ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Recruit]รับสมัครตัวละครนิยายScifi-แนวโรงเรียน

    ลำดับตอนที่ #9 : [Teaser]1st oneshot : Over the top

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 57


    Over the top

     

     

                เขารู้แต่ว่าตาของเธอบวมแดงอย่างหนัก ถ้าไม่ใช่เพราะผ่านการร้องไห้ เธอก็คงไปโก่งคออาเจียนมา หรือแย่สุดก็คือเธอทำทั้งสองอย่าง

                แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ เธอยืนประชิดอยู่ข้างตัวเขา มือหนึ่งดึงหูฟังอินเอียร์สีแดงออกจากหู ก่อนจะโน้มใบหน้าลงกระซิบ “ขอคุยด้วยหน่อยสิ” และถึงแม้เขาจะไม่ยินดีเท่าไหร่นักเนื่องจากกำลังติดพันกับหนังสือเก่าเล่มหายากในมือ อย่างไรเสียด้วยมารยาทแล้วเขาก็ไม่ควรจะปฏิเสธเธอ

                โกโกลาเต้สองแก้วถูกเสิร์ฟเมื่อทั้งสองคนเพิ่งจะหย่อนก้นนั่งลงกับเบาะนุ่มๆในคาเฟ่หลังมหาวิทยาลัย เห็นได้ชัดว่าเธอคงเตรียมตัวไว้แต่ต้น

                ไม่หวานจัด ถือว่าเธอรู้เรื่องของเขามากพอสมควรเลยทีเดียว

                “ได้ข่าวเรื่องจีนี่รึยัง”

                เขาพยักหน้าหงึกหงัก “เข้าโรงบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ”

                ตาสีเข้มที่กรีดอายไลน์เนอร์คมกริบเสมองนอกหน้าต่างชั่วครู่ เปลือกตาบางที่ประดับด้วยแพขนตาหนากระพริบปริบกลั้นน้ำตาอยู่สองสามครั้ง และเมื่อความพยายามนั้นไม่เป็นผล เธอจึงก้มหน้าก้มตาร้องไห้อย่างจริงจังโดยไม่อายสายตาลูกค้าคนอื่นๆในร้าน

                เขายื่นผ้าเช็ดหน้าสีแดงปักอักษรย่อMสีทองไปตรงหน้า นอกจากเธอจะไม่รับแล้วยังส่งคืนอีกต่างหาก

                “หมอถอดออกซิเจนเมื่อเช้า”

                อ้อ เข้าใจแล้ว

                “เสียใจด้วยนะใหม่”

                เธอใช้กระดาษทิชชู่ซับเครื่องสำอางบนใบหน้า เขารอจนกระทั่งเธอเลิกสะอึกสะอื้นและกลับมาเป็นสาวแกร่งคนเดิม จึงสานต่อบทสนทนาอีกครั้ง

                “จัดงานวันไหนล่ะ ยังไงก็ต้องไป”

                “ไม่รู้เหมือนกัน พ่อจีนี่มารับศพเมื่อเช้า ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้นนะแมตต์ ฉันแค่อยากให้นายช่วยฉันเอาคืนคนที่สมควรถูกลงโทษ”

                อืม

                “นายก็รู้ว่าใครทำให้จีนี่ฆ่าตัวตาย”

                เขาส่ายหน้าเอือมระอา

                ทำไมทุกคนต้องคอยลากเขาเข้าสู่เกมฆาตกรที่ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะให้จุดสิ้นสุดมันจบลงที่ตรงไหน

                “จีนี่ผูกคอตาย ถ้ารูมเมทอย่างพวกเธอไม่ได้เป็นคนทำ ก็ไม่มีใครเป็นฆาตกร”

                ผู้หญิงที่นั่งใช้หลอดพลาสติกคนของเหลวสีน้ำตาลอ่อนมองไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย

                “ มีสิ ทำไมจะไม่มี”

                เขามองไปตามสายตาเธอ เพื่อนร่วมรุ่นในชุดสูทกับรุ่นพี่ปีสามที่มีปลอกแขนสีแดงเดินจูงมือกันมาตามทางเดินโรยกรวด และเมื่อสายตาของคนด้านนอกประสานเข้ากับคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา บนใบหน้าของฝ่ายที่กำลังถูกพาดพิงนั้นเพิ่มรอยยิ้มเหยียดหยามขึ้นมา

                “ชิส์”

                ฝ่ายนั้นคงตั้งใจจะมาปล่อยอารมณ์อยู่ที่คาเฟ่แห่งนี้เช่นกัน

                “ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต”

                ไปกันใหญ่แล้ว

                “ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ตรงไหน”

                เมื่อฝ่ายนั้นกับคนที่มาด้วยกันเลือกโต๊ะที่ติดกับกับพวกเขา หทัยภัทรก็เหมือนพร้อมที่จะเข้าขย้ำคนที่เธอกำลังกล่าวหาได้ทุกเมื่อ

                “จีนี่ฆ่าตัวตายเพราะโรคจิตซึมเศร้า ไม่มีใครฆ่าเธอ เเล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปซัดทอดความผิดให้ใครด้วยนะใหม่ เธอเสียใจ เธอขาดสติ”

                “ฉันรู้ว่าฉันขาดสติ”เธอทำหน้าเหยเกราวกับจะร้องไห้และโกรธอย่างสุดขั้วไปพร้อมกัน “แต่หมอนั่นทำให้เพื่อนของฉันตาย ฉันต้องเอาคืน”

                เขาถอนหายใจอย่างปลงตก

                “เธอไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตใคร ไม่ว่าเขาจะทำจริงหรือไม่จริง”

                หทัยภัทรฟุบหน้าลงกับโต๊ะ และเขาใช้มือหนึ่งแตะที่แขนของเธอเป็นเชิงปลอบ อีกส่วนหนึ่งคือกันไว้เผื่อว่าจะรั้งเธอไม่ทัน หากเธอลุกขึ้นมาอาละวาดโต๊ะข้างๆ ลำพังฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรคงไม่เจ็บตัวเพราะเธอง่ายๆ แต่อย่างไรก็ไม่ควรเสียมารยาทต่อหน้ารุ่นพี่ปีสามที่มาด้วย

                “เธอเคยได้ยินมั้ยว่าครั้งหนึ่ง ลูซิเฟอร์เคยเป็นทูตสวรรค์”หรือเทพเจ้าอะไรเทือกนั้น จะเคยเป็นอะไรมาก่อนก็ช่างมันเถอะ “แต่เมื่อลูซิเฟอร์ถูกขับลงมา ทั้งตัวของเขากลายเป็นสีดำ ยกเว้นปีกที่ยังคงเป็นสีขาวอยู่”

                “มาเทศน์อะไรตอนนี้ ฉันไม่มีอารมณ์จะฟังหรอกนะ” เธอกล่าวเสียงอู้อี้

                “อย่าให้สถานการณ์เปลี่ยนเธอ”

                เขาคิดว่าได้ยินเสียงเธอรับคำว่า อือ เบาๆ

                “บางครั้งสถานการณ์เลวๆก็ทำให้คนดีกลายเป็นคนชั่วได้ในพริบตา”

                ไหล่ของเธอขยับไปมาเพราะแรงสะอื้นไร้เสียง

                ไม่มีอะไรที่เขาต้องช่วยเธอนอกจากเตือนสติ ทุกอย่างมันคือเกม และเธอกำลังถูกมันเปลี่ยนให้กลายเป็นลูซิเฟอร์ เปลี่ยนให้กลายเป็นดำทั้งกายและใจ

                เมื่อเขาเดินออกจากคาเฟ่ และมองกลับเข้าไปในร้าน

                เขาเห็นเธอเทช็อกโกแลตปั่นลงบนหัวของคนที่เธอคิดว่าต้องเอาคืน อีกฝ่ายไม่ตอบโต้ในทันที มีเพียงสายตาแปลกๆและรอยยิ้มแปลกๆที่คนนั้นยิ้มให้เธอ

                ไม่สิ หมอนั่นยิ้มให้เขาต่างหาก

                เขาไม่เชิงว่าไม่ชอบยิ้มนั้น มองเผินๆก็ดูจริงใจดีอยู่หรอก แต่มันขัดหูขัดตายังไงไม่รู้

                เขาได้แต่ยิ้มตอบอีกฝ่ายทั้งๆที่กำลังกลั้นขำใบหน้ากลมที่ชุ่มโชกไปด้วยช็อกโกแลต กับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกย้อมให้กลายเป็นสีน้ำตาลตุ่นๆ

     

                ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างในอนาคต

                เพียงแค่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าใครบางคนกำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นฆาตกรตัวจริง

                และใครบางคนกำลังถูกพิพากษาในเกมที่จะไม่มีหาตัวฆาตกรเจอ






    แต่คนอ่านรู้ใช่มั้ยว่าอีคนโดยช็อกโกแล็ตราดหัวสุดท้ายแล้วก็โดนแมลงสาบไต่หัว
    #ทำร้ายตัวละครด้วยใจรัก
    ต้องอ่านหลายๆมุมเนอะ ทุกคนล้วนเป็นสีเทาด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    สงสัยใหม่จะไม่มีวันช็อทเปิดตัว แต่กลายเป็นนางเอกไปแล้ว
    #ตบมือแปะๆ พล็อตของตัวละครอื่นมันนำพาไปไกลกว่าที่คิดไว้จริงๆแฮะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×