ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #18 : 17 บ้านอาหลง

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 67


    17

    บ้านอาหลง

    วันนี้เป็นวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันหยุดประจำร้านคาเฟ่ของนล อาหลงถือโอกาสชวนสองพ่อลูกอย่างนลและคอปเตอร์มาที่บ้านของตน ถือว่าเป็นวันที่ดีวันหนึ่ง เพราะต้นไม้และต้นกล้าอยู่บ้านด้วยพอดี โดยปกติแล้วต้นไม้มักไม่อยู่บ้านช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพราะเจ้าตัวเอาเวลานี้ไปเที่ยวเล่นเสียส่วนใหญ่ ไม่นอนกกแฟนที่หอก็เที่ยวกับเพื่อนเป็นประจำตามฉบับคนพลังล้นเหลือ ส่วนต้นกล้าเดิมทุกวันเสาร์มีติวพิเศษ แต่เห็นว่านลและคอปเตอร์จะมาเลยขอยกเลิกติวในวันนี้ไป

    “พี่ต้น พี่ต้น คอบเจ้อมาแย้ว”

    เมื่อทั้งสามมาถึงบ้านของอาหลงโดยมีเจ้าบ้านเป็นสารถีคนขับให้ ทันทีที่คอปเตอร์เห็นต้นกล้ายืนต้อนรับอยู่หน้าบ้าน เจ้าตัวรีบลงจากรถแล้วพุ่งตัวไปกอดต้นกล้าใหญ่ ทางคนพี่หัวเราะคิกคักเอ็นดูน้องชายต่างพ่อต่างแม่คนนี้ ยิ่งได้เห็นเด็กน้อยแหงนหน้าขึ้นมองแล้ว หัวใจคนพี่มันยิ่งฟูฟ่อง ก่อนจะเผลอหลุดขำเมื่อเห็นว่าฟันหน้าของเด็กน้อยหายไปซี่หนึ่ง

    “หึหึ ฟันไปโดนอะไรมาครับ”

    “ไม่ยู้เหมือนกัน มันหยุดออกมาเอง”

    ต้นกล้าพยายามไม่ขำน้องชายคนใหม่ตรงหน้า เพราะมันจะทำให้น้องอายและเขิน เขาไม่อยากโดนเด็กชายงอน พานจะถูกเกลียดเอาได้ เขาเอ็นดูเด็กน้อยมาก ๆ ต้นกล้าฝันว่าอยากมีน้องชาย และวันนี้มันก็สำเร็จผล แถมน้องชายตรงหน้าของเขายังน่ารักน่าเอ็นดูมาก ๆ เสียด้วย เขาจะไม่ยอมถูกเกลียดเป็นแน่

    “น้านลสวัสดีครับ”

    “สวัสดีครับ อยู่คนเดียวเหรอครับ”

    “พี่ไม้เพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เองครับ เห็นว่าไปส่งงานมหาลัย อีกเดี๋ยวก็คงกลับครับ เชิญด้านในก่อนครับ”

    “ขอบคุณครับ”

    นลเดินตามเด็กหนุ่มตรงหน้าเข้าไป ระหว่างทางก็สำรวจความเป็นอยู่ของบ้านอาหลงไปด้วย โดยมีเจ้าบ้านเดินมาโอบเอวไม่ห่าง ตัวบ้านของอาหลงถือว่ามีราคาระดับหนึ่ง การเลือกใช้วัสดุหรือของตกแต่งทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ราวกับว่าหลุดออกมาจากนิตยสารขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกใด ๆ เลย เพราะเจ้าบ้านอย่างอาหลงเป็นคนออกแบบและลงมือคุมงานด้วยตัวเอง เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุ การก่อสร้าง ไปจนถึงงานเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็เป็นคนลงมือทำเองกับมือ

    บ้านสามชั้นสไตล์โมเดิร์น ขนาดสี่ร้อยห้าสิบตารางเมตร ตัวบ้านถูกออกแบบมาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่ทับซ้อนกัน ที่จอดรถสี่คัน ถูกจับจองด้วยรถยนต์หรูราคาหลักสิบล้านไปแล้วสองคัน รวมคันที่อาหลงเพิ่งจอดไปเป็นคันที่สาม เมื่อเดินผ่านเฉลียงหน้าบ้านเข้ามาจะเจอเข้ากับส่วนของโซนรับแขก เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่โล่งกว้าง ชั้นหนึ่งทั้งชั้นจึงเป็นโซนรับแขกทั้งหมด โซฟาที่ตั้งอยู่กลางบ้านหันออกไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่นอกตัวบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปยังสระว่ายน้ำได ด้านหลังโซฟาเป็นห้องดูหนังง ข้าง ๆ กันเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีโซฟาอีกชุดจัดวางเอาไว้ ข้าง ๆ กันมีชั้นหนังสือวางเรียงรายเป็นตับ

    ถัดไปเป็นส่วนของเคาน์เตอร์บาร์สำหรับจัดเตรียมอาหารและนั่งดื่มเล่น ๆ ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์มีตู้โชว์ขวดไวน์หลายสิบขวดตั้งเรียงรายเป็นแผง ใช้เป็นตัวบดบังส่วนของครัวฝรั่งที่อยู่ด้านในสุด ที่ครัวจะมีประตูที่เชื่อมด้านนอกที่เป็นโซนซักล้างนอกบ้าน และห้องอาบน้ำสำหรับขึ้นจากสระน้ำ จะมีตัวอาคารแยกออกมาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของสระ เป็นห้องสำหรับออกกำลังกาย อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับออกกำลังกายมีอย่างครบครันจนสามารถเป็นร้านฟิตเนสได้ เพราะอาหลงค่อนข้างชอบการออกกำลังกาย

    ชั้นสองและสามเป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัว ชั้นสองจะเป็นห้องนอนและห้องทำงานของสองพี่น้องอย่างต้นไม้และต้นกล้า และยังมีโซนนั่งเล่นสำหรับใช้ร่วมกันอยู่ และยังมีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้งานอีกหนึ่งห้อง โดยส่วนใหญ่ให้แขกนอน ถัดขึ้นไปที่ชั้นสาม ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่าชั้นอื่น ๆ แต่เพราะทั้งชั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของอาหลงทั้งหมด ทั้งห้องทำงาน ห้องนอน ห้องแต่งตัว และยังมีครัวเล็ก ๆ เผื่อไม่อยากเดินลงไปหากินที่ด้านล่าง โดยส่วนใหญ่ใช้เก็บของกินเล่นและน้ำเปล่าเสียมากกว่า

    “บ้านพี่ดูแพงจังนะเลยครับ”

    นลนั่งลงที่โซฟารับแขกกลางบ้าน ตัวเขาเกร็งไปหมด เพราะไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปยังพื้นที่คนรวยมาก่อน ถึงบ้านเพื่อนสนิทอย่างชิลีพอมีฐานะอยู่บ้าง แต่ฝั่งนั้นเป็นลูกหลานคนจีน จึงให้ความรู้สึกหรูหราที่ต่างกับของอาหลงโดยสิ้นเชิง

    “แค่ยี่สิบสองล้านเองครับ”

    “แค่เหรอครับ”

    “ใช่ครับ ถ้าขายคงจะอยู่ที่ประมาณห้าสิบล้านได้ ยิ่งอยู่ในตัวเมืองราคาก็ยิ่งสูง บ้านนี้พี่ทำเองเลยราคาต่ำกว่าราคาขาย”

    “เป็นลูกคนจีนเหมือนบ้านชิลี แต่ให้ความรู้สึกต่างกันมากเลยนะครับ”

    “หืม? ลูกคนจีน? ใครบอกว่าพี่เป็นลูกคนจีนครับ”

    “เอ๋ กะ ก็พี่ อ้าว พี่ไม่ใช่ลูกคนจีนเหรอครับ”

    นลหันมามองหนุ่มใหญ่ด้วยสีหน้าเหรอหรา เขาคิดมาตลอดว่าอาหลงเป็นลูกหลานคนจีน นอกจากชื่อแล้วใบหน้าของอาหลงก็ให้ความรู้สึกเหมือนคนจีนอยู่นิดหน่อย เหมือนดาราพระเอกหนังจีนเมื่อสมัยก่อน ถึงผิวจะสีแทน แต่เพราะหางตาที่เฉี่ยวขึ้น เลยทำให้ดูเหมือนหนุ่มจีนอยู่นิดหน่อย

    “พี่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนจีนเลยสักนิดครับ ครอบครัวพี่เป็นคนไทยแท้ทั้งฝั่งพ่อและฝั่งแม่”

    “อ้าว แล้วทำไม ชื่อพี่ถึงได้”

    “เพราะแม่พี่เอง สมัยก่อนมีดาราพระเอกที่ชื่อ เสี่ยวหลงเปา แม่พี่ปลื้มหนักมาก เลยเอามาตั้งเป็นชื่อลูก พี่มีพี่ชายชื่อ อาเปา ส่วนพี่ชื่อ อาหลง ที่มาชื่อพี่ก็แบบนี้แหละ”

    “เอ๋ พี่มีพี่ชายด้วยเหรอครับ”

    “เคยมีครับ เป็นพี่ชายฝาแฝด แต่เขาเสียไปหลังคลอดได้ไม่กี่นาที มีพี่คนเดียวที่รอดมาได้”

    “เสียใจด้วยนะครับ”

    “ขอบคุณครับ อยากรู้เรื่องพี่อีกไหม”

    “ถ้าพี่ยินดีที่จะเล่า”

    “พี่อยากให้นลรู้ทุกเรื่องของพี่ ถ้าพี่เล่าถึงเรื่องเมียเก่าอย่าโกรธกันนะ”

    “หึหึ เล่ามาเถอะครับ ผมไม่ถือสาเรื่องเก่าเรื่องก่อนหรอกครับ”

    แล้วทั้งสองคนนั่งอยู่บนโซฟา ทั้งคู่เข้าสู่โลกส่วนตัว โดยมีอาหลงเป็นผู้เล่าเรื่องราวชีวิตต่าง ๆ ส่วนนลเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ใช่แค่นั่งฟังเงียบ ๆ เท่านั้น ดวงตาจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ตลอดเวลา เอ่ยถามบ้างเป็นบางครั้ง เพื่อให้มีส่วนร่วมในบทสนทนา แต่ไม่มากเกินไปจนก้าวก่ายคนพูด

    เด็ก ๆ ทั้งสองได้ถูกผู้ใหญ่หลงลืมไปเสียแล้ว แต่หาใช่ว่าพวกเขาทั้งสองจะสนใจ เพราะทันทีที่ทั้งคู่ขึ้นมาถึงห้องนอนของต้นกล้า เด็ก ๆ ทั้งสองก็หลงลืมพวกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านล่างด้วยเช่นกัน คอปเตอร์มุ่งตรงไปหาหุ่นยนต์ตัวต่อที่ถูกตั้งโชว์อยู่ในตู้กระจก สีหน้าแสดงออกถึงความตื่นเต้นจนเก็บไม่มิด

    “พี่ต้น พี่ต้น อันนี้เท่จังเยย”

    “อยากได้ไหมครับ”

    ต้นกล้าเอ่ยถามเด็กน้อยที่ตัวสูงเลยโต๊ะมาเล็กน้อย หากเป็นคนอื่นเขาไม่คิดจะให้แตะต้องโมเดลราคาหลายพันบาทขอเขาแม้แต่ตัวเดียว เพราะกว่าจะเก็บสะสมค่าขนมให้พอซื้อได้เขาลำบากแทบตาย แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็นคอปเตอร์แล้ว เจ้าตัวถึงได้ถามออกไปแบบนั้น ทำเหมือนว่าจะยกให้ได้ง่าย ๆ แต่ถ้าถูกขอหรืออ้อนใส่ เขาคงเผลอยอมให้เป็นแน่

    “มะเอา มันแพง คอบเจ้อไม่อยากเย่น มีเยโก้ไหมอ่า”

    “หมายถึงเลโก้เหรอครับ มีครับ แต่เดี๋ยวรอแป๊บนึงนะครับ พี่เก็บไว้ที่ห้องอ่านหนังสือ เดี๋ยวไปเอามาให้ เรารออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ”

    “ได้เยยกั๊บ”

    ต้นกล้าลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไป ที่ห้องอ่านหนังสือเป็นห้องสำหรับนั่งเล่น อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมส่วนตัว ซึ่งมันอยู่ห้องถัดไปจากห้องของต้นกล้า ห้องนี้ต้นกล้ามักใช้คนเดียว ฝั่งตรงข้ามที่เป็นส่วนของพี่ชาย เขาเองก็มีห้องทำงานเป็นของตัวเองเช่นกัน

    ต้นกล้าหยิบของเล่นที่เขาเลิกเล่นไปเมื่อนานแล้วออกจากตู้เก็บของเล่น แล้วนำมันกลับไปที่ห้องนอน ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ใบหน้าของต้นกล้าก็ขึ้นสีแดงจัด ไม่ใช่ว่าคอปเตอร์ทำอะไรไม่ดีใส่เหล่าของเล่นราคาแพงของตน แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในมือของเด็กน้อย มันเป็นของที่ไม่ควรอยู่ในมือคอปเตอร์ได้ และมันไม่เหมาะที่จะให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างคอปเตอร์รู้จักสิ่งนั้น

    “คอปเตอร์เอามาจากไหนครับเนี่ย”

    “บนเตียงกั๊บปม”

    ต้นกล้าอยากจะทุบหัวตัวเอง เพราะว่าเขาสั่งของเอาไว้ แล้วพัสดุเพิ่งมาส่งก่อนที่พวกอาหลงจะกลับมา ต้นกล้าตื่นเต้นกับของชิ้นนี้มาก มันมากเสียจนรีบแกะออกมาแล้วเกือบลองใช้ แต่เพราะพวกอาหลงกลับมาถึงก่อนเลยรีบลุกไปต้อนรับ ไม่ทันได้ใช้ และที่สำคัญ เขาไม่ทันได้เก็บ เพราะเดิมทีห้องส่วนตัวจะไม่มีใครเข้าห้องของใครโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้องก่อน เขาเลยเผลอตัววางทิ้งไว้บนเตียง

    “พี่ขอคืนนะครับ”

    “มันคืออะไยเหยอ”

    “เอ่อ คือ มันเป็นของเล่นผู้ใหญ่น่ะครับ เด็ก ๆ ไม่ควรเล่นนะครับ”

    “จิงเหยอ ถ้าคอบเจ้อโตเหมือนพี่ต้นแย้ว คอบเจ้อเย่นได้ใช่ไหม”

    “กะ ก็ คิดว่า ดะ ได้มั้ง ถ้าคอปเตอร์เป็นเหมือนพี่”

    “เหมือนพี่ต้นเหยอ? อื้อ โตไปคอบเจ้อจะเป็นเหมือนพี่ต้น”

    ต้นกล้าอยากจะร้องไห้ออกมา เขาดันไปสอนเรื่องผิด ๆ กับน้องชายคนใหม่ตนเองไปเสียได้ แต่ถ้ามันสามารถเบี่ยงประเด็นได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ต้นกล้ารีบเก็บของสิ่งนั้นเข้าไปที่ตู้ตรงหัวเตียง พร้อมกับขวดเจลที่ต้องใช้พร้อมกันกับสิ่งนั้น

    “เหมือนจู้ดจู๋เยยอ่า”

    คำพูดไร้เดียงสาทำเอาต้นกล้าสะดุ้งตกใจ เหงื่อกาฬไหลท่วมไม่หยุด ยิ่งเด็กน้อยพูดหรือถามเกี่ยวกับสิ่งนั้น มันก็ยิ่งทำให้คอปเตอร์จดจำได้ดี แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นหากว่าคอปเตอร์เอาไปพูดให้ใครได้ยินมันจะเป็นผลแย่สำหรับตัวของต้นกล้า ยิ่งกับพ่อที่ตนเคารพรักด้วยแล้ว ไม่อยากให้เขารู้ว่าตนเองแอบเก็บแอบใช้ของลามกแบบนี้อยู่ ทั้งที่เพิ่งอายุแค่สิบสองสิบสามเองแท้ ๆ แต่กลับสนใจเรื่องราวทางเพศจนถึงขั้นหมกมุ่นซื้อของเล่นผู้ใหญ่มาลองใช้

    หากให้ท้าวความต้นเหตุที่ทำให้ต้นกล้าสนใจเรื่องทางเพศ นั่นเป็นเพราะเพื่อนร่วมชั้นที่ต้นกล้าตั้งแต่สมัยประถม เขาเอาคลิปเพศสัมพันธ์มาให้ดู ซึ่งเป็นของฝั่งชาติตะวันตก หากเป็นคลิปเพสสัมพันธ์ชายหญิงปกติต้นกล้าก็พอเคยเห็นบ้าง แต่คลิปที่เพื่อนคนนั้นเปิดให้ดูคือชายกับชาย นั้นเป็นการเปิดโลกใบใหม่สำหรับต้นกล้า แม้จะรู้ว่าตนเองชอบผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้ชายนั้นสามารถมีอะไรกันได้ ยิ่งเปิดดูก็ยิ่งติดใจ ยิ่งสนใจก็ยิ่งค้นคว้าหาข้อมูลเรื่อยมา จวบจนเลยเถิดถึงขึ้นซื้อของเล่นผู้ใหญ่มาลองใช้อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

    “ไม่เหมือนหรอกครับ คอปเตอร์คิดไปเอง”

    “อึ้ เหมือนจิง ๆ นะ พี่ต้นขอดูอีกทีกั๊บ”

    “มะ ไม่ได้ พี่บอกแล้วไงว่ามันเป็นของเล่นผู้ใหญ่”

    “เหยอ ไม่เป็นไย เดี๋ยวคอปเตอร์ไปยองถามปะป๊าดู”

    “อะ อย่า อย่าไปถามเด็ดขาดนะ”

    “จำไมเหยอ”

    “เอ่อ คือ พี่ให้ดูอีกรอบก็ได้ แต่ห้ามพูดเรื่องนี้อีก ไม่ว่ากับใครก็ตาม ตกลงไหมครับ”

    “อื้อ”

    ต้นกล้าทำใจหยิบมันกลับออกมาอีกครั้ง แม้ใจจริงจะเขินอายหนักมากก็ตาม แต่อย่างน้อยเป็นเรื่องที่ดีกว่า หากไม่ยอมแล้วคอปเตอร์ออกไปถาม มีหวังความลับของตนได้รั่วไหลเป็นแน่ เรื่องนี้ให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทางบอกคนอื่น ๆ ได้หรอก

    “ไม่เหมือนใช่ไหม”

    “อืม ตรงนี้ดูเหมือดจู้ดจู๋อยู่ แต่มันอันเย็กนิดเดียว แล้วก็เป็นสีชมพูด้วย ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหย่ ของคูนพ่อใหญ่กว่าตั้งเยอะ”

    ต้นกล้าหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคอปเตอร์พูดถึงขนาดของพ่อตนเอง เขาเคยอาบน้ำกับพ่อของตนเองมาก่อน แต่ตอนนั้นเด็กมากจนจำอะไรได้ไม่มาก รู้แค่ว่าอาบน้ำ แล้วตอนนั้นไม่ได้มีรสนิยมมองเรื่องเพศด้วย ต่างกับตอนนี้ เขาอยากเห็นของจริง อยากลองจับ อยากลองสัมผัสมัน แม้จะรู้ว่าอายุเท่านี้มันไม่ควร แต่หากมีคนยอมให้เขาได้สัมผัสมันสักครั้ง เขาจะยอมทุกอย่างเลย มันจะมีใครบ้างไหมที่ทำให้เขาได้เปิดโลกผู้ใหญ่เสียที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×