ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #4 : 03 อิทธิพล

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 67


    3

    อิทธิพล

    วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้วที่อาหลงมานั่งรอลูกชายที่ร้านคาเฟ่ และทุกวันจะมีเจ้าประจำมานั่งตักด้วย นั่นคือน้องคอปเตอร์ลูกชายของคุณเจ้าของร้าน ในช่วงสองสามวันแรกนลก็ห้ามลูกชายตัวเองไม่ให้ก้าวก่ายหรือยุ่มย่ามลูกค้าขาประจำ แต่ทั้งอาหลงและคอปเตอร์ต่างพึงพอใจแบบนั้นด้วยกันทั้งคู่ อาหลงเลยดูเหมือนคุณลุงติดหลานในสายตาของนล

    “รับเหมือนเดิมนะครับ”

    นลเดินมารับลูกค้าที่โต๊ะเดิมเวลาเดิม อาหลงพยักหน้ารับ เพราะเขาสั่งแต่เมนูเดิมทุกครั้งที่มา ไม่ใช่ว่าชอบหรือติดใจอะไรเป็นพิเศษในเมนูนี้ เพียงแต่อยากให้เขาเป็นภาพจำติดหัวว่า หากเขามาเขาจะสั่งของแบบไหน คนที่สั่งของแบบนี้จะต้องเป็นใครเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเลือกทำอะไรซ้ำ ๆ แบบเดิม

    “คูนยุง คูนยุง วันนี้คอบเจ้อเยิกเย็ว คูนยุงสอนการบ้านคอบเจ้อหน่อยได้ไหมกั๊บ”

    “แน่นอนครับ มานี่มา”

    เด็กน้อยปีนขึ้นตักของชายวัยกลางคน ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนานแบบถึงรสถึงชาติ ซึ่งการกระทำทั้งหมดนั้นตกอยู่ในสายตาของนลทั้งหมด แม้จะไม่ได้มีเวลามองมากนัก แต่เวลาว่างๆก็มักจะเบือนสายตาไปมองตลอดเวลา และทุกครั้งเขาจะสบเข้ากับตาดุ ๆ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่จ้องมาอยู่ก่อนแล้ว และเป็นนลทุกครั้งที่หลบสายตาก่อน

    นลรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ส่งผ่านสายตาของอาหลง เขาไม่ใช่คนไม่ประสีประสา อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบห้าแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรัก แม้อีกฝ่ายจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่สำหรับพวกเขาที่ไม่ได้รู้จักอะไรกันมากมายแล้ว นลก็ไม่กล้าสานสัมพันธ์ุเชิงลึก เขาไม่รู้ว่าหากเริ่มต้นไปแล้ว เขาจะเป็นมือที่สามหรือไม่ เพราะประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว สอนให้เขารู้ว่า ต้องรู้จักอีกฝ่ายให้มากก่อนที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์ ไม่อย่างนั้นจะเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว

    หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่กำลังนั่งเล่นกับลูกชายของนลอยู่นั้น เรียกได้ว่าตรงตามรสนิยมของนลอย่างไม่คาดคิด เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบคนอายุมากกว่าเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอายุห่างกับตัวเองเท่าไหร่ แต่ทั้งหน้าตาที่ดูคมเข้มแบบชายไทยแท้ ๆ สีผิวสีแทนยิ่งขับให้ดูโดดเด่นน่าตราตรึงใจ ร่างกายสูงชะลูดบวกกับหุ่นที่ถูกปั้นมาอย่างดีจนฟิตแน่น เลยทำให้ดูสูงใหญ่มาดแมนสมชายชาตรี เรียกได้ว่าเห็นครั้งแรกนลก็ใจเต้นแรงได้เลย

    อาหลงเริ่มแสดงความสนิทสนมกับคอปเตอร์มากยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกัน จนหลายคนทักว่าเป็นลูกของอาหลงแทนที่จะเป็นลูกของนล ทั้งที่ทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรเหมือนกันเลยสักนิด ผิวของคอปเตอร์จะออกขาวเหมือนกับของนล และยังมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน เมื่อก่อนก็มักมีคนทักอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้คนส่วนใหญ่หรือเพื่อนก็เริ่มทักแล้วว่าตอนนี้คอปเตอร์เป็นลูกของอาหลง

    “นั่นใครอ่า”

    ชิลี เพื่อนสาวคนสนิทของนลเอ่ยทักถามถึงหนุ่มใหญ่ที่นั่งเล่นกับหลานของเธอ ชิลีเธอเป็นหุ้นส่วนของร้านนล แต่เพราะไม่สันทัดเรื่องการชงกาแฟหรือการทำขนม เจ้าตัวจึงเลือกเป็นคนเลือกซื้อวัตุดิบและมาส่งให้นลแทน เพราะฝั่งของนลชอบทำอาหารและขนมเป็นชีวิตจิตใจ แล้วยังทำออกมาได้ดีมากเสียด้วย บวกกับว่านลไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทั้งคู่จึงเลือกทำงานคนละแบบกัน จะมีบ้างที่ชิลีจะมาช่วยเป็นพนักงานจำเป็น ซึ่งจะเป็นช่วงเวลากลางวันที่คนเข้าใช้มากที่สุด เลยทำให้ชิลีไม่ได้พบเจอกับหนุ่มใหญ่ที่แย่งหลานชายสุดที่รักของเธอไป

    “คุณอาหลง เขาเป็นลูกค้าประจำ มาที่นี่ตั้งแต่ร้านเปิดวันแรก”

    “ทำไมฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”

    “ก็เขามาตอนที่แกเลิกงานกลับไปแล้ว เขาจะมานั่งรอรับลูกเขาที่เรียนอยู่โรงเรียนตรงข้ามนั้น”

    “โห โรงเรียนแพงด้วยนะนั่น”

    “ก็ดูเสื้อผ้าที่เขาใส่สิ ธรรมดาที่ไหน”

    นลและชิลีวิจารณ์ภาพลักษณ์ของหนุ่มใหญ่กันสนุกปากระหว่างที่เตรียมสินค้า ที่จริงนลก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับฝ่ายนั้นมากนัก แม้จะเห็นว่าเขาทำท่าสนใจหรือตั้งใจจะเข้าหาในทางชู้สาว ตั้งแต่วันที่ถามชื่อกันก็มีแค่คำทักทายเล็ก ๆ น้อย ๆ กันเท่านั้น ไม่ได้พูดคุยกันเป็นจริงเป็นจัง อาจเพราะว่าสองสามวันที่ผ่านมานี้คนเข้าร้านเยอะในจังหวะที่อาหลงจะออกจากร้านก็เป็นได้ ฝั่งนั้นคงเกรงใจเห็นว่าเขาไม่ว่างคุยจึงเดินออกไปทั้ง ๆ อย่างนั้น

    “หุย ยิ่งเห็นอยู่กับเด็กก็ยิ่งรู้สึกว่านี่แหละพ่อของลูกในอนาคต”

    “เดี๋ยวฉันฟ้องตะวันนะ”

    นลเอ่ยถึงแฟนหนุ่มของชิลี นั่นทำให้สาวชิลีแทบโอดครวน เพราะแฟนหนุ่มของเธอเป็นคนที่รักเธอมาก แต่ก็เป็นคนขี้หึงขี้หวงมากด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นลเอามาแหย่ชิลีทุกครั้งที่เธอแสดงอาการหิวกระหายในตัวผู้ชาย

    “ขอล่ะ อย่าไปฟ้องนะ ฝ่ายนั้นง้อยากง้อเย็นจะตาย”

    “งั้นขอเป็นข้าวมื้อหนึ่งให้คอปเตอร์”

    “ได้เยยได้เยย เดี๋ยวน้าสาวคนนี้จะเลี้ยงแซลมอนให้หนูน้อยเอง เพราะงั้นถือว่าเรื่องเมื่อกี้ฉันไม่ได้ทำนะ”

    “ก็ได้ ตกลงตามนั้น”

    ชิลีกอดเพื่อนของเธอแน่น ที่แสดงออกโอเวอร์นั้นเป็นเพียงแค่การเย้าแหย่กันของเพื่อนที่สนิทกันมากเท่านั้น ความจริงชิลีรู้อยู่แล้วว่านลไม่ไปฟ้องจริง ๆ หรอก และเธอก็ตั้งใจเลี้ยงซูชิแซลมอนหลานชายของเธอทุก ๆ วันเสาร์ที่เป็นวันหยุดของร้านอยู่แล้ว

    นลที่กำลังขำกับท่าทางเด็กน้อยที่เพื่อนตนเองแสดงออกมาอยู่นั้น เขาดันเผลอเหลือบตาไปมองฝั่งของอาหลงและคอปเตอร์ แม้ปากและนิ้วจี้สอนเด็กน้อยบนตักอยู่ แต่สายตาเขากลับจ้องมาทางนลเป็นส่วนใหญ่ นั่นจึงทำให้เขาสบตาเข้ากับตาดุ ๆ ของหนุ่มใหญ่เข้า รอยยิ้มที่มักอยู่มุมปากของใบหน้าหล่อนั้นหายไปตอนไหนไม่รู้ ทำเอานลรู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ ทั้งที่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่นลกลับรับรู้ถึงความไม่พึงพอใจเล็ก ๆ ที่อาหลงแสดงออกมา แต่มันเป็นการแสดงออกที่ทำให้นลเกิดความรู้สึกเขินจนควบคุมแก้มไม่ให้แดงไม่ได้

    อาหลงที่จ้องมองสองคนที่เคาน์เตอร์อยู่ก็เผลอรู้สึกไม่ชอบใจในความสนิทสนมที่มากเกินไปของสองคนนั้น แต่เพิ่งมาระลึกได้ว่าตนเองไม่ได้มีสิทธิอะไรในการรู้สึกเช่นนั้น จึงระงับอาการอย่างทันท่วงที แม้ใจลึก ๆ แล้วจะรู้สึกอิจฉาเธอที่สามารถแสดงความสนิทชิดเชื้อได้มากขนาดนั้น บางครั้งก็เผลอจินตนาการว่าตัวเองไปยืนอยู่แทนที่ตรงนั้น หากเป็นเช่นนั้นเขาจะฟัดให้อีกฝ่ายแก้มช้ำกันไปข้าง

    วันนี้เป็นเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่อาหลงต้องการมาทำงานที่ออฟฟิศเช่าของตัวเอง งานที่เขาทำมันเป็นงานออกแบบ ค่อนข้างมีความอิสระในตัว ยิ่งบวกกับตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทด้วยแล้ว เวลาเข้าออกงานจึงแล้วแต่สะดวก ซึ่งที่จริงปกติแล้วที่บริษัทไม่ได้ให้พนักงานมาทำงานในวันเสาร์และอาทิตย์ เพียงแต่เขาอยากมาเจอคุณเจ้าของร้านในดวงใจและเจ้าเด็กน้อยจำไม

    เพียงแต่ว่าสิ่งที่อาหลงคาดหวังก็ดันมะลายหายไป เพราะร้านของนลติดป้ายว่า “ปิด” ดังนั้นวันนี้อาหลงจึงมาทำงานเก้ออยู่คนเดียวในบริษัท จากที่อารมณ์ดี ๆ อยู่ กลับหม่นหมองลงในทันควัน เขาน่าจะถามวันเปิดปิดของร้านมาด้วย กะว่าจะตั้งใจมานั่งเล่นที่ร้านตั้งแต่เช้า พอเห็นแบบนั้นก็กลายเป็นว่าหมดอารมณ์ทำงานไปด้วยเลย

    “วันนี้มาทำงานด้วยเหรอคะคุณอินทัช”

    ป้าแม่บ้านที่ถูกจ้างให้มาทำความสะอาดบริษัททุก ๆ วันพุธและวันเสาร์ เธอรู้จักกับอาหลงดี เพราะเขาเป็นคนสบาย ๆ ง่าย ๆ อะไรก็ได้ ตอนแรกที่พบกันเธอไม่กล้าสู้หน้าเสียเท่าไหร่ เพราะอาหลงดูเป็นคนหน้าดุจนเข้าหายาก แต่พอได้ลองคุยเธอถึงได้รู้สึกสนิทสนมคุยเล่นกันได้ระดับหนึ่ง

    “เอ่อ ครับ เมื่อวานงานยังไม่เสร็จดี วันนี้เลยกะว่าจะมาแก้เสียหน่อย”

    “แล้วไม่ทำที่บ้านแทนล่ะคะ มาทำงานคนเดียวก็เหงาแย่”

    “อยู่บ้านแล้วหัวมันไม่ค่อยไหลนะครับ เลยว่าออกมาข้างนอกดีกว่า ว่าจะมาทำแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะครับ”

    “ถ้าอย่างนั้นตั้งใจทำงานนะคะ เดี๋ยวป้ามาทำความสะอาดทีหลัง ขอตัวก่อนนะคะ”

    “เชิญครับ”

    หลังป้าแม่บ้านทำความสะอาดออกไปแล้ว อาหลงก็กลับมาจมอยู่กับความเงียบ ข้ออ้างที่บอกว่าอยู่บ้านแล้วหัวมันไม่ลื่นไหลดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับตอนนี้ เพราะตอนนี้เขาก็หัวตันคิดอะไรไม่ออกไม่ต่างอะไรกับอยู่บ้านเฉย ๆ

    อาหลงขึ้นไปซื้อกาแฟที่ร้าคาเฟ่ชั้นบนสุด รายการแบบเดิมที่เขาสั่งที่ร้านของนลมากินเป็นประจำ แต่รสชาติมันต่างกันอย่างชัดเจน ไม่รู้เพราะอะไร ทั้งที่เป็นเมนูเดียวกัน แต่รสมือกลับต่างกัน แล้วพอรู้ว่าไม่ใช่รสมือที่คุ้นเคยก็รู้สึกว่ากาแฟในแก้วนี้ไม่ได้อร่อยเลยสักนิด ยิ่งไม่มีขนมที่กินคู่กันด้วยแล้วก็ยิ่งไม่อยากกินต่อ สุดท้ายก็ต้องเททิ้งแม้ว่าจะกินไปได้แค่ไม่กี่อึก

    อาหลงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะมารู้สึกคิดถึงใครบางคน ถึงขนาดว่าแค่ไม่ใช่กาแฟที่เขาชงก็ไม่อร่อยถูกปากขนาดนั้น แล้วเขาก็คิดถึงใบหน้าหวาน ๆ กับเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยบนตัก ไม่เจอกันแค่วันเดียวทำไมเขาถึงได้คิดถึงได้มากขนาดนี้ ดูเหมือนเขาจะโดนเล่นมนต์เสน่ห์ใส่เข้าอย่างจัง หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ยอมโดนเล่นของใส่

    “คิดถึงจังเว้ย”

    “วันนี้คูนยุงไม่มาเหยอกั๊บ”

    “วันนี้วันอาทิตย์ คุณอาหลงเขาคงไม่ได้มารับลูกเขาหรอกครับ”

    นลอธิบายให้ลูกชายตนเองฟัง แต่นั้นไม่ใช่คำตอบที่เด็กน้อยอยากได้ยิน สิ่งที่เขาคาดหวังคือคุณลุงของเขาจะมาหาเขา เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์คอปเตอร์จึงตั้งใจว่าจะมารอคุณลุงคนโปรดของเขาตั้งแต่เช้า แต่กลายเป็นว่ารอตั้งแต่เช้าจนเย็นแล้วก็ยังไม่เห็นมา แม้จะเป็นเวลาปกติที่อาหลงมาทุกครั้ง เขาก็ยังไม่มา นั่นทำให้เด็กน้อยเกิดอาการเซื่องซึมตั้งแต่เช้า

    จากเด็กสดใสกลายเป็นเด็กขี้เหงา เพียงเพราะเมื่อวานพวกเขาไม่ได้เปิดร้านและไปเที่ยวกินซูชิของโปรดกันในวันหยุด เพราะน้าสาวคนสนิทจะเลี้ยงซูชิไม่อั้นให้กับหลานรักของเธอ ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์เจ้าตัวก็เอาแต่ร้องเรียกหาคุณลุงคนโปรด ทำเอาคนมาเลี้ยงถึงกับน้อยอกน้อยใจ จนคอปเตอร์ต้องหอมแก้มปลอบโยน พอมาวันอาทิตย์ก็ตั้งใจมารอตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะได้มีเวลานั่งคุยนั่งเล่นกันนานขึ้น

    “คูนยุงเกลียดคอบเจ้อแย้วเหยอ เพราะคอบเจ้อไม่พาคูนยุงไปกิงแชวม่อนใช่ไหม”

    “ไม่เลยครับ ปะป๊าเชื่อว่าคุณอาหลงเขาไม่ได้เกลียดคอปเตอร์หรอกครับ เขาอาจจะมีธุระกับครอบครัว เหมือนกับที่เราไปกินแซลมอนกันไงครับ”

    “แย้วถ้าเกิดว่าคูนยุงเป็นครอบครัวของคอบเจ้อแล้ว คูนยุงก็จะไปกิงแชวม่อนกับคอบเจ้อได้ใช่ไหมกั๊บ”

    “ก็น่าจะได้นะครับ”

    “ถ้าอย่างนั้นปะป๊าเป็นแฟงคูนยุงจิ จะได้ไปกิงแชวม่อนด้วยกัน”

    “เอ่อ มะ ไม่ดีมั้งครับ”

    “ดีจิ คอบเจ้อจ้อบคูนยุง แล้วคูนยุงก็จ้อบปะป๊าจ้วย ถ้าปะป๊ากับคูนยุงเป็นแฟนกัน คูนยุงก็จะเป็นพ่อของคอบเจ้อ แล้วปะป๊าก็เป็นแม่ของคอบเจ้อ”

    “แล้วทำไมปะป๊าถึงกลายเป็นแม่แทนล่ะครับ”

    “ก็ปะป๊าเหมือนแม่ของคอบเจ้อ คอบเจ้อรักปะป๊าเหมือนแม่ คอบเจ้อเยยอยากให้ปะป๊าเป็นแม่ แล้วอยากให้คูนยุงเป็นพ่อ”

    นลถึงกับจนใจที่จะอธิบายเหตุผล ยิ่งกับเด็กน้อยที่คิดถึงคุณลุงคนโปรดของเจ้าตัวด้วยแล้ว ก็ยิ่งอธิบายไม่เข้าหัว นลจึงจำต้องปล่อยเรื่องนี้ไป ให้เด็กน้อยจินตนาการของเขาต่อไป แต่ที่จริงนลเองก็แอบจินตนาการแบบนั้นด้วยเช่นกัน หากพวกเขายืนอยู่ในภาพถ่ายครอบครัว เขาคงไม่ต่างกับภรรยาของอีกคน

    นลรีบส่ายหัวสลัดความคิดนั้นออกไปในทันที เพราะดันเผลอนึกภาพที่พวกเขาสามคนยืนอยู่ด้วยกันในแบบครอบครัว ดูเหมือนอีกคนจะเข้ามามีอิทธิพลด้านความคิดมากเกินไปแล้ว คงจะเป็นฤทธิ์ของกาแฟลาเต้หวานมากและขนมวาฟเฟิลหนานุ่มที่อีกคนสั่งเป็นประจำแน่แท้ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×