ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #13 : 12 ฝันร้าย 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 67


    12

    ฝันร้าย 2

    “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับพี่นัล”

    น้ำเสียงของนลดูเป็นกังวล เมื่อเขากลับมาจากมหาวิทยาลัย พี่สาวครอบครัวเพียงคนเดียวกำลังทำสีหน้าเป็นกังวล ในมือมีซองเอกสารบางอย่างถือเอาไว้อยู่ นัลจ้องสิ่งนั้นด้วยความเคร่งเครียดและหงุดหงิด

    “ใบแจ้งหนี้ ไอ้พ่อเหี้ยนั่นแอบไปกู้หนี้กับธนาคารมา แล้วเอาที่ดินกับบ้านเป็นตัวค้ำประกัน ตอนนี้ก็เลยกำหนดจ่ายมาแล้ว เขาจะมายึดบ้านยึดที่ดินอาทิตย์หน้าแล้วเนียะ”

    นัลระเบิดเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับขย่ำเอกสารนั้นแล้วปาทิ้งเพื่อระบายโทสะ นลเห็นว่าพี่สาวของตนนั้นกำลังอารมณ์ขึ้น ไม่ควรต่อล้อต่อเถียงหรือแม้แต่ตั้งคำถามก็ไม่ได้ เพราะมันจะยิ่งฉุดอารมณ์ของเธอให้พุ่งสูงกว่าเดิมอีก

    พี่สาวของนลเริ่มมีอาการแปลก ๆ มาได้สักพักแล้ว ตั้งแต่วันที่พ่อของพวกเขาจากไป นัลเริ่มมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวกว่าปกติ ตอนแรกนลคิดว่าคงเป็นอาการของผู้หญิงมีประจำเดือน แต่นานวันเข้าเริ่มเอะใจว่ามันไม่น่าจะใช่ จนผ่านไปได้ประมาณปีกว่า อารมณ์ที่ขึ้นง่ายของนันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาย ยิ่งบวกกับความกดดันต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งเรื่องหนี้สินที่พ่อทิ้งเอาไว้ก่อนตาย ทั้งเรื่องค่าเทอมของนล แล้วที่เป็นปัญหาหนักขึ้นไปอีกก็คือ เรื่องของแฟนหนุ่มทีี่คบกันมาได้สามปีคนนั้น

    ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูจะเป็นไปไม่ค่อยดีนัก เมื่อก่อนทั้งคู่รักกันดี แต่มาช่วงนี้เริ่มมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น ส่วนใหญ่คนที่เริ่มก่อนจะเป็นพี่สาวของนลเสียมากกว่า แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการไม่บอกว่าไปไหนแค่นั้น นัลถึงกับเดือดดานเป็นฟืนเป็นไฟ

    “อึก อุก นลทำอะไรเนี้ย เหม็นจะตายอยู่แล้ว”

    ระหว่างที่นลกำทำอาหารมื้อเย็นอยู่นั้ง นัลที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาถึงกับเอ่ยปากตะโกนถาม เธอเดินเข้ามาในโซนครัวที่เป็นห้องเช่าเล็ก ๆ ที่พวกเขาสองคนมาอาศัยอยู่ นลหันไปมองพี่สาวตนเองด้วยความแปลกใจ เมนูในวันนี้ก็เป็นเพียงแค่ต้มยำผักรวมมิตรที่พวกเขากินเป็นประจำเท่านั้น หากบอกว่ากลิ่นฉุนจะไม่แปลกใจ แต่กลับบอกว่าเหม็นซึ่งมันผิดปกติมาก

    “อุก อวก แอวะ อุก อวก”

    นัลรีบวิ่งเข้าห้องน้ำในทันทีเมื่อทนต่อกลิ่นฉุนจัดของอาหารที่น้องชายเธอทำไม่ได้ นลรีบปิดเตาแล้วมาดูอาการของพี่สาวในทันที เขาลูบหลังของนัลเบา ๆ เพื่อลดอาการคลื่นเหียน แต่พอออกมาจากห้องน้ำ สีหน้าของนัลก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้าและทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด

    “ผมว่าพี่ไปหาหมอก่อนดีกว่าไหมครับ อาการพี่ดูแย่มากเลยนะครับ”

    “พี่ก็ว่าแบบนั้นเหมือนกัน”

    สองพี่น้องมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลด้วยรถโดยสารสาธารณะ เนื่องจากเป็นช่วงเวลายามเย็น จึงทำให้คนไข้น้อยลง ซึ่งแลกกับการรักษานอกเวลาสวัสดิการรัฐบาล แต่พวกเขาก็ยอมจ่ายเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ ยิ่งช่วงนี้นัลฝืนโหมงานหนักเพื่อแลกกับเงินที่มาชดใช้หนี้สิน

    “จากการเจาะเลือดและตรวจปัสสาวะ พบว่าคนไข้กำลังตั้งครรภ์สองเดือนอยู่นะคะ และคนไข้ก็ฝืนร่างกายหนักมากเลยทำให้ร่างกายทรุดโทรม ถ้ายังไงก็พักผ่อนให้เพียงพอนะคะ และทานอาหารที่มีประโยชย์ต่อเด็กในครรภ์ ถ้ายังไงก็ฝากครรภ์กับที่โรงพยาบาลเลยไหมคะ”

    เสียงของหมอสาวไม่เข้าหัวของนัลเลยสักนิดหลังจากได้ยินคำว่าเธอตั้งท้องอยู่ สีหน้าที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ ในตอนแรกที่ได้ยินนลก็มีท่าทางดีใจ เพราะเขาจะได้มีหลานตัวเล็กแล้ว เพียงแต่หันไปสังเกตท่าทางของพี่สาวแล้วรอยยิ้มที่พุดขึ้นมาค่อย ๆ จางลง

    “กูจะไปเอาเด็กออก”

    “พี่นัล อย่านะครับ อย่าคิดทำแบบนั้น”

    “แล้วมึงจะให้กูทำยังไง มึงดูสถานะตอนนี้ซะก่อน มึงคิดว่ามึงมีปัญญาเลี้ยงเด็กรึไง ฮะ!!!”

    น้ำเสียงที่แผดออกมาของนัลทำเอานลตกใจ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมให้พี่สาวของเขาทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นเด็ดขาด แม้ปัญหาเรื่องเงินจะสำคัญมากก็จริง ยิ่งกับการเลี้ยงดูเด็กด้วยแล้วก็ยิ่งต้องใช้มันมากมายเกินกว่าที่พวกเขาจะหามันมาได้

    “แต่เด็กเขาไม่ได้ผิดที่เกิดมานะครับ”

    “ผิดสิ ผิดที่เกิดผิดเวลาไง ไหนจะเรื่องค่าเช่า ไหนจะเรื่องหนี้พ่อมึง ไหนจะเรื่องค่าเทอมมึงอีก คิดว่าค่าอยู่ค่ากินไม่ต้องมีเลยว่างั้น”

    “เรื่องนั้นเราค่อย ๆ คิดหาวิธีดีกว่านะครับ ผมว่าการทำแท้งไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันง่ายขนาดนั้นหรอกครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เดี๋ยวผมพักการเรียนแล้วมาช่วยพี่ทำงานดีไหมครับ ถ้าคนเดียวไม่ไหวก็สองคน อ่า จริงด้วย พี่บอกเรื่องนี้กับแฟนพี่หรือยังล่ะครับ”

    “จริงด้วย มันต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ใช่ มันต้องเลี้ยงดูลูกมันด้วย”

    นลเผยรอยยิ้มโล่งใจออกมาเมื่อมีทางออกให้พี่สาวเขาได้ฉุดคิดขึ้นมา นัลรีบหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อติดต่อหาแฟนหนุ่ม แม้ช่วงนี้ความสัมพันธ์แย่นิดหน่อย แต่หากเป็นเรื่องที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ฝ่ายชายคงมีความรับผิดชอบในส่วนนี้อยู่บ้าง

    “ทำไมไม่รับสายวะ”

    หลายต่อหลายครั้งที่นัลติดต่อไป ฝ่ายนั้นไม่ยอมรับสายหรือแม้แต่อ่านข้อความที่เธอส่งไป นั่นทำให้อารมณ์ที่ไม่คงที่ของนัลฉุนขึ้นมาในทันตา เธอตั้งใจจะขว้างมือถือตัวเองทิ้ง แต่นลมาห้ามเอาไว้ได้ทันเพราะคิดว่าอารมณ์ของนัลในตอนนี้อาจทำให้มันแย่ลงไปอีกก็เป็นได้ ยิ่งตอนนี้ฐานะทางการเงินย่ำแย่ หากเธอขว้างโทรศัพท์ทิ้งจนมันเสียหาย มันจะยิ่งเพิ่มภาระเข้าไปอีก บวกกับนลไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองด้วยแล้ว ของในมือมันยิ่งสำคัญเข้าไปใหญ่

    ด้วยความหงุดหงิดและอารมณ์ที่ไม่คงที่ นัลไม่รอช้า รีบตรงไปหาแฟนหนุ่มที่ห้องพัก นลตามไปด้วยเพราะคิดว่าพี่สาวเขาอาจทำเรื่องเลวร้ายขึ้นได้ หรืออาจจะเกิดการทะเลาะวิวาทเขาจะได้ห้ามทันแล้วพาพี่สาวกลับในทันที

    ทั้งคู่มาถึงอาคารหอพักที่แฟนหนุ่มของนัลอาศัยอยู่ ไม่รอช้าเธอรีบขึ้นไปที่ห้องของเขาในทันที เนื่องด้วยมีกุญแจสำรองอยู่แล้วเธอจึงเปิดประตูพรวดพราดเข้า สิ่งที่เห็นทำเอาคนมาใหม่สองขึ้นอึ้งตาค้าง และสองคนในห้องต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน เพราะที่ห้องนี้มันไม่ควรมีคนอื่นอยู่ แฟนหนุ่มของนัลได้พาใครบางคนเข้ามา และยังเป็นผู้หญิง ที่สำคัญคือทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงเวลาสานสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง

    “ไอ้เหี้ยนี้มึงแอบมีชู้เหรอ”

    นลไม่ทันได้ห้ามทัพ ฝั่งของพี่สาวก็มุ่งตรงไปหาแฟนหนุ่มของเธอในทันที เสียงตบดังสนั่นลั่นห้อง แก้มสากถูกฝ่ามือของนัลตบไม่ยั้ง ทางฝั่งแฟนหนุ่มคงตกใจไม่คิดว่านัลจะมาหาถึงที่ และมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เลยไม่ได้โต้ตอบหรือตอบกลับแม้แต่น้อย หรืออาจจะยอมรับผิดที่กระทำการนอกใจนอกกายแฟนสาวของตนก็เป็นได้

    “มึงหยุดเลยนะ มึงเป็นใครเนี้ยมาตบคนอื่น”

    หญิงสาวอีกคนเข้ามาห้ามเอาไว้ แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเสียเท่าไหร่ ตอนแรกนัลก็คิดจะลงไม้ลงมือกับแฟนหนุ่มของตนเองเท่านั้น เพราะคนที่ผิดก็คือฝั่งแฟนหนุ่มที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ แต่อารมณ์ที่ขึ้นสูงอยู่แล้วก็ยิ่งสูงหนักขึ้นไปอีกที่เห็นคู่กรณีอีกคน

    “เป็นใครเหรอ กูสิต้องถามว่ามึงเป็นใคร ฮะ มายุ่งกับผัวชาวบ้าน หน้าไม่อาย อีสันดารขยะเปียก คนอย่างมึงมันต้องเจอกู”

    เสียงตบดังสนั่นเข้าที่แก้มของหญิงสาวอีกคน แต่ฝ่ายนั้นเหมือนจะไม่ยอมเสียเท่าไหร่ ตั้งใจจะเอาคืน ฝั่งของแฟนหนุ่มของนัลมากอดรัดเอาไว้ไม่ให้ไปทำร้ายแฟนสาวตนเอง ส่วนนลก็เป็นฝ่ายหยุดยั้งพี่สาวตนเอาไว้ และพยายามฉุดลากพี่สาวของตนออกจากพื้นที่แห่งนี้ เพราะเสียงที่ดังและความเอะอะวุ่นวายเรียกคนโดยรอบมามุงดู นลไม่อยากให้ทั้งพี่สาวและแฟนพี่สาวเกิดความละอายต่อสาธารณะ จึงลากตัวพี่สาวกลับไปและปิดประตูให้ฝั่งนั้นด้วย

    หลังจากเรื่องราวนั้นผ่านไป นัลและแฟนหนุ่มก็เลิกรากัน แม้ฝั่งนั้นจะพยายามมาขอร้องอ้อนวอน แต่เพราะนัลเป็นคนใจเด็ดขาด เธอจะไม่ยอมให้คนที่เคยนอกกายนอกใจมาเป็นคู่ครองของเธอโดยเด็ดขาด แม้ตนเองจะเศร้าเสียใจร้องไห้หนักมาก ๆ ก็ตาม

    อารมณ์ที่ขึ้นสูงได้ง่ายก็ลงต่ำได้ง่ายเช่นกัน บางครั้งนัลก็ร้องไห้หนักมากจนร่างกายทรุดโทรม บวกกับอาการคลื่นไส้ที่มักเกิดขึ้นทุก ๆ เช้า นลได้แต่เป็นห่วงอาการที่ไม่สู้ดีของพี่สาวตนเองมากนัก บางครั้งเขาก็เห็นว่าพี่สาวของตนนั่งเหม่อลอยคล้ายสติหลุด หรือบางครั้งก็โมโหกับแค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแก้วตกแตก แล้วก็นั่งร้องไห้เพราะเจ็บแผลที่ถูกแก้วบาด

    เดิมทีนัลเป็นคนที่จิตใจเข้มแข็งมาก ๆ ไม่ค่อยได้หลั่งน้ำตาให้เห็นบ่อย ๆ แต่ไม่ใช่กับช่วงหลัง ๆ มานี้ เธอมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้องหลังกลับมาจากที่ทำงาน นลพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พี่สาวของตนเกิดความวิตกกังวลใจมาก จึงพยายามสร้างบรรยากาศที่ไม่ทำให้พี่สาวเครียด อย่างเช่น ทำอาหารไว้รอ กวาดบ้านถูบ้านให้เรียบร้อยและเก็บข้าวของให้เป็นที่เป็นทางที่สุด ไม่ให้ห้องเช่าพวกเขารกหูรกตาจนไปกระตุ้นอารมณ์ฉุนเฉียวเข้า หรือแม้แต่เสื้อผ้านลก็ซักให้ ทำให้ทุกอย่างที่คิดว่าอีกคนกลับมาจากที่ทำงานแล้วจะไม่รู้สึกหงุดหงิด

    สิ่งที่นลทำเหมือนจะช่วยได้บ้าง เพราะเขาเริ่มไม่เห็นว่านัลโมโหโกรธาบ่อย ๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา เขารู้สึกยินดีกับสิ่งนั้นมาก นลจึงพยายามหาของที่ดีต่อเด็กในครรภ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ แต่เพราะภาระค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป นลจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และออกมาทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านแทน แม้จะโดนหลายฝ่ายหักห้ามเอาไว้ แต่ว่านลได้ตัดสินใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    “พี่ไม่สบายเหรอครับ ทำไมซื้อยามาเยอะจังเลยครับ”

    “อย่ายุ่ง”

    นลกลับมาจากที่ทำงาน เห็นพี่สาวเดินถือแก้วน้ำกับขวดยาแก้ปวด ตอนที่นัลเห็นนลกลับมา เธอมีสีหน้าตกใจและเลิกลักจนนลสังเกตเห็นได้ เขาหยิบยาขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นแค่ยาแก้ปวดปกติ แต่ที่ผิดสังเกตคือ ปริมาณที่พี่สาวของตนเทออกมานั้นมันเกินขนาดไปมากโข

    “พี่คิดจะทำอะไรน่ะครับ”

    “ไม่ได้จะทำอะไร”

    “ไม่ทำอะไรแล้วทำไมถึงคิดจะกินยาเยอะขนาดนั้น”

    “อย่ายุ่งได้ไหม”

    “ไม่ยุ่งได้ยังไงล่ะครับ นี่พี่คงไม่ได้จะคิดฆ่าตัวตายใช่ไหมครับ”

    “เอ่อ กูจะฆ่าตัวตาย แล้วมันจะทำไม”

    นลได้แต่ยืนอึ้งตกใจ เขาเบิกตาโตมองพี่สาวของตนอย่างไม่เชื่อสายตา สีหน้าและแววตาแบบนั้นของนัลบ่งบอกว่าคิดจะทำอย่างนั้นจริง ๆ นลเพิ่งมาสังเกตว่าร่างกายของนัลซูบผอมกว่าปกติ ตัดกับท้องที่กำลังโตเพราะมีีเด็กอยู่ด้านใน ผิวเองก็ซีดเผือกเหมือนคนขาดสารอาหาร ทั้งที่นลพยายามหาของที่ดี ๆ มาให้ทาน ทั้งเนื้อสัตว์ ผลไม้ หรืออาหารเสริมสำหรับแม่ตั้งครรภ์ หากให้เดา พี่สาวของตนคงจะไม่กินหรือกินน้อยเท่านั้น

    “พี่อย่าทำแบบนั้นนะครับ พี่คิดให้ดี ๆ สิครับ”

    “มึงคิดว่าคนจะฆ่าตัวตายเขาไม่คิดอะไรเหรอ กูคิดมาดีแล้ว และนี่คือคำตอบเดียว กูเหนื่อยมากเลยมึงรู้ไหม เหนื่อยจนรู้สึกว่าถ้าตาย ๆ ไปคงไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยแบบนี้ ทั้งเรื่องหนี้ของพ่อ ทั้งเรื่องลูกที่กำลังจะเกิด ทั้งเรื่องงาน มึงรู้ไหมว่าที่ทำงานกูเขาไล่กูออกแล้ว”

    นัลทรุดตัวลงร้องไห้อย่างหนัก มือทั้งสองข้างสั่นเทากุมใบหน้าตัวเองเอาไว้ ปกปิดใบหน้าที่หมดคราบคนสวย ตอนนี้เธอไม่เหลือแรงที่จะใช้ชีวิตต่อ เรื่องหลาย ๆ อย่างกดดันจนเธอเคร่งเครียดกับมันมาก สุดท้ายการจากไปคือคำตอบสุดท้ายที่เธอคิดออก

    “แต่พี่ไม่ได้ตายคนเดียวนะ พี่ยังมีลูกพี่อีก พี่ไม่ได้ฆ่าแค่ตัวเองนะ พี่จะฆ่าเด็กที่ไม่ได้ผิดคนหนึ่งเลยนะ”

    “แล้วมึงจะให้กูทำยังไง มึงรู้ไหมว่ากูเหนื่อยขนาดไหน กูเหนื่อยจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว มึงปล่อยกูตาย ๆ ไปเถอะ ขอร้อง กูเหนื่อยกูไม่ไหวแล้ว”

    “ผมจะช่วยพี่หาทางออกเอง อย่างน้อยขอจนกว่าจะคลอดลูกออกมา ถ้าถึงตอนนั้นแล้วพี่ยังคิดจะตายอยู่ ผมจะไม่ห้ามอะไรพี่เลย ผมขอร้อง ขอแค่เด็กคนหนึ่งได้เกิดมา แล้วผมจะเลี้ยงดูเขาเองถ้าพี่ไม่ต้องการ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×