ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Farentel magic Library ฟาเรนเทล ห้องสมุดมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนพิเศษ [อดีต]

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 57


    ตอนพิเศษ

    อดีต

        ลมหนาวของปีนี้มาเร็วกว่าเดิมมาก ร่างของสามีภรรยาที่อุ้มลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน เด็กผู้มีพลังมองอดีตและความทรงจำของเหล่าผู้คนและสิ่งของ ข้างๆกันในบ้านไม้หลังเล็กกลางสวนมีเด็กหญิงวัยสามขวบนั่งมองทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม...

    “ไลลา....สัญญากับพ่อนะครับ ว่าหนูจะไม่แกล้งน้อง จะดูแลน้อง...”ร่างสูงเอ่ยพลางลูบหัวลูกสาวของตน เด็กหญิงพยักหน้าให้พอของเธอ เด็กหญิงผู้มีพลังวิเศษมองเห็นอนาคตของผู้อื่นและสิ่งอง รวมถึงตัวเธอเองด้วย...

         ชายหนุ่มรู้ว่าอีกไม่นาน สิ่งที่เขากลัวจะเกิดขึ้นแล้ว ตามที่หมอดูทำนายไว้ เด็กคนนี้จะเกิดมาพร้อมกับความรุ่งโรจน์และดำมืดเด็กคนนี้จะเป็นผู้ที่นำความรุ่งโรจน์มาสู่หอสมุดฟาเรนเทล และเมื่อเกิดมาก็จำนำภัยอันตรายมาสู่หอสมุดเช่นกัน...การเกิดของเด็กคนนี้ตรงกับวันที่หอสมุดถูกก่อตั้งขึ้น ในวันนั้นจู่ๆก็มีแดดส่องแล้วหยุดตามด้วยฝนและหนาว และเมื่อตอนที่เด็กคนนี้เกิด ดอกไม้ก็บานบานสะพรั่งเต็มสวนไปหมด โดยเฉพาะดอกไม้สายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า ลีเวล เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับรอยยิ้มของเหล่าบรรณารักษ์ เอลฟ์และประชาชนที่มารอการเกิดของผู้นำตามคำทำนายบุตรคนที่สองของผู้นำสูงสุด...”เด็กคนนี้จะชื่อว่าลีเวลตามชื่อดอกไม้ที่พวกเราคิดค้นขึ้นนะ...ตกลง เห็นด้วยไหมพวกท่าน”วิซิจอุ้มลูกน้อยออกมาจากห้องเพื่อให้เหลาบรรณารักษ์ได้เห็นโฉมหน้าเด็กทารกที่น่ารักน่าชัง”พวกเราเห็นด้วยกับชื่อ เด็กคนนี้ช่างไม่เหมือนกับใคร และไม่มีใครเทียบเหมือน เด็กที่เกิดจากสายเลือดบริสุทธิ์ทั้งสองท่าน นี่แหละคือผู้ที่จำนำความสุขมาให้พวกเรา ” บรรณารักษ์ภูติชราเอ่ย เขาอยู่บนโลกนี้นานนับพันธุ์ปีก็เพิ่งเคยเห็นเด็กที่มีกลิ่นจิตที่บริสุทธิ์แบบนี้ครั้งแรก ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก แต่เข็กำลังกังวลกับอนาคตที่กำลังจะมาถึงอีกไม่นานนี้แล้ว....

            ตูมมมมมมมม! เสียงระเบิดเวทย์ดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณของหอสมุด ร่างของหญิงสาวที่วิ่งฝ่าดงพลังเวทย์ที่มาจากหลายทิศทาง ในอ้อมแขนข้างซ้ายก็อุ้มลูกสาวคนเล็ก ส่วนมืออีกข้างก็จูงมือลูกสาวคนโตวิ่งโดยมีสามีคอยกางข่ายกำแพงเวทย์ตามมาด้วย ทั้งสองวิ่งเข้าไปจนถึงชายป่า หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมามองสามีที่บาดเจ็บหนัก แต่ก็ยังตามมาด้วยความเป็นห่วง...”คุณไปกับฉันเถอะนะคะ เราหนีไปด้วยกัน...”เรวิลมองหน้าสามีที่เหนื่อยหอบ วิซิจมองหน้าภรรยาแล้วตอบมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ”ถ้าผมเป็นแค่บรรณารักษ์ ผมก็จะทำแบบนั้น แต่ผมเป็นผู้นำ ผมจะต้องกลับไป...คุณกับลูก หนีไปซะ...ความทรงจำของลูกผมปิดผนึกแล้วเก็บไว้ที่คุณ...ถ้าไม่มีใครไปทำลายมัน เมื่อวันที่สุริยุปราคาเกิดขึ้นพวกมันจะตามหาเจ้าของความทรงจำของพวกมันเอง...”ชายหนุ่มว่าก่อนจะข้ามากอดภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย”ดูแลไลลากับลีเวลดีๆนะ รักษาชีวิตเขา ปิดผนึกความทรงจำและพลังของพวกเขา แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะที่ควร ทุกอย่างจะสลายไปเอง...”ชายหนุ่มว่าจบก็วิ่งกลับเข้าไปที่หอสมุด ทิ้งให้เด็กน้อยทั้งสองและภรรยาวิ่งหนีต่อไปจนถึงเมืองๆหนึ่งที่ทั้งสงบ และร่มเย็น ที่มีนามว่าวาเรนเทล

     

                  นานหลายปีแล้วที่ทั้งสามแม่ลูกอยู่อย่างสงบสุขทั้งแม่ ไลลา และลีเวล น้ำตาในอดีต ความเจ็บปวดในครั้งนั้นยังติดตาเรวิลอยู่ตลอดมา แม้เวลาจะผ่านมานับสิบๆปีแล้วก็ตาม”แม่ นั่งเหม่ออยู่ได้” เวลาที่ผ่านล่วงเลยมาสิบกว่าปีทำให้เด็กหญิงไลลาในตอนนั้นหลายเป็นเด็กสาวที่หน้าตาสวยงามไม่แพ้หญิงใดอื่น ที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันก็คือเด็กหญิงลีเวลวัยสิบขวบครึ่งที่นั่งกินข้าวแบบไม่สนใจใคร...”เปล่าสักหน่อย แค่กำลังคิดว่าน้องสาวของเรา โลกส่วนตัวสูงไปหรือเปล่า?”เรวิลเอ่ยพลางเหล่มองลูกสาวที่หันมามองตาค้อน”เปล่าสักหน่อย ก็แค่ไม่มีเรื่องอะไรคุยนี่”ลีเวลพูดพลางเขี่ยผักในจานออก”แล้วเรื่องที่โรงเรียนล่ะ อย่างเรื่องเมื่อกลางวันน่ะ”ไลลาเปิดประเด็นทำให้คนที่เพิ่งก่อเรื่องเมื่อกลางวันตาแทบถลนออกจากเบ้า วีรกรรมแสนแสบของเด็กบ้านนี้ไม่ธรรดาเลย”อะไรลีเวล ไปก่อเรื่องอะไรอีก?”ผู้เป็นแม่เอ่ยถามเจ้าตัวซึ่งทำน้ามุ่ยไม่ยอมตอบทำให้ไลลาต้องง้างปากด้วยการเอ่ยออกมาเอง”ก็เรื่องเมื่อกลาง...อุ๊ปส์!”เสียงของไลลาเงียบหายไปด้วยฝ่ามือของลีเวลที่ปิดเอาไว้แล้วเล่าให้แม่ฟัง”ก็แค่ไปแก้แค้นเพื่อนนิดหน่อย ไม่มีอะไรค่ะ”ลีเวลมองหน้าไลลาด้วยสายตาเหมือนจะเผาพี่สาวตัเอง ถ้าสายตาของลีเวลเป็นไฟ ป่านนี้ไลลาได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว...”เรานี่ก็ไปแกล้งน้อง ถ้าเขาอยากเล่าเดี๋ยวเขาก็เล่าเองแหละน่า...”ผู้เป็นแม่เอ่ยพลางยิ้มให้ลูกสาวทั้งสองคน ไลลาและลีเวลใช้ชีวิตอย่างเด็กธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือลีเวลนั่นแหละ ไม่ยอมสุงสิงกับใครจนโดนหาว่าเป็นเด็กเก็บกด โลกส่วนตัวสูงด้วยความที่อยู่คนเดียวจึงโดนแกล้งเป็นประจำ...

     

        ตอนนี้ไลลาอายุครบสิบห้าปีแล้ว เธอควรจะได้รับการศึกษาที่สูงกว่านี้ถ้าจะเป็นบรรณารักษ์ เรวิลจึงทำเรื่องส่งเธอไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาวีส ส่วนลีเวลนั้นเธอตั้งใจว่าจะส่งไปเรียนที่เดียวกันเมื่อเธอพร้อมแต่ลีเวลปฏิเสธและขอจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพื่อการดูและและปกป้องหนังสือที่ตัวเมืองซึ่งเธอก็ไม่ขัดข้องเพราะก็ไม่ได้ต่างจากโรงเรียนที่เธออยากให้เรียนสักเท่าไหร่ แต่ถึงค้านไปก็ห้ามไม่ได้เพราะรู้ดีว่าลูกสาวของเธอนั้นจะต้องทำทุกทางเพื่อที่จะได้ไปเรียนที่นั่น

               ถึงแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้ว และทั้งสองก็โตขึ้นมาก แต่ในสายตาของเธอก็ยังเห็นทั้งสองเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง และก็เหมือนว่าเหตุการณ์เลยร้ายพวกนั้นเพิ่งผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่วัน มันช่างหน้ากลัวเสียเหลือเกิน...เมื่อไหร่มันจะผ่านไป เมื่อไหร่จะลืมได้สักที...เรวิลนั่งมองลูกสาวทั้งสองที่นั่งกัดกันแล้วอมยิ้ม แต่ในใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้าในอดีต ภายใต้รอยยิ้มอ่อนโยนกลับมีความทุกข์ซ่อนอยู่”กินเสร็จแล้วเอาไปวางไว้ในครัวนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่จะไปล้างให้”เรวิลว่าพลางเดินเอาจานของตนเข้าไปเก็บในครัว

         อาจจะเป็นเพราะเด็กๆคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งก็ได้ ถึงมีความสุขกับชีวิตมากขนาดนั้น พวกเธอคงไม่รู้หรอกว่าถ้าวันนั้นมาถึง บ่าอันบอบบางจะตองแบกรับสิ่งภาระที่เรียกว่า ตำแหน่งผู้นำ พวกเธอคงจะไม่ได้ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนี้อีกต่อไปแน่ๆ เรวิลเดินออกไปที่สวนแล้วนั่งลงเงียบๆ แล้วพ่นลมหายใจแรงๆออกมา ความทรงจำของลูกเธอ เธอเก็บเอาไว้ที่สร้อยคอของทั้งสองคน และส่งมันกลับไปเก็บไว้ที่ฟาเรนเทลแล้วซึ่งบารอนก็รู้และทราบเหตุใดเธอถึงไม่กลับไปเอง และก็สัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และปล่อยให้พิธีกรมไลเวลมีต่อไปจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร”ฉันคิดว่านายคงจะไว้ใจได้นะบารอน...”เรวิลนั่งนึกถึงภาพเพื่อนสนิทของสามีรวมถึงตัวเธอเองด้วย การที่เธอและลูกๆรอดออกมาได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะบารอนด้วย ส่วนไอคนทรยศคนนั้น เธอไม่อยากจะรู้จักมันเลยเสียด้วยซ้ำ!

               ยามเช้าของวาเรนเทลเป็นไปอย่างเรียบง่าย หลายปีผ่านไปทำให้เด็กทั้งสองโตเป็นสาวกันหมดแล้ว ทั้งยังมีความคิดไม่เหมือนกับใครเขาอีกด้วย โดยเฉพาะลีเวลที่เอาแต่เรียน เรียนและเรียนจนเธออดเป็นห่วงสุขภาพลูกสาวของตนไม่ได้ ไลลาเข้าทำงานที่หอสมุดมาได้สามปีแล้ว พรุ่งนี้ไลลาจะอายุครบยี่สิบสี่ ซึ่งเธอห่างกับน้องสาวสามปี อีกไม่กี่เดือนลีเวลจะเรียนจบแล้ว ทำให้ไลลานั้นตื่นเต้นกับการเรียนจบของน้องสาวเอาเสียมากๆ แถมยังไปพูดกับหัวหน้าหอสมุดว่าจะเอาน้องเธอเข้าทำงานที่นี่ด้วย

              แม้เงินเดือนจะไม่สูงมาก แต่ก็พอใช้จ่าได้ ส่วนค่าเทอมของลีเวลที่แพงขึ้นเรื่อยๆก็ไม่ห่วงเพราะเป็นนักเรียนทุนมหาวิทยาลัยซึ่งลีเวลเป็นคนเสนอว่าเธออยากได้ทุนเพื่อแบ่งเบาภาระของไลลาที่คอยหาเงินมาเลี้ยงดูเธอและแม่ที่หยุดทำงานมาตั้งแต่ไลลาเรียนจบ

                หลายเดือนต่อมลีเวลนั้นเรียนจบพร้อมเกียรตินิยมสูงสุดและจะเข้าทำงานกับพี่สาว แต่ข่าวรายที่ได้รับคือ ที่หอสมุดใหญ่ที่ฟาเรนเทลเรียกตัวทั้งสองเข้าไปทำงานที่นั่นแล้ว เรวิลรู้ตั้งแต่แรกวาเป็นฝีมือของบารอนจึงไม่ได้ห้ามอะไร แถมยังอยากจะส่งให้ไปที่นั่นเร็วที่สุดเพราะอยากให้เรื่องทั้งหมดจบลงสักที ภารกิจนี้เธอจะส่งต่อให้บารอนสานต่อให้สำเร็จ ภาระของเอ หมดลงแค่นี้ล่ะนะ ดูแลเด็กสองคนนี้ แล้วส่งต่อให้กับบารอนต่อไป...
    ..........................................................................................................................................................................ตอนพิเศาที่สั้นมาก! ไหนๆก็เอามาเซอร์วิส เราก็เอาให้รู้เนื้อเื่องในอดีตไปเล๊ย! ตอนนี้เป็นเรื่องของเรวิลและที่มาของเด็กทั้งสองคนนี้ค่ะ อย่างที่บอกว่าลีเวเลป็นเด็กเก็บตัวเพราะเรรื่องในอดีต ส่วนไลลาก็เป็นเด็กร่าเริงยิ้มแย้ม ความต่างแต่อยู่ร่วมกันได้ (เหมือนโฆษณา?) เรวิลเป็นคนมีอดีตค่ะ ทำให้เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะไม่แสดงหน้าจริงออกมาเท่าไหร่ เอาง่ายๆว่าโกหกความรู้สึกเก่ง แต่ที่ลีเวลจำอะไรไม่ได้เพราะโดนปิดผนึกพลังนะคะ แล้วก็ดึงความทรงจำเก็บไว้ที่ตัวแม่ตอนแรกแล้วเวิลก็เาออกมาใส่สร้อยคอแล้วส่งกลับไปที่ฟาเนเทลค่ะ  เผื่อใคอ่านไม่เขาใจมาอธิบายแล้วนะคะ บายค่า สำหรับใครที่รอ มาลงให้แล้วนะคะ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×