ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Death Friendship มิตรภาพ แห่ง ความตาย

    ลำดับตอนที่ #21 : วันเข้าค่าย

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 53


             



             ความชุนมุนเล็กๆเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มนักเรียนต่างวิ่งกรูขึ้นรถทัวร์แต่ละคัน เสียงครูอาจารย์ที่ใช้โทรโข่งเรียกเด็กนักเรียนให้พากันเข้าแถวขึ้นรถ แต่ไม่เป็นผล นักเรียนทุกคนต่างรีบขึ้นไปจับจองที่นั่งกันโดยไม่สนใจคคนรอบข้าง เพียงแค่ได้ที่นั่งของตัวเองและเพื่อนสนิทๆก็พอ
     
             มีนยื่นมือเอากระเป๋าผ้าใบโตที่มีสัมภาระเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของใช้ของผู้หญิง สอดเข้าไปในช่องเก็บของด้านบนที่นั่งพร้อมๆกับกระเป๋าผ้าของพลอยเช่นกัน ทั้งคู่ได้ที่นั่งแถวที่ 3 นับจากท้ายรถมา ส่วนข้างหลังนั้นเป็นที่จับจองของกลุ่มนักเรียนชายกลุ่มใหญ่ แต่หาสาเหตุไม่ได้เสียทีว่า ทำไมต้องไปนั่งตรงนั้น อาจจะเป็นเพราะเพื่อนเยอะจนไม่สามารถนั่งที่นั่งแบบนั่ง 2 คนได้
     
             ส่วนนนท์และชลนั่งคนละฝั่งของมีนและพลอย และถัดจากแถวที่พวกพลอยนั่งไปอีก 2 แถว แต่ถึงงอย่างไรก็ตาม ชลก็คอยชะเง้อมองพลอยอยู่ตลอดเวลา เป็นธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน แต่ที่แน่ๆ มีนที่นั่งอยู่ด้านริมหน้าต่าง เธอมองพลอยและชลอย่างไม่วางตา เธออยากให้ชลมองเธอแบบนี้สักครั้ง แต่เห็นหน้ากันทีไรก็ต้องกัดกันมาประสา ทั้งๆที่อยากจะคุยแบบธรรมดาใจจะขาด แต่ทำยังไงก็ต้องลงเอยด้วยการทะเลาะกัน 
     
             เราจะตัดใจดีไหมนะ ?
     
             มีนพูดกับตัวเอง คนอย่างเอไม่มีทางจะไปแย่งของๆพลอยได้หรอก เธอรักเพื่อนคนนี้มากและไม่อยากให้พลอยเสียใจ ทุกครั้งที่เธอคิดจะแทงข้างหลังพลอย ความคิดนี้จะโลดแล่นออกมาขัดขวางเอาไว้ทันที มีนได้แต่นั่งมองทั้งสองคนนี้อยู่ห่างๆ
     
             มีน ! กินขนมรึเปล่า ?” พลอยยื่นถุงขนมให้เธอ
     
             จ๊ะ มีนตอบและหยิบขนมมา 1 ชิ้น
     
             ทำไมเอาน้อยจังล่ะ ? เอาไปเยอะๆเลย เดี๋ยวที่เหลือจะให้ชลเขา แล้วเรามากินด้วยกัน
     
             อะ ! ฝากใส่มือเธอก่อนนะ พลอยหยิบขนมใส่มือมีนจนเกือบล้นมือเธอและลุกเอาขนมไปให้ชล
     
             ตานั้นว่ายังไงบ้างล่ะ ?” มีนถามด้วยอาการไม่สู้ดีนัก
     
             ก็ไม่เห็นว่าอะไรเลย ทำไมเหรอ ?” พลอยทำหน้าสงสัย
     
             เปล่าๆ กินเถอะ มันจะหล่นหมดแล้ว มีนหยิบขนมในมือใส่ปากเธอ
     
             เวลาผ่านไปเกือบ 3 ชั่วโมง ขบวนรถแล่นเข้ามาในซอยเล็กๆแห่งหนึ่ง ทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยป่าและพุ่มไม้สูงๆ ดูน่ากลัวและวังเวงหากออกมาเดินตอนกลางคืน ร้านค้าเล็กๆตั้งอยู่ข้างทาง ผู้คนที่นั่งอยู่แถวๆนั้นต่างหันมองอย่างสนใจ และเพียงไม่กี่อึดใจก็มีเสียงโทรโข่งเหมือนกับที่ได้ยินที่โรงเรียนดังขึ้น
     
             เอาล่ะๆ นักเรียนเตรียมตัวเก็บข้าวของให้พร้อม ตอนนี้เรากำลังจะถึงวัดแล้ว เสียงอาจารย์ผู้ชายคนหนึ่งพูดพร้อมกับกำลังเก็บของในกระเป๋าเป้ของเขา ในนั้นมีกล้องถ่ายรูปที่เขาจะต้องถ่ายมันตั้งแต่เปิดค่ายถึงปิดค่าย
     
             ไม่ลืมอะไรนะ พลอย มีนถามขึ้นขณะที่ทุกคนทยอยลงรถกัน
     
             เออ....แป้งมันหล่นออกจากกระเป๋าอ่ะ ทำไงดีล่ะ มีนพยายามยื่นมือคว้ากระปุกแป้งที่หล่นออกจากกระเป๋าผ้าแต่ตัวเธอไม่สูงนักทำให้หยิบไม่ถึง
     
             เอ้า ! ชักช้าจัง เธอน่ะ ชลยืนหยิบกระปุกแป้งให้มีน และเขาก็เดินนำเธอออกไป
     
             เอ้า ! ยายบอดี้การ์ด เร็วๆหน่อยสิ เดี๋ยวไปเข้าแถวไม่ทันโดนทำโทษกันหมดนี้แน่ มีนทำหน้าค้อนและเก็บกระปุกแป้งใส่กระเป๋าพร้อมวิ่งไปที่ประตูรถทัวร์
     
             โอ๊ย !” มีนร้องด้วยความตกใจขณะที่ชลหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตูรถ
     
             ตาบ้า ! จู่ๆก็หยุด เร็วๆสิเดี๋ยวก็โดนทำโทษหรอก มีนพูดด้วยอาการรีบร้อนพร้อมมองชลที่ทำหน้าหยอกล้อเธออยู่
     
             นี่นายแกล้งฉันเหรอ ?” ชลส่ายหน้า เปล่า ก็มีหอยทากมันเดินอยู่เลยหยุดให้มันเดินผ่านไป
     
             นี่ ! ก็ข้ามมันไปสิ ฉันยิ่งรีบๆอยู่นะ ว่าแล้วเธอก็ผลักชลจนกระเด็นออกไปนอกรถ
     
     
             ทว่า !!
     
     
             ชลทำหน้าซีด มีนยืนมองเขาด้วยความประหลาดใจและมองไปที่บริเวณเท้าของเขา หอยทากตัวเล็กๆถูกอะไรหนักๆทับจนเละ เปลือกหอยที่อยู่ด้านหลังขอมันแตกเป็นเสี่ยงๆ เลือดสาดติดพื้นดูแล้วน่าขนลุก มีนเป็นคนผลักชลให้ลงไปเหยียบมันเพราะเธอคิดว่าชลแกล้งเธอให้เสียเวลา
     
             ฉัน.....ขอโทษ มีนพนมมือขึ้นพร้อมมองไปที่หอยทากตัวนั้น
     
             เธอไม่ผิดหรอก ฉันเองแหละที่ก่อกวนเธอ แล้วชลก็เดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้มีนยืนอยู่เพียงคนเดียว
     
             เสียงพระอาจารย์ที่เป็นวิทยากรต่างพูดบรรยายเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ค่ายใน 3 วันนี้ นักเรียนที่ถูกแบ่งแยกตามกลุ่มตามรายชื่อที่แปะไว้บนบอร์ดที่โรงเรียน ชลนั่งอยู่ข้างหน้ามีน เขาเงียบไปทั้งแต่ตอนที่ลงรถลงมา มีนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะโกรธเรื่องที่เธอผลักเขาให้ไปเหยียบหอยทากตัวนั้นรึเปล่า แต่เรื่องนี้มันน่าโกรธตรงไหนนะ
     
             ชล มีนเรียกชื่อเขาเบาๆ
     
             หือ !” เขาหันมาตามเสียงเรียกของเธอ นี่เป็นคำแรกที่เธอได้ยินจากปากของเขาตอนนี้และเป็นคำแรกที่เธอฟังแล้วดูไม่มีสิ่งใดยั่วโทสะเลย
     
             นาย.....โกรธฉันเหรอ ? ที่ผลักนายไปเหยียบ..... ชลหันกลับไปมองพระอาจารย์ที่ยืนพูดอยู่หน้าเวทีและหันกลับมา
     
             เปล่าหรอก ฉันอยากเข้าห้องน้ำน่ะ แต่ต้องรอให้พระอาจารย์ปล่อยให้ไปเก็บของก่อน ถึงจะไปได้ ก็เลย.....นั่งเงียบๆน่ะ จากคำตอบนี้ทำให้มีนรู้ว่า เธอคิดไปไกลเหลือเกิน
     
             แต่คำพูดของชลตอนนี้ กลับดูปกติธรรมดา เหมือนเธอเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องทำหน้าคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาเหมือนแต่ก่อน เธอรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน ที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาเพียงเอื้อมมือ
     
             เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง พระอาจารย์ปล่อยให้นักเรียนแยกย้ายกันไปเก็บสัมภาระของตนที่เรือนนอน เรือนนอนผู้ชายจะอยู่ที่ห้องโถงชั้นเดียวตรงข้ามศาลาปฏิบัติธรรม ในนั้นมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ ที่สำคัญ.....มีแอร์
     
             ส่วนเรือนนอนของผู้หญิงจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของศาลาปฏิบัติธรรม เยื้องจากเรือนนอนของผู้ชายไปไกลสักหน่อย เรือนนอนของผู้หญิงจะเป็นตึก 2 ชั้น ชั้นล่างไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนชั้นบนเป็นห้องโถงกว้างๆปูพรมสีแดง ห้องนี้ไว้ใช้ทำพิธีสวดมนต์ของพระ แต่ตอนนี้ได้ถูกยึดครองโดยนักเรียนหญิง ที่สำคัญ......มีแอร์เช่นกัน
     
             แต่ว่ากันปากต่อปากว่า ที่วัดแห่งนี้เล่าลือเรื่องความสยองขวัญว่า มีชาวบ้านเคยพบเจอภูตผีวิญญาณ แต่คำบอกเล่านี้ มันเป็นเพียงสิ่งยั่วยุให้พวกเด็กแสบๆไปลองดี อีกทั้งรุ่นพี่ที่เคยมาเข้าค่ายที่นี่ก็เคยเล่าให้รุ่นน้องฟัง ว่าเคยพบเรื่องน่ากลัวที่วัดแห่งนี้
     
             พลอย มีนดึงเสื้อพลอยด้วยอาการระแวง
     
             มีอะไรเหรอ ?” พลอยหันมองลงไปด้านล่าง ซึ่งมีนยืนอยู่ที่พักบันได
     
             ที่นี่ มันดูน่ากลัวๆมากเลยนะ มีนมองไปรอบๆ
     
             ไม่มีอะไรหรอก รีบขึ้นมาเถอะ เพื่อนๆเขาเข้าไปในห้องกันหมดแล้วนะ
     
             จ๊ะ มีนกอดกระเป๋าผ้าและหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ารีบตามพลอยที่นำเธอขึ้นไปก่อนให้ทัน เธอกลัวตึกเรือนนอนที่นี่เหลือเกิน มันช่างวังเวงและน่ากลัว ทั้งข้าวของที่ไม่เคยปักฝุ่น ห้องน้ำด้านล่างที่มืดมิดและทำเอาขนหัวลุกเมื่อมาเข้าตอนกลางดึก
     
             พลอยผลักประตูกระจกเข้าไป นักเรียนหญิงหลายกลุ่มนั่งคุยกันและจับจองที่นอนเรียบร้อยแล้ว พลอยยืนมองหาที่นอนที่พอสำหรับเธอและมีนสองคน แต่ทุกที่ก็เต็มหมด
     
             พลอย มีตรงนี้ว่างอยู่อีก 2 นะ มาสิ เสียงเพื่อนร่วมห้องของพลอยชักชวนเธอและมีนมานอนตรงข้างๆเธอ
     
             พลอย...เอาตรงนี้เหรอ ?” มีนรั้งแขนพลอยเอาไว้ ตรงนี้มันใกล้ประตูเข้า-ออกมากที่สุด 
     
             ก็ตรงนี้แหละ มันไม่มีที่นอนแล้วนี่ ว่าแล้วพลอยก็วางของลงตรงข้างๆเพื่อนร่วมห้องเธอ
     
             ถ้ากลัวนัก ก็ไปนอนข้างๆยายแป้งโน่น เดี๋ยวฉันนอนริมเอง พลอยอาสาและนั่งลงจัดของ
     
             มันจะดีเหรอ เธอไม่กลัวรึไง ข้างนอกประตูมันน่ากลัวมากเลยนะ ทั้งห้องน้ำชั้นนี้ ทั้งบันไดที่วังเวง ทั้งตอนมืดๆ แล้วมี.....
     
             นี่ ! มีน อยากรู้นักว่า เธอไม่กลัวอะไรนอกจาก...... พลอยพยายามหลีกเลี่ยงคำๆนั้นซึ่งมันไม่ดีหากพูดออกมาในที่แบบนี้
     
             มีสิ ! ก็ตาชลนั้นไง เห็นหน้านายนั้นแล้วน่าหมั่นไส้ มีนทำหน้าฮึดสู้ขึ้นมาทันที
     
             ไม่รู้ทำไมนะ เธอถึงไม่ถูกกับชล พลอยส่ายหน้าและหันมาจัดของ
     
             รีบๆจัดเข้าล่ะ เดี๋ยวอาจารย์เรียกแล้วจะไม่ทัน มีนตั้งหน้าตั้งตาจัดของออกจากกระเป๋าด้วยความรีบเร่ง
     
            
     
             เที่ยงวัน
     
             กิจกรรมเปิดค่ายผ่านพ้นไปด้วยดี ตอนนี้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกัน หลังจากนั้นก็ไปออกันที่หน้าร้านค้า ที่ขายของกินอยู่ มีทั้งไอศกรีม น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ขนมปัง ฯลฯ ถัดมาเป็นโต๊ะม้าหินหลายชุด จัดวางเอาไว้ นักเรียนหลายคนต่างมาจับจองที่นั่งคุยกันระหว่างรอเข้าทำกิจกรรมต่อไป
     
             พลอยยังไม่มาหรอก ชลนั่งดูดน้ำอัดลมอยู่ข้างๆมีน เวรล้างจานมื้อแรกก็โดนกลุ่มของนนท์และพลอยพอดิบพอดี มีนชะเง้อมองพลอยอย่างใจจดใจจ่อ เธอไม่อยากที่จะอยู่กับชลตามลำพัง เพราะกลัวพลอยจะมาเห็นเข้า
     
             นี่...เขาเพิ่งจะเอาจานไปล้างกันนะ คงยังไม่มาหรอก มานั่งก่อนสิเดี๋ยวก็โดนแย่งที่หรอก
     
             นายน่ะเงียบไปเถอะ คนอะไรเพื่อนๆแท้ๆก็รอไม่ได้
     
             ถ้าเป็นไอ้นนท์น่ะ มันไม่ชอบกินน้ำอักลมหรอก แล้วก็ไม่ชอบเป็นตัวถ่วงของเพื่อนด้วย
     
             เพราะคิดแบบนี้ไง นนท์เองก็ดูท่าทางจะเบื่อนายเต็มทน
     
             อ้าว ! ฉันผิดเหรอ ?” ชลขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
     
             คนเราน่ะ ถ้าไม่มีเพื่อน มันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเพื่อนถึงสำคัญมากไงล่ะ
     
             แต่สำหรับฉัน เพื่อนไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้ประดับบารมี ไม่ใช่เครื่องประดับที่ต้องเอาไปไหนมาไหนด้วย คำว่าเพื่อนไม่ได้อยู่ที่กาย แต่อยู่ที่ใจและความรู้สึกระหว่างเรากับเพื่อนมากกว่า
     
             คนเราน่ะ หากไม่ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองบ้าง มัวแต่รอเพื่อน พึ่งพาเพื่อน มันก็เหมือนลูกแหง่นั้นแหละชลพูดแล้วดูดน้ำไปอีกหนึ่งอึก
     
             นี่ ! แค่นี้ทำไมต้องด่ากันด้วยล่ะ มีนเริ่มไม่สบอารมณ์
     
             อ้าว ! เรื่องนี้เธอเริ่มก่อนนะ
     
             ผู้ชายอะไรเถียงผู้หญิงฉอดๆๆ มีนเดินออกไปจากตรงนั้น
     
             เธอเองก็ใช่ย่อยที่ไหน ยายบอดี้การ์ด ชลตะโกนไล่หลังไป
     
             ไม่ใช่มีนเองที่เธอสงสัยอยู่ว่า ทำไมเวลาคุยกันต้องชวนทะเลาะกันด้วย ชลเองก็สงสัยเช่นกัน ทุกครั้งที่เขาก็พยายามพูดจาดีๆกับเธอ แต่ดูมันกลับทำให้มีนโมโหโดยไร้สาเหตุและพูดจาชวนทะเลาะอยู่เสมอ แต่เขาไม่ได้โกรธหรือเกลียดมีนสักเท่าไหร่ เพราะเธอคงจะเป็นคนอารมณ์แปรปรวน เอาใจยาก ชลคิดว่า เขาเองก็ต้องพยายามใจเย็นลงมากกว่านี้ เวลาคุยกับเธอ หากเป็นไปได้ เขาอยากจะใกล้ชิดเธอมากกว่านี้ เพื่อให้รู้ความรู้สึกของกันและกันว่า ความจริงเขาอยากจะพูดคุยกับเธอธรรมดาๆ เหมือนคนอื่นๆ
     
             โดยหารู้ไหมว่า มีนเองก็อยากจะพูดจาดีๆกับเขา เพียงแต่ต้องกลบเกลื่อนความรู้สึกรักที่มีต่อเขา มาเป็นการชวนทะเลาะแทน เพื่อไม่ให้เขาจับพิรุจน์ได้ รวมทั้งไม่อยากจะให้พลอยรู้ว่า เธอก็แอบรักชลอยู่
     
             และแล้ว กิจกรรมในช่วงบ่ายก็เริ่มขึ้น มีการจัดตั้งฐานความรู้แต่ละฐานเอาไว้ตามจุดต่างๆ แต่มันมีกติกาอยู่ว่า ในใบความรู้และคำถาม จะแจกให้ 2 คนต่อ 1 ใบเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะต้องทำเป็นคู่ แต่การเดินแต่ละฐานนั้นก็ต้องไปตามกลุ่มที่จัดเอาไว้ตอนแรก
     
             เหมือนโชคชะตาเล่นตลกหรือกลั่นแกล้ง ชลต้องคู่กับมีน ส่วนพลอยก็ต้องคู่กับนนท์ เพราะคนอื่นๆในกลุ่มเขาเลือกคู่กันหมดแล้ว ยิ่งอยู่ใกล้ชลมากเท่าไหร่ มีนก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหว เธออยากจะอยู่ใกล้เขามากกว่านี้แต่ทำอย่างไรได้ เมื่อมีก้างชิ้นโตขวางคอเธออยู่ เธอทำได้เพียงแค่ทำงานให้เขาเท่านั้น
     
             เอ้า ! หน้าที่เธอ ชลยื่นใบความรู้ให้มีน
     
             ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ นายก็ทำได้นี่ ชลเริ่มโมโห
     
             ก็เธอเป็นผู้หญิงนี่ งานละเอียดอ่อนแบบนี้เธอน่ะเหมาะที่สุด
     
             เฮ้อ ! ทำไมต้องส่งนายมาเป็นคู่ฉันด้วยเนี่ย มีนถอนหายใจและหยิบใบความรู้มาจากมือของชล
     
             ฝากด้วยนะ เดี๋ยวจะไปหาข้อมูลมาให้
     
             และแล้วกิจกรรมฐานความรู้ก็เริ่มขึ้น แต่ละกลุ่มก็แยกย้ายกันไปประจำฐาน คู่ของนนท์และพลอยดูท่าจะไปได้สวย เมื่อแบ่งหน้าที่แล้ว ทั้งคู่ก็ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ส่วนคู่ของชลและมีน ต่างเกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา แต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขา 
     
             เพียงเพราะว่าเธอ....กลัวจะหลุดปากพูดอะไรออกไป !!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×