ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลุงคนโปรด

    ลำดับตอนที่ #15 : 14 อาหารเช้าของเด็กดื้อ

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 67


    14

    อาหารเช้าของเด็กดื้อ

    นลตื่นขึ้นมาในเช้าที่แจ่มใส แต่สภาพร่างกายไม่ได้แจ่มใสตามเลย ความเจ็บระบมที่เกิดจากศึกหนักเมื่อคืนกำลังเล่นงานร่างกายทุกส่วน โดยเฉพาะช่วงเอวและช่องทางด้านหลัง เพียงแค่ขยับเล็ก ๆ น้อย ๆ มันร้าวระบมจนน้ำตาเล็ด ตอนที่กำลังมัวเมาอยู่ก็มีความสุขดี แต่พอตื่นขึ้นมาอีกวันเท่านั้น ราวกับเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ฝันหวาน

    รอบตัวของนลไม่มีใครอยู่ ทั้งคนที่ทำร่างกายเขาระบมและเจ้าเด็กน้อยที่มักปลุกในทุก ๆ เช้าไม่เว้นแม้แต่วันเสาร์อย่างวันนี้ นลรู้สึกคอแห้งและเจ็บคออยู่พอสมควร บวกกับความหนักหน่วงที่ศีรษะทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีนัก ร่างกายรุ่ม ๆ ไม่สบายตัว ดูคล้ายจะเป็นไข้

    “คูนพ่อ คูนพ่อ คอบเจ้อคนไข่เส็ดแย้ว”

    “เก่งมากครับ”

    นลเดินลงมาจากชั้นสอง เขาได้ยินเสียงคนสองคนคุยกันบริเวณครัว พอเดินมาดูก็พบกับหนุ่มใหญ่และเด็กน้อยกำลังช่วยกันทำอาหารมื้อเช้ากันอยู่ นลยืนรออยู่เงียบ ๆ ตั้งใจดูทั้งสองคนว่ากำลังจะทำอะไรกัน ทางด้านของอาหลงเขารับถ้วยที่คอปเตอร์ส่งให้ ในนั้นเป็นไข่คนที่เด็กน้อยเป็นคนปอกไข่เองและตีไข่เองกับมือ

    “แล้วมันทำยังไงต่อนะ”

    “คูนพ่อ คูนพ่อ ใส่น้ำมันจิ คอบเจ้อเห็นปะป๊าใส่น้ำมันตยอดเยย”

    คอปเตอร์ยืนอยู่ข้างเตาโดยมีเก้าอี้เป็นฐานยืน เพื่อให้ความสูงมากพอที่จะมองหน้าเตาได้ นลมักจะให้คอปเตอร์มาช่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่บ่อยครั้ง ส่วนทางด้านหนุ่มใหญ่ดูท่าทางแล้วเหมือนจะไม่เคยเข้าครัวมาก่อน ปล่อยให้เตาเผากระทะจนควันขึ้นมากกว่าปกติ พอใส่น้ำมันลงไปในจังหวะที่กระทะร้อนจัด เสียงซู่ซ่าทำเอาน้ำมันกระเด็นกระดอนใส่ สองหนุ่มต่างวัยรีบหลบหลีกกันจ้าละหวั่น อาหลงรีบเทไข่คนในชามลงไป หยดน้ำมันยิ่งกระเด็นหนักจนทั้งสองคนรีบหนีออกห่างมากอดกันอยู่ที่หลังโต๊ะ ปล่อยให้กระทะทอดไข่ด้วยตัวของมันเอง

    “เอาไงต่อดีครับคอปเตอร์ พ่อไม่รู้ต้องทำไงต่อแล้ว”

    “คอบเจ้อก็ไม่ยู้เหมือนกันกั๊บคูนพ่อ คอบเจ้อเห็นปะป๊าทำแป๊บเดียวเส็ดแย้ว”

    “ต้องรอน้ำมันหายกระเด็นก่อนล่ะมั้งถึงจะพลิกได้”

    อาหลงรออยู่ครู่หนึ่งจนเสียงน้ำมันหายไป พวกเขาสองคนกลับไปที่หน้าเตาอีกครั้ง หนุ่มใหญ่รีบหยิบตะหลิวขึ้นมาเพื่อพลิกด้านไข่ กลิ่นที่รับรู้บ่งบอกถึงรางร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น และแล้วก็เป็นอย่างที่กังวล เพราะทันทีที่พลิกกลับด้านมา รอยดำกลืนกินพื้นที่ของเนื้อไข่ไปกว่าสี่ในห้า ส่วนที่เป็นสีเหลืองน่าจะพอทานได้เหลือเพียงน้อยนิดบริเวณขอบไข่เท่านั้น

    “เอาไงดีครับ แบบนี้ปะป๊าเขากินไม่ได้แน่เลยครับ”

    “คอบเจ้อก็ว่าอย่างงั้น”

    นลยิ้มขำกับสองหนุ่มต่างวัยที่พยายามทำกับข้าวเพื่อตนเอง ทางหนุ่มใหญ่ดูก็รู้ว่าไม่เคยเข้าครัวมาก่อน ส่วนทางด้านคอปเตอร์ถึงจะเป็นลูกมือให้อยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยลงมือทำมาก่อน จึงไม่ได้มีความชำนาญขนาดที่สามารถทำอาหารหนึ่งเมนูขึ้นมาพร้อมกับมือใหม่ได้

    “ทำอะไรกันครับ”

    น้ำเสียงอ่อนหวานของนลดังขึ้นที่ด้านหลังของสองหนุ่มต่างวัย ทั้งคู่หันไปมองคนมาใหม่ ทางด้านคอปเตอร์เมื่อเห็นว่าพ่อตนเองตื่นแล้วก็รีบพุ่งตัวเข้าไปกอดเอว ทำราวกับว่าไม่ได้เจอกันเสียนาน แต่นลรู้ว่าท่าทางแบบนี้ของคอปเตอร์นั้นคืออะไร เจ้าตัวแสบมักจะมาออดอ้อนเมื่อตนเองต้องการหลบความผิดบางอย่างที่ได้ก่อเอาไว้ ครั้งนี้เจ้าตัวรีบหาทางหลีกหนีความผิดก่อนเป็นคนแรก ปล่อยทิ้งหนุ่มใหญ่ที่ตนเรียกว่าคุณพ่อให้รับผิดเพียงคนเดียว

    “เอ่อ คือ พี่ว่าจะทำอะไรให้นลกินสักหน่อยน่ะครับ แต่มันก็เป็นอย่างที่เห็นเลยครับ”

    อาหลงหยิบจานที่ใส่ไข่เจียวเอาไว้มาให้นลดู หนุ่มใหญ่มีสีหน้ารู้สึกผิด ทั้งที่ตนเองอยากทำอะไรสักอย่างที่เป็นประโยชน์กับคนรักของตน แต่ดันไม่มีฝีมือมากพอที่จะทำให้สิ่งที่คิดเป็นจริงได้ อาหลงได้แต่ยิ้มเฝือน แล้วมองหน้าคนรักด้วยความคาดหวัง

    นลยิ้มกว้างให้กับความตั้งใจของหนุ่มใหญ่ เขาไม่ใจร้ายขนาดที่จะเอาไข่เจียวที่อีกคนตั้งใจทำไปโยนทิ้งถังขยะ นลวางจานไข่เจียวไว้บนโต๊ะ แล้วดันหลังสองหนุ่มให้นั่งรอที่โต๊ะทานอาหาร ส่วนตัวเองหันไปจัดการกับข้าวมื้อเช้าเสียก่อน

    หม้อหุงข้าวที่สองหนุ่มหุงเอาไว้ส่งเสียงร้อง แสงสีแดงย้ายไปที่แสงสีเหลือง บ่งบอกว่าข้าวสุกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอเปิดดูข้าวที่ทั้งสองคนตั้งใจหุง เมล็ดข้าวสีขาวเฉอะแฉะเรียงไม่เป็นเม็ดสวยเหมือนข้าวสวยที่นลหุงทุกครั้ง เขาหยิบขนมปังขึ้นมาแล้วเอาใส่หม้อหุ่งข้าว ปิดฝาแล้วหันไปจัดการกับข้าวต่อ

    เมนูกับข้าวในเช้านี้เป็นเพียงเมนูง่าย ๆ ที่ใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ในการเตรียม เพราะนลรู้สึกตัวรุ่ม ๆ ไม่ค่อยสบายเสียเท่าไหร่ ของที่ได้จึงมีผักบุ้ง ผักกาดขาว เต้าหู้ไข่ หมูสับ ไข่ไก่ แครอท พริกแดงสด กระเทียม ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ผักชี หอมหัวใหญ่ ใบกะเพรา และเครื่องปรุงรสสองสามอย่าง

    ทางด้านของหนุ่มใหญ่รู้สึกว่าอยากช่วยเหลือ แม้จะทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่อย่างล้างผักหรือหั่นผักเขาพอทำได้ นลเห็นถึงความตั้งใจนั้นก็ไม่คิดจะปฏิเสธ แม้ความจริงตัวเองทำคนเดียวน่าจะเร็วกว่า ส่วนคอปเตอร์ไม่น้อยหน้าคุณพ่อคนใหม่ของตนเอง ลากเก้าอี้ตัวเดิมมายืนขวางเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนเฉย ๆ

    นลปล่อยให้อาหลงจัดการเรื่องผัก ส่วนเขามาเตรียมเนื้อและเครื่องปรุงรส นลแบ่งหมูสับออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกปล่อยเอาไว้แบบเดิม ส่วนที่สองนำมาคลุกเคล้้ากับเกลือ ผงปรุงรส ต้นหอมซอย เมื่อเข้ากันได้ดีก็ปั้นเป็นก้อนกลม ระหว่างนั้นตั้งเตาต้มน้ำรอ ใส่กระเทียมทุบและรากผักซีลงไป ใส่เกลือลงไปในน้ำเล็กน้อย พอน้ำเริ่มเดือดใส่หมูก้อนลงไป จากนั้นตามด้วยแครอทหั่นก้อนพอดีคำ ตามด้วยหอมหัวใหญ่ ปล่อยให้น้ำต้มของที่ใส่ลงไปจนสุก จนได้กลิ่นหอมขึ้นมา เติมผักกาดขาวหั่น ระหว่างนั้นหันไปจัดการกับเมนูต่อไป

    นลได้ให้อาหลงช่วยตำพริกและกระเทียมเอาไว้ให้แล้ว เขาแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาไปใส่ในผักบุ้งที่หั่นเตรียมเอาไว้แล้ว เติมซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส เต้าเจี้ยว เกลืออีกเล็กน้อยในกะละมังผักบุ้ง เสร็จแล้วนำกระทะมาตั้งไฟ เปิดไฟแรงจัด ใส่น้ำมันลงไป รอให้น้ำมันเดือดเต็มที่จนมีควันขึ้น เททุกอย่างในกะละมังผักบุ้งลงไป เสียงซู่ซ่ามาพร้อมกับเปลวไฟพุ่งขึ้นมากลางอากาศ ทำเอาสองหนุ่มต่างวัยรีบเด้งตัวหนี ต่างกับนลที่ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่กลัวไฟตรงหน้า มือเรียวยกกระทะขึ้นมาโบกควง เสียงตะหลิวกระทบกระทะดังเป็นจังหวะ ๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ผัดผักบุ้งไฟแดงเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

    ตามมาด้วยเมนูสุดท้าย นลใช้กระทะตัวเดิม แค่เอาไปล้างน้ำเปล่าแล้วตั้งกระทะใหม่ รอให้กระทะแห้งครู่หนึ่งก่อน ค่อยเติมน้ำมันใหม่ลงไปไม่มากนัก พริกกระเทียมที่แบ่งเอาไว้ใส่ลงไปเมื่อน้ำมันมีฟองเดือดได้ที่ ทันทีที่พริกกระเทียมโดนความร้อนเปล่า ๆ กลิ่นหอมลอยขึ้นมา ทำเอาสองหนุ่มที่ยืนมองนิ่ง ๆ น้ำกรดในกระเพาะทำงาน หมูสับที่แบ่งเอาไว้ถูกใส่ลงไป ตะหลิวในมือนลทำงานอีกครั้ง มือเรียวออกแรงผัดเนื้อและเครื่องเทศ คลุกเคล้าให้ทั้งสองอย่างเข้ากันภายในกระทะ เติมเกลือ ซอสหอยนางรมและซอสปรุงรสเล็กน้อย แต่งสีด้วยซีอิ้วดำ สุดท้ายตบท้ายด้วยใบกะเพราโรยลงไปในกระทะ ผัดอีกครู่เดียวให้ใบกะเพราสะดุ้งความร้อนก็ปิดไฟ ตักใส่จานวางที่โต๊ะทานข้าว ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเมนูที่สองเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

    สุดท้ายเป็นต้มจืด นลตักชิมรสดูเล็กน้อย เมื่อรสชาติได้ที่แล้ว เขาเติมเต้าหู้ไข่และขึ้นฉ่ายลงไป ต้มต่ออีกเล็กน้อย ระหว่างนั้นนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองหยิบไข่ไก่มาด้วย นลเปลี่ยนกระทะเป็นกระทะเทฟล่อน ตั้งกระทะรออยู่ครู่หนึ่ง ตอกไข่ลงไปในกระทะเปล่า ๆ แล้วปิดด้วยฝาครอบ ปล่อยให้ไอความร้อนทำไข่ด้านบนสุก ที่นลทำแบบนี้ได้เพราะกระทะตัวนี้เขาใช้สำหรับทอดไข่ดาวเท่านั้น และใช้ตะหลิวที่เป็นพลาสติกหรือไม้เท่านั้น เพื่อไม่ให้สารเคลือบที่อยู่บนกระทะหลุดรอกออกมา พอไข่สุกได้ตามที่ต้องการแล้ว เขาหันไปตักข้าวใส่จานเอาไว้สองจาน ตักไข่ดาววางโปะเอาไว้ที่จานละสองฟอง ตัวไข่แดงยังมีความเป็นของเหลวอยู่ ซึ่งอาหลงและคอบเตอร์ชอบไข่กึ่งสุกกึ่งดิบ ตามด้วยตักต้มจืดใส่ชามหลุมลึกแล้วนำไปวางไว้ที่โต๊ะทานอาหาร

    “เสร็จแล้วครับ”

    “สุดยอดเลยครับ แค่ครึ่งชั่วโมงนลก็ทำกับข้าวมาได้ตั้งหลายอย่าง ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาพี่นึกว่านลไปซื้อกับข้าวมาเตรียมเอาไว้ทุกเช้าเลยนะครับ”

    อาหลงเอ่ยชื่นชมด้วยความตื่นเต้น เพราะปกติทุกเช้าที่เขามาค้างที่บ้านของนล อาหลงจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกับคอปเตอร์เป็นประจำ ลงมาทีไรก็เห็นนลเตรียมข้าวเช้าเอาไว้แล้ว ตอนแรกเขาคิดว่านลออกไปซื้อกับข้าวมาตอนที่พวกเขาทำธุระกัน จนมาวันนี้ถึงได้เห็นกับตาว่า อาหารที่พวกเขากินกันทุก ๆ วัน นลจะเป็นคนทำเองทั้งหมด

    “เมื่อก่อนก็เคยซื้อกินนั่นแหละครับ แต่มีครั้งหนึ่งคอปเตอร์เคยท้องเสียเพราะกับข้าวด้านนอก ผมเลยต้องหัดและฝึกทำกับข้าวเร็ว ๆ น่ะครับ ถ้าวางแผนดี ๆ จัดลำดับความสำคัญ มันก็สามารถทำเมนูได้ทีละหลาย ๆ เมนูเลยล่ะครับ”

    อาหลงมองหน้าคนรักของตนเองด้วยความปลื้มปิติ เขาชักจะหลงอีกฝ่ายจนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ที่เขาว่ากันว่า คนมีเสน่ห์แม่ศรีเรือนคือแบบนี้สินะ เป็นคนเก่งและมีความสามารถที่น่าดึงดูด เห็นทีคำนี้จะใช้ได้กับคนตรงหน้าของตน

    ทั้งสามคนนั่งลงที่โต๊ะทานอาหาร อาหลงตักกับข้าวให้เด็กน้อยก่อนเป็นคนแรก ทำราวกับต้องการนำเสนอความเก่งกาจของคนรักตนเองให้เด็กน้อยได้เห็น ทั้งที่ความจริงแล้วคอปเตอร์รู้ก่อนตั้งแต่เกิดแล้ว แต่เขาก็ขอบคุณคุณพ่อคนใหม่ของตนเองด้วยรอยยิ้มหวานที่เปื้อนไปด้วยความสุข

    ทางด้านของนลแม้อาหารตรงหน้าจะน่าทานแค่ไหน เพราะอาการป่วยเลยรู้สึกไม่อยากอาหาร แต่เพราะต้องทานอะไรบ้างเพื่อทานยา จึงนำขนมปังที่ใช้ดูดซับน้ำส่วนเกินของข้าวมานั่งทานร่วมกับทั้งสองคน ขนมปังอ่อนนุ่มกินกับผัดกะเพราเป็นรสสัมผัสที่แปลกดี

    “นลไม่สบายเหรอครับ”

    อาหลงที่สังเกตเห็นความผิดปกติของคนรักของตนเอ่ยทักขึ้น เพราะสีหน้าของนลดูอ่อนล้า ไหนจะทานน้อยกว่าปกติอีก แค่ขนมปังเพียงแผ่นเดียว เจ้าตัวก็ทำท่าไม่คิดจะกินต่อ เขาจึงเอามือไปอังหน้าผากเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตน และเป็นอย่างที่คิด เพราะความร้อนที่หน้าผากของนลมันเกินกว่าปกติ

    “ไปหาหมอกันครับ”

    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เดี๋ยวกินยาแล้วนอนพักผ่อนอีกสักหน่อยก็หายแล้วครับ”

    “อย่าดื้อสิครับ ไปหาหมอกันครับ”

    “เอาอย่างนี้ไหมครับ ถ้าบ่าย ๆ แล้วยังไม่หาย ไว้ค่อยไปหากัน”

    “ทำไมดื้อจังเลยครับ หื้อ”

    อาหลงรวบตัวของนลให้ขึ้นมานั่งตัก นลเหนื่อยเกินกว่าจะต่อต้าน เลยกอดคอของอีกคนเอาไว้แล้วพิงหน้าผากลงที่ซอกคอของอาหลง ลมหายใจร้อนระอุเป่ารดที่ลำคอ ทำเอาหนุ่มใหญ่ขนลุกชันทั่วร่าง ทางด้านเด็กน้อยเมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่สองคนกอดกันเองอีกแล้ว เจ้าตัวไม่ยอมนั่งอยู่เฉย รีบทานข้าวในจานตัวเองให้เสร็จ แล้วปีนขึ้นมานั่งบนตักของนลอีกที ผู้ใหญ่ทั้งสองอดขำไม่ได้กับท่าทางน่าเอ็นดูของคอปเตอร์

    “ผมไม่อยากไปหาหมอเลยครับ ผมอยากให้พี่หลงเช็ดตัวให้มากกว่า”

    นลเอ่ยเสียงแหบที่ข้างหู มันเป็นเสียงที่อาหลงไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้แต่เมื่อคืนที่พวกเขาทำศึกหนักกันก็ยังไม่ได้ยิน มันเป็นเสียงแหบปนหวานกระชากใจ แล้วยังมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของอาหลงอีก ทั้งคำพูดและการกระทำช่างกระตุ้นต่อมความต้องการทางเพศของเขาเสียเหลือเกิน

    “นี่อ้อนหรืออ่อยครับ”

    “ทั้งสองครับ แล้ว พี่หลงไม่ชอบเหรอครับ”

    “ถ้าคอปเตอร์ไม่อยู่ตรงนี้อย่าหวังว่านลจะรอดจากพี่ไปได้นะ”

    “หึหึ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×