ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #17 : 16 อดีตภรรยา

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 67


    16

    อดีตภรรยา

    “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะต้นกล้า”

    “แม่ใหม่มาหาครับ”

    “แล้วแม่อยู่ไหนครับ”

    “อยู่ข้างล่าง ที่ร้านกาแฟของน้านล”

    เมื่อได้ยินที่ลูกชายว่าอย่างนั้น อาหลงรีบลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานมุ่งหน้าลงไปที่ชั้นล่าง ใจของเขารู้สึกร้อนรนแปลก ๆ อาหลงไม่ได้อยากมองอดีตภรรยาของตนเองในทางที่ไม่ดี แต่การที่เธอมาพร้อมลูกชายและไม่ยอมมาหาเขา บวกกับความคิดเห็นใต้รูปเมื่อสองวันก่อนที่เธอมาแสดงเอาไว้ มันทำเขาอยู่ไม่เป็นสุขเท่าไหร่นัก

    ทันทีที่มาถึงร้านของนล อาหลงได้แต่ทำสีหน้างุนงง ภาพตรงหน้าทำเขาประหลาดใจ ในความคิดของอาหลง เขาคิดว่าอดีตภรรยาจะมาก่อความวุ่นวายให้คนรักใหม่ของตน แต่สิ่งที่เห็นคือ อดีตภรรยากำลังนั่งหัวเราะคิกคักอยู่กับสามีใหม่ และคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคือ ชิลี เพื่อสนิทของนล ส่วนคนที่เขาเป็นห่วงกลับกลายเป็นเพียงพนักงานเสริฟที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในวงสนทนาเลยสักนิดเดียว

    “เกิดอะไรขึ้นครับนล”

    “หืม? มีอะไรต้องเกิดด้วยเหรอครับ”

    นลหันมาถามอาหลงด้วยสีหน้างุนงง เขาไม่เข้าใจว่าที่หนุ่มใหญ่ถามหมายถึงอะไร ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ถามคำถามที่เหมือนว่ากำลังมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอะไรทำนองนั้น ทั้งที่ทุกอย่างก็ปกติดี ไม่ได้มีอะไรให้น่าเป็นกังวลใจเลยสักนิด

    “พี่หมายถึง สาวิกา"

    “คนที่นั่งคุยกับชิลีเหรอครับ”

    “ใช่ เขาเป็นอดีตเมียเก่าของพี่ เธอมาทำอะไรนลหรือเปล่า”

    “คุณใหม่ เธอบอกแล้วครับว่าเป็นคนรักเก่าของพี่ แต่เธอไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยครับ พี่กังวลขนาดนี้ แฟนเก่าพี่นิสัยไม่ดีเหรอครับ”

    “ก็ เปล่า เอาแต่ใจอยู่นิดหน่อย แต่ก็เป็นคนมีเหตุมีผล”

    “เท่าที่ผมเห็นคุณใหม่ก็เป็นคนที่น่าเข้าหาอยู่นะครับ ดูอย่างตอนนี้สิครับ พอเห็นว่าชิลีเป็นแฟนคลับของเธอ ทั้งคู่ก็คุยกันออกรสซะขนาดนั้น ผมขอถามหน่อยนะครับ แฟนเก่าพี่หลงเป็นดาราเหรอครับ”

    นลขยับเข้ามาใกล้แล้วแอบกระซิบ กลิ่นหอมสบู่ลอยแตะจมูก ก่อนจะหายไปเพราะกลิ่นกาแฟที่นลชงอยู่กลบหมด ทั้งคู่ตัวประชิดแนบกันเพราะนลต้องการพูดคุยกันแค่สองคน เขาไม่อยากให้ใครมาได้ยินหรือมารับรู้ว่ากำลังนินทาใครอยู่ ต่อให้เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องไม่ดีก็ตาม แต่นั่นเป็นการเปิดโอกาสให้อาหลงโดยไม่รู้ตัว หนุ่มใหญ่ยืนซ้อนหลังแล้วแอบเอื้อมแขนไปวางเคาน์เตอร์ ทำเหมือนว่ากำลังพักแขน แต่จริง ๆ กำลังแอบโอบเอวของนลเอาไว้อยู่

    “เคยเป็นครับ แต่เลิกไปตั้งแต่ก่อนแต่งงานกับพี่แล้ว พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกนะครับ แต่เห็นว่าจะกลับมาเล่นละครอีกครั้งหลังห่างหายไปสิบกว่าปี”

    “มิน่าล่ะครับ ชิลีถึงได้วิ่งไปหลังร้านหยิบปากกากับสมุดมาขอลายเซ็นในทันทีเลย”

    “ชิลีเป็นแฟนคลับเหรอครับ”

    “เห็นเธอว่าอย่างนั้น”

    “น่าแปลกนะครับ”

    “มีอะไรแปลกเหรอครับ”

    “ก็เมื่อก่อนใหญ่มักได้เล่นเป็นตัวร้ายซะส่วนใหญ่ เพราะหน้าดุ คม เฉี่ยว เหมาะกับบทบาทนี้ นั่นคงเป็นสาเหตุหลักที่เธอเลิกเล่นละครไป”

    “หน้ามันให้ด้วยล่ะครับ”

    “พี่ก็คิดว่าอย่างนั้น”

    ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน นลไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่าอาหลงแอบขยับใบหน้าตัวเองลงาใกล้เรื่อย ๆ จนตอนนี้ปลายจมูกคมแตะสัมผัสผิวเนื้อต้นคอด้านหลังของนลเป็นที่เรียบร้อย ทำเอาคนตัวเล็กกว่าสะดุ้งตกใจ มองไปรอบร้าน โชคดีที่ยังเช้าอยู่ ไม่มีคนเข้าร้านเสียเท่าไหร่ เลยไม่มีใครเห็นการกระทำเมื่อครู่ แต่หารู้ไม่ว่าสายตาคมเฉียวเหลือบไปเห็นพอดิบพอดีแบบไม่ได้ตั้งใจ ริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

    “ทำอะไรของพี่ครับเนี่ย เดี๋ยวมีคนเห็นหรอกครับ”

    “เห็นก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ก็เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอครับ”

    “คะ ใครบอกครับ ระ เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย อื้อ พี่หลงอย่ากอดสิครับ”

    “นลใจร้าย ได้พี่แล้วจะไม่ยอมรับผิดชอบเหรอครับ”

    “พูดอะไรครับเนี่ย น่าอายจะตายไปครับ”

    นลพยายามแกะมือของอาหลงที่กอดเอวเขาแน่น ทั้งยังฝั่งจมูกฝั่งใบหน้าแนบไหล่แนบลำคอไม่ห่าง การกระทำของอาหลงทำเอานลหน้าแดงก่ำเป็นมะเขือเทศสุก ยิ่งลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านและโต๊ะของสาวิกากับชิลีมองมาทางนี้เป็นตาเดียว ยิ่งทำให้นลเขินจนทนไม่ไหว ย่อตัวมุดลงใต้เคาน์เตอร์เพื่อหลบสายตาหลายคู่ที่จับจ้อง ส่วนทางด้านหนุ่มใหญ่ที่กลั่นแกล้งคนรักของตนเองจนเขินตัวม้วนแล้ว เขาก็ย่อตัวนั่งลงกับพื้น ดึงคนตัวเล็กกว่ามานั่งตัก กอดนลเอาไว้หลวม ๆ พร้อมกับลูบหลังเพื่อปลอบโยนที่เขาแกล้งมากเกินไปหน่อย

    “พี่หลงบ้าที่สุดเลยครับ แกล้งผมแรงไปแล้วนะครับ”

    “โอ๋ ๆ ขอโทษครับ พี่แค่อยากให้นลรู้ว่าพี่รักนลมากแค่นั้นเองครับ”

    “ก็ไ่ม่เห็นต้องแสดงให้คนอื่นเห็นขนาดนี้เลยนี่ครับ”

    “ก็พี่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคนรักของพี่เป็นใครเท่านั้นเอง”

    “ถ้าคนอื่นเอาไปพูดจะทำยังไงล่ะครับ”

    “พูดก็ดีสิครับ ป่าวประกาศเลยยิ่งดี หรือให้พี่ตะโกนบอกทุกคนดี”

    “อย่าทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นนะครับ”

    “เพื่อนลแล้วบ้าแค่ไหนพี่ก็ยอมทำครับ”

    “เลี่ยนครับ”

    “หึหึ”

    แล้วนลก็ต้องหลบตาของอาหลงอีกครั้ง เมื่อเผลอสบกันแล้วพบกับแววตามุ่งมั่น ทั้งสีหน้าและแววตาบ่งบอกว่าอาหลงนั้นทำอย่างที่ปากพูดจริง ๆ เนื่องจากนั่งอยู่บนตัก จุดที่มุดหน้าหนีดีที่สุดคือแผงอกของอาหลง นั่นทำให้นลไม่มีทางเลือก เพราะเขาเขินเกินไปจนหัวคิดอะไรไม่ทัน มุดเข้าที่ซอกคอและแผงอก กลิ่นน้ำหอมยี่หอดังราคาแพงลอยติดจมูก ทำเอาเพลิดเพลินจนเผลอดอมดมไม่หยุด

    “ขอโทษนะคะ คู่รักตรงนั้นหยุดหวานกันก่อนแล้วช่วยมาคิดเงินให้หน่อยค่ะ”

    เสียงของสาวิกาปลุกสติของนลให้ตื่นจากความเมาน้ำหอม นลรีบลุกขึ้นยืนที่จุดชำระสินค้า แม้ว่าใบหน้าจะแดงก่ำไม่หาย แต่หน้าที่ก็สำคัญเกินกว่าจะละทิ้งได้ ส่วนทางอาหลงก็ทำสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ที่ถูกขัดจังหวะ เมื่อครู่เขาเพิ่งถูกนลซุกหน้าได้ไม่กี่วินาทีเท่านั้น กำลังเพลินอกเพลินใจ แต่ดันถูกขัดเสียก่อน ทั้งคู่จึงต้องลุกขึ้นยืนอย่างช่วยไม่ได้ อาหลงเดินตามมาที่หลังเคาน์เตอร์อย่างถือวิสาสะ ตามประกบตัวติดไม่ห่าง ส่วนทางของสาวิกาเธอยกยิ้มพอใจที่ได้แกล้งอดีตสามีของตนเอง เพราะเคยอยู่กินกันมาก่อนเลยพอรู้จักนิสัยของอาหลงอยู่บ้าง พอได้แกล้งแล้วรู้สึกสะใจชอบกล

    “ใหม่มาที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่า”

    อาหลงเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา เพราะเขายังไม่หายข้องใจเรื่องเจตนาของอดีตแฟนเก่า แม้จะรู้นิสัยอยู่แล้วว่าสาวิกาไม่ใช่คนที่จะทำอะไรงี่เง่าแบบที่ตนเองคิด แต่มันอดสงสัยไม่ได้จนต้องเอ่ยปากถามหลังคิดเงินสินค้าเรียบร้อยแล้ว

    “ก็มาหาต้นกล้าเฉย ๆ ค่ะ เห็นว่าวันนี้วันหยุด แล้วแฟนใหม่มีธุระที่ห้างพอดี ว่าจะพาต้นกล้าไปเดินเล่นที่ห้าง อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดแกแล้ว เลยถือโอกาสซื้อของขวัญไปให้เลย เพราะมะรืนนี้ใหม่จะเดินทางไปต่างประเทศ คงไม่ได้มาอวยพรวันเกิดต่อหน้าเหมือนทุกปี นี่ต้นกล้าไม่ได้บอกเหรอค่ะ อุส่าพามาเพื่อให้มาบอกคุณ”

    อาหลงนึกขึ้นได้เลยว่าต้นกล้ามาหาตนเองเพื่อจะบอกเล่าอะไรบางอย่าง แต่เพราะว่าเขากังวลมากเกินเหตุเลยรีบด่วนลงมาโดยไม่ได้ถามไถ่อะไรกับลูกชายของตนเอง สุดท้ายเป็นความเข้าใจผิดของตนที่ไม่คิดอะไรให้ถี่ถ้วน ด่วนสรุปจนกลายเป็นว่าไม่ไว้ใจอดีตภรรยาของตน ทั้งที่รู้จักนิสัยกันพอสมควรอยู่แล้ว

    “พี่ขอโทษ พี่รีบลงมาจนไม่ได้ฟัง”

    “อะไรเนี่ย พี่คิดว่าใหม่จะทำอะไรแฟนพี่เหรอ นี่พี่บ้าหรือเปล่าเนี่ย ใหม่จะไปทำอะไรแฟนพี่กันเล่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว นี่พี่มองใหม่เป็นคนยังไงเนี่ย”

    สาวิกาตำหนิอดีตสามีของตน เพราะว่าเธอถูกมองไม่ดีเช่นนั้นเลยทำให้ไม่พอใจเสียเท่าไหร่ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก เพราะทั้งคู่ไม่ได้มีความพิเศษทางความรู้สึกกันแล้ว ตอนนี้สาวิกาไม่ได้รู้สึกหึงหวงที่อดีตสามีกำลังมีความรักใหม่ เธอยินดีอย่างที่เคยได้แสดงความคิดเห็นไปเช่นนั้นจริง ๆ เหมือนอย่างที่อาหลงเคยแสดงความยินดีกับรักครั้งใหม่ของเธอเช่นกัน

    “พี่ขอโทษที่คิดแบบนั้น”

    “ช่างเถอะ ใหม่ไม่ได้โกรธขนาดนั้น อย่างที่บอกไป เดี๋ยวใหม่จะไปทำธุระแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะคะ”

    ในประโยคสุดท้าย สาวิกาหันไปพูดกับนลด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส นลที่ไม่ทันตั้งตัวก็ได้แต่ยิ้มแล้วโบกมือส่งคืน สาวิกาและสามีคนใหม่เดินจากไปพร้อมแก้วกาแฟในมือ เป็นจังหวะเดียวกันที่ต้นกล้าลงมาจากด้านบนแล้วเจอกับแม่ตนเองพอดี ต้นกล้าเดินมาบอกลาพ่อก่อนจะวิ่งตามแม่ไป

    “ชิลี”

    “ค่ะ?”

    อาหลงเอ่ยทักเพื่อนสนิทของนล หลังจากที่เธอเดินออกไปส่งด้วยสีหน้าปลื้มปิติ นั่นทำให้อาหลงยังไม่คลายความสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมชิลีถึงได้ปลื้มสาวิกาขนาดนั้น ทั้งที่อดีตแฟนเก่าของตนไม่เคยแสดงเป็นนางเอกมาก่อน ไม่ได้โด่งดังขนาดที่มีแฟนคลับตามหน้าตามหลัง เมื่อก่อนเขาเคยได้ยินว่าสาวิกาเคยถูกด่าตอนไปเดินตลาด เพราะแสดงละครเรื่องหนึ่งแล้วเป็นตัวร้าย อาจเพราะแสดงได้สมบทเกินจนคนที่แยกแยะไม่ออกเกิดความหมั่นไส้ด่าทอเธอขึ้นมา

    “ทำไมถึงได้ชอบใหม่ขนาดนั้น”

    “หนูแค่อยากเป็นนางร้ายบ้างเท่านั้นเองค่ะ แล้วพี่ใหม่เขาก็แสดงได้ถูกจริตหนูที่สุด ด่าเป็นด่า ตบเป็นตบ ร้ายเป็นร้าย มันสะใจจนหนูติดตามพี่เขามาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วค่ะ หนูตามดูทุกเรื่องของพี่ใหม่เลยนะคะ ตั้งแต่สมัยเมื่อ ยี่สิบปีก่อน เดี๋ยวหนูเล่าให้ฟัง เรื่องแรกที่พี่ใหม่แสดง”

    แล้วอาหลงก็ตกเป็นเหยื่อของชิลีไปอีกคน สมัยที่นลและชิลียังเรียนอยู่ด้วยกัน ชิลีเธอมักจะเล่าเรื่องของดาราที่ตนเองชอบได้เป็นวักเป็นเวน ต่อให้เบื่อแค่ไหนก็มิอาจปฏิเสธเธอได้ เพราะเธอจะลากเข้าเนื้อหาที่ต้องการจะเล่า นลเคยประสบเหตุการณ์แบบนั้นมาหลายสิบรอบแล้ว นี่เป็นครั้งแรกของอาหลง นลจึงปล่อยให้เขาได้ซึมซับความรู้สึกนั้นอย่างเต็มที่โดยไม่คิดจะขัดแม้แต่น้อย

    กว่าที่ชิลีจะปล่อยตัวอาหลงออกมาได้ ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอมีธุระต้องไปจัดการต่อ อาหลงถึงได้หลุดออกมาจากเก้าอี้นรกตัวนั้นได้ นลได้แต่ขำกับสภาพคนหมดอาลัยตายอยากของอาหลง เพราะเขาเองก็เคยมีสภาพแบบนั้นมาก่อนเหมือนกัน เลยเข้าใจและสนุกที่ได้ร่วมแกล้งด้วยเช่นกัน

    “นลใจร้าย”

    อาหลงเดินโซซัดโซเซเหมือนคนหมดแรงมาหานล หนุ่มใหญ่กอดเอวจากด้านหลังแล้วซบหน้าลงที่หลังคอของนล เขาก็เบื่อที่จะห้ามแล้ว แม้จะเขินอายอยู่บ้างที่ถูกกอดเช่นนี้ แต่ให้พูดตามตรงเขาก็ชอบอ้อมกอดอุ่น ๆ แบบนี้เหมือนกัน

    “ผมใจร้ายยังไงครับ”

    “ก็ใจร้ายที่ปล่อยให้พี่ถูกกรอกหูอยู่คนเดียวไง ทำไมไม่ช่วยกันหน่อยล่ะครับ”

    “หึหึ ก็ ผมไม่รู้จะห้ามยังไงเหมือนกันนี่ครับ ถ้าไปแทรกก็จะโดนด้วยอีกคน แบบนั้นผมไม่เอาหรอก”

    “ใจร้ายที่สุดเลยครับ แบบนี้ต้องทำโทษด้วยการบอกรักพี่สิบครั้ง ตอนนี้เลย”

    “ทำโทษอะไรกันครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

    “ผิดสิ ผิดที่ไม่ช่วยพี่ เพราะงั้นยอมรับโทษเลยนะครับ”

    นลยิ้มขำกับท่าทางหมาใหญ่ทำตัวอ้อน หากอาหลงมีหูมีหางหมา ตอนนี้คงหูลู่หางตกทำหน้าอ้อนเจ้าของเมื่ออยากได้ของกิน เป็นมุมนิสัยที่นลไม่เคยเห็นมาก่อน มันดูน่ารักแปลก ๆ ที่คนตัวใหญ่หุ่นหนาล่ำทำตัวอ้อนเป็นเด็ก ๆ หากถามว่าชอบหรือไม่ นลสามารถตอบได้เต็มปากเลยว่าชอบมาก แต่เขาไม่คิดจะบอกให้อีกฝ่ายรู้หรอก เพราะเดี๋ยวจะได้ใจแล้วใช้ท่าแบบนี้เป็นไม้ตาย

    “เป็นคนแก่ขี้อ้อนเหรอครับ”

    “อย่าเปลี่ยนประเด็นสิครับ บอกรักพี่เลยนะครับ แล้วต้องพูดสิบรอบด้วย”

    “ไม่เอาหรอกครับ คนเยอะจะตายไป”

    “งั้นกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคนก็ได้ครับ”

    อาหลงดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดแนบชิด พร้อมกับเอียงหูเพื่อให้นลกระซิบได้ถนัด ใจของนลเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมาเมื่อคิดว่าต้องบอกรักออกไปโต้ง ๆ แบบนั้น ใจหนึ่งก็อยากบอก แต่อีกใจหนึ่งก็เขินเกินกว่าจะกล้าทำ แต่สุดท้ายยังไงก็ต้องพูดอยุ่แล้วสักวันหนึ่ง แค่พูดคำนั้นออกมาไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยสักนิด นลขยับใบหน้าจนชิดใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดใบหูของอาหลง ทำเอาหนุ่มใหญ่ขนลุกซู่

    “ไว้คืนนี้เราค่อยมาบอกรักกัน นะครับ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×