ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Farentel magic Library ฟาเรนเทล ห้องสมุดมหัศจรรย์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 57


     

    บทนำ

    “ลีเวล ลูกบอกว่าพรุ่งนี้มีสัมภาษณ์งานใช่มั้ยจ๊ะ” เรวิล คุณแม่ลูกสองเอ่ยกับลูกสาวคนเล็กในขณะที่สายตายังคงไม่ละออกจากเสื้อโค้ทตัวโปรดของเธอที่ นานๆทีจะได้หยิบออกมาใส่ เพราะในวาเรนเทล ไม่ค่อยมีอากาศหนาวให้สัมผัสเท่าไหร่เลยไมค่อยได้หยิบมาใส่เท่าไหร่นัก สภาพจึงยังดีอยู่....

    “ค่ะแม่ พี่ไลลาบอกว่าทางห้องสมุดเปิดรับคนเลยกรอกใบสมัครให้เลย...”เจ้าตัวว่าพลางจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า....

        ใช่แล้ว พวกเขากำลังย้ายบ้านไปยังที่ใหม่ที่ใกล้ที่ทำงานของพวกเขามากกว่าเดิมเพราะการเดินทางไปทำงานของไลลาที่ต้องต่อรถไฟและรถเมล์หลายต่อเลยทำให้แม่จัดการหาบ้านพักดีๆแถวๆนั้น...

    “ไลลากลับบ้านก็ดึก ตื่นก็ต้องตื่นแต่เช้า แม่ไม่ค่อยไว้ใจพวกโรคจิตที่วันดีคืนดีก็ออกมาเพ่นพ่านบางวันก็หายจ้อยไปเลย แม่กลัวว่าพี่สาวเราจะโดนฉุดไป...”

    “อย่างไลลาเนี่ยนะคะจะโดนฉุด...แม่คิดว่าพี่เขาแรงน้อยขนาดนั้นเชียว...”

    “อย่างน้อยพี่เราก็เป็นผู้หญิงนะลีเวล...”แม่เอ่ยบนดุ ตอนนี้เวลา แปดโมงกว่ารถมารับ เก้าโมง ส่วนของขนไปตั้งแต่เมื่อวานทำให้สามแม่ลูกต้องงมาหาที่พักเป็นโรงแรมใกล้ๆพักรอจัดบ้านให้เสร็จ

    “เก็บของเสร็จแล้ว ไปทานข้าวไปลูก แม่คิดว่า เดี๋ยวรถก็คงมาแล้ว” เรวิลว่าพลางเดินถือกระเป๋าเดินทางลงไปจากห้องพัก

         ถึงแม้วันนี้อากาศจะหนาวเล็กน้อยแต่ก็คงเทียบไม่ได้กับในเมืองที่อุณหภูมิเกือบติดลบ แถวๆนี้เป็นย่านชาญเมืองและหอสมุดที่ไปทำงานนั้นเป็นห้องสมุดที่อยู่ในเครือของหอสมุดประจำเมือง แต่ถ้าจะให้ไปหอสมุดใหญ่ ก็คงต้องนั่นเครื่องไปกันเลยทีเดียว

    “ลีเวลทานสิจ๊ะ เดี๋ยวก็ไม่มีแรงเดินทางหรอก”ผู้เป็นแม่เอ่ย“ก็มันไม่หิวนี่คะ อีกอยางหนูก็ไม่ได้ทานอาหารเช้ามานานแล้วนะคะ จะกินไม่ลงมันก็ไม่แปลกหรอกค่ะ”ลีเวลเอ่ยกับผู้เป็นแม่ อาหารเช้าที่ได้ทานครั้งล่าสุดเมื่อตอนอายุเท่าไหร่กันเชียว ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เธอเองก็เดินทางไกลไม่แพ้พี่สาวหรอก “คิดอะไรอยู่หรอจ๊ะ...ลีเวล”

    “ก็แค่คิดว่า มนุษย์ธรรมดาในเมืองเราเนี่ย จะไปทำงานในห้องสมุดที่รวมสิ่งแปลกๆไว้ได้ยังกัน”ความคิดของลูกสาวที่ทำให้เรวิลถึงกับวางแก้วกาแฟลง...

    “แม่ว่า ลูกรีบทานข้าวเถอะจ๊ะ เดี๋ยวรถมารับ แล้วตอนเดินทางจะหิวนะ สายๆรถติดนะลูก เดี๋ยวก็หิวระหว่างทางหรอก”เรวิลพูดก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบต่อ พลางมองลูกสาวที่ค่อยๆหยิบขนมปังมาทาน

         ไม่ใช่ว่าแม่ไมอยากบอกหรอกนะ แต่ไม่รู้แบบนี้น่ะ ดีแล้ว....เรวิลคิดในใจ เธอเองพยายามปิดเรื่องน้าตั้งแต่ตอนที่ไลลาเกิด เรื่องตัวตนของเด็กสองคนนี้ เธอสัญญากับ คิลเวล พ่อของเด็กทั้งสองคนนี้ไว้แล้ว ว่าจะปกป้องเธอทั้งสองคนให้มากที่สุด และการส่งเธอไปทำงานที่หอสมุด มันก็ถูกต้องแล้ว สายเลือด ที่เกิดขึ้นมา เพื่อปกป้องหนังสือให้ไปทำงานที่นั่น ดีที่สุดแล้ว

     

              ร่างเล็กๆของผอ.เบลเวตที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ที่กำลังเครียดเรื่องของเด็กสาวที่เพิ่งรับเข้ามาทำงาน เธอคิดผิดจริงๆที่ส่งใบสมัครของทั้งสองคนไปให้ที่ฟาเรนส์อย่างที่พวกหอสมุดใหญ่สั่ง ”ให้ตายเถอะ!

    “ผอ.คะ บอกพวกนั้นดีมั้ยคะ”รองผอ.มิลเลตพี่น้องฝาแฝดของผอ.เอ่ยถามเธอก็เครียดอยู่เหมือนกันเพราะในเมืองใหญ่ มีแต่พวกต้องการพลังพิเศษแบบนี้ สายเลือดและเผ่าพันธุ์ที่แทบจะไม่เหลืออยู่บนโลกใบนี้แล้ว

    “ส่งตัวไปเมืองใหญ่นั่นแหละ อย่างน้อย ในหอสมุดนั้น ก็ปลอดภัยกว่าที่นี่ มีแค่ไลลาคนเดียว พวกทรอยด์ก็บุกมาจนหอสมุดจะพังแล้วเนี่ย”เธอนึกถึงตอนที่ไลลามาใหม่ๆ เธอนี่ถึงกับต้องกางเวทป้องกันถึงสามชั้น เพื่อให้ไลลาทำงานโดยปลอดภัย ส่วนตอนกลับบ้านก็ส่งคนตามไปเพื่อคุ้มกันไลลาอยู่ห่างๆ”ในเมื่อที่นี่มีแต่มนุษย์ ส่งไปเมืองใหญ่น่ะ ดีกว่านะพวกเราก็เป็นแค่บรรณารักษ์คลาสA จะไปสู้พวกคลาสที่สูงกวาไดยังไง ส่งไปเมืองใหญ่ ให้มีโอกับเคียร่าจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินของทั้งสองคนด้วย ส่วนเรวิล ให้มาพักที่นี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอด้วย

    “ค่ะ จะจัดการเรื่องนี้ให้ภายในวันนี้ พรุ่งนี้ก็นั่งเครื่องบินไปได้เลยค่ะ”ร่างเพรียวเดินออกไปจากห้องเพื่อจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย

              “ไม่ ยังไงหนูกับพี่ไลลาก็จะให้แม่ไปด้วย!

              “พี่ยังไม่ได้บอกเลยนะ!

              “แม่ไปไม่ได้หรอกลูก เกรงใจเขา พวกลูกไปทำงานกัน เดี๋ยวๆก็เดือนหนึ่งแล้ว”

              “ไม่เอา!

              “อย่าดื้อสิลีเวล”

          สุดท้ายลีเวลก็เถียงแพ้ เธอจึงต้องยอมนั่งเครื่องมากับพี่สาวเพื่อข้าสู่เมืองหลวงหรือที่เรียกว่าเมืองใหญ่ แต่ที่เรียกว่าเมืองใหญ่ ไม่ได้หมายถึงขนาดนะ แต่หมายถึงยศศักดิ์ และพลังหรือลำดับคลาสที่มีความเก่งกาจมาก ทั้งบรรณารักษ์คลาสสูงๆ เช่น A S K ทั้งหมดจะถูกคัดกรองให้มาทำงานในเมืองใหญ่ทั้งนั้น และแน่นอน ฉันเริ่มต้นด้วยศูนย์ แต่ไหนมาอยู่ในเมืองใหญ่ จะเอาอะไรไปแข่งกับเขากัน!?

    “กลัวหรอ? ลีเวล”ไลลาเอ่ยถามน้องสาว เธอเองก็ไม่ค่อยสบายใจที่จะต้องทิ้งแม่ไว้ที่นั่นและเธอเองก็คลาสไม่สูงมาก จะมาใช้ชีวิตในเมืองมันก็ยังไงๆอยู่นะ

    “ก็นิดหน่อย แต่กังวลเรื่องแม่มากกว่า...”ลีเวลมองหน้าพี่สาว”เดือนหนึ่งเร็วจะตาย เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านไปเจอแม่แล้ว”พี่สาวเอ่ยปลอบใจ

    “ผู้โดยสารโปรดทราบ ในขณะนี้ เครื่องกำลังจะลงจอด กรุณารัดเข็มขัด เพื่อความปลอดภัยของท่าน”

         หลังจากลงมาจาเครื่องทั้งสองก็ไปหาอาหารทานก่อนที่จะนั่งรถไฟต่อไปยังหอสมุดฟาเรนเทล หอสมุดที่ขึ้นชื่อว่ารวมทุกเผ่าพันธ์ไว้ที่นั่น....

    จะมีอะไรรอเราอยู่นะ...หอสมุดฟาเรนเทลน่ะ

        ไม่นานรถไฟก็ถึงที่หมาย ทั้งสองลากกระเป๋าลงมาจากรถไฟ ไม่นานสองพี่น้องก็เห็นป้ายชื่อ พวกเธอวิ่งตรงไปยังป้าย

    “ผม วิลเล่ เป็นพี่เลี้ยงของไลลาครับ”ภูติหนุ่มเอ่ยบอกอย่างสุภาพ ก่อนจะมองไลลาแล้วโค้งให้เธอ”แล้วพี่เลี้ยงของลีเวลล่ะ?”ไลลาเอ่ยถามแทนน้องสาว

    “พี่เลี้ยงของน้องสาวคุณรออยู่ที่หอสมุดครับ เธอบอกว่าไม่อยากออกมา...”ภูติหนุ่มเอ่ยก่อนที่จะเดินนำไปยังรถที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีนัก

    “เชิญครับ ส่วนกระเป๋า วางไว้นี่เลยครับ เดี๋ยวคนขับจะเอาไปเก็บให้”ภูติหนุ่มเอ่ยพลางเข้าไปนั่ง

    “รถม้าหรอ?”ไลลาเอ่ยถามภูติหนุ่ม”ครับ คุณเห็นเป็นรถยนต์หรือไงกันครับ”วิลเล่เอ่ยตอบอย่างกวนๆแต่ก็ยังคงมาดหนุ่มหน้าตายเอาไว้

    “เข้าไปเถอะพี่ไลลา มันไม่มีอะไรหรอก...“ ลีเวลเอ่ยอย่างหน่ายๆ ถึงเธอจะรู้นิสัยพี่เธอ แต่ก็ยังไม่ชินเสียทีกับนิสัยเรื่องมากของพี่สาว

    “ก็ได้ๆ”

        ไลลาเอ่ยพลางเดินเข้าไป ภายในนั้นกว้างกว่าภายนอกที่เห็นมาก ใหญ่พี่ที่จะยัดโต๊ะทำงานเข้าไปไว้ในนั้นได้ ส่วนที่นั่งก็เป็นเบาะนุ่มๆชั้นดี จนลีเวลอดสงสัยไม่ได้ว่า เอาเงินจากไหนมาทำของหรูหราแบบนี้ได้

     “ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ ที่นี่เราอยากได้อะไรก็ได้ จะเอาเบาะนุ่มๆ รถม้าใหญ่ๆ หรือแม้กระทั่งบ้าน ทางหอสมุดจะจัดให้เราหมด โดยไม่เสียงเงินสัก ดรีเกิลเดียว”วิลเล่เอ่ยพลางดันขาแว่นขึ้น   

    “คุณบรรณรักษ์คะ ฉันถามจริงๆเถอะค่ะ เงินเอามาจากไหนเยอะแยะกันคะ ถ้าคุณไม่ได้จ่ายเอง” ไลลาเอ่ยถามบรรณรักษ์หนุ่มที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่ฝั่งตรงข้าม

    “ก็ เราไม่ได้ใช้เงิน แต่เรา เสก มันต่างหากล่ะ”

     “อะไรนะ!”สองพี่น้องตะโกนออกาพร้อมกัน แต่เหมือนว่าทั้งคนขับและวิลเล่จะไม่ออกอาการตื่นเต้นหรือตกใจเลยสักเล็กน้อยก็มันเสกจนชินแล้ว จะทำไงได้... วิลเล่คิดในใจ

    “นายอย่าบอกนะว่า ที่หอสมุดว่างงานขนาดที่จะเอาเวลามาเสกของพวกนี้ได้ฮะ!?”ไลลาตะคอกใส่พี่เลี้ยงหนุ่มที่ทำหน้าตายแถมยังตอบคำถามของไลลาด้วยน้ำเสียงกวนโอ๊ยว่า...

    “ก็ไม่ได้ว่างขนาดนั้นหรอก ก็แค่ 4-5ชั่วโมงต่อวัน เท่านั้นเอง”

       วิลเล่เอ่ยก่อนก้มลงอ่านหนังสือต่อ มันก็จริงที่ว่าเขามีเวลาว่างมากมายขนาดนั้น แต่พอทำงานจริงๆเขา อาจจะไม่ได้หลับได้นอนไปสามสี่วันเลย อย่างเช่น เหตุการณ์วันนั้น ที่ทำให้พวกเราสูญเสียผู้นำที่เป็นเลือดบริสุทธิ์ไปหลายคน รวมทั้งทายาทที่เกิดมาจากท่าน วิซิจและเรวิล แต่ก็มาพบตัวท่านวิชิจในภายหลังแต่ยังหาตัวท่านเรวิลและลูกสาวทั้งสองคนไม่พบ แต่หลังจากนั้นไม่นานท่านวิชิจก็เสียชีวิตลงหลังจากกลับมาได้ไม่นาน

    “จะว่าไป พวกเธอสองคนทานอะไรมาหรือยัง?”วิลเล่เอยก่อนปิดหนังสือลง

    “พวกเรากินกันมาแล้วจากบนรถไฟค่ะคุณวิลเล่”ลีเวลเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มให้เอลฟ์ที่เดินเข้ามาจากด้านหลัง

    “ก็ดี เพราะเรากำลังจะถึงแล้ว”วิลเล่เอ่ยพร้อมเปิดม่านออกเพื่อให้ทั้งสองเห็นหอสมุดที่เมื่อก่อนเคยเป็นที่ประทับของเจ้าชายรัชทายาทองค์ที่ 25 แต่หลังจากสร้างราชวังใหม่เสร็จ พระราชาก็อนุญาตให้ทำเป็นหอสมุด

    “โห...ที่นี่สินะ หอสมุดฟาเรนเทล”

          ลีเวลมองไปข้างนอกแล้วเอ่ยออกมา ส่วนไลลานั้นกำลังนั่งอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น เพราะสถานทีนี้ สวยงามมากๆ ตัวอาคารมีความงดงามแบบเมืองฟาเลนเทล น้ำพุหน้าตัวอาคารที่เป็นรูปยูนิคอร์นสีทองสัตว์ประจำรัฐที่สะท้อนแสงยามบ่ายได้อย่างสวยงาม เธอไม่อยากจะเชื่อว่าที่นี่คือฟาเรนเทลจริงๆ ทั้งๆที่อยู่รัฐเดียวกันแท้ๆ แต่ทำไมเมืองบ้านเกิดของเธอถึงต่างกับที่นี่ขนาดนี้

    “สวยมากใช่ไหมล่ะ...”วิลเล่ยิ้มให้ไลลาที่มองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ว่าวิลเล่จะยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนแบบนี้...

       หลังจากลงจากรถม้า สองพี่น้องก็พบกับสิ่งที่เรียกว่า ปราสาทหนังสือ ของแท้เพราะที่นี่มีแต่หนังสือ ขนาดบนกำแพงยังแกะสลักเป็นรูปหนังสือ ส่วนข้างๆเป็นภาษาท้องถิ่นแบบโบราณ ขั้นที่ว่า ลีเวลที่ว่าเก่งภาษาโบราณถึงกับผงะ เพาะเธอเองนั้นกว่าจะเข้าใจความหมาย ยังยืนอ่านอยูนาน

     

    ยามที่เกิดดวงจันทร์บังสุริยะ ทายาทจะปรากฏ

    แลยามดวงอาทิตย์สาดส่องผ่าน ความจริง จะกระจ่าง

    “ถ้าแปลคร่าวๆ ก็น่าจะหมายความว่า พระจันทร์ส่อง ทายาทตัวจริงจะปรากฏ แสงอาทิตย์สาดส่องผ่าน ความจริงจะกระจ่าง....”ลีเวลเอ่ยเบาๆทั้งพระจันทร์ และพระอาทิตย์....

    “สุริยุปราคา!”เธออุทานออกมาดังลั่นจนบรรณารักษ์ที่เป็นฝ่ายต้อนรับถึงกับตกใจ

    “อะไรลีเวล มีอะไร”ไลลาที่ยืนรอน้องสาวอยู่หันมาถาม”สุริยุปราคา ไลลา”

    “จะบ้าหรือไงที่นี่จะไปมีได้ยังไง เมืองเราน่ะกว่าจะมีครั้งนึง รอนานเป็นสิบๆปี”

    “มีสิคะ มีแน่ๆ แล้วก็เต็มดวงด้วย”ลีเวลเอ่ย”เธอจะแน่ใจได้ยังไงว่าจะมี”เสียงทุ้มๆของชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งเข้ามา

    “ฉันแน่ใจ ว่าจะต้องมีแน่ๆ ละ....”ลีเวลหันไปมองก็พบว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาทองค์ที่ 26(ล่าสุด)ที่เดินเข้ามาหาเธอ

    “อย่างงั้น เธอบอกฉันได้มั้ยล่ะ ว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่”เจ้าชายเอ่ยถาม “เมื่อทายาทปรากฏ”ลีเวลมองหน้าเจ้าชายที่ตอนนี้เข้ามาใกล้จนมองเห็นยังรูขุมขนแล้ว

    “นี่เธอไม่หลงเสน่ห์ฉันเลยหรือไงห๊ะ!?”เจ้าชายถอยห่างออกมาจากลีเวลพร้อมทำหน้าไม่ชอบใจ

    “ไม่นี่ ไม่เลยสักนิด แล้วนาย...เอ้ย!พระองค์มาทำอะไรที่นี่ละเพคะ”ลีเวลมองหน้าเจ้าชายพลางเดินออกห่าง

    “เรียกฉันว่า เมวิล เถอะ แล้วราชาศัพท์ก็ไม่ต้องใช้หรอกนะ พอดีว่าฉันไมถือสา”

    “ก็ดีงั้นชั้นก็ขอบอกไว้เลยนะว่าถ้าเกิดว่านายไม่เชื่อว่าจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง เรามาพนันกันไหมล่ะ ถ้าเกิดว่ามันเกิด นายก็ต้องก้มหัวให้ชั้น แต่ถ้าไม่เกิดชั้นจะเป็นขี้ข้านายตลอดชีวิต เอามั้ยล่ะ?”ลีเวลเอ่ย”ตกลง”เมวิลเอ่ยรับพนันก่อนจะเดินเข้าไปหาวิลเล่ที่มองทั้งสองคนอยู่ไม่ไกล

    “ผมว่าคุณทั้งสองคนเขาไปได้แล้วนะครับ จะถึงเวลารับน้องใหม่แล้วล่ะ”วิลเล่เอ่ยก่อนเดินนำเข้าไป

    “รับน้อง?!”สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะเดินตามเข้าไป เมื่อผ่านประตูบานใหญ่ที่แกะสลักลวดลายเป็นรูปคู่รักกับเด็กสองคน คนหนึ่งเป็นเด็กอายุประมาณสองขอบส่วนอีกคนเป็นทารกใส่สร้อยคอรูปหนังสือ...สร้อยแบบนั้น เราก็มีนี่นา...ลีเวลคิดในใจก่อนเดินเข้าไปในห้องโถงโดยไม่สนใจอะไร

    “ยินดีต้อนรับบรรณารักษ์ใหม่จ้า!”เสียงของเหล่าบรรณารักษ์ตะโกนต้อนรับน้องใหม่ บนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายทั้งคาวหวาน

    “อะไรกันคะ? ไม่ดีใจเลยหรอคะ ดิฉันคิดว่าพวกคุณจะดีใจกันซะอีก”บรรณารักษ์สาวคลาส Aเอ่ยขึ้นก่อนเดินไปหาลีเวลที่ยืนทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่หน้าห้อง

    “ไม่ค่ะ ไม่ตื่นเต้นเลย แล้วห้องพักอยู่ไหนคะ อยากพักผ่อนแล้ว”ลีเวลเอ่ยพลางองหน้าบรรณารักษ์สาว

    “ฉันขอแนะนำตัวก่อนจะพาเธอไปห้องพักละกันนะ ฉันชื่อ ซีเวล เป็นพี่เลี้ยงของเธอจ๊ะ”ซีเวลเอ่ยอย่างยิ้มแย้มแต่ลีเวลก็ไม่ได้สนใจอะไรจะขึ้นห้องลูกเดียว

    “ฉันเข้าใจแล้ว เธออยากไปพักแล้วสินะ...มาทางนี้สิจ๊ะ“ซีเวลยิ้มให้แล้วพาเธอขึ้นห้องพัก

    “คุณซีเวลคะ คือ...”ลีเวลเอ่ยอย่างกลัวๆเพราะเธอไม่ค่อยชินกับคนใหม่ๆหรือเพื่อนใหม่ๆทำให้เธอไม่ค่อยกล้าพูดจา

    “เรียกันว่าซีลก็ได้จะ เพื่อนๆฉันก็เรียกกัน ที่นี่ มีท่าน ผอ.วิล่า กับท่านหัวหน้าลัซเมียเป็นผู้ดูแลใหญ่สุด ส่วนที่ใหญ่สุดจริงๆ คือท่าน บารอน ผู้ดูแลหอสมุดนี้ เมื่อก่อนเป็นของท่านวิซิจ แต่หลังจากที่ท่านเสียไป เราก็ยังหาทายาทของท่านไม่พบ...”

    “ท่านหมายถึง...ที่เขียงไว้ข้างหน้าหรือเปล่า?”ลีเวลเอ่ยถาม”ใช่...เจ้าอ่านมันออกด้วยหรอ”ซีลหยุดหันไปมองเด็กสาวที่อ่านภาษาโบราณพวกนั้นออกด้วยใบหน้าตื่นๆ

    “ใช่ ข้าอ่านออก มันเป็นพรสวรรค์ของข้า ตั้งแต่เด็กๆแล้ว...”

         สีหน้าของลีเวลยังเป็นปกติแต่ว่าพี่เลี้ยงของเธอตอนนี้หน้าเหวอไปแล้วเพราะขนาดเธอที่เป็นบรรณารักษ์มาหลายปี กำลังจะเลื่อนคลาสในไม่กี่วันแล้วด้วย เธอยังอ่านมันไม่ออกเลย แต่เด็กนี่ อ่านมันออกตั้งแต่ยังเด็กเลยหรือ?

    “เธอหมายความว่ายังไง คือแบบว่าที่ฉันหมายถึงก็คือ...เธออ่านมันออกได้ยังไงล่ะ?”พี่เลี้ยงสาวพูดเสียงสั่นๆก่อนเดินต่อ

    “ก็พอดีว่าแม่ฉันสอนเรื่องพวกนี้แต่เด็กแล้วก็ส่งไปเรียนภาษาหลายภาษาหนึ่งนั้นคือชนเผ่าโบราณน่ะ...”ลีเวลเอ่ยยิ้มๆเมือนึกถึงตอนที่เธอร้องให้ไม่ยอมไปเรียนเพราะกลัวท่านผู้เฒ่า

    “อ๋อ...เป็นอย่างนี้นี่เองสินะ”ซีเวลถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอก็นึกว่าเด็กคนนี้เป็นพวกทรอยด์เสียแล้ว

    “แล้วนี่ใกล้จะถึงห้องหรือยังเดินมาหลายห้องแล้วนะ”ลีเวลเอ่ยถามพี่เลี้ยงสาว”สุดทางเดินนี้แหละจ๊ะ พอดีเหลือห้องสุดท้ายของชั้นนี้ ส่วนพี่สาวเธออยู่ชั้นล่างกับคุณวิลเล่จ๊ะ...”คำพูดของซีลทำให้คนหวงพี่สาวตาโตขึ้นมาทันใด

    “ไม่ใชอย่างนั้น ฉันหมายถึงอยู่ชั้นเดียวกัน ไม่ได้พักห้องเดียวกันจ๊ะ ที่นี่ห้องใครห้องมัน วุ่นวายกันไม่ได้”

        หลังจากถึงห้องพัก ซีเวลก็อธิบายเรื่องกฎต่างๆของห้องพักให้ลีเวลฟังเธอไม่มีปัญหาเรื่องกฎอะไรมากมาย แต่ที่แน่ๆเธอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายลงมาจากด้านล่างแล้วล่ะ

    “นี่แน่ใจนะว่าเธอไปเก็บแล้ว ถ้ามันหายขึ้นมาจะว่ายังไงฮะ!?”เสียงของหญิงสาวตัวเล็กๆแต่พลังเสียงไม่เล็กเลยตะหวาดใส่เจ้าเอลฟ์ตัวน้อยที่วิ่งหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่ แต่ยังไงก็ต้องเป็นหนังสือแน่ๆเพราะที่นี่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหนังสือล่ะนะ

    “นี่คือ เลซัน เป็นทรอยด์คนเดียวในหมู่บรรณารักษ์ ความจริงเขาไม่อนุญาตให้เรารับพวกนี้เข้ามาหรอกนะแต่ว่า ท่านเห็นว่ายัยนี่มีอะไรที่ทรอยคนอื่นไม่มีแถมยังรักษ์หนังสือ ก็เลยอนุญาต...”ซีเวลอธิบาย

    “แล้ว ทรอยด์ คืออะไรล่ะ”ลีเวลเอ่ยถาม เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีการแบ่งเผ่าพันธุ์อะไรมากมาย”ทรอยด์ เป็นพวกที่มีหลายๆเผ่าพันธุ์อยู่รวมกัน และพวกนี้จะเกียดหนังสือมาก จะบุกมาหอสมุดเราปีละครั้งสองครั้งแต่ถ้ามีพวกเลือดบริสุทธิ์เยอะๆ ปีหนึ่งบุกมาไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งต่อปี”ซีเวลอธิบายก่อนเดินเข้าไปหาเลซันเพื่อแนะนำสมาชิกใหม่ แต่ดูเหมือนว่าเลซันจะไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร่

    “ยัยนี่สินะ...บรรณารักษ์ฝึกหัดคนใหม่ พี่สาวยัยนี่ คลาส B ใช่มั้ย?”เลซันเอ่ยถามเพื่อนบรรณารักษ์

    “ก็ใช่ แต่พี่สาวเธอกำลังได้เลื่อนขั้นเป็นคลาส A เร็วๆนี้”ซีเวลเอ่ยบอกเพื่อนสาวก่อนเดินไปหยิบหนังสือที่อยู่บนชั้นมาให้เพื่อน

    “เธอหาหนังสือเล่มนี้อยู่สินะ...”ซีลยื่นหนังสือให้เพื่อนสาวก่อนเดินกลับไปหาลีเวล

    “พลังอ่านใจหรอคะ?”ลีเวลเอ่ยถาม”จ๊ะ...ฉันมีพลังอ่านใจ”

        หลังจากทานอาหารเสร็จบรรณารักษ์มือเกือบใหม่และมือใหม่ทั้งสองก็เดินชมพื้นที่ก่อนทำงาน และแน่นอนงานแรกของพวกเธอคือการเอาหนังสือ4-5 เล่มไปอ่านและทดสอบความรวดเร็วในการอ่าน และการจดจำหนึ่งในการทดสอบการเป็นบรรณารักษ์

    1 ชั่วโมงผ่านไป

    ปัง! เสียงหนังสือเล่มใหญ่ห้าเล่มถูกกระแทกลงบนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของซีเวลที่กำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่

    “ฉันอ่านเสร็จแล้ว”ลีเวลมองหน้าพี่เลี้ยงก่อนจะเดินออกไป อาจเป็นมารยาทที่ไมดีแต่การให้เธอมาอ่านหนังสือพวกนี้น่ะ เธอคงจำเป็นต้องใช้พลังนั้น

    “รอพี่สาวเธออ่านเสร็จแล้วฉันจะถามว่าเอได้อะไรจากหนังสือพวกนี้บ้างละกันนะ”ซีลตะโกนไล่หลังลีเวลที่เดินออกไปข้างนอก อันที่จริงเธอไม่อยากจะใช้พลังพวกนี้เพราะมันเป็นการเอาเปรียบพี่สาวเธอชัดๆ แต่ในเมื่อเธออยากเป็นมากกว่าเด็กขนหนังสือเข้าหอสมุด เธอก็คงต้องงัดพลังพิเศษของตัวเองออกมาใช้ พลังความทรงจำ แค่เปิดผ่านๆก็จำได้ทั้งหมด และเมื่อไม่ใช้แล้ว ก็เอาออกไปจากสมองได้ง่ายดาย

    “ผีเสื้อ?”ลีเวลมองไปยังผนังที่มีไม้เลื้อยและดอกไม้อยู่เต็มไปหมด”ผีเสื้อมากจากไหนกันนะ”ด้วยความสงสัยตามประสาคนไม่เคยอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปหาผีเสื้อสีครามตัวนั้นแต่เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่ามีประตูอยู่ข้างหลังไม้เลื้อยเมื่อเธอเดินเข้าไปใกล้ๆ ไม่เลื้อยก็หดจนเหลือแต่บานประตูสีทองสวย และแน่นอน...เธอก็เปิดมันเข้าไป

    “สวัสดีสาวน้อย...”ชายหนุ่มวัยกลางคนมองเด็กสาวที่เดินเข้ามาหาเขาอย่างกล้าๆกลัว

    “กี่สิบปีแล้วนะ ที่เราไม่ได้เจอใครหลงเข้ามาในนี้ เจ้าชื่ออะไรล่ะ”

         ป้ายชื้อแกะสลักจากทองคำแท้ที่เขียงว่า บารอน ประดับอยู่บนหน้าอกของชายวัยกลางคนที่เป็นผู้นำใหญ่สุดของที่นี่ บรรยากาศรอบห้องที่มีเพียงเสียงลมและสัตว์นานาพรรณ สาวน้อยเดินเข้าไปหาท่านผู้นำก่อนเอ่ยแนะนำตัว

    “ขะ...ข้าชื่อ ลีเวลค่ะ”ลีเวลแนะนำตัวอย่างสุภาพให้กับท่านผู้นำได้รู้จักตัวเอง

    “ข้าบารอนนะ...จะว่าไป ปกติประตู...นี้ไม่เปิดต้อนรับใครที่เป็นบรรณารักษ์ใหม่นะ แต่ทำไมเจ้าเข้ามาได้เจ้าวิลลาซกับวิลเลียสคงชอบเจ้าสินะ” วิลลาซเป็นหมาป่าสีเทาแกน้ำเงินส่วนวิลเลียสเป็นหมาป่าสีขาวล้วน ตาสีเหลืองทองทั้งคู่เพราะเป็นแฝดกัน

    “ออกมาเถอะเด็กคนนี้ไม่ทำอะไรแกหรอกนะ....”หลังจากบารอนเอ่ยจบ หมาป่าทั้งสองตัวก็เดินเข้ามาหาเด็กสาว”สวยจังเลยค่ะ”ลีเวลลูบขนของหมาป่าทั้งสองตัว พวกมันสวยและน่ารักมาก

    “แปลก....ทำไมมันไม่ขู่เธอนะ ออกจะกลัวเสียด้วยซ้ำไป”บารอนพูดยิ้มๆลีเวลมองหน้าเข้าแล้วจู่ๆก็มีภาพของชายคนหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเธอเพียงแค่ครู่แล้วก็หายวับไป”มันคงจะชอบให้ลูบมั้งคะ...”ลีเวลเอ่ยพลางลูบหัวทั้งสองตัวต่อ”เธออายุเท่าไหร่ละ...ฉัน 102 ปีแล้ว”ลีเวลไม่แปลกใจเพราะว่าเมืองนี้ไม่คอยมีมนุษย์แท้ๆอยู่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นภูติทั้งนั้น”ฉัน 23 ค่ะ”

    “อายุยังน้อยอยู่เลยนี่...แม่เธอล่ะ”บารอนเอ่ยถามก่อนจะหยิบชาขึ้นมาจิบ”50 ค่ะ”

    “ฉันเห็นรูปแม่เธอแล้วนะ...ยังดูไม่แก่เลยนี่”บารอนพูดยิ้มๆ”ค่ะ ฉันก็แปลกใจ”ลีเวลมองบารอนแล้วยิ้ม หลังจากนั้นทั้งสองก็ถมไถเรื่องต่างๆมากมายจนลีเวลลืมไปว่าเธอต้องไปทำการทดสอบ

    “ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ”ลีเวลที่เพิ่งรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วเอ่ยถาม”จะสี่โมงแล้วนี่”

    “ตายแล้ว นี่ฉันเข้ามาอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว”เด็กสาวเอ่ยออกมาก่อนรีบบอกลาชายวัยกลางคนแล้ววิ่งออกมาอย่างรีบร้อน เธอวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนที่เหล่าบรรณารักษ์ทำงานกันอยู่และพบว่าพี่เธอเพิ่งอ่านหนังสือเสร็จ ลีเวลเดินเข้าไปอย่างเงียบๆและเริ่มทำการทดสอบโดยมีพี่เลี้ยงของเธอเป็นผู้ถามก่อนจะถึงตาของไลลาบ้าง....

     ________________________________________________________________________________________________

    100 % จ๊ะ มาเพิ่มนิดหน่อยกลัวว่าจะสั้นเกินไปอ่านแล้วก็งงเลยมาต่อให้ แล้วก็แก้คำผิดเล็กๆน้อยๆค่ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×