ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #26 : 25 ทะเล

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 67


    25

    ทะเล

    หนุ่มใหญ่เกือบพลาดสัญญาที่ให้ไว้กับคอปเตอร์เสียแล้ว ดีที่เขาจัดการงานได้สำเร็จลุล่วงตามเป้าที่กำหนดเอาไว้ เพียงแต่ต้องแลกมากับการอดนอนตลอดสามวัน และเช้าวันนี้คือวันที่นัดเอาไว้ว่าจะพาเด็กน้อยไปเที่ยวทะเลดั่งหวัง

    เนื่องจากอาหลงอดหลับอดนอนมาหลายวัน คนขับรถจึงเปลี่ยนเป็นต้นไม้แทน เดิมทีแผนที่วางเอาไว้คืออาหลงเป็นคนขับพาทุกคนไปเที่ยว แต่ผลออกมาต่างกับแผนที่วางเอาไว้ ส่วนนลนั้นขับรถยนต์ไม่เป็นหน้าที่นั้นจึงตกเป็นของต้นไม้ในทันที แม้ว่าตัวเองจะติดธุระไปเที่ยวอีกที่กับแฟนสาวอยู่ก็ตาม แต่สามารถเลื่อนทริปไปได้จึงไม่มีปัญหา ทริปในวันนี้จึงมีคนเพิ่มมาอีกคน เป็นห้าคน

    “พี่ต้น พี่ต้น ดูชิดูชิ ทะเย”

    คอปเตอร์นั่งตักต้นกล้าเกาะขอบหน้าต่างอยู่ที่นั่งข้างคนขับ พี่ชายอย่างต้นกล้าหันไปมองด้วยท่าทีสนอกสนใจ แม้ว่าตนเองจะเคยเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง แต่เพราะอยากให้เด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นได้มีความสุข เขาจึงต้องทำให้เหมือนกับว่าตนเองสนใจและตื่นเต้นตามไปด้วย

    ที่นั่งด้านหลังจะเป็นผู้ใหญ่ทั้งสอง อาหลงหลับมาตลอดทาง เรียกว่าไม่รู้สึกตัวเลยก็ว่าได้ เขานอนหนุนตักของนลมาตลอด ส่วนหมอนจำเป็นอย่างนลก็คอยลูบหัวลูบผมกล่อมอยู่ตลอดทาง เป็นครั้งแรกที่นลแอบถ่ายใบหน้าหล่อยามหลับเก็บเอาไว้หลายสิบรูป ถือเสียว่าเป็นการเอาคืนคราวก่อนที่แอบถ่ายของตนเองไปหลายต่อหลายครั้ง

    เมื่อมาถึงที่หมาย บ้านพักส่วนตัวที่ได้จองเอาไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน ตัวบ้านเป็นบ้านสองชั้นไม่ใหญ่มาก มีสามห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องรับแขก และอีกหนึ่งห้องครัว ตัวบ้านพักมีสระว่ายน้ำขนาดย่อม ๆ อยู่ที่หลัังบ้าน ทั้งยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ห้อมล้วมไปด้วยทิวเขาสูง ส่วนของระเบียงและห้องรับแขกอยู่ฝั่งทิศตะวันตก สามารถมองแสงยามเย็นสีส้มได้จากโซฟาและห้องนอนใหญ่ ส่วนของหลังบ้านอยู่ติดกับชายหาด เดินออกไปไม่ไกลก็ถึงทะเลแล้ว

    “ปะป๊า เย่นน้ำ เย่นน้ำ”

    “เดี๋ยวขอปะป๊าจัดของก่อนนะครับ”

    ทันทีที่มาถึงที่พัก คอปเตอร์แสดงท่าทีตื่นเต้นดี๊ด๊าราวกับม้าดีด เอ่ยชักชวนนลอย่างเร่งรีบ แต่เพราะนำของมาหลายอย่างสำหรับอยู่กันห้าวัน จึงต้องจัดแจงให้เรียบร้อยก่อน มีส่วนของเขา เด็กน้อย และหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้หลับอยู่บนเตียงใหญ่ ส่วนสองพี่น้องต้นกล้าและต้นไม้อยู่คนละห้อง

    “เดี๋ยวผมกับต้นกล้าพาไปเล่นก็ได้ พี่นลอยู่เฝ้าพ่อเถอะ ดูท่าแล้วจะอาการหนัก”

    ต้นไม้เดินเข้ามาในห้อง เห็นท่าทางของคอปเตอร์แล้วอดไม่ได้ที่จะออกตัวดูแลให้ ต้นกล้าเดินตามมาด้วยอีกคน เลยกลายเป็นว่าทั้งสามพากันออกไปวิ่งเล่นที่ชายหาด นลที่นึกขึ้นได้ว่าเด็ก ๆ ยังไม่ได้ทาครีมกันแดดสักคน กะจะเรียกกลับมาทา แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว พวกนั้นทิ้งให้นลอยู่ในห้องนอนกับอาหลงเพียงสองคน

    “หวังว่าจะไม่พากันไปเล่นน้ำลึกนะ”

    นลได้แต่บ่นตามหลังก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วหันหน้าไปมองร่างใหญ่ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เขาเร่งแอร์ให้เย็นฉ่ำทั่วห้อง พร้อมกับปิดผ้าม่านกันแสงเข้ามาเพื่อให้อีกคนได้หลับสบายที่สุด เมื่อจัดการทุกอย่างจนแน่ใจแล้วว่าอาหลงจะไม่ตื่นขึ้นมาเพราะสิ่งรบกวน ร่างเพียวบางจึงเดินไปที่ส่วนหัวเตียง นั่งลงใกล้ ๆ กับใบหน้าหล่อ ก่อนจะก้มหน้าจุมพิตที่แก้มสาก แต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจ เพราะคนที่คิดว่าหลับไปแล้วดึงรั้งให้รับกับริมฝีปากหนาที่ทับทามเข้าใส่ เบิกตาโตได้เพียงครู่เดียวก่อนจะหลับตาลงแล้วซึมซับความรู้สึกที่ส่งผ่านมา

    “นึกว่าหลับแล้ว”

    “เกือบหลับแล้้ว ถ้าไม่ถูกลักหลับสะก่อน เลยต้องตื่นมาลงโทษคนขี้ขโมย”

    “ถ้าไม่ชอบคราวหลังผมจะไม่ทำแล้วครับ”

    “โถ่ นล ไม่เอาสิครับ”

    นลทำท่าทีแกล้งงอนเตรียมจะลุกหนี แต่หนุ่มใหญ่ก็รั้งเอาไว้ด้วยแขนล่ำ ก่อนจะดึงรั้งให้ล้มลงมานอนกอดรัดฟัดกันอยู่บนเตียง อาหลงพรมหอมแก้มนุ่มรัว ๆ เพื่อง้ออีกฝ่าย แม้จะรู้อยู่แล้วว่านลแกล้งงอน แต่อาหลงก็ฉวยโอกาสนี้ฟัดอีกคนจนหน่ำใจ เป็นฝ่ายนลที่ต้องเอามือขึ้นมาบังริมฝีปากหนาเอาไว้แล้วเบี่ยงตัวออกห่าง

    “พอแล้วครับ ผมแค่ล้อเล่น”

    “แต่พี่ง้อจริง มาให้พี่ง้ออีกสิ มาเร็ว”

    “พอเถอะครับ ผมหายงอนแล้วครับ”

    “แต่พี่ยังง้อไม่หน่ำใจเลยนะ”

    “คนฉวยโอกาส”

    “หึหึ”

    อาหลงหัวเราะชอบใจที่แกล้งให้อีกคนแก้มแดงได้ เขาดึงรั้งให้นลขยับเข้ามาใกล้แล้วเอาแขนขากอดรัดเอาไว้แน่น ไม่ปล่อยให้ขยับถอยห่าง ฝั่งนลที่สู้แรงไม่ได้ก็จำต้องปล่อยให้อีกคนนอนกอดอยู่อย่างนั้น แต่ว่าอาหลงไม่ได้กอดเฉย ๆ มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อบาง ๆ ของนลแล้วบีบขย้ำที่หน้าอกนุ่ม ดูเหมือนคนที่เริ่มมีน้ำมีนวลไม่ได้มีเพียงแค่อาหลงคนเดียว ฝั่งของนลก็เริ่มอวบขึ้นมาบ้างแล้ว หน้าอกที่เคยแบนราบมีเต้าเล็กน้อยให้ครึงเล่นมันมือ

    “นลที่อวบ ๆ แบบนี้พี่ชอบจัง”

    “อ้วนแล้วต่างหาก ช่วงนี้กินน้ำตาลเยอะ ขนมที่ร้านขายไม่ค่อยดี เสียดายเลยเอากลับมากินทุกวัน น้ำหนักเลยขึ้น ผมว่าจะเลิกทำขนมที่ขายไม่ออกแล้วหาสูตรใหม่มาขายแทน”

    อาหลงฟังไปพร้อมกับซุกจมูกเข้าที่ลำคอขาว ทั้งสูดดมกลิ่นหอมแทะเล็มเลียอย่างเพลิดเพลิน มือก็ไม่หยุดนิ่ง ลูบไล้ไปทั่วทั้งแผ่นอกนิ่ม แต่ฝั่งของนลพยายามรั้งเอาไว้ไม่ให้ทำเกินเลยมากกว่านี้ แม้จะสู้แรงไม่ค่อยได้ก็ตามที

    “อย่าครับพี่หลง อื้อ ดะ เดี๋ยวพวกเด็กกลับมา”

    “พวกนั้นยังไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้หรอกครับ”

    “แต่พี่ยังนอนไม่พอเลยนะครับ”

    “ไม่เป็นไร พี่ทนได้ ถ้าได้มีความสุขกับนลทนอีกสักสามสี่ชั่วโมงพี่ก็ไหว”

    “กะเอานานขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมว่าอย่าเลยดีกว่า ฝืนร่างกายเปล่า ๆ นอนพักผ่อนให้เต็มที่เถอะครับ ถือว่าผมขอร้องละกันนะครับ เพื่อร่างกายพี่เอง”

    “แต่นลจะปล่อยน้องชายพี่เอาไว้แบบนี้เหรอครับ ดูสิ น่าสงสารออก”

    อาหลงจับมือของนลไปลูบคลึงที่เป้ากางเกง ท่อนลำดุ้นอวบหนาแข็งเป็นลำแท่งพาดไปทางซ้าย แม้จะสวมกางเกงอยู่แต่ความอวบใหญ่ก็ดันทะลุจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน อาหลงกดมือนลให้ชักรูดส่วนแข็งขืนไปมาตามความยาว พร้อมกับเป่าลมหายใจร้อน ๆ ใส่ลำคอขาว ชักชวนให้อีกคนคล้อยตามอารมณ์ที่เรียกร้องหากัน

    “เอาไว้คืนนี้ก่อนแล้วกันนะครับ ไว้พี่นอนเต็มอิ่มก่อนดีกว่านะครับ”

    “โถ่ ขอมัดจำก่อนได้ไหมครับ”

    อาหลงช้อนสายตาขึ้นมองด้วยแววตาออดอ้อน เขารู้ดีว่านลไม่สามารถปฏิเสธเขาได้หากทำท่าอ้อนเหมือนหมาน้อย และเป็นดั่งที่หวัง เพราะนลถอนหายใจออกมาบ่งบอกถึงการยอมแพ้ให้กับความดื้อดึงของหมายักษ์ตรงหน้า อาหลงยิ้มดีใจใหญ่ราวกับหมาได้ของเล่นจากเจ้านาย

    “ใช้แค่ปากนะครับ เพราะเดี๋ยวถ้ามากกว่านั้นพี่จะไม่ยอมหยุด”

    “ว้า แผนแตกซะละ”

    “พอเลย ถ้ามากกว่านี้ก็อด”

    “แค่ปากก็ได้ครับ มาเร็ว มันไม่ได้เจอนลมาหลายวันแล้วมันบอกมันคิดถึง”

    “บ้ารึเปล่าครับคุยกับจู๋ตัวเอง”

    “หึหึ”

    ช่วงเที่ยงนลลงมาที่ห้องครัว จัดการเตรียมมื้อเที่ยงเอาไว้ให้เด็ก ๆ หลังเตรียมเสร็จไม่นานทั้งสามก็เดินกลับเข้ามา ทุกคนตัวเปียกโชกทั้งตัว ทั้งยังมีบางส่วนที่เลอะทราย นลไล่ให้ทั้งสามไปอาบน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วค่อยออกมาทานข้าวกัน ต้นไม้พาคอปเตอร์เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เพราะห้องน้ำมีแค่สองห้อง คือห้องนอนใหญ่ที่อยู่ในห้องของอาหลง และห้องด้านนอก โดยที่ต้นกล้าไปอาบที่ห้องนอนใหญ่ ส่วนพวกเข้าทั้งสองอาบห้องด้านนอก

    “พี่ม้าย พี่ม้าย จุ๊ดจู๋ของพี่ม้ายย้ายใหย่ เหมือนของคูนพ่อเยย”

    “แน่นอนอยู่แล้วครับ ก็พ่อลูกกันนี่นา”

    “ถ้าอย่างนั้น ของคอบเจ้อก็จะใหญ่เหมือนกับของคูนพ่อแล้วก็พี่ม้าย เพราะคอบเจ้อเป็นยูกของคูนพ่อ”

    “เอ่อ ใช่ ถ้าคอปเตอร์โตมาก็ต้องใหญ่อยู่แล้ว เป็นลูกพ่อหลงแล้วก็เป็นน้องพี่ไม้คนนี้ด้วย ไม่ใหญ่ให้มันรู้ไป ฮิฮิ”

    “ฮิฮิ”

    ต้นไม้หัวเราะร่ากับท่าทางที่เลียนแบบได้น่ารักน่าชังของคอปเตอร์ แล้วเขาก็รีบจัดการอาบน้ำให้เด็กน้อยโดยเร็ว เมื่อออกมาจากห้องน้ำได้ก็รีบจัดการเช็ดตัวแล้วหาเสื้อผ้ามาใส่ นลได้เตรียมชุดของคอปเตอร์เอาไว้แล้ว เสื้อลายดอกเนื้อผ้าเบาสบายไม่อึดอัด และกางเกงกีฬาสำหรับเด็กที่มีความยืดหยุนใส่แล้วคล่องตัว ส่วนต้นไม้ก็กลับไปจัดแจงตัวเองบ้าง

    เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนตามมา คอปเตอร์หมดฤทธิ์ลงหลังมื้ออาหารเที่ยง นั่งดูการ์ตูนพร้อมกับต้นกล้าได้ไม่นานก็พลอยหลับคาโทรศัพท์มือถือ แล้วต้นกล้าก็ตามไปติด ๆ นลปล่อยให้ทั้งสองคนหลับอยู่ที่โซฟา เขาเร่งแอร์และเอาผ้าห่มมาห่มให้กันพวกเด็ก ๆ เพื่อกันความหนาวเย็นจากลมแอร์

    นลและต้นไม้ออกมาซื้อของที่ตลาดด้วยกัน สองหนุ่มหน้ามนเดินคู่กันมาเลือกซื้อของสำหรับปาร์ตี้เล็ก ๆ คืนนี้ มาทะเลทั้งทีก็ควรเป็นอาหารทะเล ทั้งกุ้ง กั้ง หอย หมึก ปู ปลา อาหารสดแถวนี้สดใหม่ทุกตัว เพราะชาวประมงเพิ่งจับมาเมื่อเช้านี้ หากมาตอนเช้า ๆ ก็จะได้สดใหม่และมีให้เลือกมากกว่านี้ แต่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขาเดินทางมาถึงช่วงสายของวัน และหมดเวลาถึงบ่ายไปกับการเล่นน้ำ

    ระหว่างที่เลือกซื้อของกันอยู่ สายตาหลายคู่จับจ้องมาทางพวกเขาสองคน ทางฝั่งของต้นไม้ดูเหมือนจะชินกับสายตามากมายที่มองมา แต่กับนลเขานั้นไม่ค่อยชินเท่าไหร่นัก เดิมทีก็เป็นคนหน้าตาธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ผิดกับฝั่งของต้นไม้ที่เขานั้นเคยเป็นถึงนายแบบให้กับสื่อบางแหล่ง และยังเป็นที่รู้จักทั่วทั้งมหาลัยและนอกมหาลัย เพราะเป็นคนหน้าตาดีและอัธยาศัยดี เลยเป็นที่น่าจับตามองสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่สนใจ

    “ดูสิ เขาสองคนเป็นแฟนกันเหรอ”

    “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมาะกันมากเลยอ่าแก”

    “ใช่ อีกคนก็ตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้ม อีกคนก็สูงหล่อล่ำ เข้ากันได้ดีอย่างกับพิซซ่าหน้าสับปะรด”

    ความเขินหดหายไปในทันที นลได้แต่ตั้งคำถามในใจว่าอะไรคือความเข้ากันได้เหมือนพิซซ่าหน้าสับปะรด ทำไมต้องเป็นพิซซ่าหน้าสับปะรด แล้วมันเหมือนพวกเขาตรงไหน ทำไมถึงเปรียบเทียบแบบนั้น ตอนแรกก็เขินอายกับสายตาหลายสิบคู่ที่มองมา แล้วอยากปฏิเสธว่าคนข้าง ๆ ไม่ใช่คนรักหรือแฟนตน คนที่ว่านั้นนอนหลับเป็นตายอยู่ที่บ้าน เพราะคำว่า พิซซ่าหน้าสับปะรด มันติดใจสงสัยจนลืมเขินลืมคืดเรื่องอื่นไปเลย

    ปล. พิซซ่าหน้าสับปะรด ตั้งใจจะสื่อว่า ถึงมันจะไม่ใช่สูตรต้นตำหรับ แต่ขอแค่มันอร่อยก็พอ ไม่รู้ว่ามีใครตีความออกไหมนะ เลยมาอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ก่อน กลัวหลายคนไม่เข้าใจ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×