ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Death Friendship มิตรภาพ แห่ง ความตาย

    ลำดับตอนที่ #7 : ความสำคัญของคนใกล้ตัว

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 53


             



             เวลาล่วงเลยไปจนเกือบจะตีสามแล้ว เสียงฝีเท้าเร่งรุดเข้ามาท่ามกลางกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง บ้างยืนร้องไห้ บ้างยืนดมยาดม บ้างก็นั่งเงียบๆไม่สุงสิงกับใคร เจ้าของเสียงฝีเท้าหยุดลงพร้อมยกมือไหว้ชายและหญิงวัยกลางคนที่อยู่ในสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
     
             แน่นอน.....เขาทั้งสอง คือ พ่อและแม่ ของนกนั้นเอง
     
             ดีจ๊ะ ลูก ผู้เป็นแม่ยกมือรับไหว้ชายหนุ่มที่เพิ่งวิ่งเข้ามาเมื่อสักครู่
     
             นก.....เสียแล้วใช่มั้ยครับ ?” ชลพูดพร้อมมองสีหน้าของผู้เป็นแม่อย่างสงสาร
     
             เพียงเท่านั้น แม่ของนกก็เป็นลมล้มลงไปด้วยความอ่อนเพลีย พ่อของนกเล่าว่า แม่เป็นลมแบบนี้มา 3 รอบแล้วก่อนที่ชลจะเดินทางมา แม่เสียใจมากที่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเสียชีวิตไปด้วยความสะเพร่าของพ่อแม่เอง ไม่เช่นนั้นไฟก็ไม่มีทางคลอกเธอจนตายแบบนี้
     
             จู่ๆ หมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องคนไข้ เขาหยุดยืนคุยกับพ่อและแม่ของนก แต่สีหน้าของหมอกลับรู้สึกแปลกใจ ราวกับว่ามีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล
     
             คุณพ่อครับ หลังจากหมอได้ชันสูตรศพลูกของคุณแล้ว พบว่า...... เขากระแอมไอหนึ่งที
     
             ลูกของคุณ ไม่ได้เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอกจนตาย เราช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ แต่จู่ๆ เออ.....
     
             ว่าไงครับ หมอ ! บอกผมมาเถอะ ลูกผมเป็นอะไรตายครับ !!?” พ่อของนกเขย่าแขนของหมออย่างแรง
     
             โอเคครับๆ คือ........ลูกคุณ ถูกฆาตกรรมครับ !” ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นรีบกรูเข้ามาฟังคำอธิบายของหมอทันที
     
             ว่ายังไงนะครับ !? ใครฆ่าหลานของผม ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้น
     
             ใจเย็นๆก่อนนะครับ ทางเราไม่ทราบว่าใครเป็นคนฆ่าเขา เรารู้แค่ว่า เขาถูกมีดปลายแหลมแทงเข้าที่หัวใจ หลังจากนำตัวเขามาพักที่ห้องคนไข้ กว่าจะรู้ตัวตอนที่นางพยาบาลมาดูอาการก็เพิ่งทราบครับ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะประสานงานกับตำรวจตามจับคนร้ายมาให้ได้ครับ หมอพูดและขอตัวออกไป
     
             ใครกัน ที่มันทำกับลูกของฉัน คอยดู....ถ้าแกถูกจับ ฉันนี่แหละจะฆ่ามัน ผู้เป็นพ่อพูดอย่างโมโห
     
             บุรุษพยาบาลสองคนเข็นเตียงคนไข้ออกมาจากห้อง นั้นคือร่างไร้วิญญาณของนก ซึ่งสภาพเหมือนกับศพที่เน่าเปื่อยเพราะถูกไฟคลอก เมื่อญาติๆเห็นก็ร้องห่มร้องไห้กัน ชลยืนถอยห่างออกมาจากกลุ่มญาติๆของนก บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ใครกัน...ที่กับนกแบบนี้ !!
     
             ช่วยฉันด้วย
     
             เสียง ใครบางคน กระซิบข้างหูของชลอย่างแผ่วเบา ชลหันหลังไปมองทันทีที่รู้สึกตัว
     
             มีแต่ความ.....ว่างเปล่า !
     
             ชลหันกลับไปมองกลุ่มญาติของนกที่ยืนล้อมรอบเตียงของเธอ เสียงร้องที่สะอึกสะอื้นทำให้ชลเองก็จะร้องไปด้วยเช่นกัน ภาพวันเก่าๆที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจ รู้สึกดีใจ ที่ได้รู้จักกับคนที่ชื่อว่า นก 
     
             เธอคือ....เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขา
     
             สายตาของชายหนุ่มมองไปที่กลุ่มคนเบื้องหน้า ความจริงเขารู้จักแค่พ่อกับแม่ของนกเท่านั้น นอกนั้นเขาไม่เคยเห็นหน้า และอาจจะไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ในงานศพของนก เขาก็ต้องเจอกับญาติๆของเธออีกเป็นครั้งที่สองแน่นอน เขามองไล่ไปทีละคน เพื่อจำรูปพรรณสันฐาน เวลาไปงานศพจะได้ไม่มีปัญหา เขาคิดเช่นนั้น
     
             สายตาของเขา ไปสะดุดกับหญิงผมยาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังสุด ในกลุ่มคน !!
     
             ชลขยี้ตาไปมาก่อนจะเพ่งมองดูอีกที เธอหายไปแล้ว หายไปอย่างไร้ร่องลอย ราวกับหายไปกับอากาศรอบๆตัว แต่สิ่งที่เขาเอะใจมากกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นมีรอยแดงที่ใบหน้า ดวงตาข้างซ้ายจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่วางตา มันเหมือนดวงตาที่เขาคุ้นเคย แต่ไม่ใช่ในสภาพแบบนี้
     
             ใช่ ! เธอคือ นก นั้นเอง นก ในร่างที่ถูกไฟคลอกทั้งตัว ยืนอยู่ด้านหลังสุด
     
             ชลรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ลมเย็นๆพัดผ่านร่างกายของเขาไป พร้อมกับเสียงใครบางคน พูดผ่านสายลมนั้นไป อย่างโหยหวน.........
     
             06.12 น.
     
             ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเขา เขาพยายามจับเสียงนั้นว่า มันพูดว่าอะไร แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก มันเร็วมากและฟังยากเสียเหลือเกิน ชลพลิกตัวไปหยิบโทรศัพท์ของตนกดโทรไปหาคนคุ้นเคยทันที
     
             ฮัลโหลครับ !”
     
             อ้าว ! มีอะไรเหรอ ชล โทรมาแต่เช้าเลย พลอยรับสายด้วยน้ำเสียงที่สดใส
     
             แหม ! รู้มั้ย พอฟังเสียงของพลอยแล้ว ความทุกข์ที่มีอยู่ของเรากลับหายไปหมดเลย
     
             ปากหวานน่า ตกลงมีอะไรรึเปล่า ? โทรมาหาพลอยเนี่ย ?”
     
             คือ....
     
             พลอยรู้จักนกใช่มั้ย ?” พลอยนั่งนึก
     
             ใช่ เพื่อนเก่าชลที่มาเยี่ยมโรงเรียนเมื่อวานใช่มั้ย ?”
     
             ใช่ ! เออ.....เขา ตายแล้วน่ะ พลอยตกใจ
     
             ว่าไงนะ เพิ่งคุยกันเมื่อวานเอง น่าสงสารจัง
     
             อืม....วันนี้เราอาจจะไปสายหน่อยนะ พูดจบเขาก็วางสายไป
     
             พลอยเปลี่ยนสีหน้าทันที จากที่เธอเคยสดชื่นแต่ตอนนี้กลับรู้สึกเศร้า เธอไม่คิดเลยว่า เพื่อนใหม่ของเธอจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้ และยิ่งเป็นเพื่อนสนิทของชลด้วยแล้ว เขาเองก็คงเสียใจไม่น้อย บางทีเขาอาจจะไม่มาโรงเรียนก็เป็นได้ เธอไม่เคยได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความอาลัยและเศร้าสร้อยของชลเลย เพราะเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง ซึ่งทุกๆวันจะเห็นเขาแค่ยิ้ม หัวเราะ และเคร่งขรึมเท่านั้น อารมณ์ที่แสดงความอ่อ่นไหวแบบนี้ เธอไม่เคยเห็นเลยสักนิด 
     
             พลอยเดินมาโรงเรียนด้วยอาการเหงาหงอย ข้างกายที่เคยมีชลหรือมีนเดินอยู่ข้างๆ บัดนี้กลับมีเธอเดินอยู่เพียงคนเดียว มีนเองอาจจะรู้สึกไม่พอใจเธอเรื่องที่เธอไม่เคยสนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน ความรู้สึกที่มีให้กับชลมันกลบมิตรภาพของความเป็นเพื่อนจนจะหมดสิ้นแล้ว เธอรู้สึกถึงคุณค่าเวลาที่คนข้างกายเธอหายไป หากเธอไม่มีมีน เธอคงจะต้องเดินเหงาเพียงคนเดียวแบบนี้ไปตลอดชีวิต
     
             พลอย !” เสียงมีนดังแว่วมา
     
             อ้าว ! มีน เธอหันหลังกลับไปมอง เห็นมีนรีบวิ่งเข้ามาหา
     
             ไงล่ะ ! วันนี้แฟนเธอไม่มาเหรอ ?” พลอยก้มหน้า
     
             เพื่อนสนิทเขาเสียน่ะ คงจะไม่มาแล้วล่ะวันนี้ มีนเองก็รู้สึกตกใจ
     
             คนที่ชื่อ...นก ใช่มั้ย ?” มีนถามอย่างสงสัย
     
             ใช่ ! เธอตายตอนประมาณเที่ยงคืนของเมื่อวานล่ะมั้ง
     
             น่าสงสารจัง ทำไมด่วนจากไปเร็วเหลือเกิน
     
             มีน... จู่ๆพลอยก็เอ่ยชื่อเธอขึ้นมา
     
             หือ มีอะไรเหรอ ?” มีนหันหน้าไปหาพลอย
     
             ฉันขอโทษนะ ที่.....ลืมแก มีนทำหน้างง
     
             ลืมอะไร ไม่เห็นเข้าใจเลย
     
             ก็แก....คงโกรธฉันแน่ๆ ที่ไม่เคยสนใจเธอเลย ตั้งแต่คบกับชล มีนหัวเราะ
     
             เรื่องแค่นั้นเอง ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่นา แค่......น้อยใจนิดๆ
     
             พอฉันเดินอยู่คนเดียว ก็รู้สึกว่า คนเราหากขาดคนข้างกายทีเรียกว่า เพื่อน ไป มันรู้สึกอ้างว้างยังไงไม่รู้ การที่เราเดินอยู่คนเดียว มันรู้สึกเหงาที่ไม่มีใครคุยด้วย มันรู้สึกไม่มั่นใจ เวลาที่เราเดินไปท่ามกลางผู้คน และถ้าเราอยู่ในอันตราย......เพียงคนเดียว จะมีใครมาช่วยเรา
     
             นั้นแหละ ที่ฉันไม่โกรธแก มีนพูด
     
             ทำไมล่ะ ?”
     
             เพราะว่าฉันรู้ไง ว่าแกน่ะ ไม่มีทางลืมเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอได้หรอก แม้จะเป็นอย่างไรก็ตาม เธอคือเพื่อนสนิทของฉัน ตลอดกาลเลย
     
             อีกอย่างนะ ฉันจะไม่ให้เธอเสียใจเป็นอันขาด ไม่ว่าใครจะรังแกทำร้ายเธอ ฉันจะปกป้องเพื่อนคนนี้ ให้ถึงที่สุด เอาชีวิตฉันเป็นเดิมพันเลย
     
             เกินไปแล้วน่า ฉันรู้แล้วว่าเธอจะปกป้องฉัน แต่ไม่ถึงต้องเอาชีวิตเธอมาเดิมพันขนาดนั้นเลยนี่นา มันรู้สึกขลังๆยังไงไม่รู้
     
             เพราะฉัน....รักเพื่อนอย่างเธอ มาไงล่ะ คำพูดนี้ทำให้พลอยรู้สึกขนลุก
     
             มีนเป็นคนรักเพื่อนมาก เรียกได้ว่าสามารถยอมตายแทนเพื่อนๆคนนั้นได้เลย นิสัยของเธอหายากในสังคมสมัยนี้มาก จะมีใครที่ทั้งจริงใจ และเสียสละได้มากขนาดนี้ รวมถึงยอมให้เพื่อนมีความสุขกับคนที่ตนรัก ส่วนตัวเองก็กลับมาเลียแผลใจที่ยากจะหาย.....เพียงลำพัง
     
             ขณะทั้งสองเดินขึ้นห้องเรียน หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเรียบร้อยแล้ว พวกเธอเห็นนท์เดินอ่านหนังสืออยู่เพียงลำพัง พักนี้นนท์เก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยออกปากพูดสักเท่าไหร่ ความจริงนนท์เองก็เป็นคนรักเพื่อนมากพอๆกับมีน หลังจากที่ชลคบกับพลอย นนท์ก็เปลี่ยนไป จากคนที่ยิ้มร่าเริงตลอดเวลาเมื่อมีมุขที่ทั้งฮาและไม่ฮา แต่ตอนนี้เขากลับเคร่งขรึม ดูน่ากลัวอย่างไรไม่ทราบ
     
             นนท์ !” มีนแตะไหล่ของเขาเบาๆ
     
             เธอ....มีอะไรล่ะ ?”
     
             เพื่อนเธอไม่มาโรงเรียนนะวันนี้..... นนท์ทำท่านึก
     
             อ๋อ ! ชลโทรมาบอกฉันแล้ว ขอบคุณ และเขาก็เดินจากไป
     
             นี่ ! พลอย สงสารนนท์จัง
     
             เรื่องที่....ชลไม่เคยสนใจเขา ตั้งแต่ที่มาคบฉันน่ะเหรอ ?”
     
             ก็ใช่น่ะสิ เขาเก็บตัวมากเลยนะ คุยด้วยก็ถามคำตอบคำ ใช่ว่าจะขี้เก๊กนะ แต่ฉันว่า ตานั้นมันเก็บกดมากกว่า
     
             เก็บกด พลอยย้อนคำ
     
             ก็ใช่น่ะสิ ยิ่งถูกทิ้ง ก็กลายเป็นแบบนี้ ถ้าตาชลกลับมาคบตานนท์ใหม่ ไม่โดนมีดเฉาะหัวก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
     
             นั้นสิ ชลเองก็ทำเกินไป เพื่อนกันแท้ๆ เดี๋ยวฉันจะพูดกับเขาให้แล้วกัน
     
             ดีเหมือนกัน ตานั้นจะกลายเป็นคนเสียสติเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เงียบตลอดเวลา
     
             ในห้องเรียน ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงว่าง พลอยและมีนนั่งอยู่คู่กัน ส่วนนนท์ก็นั่งอยู่ข้างหลังคนเดียวซึ่งถัดจากพวกเธอไป 1 โต๊ะ เขานั่งจดอะไรบางอย่างลงในสมุดจดอยู่เงียบๆ ทั้งสองต่างซุบซิบอะไรบางอย่างกันอย่างสนุกสนานกันอยู่สองคน
     
             จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง ทั้งคู่ละสายตาหันไปมองอย่างอยากรู้ยากเห็น รวมทั้งคนในห้องด้วยเช่นกัน เขาไม่ใช่ใครที่ไหน นั้นคือ ชล นั้นเอง
     
             อ้าว ! ไหนบอกว่าจะไม่มาไงวันนี้ มีนถามขึ้น
     
             ใครบอกเธอ ว่าฉันจะไม่มา แค่มาสายเท่านั้นเอง
     
             นี่ ! ชล นกเพื่อนแกน่ะ เขาตายแล้วเหรอ ? ได้ยินข่าว ชลพยักหน้า
     
             เสียใจด้วยนะ เพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งเดินมาปลอบใจเขา
     
             งั้น ! ฉันไปก่อนนะ ไม่อยากเป็น กอ ขอ คอ มีนทำท่าหยิบกระเป๋าแต่ชลกัลบรั้งเธอเอาไว้
     
             ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปนั่งกับไอ้นนท์เอง พูดจบเขาก็เดินตรงไปนั่งข้างๆนนท์เพื่อนของเขา
     
             นนท์เงยหน้ามองชลที่เดินมาหาเขา และก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรก็ไม่ทราบอยู่ตามเดิม ชลนั่งลงพร้อมกับชะเง้อมองเพื่อนสนิทของเขาอย่างอยากรู้ แต่ท่าทีของนนท์กลับไม่สนใจเขาเลยสักนิด ชลเองก็รู้สึกผิดที่เขาให้ความสำคัญเพื่อนที่สนิทสุดน้อยกว่าแฟน บางทีนนท์อาจจะน้อยใจ ที่เขาทำเช่นนั้นกับเขา
     
             นนท์ มึงโกรธกูเหรอวะ ?” นนท์ยังคงนั่งนิ่ง
     
             กูขอโทษนะเว๊ย ที่....ทำให้มึงโกรธอ่ะ ต่อไปนี้....... ชลพยายามพูดให้เบาที่สุด เพื่อไมให้รบกวนใคร
     
             แค่คำพูดนั้นน่ะ ใครๆก็พูดได้ นนท์เอ่ยปากพูดครั้งแรก
     
             กูขอโทษ ที่...........
     
             เพื่อน ไม่ได้มีไว้ประดับบารมี แต่เพื่อน คือทุกอย่าง ที่คนเราบนโลกนี้ต้องทำ ถ้าคิดว่าอยู่คนเดียวได้ ไม่อยู่ตามป่าตามเขาจะไม่ดีกว่าเหรอวะ !!”
     
             นนท์ ใจเย็นๆดิ มึงเป็นอะไรไป.......... เพื่นร่วมห้องรีบลุกขึ้นมาดูเหตุการณ์
     
             กูเย็นมามากแล้วนะ มึงเห็นเพื่อนเป็นแค่คนที่มีไว้คุยสนุกสนานไปวันๆเหรอ ? สำหรับกูนะ เพื่อน คือส่วนหนึ่งชีวิต หากขาดส่วนนี้ไป ก็เหมือนกับคนไม่มีแขน
     
             
             “ถ้าคิดว่าแฟน ดีกว่าเพื่อนก็เชิญเลย แค่เพื่อนเลวๆอย่างมึงน่ะ คนที่ดีกว่ามึง  มีอยู่ถมเถไป !!
     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×