ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #19 : 18 ก่อนงานเลี้ยง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 67


    18

    ก่อนงานเลี้ยง

    “พี่นล ผมคิดถึงพี่ที่ซูด”

    ทันทีที่ต้นไม้กลับมาถึงบ้าน ชายหนุ่มรีบพุ่งมาหานลที่ยืนทำอาหารอยู่ที่ครัวของบ้านอาหลง เขาหมายมั่นตั้งใจจะพุ่งมากอด แต่ถูกสะกัดเอาไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่ออย่างอาหลง ช่วงแขนที่ยาวและแข็งแรงหยุดยั้งลูกชายจอมทะเล้นไม่ให้มาเกาะแกะคนรักของตนเอง

    “ไปไกล ๆ เลย คิดถึงอะไร เมื่อวานก็เจอกันอยู่”

    “โถ่ พ่อ ไม่เจอกันตั้งหลายชั่วโมงมันก็ต้องมีคิดถึงบ้างปะ เนอะพี่นล”

    “ไม่ต้องมากอด นี่เมียพ่อนะเฮ้ย”

    “แอ่นแระ ตอนนี้เป็นเมียแล้วเหรอ ไวไฟนะเราเนี่ย ได้ข่าวว่าเพิ่งรู้จักกันไม่กี่เดือนเองนะ”

    “เงียบไปเลย เรื่องของผู้ใหญ่”

    “กุ๊กกิ๊กคร้าบ มาดูคนแก่เขินหน่อยเร็ว ไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ นะเธอ”

    ต้นไม้ร้องเรียกแฟนสาวที่ตนพามาด้วย หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับต้นไม้เดินเข้ามาไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ นลละมือจากการทำอาหารมารับไหว้กุ๊กกิ๊ก เขารู้สึกแปลก ๆ ที่ถูกไหว้ นลรู้สึกไม่ชินกับการถูกปฏิบัติเหมือนเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ทั้งที่อายุห่างกันไม่กี่ปี ส่วนทางอาหลงเคยเจอแฟนสาวของลูกชายมาหลายครั้งแล้ว เลยทำแค่พยักหน้าแล้วยิ้มรับเท่านั้น ซึ่งอาหลงเป็นฝ่ายชวนให้ต้นไม้พาแฟนมาด้วย เพราะวันนี้ตั้งใจจะจัดงานเลี้ยงฉลอง แต่เนื่องด้วยโอกาสอะไรนั้นก็แล้วแต่ใครจะต้องการเลย

    สองพ่อลูกพากันออกไปไม่ให้รบกวนคนเตรียมมื้อเย็นสำหรับงานเลี้ยงฉลอง กุ๊กกิ๊กอาสาเป็นลูกมือให้นล แม้ว่าตนเองจะทำอาหารไม่เก่งนัก แต่หากให้ช่วยเตรียมของและจัดจานเธอทำได้ไม่มีปัญหา เมื่อช่วงเที่ยงนลและอาหลงไปออกไปซื้อของมาเตรียมเอาไว้ โดยปล่อยให้ต้นกล้าและคอปเตอร์นั่งเล่นอยู่ที่ห้องดูหนัง เพราะดูเหมือนสองคนนั้นจะติดการ์ตูนที่ต้นกล้าแนะนำ

    “คุณนลทำอาหารคล่องแคล้วจังเลยนะคะ”

    “เรียกพี่นลเฉย ๆ ก็ได้ พี่อายุห่างกับต้นไม้ไม่กี่ปีเอง ส่วนเรื่องทำอาหารคล่องก็ฝึกมาน่ะ”

    ระหว่างเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยง กุ๊กกิ๊กได้เห็นถึงทักษะของคนพี่ที่ทำอะไรรวดเร็วจนเธอตามไม่ทัน การหั่นเนื้อให้เป็นชิ้น ๆ เอาไว้สำหรับทำบาบิคิว ปิ้งย่าง และส่วนของหมูกระทะ นลสามารถทำมันออกมาได้รวดเร็วและชิ้นสวยไม่เละเทะ ดูราวกับมืออาชีพที่ทำงานในด้านนี้ เลยทำเอาคนเพิ่งเคยเห็นหน้าตกตะลึงในความชำนาญ

    “หนูคงต้องฝึกเป็นสิบปีแหล่ะค่ะถึงจะได้แบบพี่นล”

    “หึหึ มันไม่ได้ยากขนาดนั้น”

    “แล้วพี่นลคบกับคุณพ่อของต้นไม้นานหรือยังคะ เอ่อ ขอโทษนะคะถ้ามันเกินเลยไปหน่อย”

    “ไม่เป็นไร พี่ไม่ถือสาหรอก ส่วนเรื่องคบกันนานหรือยัง เรื่องนี้พี่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะยังไม่เคยขอคบกันทั้งสองฝ่ายเลย รู้ตัวอีกทีก็อยู่แบบนี้แล้ว”

    “อึ้ย คบกันแบบไม่ขอคบเหรอคะเนี่ย จดไว้ จดไว้ แล้วอายุห่างขนาดนี้พี่เรียกพ่อของต้นไม้ว่า แด๊ดดี้หรือเปล่าคะ”

    “แบบว่า พ่อ อะไรแบบนี้เหรอ”

    “ไม่ใช่ค่ะ มันหมายถึงพ่อที่ไม่ใช่พ่ออ่าค่ะ”

    “มีแบบนั้นด้วยเหรอ”

    “เอาเป็นว่าพี่นลลองเอาไปใช้กับพ่อของต้นไม้ดูนะคะ รับรอง เขาหลงพี่นลหัวปักหัวปำแน่ค่ะ”

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ แค่เรียกว่า แด๊ดดี้ แค่นั้นเหรอ”

    “ใช่ค่ะ ลองเอาไปใช้ดูนะคะ”

    “ได้ ไว้พี่จะลองดู”

    นลพยักหน้ารับ เขานึกแปลกใจว่าอย่างอาหลงจะชอบให้เขาเรียกว่าแด๊ดดี้ได้เหรอ เพราะเจ้าตัวมักบ่นกับเขาอยู่เสมอว่า ตนเองแก่แล้ว กลัวนลไม่รักอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้ามันทำให้อีกคนรู้สึกหลงหัวปักหัวปำอย่างที่กุ๊กกิ๊กพูดแล้วล่ะก็ มันก็เป็นสิ่งที่น่าลองอยู่เหมือนกัน

    “แล้ว แล้ว พี่นลโดนล่อลวงมาเหรอคะ หรือโดนพ่อต้นไม้ทำเสน่ห์ใส่ หรือถูกใจคนอายุมากกว่ามาก ๆ หรือชอบที่รูปลักษณ์ของเขาค่ะ”

    “ถามเยอะแบบนี้ตั้งใจจะเอาไปทำข่าวหรือเปล่าเนี่ย”

    “แหะ ๆ ขอโทษค่ะ ที่จริงแล้วกิ๊กเป็นนักเขียนลับ ๆ อยู่ค่ะ แล้วไม่เคยเจอคู่รักทรง แด๊ดดี้แอนด์ซัน ในชีวิตจริงมาก่อน เลยอยากถามหาข้อมูลไว้เยอะ ๆ จะได้เอาไปเขียนเป็นหนังสือตัวเองอ่าค่ะ”

    กุ๊กกิ๊กหน้าจ๋อยลง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอล่วงเกินถามคำถามที่มากเกินความจำเป็น แต่ฝั่งของนลไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไร ออกจะสนุกเสียด้วยซ้ำที่มีคนคุยเล่นระหว่างเตรียมอาหารกัน ทั้งยังอารมณ์ดีและสนุกกับการทำอาหาร เพราะครัวที่บ้านของอาหลงใช้สนุก เขาไม่ได้มาคิดเล็กคิดน้อยกับคำถามของกุ๊กกิ๊กแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่แปลกใจที่ถูกถามมากขนาดนั้นเท่านั้นเอง

    “ว้าว เป็นนักเขียนเหรอ พี่เองก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันนะ เราได้ตีพิมพ์หรือยังล่ะ เดี๋ยวพี่ไปอุดหนุน”

    “เอ่อ คือ กิ๊กเป็นนักเขียนโนเนมค่ะ กำลังเริ่มเขียนลงในเว็บ ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่หรอกค่ะ”

    “เหรอ งั้นเขียนลงในไหนล่ะ เดี๋ยวพี่ไปตามอ่านเอง”

    “อย่าเลยค่ะ อย่าเลย มัน เอ่อ มันไม่น่าอ่านเลยสักนิด ยิ่งกับคนแบบพี่นลด้วยแล้ว ไม่เหมาะกับนิยายกิ๊กหรอกค่ะ”

    กุ๊กกิ๊กปฏิเสธเสียงแข็ง เท่าที่เธอได้พูดคุยทำความรู้จักกันประมาณหนึ่ง บวกกับแฟนหนุ่มของเธอมักเล่าถึงแฟนใหม่ของพ่อตนเองให้ฟังอยู่บ่อย ๆ เธอสัมผัสได้ว่านลเป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่ออยู่พอสมควร เพราะอย่างนั้นคนแบบนลไม่เหมาะกับการอ่านนิยายของเธออย่างแน่นอน และมันน่าอายเกินกว่าจะให้ใครรู้ว่าตนเองเป็นนักเขียนนิยายโป๊ แล้วยังเขียนแนวผู้ชายกับผู้ชายอีก

    “ไม่เหมาะเหรอ แล้วเราเขียนนิยายแบบไหนถึงคิดว่าพี่ไม่เหมาะ”

    “คือ แนวเอ็นซีค่ะ”

    “เอ็นซี? คือแนวอะไรอ่า พี่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

    “ไม่รู้ก็ดีแล้วค่ะ เรื่องนี้พี่เก็บเอาไว้เป็นความลับนะคะ ห้ามเปิดเผย ไม่ว่ากับใครก็ตาม ถือเสียว่าเราไม่เคยพูดเรื่องนี้กันอีก”

    “กะ ก็ได้ พี่ไม่บอกใครอยู่แล้ว”

    ระหว่างพูดคุย นลไม่ได้หยุดมือที่กำลังเตรียมอยู่เลย เพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาเตรียมเนื้อเสร็จเรียบร้อยทุกเมนูแล้ว เขาเอาส่วนของเนื้อบาบิคิวส่งให้กุ๊กกิ๊ก เพื่อให้เธอเป็นคนเสียบเข้าแท่งเหล็ก ส่วนตัวเขาหันมาชิมรสน้ำซุปกระดูกหมูในหม้อก่อน พอรสชาติเป็นที่ถูกปากแล้ว หันมาเตรียมกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่หลายสิบตัวต่อ เพื่อจะเอาไว้สำหรับเมนูปิ้งย่าง นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมหมูหมัก เนื้อหมักอีก อาหารปิ้งย่างจะไม่อร่อยเลยหากน้ำจิ้มไม่อร่อย โชคดีที่ชิลีเพื่อนสนิทของนลมาถึง เลยช่วยแบ่งเบาหน้าที่ไปได้อีกอย่าง

    นลปล่อยให้สองสาวจัดการส่วนของเนื้อและผัก ส่วนเขามาเตรียมน้ำจิ้มต่อ ระหว่างนั้นนลได้ยินสองสาวคุยกันอย่างสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาสิบปี ทั้งที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันครั้งแรก ต่างฝ่ายต่างพูดจ้อไม่หยุด จนกลายเป็นว่านลเกือบเป็นธาตุอากาศไปเสียแล้ว ดูเหมือนทั้งสองคนจะมีนิสัยที่คล้าย ๆ กัน แค่มองตากันก็รู้ว่าเป็นคนแบบไหน เพราะอย่างนั้นเลยสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว และอีกอย่างชิลีเองก็มีงานอดิเรกเป็นนักเขียนเหมือนกัน อาจเป็นสาเหตุที่ทั้งสองคุยกันคิกคักจนลืมนลที่อยู่ด้วยอีกคนไป

    เมื่อเวลาใกล้ ๆ ช่วงเย็น เหล่ากลุ่มแก๊งหนุ่มวิศวะก็เดินทางมาถึง พวกนั้นเตรียมสุราและของมึนเมามาเพียบ ตั้งใจจะเมาหัวราน้ำกันไปข้าง แต่ลืมไปเสียได้ว่าวันนี้ยังมีเด็ก ๆ อยู่อีกสองคน เลยถูกอาหลงเทศนาไปบทหนึ่ง พอถามหาต้นเหตุคนคิด ทุกนิ้วของกลุ่มแก๊งชี้มาที่ต้นไม้กันหมด ส่วนเจ้าตัวไม่ยอมรับผิดชี้ไปที่เพื่อนสนิทอย่างตะวันแค่คนเดียว พอโดนทุกคนตราหน้ารับผิดคนเดียว ต้นไม้เลยโวยวายไม่พอใจ เพราะทุกคนเห็นดีเห็นงามแล้วเป็นคนนำเข้ามากันคนละแพ๊คสองแพ๊ค

    “เอาเถอะครับพี่หลง ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเขายังหนุ่มกัน งานรื่นเริงจะขาดน้ำรสเริศได้ไงจริงไหมล่ะครับ”

    “ใช่ ๆ พี่นลพูดถูก”

    “เงียบไปเลยไม้ พ่อยังเทศแกไม่เสร็จนะ”

    ต้นไม้รีบหุบปากฉับเมื่อพ่อทำหน้าทะมึนใส่ ปกติชอบแหย่พ่อตนเองเล่นอยู่เป็นประจำ แต่ต้นไม้รู้ว่าเวลาไหนเล่นได้ เวลาไหนเล่นไม่ได้ โชคดีที่วันนี้มีนลมาช่วยกล่อมให้ เพราะอย่างนั้นอาหลงเลยเก็บอารมณ์ได้ดี

    “ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้ว ปล่อยพวกเขาดื่มเถอะครับ”

    “พี่ไม่เคยห้ามหากพวกเขาจะดื่ม แต่ครั้งนี้ต้นกล้ากับคอปเตอร์ก็ยังอยู่นะ พี่ไม่อยากให้พวกเขาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็ก ๆ”

    “ไว้ให้พวกเขาดื่มกันหลังเด็ก ๆ ขึ้นไปแล้วดีไหมครับ แล้วอีกอย่าง คอปเตอร์เองก็เคยเห็นผมกับพี่สาวผมดื่มอยู่บ้างเป็นบางครั้ง เขารู้อยู่แล้วล่ะครับว่ามันไม่ดี”

    “นลดื่มด้วยเหรอครับ”

    อาหลงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าคนอย่างนลจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล ตลอดเวลาที่รู้จักกันเขาไม่เคยเห็นนลจิบหรือดื่มเลยสักครั้งเดียว จนคิดว่านลน่าจะเป็นคนไม่ดื่มสุราหรือสูบบุหรี่เหมือนเขา สิ่งที่ได้ยินมันเกินคาดไปมาก

    “นิดหน่อยครับ อย่างมากก็แค่หนึ่งถึงสองแก้วครับ เพราะผมไม่ได้อยู่ในสถานะที่เสียเวลากับน้ำเมาพวกนั้น แล้วอีกอย่างพ่อผมก็เสียคนเพราะของแบบนั้นด้วย ผมเลยพยายามไม่ดื่มมัน แต่เพราะต้องเข้าสังคมมันเลยต้องมีบ้างเล็กน้อยไม่ให้ดูแปลกแยก แล้วพี่หลงไม่ดื่มเหรอครับ”

    “ไม่ใช่ว่าไม่เคยหรอกครับ แต่เพราะพี่เป็นคนคออ่อนมาก ๆ แค่เบียร์สองสามแก้วพี่ก็เมาแล้ว หรือไม่ก็แค่ไวน์ก็ทำพี่เมาได้เหมือนกัน”

    “แล้วซื้อไวน์มาตั้งทำไมเยอะแยะครับ ผมนึกว่าพี่ชอบดื่มไวน์เสียอีก”

    “ก็มันแพงแล้วก็ดูหรูดี เลยซื้อมาตั้งไว้ ยังไม่เคยเปิดสักขวดเลยครับ”

    นลขำกับความคิดแปลก ๆ ของอาหลง เขาไล่ให้พวกหนุ่ม ๆ กลุ่มแก๊งวิศวะไปจัดเตรียมสถานที่ ส่วนอาหลงไปจัดการธุระงานครู่หนึ่ง แล้วนลก็เข้าไปเรียกเด็ก ๆ ทั้งสองที่นั่งดูทีวีเพลินจนลืมไปแล้วว่าวันนี้มีงานเลี้ยง พอทั้งสองออกมาก็เจอเข้ากับกลุ่มแก๊งที่รู้จัก ทางด้านของต้นกล้าเขาค่อนข้างสนิทกับกลุ่มเพื่อนของพี่ชายตน แม้จะมีคนที่ไม่คุ้นอยู่คนหนึ่งก็ตาม ส่วนคอปเตอร์นั้นรู้จักอยู่แล้ว เพราะต้นไม้และตะวันมักไปหาพร้อมกลุ่มเพื่อนอยู่บ่อย ๆ

    “พี่เตมาด้วยเหรอพี่”

    ต้นกล้าเอ่ยถามพี่ชายของตนเอง ถึงจะรู้จักกัน แต่เพราะเตไม่ค่อยได้เข้าร่วมกลุ่มแก๊งบ่อย ๆ เลยทำให้ต้นกล้าไม่เคยคุยกับเพื่อนพี่ชายคนนี้มาก่อน หากให้นับจำนวนครั้งที่พบหน้าก็เป็นแค่สี่ถึงหน้าครั้ง ส่วนใหญ่พบเจอแบบผ่าน ๆ ไม่ได้พูดคุยหรือมองหน้ากันตรง ๆ

    “ใช่ ทำไมเหรอ”

    “เปล่าไม่มีอะไร”

    ต้นไม้งงกับน้องชายตนเอง ก่อนจะละความสนใจแล้วขนลังเบียร์ไปเก็บที่ครัวก่อน กว่าจะได้เปิดใช้ก็คงเป็นช่วงค่ำ ๆ ตอนที่เด็ก ๆ ทั้งสองขึ้นไปนอนแล้ว ส่วนต้นกล้าหันกลับมาแอบสำรวจเพื่อนพี่ชายคนนี้ ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าพี่เตคนนี้ดูมีเสน่ห์ขึ้นกว่าแต่ก่อน บางทีอาจเพราะเตเริ่มดูแลตัวเองหลังจากอกหักจากนลไป เริ่มใช้ครีมและเซรั่มบำรุงผิว จากคนหน้าเป็นสิวก็เริ่มใสขึ้น ยิ่งผิวสีแทนก็ยิ่งดูโดดเด่นในกลุ่มที่มีแต่คนขาว บวกกับหุ่นนักกีฬาของกลุ่มแก๊งนี้ด้วยแล้วมันก็ยิ่งขับให้เตดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกตัว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×