ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Farentel magic Library ฟาเรนเทล ห้องสมุดมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 สวนแห่งความทรงจำ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 57


    บทที่ 1

    สวนแห่งความทรงจำ

         เช้าวันใหม่ลีเวลตื่นขึ้นมาเพื่อสูดอากาศยามเช้าหลังจากที่เมื่อวานทดสอบความจำจนพวกเธอทั้งสองเวียนหัวไปหมด แต่ความจริง คนที่เวียนหัวคือไลลาเพราะเธอไมมีพลังวิเศษเรื่องการจดจำทำให้ไลลาแทบจะบ้าตายเพราะคำถามไมได้อยู่ในใจความของเรื่องเลยแม้แต่น้อยส่วนลีเวลหลังจากที่ออกจากห้องของท่านผู้นำเธอก็ไปทำการทดสอบแบบสบายๆ

    “ทุกคนหายไปไหนหมดนะ...”ลีเวลเอ่ยหลังจากที่เดินออกมาจากห้องด้วยชุดลำลองแสนเรียบง่ายของเธอ

    “อะไรกันน่ะ?”ลีเวลเอ่ยอย่างสงสัยพลางหยิบกระดาษโน้ตหน้าห้องมาอ่าน

    อาหารเช้าอยู่ที่ห้องอาหาร

    ตอนนี้พวกเราออกไปข้างนอก

    กลับมาบ่ายๆอยู่กับพี่สาวเธอไปก่อนนะ

                                               ซีเวล

    “โอ๊ย! ฉันอยากจะบ้าตาย”ลีเวลตะโกนออกมาดังลั่นแล้วเสียงก็สะท้อนกลับมา ที่นี่เหลือแค่เธอกับพี่สาวจริงๆสินะ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่จริงๆเธอจึงเดินลงมาห้องอาหาร ตลอดทางที่เดินผ่านมีแต่รูปปั้นคนโบราณที่แสนขนลุก แล้วพี่ไลลาไปไหนนะ หรือว่าจะไปกับพวกนั้นแล้ว....

        เมื่อเดินมาถึงห้องอาหาร เธอก็พบโน้ตเล็กๆแปะอยู่บนจานอาหารของเธอ พี่ไปกับพวกเขา บ่ายๆจะกลับนะ “ให้ตายเถอะ!”ลีเวลสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจก่อนจะนั่งลงทานอาหารให้เสร็จฉันจะไม่อยู่ที่หอสมุดแบบนี้ทั้งวันแน่ ใช่! ฉันจะต้องออกไปข้างนอกลีเวลกระซวกอาหารอยู่งมูมมานก่อนวิ่งขึ้นไปหยิบเสื้อโค๊ทของเธอก่อนจะวิ่งให้เรวที่สุดไปเปิดประตูปราสาทเพื่อพบว่า....ประตูล็อค

    “นี่เราจะต้องอยู่ที่นี่ถึงเย็นจริงๆหรอเนี่ย...?”ลีเวลเอ่ยอย่างห่อใจก่อนค่อยๆนั่งลงพิงประตูบานใหญ่ หน้าต่างทั้งหมดถูกปิดไว้เพื่อกันขโมย ส่วนประตูห้องของท่านผู้นำก็ถูกไม้เลื้อยปิดไว้ตามเดิน ไม่มีอะไรขยับแม้กระทั่งผ้าม่านทั้งหอสมุดมีเพียงเสียงลมหายใจของลีเวลเท่านั้น

        เสียงหอนของวิลลาซและวิลเลียสดังกึกก้องลั่นหอสมุดและยังดังต่อเนือง ลีเวลรีบลุกและตามเสียงไปจนพบกับประตูบานหนึ่งที่อยู่หลังหอสมุด ประตูนั้นเปิดออกเองราวกับมีมนุษย์เปิด ลีเวลรีบวิ่งออกไปอย่างไม่สนใจว่าด้านหลังมีร่างของหมาป่าทั้งสองจ้องมองเธออยู่สายตาฉายแววถึงความภักดีแก่เด็กสาวคนนี้...

        “แฮ่กๆ”.....เสียงลมหายใจหอบเหนื่อยของลีเวลหลังจากที่วิ่งอกมาจากหอสมุดผีสิง(?)ได้เธอก็มานั่งพักอยู่บริเวณสวนหลังหอสมุดที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ และมีดอกไม้ที่ตรงกับชื่อของเธอและพี่สาวของเธอด้วย ดอกไลลากับดอกลีเวล เป็นดอกไม้ที่พบได้แค่ที่นี่ เพราะทางหอสมุดได้ทำการเพาะพันธุ์และไม่ขายให้ใครแต่น่าแปลกที่แม่ของเธอก็มีดอกไม้ทั้งสองชนิดนี้ปลูกไว้ที่บ้าน เธอพอจะรู้เรื่องคร่าวๆว่าดอกไม้นี้ไม่ขาย แต่ทำไมแม่เธอถึงปลูกมันไว้ที่บ้าน แล้วมีดอกไม้ทั้งสองชิดนี้ได้ยังไง”แล้วจะเอายังไงต่อดี”ลีเวลพูดเบาก่อนเดินตรงไปตามทางที่มีดอกไลลาปลุกสลับกับดอกลีเวล แต่ดูจากสภาพ ที่นี่คงจะไม่ค่อยมีคนเข้านอกจากคนสวนเพราะมันสะอาดเกินกว่าจะมีคนเข้ามาที่นี่ น้ำพุรูปชายวัยกลางคนจูงมือเด็กหญิงตัวน้อยส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนเช่นกันแต่อุ้มเด็กทารกเหมือนกับที่หน้าประตู แต่ที่หน้าตกใจกว่านั้นคือ หน้าเหมือนแม่เธอมากส่วนเด็กผู้หญิงวัยสองขวบก็หน้าเหมือนไลลามากๆ!

          เสียงใบไม้ที่ไหวกระทบกันเพราะลมอ่อนๆยามเช้า อากาศเย็นๆแต่ไม่ถึงกับหนาว ลีเวลถอดเสื้อโค้ทออกแล้ววางไว้บนม้านั่งริมทางเดินก่อนนอนลงบนพื้นหญ้าสีเขียวชอุ่มที่เปียกชุ่มเล็กน้อยด้วยน้ำค้างยามเช้าแล้วก็สูดอากาศยามเช้าเข้าปอด “อ้า....สดชื่นจังเลย”ลีเวลเอ่ยกับตัวเองก่อนลุกยืนขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพลางมองไปยังน้ำพุที่มีรูปปั้นของครอบครัวปริศนา เธอเดินเข้าไปช้าๆก่อนนั่งลงบนขอบน้ำพุแสนสวยก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มๆของชายวัยกลางคนเอ่ยกับลูกสาวและคนรัก

    กลับมาแล้วหรอคะพ่อ

    จ๊ะลูก ดื้อกับแม่หรือเปล่า

    ไม่ดื้อหรอกค่ะ พ่อคะไปหาน้องกันเถอะ

    ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ไลลา

    อยากให้พอมาเห็นน้องเร็วๆนี่คะน้องน่ารักมากเลย

    หลังจากสิ้นเสียงของเด็กสาวลีเวลก็ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของครอบครัวแต่เมื่อเสียงนั้นจางหายไปเธอก็จำได้เพียงแค่ได้ยินเสียงของผู้ชายี่เรียกชื่อลูกสาว แต่จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร...

    “ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าเรานอนน้อยจนสติฟั่นเฟือน ได้ยินเสียงหลอนไปหมด”

             ลีเวลสะบัดความคิดเรื่องของเสียงนั้นออกจากหัวแล้วเดินไปหยิบเสื้อก่อนเดินต่อไปเรื่อยๆจนพบบ้านต้นไม้หลังหนึ่ง เธอไม่รอช้ารีบปันขึ้นไปด้านบนและเธอก็พบกับหนังสือและของเล่นเด็กมากมาย คาดว่าน่าจะเป็นของเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นแน่ ลีเวลนั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านใน ส่วนข้างซ้ายเป็นเก้าอี้ตัวเล็กสองตัวด้านขวาเป็นเก้าอี้ขนาดกลางหนึ่งตัว”สวยจัง บ้านต้นไม้หลังนี้”ลีเวลนั่งพิงเก้าอี้ตัวใหญ่สักพักก็หลับไปเพราะบรรณยากาศยามเช้านั้นช่างน่านอนเสยจริง รวมทั้งเธอก็ง่วงมากเพราะเมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย

    16:30 น.

    “ห้าว.....นอนเต็มอิ่มเลยเรา...”ลีเวลเอ่ยพลางยืดแขนขึ้นเหนือหัว”ตายแล้ว! สี่โมงครึ่งแล้วนี่นา พวกนั้นกลับมาแล้วแน่เลย!”ลีเวลรีบลงจากบ้านต้นไม้หลังงามคว้าเสื้อโค้ทแล้ววิ่งกลับเข้าหอสมุดอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้แล้วมันก็ทันเวลาหลังจากเสียงปิดประตูที่เธอเข้ามาจบลงเสียงเอะอะโวยวายของเหล่าบรรณรักษ์ที่เพิ่งกลับเข้า เธอวิ่งไปหาต้นเสียงแล้วก็พบกับพี่เลี้ยงสาวของเธอยิ้มมาแต่ไกล

    “รอนานเลยน่ะสิเรา หลับไปกี่ตื่นแล้วเนี่ย? หิวมั้ย? พวกเราซื้อของมาฝาก”ซีเวลเอ่ยพลางยื่นถุงขนมให้กับเด็กฝึกหัดของเธอ

     “หิวสิ ข้าวกลางวันก็ไม่ด้กิน ไม่มีใครอยู่เลยคราวหลังถ้าทิ้งไว้อย่างนี้อีก กลับมาหอสมุดเละแน่...”ลีเวลเอ่ยพลางทำหน้ามุ่ยใส่”จ๊ะๆ พวกเราขอโทที่ไม่ได้ไปปลุกเธอเห็นเมื่อคืนเธอเดินลงมาเช็คหนังสือที่มาใหม่เมื่อเย็นฉันก็กลัวว่าจะไปกวนเวลานอน”ซีลเอ่ยก่อนเดินเข้าไปในห้องอาหารตามด้วยเหล่าบรรณารักษ์ที่กลับมาด้วยกัน

          บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างเรียบง่าย อาหารเย็นวันนี้ต้อนรับน้องใหม่ด้วยดินเนอร์สุดหรูหรา อาหารมากมายถูกนำมาเสริฟบนโต๊ะด้วยเอลฟ์พ่อบ้านแม่บ้าน เหล่าบรรณารักษ์ที่นั่งอยูบนโต๊ะ พูดคุยกันถึงเรื่องกิจกรรมวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับวิลเล่และซีเวล

    “ลีเวล ไลลา พรุ่งนี้พวกฉันจะต้องเข้าวังนะ...”วิลเล่เอ่ยขึ้น”ไปทำไมหรอ?”ลีเวลเอ่ยถามพี้เลี้ยงของพี่สาว”พวกเราจะไปรับเข็มกลัดเลื่อนคลาสเป็นคลาส S แต่ว่าเขาไม่อนุญาตให้พวกที่ต่ำกว่าคลาส A เข้าไป พวกเธอเลยต้องอยู่ที่นี่กับพวกเอลฟ์ไปก่อน”วิลเล่เอ่ยบอก”แต่เดี๋ยวอีกสองสามวันเธอก็ได้เข้าวังแล้วนะไปรับคลาสใหม่น่ะ”พี่เลี้ยงสาวเอ่ยต่อหลังจากที่วิลเล่เอ่ยจบ ใช่ พวกเธอยังไม่ได้รับคลาสเลยหรืออาจจะหมายถึงลีเวลคนเดียวอีกนั่นล่ะ

          หลังจากรับประทานอาหารเสร็จวิลเล่และซีเวลก็ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมแต่เช้าโดยมีไลลาอาสาจะช่วยแปลงโฉมให้กับทั้งสองบรรณารักษ์ ส่วนลีเวลก็เช่นเคย เธอก็ไปหาที่เงียบๆนั่งอยู่คนเดียวเหมือนเดิม เธอไม่ค่อยชอบที่ๆมีคนเยอะๆถึงขึ้นเกลียดเลยทีเดียว

         ลีเวลหลบออกมานั่งสวนหน้าหอสมุด แต่แปลกที่มองจากตรงนี้ไม่เห็นบ้านต้นไม้หรือต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นเลยแม้แต่น้อยน้ำพุที่เธอเห็นเมื่อตอนเช้ามันสูงมาก แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นเลยแม้แต่น้อย”สวนนั่น มันคือสวนอะไรกันแน่”ลีเวลเอ่ยกับตัวเองพลางแหงนหน้ามองดาวบนฟ้า มันสวยมากๆดีไม่ดีสวยกว่าที่บ้านของเธอซะอีก น่าแปลากที่เมืองหลวงจะเห็นดาวมากกว่าย่านชนบท แน่นอนว่าเมื่อเธอมองดาวแบบนี้ เธอก็ต้องคิดถึงแม่เป็นธรรมดาอยู่แล้วเพราะตอนเด็กๆเธอกับแม่และไลลาก็ชอบมานั่งดูดาวแบบนี้เป็นประจำถึงโตแล้วก็ยังอยากนอนหนุนตักแม่แล้วนอนดูดาวอยู่เลย แต่เวลาตั้งเดือนหนึ่งสำหรับคนไม่เคยห่างแม่เลย แค่วันสองวันมันก็นานมากแล้ว

    “ลีเวล...นั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวหรอ”โจเซฟนับว่าเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เธอยอมรับว่าเขาอึดมากเลยทีเดียวเพราะเมื่อวานเขานั่งรอเธอเช็คหนังสือโดยไม่ปริปากบนหรือถามอะไรนอกจากชื่อของเธอเลยยันตีสอง

    “ก็...มานั่งดูดาวน่ะ คิดถึงแม่ก็เลย...”เอหันไปมองเขาแล้วตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม”ไม่ต้องแกล้งยิ้มหรอกนะ ฉันรู้ว่าเธอน่ะกำลังเศร้า...” พลังวิเศษของโจเซฟคือการรู้ถึงอารมณ์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายและหลอกลวงสายตาของอีกฝ่าย”อยากเจอแม่มั้ยล่ะ อยางน้อยก็แค่เห็นแบบไม่แค่รูปน่ะ”ขอเสนอของโจเซฟทำให้ลีเวลพยักหน้าแบบไม้ต้องคิดไตร่ตรอง แม้จะรู้ว่ามันก็แค่ภาพลวงตา แต่มันก็ดีกว่ารูปล่ะกันน่า

    “ลีเวล...”เสียงหวานๆของแม่ของเธอนั้นทำให้ลีเวลยิ้มออกมา”แม่...”

    ฟึ่บ! ภาพทั้งหมดหายไปในพริบตา ร่างของโจเซฟล้มลงลีเวลหันไปมองเพื่อนที่ล้มลงร่างกายมีบาดแผลบริเวณด้านหลังจากพลังเวทจนได้เลือด เสียงหอนของหมาป่าคู่แฝดดังสนั่นขึ้นหลังจากสิ้นเสียงเหล่าบรรณารักษ์ก็วิ่งออกมาด้านนอกกันหมด”เกิดอะไรขึ้น!”วิลล่าผอ.ประจำหอสมุดเอ่ยขึ้น

    “ช่วยโจเซฟก่อนเถอะ!”ลีเวลเอ่ยพลางแบกโจเซฟขึ้นแล้วพาไปยังที่ปลอดภัย”ลีเวล ไลลา พาโจเซฟไปข้างในก่อน แล้วอย่าออกมา นี่คือคำสั่งของพี่เลี้ยง!”ซีเวลเอ่ยพลางมองไปยังไลลาและลีเวลที่ตอนนี้เลือดของโจเซฟเปื้อนเสื้อผ้าไปหมด”ทางนี้พวกเราจะจัดการเอง”วิลเล่เอ่ยสมทบก่อนเรียกคฑาเวทย์ของตนเองขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว คนอื่นๆก็เช่นกัน ลีเวลหลังจากเห็นอย่างนั้นก็พาโจเซฟกับไลลาวิ่งไปยังประตูที่เมื้อเช้าพาเธอไปยังสวนนั้นเพราะเธอคิดว่าที่นั่นจะปลอดภัยที่สุด แต่เธอคงจะลืมคิดไป...ที่ๆปลอดภัยที่สุดก็คือที่ๆอันตรายที่สุดเช่นกัน....

    “พี่ไลลา พาเขาไปหลบหลังต้นไม้ หนูจะไปปิดประตู”หลังจากเข้ามาถึงด้านใน ลีเวลก็ส่งโจเซฟให้พี่สาวแล้วให้ไปหลบหลังต้นไม้ใหญ่...

    “กำลังรออยู่เลยลีเวล”ชายรางสูงผมสีทองใส่เสื้อผ้าดูภูมิฐานยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงหน้าของลีเวล”เด็กที่เดินเข้ามาในนี้ได้โดยที่ไอ้หมาป่าสองตัวนั้นไม่ทำร้ายเนี่ย น่าสนใจนะ”ชายหนุ่มพูดขึ้นพลางโยนบุหรี่ทิ้งแล้วเหยียบมัน

    “แกเป็นใคร...แกรู้ชื่อฉัน...ได้ยังไง”ลีเวลพูดเสียงสั่นพลางถอยหลังแล้วเตรียมวิ่ง”เดี๋ยวสิยัยหนู แนก็แค่มีข้อเสนอให้เธอนะ...”ชายร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ๆลีเวลพลางจับคางเธอให้แหงนขึ้นมาสบตากับเขา”เธอไม่เคยสงสัยหรอ ว่าพ่อเธอเป็นใคร แล้วทำไม...ถึงมีดอกลีเวลกับดอกไลลาเต็มสวนนี่ไปหมดน่ะห๊ะ?”

    “มันคงไม่มีอะไรน่าสนใจมากกว่าแกเข้ามาที่นี่โดยครบ32ได้ยังไงหรอกบีเซล...!”เสียงของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขามก่อนเดินเข้ามาใกล้ๆชายร่างสูง”ปล่อยมืออกจากบรรณารักษ์ของฉัน...”

    “บารอน...เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...”บีเซลเอ่ยพลางละจากใบหน้าหวานก่อนจะหันมาสนทนากับชายวัยกลางคน”เครียดมากหรอเพื่อน แก่ลงไปเยอะเชียวนะ...”บีเซลเอ่ยพลางมองหน้าชายวัยกลางคนที่บัดนี้สีหน้าแสดงถึงความโกรธ”ฉันไม่เคยมีเพื่อนคิดทรยศอย่างแก ออกไปจากที่นี่ แล้วอย่ากลับมาอีก...”บารอนกัดฟันกรอดก่อนจะตอบไปด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

    “ใจเย็นสิเพื่อน...วันนี้ฉันไม่ได้มาขโมยหนังสือไปเผาเล่นหรอกนะ แต่ฉันเห็นว่าเด็กนี่...น่าสนใจ”บีเซลเอ่ยพลางยิ้มร้าย”ลีเวลไม่มีอะไรน่าสนใจ แกกลับไปได้แล้ว!”บารอนเอ่ยพลางพุ่งไปกระชากคอเพื่อนเก่า ไม่สิ...เขาไม่เคยมีเพื่อนแบบนี้ พวกคนทรยศ ที่ๆให้ตั้งชีวิตที่กินที่นอน แต่กลับทำลายมันได้ลงคอ...”เรี่ยวแรงยังเหมือนเดิมเลยนะเพื่อน...”บีเซลมองหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาทชวนให้ซัดสักหมัดสองหมัด”ฉันบอกให้กลับไป”บารอนพูดด้วยน้ำเสียงอยากจะฆ่าเจ้านั่นอย่างเต็มทน ถ้าไม่ติดว่าที่นี่ไม่ควรจะแปดเปื้อนเลือดของพวกคนเลวๆแบบมัน

    “คุณบารอนคะ พอเถอะค่ะ...”ลีเวลเอ่ยพลางเดินเข้ามาใกล้ผู้นำสูงสุดของหอสมุด”แต่ลีเวล...”ชายวัยกลางคนเอ่ยแต่ก็ปล่อยตามที่เธอบอก

    “ปล่อยเขาอกไปเถอะค่ะ ยังไงเขาก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่แล้ว...”ลีเวลพูดลางมองหน้าบารอนด้วยสีหน้าจริงจัง       ”ออกไปจากที่นี่ ที่นี่เป็นที่ของฉัน อย่ามายุ่งกับที่นี่ออกไปจากที่นี่”ดวงตาของลีเวลเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ลมจากทั่วทุกสารทิศพัดมาอย่างไร้เหตุผล ลีเวลมองไปยังร่างสูงผู้บุกรุกเข้ามาในที่ส่วนตัวของเธอ...”พลังของเธอ เป็นที่..ต้องการของ...วันเทียร์...”บีเซลบอกอย่างลำบากเพราะหายใจไม่ออกจากแรงปริศนาที่บีบรัดคอเขาอยู่

    ”พลังของฉันไม่ได้จำเป็นต่อพวกแกขนาดนั้น แต่ที่แน่ๆ แกบุกรุกเข้ามา แกจะไม่ได้ออกไปอย่างสบายๆแน่”ลีเวลเอ่ยพลางกระชากคอบีเซลแล้วหายวับไป...

    ตูม! พลังเวทย์ที่สาดใสกันของเหล่าบรรณารักษ์และพวกทรอยด์ที่หน้าหอสมุดยังดังอย่างต่อเนื่อง...และจู่ๆก็มีร่างของสิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา

    “ในเมื่อแกล่วงล้ำเข้าไปที่นั่นโดยที่ฉันไม่อนุญาต แกก็ต้องได้เรียนรู้ว่าการที่เข้าที่ส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต มันจะเจออะไร”ลูกไฟเวทย์ขนากเท่ามือของลีเวลกระแทกเข้าไปตรงท้องของบีเซลอย่างจัง ร่างสูงทำได้เพียงแค่กุมท้องตัวเอง แต่ไม่สามารถโต้กลับได้เพราะถูกเวทย์มัดเอาไว้

    “ส่วนนี่ เป็นความหมั่นไส้เรื่องแว่นของแก! สีมันแสบตา!”ลูกไฟอีกลูกถูกซัดเข้าไปอีกครั้งก่อนที่ลีเวลจะปล่อยร่างนั้นลงกับพื้นแล้วเดินออกมาให้พวกทรอยด์ที่ยืนดูวิงกรูเข้าไปเก็บซากของเจ้านายคนเก่ง...

    ฟึบ! ร่างของลีเวลล้มลงกับพื้นบรรณารักษ์พี่เลี้ยงทั้งสองและวิลเล่วิ่งกรูเข้ามาหอบร่างเล็กเข้าไปในหอสมุดส่วนที่เหลือก็รอดูท่าทางของพวกทรอยด์ว่าจะกลับมาอีกหรือเปล่า

        เมื่อเข้ามาในหอสมุดก็พบบารอน ไลลาและร่างของโจเซฟที่นอนสลบอยู่ ซีเวลพาร่างของลีเวลไปไว้บนโจเซฟที่ไม่ไกลจากโจเซฟนัก”เกิดอะไรขึ้นที่สวนนั่น...ทำไมลีเวลถึงบอกว่าสวนนั่นเป็นสวนของเธอคะ?”วิล่าเอ่ยถามบารอนร่างสูงเมื่อโดนยิงคำถามแบบตรงจุดแบบนั้นเขาก็ไปไม่ถูก...”เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะบอกกับพวกเธอเองนะ วิลล่า”บารอนเอ่ยพลางเดินเข้าไปใกล้ร่างของเด็กสาวที่นอนสลบอยู่...ถึงเวลา เธอก็จะรู้เองว่าเธอนั้นเป็นใคร...บารอนคิดในใจ

    “พวกทรอยด์กลับไปหมดแล้วค่ะท่าน”เมซันเอ่ยในขณะที่เดินเข้ามาพร้อมกับเทกซัสและมอนเต้”ดีแล้วล่ะ...ฉันคิดว่าคืนนี้ต้องมีคนดูแลสองคนนี้...”สิ้นเสียงบารอน สองหมาป่าก็เดินเข้ามาหาลีเวลและโจเซฟ

    “พวกแกอาสาหรอ...”บารอนเอ่ยพลางลูบหัวหมาป่าทั้งสองอย่างอ่อนโยน”พวกแกน่ะไปพักเถอะ ฉันรู้ว่าแกห่วงลีวล แต่ร่างกายพวกแกก็ใช่ว่าจะดีนะ”บารอนมองไปยังบาดแผลของหมาทั้งสองที่เกิดขึ้นเพราะต่อสู้กับให้คนทรยศนั่น...

    “เดี๋ยวฉันกับซีเวลจะดูแลเองค่ะ ยังไงเขาก็น้องสาวฉัน ส่วนคุณโจเซฟ เขาออกไปของนอกเพราะฉันขอให้ไปตามลีเวล ที่เขาบาดเจ็บก็เพราะฉัน”บารอนฟังไลลาที่ยืนก้มหน้าแล้วพูดด้วยนำเสียงแผ่วๆอย่างรู้สึกผิด”ก็ได้...”บารอนตอบตกลงก่อนเดินกลับเข้าไปในห้อง

    เช้าวันต่อมา....

       ร่างของลีเวลที่นอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยเหล่าบรรณารักษ์และเอลฟ์เพื่ออดูว่าเธอจะตื่นขึ้นมาหรือเปล่า ตั้งแต่ที่เธอสลบไป เธอยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย...

    “เธอลืมตาแล้ว!”เอลฟ์ตัวหนึ่งพูดขึ้นทำให้เหล่าบรรณารักษ์ที่นั่งๆนอนๆอยู่ตามเก้าอี้ลุกขึ้นมาดู”ผู้ชายคนนั้นไปไหนแล้ว...ฉะ”ลีเวลเงียบลงเพราะวิลเล่เอาชาร้อนๆมาจ่อปากเธอ

    “กินเข้าไก่อนเมื่อคืนเธอเสียพลังไปเยอะมาก นี่จะช่วยเธอให้สดชื่นได้”ลีเวลลุกขึ้นนั่งแล้วรับชามาวางไว้ที่ตัก”ฉันคิดว่า เธออยากได้อาหารเช้ามากกว่านะ”โจเซฟที่ตื่นขึ้นมาเมื่อคืนหลังจากศึกสงบลงไปสักพักใหญ่เอ่ยชึ้น ตามร่างกายมีบาดแผลถลอกเล็กน้อยเพราะล้มลงส่วนแผลจากเวทย์นั้นก็ถูกรักษาให้อาการดีขึ้นมากพอที่จะลุกขึ้นเดินเหมือนปกติ”ขอบคุณนะ แต่แค่ชานี่ก็พอแล้วล่ะ”ลีเวลเอ่ยพลางยิ้มให้กับเขา

    ปัง! เสียงประตูที่ปิดลงพร้อมกับร่างของชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่...”ห่วงกันดีเหลอเกินนะ”เมวิลเอ่ยก่อนเดินเข้ามาหาลีเวลแล้วโยนถุงยาลงข้างๆเธอ”เมื่อเช้ามีม้าเร็วไปบอกฉันว่าเธอได้รับบาดเจ็บ แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะไม่ได้เป็นอะไร ส่วนงานเลื่อนลำดับคลาสท่านพ่อบอกว่าเลื่อนไปตอนเย็น และอยากให้ทุกคนที่หอสมุดไปร่วมงาน ส่วนหอสมุด...ฉันให้ทหารเวทย์มาคุมให้”

        ม้าเร็วที่ว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากวิลเล่ เพราะเขากับเมวิลสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทางความคิด”ขอบคุณสำหรับยา แต่ฉันไม่ต้องการ”ลีเวลบอกแล้วหยิบถุงกระดาษคืนให้กับร่างสูง”ทำไม?”ร่างสูงถามแต่เธอก็ไม่ตอบเอาแต่ก้มลงมองแก้วชา”ฉันถามว่าทำไม?!”ร่างสูงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ”ฉัน....กินยาไม่เป็น”ลีเวลพูดด้วยเสียงแผ่วเบาแต่นั่นก็ทำให้เหล่าบรรณารักษ์หัวเราะขึ้นมา”เธอกินยาไม่เป็นหรอ?”ซีเวลถามหลังจากตั้งสติได้แล้ว”อื้อ ก็ตั้งแต่เด็กฉันไม่เคยป่วยเลย มีแต่ไลลาที่ป่วยตลอด...”

          อย่าได้คิดว่าลีเวลหัวแข็ง แต่พลังของไลลาคือ สามารถถ่ายเอาความเจ็บปวดและสามารถรู้อนาคตของคนที่มีดวงจิตผูกกับตัวเองได้ ไลลานั้นรู้เกี่ยวกับพลังของตัวเองมาตลอดแต่ไม่เคยบอกใครเพราะเธอไม่อยากใหแม่เป็นห่วงเธอเวลาที่น้องหรือใครป่วย

    “จริงหรอ?”วิลดล่หันมาถามไลลาที่ยืนยิ้มให้น้องสาวอยู่ไม่ไกล”ค่ะ ลีเวลไม่เคยป่วย”ไลลาตอบยิ้มๆ อันที่จริงเธอนั้นก็พยายามเอาความเจ็บปวดมาไว้ที่ตัวเองแล้ว แต่ว่าไม่สำเร็จ ดูเหมือนว่าอาการของลีเวลคงไม่ใช่อาการป่วยธรรมดา และอีกอยางหนึ่ง เธอไม่เคยดูอนาคตของลีเวลได้เลย...

    “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวฉันให้แม่ครัวใส่ลงไปในอาหารให้ จะได้ทานได้ ยานี้ไม่มีรสและกลิ่น น่าจะใส่ในอาหารได้”เมเวลพูดพลางหยิบถึงยาแล้วยื่นให้เอลฟ์ที่อยู่ใกล้ๆ

       หลังจากที่จัดการธระต่างๆเรียบร้อยแล้วเหล่าบรรณารักษ์ทั้งหลายก็เข้าสู่พระราชวังที่ขนาดพอๆกับหอหนังสือลีเวลและไลลาสวมชุดราตรีแบบเรียบง่าย ชุดสีขาวชวยทำให้ผิวที่ขาวดั่งหิมะขาวยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนเหล่าบรรณารักษ์ก็ใส่ชุดเต็มยศกันมา แขกต่างๆมากันอย่างไม่ขาดสาย บรรณารักษ์จากทั่วทุกสารทิศเข้ามารวมตัวในงานนี้หมด รวมทั้งมิลเลตและเบลเวตด้วย....วันนี้เหล่าบรรณารักษ์คลาสเอนั้นจะไดรับเข็มกลัดเลื่อนขั้น ในส่วนของเดือนหน้าจะเป็นของคลาสบี

    “พี่เบลเวลพี่มิลเลต”ไลลเอ่ยทักทายสองบรรณารักษ์จากที่ทำงานเก่าเธอตื่นเต้นมากๆที่ไดเจอพวกเขาอีกครั้ง สองพี่น้องยิ้มอย่างดีใจเมื่อเจอไลลารุ่นน้องที่ทำงานมาด้วยกันหลายปี”เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม?”มิลเลตเอ่ยทักทายรุ่นน้อง”สบายดีค่ะ ลีเวลเองก็เหมือนกัน”

       ทั้งสามพูดคุยกันอย่างสนุกสนานส่วนลีเวลก็หนีออกไปนั่งด้านนอก เธอเองก็กลัวอยู่บ้างว่าพวกนั้นจะกลับมาอีกแต่ยังไงซะก็ดีกว่าที่วุ่นวายข้างในงานนั่น...

    “เบื่อหรอ?”ร่างสูงของเจ้าชายที่เดินเข้ามาหาเธอแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน...”เปล่า...ฉันแค่ไม่ชอบที่ๆคนวุ่นวาย”ลีเวลตอบเขา”เธอเนี่ย ไม่เหมือนผู้หญิงที่ฉันเจอเลยนะ”ร่างสูงเอ่ยยิ้มๆก่อนนั่งลงข้างๆ”ปกติ ผู้หญิงพวกนั้นจะชอบไปงานเลี้ยง ชอบเป็นจุดเด่น แต่เธอกลับไม่ชอบมันซะอย่างนั้น”ลีเวลมองหน้าแล้วยิ้มๆ ใช่เธอก็คิดว่าเธอตางจากคนอื่น เมื่อก่อนมันเคยเป็นปมด้วยเรื่องไม่กล้าแสดงออกของเธอ เพราะเธอมักประหม่าเวลาที่เจอคนมากๆง่ายๆก็คือ เธอขี้อายนั่นแหละ

          หลังจากงานเลี้ยงจบลง เหล่าบรรณารักษ์ก็เดินทางกลับส่วนที่มาจากที่ไกลๆ ทางรัฐจะจัดโรงแรมไว้ให้ ทั้งรัฐจะให้ความสำคัญกับหนังสือมาก มีเรื่องเล่าว่าตั้งแต่โบราณ หนังสือมีความสำคัญกับพวกขามาก แต่วันหนึ่งก็มีพวกทรยศเกิดขึ้น พวกเขาเรียกพวกนั้นว่าทรอยด์ ตามภาษาโบราณท้องถิ่นที่แปลว่าผู้ทำลาย พวกทรอยด์นั้น แต่ก่อนเคยเป็นฝ่ายเดียวกับพวกบรรณารักษ์แต่เป็นมนุษย์ จนมีบรรณารักษ์คนหนึ่งน้อยใจที่ตนเองไม่มีพลังอะไร จึงรวบรวมมนุษย์ที่คิดเหมือนเขาแล้วไปก่อตั้งฐานทัพอยู่ที่ชายป่า และจะมาขโมยหนังสือไปทำลายทิ้ง พวกบรรณารักษ์นั้นจึงต้องเพิ่มวิชาป้องกันตัวและเรียนเวทย์ไปด้วย แต่ตามปกติแล้ว พวกบรรณารักษ์จะไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอยู่แล้ว พวกเขาจะมีพลังกันตั้งแต่เกิด หลังจากที่เกิดพวกทรอยด์ก็มีบรรณารักษ์สามคน ที่มีพลังมากที่สุดขึ้นมาปกป้องหนังสือ เหล่าบรรณารักษ์เลยยกให้พวกเขาเป็นผู้นำ แต่บรรณารักษ์คนที่ 3 ที่น้อยใจที่ตนเองนั้นมีพลังน้อยกว่าเพื่อนเลยหันไปเป็นใหญ่ในหมู่ทรอยด์และตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกบรรณารักษ์ตลอดมา
    _________________________________________________________________________________________________
    เย้!  เสียที ปวดมือเล้กน้อย ตอนนที่  สั้นจังเลย เป็นเพราะความขี้เกียจของผู้เขียนล้วนๆ 555+ ไม่ใช่ค่ะ ไม่ว่างค่ะ ติดเรียน ทำพวกการบ้านด้วย สำหรับเรื่องเล่านั้น คาดว่าทุกคนคงจะรู้ว่าใครเป็นใครนะคะ^^
    สำหรับคนที่จินตนาการชุดไม่ออก เรามีให้ท่านดูค่ะ 
    *ขอแก้ไขเล็กน้อยค่ะ ผอ. ชื่อ วิล่านะคะ เป็นญาติห่างๆของวิลเล่ ความจริงวิลเล่ต่างหากที่เป็นญาติ 555+ ใครที่อ่านผิด มาแก้ให้แล้วนะคะ><
     
                                         คุณน้องลีเวล

     
             คุณพี่สาวไลลา

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×