ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Farentel magic Library ฟาเรนเทล ห้องสมุดมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ประเพณีไลเวล [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 57


    บทที่ 2

    ประเพณีไลเวล

        อากาศช่วงเช้าของหอสมุดฟาเรนเทลนั้นเริ่มหนาว ถึงแม้อากาศจะไม่ได้หนาวติดลบ แต่ก็มากพอที่จะให้ทางหอสมุดเปิดเครื่องทำความร้อนได้แล้ว หลังจากมาทำงานได้หนึ่งอาทิตย์ ลีเวลก็ปรับตัวเข้ากับหอสมุดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเจ้าสองแฝดอย่างวิลลาซกับวิลเลียส ทั้งสองเริ่มออกมาด้านนอกมากขึ้นเพราะคอยตามลีเวลต้อยๆ ส่วนไลลาตอนนี้ก็เริ่มญาติดีกับวิลเล่ขึ้นมาก แต่ก็ยังมีเถียงกันบางครั้งแตก็ยังไม่บ่อยเท่าเมื่อก่อน ส่วนเรื่องของเมซันกับลีเวลก็ยังต้องค่อยๆเรียนรู้นิสัยกันไป

              ช่วงนี้ผู้คนกำลังพูดถึงเรื่องของ ประเพณีไลเวล เป็นประเพณีคล้ายๆกับการลอบดอกไม้แต่เจาะจงเป็นดอกไลลากับดอกลีเวล โดยจะนำดอกไม้ทั้งสองชนิดใส่ไว้ในกระทงใบไม้แล้วลอยไปตามน้ำ เชื่อว่าจะสามารถส่งความรู้สึกไปถึงเด็กทั้งสองผู้หายตัวไป บุตรสาวทั้งสองของท่านวิซิจ เธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายเพราะว่าเป็นงานที่มีแต่คน การทำงานในหอสมุดก็ไม้ได้แย่เท่าไหร่ อาจจะเจอสมาชิกที่เหวี่ยงใส่บ้างหรือหนอนหนังสือพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่เธอเองก็มีความสุขดีนะ เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นงานที่เธออยากจะทำ และมีความสุขที่ได้ทำมัน

    “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบวาหนังสือที่จองไว้มีคนเอามาคืนหรือยังคะ?”สาวน้อยหน้าหวานแต่อ่านหนังสือเกี่ยวกับสงครามต่างๆแบบนี้ น่าจะไม่ได้หวานแบบหน้าตาแล้วล่ะมั้ง?”มาแล้วค่ะ ติดต่อด้านในได้เลยค่ะ”ลีเวลยิ้มให้กับหนูน้อยแล้วพาเดินไปที่ฝ่ายจองหนังสือที่วันนี้โจเซฟมาทำแทนไลลาเพราะเธอต้องไปเช็คหนังสือที่มาใหม่ทำให้โจเซฟที่ปกติทำหน้าที่แค่ประทับตราหอสมุดให้หนังสือที่มาใหม่ต้องมาทำแทนไลลาในวันนี้

    “โจเซฟ หนังสือสงครามกรีก สามเล่มจ๊ะ”ลีเวลยิ้มให้โจเซฟที่นั่งจดเรื่องของหนังสือที่มีคนมายืมไว้ เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าไลลาจะทำงานหนักขนาดนี้ โจเซฟเงยหน้าขึ้นมาแล้วก้มลงไปหยิบหนังสือเล่มหนาสามเล่มขึ้นมาแล้วเลื่อนไปให้ลีเวลก่อนจะก้มลงจดงานต่อ เมื่อเธอยื่นหนังสือให้หนูน้อยแล้วลีเวลก็กลับไปประจำการต่อ

       ลูกค้ารายต่อไปเป็นคนที่ลีเวลนั้นเจอบ่อยมากๆเพราะมหาวิทยาลัยอยู่ไม่ไกลจากหอสมุดเท่าไหร่ ลูกค้ารายนี้เป็นนักศึกษาหนอนหนังสือตัวยง เพราะเขาเข้ามาที่นี่บ่อยมากๆ”วันนี้จะนั่งที่ไหนดีคะ?”ที่นี่เพื่อความเป็นส่วนตัวนอกจากที่นั่งรวมแล้วยังมีห้องอ่านหนังสือให้เช่าอีกด้วย เพราะเป็นปราสาทเก่าห้องจึงเยอะมาก นอกจากห้องอาหารและห้องนั่งเล่น ก็มีแต่ห้องหนังสือชั้นสามถึงชั้นห้าเป็นห้องพักและห้องทำงานต่างๆชั้นสองจึงมาห้องให้เช่าด้วยเพื่อน้ำเงินมาใช้ซื้ออาหารและใช้จ่ายหรือเป็นโบนัสของพวกพนักงานเอลฟ์ที่มาทำงานให้พวกเขา....

    “ขอนั่นแบบธรรมดาดีกว่าครับ พอดีวันนี้รีบกลับ อยู่แค่ชั่วโมงเดียว”ร่างสูงยิ้มให้เธอก่อนจะลงชื่อแล้วเดินเข้าไป ลีเวลก้มลงทำงานต่อจนได้ยินเสียงอะไรสักอย่างระเบิดดังมาจากครัว

             ลีเวลทิ้งเคาน์เตอร์แล้ววิ่งไปดู พบว่าแม่วาเซียตัวดีทำสงครามย่อมๆมอนเต้ในครัว”หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”ลีเวลตะโกนออกไปเสียงดังท่ามกลางสมรภูมิรบย่อมๆของทั้งสองที่มีเอลฟ์คอยแยกเพื่อไม่ให้อะไรพังไปมากกว่านี้

    “ฉันบอกให้หยุดไง!”ลีเวลตะโกนออกไปเสียงดัง ตาสีแดงของเธอปรากฏออกมาอีกครั้ง ทุกอย่างสงบลงราวกันของพวกนี้โดนพังโดยใครสักคนที่ลอบเข้ามา จิตสังหารลอยอบอวลไปทั่วห้อง ลีเวลกลับมาสงบอีกครั้งก่อนบอกกับทั้งสอง”ฉันคิดว่าบอกพวกคุณไปแล้วนะ ว่าห้ามมีเรื่องกันอีกต้องเอาเรื่องนี้บอกกันท่านผอ.ไหม?”ทั้งสองก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดก่อนจะโดนบทลงโทษเล็กๆคือเก็บสิ่งของที่ทำพังในครัวโดยห้ามใครช่วยหรือใช้พลัง หลังจากที่เสร็จเรียบร้อยลีเวลก็เดินออกมาประจำการปกติพลางพูดกับตัวเองว่า...

    ”บางทีหัวหน้าไม่อยู่ ก็เหนื่อยนะ”ลีเวลพูดกับตัวเองเบาๆขณะที่จดบันทึกของคนเข้าออกหอสมุดในช่วงเวลาเย็นวันนี้ อีกสองชั่วโมงหอสมุดจะปิด เพราะว่าถ้ามืดแล้วยังเปิดให้บริการ การคุ้มกันเหล่าผู้ที่มาใช้บริการนั้นจะทำได้ยากเนืองจากมันมืดและมองเห็นไม่สะดวกถึงแม้จะมีไฟเยอะมากก็ตาม และเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเวลากลับด้วย”บ่นอะไรฮะ...”เสียงของผอ.วิล่าที่เพิ่งกลับเข้ามา ลีเวลยิ้มให้ก่อนสายหน้าให้เธอ หัวหน้าวิลล่าเป็นผอ.คนเดียวในหมู่ผอ.ทุกคนที่เป็นผู้หญิง เธอเกิดมาจากครอบครัวนักเวทย์และเป็นภูติ ร่างกายของเธอมีอายุอยู่ได้นานเป็นพันๆปี ไม่แปลกที่เธอจะได้เป็นหัวหน้าล่ะนะ...

    “ลีเวล!”เสียงของภูติจิ๋ว สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พลังไม่เล็กเลย อายุของพวกมันเยอะกว่าภูติชนิดอื่นมาก ชนิดที่ว่าถ้าจะฆ่าจะต้องใช้ทหารหลายพันคนเลยล่ะ”ฉันคิดว่าอาจจะมากกว่านะ ลีเวล...”ร่างสูงของชายรูปงามที่หน้าตาหล่อเหลาเดินก้าวผ่านประตูบานใหญ่เข้ามาแล้วยืนยิ้มให้ลีเวล...”คุณคือ หัวหน้า...ลัซเมีย!”เสียงที่ดังก้องหอสมุดของลีเวลทำให้เหล่าหนอนหนังสือที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หันมามองเธอ ลีเวลเอามีอุดปากแล้วค่อยๆลดมือลงเมื่อผู้คนหันกลับไปสนใจหนังสือต่อ”ไหนพวกนั้นบอกว่าหัวหน้ากลับอาทิตย์หน้าไงคะ?”ลีเวลมองหน้าพลางสงสัย”พอดีงานคุยง่ายกว่าทุกที เลยกลับเร็วแต่ก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องห่างบ้านนานๆคิดถึงวิล่า”ลัซเมียเอ่ยพร้อมยิ้มอย่างชื่นใจ ก็แน่ละ อีกไม่นานเดี๋ยวก็จะแต่งงานกันแล้วนี่ ไม่...ไม่ใช่แต่งงาน หมั้นต่างหากความจริงเธอก็ไม่ได้สงสัยอะไรเรื่องที่ผอ.พูดถึงหัวหน้าบ่อยหรอกนะ เพราะรู้ว่างานหนัก แต่พอพูดบ่อยจนสงสัยมากขึ้นทุกวันเลยไปถามวิลเล่ จนรู้นี่แหละว่าทั้งคู่เป็นคนรักกัน”จะว่าไป ตอนที่ฉันไม่อยู่ เธอกับพี่สาวเธอคงทำความคุ้นเคยกับที่นี่ได้แล้วสินะ”หัวหน้พูดพลางหันมายิ้มหวานใส่ลีเวล”ถ้าหัวหน้าไม่ใช่คนรักของผอ. บางทีฉันว่า ฉันคงตกหลุมรักหัวหน้าแล้วนะคะ”ลีเวเอ่ยพลางยิ้มจนไม่เห็นตานานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ยิ้มแบบนี้...คงตั้งแต่ตอนนั้นล่ะมั้ง?

     

              ลมยามบ่ายพัดมาทำให้ผมสีน้ำตาลที่ยาวถึงกลางหลังของเด็กหญิงตัวน้อยๆที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สาวนสาธารณะอันเงียบสงบแห่งนี้ เสียงของใบไม้ที่กระทบกันทำให้เด็กหญิงปิดหนังสือเล่มหนาลง ร่างของเด็กหญิงวัยเท่ากับเธอวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม”ลีเวล ฉันผ่านแล้วนะวิธีของเธอนี่ดีจังเลยนะ”เด็กหญิงตัวน้อยว่าพลางชูกระดาษข้อสอบขึ้นให้เพื่อนดู”บอกแล้ว ว่าต้องผ่าน”ลีเวลเอ่ยพลางยิ้มให้เพื่อน ทั้งชีวิตเพื่อนคนเดียวที่เธอไว้ใจได้นอกจากแม่และพี่ก็มีแค่ลีว่าเท่านั้นแหละ คุกับใครเขาไม่ได้หรอก พลังมองความทรงจำของเธอ มันยังควบคุมไม่ได้ เธอจึงถูกมองว่าเป็นมนุษย์ประหลาด แปลกกว่าเพื่อนคนอื่น เธอยังจำวันที่ลีว่าเดินเข้ามาทักเธอท่ามกลางสายตารังเกียจของเหล่าเพื่อนๆที่มองมายังเธอ”ไปฉลองกันเถอะนะ!”ลีว่าบอกกับเพื่อนเสียงดังก่อนฉุดมือลีเวลแล้ววิ่งไปยังร้านไอศกรีมร้านโปรดของทั้งสอง ที่นั่งประจำของพวกเธอยังว่างลีว่าปรี่เข้าไปวางกระเป๋าของเองแล้วนั่งลงอย่างรวดเร็ว พนักงานเสริฟหนุ่มหน้าหวานทำหน้าที่ทันทีเมื่อทั้งสองนั่งลงเรียบร้อย”เอาวนิลาราดซอสสตอเบอรี่สองที่ค่ะ”ลีว่าหันไปสั่งพนักงานที่ถือกระดาษเตรียมจด เธอยิ้มให้ลีเวลก่อนจะถามลีเวลว่า”กินเสร็จแล้ว จะกลับบ้านเลยหรือเปล่า”ลีเวลส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะบอกกับเพื่อนถึงเหตุผลที่ไมยอมกลับบ้าน”ฉันจะไปร้านหนังสือ พอดีว่าฉันสั่งหนังสือเอาไว้ ยังไม่ได้ไปเอาเลยเธอจะไปด้วยกันไหมล่ะ?”ลีเวลมองหน้าเพื่อนที่ครุ่นคิดอยู่นานและในที่สุดก็....พยักหน้า”ได้ข่าวว่าที่นั่นมีพวกของเล่นเวทย์ด้วยนี่ ฉันอยากไปซื้อมาเล่นบ้าง”เด็กหญิงยิ้มหวานให้เพื่อน ก่อนจะตักไอศกรีมที่เพิ่งมาเสริฟเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย”มีเงินเยอะขนาดนั้นเชียว อ้อ..ลืมไปวันนี้ต้นเดือน....”ลีเวลล่าพลางยิ้มๆ ต้นเดือนทีไรลีว่ามักทำตัวเป็นเสี่ย เลี้ยนคนนู้นคนนี้ไปทั่ว แต่พอจะสิ้นเดือนที่ไร แทบจะขอเงินเธอมาซื้อของที่จำเป็นใช้ แต่ก็ไม่ได้พูดไอไรมากก็แค่..”เอามาใช้คืนด้วยละกันนะ”

           หลังจากอิ่มกับไอศกรีมร้านโปรด ทั้งสองก็ต่อรถไปยังร้านหนังสือประจำของลีเวลที่เธอชอบมาสั่งร้านนี้เพียงเพราะว่าราคามันถูกดีไม่ได้มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมอะไรมากมายหรอก....

    “ได้ของเล่นครบแล้วนะ...กลับบ้านได้แล้ว”ลีเวลว่าพลางมองเพื่อนที่ดูจะสนอกสนใจกับของเล่นใหม่มากเกินเหตุจนข้ามถนนโดยไม่ได้ดูเลยว่ามีใครตามหลังเธอมาหรือเปล่า...

        เส้นทางกลับบ้านที่เปลี่ยวแสนเปลี่ยวของลีเวลทำให้ลีว่าอดเป็นห่วงไม่ได้จนต้องเดินมาส่ง ทั้งๆที่บอกแล้วว่าไม่ต้อง...”ส่งแค่นี้แหละ เดี๋ยวฉันเดินเข้าไปในซอยเองได้...”ลีเวลยิ้มให้กับเพื่อนที่มีน้ำใจเดินมาส่งเธอ อันที่จริงมันไม่ได้น่ากลัวอะไรนักหรอก แค่ทางมันเปลี่ยวเท่านั้นเอง ไม่มีอันตรายอะไรนอกจากสัตว์เลื้อยคลานนั่นละ”งั้นฉันกลับก่อนนะ บาย...”ลีว่าโบอกมือลาลีเวล และเธอก็คงไม่คิดว่านี่จะเป็นการบอกลาเพื่อนสนิทของเธอ เป็นครั้งสุดท้าย

    “กรี๊ดดดดดดดดดดด!”เสียงกรีดร้องที่ลีเวลจำได้แม่นว่านี่เป็นเสียงของเพื่อนเธอดังขึ้น ลีเวลทิ้งหนังสือในมือลงแล้ววิ่งไปทางต้นเสียงที่ไม่น่าจะอยู่ไกลเท่าไหร่”ละ...ลีเวล น่ะ...หนีไป”ร่างของลีว่าที่เต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่บนพื้น บาดแผลของลีว่าใหญ่มากทำให้ลีเวลคิดว่าเธอคงแบกเพื่อนกลับไปไม่ได้ ต้องไห้คนมาช่วย”เดี๋ยวฉันจะพาคนมาช่วย อดทนเดี๋ยวเดียวนะ”มือของลีเวลที่จับมือของเพื่อนสนิทเอาไว้ ลีว่าบีบมือของลีเวลเพื่อเป็นการบอกว่าไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น...”อยู่กับฉันตรงนี้ ไม่ต้องพาใครมาทั้งนั้น ให้ฉันตายนั่นแหละดีแล้ว การปกป้องคนที่ฉันรัก เพื่อนสนิทของฉันเป็นสิ่งที่ฉันควรทำแล้วนะ...ขอบคุณสำหรับ...ทุกๆอย่างที่ผ่านมานะ...ลาก่อนนะ เพื่อนรักคนแรกและคนสุดท้ายของฉัน...”ลีว่าหลับตาลงพลางยิ้มน้อยๆก่อนแรงบีบของมือจะค่อยๆลดลงและ...ร่วงลงพื้นดินอย่างช้าๆ”ลีว่า...ฮึก...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ...”ลีเวลนอนกอดร่างทีไร้วิญญาณของเพื่อนสนิท เธอจะต้องสูญเสียเพื่อนไปอีกกี่คนกัน การสูญเสียนี้ถึงจะหยุดลง เธอต้องการเพียงแค่มิตรภาพ ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ทำไมทุกอย่างทีเข้ามาเกี่ยวพันกับเธอถึงต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับแบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องเสียเพื่อนที่เข้าใจเธอแบบนี้...กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องทรมานกับการสูญเสียคนที่เธอรัก...

              ลีเวลแบกร่างของเพื่อนสนิทที่ไร้วิญญาณกลับบ้านของเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บ้านนี้เป็น แต่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ต่างหาก เรวิลมองหน้าลูกสาวที่เปื้อนน้ำตาก่อนจะเดินเข้าไปรับร่างของลีว่าแล้วสังให้ไลลาโทรไปบอกพ่อกับแม่ของลีว่า หลังโทรไปได้ไม่นานพ่อและแม่ของลีว่าก็เดินทางมับร่างของลูกสาวกลับบ้านไป แต่ก่อนไปแม่ของลีว่าก็เดินเข้าไปหาลีเวลแล้วพูดกับลีเวลว่า...”ลีว่าบอกกับฉันหลายวันแล้วว่าเธอมีลางสังหรณ์ว่าเธอจะต้องตายมันไม่ใช่ความผิดของหนูหรอกนะจ๊ะ มันเป็นดวงชะตาของลีว่า พวกเราไม่โทษหนูหรอกนะ...”หญิงวัยกลางคนเอ่ยทั้งน้ำตาแล้วกอดลีเวลที่เสื้อผ้าเปื้อนเลือด”หนูไม่น่า...ยอมให้..ฮึก...เขามาส่งที่บ้าน...”ลีเวลบอกทั้งน้ำตา ถึงจะรู้ว่ามันย้อนกลับไปไม่ได้ แต่...เธอก็อยากให้คนที่นอนแน่นิ่งไร้วิญญาณเปนเธอมากกว่าคนอย่างลีว่า

     

             “ลีเวล!”เสียงของซีเวลตะโดนใส่หน้าของลีเวลที่ยืนเหม่ออยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์”มีอะไรคะ?”ลีเวลหันไปมองหน้าของพี่เลี้ยงสาวที่ยืนมองเธออยู่”เป็นอะไรเนี่ย เหม่ออยู่ได้”ซีเวลเอ่ยพลางวางกกุญแจห้องเก็บหนังสือชำรุดกับหนังสืออีก2-3เล่มให้ลีเวล”เอาไปเก็บให้หน่อย มันพัง ต้องซ่อม”เมื่อสั่งงานจบ ซีเวลก็เดินกลับเข้าไปเช็คของต่อ ทั้งๆที่รู้ว่าเธอไม่ถูกกับห้องนั้นยังใช้เธออยู่ได้....

     

          หลังจากฝ่าดงหุ่นอันแสนพิศวงเข้าไปยังห้องเก็บหนังสือลีเวลรีบเก็บของแล้ววิ่งกลับออกมาอย่างไม่สนใจอะไรนอกจากแสงสว่างที่ปลายทางจนไม่ทันได้ระวังสะดุดขาตัวเองล้มหน้าห้องๆหนึ่ง...”ห้องอะไรน่ะ?”ลีเวลเอ่ยพลางเปิดประตูห้องเข้าไป ในห้องนี้มีเพียงกล่อง กล่อง และกล่อง ลีเวลเดินเข้าไปเปิดกล่องไม้กล่องหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อเปิดออกมาพบกับกล่องไม้แกะสลักอย่างประณีต เธอเปิดกล่องออกมาก็พบนาฬิกาเรือนหนึ่งที่อยู่ด้านใน เป็นนาฬิกาที่ไม่มีเข็ม เธอแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรพลางวางกล่องไม้ลงข้างๆแล้วนั่งลงบนพื้นแล้วเริ่มต้น....ค้น

           กล่องต่อไปมีเพียงเศษกระจกขนาดเหมาะมือ คาดว่ามันน่าแตกได้หลยาสิบปีแล้วเพราะสภาพของมันทั้งเปื้อนและเปรอะคราบต่างๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะผ่านมาหลายมือจนมาสุดที่ห้องนี้ แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีอะไรมากก็แค่กล่องเก็บของธรรมดา แต่เธอกลับคุ้นเคยอย่างประหลาด...เหมือนเคยอยู่ที่นี่มาก่อน

             วิ้งงงงง! แสงสว่างปรากฏขึ้นบนกระจกที่มือของลีเวล เธอตกใจจนทำมันตกแต่มันก็ไม่แตก แถมยังลอยขึ้นมาแล้วขยายขนาดจนเท่ากันตัวเธอเองอีกด้วย...”ต้องการอะไร บอกมาสิจ๊ะเด็กน้อย...”เมื่อกระจกขยายขนาดเต็มที่ร่างของหญิงสาวในกระจกก็ปรากฏออกมา เป็นหญิงสาวใส่ชุดสีขาวนวลดูสบายตาสร้อยและต่างหูมุกทำให้ผิวขาวๆดูขาวขึ้นไปอีก”ว่าไงจ๊ะ เธอต้องการอะไรถึงหยิบฉันออกมา...?”หญิงสาวยิ้มให้กับลีเวลแล้วเอียงคอน้อยๆ”คุณเป็นใครกันคะ...?”ลีเวลถอยห่างออกมาจากกระจกบานใหญ่แล้วลูกขึ้นจนเต็มความสูง”ฉันก็เป็นอดีตของเธอไงจ๊ะ เด็กน้อย”ร่างของหญิงสาวค่อยๆเล็กลงแล้วเป็นเป็นร่างของลีว่า เด็กหญิงผู้น่ารักและเพื่อนสนิทคนสุดท้ายของลีเวลก่อนที่เธอจะตัดสินใจอยู่คนเดียวมาจนถึงปัจจุบัน...

    “ลีเวล ไม่ดีใจหรอที่เจอฉัน...?”เด็กหญิงยิ้มให้ลีเวลอย่างดีใจที่ได้เจอเพื่อนสนิทอีกครั้ง”เรากลับไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ เข้ามากับฉันสิแล้วเราจะได้กลับไปแก้ไขอดีตอีกครั้งไง...”ลีว่ายิ้มให้ลีเวลแล้วค่อยๆยื่นมือผ่านกระจกออกมาแล้วพยายามจะจับตัวลีเวล”ลีว่า ฉันก็อยากกลับไปนะ ถ้าเป็นเธอจริงๆ...แต่นี่ไม่ใช่เธอมันเป็นเพียงภาพที่สร้างขึ้นมา มันไม่ใช่เธอ...”ลีเวลหยิบแจกันขนาดเล็กในกลองที่เปิดอยู่ปาเข้าไปที่กระจกจนทำให้มันแตกออกมาเป็นผงๆพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ลอยออกมาจากกระจก...”ขอบคุณที่ปล่อยฉันออกมา...เพราะฉันเสียใจและรู้สึกผิดกับอดีตที่ผ่านมา มันทำให้ฉัน...ต้องรอใครสักคนมาเป็นตัวแทน แต่คุณเป็นคนเดียวที่เอาชนะความรู้สึกผิดที่มันอยู่ในหัวใจของคุณได้...ขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณทำ ลาก่อนค่ะ...”เมื่อหญิงสาวเอ่ยจบ ร่างนั้นก็สลายหายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าฉันไม่เคยคิดกลับไปแก้ไขอดีต เพราะมันเป็นบทเรียนชีวิตของฉัน การที่ฉันตัดสินใจไม่กลับไปเพราะไม่อยากให้การเสียสละของเธอเสียเปล่า...ในวันนั้นคนที่จะต้องตายคือลีเวลเด็กผู้มีพลังแปลกประหลาดซึ่ง พวกมันรู้ว่าถ้าลีเวลโตขึ้น จะเป็นภัยต่อพวกมันถ้าเธอตัดสินใจเดินทางที่ถูก ทำให้ลีเวลถูกเป็นเป้าสายตาตั้งแต่เด็ก และคนที่ตายทุกคนก็มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยทำให้เอาตัวเองมาปกป้องเด็กคนนี้และทำให้เธอมีชีวิตต่อไป

    “ลีเวล! ลีเวล!”เสียงของไลลาที่ดังก้องทางเดิน ลีเวลรีบนำทุกอย่างยัดลงกล่องก่อนจะเดินออกไปหาพี่สาวเธอ...”พี่ไลลา หนูอยู่นี่ค่ะ...”ลีเวลเดินออกมาจากห้องนั้นโดยที่มีไลลายืนอยู่หน้าทางเดิน...เธอเองก็เพิ่งรู้วาเสียงที่นี่ก้องเหมือนกันนะ”มาทำอะไรอยู่ในนี้ตั้งนานสองนานนะเรา เขาเป็นห่วงตามหากันให้วุ่นรอบปราสาทจะเข้าไปตามในสวนเจ้าสองตัวก็ไม่ให้เข้าทีแรกนึกว่าเธอเข้าไปทำธุระ มาหมกตัวอู้อยู่ที่นี่เอง...”พี่สาวทำหน้าดุใส่แล้วเขกหัวน้องสาวหนึ่งที่ ลีเวลลูบหัวที่โดนเขกป้อยๆก่อนจะเดินตามพี่สาวออกไปข้างนอก

    “ไปเจอที่ไหนน่ะไลลา”โจเซฟถามไลลาที่เดินนำหน้ามาก่อน”ไปแอบอู้อยู่ในห้องนั้นนั่นแหละ...วันหลังสงสัยต้องมีคนไปด้วยแล้วล่ะมั้ง...”ไลลายิ้มให้โจเซฟก่อนจะเดินเข้าไปยังไมโครโฟนที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อบอกว่าอีกสิบนาทีหอสมุดจะปิดแล้ว ลีเวลไม่ได้สนใจทุกคนที่มาออกันอยู่หนาเคาน์เตอร์เพื่อนช่วยกันบันทึกการยืมหนังสือของเหล่าหนอนหนังสือที่มาใช้บริการ แต่เธอกลับเดินเข้าไปในสวนเพื่อที่จะไปสงบจิตใจลงบ้าง วันนี้เธอเจอแต่อะไรที่แปลกๆมามากพอแล้ว สงสัยจะเครียดเรื่องการทำงานมากไปหน่อยเลยทำให้เป็นแบบนี้...

     

           ในสวนแสนสงบลีเวลเพิ่งสังเกตว่าที่มีบ่อน้ำด้วย ที่บ่อน้ำประดับอย่างสวยงาม ที่นี่คงเป็นที่พักผ่อนของท่านผู้นำคนก่อนแต่พอท่านจากไปทุกอย่างก็คงปิดกันไม่ให้ใครเข้ามา ลีเวลรู้สึกถูกชะตากับที่นี่เป็นย่างมาก เธอรู้ว่าเธอไม่ควรเข้ามาที่นี่แต่ในเมื่อไม่ได้มีใครห้ามหรือว่า เธอก็ขอใช้ที่นี่เป็นที่พักผ่อนใจของเธอ อย่างน้อยก็คลายความคิดถึงแม่ไปได้บ้างเพาในนี้มีอะไรให้ทำมากมาย...อีกตั้งสามอาทิตย์ เราจะทนไหวหรือเปล่านะ...ลีเวลคิดในใจ เธอห่างแม่มากสุดก็แค่ไม่กี่วัน นี่จากกันเป็นเดือน แม่จะสบายดีหรือเปล่านะ...

     

          ร่างของหญิงสาววัยกลางคนยิ้มให้กับความคิดของลูกสาว เธอเองสามารถับรู้ความคิดและความรู้สึกของลูกเธอทั้งสองคนได้ แรกๆก็ตกใจที่อยู่ดีๆก็ไม่สามารถรับรูได้ แต่เมื่อมองเห็นความคิดของไลลาก็พอรู้ว่าพลังที่ถูกปิดไว้ของลีเวล ค่อยๆเปิดออกมาแล้ว...”จะปิดได้นานแค่ไหน เราก็ยังไม่รู้เลยนะคะหวังว่าคุณจะยังดูแลลูกอยู่ ยังไม่หนีลูกไปไหนใช่ไหมคะ”ลมอ่อนๆยามเย็นของวาเรนเทลพัดมาราวกับเป็นคนตอบรับจากคนรักของเธอ...ถึงแม้จะรู้ว่าสักวันไลลาและลีเวลก็ต้องจำได้ว่าเธอเป็นใคร แต่อย่างน้อยก็ขอปิดไว้อย่างนี้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย เพื่อให้ลีเวลได้ใช้ชีวิตแบบเด็กธรรมดาเหมือนคนอื่นบ้างก็ยังดี....คำสุดทายก่อนลาจากกับคนที่เธอรักมาที่สุดไปตลอดกาล คำสั่งจากผู้เป็นที่รักทั้งเธอและบรรณารักษ์คนอื่นๆ คำสั่งจากผู้นำใหญ่ของฟาเรนเทล...ดูแลไลลากับลีเวลดีๆนะ รักษาชีวิตเขา ปิดผนึกความทรงจำและพลังของพวกเขา แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะที่ควร ทุกอย่างจะสลายไปเอง...คำที่เธอจำได้ขึ้นใจ ก่อนที่จะไม่ได้พบสามีผู้เป็นที่รักอีกตลอดกาล....ถึงแม้เรื่องราวจะผ่านมานับยี่สิบกว่าปีแล้วแต่ความทรงจำในครั้งนั้นก็ยังไม่จางหาย ชีวิตนี้ไม่เคยคิดทำร้ายใคร แต่พวกเธอกลับถูกทรยศโดยคนที่พวกเธอไว้ใจ เธอจึงรู้ว่าทุกอย่างไมแน่นอน...มิตรภาพ ต่อให้ผูกพันกันมากแค่ไหน แต่ความโลภในตัวคน ยังไงมันก็มีมากกว่า คนมันคิดจะชั่ว ยังไงมันก็ชั่ว ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องเผยตัวตนที่แสนสกปรกของมันออกมาอยู่ดี เธอจึงไม่ไว้ใจใครง่ายๆแบบเมื่อก่อนอีก บทเรียนที่เธอได้รับนั้น มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน...

              ยามเช้าของฟาเรนเทลในวันไลเวลวันนี้ดูคึกคักมากเป็นพิเศษ ยิ่งในตลาดดอกไม้ขนาดใหญ่คนก็ยิ่งเยอะ วันนี้ดอกไลลาและลีเวลดูจะขายดีเป็นพิเศษส่วนดอกไม้อื่นๆก็ถูกนำไปตกแต่งบ้านของตน ประเพณีนี้จัดนานถึงสามวันสามคืน เพราะหลังจากลอยดอกไม้เสร็จ ก็จะมีพิธีกรรมเพื่อสงจิตไปถึงเด็กน้อยทั้งสองและแม่ของเขาที่หายไป ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นการทานอาหารร่วมกับครอบครัว เรียกง่ายๆว่าเป็นวันหยุดยาวของทุกๆปีเลยก็ว่าได้ ที่นี่จะหยุดยาวแค่ ปีใหม่ คริสต์มาส และประเพณีไลเวลเท่านั้น และส่วนใหญ่ทุกคนจะนัดมารวมตัวกันแล้วเที่ยวในวันสุดท้ายก่อนจะกลับไปทำงาน...

         ส่วนคนที่วันนี้ไม่ต้องทำงานเพราะหอสมุดปิดบริการก็นอนสบายอยู่บนห้องนอน ถึงวันนี้จะบอกว่าตื่นสาย แต่ก็ไม่ได้สายขนาดที่ว่ากินโลกได้ทั้งใบ ก็แค่แปดโมง สายมาแค่ชั่วโมงเดียว...ส่วนด้านล่างที่วุ่นอยู่กับการจัดหน้าหอสมุดเพื่อต้อนรับเหล่าแขกที่จะมาในอีกไม่นาน เหล่าผู้มียศศักดิ์ บรรณารักษ์ทุกคลาส ราชาและราชินีเจ้าชายและอื่นๆอีกมากมาย จะมาลอยดอกไม้ที่นี่ บ่อน้ำขนาดใหญ่ด้านข้างหอสมุดถูกเปิดใช้งานหลังจากไม่ได้ใช้มาหนึ่งปีเต็มแต่น่าแปลกที่ยังสะอาดอยู่ อาจเป็นเพราะการทำความสะอาดของพวกเอลฟ์ที่ทำงานเกินเงินเดินที่ได้รับก็ได้ล่ะมั้ง? ที่นี่ถึงสะอาดขนาดนี้   

    ก๊อกๆๆ! เสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าห้องตามด้วยเสียงพี่สาวของเธอที่ดังทะลุประตูเข้ามา แสงอาทิตย์สาดผ่านม่านที่เปิดข้างไว้เพราะลืมปิดเมื่อคืนทำให้ลีเวลที่ตื่นขึ้นมาพบกับแสงที่แยงตาซึงเป็นสิ่งที่เธอเกลียดมากๆ”อย่ามัวแต่นอนแม่คนขี้เซาตื่นมาช่วยทำอาหารได้แล้วนะ พวกเรารอเธอมาทำอาหารจานหลักอยู่นะ..!”เสียงที่ดังลอดผ่านประตูเข้ามาทำให้ลีเวลขยี้ตาแล้วเดินไปหาพี่สาวด้วยท่าทางเฉื่อยชาของคนเพิ่งตื่น”อีกห้านาที แล้วหนูจะลงไปทำให้ ของพร้อมหมดแล้วนะ...”ร่างบางมองหน้าพี่สาวด้วยสายตางัวเงียก่อนจะมองหน้าพี่สาว”อืม..ห้านาททีนะ...”ไลลาพยักหน้าก่อนเดินลงไป เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วลีเวลก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วแต่งตัวสบายๆเดินลงมา ลีเวลไม่ค่อยใส่กระโปรงให้ได้เห็นมากนักนักจาเครื่องแบบชุดกระโปรงแบบง่ายๆแต่กลับช่วยทำให้เธอดูสวยขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก....

    “เอาล่ะ...ฉันจะลงมือทำแล้วนะ...”

     

                   หลังจากที่เมลงมือทำอาหาร ทุกคนในครัวก็ถึงกับอึ้ง เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าสาวแสบแถมโลกส่วนตัวสูงจะทำอาหารได้คล่องแคล่วแบบนี้ ยังไงก็ดกว่าพี่สาวของเธอเกินครึ่ง หรืออาจจะเพราะเธออยู่กับแม่มากกว่าพี่สาวที่ไปทำงานนอกบ้าน จึงได้ฝีมือการทำอาหารมามากกว่าพี่สาว”เสร็จแล้ว ตกแต่งอีกนิดก็พร้อมแล้ว”ลีเวลละมือจะอาหารจานหลักที่ขนาดยังไม่ตกแต่งยังน่าทาน กลิ่นเครื่องเทศหอมๆของอาหารบนโต๊ะส่งให้อาหารน่าทานกว่าเดิม”พี่คิดว่าฝีมือเราจะตกแล้วนะลีเวล เห็นไม่ค่อยเข้าครัวเลยช่วงนี้...”ไลลาเอยก่อนก้มลงไปสูดกลิ่นหอมๆของอาหารก่อนทีจะโดนวิลเล่ตำหนิเข้า”อาหารพวกนี้เราต้องให้แขกนะครับอย่าดมแบบนี้สิเสียมารยาท...”วิลเล่บอกก่อนที่ตนเองจะเข้ามาถืออาหารออกไปให้พวกเอลฟ์แม่ครัวพอครัวตกแต่ง

                 ”ตอนนี้ใกล้เวลาเข้ามาทุกทีแล้วสินะ”บารอนที่เพิงเดินเข้ามาในครัวเมื่อมีม้าเร็วไปบอกเขาว่าเด็กสาวคนเก่งเข้ามาลงเมือทำอาหารในครัว ถึงแม้เขาจะชมว่าภรรยาทำอาหารเก่งที่สุดแล้ว แต่เมื่อเดินเข้ามาก็คงจะคิดใหม่ เด็กสาวอายุไม่เท่าไหร่แต่อาหารที่ส่งกลิ่นหอมๆน่าทานกว่าที่บ้านเป็นไหนๆ เห็นแล้วก็อยากจะชิม”อยากจะรู้จริงๆว่าอาหารฝีมือเด็กอายุยี่สิบกว่าๆจะอร่อยสู้ภรรยาที่บ้านของฉันหรือเปล่า”บารอนยิ้มนิดๆก่อนจะเดินมาดูในหม้อที่มีสวนผสมมากมาย คาดว่าน่าจะเป็นซุปแน่นอนแต่สิ่งที่เข้าคิดมันไม่ใส่”นี่เป็นอาหารพื้นเมืองของวาเรนเทลค่ะ เราจะต้มพวกของแห้งและเนื้อสัตว์ ผักที่มีรสหวานและหอมจากนั้นเอาเนื้อสัตว์มาชุบแป้งที่ผสมกับน้ำซุปแล้วเอาลงไปทอดค่ะ ส่วนพวกผักที่เหลือเราก็เอาบางชนิดมาตกแต่งจาน...”ลีเวลหยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ด ก่อนจะหยิบดอกไม้รูปร่างแปลกๆขึ้นมา”ส่วนนี่เรียกว่าดอกเคียรอนมีกลิ่นหอม  รสหวานแต่ว่าถ้าทำให้เกิดบาดแผลตอนเก็บ จะมีรสขมมากๆ ทำให้ราคาสูง ชนชั้นสูงมักนำมาทำอาหารทานเวลามีงานเลี้ยง”ลีเวลยิ้มให้ทุกคนก่อนเด็ดกลีบดอกเคียร่อนลงไปในหม้อขนาดใหญ่สองกลีบ แม่เธอสอนเรื่องอาหารในวังเยอะมากตั้งแต่มีหมอดูทำนายวาเธอจะได้เข้าวัง แต่เธอเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง....

     

             เมื่อเวลาเริ่มงานมาถึง ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในหอสมุดอย่างไม่ขาดสาย ในมือก็ถือกระทงดอกไม้ติดไม้ติดมือมากันด้วย แต่สิ่งที่น่าสนใจในงานไม่ใช่แค่กระทงดอกไม้แต่เป็นชายร่างสูงที่ปรากฏตัวพร้อมกับหญิงสาวร่างเล็กที่แต่งองทรงเครื่องด้วยเครื่องประดับหรูหรา...ทั้งสองถูกจับจ้องจากผู้คนเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวที่ยืนอยู่มุมในสุดของงานในคืนนี้....หลังจากที่ยืนมองอย่านาน เสียงประกาศเริ่มการลอยดอกไม้เริ่มขึ้น ผู้คนเริ่มทยอยเดินกันออกไป ลีเวลไม่อยากไปเดินชนไหล่กับใคร จึงเลือกไปลอยที่สวนของเธอแทน ถึงแม้จะเหงาเดียวดายและเงียบสงัด แต่ในความเงียบนั้นก็ยังมีสิ่งสวยงามอยู่ ร่างของหมาป่าคู่แฝดสองตัวที่เดินเข้ามาหาเธอแล้วนอนลงขางๆร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้าเพื่อชมหมู่ดาวน้อยใหญ่ที่วันนี้ดูจะเห็นมากกว่าทุกวันที่เธอเคยมองมา...”พวกแกคงคิดถึงเจ้านายของแกอยู่ใช่ไหมล่ะ...”ลีเวลลูบหัวทั้งสองไปพลางมองดาวบนท้องฟ้าเธอไม่รู้หรอกนะว่าเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนั้นสำคัญกับพวกบรรณารักษ์มากแค่ไหนพวกเขาถึงต้องจัดพิธีใหญ่โตแบบนี้ ถึงกับกำหนดให้เป็นวันหยุดยาวเลยนี่ก็คงจำสำคัญมาก

              เธอเข้าใจความรู้สึกของเจ้าสองตัวนี้ดี การคิดถึงใครสักคนที่ไม่รู้จะได้เจอกันอีกหรือเปล่ามันเจ็บปวดมากๆ.... พ่อของลีเวลจากเธอไปตั้งแต่เธอยังเด็กมาก แม้แต่ไลลาเองก็จำพ่อของตัวเองไม่ได้ รูปสักใบก็ไม่มีให้เห็น แม่ก็ไม่เคยเลาเรื่องของพ่อให้ฟังมากกว่าบอกว่า พ่อของพวกลูกๆเป็นคนเก่ง เป็นผู้นำ สง่างามและใจดี...จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่โชคดีเหมือนแม่ของเธอกันนะ...ที่เจอผู้ชายดีๆอย่างพ่อ ทุกวันเธอจะเห็นแม่ไปนั่งที่สวนหลังบ้านทุกวัน แม่บอกว่าพ่อชอบมานั่งแบบนี้ทุกวันตอนที่ลูกยังไม่เกิด แม้เธอจะคิดว่าสิ่งที่แม่ทำนั้นเป็นการทำร้ายตัวเอง แต่มาคิดๆดูอีกที การทำอะไรที่เราเคยทำกบคนที่รัก มันก็คงจะเหมือนมีเขาอยู่ใกล้ๆเราตลอดเวลา เธอเองก็อยากจะนอนดูดาวเหมือนที่เคยนอนดูกับแม่และไลลาเมื่อตอนเธอยังเด็ก ตั้งแต่ไลลาไปทำงานที่หอสมุด เธอเริ่มเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เวลาว่างของเธอน้อยมากชนิดที่ว่าเวลากินข้าวยังน้อยเลย กิจกรรมที่ทำร่วมกันบบครอบครัวเลยเริ่มลดน้อยลงไป...

                     หลังจากนึกขึ้นมาได้ว่าเธอเข้ามาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ลีเวลเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยงที่ผู้คนเริ่มกลับเข้ามาแล้ว เสียงดนตรีที่คลอไปทำให้งานนั้นดูสนุกสนานขึ้นมาก เหล่าบรรณารักษ์ที่ไม่ได้เจอะเจอกันนานพูดคุยดื่มกันกันอย่างสนุกสนาน ส่วนวิลเล่เองก็ดูเหมือนจะมีใจให้พี่สาวเธออยู่ไม่น้อย เพราะช่วงนี้เห็นคุยกันบ่อยเสียเหลือเกิน ส่วนเมวิลนั้นก็ยังคงดูแลสาวร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่ไม่ห่าง...

    “ทุกคนครับ วันนี้ ผมมีเรื่องจะประกาศ”เสียงของชายที่ดูมีอายุมากแล้วเอ่ยขึ้นบนเวทีขนาดเล็ก”วันนี้ นอกจากจะเป็นวันที่เรารำลึกถึงวิซิจผู้เสียสละและเด็กสาวทั้งสอง บุตรของวิซิจแล้ว วันนี้ผมยังมีเรื่องประกาศอีกเรื่องหนึ่ง...ลูกชายผมเมวิลกำลังจะมีข่าวดีก็คือ ลูกชายของผมกำลังจะหมั้นกับแครี่”สิ้นเสียงของราชาผู้สูงวัยก็มีเสียงวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก บ้างก็ยินดี บ้างก็ว่าไม่ดูกาลเทศะ ทั้งที่เป็นงานที่รำลึกถึงผู้เสียสละ แต่ที่ดูจะได้ยินมากก็คืออย่างหลังเพาะเขาเองก็มีอายุมากควรจะแยกแยะว่าอะไรควรไม่ควรได้แล้วแต่เขาทำตัวเหมือนเด็กๆที่ยังไม่รู้กาลเทศะมาพูดอะไรทีไม่ได้เกี่ยวกับงานในวันนี้บนเวที ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าราชาคงจะอดใจไม่ไหวอยากอวดลูกสะใภ้เต็มแต่แต่ก็ควรจะสงบจิตสงบใจไว้บ้าง แต่ที่ดูจะไม่สบอารมณ์ก็คงจะเป็นเจ้าสองแฝดที่จะกระโจนใส่ราชาตั้งแต่เขาพูดถึงลูกชายคนเดียวของเขาแล้ว แต่กลิ่นจิตสังหารที่ลอยมาไม่ใช่ของเจ้าสองแฝด แต่เป็นของลีเวล เธอโกรธมากที่ราชามาทำลายพิธีอันแสนศักดิ์สิทธ์นี้ เหล่าบรรณารักษ์ที่ได้กลิ่นจิตสังหารรุนแรงก็เริ่มตื่นตัวมองหาต้นเหตุของกลิ่นจิตที่พิเศษกว่าจิตอื่นๆ กลิ่นที่มีเพียงผู้ที่มากไปด้วยพลังความรู้ สามารถมองทะลุผ่านม่านความทรงจำได้ กลิ่นจิตที่เหมือนกับของวิซิจ!

    “คุณคิดว่าที่นี่เป็นงานะไรกัน!”น้ำเสียงโมโหของลีเวลที่ดังมาจากมุมหนึ่งของงาน เธอโกรธมากที่มีตาแก่จากที่ไหนก็ไม่รู้มาพูดเรื่องไม่น่าฟังในงานที่ควรโศกเศร้ามากกว่าจะมามัวยินดีกับลูกชายของตน!”เธอเป็นใคร!”เสียงของราชาแก่เอ่ยขึ้นเมื่อเธอเดินฝ่าเหล่าฝูงชนออกมาให้เห็นดวงตาสีแดงดั่งเลือดและกลิ่นจิตที่รุนแรงกว่าบรรณารักษ์ปกติมาก และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ ชุดของเธอเป็นชุดเครื่องแบบสำหรับมนุษย์! ซึ่งไม่มีกลิ่นจิตติดตัวเลยตั้งแต่เกิด ถึงจะพยายามฝึกฝนวิชาแค่ไหนก็ไม่สามารถมีกลิ่นจิตออกมาได้รุนแรงขนาดนี้! เมื่อเห็นท่าไม่ดีเมวิลและบารอนก็เข้ามาขวางทั้งสองคนไว้ไม่ให้เผชิญหน้ากัน บารอนจึงเอ่ยกับราชาว่า”งานนี้เป็นงานที่ควรจะโศกเศร้าเสียใจ การที่ท่านมาทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ท่านอย่าลืมสิ...”ราชาแก่ครุ่นคิดก่อนจะเดินลงจากเวทีไป แต่ยังไม่วายส่งสายตาอาฆาตมาให้ลีเวลที่ยืนสงจิตสังหารอยู่ไม่ห่าง...”พอแล้วน่า...พ่อของฉันเขายอมแพ้แล้ว...”เมวิลเอยขึ้นพลางยิ้มให้ลีเวลแต่สีหน้าเธอกลับไม่ยิ้มด้วยแถมยังส่งหมัดแรงๆเข้าที่ท้องของเมวิลอีกต่างหาก”กลับไปดูแลหญิงสาวของเจ้าเถอะ! ไม่ต้องมาเป็นห่วงเป็นใยข้า!”ลีเวลเดินกระแทกเท้าออกไปทางหลังหอสมุดโดยมีเจ้าสองแฝดวิลลาซและวิเลียสตามไปติดๆ ทิ้งให้เจ้าชายหนุ่มยืนกุมท้องอยู่นานสองนานผู้หญิงอะไรไม่มีความเป็นกุลสตรี!’รัชทายาทหนุ่มคิดในใจ เขาเองถึงแม้จะเคยเจอหญิงแกนแก้วมาบ้าง แต่ยังไงก็ยังมีความเป็นหญิง แต่นี่อะไร หมันหนักกัดเจ็บ ขยับปากทีนี่หูชา ถึงแม้เขาจะเคยเจอมุมน่ารักน่าแกล้งของเจ้าหล่อนมาบ้าง แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าหล่อนคือคนเดียวกับที่เขาเห็นที่งานวันนั้น...

                “ชิ! ผู้ชายเจ้าชู้ชีกอ มาหว่านเสน่ห์ใส่คนนั้นทีคนนี้ที บ้าที่สุด!”ลีเวลเดินกระแทกเท้าออกมาจากหอสมุดแล้วนั่งลงเด็ดดึงหญ้าบนพื้นแก้หงุดหงิดโดยมีเจ้าหมาป่าสองตัวนั่งเอียงคอสงสัยกับสิ่งที่เจ้านายทำ...”อดทนเรื่องพลังขึ้นเยอะนี่ ลีเวล...”บารอนที่เดินตามเธอมาห่างๆหลังจากที่เอเดินออกมาจากงานได้ไม่นานพูดขึ้น แต่ก็ดีแล้ว เด็กคนนี้จะได้ช่วยเหลือตนเองได้เวลาที่ไม่มีใครอยู่ด้วย...

    “นิดหน่อยค่ะ แต่ก็ถือว่าเยอะขึ้นมากนะ แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยๆ อ่อนแรงยังไงก็ไม่รู้...”ลีเวลยิ้มให้บารอนที่ค่อยลงมานั่งกับเธอด้วย...”อ้อ..จริงสิ หนูต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำกิริยาไม่สุภาพต่อแขกคนสำคัญ...”ลีวลเอ่ยขอโทษบรอนที่ทำให้เขาขายหน้า”ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็คิดว่ามันไม่ควรจะทำนะ เรื่องแบบนี้ ใครก็ต้องเคยเป็น”บารอนยิ้มให้เธอ ลีเวลยิ้มตอบบารอนก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยถามไถ่กันอย่างสนุกสนานก่อนจะกลับเข้าไปในงานเลียงเพื่อกล่าปิดงานและนัดเวลามาทำพิธีพรุ่งนี้ต่อไป

     ________________________________________________________________________________________________
    100% แล้วจ้า...รู้สึกยากเนอะ 55+ ตอนต่อไปนี่ไม่ใช่ตอนที่ 3นะจ๊ะ แต่เป็นตอนพิเศษเพื่อเซอร์วิสผู้ติดตามนะคะ...><  เอ อาจมีคำถามว่าแลล้วลีเวลจะรู้ตัวตนตอนไหน คือ...ประมาณ 5-6 ของจูนนะคะเพราะตัวจูนเองก็แบบ เครียดกับฉากนี้มากอะค่ะ ยังไงก็ จะสู้เพื่อทุกๆคนนะคะ>< 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×