คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 07 โลกมันกลม
7
โลกมันกลม
“จุ๊ดจู๋ของคูนยุงย้ายใหญ่”
ทั้งอาหลงและคอปเตอร์เข้ามาอาบน้ำพร้อม ๆ กัน เหตุเพราะตอนนี้สายมากแล้ว หากอาบทีละคนดูเหมือนจะเสร็จไม่ทันการ ระหว่างนั้นเด็กน้อยก็มีโอกาสได้สำรวจร่างกายของคุณลุงคนโปรด เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่มีใครอายใครทั้งสิ้น มีหลายอย่างที่ติดใจเด็กน้อย เพื่อแต่สิ่งที่เผลอหลุดพูดออกมาคือ อวัยวะความเป็นชายที่มันสะดุดตามากเกินไป
“เดี๋ยวโตไปของคอปเตอร์ก็ใหญ่เหมือนของลุงเองครับ”
“จิงเหยอ คอบเจ้อจะใหญ่เหมือนคูนยุงเหยอ”
“อืม อาจจะเล็กกว่านิดหน่อย”
“ไม่เอา จะใหญ่เท่าคูนยุง แล้วก็แข็งแยงเหมือนคูนยุง”
“ถ้าอย่างนั้นต้องหมั่นออกกำลังและเล่นกีฬานะครับ จะได้มีหุ่นเหมือนลุง”
“อื้อ”
อาหลงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขานั้นได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กน้อยคนหนึ่งที่อยากโตมาเหมือนตนเอง แล้วทั้งสองก็หยอกล้อกันเล็กน้อยตอนที่อาบน้ำกัน เสียงหัวเราะดังรอดออกไปด้านนอก นลที่กำลังจะขึ้นมาเรียกทั้งสองก็ได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนาน อดไม่ได้ที่เขาจะเผยรอยยิ้มปริ่มสุขออกมาบนใบหน้า แต่ก็จำต้องร้องเตือนทั้งคู่เพราะถ้ายังมัวแต่พูดคุยหยอกเย้ากันไม่เลิก มันจะสายเอาได้ทั้งคู่
ก็อกก็อกก็อก
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านเรียกความสนใจของนลที่กำลังเตรียมข้าวเช้าให้ทั้งสองคนอยู่ เขาเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน พบกับหญิงวัยกลางคน ทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่จะก้มหัวทำความเคารพซึ่งกันและกัน แม้จะยังมีคำถามติดอยู่ในใจทั้งก็คู่ตาม
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน อารยา เป็นเลขาของคุณอินทัช เขาบอกให้ดิฉันเอาชุดทำงานของเขามาให้ ไม่ทราบว่าเขาอยู่บ้านหลังนี้หรือเปล่าคะ”
ฝ่ายผู้มาเยือนเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน แต่เนื่องจากว่านลไม่รู้ชื่อจริงของคนตัวโต เลยไม่แน่ใจว่าคนที่เธอหมายถึงคืออาหลงหรือเปล่า จึงบอกให้รอสักครู่ แล้วก็รีบเดินขึ้นไป เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อาหลงและคอปเตอร์เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
“พี่หลง มีผู้หญิงที่ชื่ออารยามาหา เขาใช่เลขาของพี่หรือเปล่าครับ”
“อ่า ใช่ พี่บอกให้เขาเอาชุดมาให้เอง เขามาแล้วเหรอครับ ถ้ายังไงก็รับให้หน่อยนะครับ เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้คอปเตอร์เอง”
“ได้ครับ”
แล้วนลก็เดินลงไปด้านล่างอีกครั้ง อารยายิ้มส่งไปให้แล้วตั้งหน้าตั้งตารอคำตอบจากคนตรงหน้า ซึ่งตรงตามที่อาหลงได้บอกเธอเอาไว้ในช่องข้อความ ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าประมาณตีห้าครึ่ง อาหลงได้ส่งข้อความมาหาเธอ บอกว่าจะเข้างานสายเล็กน้อยเพราะไม่ได้อยู่ที่บ้าน แล้วฝากเธอไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านของอาหลงและนำมาให้ตามที่อยู่ที่เขาส่งไปให้ ในตอนแรกเธอก็งุนงงว่าอาหลงมาทำอะไรอยู่ที่บ้านทาวน์เฮาส์แถวนี้ พอเห็นหน้าคนที่มาเปิดก็รู้ได้ในทันทีว่าเจ้านายของเธอกำลังมีความสัมพันธ์บางอย่างกับคนตรงหน้า
“อื้อ พี่หลงทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าครับ”
อารยาส่งของให้แล้วจากไปในทันที ด้านของนลหยิบชุดของอาหลงขึ้นไปให้ พอขึ้นมาถึงก็เห็นอาหลงแต่งตัวให้คอปเตอร์ด้วยสภาพเปลือยเปล่า เขาตกใจกับภาพที่เห็น แต่คนโดนเห็นกลับนิ่งเฉยไม่ใส่ใจ ยังคงแต่งตัวให้เด็กน้อยคอปเตอร์อย่างสบายใจเฉิบ
“ก็พี่ไม่มีเสื้อผ้าใส่นี่ครับ”
“ผมหมายถึงเอาอะไรปิดไว้ก็ได้นี่ครับ”
นลหันหน้าหลบพร้อมกับหลับตาปี๋ ทางด้านของอาหลงเขายกยิ้มมุมปากอย่างสนุกเมื่อได้แกล้งคนน่ารักตรงหน้า เขาเดินไปหยิบชุดมาทั้ง ๆ ที่ตัวเปล่าอยู่แบบนั้น พอนลเห็นว่าอาหลงหยิบของในมือไปแล้วก็นึกว่าอาหลงจะกระดากอายขึ้นมาบ้าง ที่ไหนได้ พอลืมตาขึ้นก็ยังอยู่ในสภาพเดิม เพิ่มเติมคืออยู่ใกล้ในระยะประชิดแบบลมหายใจเป่ารดหน้ากัน
“พี่จะทำอะไรครับ”
“พี่ใส่เสื้อผ้าให้คอปเตอร์แล้ว ถึงเวลานลใส่เสื้อผ้าให้พี่บ้าง”
อาหลงวางเสื้อผ้าบางส่วนลงที่เตียง แล้วเลือกหยิบมาแค่ตัวเดียววางไว้ในมือของนล ชุดตัวนั้นก็คือ กางเกงชั้นในสีดำลายสีทอง นลเผลอก้มมองของในมืออย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นทำให้มุมมองมันมองเห็นทั้งกางเกงชั้นในที่อยู่บนมือและช่วงล่างความเป็นชายที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนไทยจะมีมันได้
“คะ คน คนบ้า คนทะลึ่ง”
นลทุบไปเต็มแรงที่หน้าอกแกร่งของอาหลง ก่อนจะรีบเดินลงไปด้านล่างพร้อมกับลากคอปเตอร์ลงไปด้วย หนุ่มใหญ่เกิดอาการจุกที่หน้าอกอยู่เล็กน้อยจากการประทุ้งร้ายของนล ความเจ็บที่แลกมากับใบหน้าเขินจัดของนลถือว่าคุ้มค่า แล้วเขาก็อยากแกล้งให้อีกคนเขินหนักกว่าเดิมอีก
“จุ๊ดจู๋ของคูนยุงย้ายใหญ่เนอะปะป๊า”
“ไม่เอาสิครับ ไม่พูดเรื่องนั้นกัน”
“คูนยุงบอกว่าเป็นเรื่องของยูกปู้ชาย ไม่เห็นต้องอายเยย อ๊ะ แต่ปะป๊าจะเป็นแม่ให้คอบเจ้อใช่ไหมเยยอาย”
“เฮ้อ พี่หลงนะพี่หลง ไปสอนอะไรให้เด็กกันละเนี่ย”
ทั้งสามคนเดินมาที่หน้าโรงเรียนของคอปเตอร์ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประถมระดับคนทั่ว ๆ ไป มีชั้นอนุบาลไปถึงชั้นประถมหก แต่ชั้นอนุบาลจะอยู่แยกออกมาอีกส่วนหนึ่ง เพราะต้องกันเด็กเล็กออกจากเด็กเริ่มโต ดังนั้นทางเข้าจึงอยู่คนละจุดกัน ฝั่งของอนุบาลจะอยู่ติดกับอาคารเช่าของนลและอาหลง ดังนั้นจึงเดินไปส่งหรือเดินไปรับได้สบาย
หลังส่งคอปเตอร์เสร็จเรียบร้อย นลขอตัวกลับไปที่บ้านก่อน เพราะยังเหลือเวลาอยู่อีกเล็กน้อย บวกกับตัวเขานั้นยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในวันนี้ แม้ว่าอาหลงจะแอบก้มลงมาสูดดมเส้นผมของนลแล้วบอกว่าไม่เหม็นก็ตาม
ทางด้านของอาหลงเขาเดินขึ้นอาคารไปยังบริษัทตัวเอง ตอนแรกคิดว่าจะเข้างานสายกว่านี้เสียหน่อย แต่กลับมาถึงช่วงเวลาประมาณแปดโมงพอดี เดิมทีเขาจะเข้างานประมาณเจ็ดโมงครึ่ง อาจเพราะว่าอยู่ใกล้บริษัทเลยมาถึงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ เพราะหากเป็นบ้านของอาหลงที่อยู่นอกชานเมือง กว่าจะฝ่ารถติดเข้ามาในเมืองได้ก็กินเวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง แม้จะออกจากบ้านเช้าอย่างไรก็ตาม จนบางทีอาหลงก็คิดว่าหากมาอยู่ที่บ้านของนลเขาก็คงไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าแล้วฝ่ารถติดมหาศาลของชั่วโมงเร่งรีบ ระหว่างวันเขาก็คิดหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะแอบย้ายสำมโนครัวมายังบ้านของนลแบบแนบเนียน ๆ
“พ่อ หวัดดีครับ”
ต้นไม้ ลูกชายคนโตของอาหลงเดินเข้ามาที่บริษัทแบบไม่บอกกล่าว นั่นทำให้คนพ่อเลิกคิ้วสงสัย เขาวางงานในมือลงเพื่อรอฟังเหตุผลที่เจ้าตัวมา ชายหนุ่มอายุยี่สิบปีนั่งลงที่นั่งรับแขกตรงหน้าโต๊ะของพ่อตนเอง ท่าทางสบาย ๆ ของหนุ่มอารมณ์ดีนั้นถอดแบบมาจากอาหลงในสมัยก่อน
ลูกของอาหลงจะมีความคล้ายอาหลงอยู่มาก คนโตจะเหมือนที่นิสัยและรูปร่าง สมัยก่อนอาหลงเคยเป็นคนอวบ ๆ แบบหมี ก่อนจะมาเล่นหุ่นเอาตอนหลังหย่าครั้งแรกเพื่อหาคู่ ซึ่งต้นไม้ได้ส่วนนี้ไป เมื่อก่อนเขาจะอวบ ๆ แต่ตอนนี้เริ่มผอมเพื่อรักษาหุ่นตนเอง เพราะแฟนสาวของตนเองขอร้อง ส่วนลูกคนเล็กจะเหมือนที่หน้าตาเสียมากกว่า แต่นิสัยคนละแบบกันเลย
“ไม่มีเรียนหรือไงถึงมานี่ได้”
“มีครับ แต่จารย์ยกคราส เลยมีเวลาว่างช่วงเช้าแล้วตอนบ่ายไม่มีเรียนพอดี เลยว่าจะไปดูหนังกับเพื่อน พอดีต้องผ่านตรงนี้เลยแวะเข้ามาหาสักหน่อย บวกกับแฟนเพื่อนทำงานอยู่ข้างล่างนี้ด้วย เลยแวะก่อนไปเข้าโรงกัน”
“แล้วมีธุระอะไรล่ะ อย่าบอกนะว่าเงินหมดแล้ว”
“บ้าพ่อ ยังไม่หมด แต่ถ้าให้อีกก็เอา อิอิ”
“กำปั้นแทนไหมล่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า หยอกน่า ที่จริงอยากจะมาถามว่าทำไมเมื่อคืนไม่กลับบ้านเท่านั้นเอง”
ต้นไม้รีบเด้งตัวหนีเพราะคนพ่อทำท่าจะเอามือมาเขกหัวตนเอง แม้ความจริงอาหลงจะไม่ทำก็ตาม พออาหลงกลับมานั่งดี ๆ แล้ว ต้นไม้ก็เลื่อนเก้าอี้กลับมาที่เดิมแล้วเอ่ยถามสิ่งที่ตั้งใจตั้งแต่แรกที่มาที่นี่ ตอนแรกเขานึกว่าพ่อตนเองจะกลับเข้าบ้านดึก ๆ แต่ได้รับข้อความมาจากพ่อตนเองว่าให้เตรียมชุดทำหรับทำงานให้หน่อย เลขาของพ่อจะไปรับในเช้านี้ เขาเลยสงสัยว่าทำไมถึงไม่กลับ แม้ในใจจะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าเหตุผลที่พ่อตนเองไม่กลับมีอยู่ไม่กี่อย่าง บ่อยที่สุดคือเรื่องผู้หญิง น้อยครั้งจะเป็นเรื่องงาน ที่ถามเพราะอยากรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร บวกกับเมื่อครู่ตอนเดินเข้ามาต้นไม้ได้พูดคุยเย้าแหย่กับเลขาหน้าห้องอยู่เล็กน้อย เลยได้ความมานิดหน่อย แต่อยากรู้จากปากพ่อตนเองเสียมากกว่า
“ก็ นิดหน่อย”
เป็นครั้งแรกที่ต้นไม้เห็นพ่อตนเองเขินเป็น แม้จะไม่ได้เขินหน้าดำหน้าแดงเหมือนสาวน้อย แต่อาการไม่ยอมพูดออกมาตรง ๆ แบบนี้คืออาการเขินของพ่อเขา
“ไม่นิดละพ่อ เล่ามาเลย เล่ามาเลย ไหนว่าห้ามมีเรื่องปิดบังกันระหว่างครอบครัวไง”
“พ่อไม่ได้จะปิดบัง แต่”
“แต่?”
“แค่อยากให้มั่นใจก่อนค่อยเอาไปเปิดตัว”
“ฮั่นแน่ แอบไปกิ๊กกับใครล่ะสิ อั้นแล่ อั้นแล่ อั้นแล่ คนแก่เขินแล้ว”
“เดียะ เดียะ ล้อพ่อเหรอ”
“หยอกหรอกน่า ว่าแต่ เขาสวยไหม”
ต้นไม้เลิกล้อเล่นกับพ่อของตนเองเมื่อเห็นว่าพ่อเปลี่ยนจากเขินเป็นโมโหแทน ถึงจะไม่เคยโดนพ่อของตนเองทุบตีสั่งสอนด้วยความรุนแรงมาตลอดยี่สิบปี แต่ไม่แน่ว่าครั้งนี้อาจเป็นครั้งแรกที่จะโดนตราประทับเข้าจัง ๆ
“เขาเป็นผู้ชาย”
“อุบ๊ะ จริงอ่า”
“อืม”
ต้นไม้ทำท่าตกใจ ซึ่งเขาก็ตกใจจริง ๆ แค่เล่นใหญ่ตามนิสัยปกติที่ชอบแสดงออกมามากเกินปกติ ต้นไม้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพ่อของตนเองจะหันมาชอบผู้ชายด้วยกัน ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไร ออกจะเข้าใจเพราะเขาเองก็เป็นพวกที่ผู้ชายก็ได้ผู้หญิงก็ดี ใครพอใจเขาก็คบไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่กับพ่อของตนเองที่ไม่เคยหมายมองเลยทำเอาเขาแปลกใจอยู่พอสมควร
“อะไรไปทำให้พ่อปิ๊งเขาได้เนี่ย หรือแค่อยากลองอะไรใหม่ ๆ เฉย ๆ แบบนั้นมันเล่นกับความรู้สึกคนอื่นนา”
“ไม่ใช่หรอก พ่อชอบเขาจริง ๆ ถ้าถามเหตุผลของตอบไม่ถูกเหมือนกัน แค่ว่าเห็นครั้งแรกแล้วมันปิ๊งขึ้นมาเลย”
“อ่า ผมก็เคยเจอเหมือนกัน แต่ดันอกหักดังเปาะเพราะเขามีเจ้าของ หวังว่าของพ่อคงว่างนะ”
“เขามีลูกชายคนหนึ่ง แต่คิดว่าว่างนะ เขาเปิดใจแล้ว”
“อุต๊ะเบบี้ แบบนี้คงได้ฟังข่าวอ่าดิ อ้า อย่าบอกนะว่าเมื่อคืน ได้เสียกันแล้ว”
“ยัง ดูเขาเป็นคนขี้อายอยู่ คงต้องใช้เวลาสักหน่อย”
“ว้า ไม่สมกับเป็นพ่อเลย เสียเชิงชายหมด ไม่ได้ก็อึ้บเอาเลย”
“อย่ามาสอน ลืมแล้วไงใครเป็นคนพาไปเปิดประสบการณ์”
“แฮ่ หยอกน่าหยอก”
ทั้งสองคนตัดสินใจคุยกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่จะถึงเวลาที่ต้นไม้ต้องไปแล้ว อาหลงก็ใช้จังหวะนี้เพื่อที่จะลงไปหาคนในดวงใจก่อนจะเริ่มทำงานหนักในช่วงบ่ายนี้ ทั้งคู่จึงลงมาที่ชั้นล่างของอาคาร มุ่งตรงไปที่ร้านคาเฟ่ของนล นั้นทำให้ทั้งพ่อลูกต่างก็แปลกใจว่าทำไมถึงมาเข้าร้านนี้พร้อมกัน
“พี่นลหวัดดีครับ”
“อ้าวต้นไม้ ทำไมไม่มาพร้อมตะวันล่ะ อะ พี่หลง เอ๋ ทำไมมาด้วยกัน”
“รู้จักพ่อด้วยเหรอครับพี่นล”
“พะ พ่อเหรอ”
“ใช่ นี่พ่อผมเอง แล้วเอ๋ เดี๋ยวนะ ที่พ่อบอกว่าปิ๊งนี่คือ คนนี้เหรอ”
ความคิดเห็น