ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Death Friendship มิตรภาพ แห่ง ความตาย

    ลำดับตอนที่ #11 : ชีวิตที่ขาดเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 53


             



             เสียงสัญญาณรถพยาบาลดัวแว่วมา ความชุนมุนก็เริ่มขึ้น เด็กนักเรียนที่เดินผ่านไปมาอยู่บริเวณนั้นๆต่างก็หันไปมองรถพยาบาลที่เข้ามาสู่รั้วโรงเรียนเมื่อสักครู่ 
     
             ร่างหญิงสาวที่หายใจรวยรินกับเลือดสีแดงสดอาบทั่วใบหน้า ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด หูข้างที่เธอแนบคุยโทรศัพท์ขาดและเละ ศีรษะฝั่งนั้นเปื้อนไปด้วยเลือดที่ไหลพุ่งออกมาราวกับน้ำที่พุ่งออกมาจากก๊อก อย่างน้อยใบหน้าซีกนั้นเธอก็เสียโฉมไปแล้ว   มือข้างหนึ่งยังคงกำโทรศัพท์ที่ไหม้เกรียมจากแรงระเบิดด้วยความตกใจกลัว หยดเลือดที่ซึมบนเปลผู้ป่วยค่อยหยดลงพื้นทีละหยด ๆ เป็นทางไปจนถึงด้านล่าง มิ้นและแนน เพื่อนสนิทของจิ๊บต่างปิดตาและร้องไห้กันอยู่สองคน หลังจากที่เกิดอาการช๊อคที่จิ๊บโทรศัพท์ระเบิด เลือดของจิ๊บยังคงติดอยู่กับเสื้อนักเรียนของทั้งสองอยู่เลย แต่เพื่อนๆในห้องก็ขวัญเสียไม่น้อยกว่าพวกเธอสองคน
     
             หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็อยู่ในความสงบ รอยเลือดแดงสดและส่งกลิ่นคาวคลุ้งที่ไหลนองบนพื้น ถูกจัดการทำความสะอาดไปจนหมด มิ้นและแนนขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะทำใจกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้ หากคิดจะเรียนต่อไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี ข่าวนักเรียนที่โทรศัพท์ระเบิด แพร่กระจายไปทั่วโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนที่ฟังเรื่องนี้ ต่างไม่กล้าแตะต้องโทรศัพท์ของตน
     
             เช้าวันต่อมา อาจารย์เวรประจำวันขึ้นมาประกาศข่าวของจิ๊บให้กับนักเรียนทั้งโรงเรียนฟัง สาเหตุของการระเบิดของโทรศัพท์นั้น เป็นเพราะใช้แบตเตอรี่ปลอม เมื่อแบตเตอรี่นั้นไม่ตรงกับตัวเครื่อง ทำให้เกิดการเผาไหม้หรือระเบิดได้ ซึ่งเคยมีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไปว่า มีเหตุการณ์โทรศัพท์ไหม้เพราะใช้แบตเตอรี่ปลอม
     
             ในสภาพจิ๊บตอนนี้ เธอไม่ต่างอะไรกับคนพิการทางหู เพราะหูข้างที่โดนแรงระเบิดขาดออกจากศีรษะเธอ รวมทั้งสภาพศีรษะฝั่งนั้น ผิวหนังฉีกขาดเพราะแรงอัดกระแทกจากระเบิดมีมาก โดยเฉพาะการที่โทรศัพท์อยู่ใกล้มากจึงทำให้มีอานุภาพแรงขึ้นไปอีก ดวงตาของเธอมองไปบนเพดานสีขาวอย่างเหม่อลอย ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลง เธอไม่ได้กลับไปเรียนโรงเรียนนั้นอีก เพราะเธอกลายเป็นคนพิการ เธอไม่ได้ไปหาเพื่อนที่โรงเรียนอีก เพราะไม่กล้าจะไปสู้หน้าใคร อีกทั้ง ตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตกับความอัปลักษณ์ของเธอ.....อย่างไร
     
             จิ๊บ !” เสียงแม่ของเธอเอ่ยขึ้น พร้อมเดินเข้ามากอดเธอ
     
             แม่......หนูไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งเพื่อน ทั้งอนาคต ทั้ง.....
     
             ไม่ ! ลูก ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกของแม่อยู่ แม่รักลูกเสมอนะ ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร จะตกต่ำแค่ไหน ยังไงแม่ก็ยังคงรักและดูแลลูกเสมอนะ คำพูดนี้ ทำให้จิ๊บอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
     
             แม่......หนูยังมี แม่ กับ พ่อใช่มั้ยคะ ?” เสียงสะอึกสะอื้นดังแทรกคำพูดเธอไปบางส่วน
     
             ใช่จ๊ะ ! ลูกยังมีแม่กับพ่อนะ ไม่มีใครเขาคิดจะทิ้งลูกของตัวเองโดยไม่สนใจใยดีหรอก
     
             แม่.... เธอโอบกอดผู้เป็นแม่ด้วยความตื้นตันใจ
     
             สักพัก เสียงประตูห้องก็เปิด พร้อมกับเสียงวิ่งเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน จิ๊บละสายตาจากแม่ไปมองคนที่ยืนอยู่ปลายเตียง อาการของเขาไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอ เขาร้องไห้ !!
     
             พ่อ..... จิ๊บเอ่ยขึ้น
     
             ชายรูปร่างท้วมท่าทางดูมีอิทธิพล ตรงเข้ามากอดลูกสาวสุดที่รักของเขา เขาเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่เขารู้ว่าลูกถูกโทรศัพท์ระเบิด เขาก็ตรงไปแจ้งตำรวจและเอาเรื่องเจ้าของร้านมือถือให้ถึงที่สุด ด้วยความที่มีอิทธิพลทำให้การจับกุมไม่วุ่นวายนัก ตอนนี้ตำรวจสามารถจับตัวเจ้าของร้านมือถือได้แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า......
     
             เขา....ไม่ยอมรับสารภาพ
     
             ตำรวจต่างพยายามเข้นความจริงออกจากปากของเขา แต่เขาก็ไม่ยอมบอกเสียที สิ่งที่เขาบอกกับตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนมีเพียงคำเดียวคือ
     
             ผมไม่รู้เรื่องนี้ !!!”
     
             เขาพยายามย้ำอยู่ตลอดเวลาว่า โทรศัพท์ระเบิด ไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับเขาเลย คำพูดเหล่านั้นยากที่จะเชื่อ เพราะหลักฐานมันมัดตัวแน่นหนา ทั้งร้านมือถือของเขาและพยานมีพร้อม แต่เหตุใด เขาถึงไม่ยอมตอบ
     
             คนเราถ้าล่วงรู้ความลับบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนอื่นหรือของตัวเอง อย่างน้อยก็ต้องมีบางอย่างเล็ดลอดออกมาจากคำพูดบ้าง แต่เขากลับปฏิเสธหน้าดื้อๆ ซึ่งเขาเองน่าจะรู้ว่าการพูดเช่นนี้ไม่มีใครเชื่อหรอก แต่เขากลับทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ
     
             หรือเขา.....ไม่ได้เป็นคนทำ !?
     
             เมื่อชลรู้ข่าวว่า จิ๊บโทรศัพท์ระเบิด ทำเอาเขานั่งไม่ติดที่ เพิ่งเสียใจเรื่องของนกยังไม่หาย จิ๊บก็เกิดอุบัติเหตุไปอีกคน เขานั่งกระวนกระวายอยู่เพียงคนเดียว จนไม่ทันฟังการสอนของอาจารย์ตรงหน้าห้องเลยสักนิด
     
             โอ๊ย !” ชอล์กสีขาวลอยละลิ่วตรงเข้าหน้าผากของชลอย่างจัง
     
             นี่ ชลนที ลองออกมาทำข้อนี้ให้ดูหน่อยสิ !” อาจารย์กล่าวอย่างไม่พอใจ
     
             นนท์แอบเอาโพยที่จดคำตอบข้อที่ชลต้องไปทำสอดใส่มือของชล เขาเดินกำโพยแน่นก่อนที่จะเอาไปจัดการหน้าห้อง
     
             จะทำยังไงดีวะ ถึงมีโพยก็เถอะ แต่ออกไปทำหน้าห้อง ยังไงเขาก็เห็นอยู่ดี มันคิดบ้างมั้ยวะ ไอ้นนท์
     
             
             ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
    !!!!!!!!!!
     
             เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าถือของอาจารย์ดังขึ้น อาจารย์หันหลังเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มันขึ้นมา และตอนนี้ชลจึงรีบควักโพยออกมาดูพร้อมกับลอกคำตอบลงบนกระดานอย่างไว กว่าอาจารย์จะหันมาก็ไม่ทันเสียแล้ว
     
             อะไรกัน จะรับแล้วดันตัดสายทิ้ง อาจารย์บ่นพร้อมกับเดินมาดูชลที่ยืนเขียนกระดานอยู่
     
             ว่าไง ทำได้มั้ย ถ้าไม่ได้ มา 1 ที อาจารย์หยิบไม้ขึ้นมาพร้อมจะตี
     
             อาจารย์ครับ ไม่คิดจะเช็คคำตอบหน่อยเหรอ ?” อาจารย์ขยับแว่นมองคำตอบ
     
             ถูกต้อง....ไปนั่งที่ ไป !” อาจารย์กล่าวพร้อมกับทำหน้ากลบเกลื่อนความอาย
     
             เพื่อนต่างหัวเราะกันยกใหญ่ ความจริงพวกเขาหัวเราะชลที่แอบเอาโพยออกมาลอกคำตอบหน้าห้อง ขณะที่อาจารย์ไปหยิบโทรศัพท์ แต่อาจารย์กลับเข้าใจว่า ทุกคนหัวเราะเขา
     
             ขอบใจมากนะ ที่ช่วยจนถึงที่สุด นนท์ล้วงเอาโทรศัพท์ของตนใส่กระเป๋ากางเกง
     
             เอาน่า ! ฉันวางแผนไว้หมดแล้ว นนท์ขยับแว่นพร้อมกับมองบนกระดานต่อ
     
             ชล เสียงพลอยเอ่ยขึ้น
     
             เป็นห่วงจิ๊บใช่มั้ย ?” เธอถาม
     
             ...... เขาพยักหน้าแทน
     
             เย็นนี้ไปเยี่ยมเขากันมั้ย ?” พลอยเอ่ยชวน
     
             จิ๊บมองก้อนเมฆลอยละล่องบนท้องฟ้าสีครามผ่านกระจกบานเลื่อนใหญ่ซึ่งด้านนอกเป็นระเบียง วันนี้ไม่มีแสงแดดตั้งแต่เช้าแล้ว อากาศคืนนี้คงจะเย็นมากแน่นอน แต่แล้ว กลับมีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องคิด
     
             
            คิดถึงเรื่อง......ในอดีต
    !!
     
             ทำไมผิวแกถึงดำขนาดนี้นะ ดูสิ ขนาดฉันยังขาวกกว่าเธอหลายสิบเท่า จิ๊บกำลังพูดจาเยอะเย้ยเพื่อนของเธอในสมัยเด็กๆ
     
             ดูสิ หน้าตาก็บ้านๆ หัดดูแลตัวเองบ้างนะ ปล่อยให้โทรมแบบนี้คงไม่มีใครเอาหรอก ฮ่าๆๆ เธอหัวเราะด้วยความชอบใจ
     
             อืม...ฐานะเธอก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เอาเป็นว่า ไปตายแล้วเกิดใหม่ดีกว่านะ เพื่อนที่ถูกเธอดูถูกกลับนั่งกำหมัดด้วยความเจ็บแค้น แต่เธอกลับทำอะรจิ๊บไม่ได้ เพราะเธอเป็นลูกผู้มีอิทธิพล
     
             น้ำตาเธอค่อยๆไหลอาบแก้มลงมาช้าๆ สิ่งที่เธอทำเอาไว้ในอดีต บัดนี้มันกลับมาทำร้ายเธอจนชีวิตที่เคยสวยหรูกลับพังย่อยยับ ความโศกเศร้าเข้ามาแทนที่กำลังใจของพ่อและแม่จนหมดสิ้น ความเจ็บปวดหัวใจที่เคยไปทำร้ายดูถูกคนอื่นเอาไว้ มันตามมาสะสางบัญชีเธอแล้ว เธอมีสภาพอะไรไม่ต่างกับคนพิการที่หน้าตาเละไปซีกหนึ่ง หมอบอกว่า ใบหน้าเธอตอนนี้ไม่สามารถทำศัลยกรรมได้ เพราะผิวหนังซีกที่โดนแรงระเบิดกลายเป็นแผลใหญ่ ใช่ว่าจะรักษาได้ง่ายๆ มีทางเดียวคือ นำผิวหนังจากน่องมาแปะส่วนใบหน้าของเธอ แต่มันก็ยังคงเผยให้เห็นรอยแผลเป็นที่น่ารังเกียจอยู่ดี
     
             หัวใจของเธอแทบสลาย เมื่อเห็นตัวเองในกระจก เธอไม่คิดเลยว่า คนหน้าตาดีและสถานะครอบครัวที่มั่นคงแบบนี้ จะถูกฉุดให้ตกต่ำได้มากขนาดนี้ เป็นเหมือนผี ที่ตามหลอกหลอนเธอเมื่อยามมองกระจก ตอนนี้เธอไม่คิดจะมองกระจกเลยด้วยซ้ำ แค่เห็นสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เสียใจมากอยู่แล้ว
     
             เธอเอามือปิดปากและร้องไห้ ความทุกข์ทรมานแบบนี้จะจบลงเมื่อไหร่ มีสิ่งใดที่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจบ้าง และจะผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปอย่างไร
     
             
             ฆ่าตัวตาย
    !!
     
             เสียงกระซิบเล็กๆดังแว่วมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของสมองของเธอ จิ๊บลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ เสียงนั้นเงียบหายไปจนเธอเพิ่งรู้ว่า ภายในห้องนี้ มันเงียบมากถึงขนาดนี้เชียวหรือ เสียงสะอื้นของเธอคงจะดังไปทั่วห้องเลยกระมัง ลมเย็นๆค่อยๆพัดผ่านร่างเธอไปเบาๆ ก่อนจะทำให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นจากปกติ จิ๊บเอามือกุมหัวใจของตนเพื่อเช็คความผิดปกติของหัวใจ มันเต้นแรงจนรู้สึกแปลกๆ
     
             ความรู้สึกเดียวกับ.....ก่อนที่โทรศัพท์มือถือระเบิด
     
             เสียงโทรศัพท์ของชลดังขึ้น ขณะที่เขาเดินตรงไปส่งงานพร้อมๆกับ พลอย นนท์ และ มีน เขาหยุดและส่งงานให้กับนนท์ก่อนที่จะล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าและเพ่งมองหน้าจอ
     
             เขาไม่คุ้นกับเบอร์โทรศัพท์นี้เลย ชลเงยหน้ามองพลอยที่ยืนมองอกัปกิริยาของเขาอยู่ พร้อมกับค่อยๆกดรับมัน
     
             ติ๊ด !
     
             ........... ไม่มีเสียงตอบ
     
             ฮัลโหลครับ !” ชลเอ่ยทักก่อน
     
             ฮัลโหล ! ชลใช่มั้ย ? นี่ จิ๊บ นะ ชลยิ้มขึ้นมาทันที
     
             อ้าว ! จิ๊บ เป็นไงบ้าง สบายดีใช่มั้ย ?” จิ๊บเอามือปิดปาก
     
             อืม... เธอพยายามกลั้นใจที่จะไม่ร้องไห้
     
             พวกเรากะจะไปหาเธอที่โรงพยาบาลน่ะ เอจะเอาของฝากอะไรมั้ย เดี๋ยวซื้อไปให้
     
             พวกเรา.....ใครบ้างน่ะ ?” เสียงของเธอเปลี่ยนไป
     
             อ้าว ! ก็ นนท์ พลอย กับมีน ไง
     
             เหรอ.... เธอตอบอย่างไม่เต็มใจนัก
     
             รู้มั้ย ! เวลานอนอยู่คนเดียว ฉันรู้สึกกลัว..... ชลขมวดคิ้ว
     
             ทำไมล่ะ ! เตียงที่เธอนอนมี ผี เหรอ ?” เขาหัวเราะ
     
             บ้าเหรอ ? ฉันกลัว....กลัวว่าพอตื่นขึ้นมาจะไม่เห็นคนที่ฉันรัก
     
             เธอกำลังหมายถึงอะไรน่ะ ?”
     
             ฉัน.....รักเธอนะ ความจริง ฉันเขียนความในใจลงใน เฟรนด์ชิพ ของเธอไปแล้ว แต่เธอคงจะไม่ได้เปิดมันดูเลยใช่มั้ย ?”
     
             เอ่อ... ชลกำลังอึ้งกับการสารภาพรักของจิ๊บ
     
             ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ ทุกครั้งที่ได้ฟังเสียงของเธอ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น
     
             และตอนที่ฉันไม่มีใคร พอได้ยินเสียงของเธอ ฉันก็รู้สึกสบายใจแล้ว จิ๊บอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้
     
             ความเจ็บปวดที่เคยรู้สึก ตอนนี้มันกลับหายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว เพราะได้ฟังเสียงของเธอ
     
             เอ่อ..จิ๊บ เธอ...เป็นอะไรรึเปล่า ทำไม......ถึงพูดจาแบบนั้นล่ะ
     
             เปล่า ! ฉันแค่อยากบอกความรู้สึกที่เคยเก็บเอาไว้ แต่รู้ว่าเธอไม่ได้อ่าน เฟรนด์ชิพ เล่มนั้น ก็เลยต้องบอกเธอตรงๆ ฉันอายรู้มั้ย ?”
     
             งั้น....ฉันจะรอนะ รีบมาล่ะ ?” สายก็ถูกตัดไป
     
             ชลมองโทรศัพท์อย่างแปลกใจ จู่ๆจิ๊บก็โทรมาพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เขาเองไม่สามารถจับใจความเหล่านั้นได้ทั้งหมด แค่รู้เพียงว่า
     
             จิ๊บ แอบรักเขา และเธอก็สารภาพรักกับเขา เมื่อสักครู่ !!
     
             ชลรีบคว้างานจากมือนนท์ไปวางไว้บนโต๊ะอาจารย์ ก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่หน้าโรงเรียนไปโรงพยาบาลทันที คำพูดที่จิ๊บพูดนั้น มันแฝงความนัยอะไรบางอย่างไว้
     
             บางอย่าง....ที่แสนโศกเศร้า
     
             มือขาวๆบางๆ ค่อยๆจับราวระเบียง ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งค่อยๆขยับตัวเองพิงกับราวเหล็ก สายตาทอดยาวลงไปด้านล่างเห็นรถต่างๆและผู้คนเล็กเท่ามด ความสูงระดับตึก 30 ชั้น ย่อมเห็นแบบนั้นเป็นธรรมดา ดวงตาของเธอมองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย พร้อมกับค่อยเอาเท้าข้างหนึ่งยกขึ้นบนราวเหล็กด้านล่าง ชีวิตเธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว คิดเหรอว่า หนุ่มหน้าตาดีอย่างชล จะมาสนใจผู้หญิงพิการหน้าตาอัปลักษณ์แบบนี้ นั้นคือคำบอกลา ครั้งสุดท้าย........... 
     
             ตุบ !!!!!
     
             ก่อนจะเข้าไปในโรงพยาบาล พลอยที่กำลังเดินนำกลุ่มของเธอไป ก็พบร่างใครคนหนึ่งร่วงลงมาต่อหน้าต่อตาเธอ เลือดสาดไปเต็มบริเวณนั้น ผู้คนต่างหวีดร้องด้วยความตกใจและเข้ามามุงดู พลอยจ้องมองร่างที่นอนอยู่อย่างไม่วางตา ร่างกายของเธอสั่นอย่างที่หยุดไม่ได้
     
             ร่างของจิ๊บ หันมาจ้องหน้าพลอยเขม็ง !!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×