม่ค่อยจะมีเรี่ยวมีแรงเดินเสียเท่าไหร่ แต่ถ้าให้นั่งล่ะก็พอได้อยู่”เมวิล! คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า!?”หลังจากร่างสูงล้มลงร่างของลีเวลก็กลายเป็นร่างปกติ เธอค่อยๆพยุงร่างสูงให้ลุกขึ้นมานั่งช้าๆ”ผมยังไหว”ลีเวลส่ายหน้าก่อนจะจับมือชายหนุ่มแล้วค่อยๆถ่ายพลังเวทย์ไปให้ช้าๆ”อย่าปากเก่งให้มันมากนักเลยเป็นเช้าชายรัชทายาท ไม่ได้จำเป็นจะต้องเก่งไปทุกเรื่องหรอกนะ”ลีเวลว่าพลางยิ้ม

        เมวิลฟังที่ลีเวลพูดแล้วก็หวนกลับไปคิดถึงตอนที่เขายังเด็ก เขาถูกเลี้ยงมาให้เก่งทุกด้านเพียงเพราะเขาเป็นรัชทายาท พ่อเขาสอนมาเสมอว่าผู้ชายห้ามมีน้ำตา ทั้งๆที่เขาเจ็บ จะมีก็เพียงแต่เรวิลเท่านั้นที่คอยดูแลเขา เธอไม่ใช่ทั้งญาติทั้งคนสนิทของพ่อ เธอเป็นภรรยาของผู้นำสูงสุดของหอสมุดฟาเรนเทล เธอเป็นแรกที่บอกกับเขาแบบนั้น เขาจำได้ตลอดมา ถึงแม้เขาจะจำใบหน้าของเธอได้ไม่ค่อยชัด แต่คำพูดของเธอยังติดอยู่ในหัวของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

    “ถ้าไม่ไหว ไปพักก่อนนะ...”ลีเวลยิ้มให้กับร่างสูงที่เธอประคองอยู่ มันเป็นรอยยิ้มเดียวกับที่ผู้หญิงคนนั้นให้เขาในวันนั้น นอกจากคำพูดของเธอ เขายังจำรอยยิ้มนั้นได้อีกด้วย”เหมออะไรอยู่...หรือเดินไม่ไหว?”ลีเวลมองคนตาแดงที่เหม่ออยู่”เปล่าๆ...ไปเถอะ”ร่างสูงพยายามเดินให้เหมือนปกติก่อนทั้งสองจะมานั่งพักที่ร้นกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่ง...

       ด้านของเหล่าบรรณารักษ์ที่กำลังเดินทางมาถึงที่นี่ในอีกสี่ชั่วโมง พวกเขากำลังวางแผนว่าเมื่อไปถึงจะทำอย่างไรกันต่อเพราะพวกเขาต้องตามหาคนผมทองให้เจอเสียก่อนถึงจะไปเอาหนังสือคืนได้ แต่ลีเวลไม่ได้ทิ้งร่องรอยหรืออะไรไว้ให้ตามหาได้เลย”แล้วเราจะเริ่มตามหาลีเวลที่ไหนดีละ?”ซีเวลเอยถาม”ก็คงจะเป็นโรงแรมแถวๆนั้น เพราะถ้าลีเวลหนีไปเมื่อคืนเธอก็น่าจะมาพักที่โรงแรมแถวๆนั้น”วิลเล่เอ่ยบอก ลีเวล อีกไม่นานแล้วนะ ที่พวกเราจะได้รู้ว่าเธอน่ะ เป็นคนที่ทรยศพวกเราจริงๆหรือเปล่า....เมซันคิดในใจพลางมองไปด้านนอก...

        ทั้งหมดใช้เวลาในรถไฟนานกว่าสี่ชั่วโมงถึงจะมาถึงที่นี่ และพวกเขาก็คงไม่คิดจะเริ่มตาหาลีเวลเลยตอนนี้เพราะถ้าไปตอนนี้เลยมีหวังได้เป็นลมกันพอดี เพิ่งเดินทางมาก็คงต้องหาอะไรกินกันก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง อีกอย่างนี่มันก็เพิ่งบ่ายโมง ขืนเดินออกไปคงเป็นลมแดดกันเป็นแถวๆแน่

     ........................................................................................................................................................................
    มพร้อมเสริฟแล้วค่ะสำหรับ 20% ที่เหลือ นั่งลบประมาณสามรอบ! ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ไม่ไม่ตรงกับอันที่แต่งไปแล้ว เลยต้องมานั่งทำใหม่ และแล้วก็ได้มาอย่างที่เห็น>< ขอบคุณที่ตติดตามมาจนถึงตอนนี้นะคะทุกท่าน><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×